Share

บทนำ ฝันร้าย 3

Author: LIttlelion
last update Huling Na-update: 2025-06-07 21:45:07

“ฮึก...! คุณชายเยี่ยให้บ่าวไปตามท่านหมอมาแล้วเจ้าค่ะ” ข้ากล่าวพลางยกมือปิดปากกลั้นเสียงอาเจียนที่ดังลอดออกมาเอาไว้ในคอ

“คุณชายเยี่ยรึ… ฮึ” ไป๋มี่อิงยกมุมปากขึ้นยิ้ม เค้นเสียงขึ้นจมูกออกมาอย่างพึงพอใจ

“อีกประเดี๋ยวท่านหมอคงจะมาถึงแล้วกระมัง” ข้ากล่าวเสียงอ่อนด้วยความเหนื่อยล้า เพราะตั้งแต่ยามเหม่าก็พะอืดพะอมเวียนหัว อีกทั้งยังอาเจียนออกมาไม่หยุดปาก พอจะกินอะไรเข้าไปก็มีแต่จะพุ่งออกมา แม้กระทั่งน้ำชาก็มิได้ยกเว้น

พอจบคำกล่าวของไป๋ซิงหนี่ว์ พ่อบ้านหมิงก็เดินนำหน้า ท่านหมอไว้เคราสีขาวยาวถึงอกเข้ามาในเรือนเหมย พอเขาเห็นไป๋มี่อิง คุณหนูใหญ่ได้กลับมาถึงแล้ว จึงกล่าวทักทายออกไปด้วยความดีใจ

“คุณหนูใหญ่ของข้า กลับมาแล้วหรือขอรับ”

“กลับมาแล้ว...พ่อบ้านหมิงพาท่านหมอมาตรวจอาการซิงหนี่ว์เถิด” ไป๋มี่อิงกล่าว แล้วลุกขึ้นยืนเพื่อให้ท่านหมอเข้ามาตรวจอาการไป๋ซิงหนี่ว์ได้สะดวก

หมอชราเดินเข้าไปตรวจอาการ จับดูชีพจรตรงข้อมือของไป๋ซิงหนี่ว์อยู่หลายรอบ จากนั้นถึงได้เอ่ยปากถามอาการป่วยที่แสดงออกมาในช่วงหลายวันมานี้ของนางอีกสามสี่ข้อ พอเขาได้คำตอบตรงกับผลตรวจแล้ว ถึงได้กล่าวออกไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามบุคลิกภายนอกที่มองเห็นเป็นชายชราเงียบขรึม

“คุณหนูรองไป๋กำลังตั้งครรภ์ได้ประมาณเกือบหนึ่งเดือนแล้วขอรับ”

เปรี้ยง! คล้ายกับมีสายอสนีบาตผ่าลงกลางใจของข้า หัวว่างเปล่า หูทั้งสองได้ยินเสียงวิ้ง...

สายตาที่มองเห็นภาพตรงหน้า กลับพร่ามัวหม่นหมอง มองเห็นเพียงความมืดเท่านั้น

“แน่ใจรึท่านหมอ! ว่าท่านมิได้ตรวจอาการของนางผิดพลาด” เสียงไป๋มี่อิงดังขึ้น นางกล่าวออกมาด้วยท่าทีที่ตกใจเป็นอันมาก

“แน่ใจขอรับ ตัวข้าขอเอาอาชีพหมอที่ทำมาเกือบยี่สิบปีเป็นประกันว่าคุณหนูรองตระกูลไป๋ตั้งครรภ์” หมอชรากล่าวขึ้นเสียงหนักแน่นด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้น

“เจี่ยเจีย...ข้าตั้งครรภ์” ข้ากล่าวพึมพำออกมา หายใจเข้าออกไม่เป็นจังหวะ คล้ายกับว่าจะเป็นลม น้ำตาที่อัดอั้นเอาไว้ในอกพลันทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

แค่ถูกขืนใจก็หนักหนามากพอแล้ว...นี่ยังมาตั้งท้องให้กับบุรุษเช่นนั้นอีกหรือ ข้า...ข้าควรจะทำเช่นไรดี เป็นเรื่องน่าอับอายเกินจะทนรับไหว

