Share

บทที่5

Penulis: moonlight -mini
last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-22 16:13:17

บทที่5

เยว่เหลียนเดินในจวนตระกูลเยว่ได้อย่างสบายใจอย่างที่ชาติก่อนนางไม่เคยทำได้ แต่ครานี้ไม่มีสิ่งใดติดขัด นั่นก็เพราะความเมตตาจากท่านย่า และภาพวาดที่ได้มาก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างนางและท่านพ่อดีขึ้นอย่างที่ไม่ได้คาดคิด นางยิ้มที่มุมปากเพียงเล็กน้อย แม้แต่รอยยิ้มของนางก็เปลี่ยนไป จากยิ้มจนเต็มดวงตา ตอนนี้รอยยิ้มของเยว่เหลียนคล้ายจะมีแผนการอยู่ภายใจในตลอดเวลา

“ภาพที่เจ้าเอามาฝากในวันนั้นพ่อได้นำไปให้เหล่าบัณฑิตดูเจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นภาพที่กำลังตามหากันจริง ๆ”

เยว่เหลียนยิ้มจาง ๆ แม้ว่านางจะแสร้งทำเป็นไม่รู้แต่เรื่องนั้นนางย่อมรู้แต่แรกอยู่แล้ว

“เช่นนั้นก็ยินดีกับท่านพ่อด้วยนะเจ้าคะ” หญิงสาวเอ่ยออกไป แต่ดูเหมือนที่ผู้นำตระกูลเยว่ลดตัวมาคุยกับบุตรสาวคนโตที่หมางเมินนั่นก็เพราะอยากได้กำไรที่มากกว่านี้ต่างหาก ทั้ง ๆ ที่รูปในมือนั่นก็ได้หลายพันตำลึงแล้วแท้ ๆ แต่คงไม่พอสินะ เป็นเช่นไรก็เป็นเช่นนั้นไม่เคยเปลี่ยน

ดี! ข้าจะได้ควบคุมพวกท่านง่ายหน่อย

ข้าเคยเต้นตามเสียงดนตรีที่พวกท่านบรรเลง ครานี้ถึงคราวข้าเป็นผู้กำหนดบ้างแล้วว่าจะเล่นเพลงใด แน่นอนว่าบทเพลงนั้นย่อมไม่ใช่บทเพลงรัก

“เจ้าซื้อจากที่ใดหรือ”

เยว่เหลียนยิ้มคล้ายจะยินดี เพราะนางรู้อยู่แล้วว่าท่านพ่อจะต้องมาถาม “ร้านค้าไร้ชื่อในเมืองเจ้าค่ะ ให้คนที่เดินทางมากับข้าพาไปก็ได้”

คนเป็นพ่อยิ้มอย่างพอใจ

“เช่นนั้นหรือ เจ้าเองว่าง ๆ ก็ไปซื้อหาของใช้สอยเอาตามสะดวกนะ” ถุงเงินถุงหนึ่งถูกส่งให้กับบุตรสาวคนโต การได้เจอกับเยว่เหลียนทำให้คนมีอายุอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันวานของเขาและมารดาของอีกฝ่าย น่าเสียดายยิ่งนักที่นางจากไปเร็วเสียเหลือเกิน หากนางยังอยู่และได้เห็นบุตรสาวโตมาเหมือนกับนางไม่ผิดเพี้ยน นางคงจะดีใจไม่ใช่น้อย ความคิดนั้นคนเป็นพ่อมิได้เก็บเอาไว้เพียงแค่ในใจ

“เจ้ารู้หรือไม่ใบหน้าของเจ้าช่างเหมือนมารดาของเจ้ายิ่งนัก” เยว่เหลียนอยากจะบอกไปว่าเพราะเหตุนั้นมิใช่หรือท่านพ่อจึงให้นางกลับไป(เพิ่ม ไป ค่ะ)อยู่กับท่านตา แต่ยังไม่ทันที่จะตอบอะไรกลับอีกฝ่ายก็พูดต่อ คำพูดที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าบางทีท่านพ่อของนางอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็เป็นได้