“เม่ยเหม่ย พี่อยู่ตรงนี้ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว...ไม่ต้องกลัวอันใด” ไป๋มี่อิงเดินเข้าไปสวมกอดน้องสาวต่างมารดา ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ร่วงเผาะออกมาไม่หยุดสาย

นางคับแค้นใจเป็นอย่างมาก แค่จิ้นฝานข่มเหงไป๋ซิงหนี่ว์ก็ทำให้น้องสาวนางทุกข์ทรมานมากพอแล้ว แต่นี่ถึงกับตั้งท้อง สำหรับเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องสำคัญของสตรีเป็นอย่างมาก และยังเป็นเรื่องอับอายมากถึงมากที่สุดอีกด้วย

ไป๋ซิงหนี่ว์มีนิสัยสตรีค่อนข้างสูง รักความสวยความงาม รักหน้าตาเป็นที่หนึ่ง วางท่าทางสง่างามมาตลอด และยังภูมิใจตนเองเป็นอย่างมาก จะต้องทนความรู้สึกอัปยศมากมายแค่ไหนกัน...

ข้าซุกหน้าลงบนอกของพี่สาวไม่อยากเงยหน้าขึ้นมารับรู้เรื่องราวรอบตัวอีก อยากจะวิ่งเอาหัวโขกกำแพงให้หมดสติไป ไม่ต้องฟื้นขึ้นมาอีก แต่ถึงกระนั้นก็กลัวเจ็บเกินไปที่จะทำร้ายร่างกายตัวเองได้ลง ทำได้เพียงร้องไห้ออกมาเท่านั้น ภาวนาในใจว่าทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความฝัน

ไป๋มี่อิงยกมือลูบลงตรงหัวไป๋ซิงหนี่ว์ รับรู้ถึงความทุกข์ใจที่กลั่นออกมาเป็นน้ำตา เสียงสะอื้นฮึดฮัดอยู่ในคอที่ไป๋ซิงหนี่ว์พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ดังออกมา

“อย่าได้เอาเรื่องนี้ไปพูดเด็ดขาด!” ไป๋มี่อิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ส่งตรงเข้าหูผู้คนที่อยู่ในห้องโถงยามนี้ มันเป็นน้ำเสียงที่พ่อบ้านหมิงและหมอชรารู้ดีว่าหากเผลอปากกล่าวออกไปแล้วไซร้ อายุขัยที่มีมากอยู่แล้วจะเป็นอันจบลง และสิ้นสุดอย่างกะทันหัน

พ่อบ้านหมิง หรือหัวหน้าบ่าวประจำคฤหาสน์ตระกูลไป๋สงบปากสงบคำ ไม่ได้เอ่ยถามผู้เป็นนายออกไป เขารีบก้มหน้าลงมองปลายเท้า พาหมอชราที่เชิญมาออกจากเรือนเหมยทันที และยังกล่าวกำชับให้หมอชราปิดปาก พร้อมมอบเบี้ยอีกยี่สิบตำลึงทองให้หมอชราไปอีกด้วย

ข้าที่ซุกหน้าร้องไห้ ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนเดินจากไปแล้วจึงเงยหน้าขึ้นไปกล่าวกับพี่สาว “เจี่ยเจีย...หากผู้ใดรู้เข้าว่าข้าตั้งครรภ์คงได้ประณามข้าเป็นแน่ ฮือๆ” กล่าวจบก็ร้องไห้ออกมาอย่างปวดใจ มันจุกตรงอก อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่เกิดขึ้นมานี้

“พวกมันกล้าประณามเจ้ารึ...ฮึ พวกมันที่มิรู้จักและตัดสินคนอื่นอย่างฉาบฉวยมีอันใดที่เจ้าต้องไปใส่ใจ หากมันกล้ากล่าวเรื่องของเจ้าเสียๆ หายๆ พี่สาวผู้นี้จะไปตัดลิ้นมันออกมาให้หมูกินเสีย!! พวกมันจะได้รู้ตัวเสียทีว่าควรจะทำประโยชน์อันใดที่ดีกว่ามานั่งนินทาเรื่องชาวบ้าน” ไป๋มี่อิงกล่าวด้วยความคับแค้นใจ ยิ่งเห็นน้ำตาน้องสาวอันเป็นที่รักไหลออกมาอย่างพรั่งพรูนางยิ่งสงสารและเวทนาจับใจ