“หากมารดาของเจ้ายังอยู่ นางจะต้องดีใจแน่ ๆ ที่เห็นเจ้างดงามเหมือนนางเช่นนี้” พูดจบบิดาของนางก็เดินจากไป คงจะไปจัดการเรื่องรูปภาพเป็นแน่ เยว่เหลียนส่ายหน้าให้กับบิดา ช่างเป็นคนที่ดูได้ง่ายจริง ๆ

ว่าแต่ในใจท่านก็ยังคงมีท่านแม่ของข้าอยู่บ้างสินะ เยว่เหลียนอดคิดเช่นนั้นไม่ได้เมื่อได้ยินคำที่เอ่ยออกมาจากปากของอีกฝ่าย

เยว่เหลียนหายใจเข้าลึกอย่างปลงตก บางทีบิดาของนางอาจจะเป็นเพียงแค่คนที่เห็นแก่ตัวมากไปหน่อย และยึดติดในบางเรื่อง แต่โดยรวมแล้วก็ยังเป็นเพียงคนธรรมดา แม้จะบอกไม่ได้จากเรื่องในครั้งนี้ แต่อย่างน้อยการเริ่มต้นระหว่างท่านพ่อและนางก็ไม่ได้ย่ำแย่อย่างเช่นคราก่อน ที่อีกฝ่ายทำราวกับอยากจะฆ่านาง ฆ่าลูกในไส้ของตน แม้จะคิดเช่นนั้น นางก็ไม่ได้คิดจะให้อภัยผู้ใด

“เยว่เหลียนเจ้ามาอยู่นี่เอง แม่ก็ตามหาเสียทั่วจวน” เสียงเยว่ฮูหยินดังมาแต่ไกล

หญิงสาวมองหน้าแม่เลี้ยงของนาง รอยยิ้มจอมปลอมแบบที่สองแม่ลูกชอบทำปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเยว่เหลียนเช่นเดียวกัน พวกท่านเสแสร้งได้ข้าก็ทำได้ ข้าใช้หนึ่งวิญญาณของข้าเพื่อเรียนรู้มัน

“ท่านมีธุระอะไรกับข้าหรือเจ้าคะ”

“ธุระอะไรกัน พูดจาห่างเหินราวกับคนไม่รู้จักกัน แม่ก็แค่มาดูแลความเป็นอยู่ให้เจ้า เรือนนี้เป็นเช่นไรบ้างอยู่ได้ใช่หรือไม่”

เยว่เหลียนปั้นยิ้มสวยและบริสุทธิ์ให้แม่เลี้ยงอย่างที่ควรจะเป็น

“ได้เจ้าค่ะ เรือนนี้ใหญ่และกว้างขวางกว่าที่ข้าเคยอยู่อีก” ทั้ง ๆ ที่เรือนนี้ค่อนข้างหนาวเย็นอีกฝ่ายคงจัดการให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่เรื่องแค่นี้เยว่เหลียนไม่สนใจหรอก

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เช่นนั้นก็ดี แม่กับน้องของเจ้าจะไปไหว้พระบนเขา เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่”

เยว่เหลียนหมายใจจะอ้างความเหนื่อยที่นางเพิ่งเดินทางกลับมา เพราะนางไม่อยากไปกับสองแม่ลูกนี่ แต่ที่ไม่อยากไปอีกอย่างก็เพราะนางรู้ว่าคนทั้งสองกำลังจะทำอะไรกับนาง

ที่นางไม่ได้กลับมาที่นี่ ก็ล้วนเป็นฝีมือของแม่เลี้ยงนางทั้งนั้น ไปไหว้พระหรือ ไปบอกว่านางมีดวงชะตาไม่ดีมากกว่า แล้วพระหรือนักพรตกันแน่ที่อีกฝ่ายไปหา จ้างวานให้หลอกลวงว่านางนั้นดวงชะตาไม่ดี