เจี่ยเจียกล่าวออกมามันง่าย...จะมีสักกี่คนที่เป็นดั่งคำกล่าวนั้น ผู้คนที่ข้าเจอล้วนแต่ปากมาก สุมหัวเกินสองคนเมื่อใดหัวข้อสนทนาที่กล่าวออกมาล้วนเป็นเรื่องของผู้อื่นเสมอ

ข้าเป็นถึงสาวงามอันดับสองฝั่งตะวันตก ถ้าผู้ใดรู้เข้าคงต้องเหยียบข้าจมดินเป็นแน่ พวกมันต้องเอาข้าไปนินทา และตราหน้าว่าเป็นสตรีมีมลทิน

“เสี่ยวฝานใช่หรือไม่ที่ข่มเหงเจ้าเยี่ยงนี้!!” ไป๋มี่อิงที่เงียบไปครู่หนึ่งกล่าวถามออกไปตามตรง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 6

    “ปากเขายังเล็ก เมื่อโตขึ้นมาหน่อยสองเดือนสามเดือนได้ เขาก็จับดูดถึงลานนม...แต่จะว่าไปแล้วนั้นเหมือนตอนที่เสี่ยวฝานดื่มนมข้าไม่มีผิด” ฮูหยินหม่านกล่าวขึ้น ทำสีน่าปลื้มปริ่มมองเอ้อเหอเสี่ยงพอสิ้นคำกล่าวของท่านแม่ ในหัวก็แล่นภาพดวงหน้าคุณชายจิ้นซ้อนทับกับลูกขึ้นมาทันที ข้าอุตส่าห์ลืมไปแล้วเพราะความเจ็บ ไฉนความคิดนี้ถึงวกกลับมาได้อีกกันเมื่อสลัดภาพคุณชายจิ้นออกจากหัว ภาพอาเอ้อยามขยับปากดูดนมกลับทำให้ข้ามีความสุขถึงแม้ว่าจะเจ็บจนร้องไห้ก็ตามทีกินเก่งเช่นนี้ต้องเหลือให้น้องอีกสองคนด้วยรู้หรือไม่ ข้าเอ่ยกับเขาในใจ แล้วเหลือบตาไปมองอาลิ่ว อาปา ที่กำลังร้องไห้อยู่ ดูท่าหนทางให้นมลูกวันนี้ยังอีกยาวไกลนัก…เรือนซิ่วของจิ้นฝานด้านข้างจะมีต้นไม้ใหญ่ ถ้ายืนใต้ต้นไม้นั้นจะมองทะลุหน้าต่างเรือนเข้าไปด้านในเป็นห้องนอน และมองเห็นจิ้นฝานที่กำลังผลัดเปลี่ยนมาสวมเป็นชุดขุนนางในยามนี้ ขยับปากกล่าวกับสวี่เจียวไปด้วย ไม่รู้ว่าเขากล่าวอะไรออกมาถึงทำให้สวี่เจียวตกใจอยู่ไม่น้อยนํ้าเสียงของคนทั้งสองเบาราวกับสายลม แต่เนื้อหาของบทสนทนาน่าจะดูตกใจอยู่มาก จนทำให้สวี่เจียวที่ยืนถือเสื้อคลุมนั้นถึงกับมือไม้อ่อนทำเส

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 5

    พลันเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้อง เสียงหยอกล้อผสมกับเสียงร้องไห้ก็ดังกระทบเข้ามาที่หูจากห้องด้านข้าง ตอนแรกที่ได้ยินก็ไม่คิดว่าจะดังถึงขั้นแสบหูเช่นนี้ “คุณชายน้อยลิ่วร้องโยเยไม่หยุดเลยเจ้าค่ะ” เสียงที่ดังลอดออกมาคือแม่นางเฉินข้าจึงผลักประตูเข้าไปในห้องเห็นคุณชายจิ้นนั่งนิ่งยกนํ้าชาขึ้นจิบอย่างสงบ ปรายตามองมาทางข้า ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาท่านแม่กล่อมเด็กอ่อนใบหน้าที่เหมือนกับคุณชายจิ้น ฮูหยินเฒ่ามีสีหน้าตระหนกไม่ต่างกัน อุ้มเด็กน้อยที่มีใบหน้าเหมือนคุณชายจิ้น แม่นางเฉินหางตาตก สีหน้าอมทุกข์ อุ้มเด็กหน้าเหมือนคุณชายจิ้นคุณชายจิ้นหนึ่ง คุณชายจิ้นสอง คุณชายจิ้นสาม คุณชายจิ้นสี่ บ้าจริง! บุตรชายแฝดสามคนได้พ่อของเขามาทั้งหมดราวกับคุณชายจิ้นแยกร่าง และย่อส่วนลงให้ตัวเล็กลงขนาดกะทัดรัด“หนี่ว์เอ๋อร์ตื่นแล้วหรือ พวกเขากำลังหิวนมพอดีเลย” ฮูหยินหม่านกล่าว ก่อนหน้านี้ก็ให้แม่นมป้อนไปแล้ว กินจุบจับไปห้าหกทีก็ไม่ยอมกินอีก“เห็นตัวเล็กหน้าซื่อๆ แต่กลับเลือกกินตั้งแต่เด็ก” ฮูหยินเฒ่ากล่าวบ่น ใช้นิ้วเขี่ยลงไปที่หน้าผากปาเหอเสี่ยง หรือเจ้าแปดที่ร้องไห้ลั่นในอ้อมแขนของนาง“เหมือนพ่อเขา

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 4

    “ดูเล็กไปหมดเลยขอรับ จมูก ปาก หู” จิ้นฝานกล่าวไปตามที่เห็น ภาพน้องสาวน้องชายของเขาที่เคยอุ้มยามเด็กเลือนรางไปตามกาลเวลา พอมาวันนี้ความรู้สึกนั้นก็ย้อนกลับมาอีกครั้งมันหอมหวานไปด้วยความสุขความยินดีอยู่ด้านในอกของเขาคล้ายจะล้นทะลักออกมาข้างนอก“อาฝาน เจ้าต้องเป็นนักคัดลอกฝีมือดีเป็นแน่” ฮูหยินเฒ่ากล่าวเย้า“ทำไมหรือเจ้าคะ” ฮูหยินหม่านเอ่ยถามอย่างสงสัยในคำกล่าวนั้น“เจ้าดูเสีย ราวกับเอาหน้าอาฝานมาแปะไว้” ฮูหยินเฒ่ากล่าว หลุบตาลงมองเหลนชายที่อุ้มเอาไว้“ฮ่าๆ” ฮูหยินหม่านได้ยินก็ลั่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ หันไปลูบหัวบุตรชายพร้อมกับกล่าวไปด้วยว่า“สงสัยว่าตอนทำ เจ้าคงจะขยันปั้นน่าดู”จิ้นฝานที่ได้ยินก็หลุบตาลงมองเอ้อเหอเสี่ยง คืนนั้นมันบางเบาราวกับหมอก พร่ามัวอยู่ในความทรงจำ ครุ่นคิดเท่าไรก็ครุ่นคิดไม่ออก ส่วนไหนของคุณหนูรองหน้าตาเป็นแบบไหนเขาเองก็จำไม่ได้ พอตื่นขึ้นมาก็รู้เพียงแค่ว่าปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว ยิ่งช่วงเอวมิต้องกล่าวถึงเมื่อแวะหามาลูกแล้วนั้นก็ถึงคราไปหาแม่ของลูกชายที่ห้องนอนใหญ่ด้านข้าง เขานั่งลงบนเตียงลูบหัวฮูหยินน้อยที่นอนหลับอย่างเบามืออยู่เนิ่นนาน…สัมผัสเบาๆ ที่หัว