เชอะอย่ามาหลอกข้าให้โง่เลย

“ข้าคงต้องขอตัวเจ้าค่ะ เพิ่งเดินทางมายังไม่หายเหนื่อยหายเพลียจะให้เดินทางอีกครั้ง ร่างกายของข้างคงยังไม่ไหวเป็นแน่ พวกท่านไปกันก็เดินทางปลอดภัยกลับมาด้วยนะเจ้าคะ”

ใบหน้าของคนมีอายุกระตุกยิ้มอย่างไม่เต็มใจ นางตั้งใจจะหาเรื่องพาเยว่เหลียนไปเจอท่านนักพรตแล้วแกล้งเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย จะได้นำคำทำนายอัปมงคลจากท่านนักพรตมาบอกกับสามี แต่ในเมื่อเด็กดื้อด้านนี่ไม่ไปนางจะอ้างอะไรได้

ทั้ง ๆ ที่เรื่องคำทำนายนี่ใช้ได้ผลมาตลอดหลายปีเพื่อดึงให้สามีไม่รับตัวเยว่เหลียนกลับเมืองหลวง ไม่คิดว่ายามนี้ เพียงแค่ภาพวาดภาพเดียวถึงกับทำให้สามีของนางเมินต่อถ้อยคำทำนายพวกนั้น

“เช่นนั้นก็ไม่เป็นอะไรหรอก แม่จะบังคับจิตใจเจ้าได้อย่างไร ยิ่งเดินทางมาเหนื่อย ๆ แม่ก็ลืมคิด คิดแต่อยากจะพาเจ้าไปไหว้ขอพร เช่นนั้นเจ้าก็พักเถอะแม่ไม่กวนแล้ว”

เยว่เหลียนมองแม่เลี้ยงของตนที่เดินไปด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ คำก็แม่ สองคำก็แม่ นางอยากจะบอกออกไปจริง ๆ ว่าแม่ของนางมีเพียงแค่คนเดียว และนางก็สิ้นใจไปแล้ว เพราะอีกฝ่ายนั่นแหละ แม้จะยังไม่มีหลักฐาน แต่คำพูดของเยว่เม่ยที่บอกนางก่อนตายเชื่อถือได้แน่ ๆ คอยดูเถอะ นางจะกระชากหน้ากากของคนเหล่านี้ออกมาเอง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่31

    บทที่31“ที่ช่วงนี้พระชายาทรงรู้สึกเพลีย ๆ มิได้เป็นเพราะพระองค์ทรงงานหนักไปหรอกพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นเพราะกำลังทรงตั้งครรภ์ต่างหาก” ใบหน้าของเยว่เหลียนแดงซ่าน นางเพิ่งคลอดอาฉีออกมาได้ไม่นานนัก เหตุใดจึงตั้งครรภ์อีกแล้วเล่า “เช่นนี้เองที่เขาบอกว่าหัวปีท้ายปี จริงไหมตาเฒ่าหงเฉิน” คนเป็นตาทั้งสองที่ตอนแรกเป็นห่วงรีบมาเยี่ยมหลานและหลานสะใภ้ที่หมดสติ กลายเป็นว่านี่คือเรื่องมงคลจะต้องกลับไปฉลองกันเสียแล้ว“ทำไมทำหน้าเช่นนั้น เจ้าไม่ดีใจหรือ” หลังจากทุกคนออกไปจากห้องตงห่าวก็เอ่ยถามชายาของตน “มิใช่ไม่ดีใจ แต่ข้าอาย” เยว่เหลียนไม่เคยรู้สึกเขินอายเท่านี้มาก่อน นางเพิ่งคลอดลูกไปได้ไม่นานแท้ ๆ“อายทำไมกันเล่า เรื่องธรรมชาติ ใครก็เป็นเช่นนี้กันได้ทั้งนั้น ดีเสียอีก อาฉีจะได้มีน้องอายุไล่ ๆ กัน ถ้าคนนี้เป็นชายก็ดีนะสิ ตระกูลหงของท่านตาก็จะได้มีคนสืบต่อ”และทั้ง ๆ ที่สองคนหมายมั่นเอาไว้เช่นนั้นแต่ท้องที่สองกลับกลายเป็นธิดาไปเสียได้ มิใช่มิยินดี แน่นอนว่าเด็กหญิงก็น่ารักไปอีกแบบ และครานี้ตงชี่จวิ้นก็หลงรักหลานตัวน้อยของเขาเอามาก ๆ ถึงขนาดมาอยู่เมืองฉีนานนับปีจนคนเป็นตงฮูหยินต้องกลับไปเมืองหลวงก่อน เพรา

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่30

    บทที่30ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลังจากช่วยเลี้ยงหลานอยู่นานนับเดือน ตงชี่จวิ้นก็กลับไปเมืองหลวงพร้อมกับฮูหยินของตน เพราะได้ข่าวว่าอนุ ต้องบอกว่ายามนี้นางเป็นฮูหยินเอกของคุณชายรองตงเนี่ยนเจินก็กำลังจะคลอดลูกไม่ต่างกัน และเพราะคำนั้นทำให้เยว่เหลียนแกล้งเอ่ยถามกับสามีของนางเกี่ยวกับเยว่เม่ย“ข้าขอโทษที่ปิดบังเจ้า แต่สถานการณ์ของตระกูลเยว่ไม่ดีนัก”ทั้ง ๆ ที่ตงห่าวกังวลกลัวว่าพระชายาของตนจะรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับข่าวของตระกูลทางบิดา แต่ก็เปล่าใบหน้าของเยว่เหลียนนิ่งสนิท “หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนที่สูงส่งขนาดจะไม่รู้สึกอะไรกับคนที่ทำร้ายมารดาหรอกเพคะ”ตงห่าวดึงพระชายาตนเข้ามากอด “ใช้คำพวกนี้อีกแล้ว ข้าบอกเจ้าว่าอย่างไร” เยว่เหลียนมองพระสวามีของนางที่ตอนนี้รับตำแหน่งแทนท่านตาเรียบร้อยแล้ว“เรื่องบางเรื่องก็ควรทำเพื่อให้คนอื่นดู แต่หากพระองค์อยากได้ยินหม่อมฉันคุยกับท่านอ๋องเช่นพระองค์เหมือนแต่ก่อน คงต้องรอยามที่อยู่กันสองต่อสองแล้ว” ตงห่าวมองคนรักของเขาที่นับวันก็ดูคล้ายจะยั่วยวนมากขึ้นทุกขณะ“ว่าแต่เจ้าแน่ใจนะเรื่องตระกูลเยว่”เยว่เหลียนพยักหน้า “หากพระองค์จะช่วยอะไรก็ทำแต่พอดีเถอะเพคะ แต่

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่29

    บทที่29หลังจากคำนั้นของสามีเยว่เหลียนก็ต้องปลอบใจคนตัวใหญ่ใจเล็กอยู่นาน อีกฝ่ายทั้งอายุมากกว่า ทั้งเก่งกาจ ทำทุกอย่างได้ดีไปหมดจนบางครั้งหญิงสาวก็ลืมไปว่าบางอย่างก็ต้องพูดกันตรง ๆ “ท่านพี่ข้าขอโทษ เพราะเป็นฝ่ายที่ถูกท่านรักจนเคยชินจึงลืมที่จะเอ่ยความในใจออกไป ข้ารักท่านมานานมากแล้ว งานมงคลของเราก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความไม่เต็มใจ ท่านพี่อย่ากังวลใจไปนะเจ้าคะ” มือเรียวประคองใบหน้าของผู้เป็นสามีเข้ามาจุมพิตเบา ๆ หลังจากรับรู้ความรู้สึกของตงห่าวในวันนี้ เยว่เหลียนต้องยอมรับเลยว่าทุกสิ่งมันทำให้นางมองตงห่าวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่มิใช่ในทางที่ไม่ดี นางกลับรู้สึกว่าชายหนุ่มนั้นดูเป็นคนธรรมดามากขึ้น มิได้เพียบพร้อมไปเสียทุกสิ่ง"ท่านพี่ ข้าเองก็ไม่เคยรักใครมาก่อน ไม่เคยต้องกังวลใจเพราะใครมาก่อนนอกจากคนในครอบครัวเช่นนั้นแล้วหากมีเรื่องอะไร ท่านพี่สามารถพูดกับข้าได้เลยนะเจ้าคะ อย่างไรเราก็เป็นคู่ชีวิตกันแล้ว อย่างเช่นเรื่องนี้หากข้าไม่เอ่ยคำว่ารักออกไปชั่วชีวิตนี้ท่านพี่ก็จะอยู่ไปกับความรู้สึกที่ไม่แน่ใจนี่หรือ เรื่องบางเรื่องก็ต้องพูดต้องคุยนะเจ้าคะ” เยว่เหลียนจำต้องเอ่ยต่อว่าสามีของนางไ

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่28

    บทที่28วันเวลาผ่านไปท้องของเยว่เหลียนก็โตขึ้นทุกที อาการของท่านตาก็ดีขึ้นที่จริงก็ต้องบอกว่าท่านตาทั้งสอง เพราะตอนนี้ทั้งคู่ชอบมานั่งเล่นหมากล้อมด้วยกันเกือบทุกวันชีวิตของเยว่เหลียนดีแตกต่างจากทางตระกูลเยว่ของนางยิ่งนัก และก็ไม่มีใครกล้าเล่าเรื่องราวหลาย ๆ อย่างในตระกูลเยว่ให้หญิงสาวได้ฟัง นั่นก็เพราะตงห่าวห้ามเอาไว้ เขากลัวภรรยาจะรู้สึกไม่ดีหากได้รับรู้ข่าวที่น่าอดสูหลาย ๆ เรื่องจากตระกูลของบิดา“ท้องเจ้าใหญ่มากหรือจะมิได้มีคนเดียว” คำพูดของสามีทำให้เยว่เหลียนกังวลไม่ใช่น้อย เพราะนางเคยได้ยินหญิงสาวที่ในหนึ่งท้องมีบุตรสองคน ได้ข่าวมาว่าอันตรายยิ่งนัก ทั้งยังคลอดยาก“อย่าเลยเจ้าค่ะ ข้ากลัว ค่อย ๆ ท้องค่อย ๆ คลอดทีละคนดีกว่า” ตงห่าวยิ้มมือแกร่งก็ลูบไปบนหน้าท้องที่นูนขึ้นมา “พูดเช่นนี้เจ้าอยากจะให้ข้าทำให้ตามที่เจ้าขอหรือ” เมื่อเข้าใจความของคำพูดสามีใบหน้าสวยก็แดงซ่าน แม้จะอยู่ด้วยกันมานาน แต่เยว่เหลียนก็ยังเขินอายการได้อยู่กับตงห่าวมันทำให้เยว่เหลียนรู้แล้วว่าสิ่งที่นางรู้สึกกับตงเนี่ยนเจินในชาติก่อนนั้นมันไม่ใช่ความรักเลยแม้แต่นิด กับตงห่าวสิถึงจะเรียกว่าความรักได้ยามนี้หญิงสาว

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่27

    บทที่27ข่าวการตั้งครรภ์ของเยว่เหลียนที่มาถึงตระกูลเยว่ยิ่งทำให้เยว่เม่ยที่เพิ่งได้รับหนังสือหย่าจากสามีมาหมาด ๆ เกิดความริษยา ที่ของเยว่เหลียนควรจะเป็นของนางตั้งแต่แรก ชีวิตของนางไม่ควรจะต้องมาติดอยู่กับผู้ชายเฮงซวยอย่างตงเนี่ยนเจิน ทั้ง ๆ ที่เป็นพี่น้องกับตงห่าวแต่ทำไมก็ไม่รู้นิสัยถึงไม่ได้เหมือนกันเลยแม้แต่นิดหญิงสาวนั่งอยู่หน้าป้ายวิญญาณของท่านแม่ของนาง ไม่มีใครสนใจที่จะนำป้ายวิญญาณของท่านแม่ไปร่วมกับศาลบรรพชนของตระกูล นางเองที่กลับมาอยู่ในจวนหลังจากหย่าร้างกับตงเนี่ยนเจินก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอนของตัวเอง นางไม่มีหน้าไปสู้หน้าใครอีกแล้ว ท่านพ่อไม่สนใจนางตั้งแต่สงสัยเรื่องท่านแม่ฆ่าฮูหยินเอก แม้ท่านแม่จะบอกกับท่านพ่อว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ความสงสัยเมื่อเกิดแล้วก็ไม่สามารถจะทำให้มันหายไปได้ ที่จริงนางรู้เรื่องทั้งหมด ท่านแม่เคยเล่าให้ฟัง หากฮูหยินยังอยู่ แม่ของนางที่เป็นเพียงอนุก็ไม่มีทางที่จะมีที่ยืนในตระกูลเยว่แห่งนี้ ในตอนที่มารดาของนางตั้งครรภ์ท่านจึงลงมือฆ่าอดีตตงฮูหยิน แสร้งทำเป็นอุบัติเหตุ มันได้ผล ได้ผลเท่าอายุของนางจนถึงวันที่ท่านแม่จากไป เยว่เม่ยคิดอย่างเศร้าใจ มารดาของน

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่25

    บทที่25หลังจากกินอาหารและอาบน้ำกันเรียบร้อยทั้งสองก็มานอน เยว่เหลียนนอนไม่หลับ เฉกเช่นเดียวกันกับตงห่าว คนหนึ่งไม่หลับเพราะเป็นห่วงท่านตาของตน แต่อีกคนเป็นห่วงภรรยา และแน่นอนท่านตาของภรรยา“ท่านพี่ถาวกู่นั่น...” เยว่เหลียนกำลังจะบอกว่านางไม่ได้ตั้งใจจะเก็บของที่ตงเนี่ยนเจินให้เอาไว้ดูต่างหน้านะ แต่ก็เป็นตงห่าวที่พูดออกมาเสียก่อน “ถาวกู่ที่ข้าซ่อมให้เจ้าน่ะหรือ” เยว่เหลียนพยักหน้า“มีสิ่งใดหรือ” เยว่เหลียนที่ได้ยินคำถามก็ตัดสินใจอยู่นานนางกับสามีไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรกัน นางก็ไม่อยากให้ผิดใจกันเพราะเรื่องเช่นนี้ “ที่ข้าเก็บเอาไว้เพราะลืมทิ้งนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้คิดอะไรกับตงเนี่ยนเจินจริง ๆ ” ตงห่าวยิ้ม ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ แม้จะมีเรื่องไม่สบายของท่านตา แต่ปกติเยว่เหลียนไม่ค่อยเปิดเผยความในใจ ตอนนี้นางกลับดูกระวนกระวายเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด“ที่จริงข้าเองก็มีความจริงจะบอกเจ้า แล้วก็ดีแล้วที่เจ้าไม่ทิ้งมันไป เพราะถาวกู่อันนั้นข้าเป็นคนให้เจ้าเอง ที่จริงตงเนี่ยนเจินไม่เคยส่งอะไรมาให้เจ้า ขนมหรือของฝากก็ล้วนเป็นข้าทั้งสิ้น หลัง ๆ ข้าไม่อยากโกหกเจ้าแล้วเลยบอกว่าเป็นของฝากข้าเอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status