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 3

    “ฮึ เวลาผ่านไปเร็วนัก ยามนั้นท่านยังเป็นเด็กหนุ่ม มาบัดนี้เติบโต ดูทระนง และสง่าสมฐานะเสนาบดีฝ่ายขวาในอนาคตอย่างยิ่ง” เสนาบดีจางกล่าว สายตามองลึกเข้าไปในดวงตาดุดันของชายหนุ่มที่ยืนเบื้องหน้า“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น” จิ้นฝานตอบเสียงนิ่ง หน้านิ่งกวาดตามองเหล่าฮูหยินของเสนาบดีจางที่นั่งตัวสั่นภายในห้องนับผ่านทางสายตาขุนนางเฒ่าผู้นี้มีภรรยาสิบคน แต่กลับมีบุตรเพียงไม่กี่คนเท่านั้น บุตรชายห้าคน บุตรสาวคนเล็กอีกหนึ่งคนที่ยังไม่แต่งออกไป“ข้าขอสนทนากับท่านในฐานะที่เคยเป็นเจ้านายกับลูกน้องกันมาหลายปีหน่อยเถิด ไท่จื่อจะลงโทษตัดสินตระกูลจางถึงโทษขั้นไหน” เสนาบดีจางถามเสียงอ่อน ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหมดหวัง“โทษประหารเก้าชั่วโคตร โทษของผู้ที่คิดคดก่อกบฏไม่มีผ่อนปรน” จิ้นฝานตอบตามตรง หลุบตาลงมองชายชราที่นั่งมือสั่น วางกับพนักแขน“แต่พวกนาง และพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้าจะรับโทษไว้ทั้งหมด” เสนาบดีจางที่นั่งก้มหน้าลงเอ่ยขึ้น“ท่านเป็นถึงเสนาบดี คงจะทราบดีว่าโทษนี้ไม่อาจเลือกปฏิบัติได้ เมื่อทำผิดใหญ่หลวง ย่อมต้องรับผิดชอบทั้งหมดร่วมกัน” จิ้นฝานตอบเสียงนิ่ง“คุณชายจิ้น...” เสนาบดีจางเงยหน้าขึ้นสบดวงต

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 2

    จิ้นฝานมองมือของนางที่ยกค้างกลางอากาศแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะหลับตาลงและขยับหน้าไปแนบกับฝ่ามือของนางอย่างช้าๆ นิ่งค้างสักพัก แล้วดึงหน้ากลับมาลืมตาช้าๆ มองภาพสะท้อนตัวเองบนดวงตาคู่หวานของนาง“เจอกันวันพรุ่ง” จิ้นฝานกล่าวลาเป็นครั้งสุดท้าย หมุนกายกลับหลังแล้ววิ่งออกไปอย่างรีบร้อนข้ายืนนิ่ง และสูดลมเข้าจมูก เมื่อครู่นี้...เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น สัมผัสนั้นราวกับความฝันเสี่ยวเมิ่งยืนมองฮูหยินน้อยที่ยืนอึ้งไปครู่หนึ่ง นางจึงส่ายหน้าเบาๆ ในท่าทีของนายท่าน จะไม่ให้ฮูหยินตกใจได้อย่างไร อยู่ๆ ก็ใช้ข้ออ้างมาขอเบี้ย เพื่อมาลาภรรยาก่อนจะออกไปทำงานใหญ่ ยังมิวายหยอดสาวงามหนึ่งที แล้วรีบวิ่งหนีไปเสียดื้อๆ ลูกเล่นเขานับว่าแพรวพราวขึ้นทุกวัน“เสี่ยวเมิ่ง เจ้าเห็นเหมือนที่ข้าเห็นหรือไม่...” ข้าเอ่ยเสียงขาดหายหันหลังกลับไปถามนางด้านหลัง“นายท่านตั้งใจจะแวะมาลาฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ” เสี่ยวเมิ่งกล่าวไปตามตรง“เขาต้องเพี้ยนไปเป็นแน่” ข้าเอ่ย เอามือที่สัมผัสหน้าคุณชายจิ้นก่อนหน้านี้มากุมเอาไว้ แล้วเดินเข้าเรือนไปตอนนี้คล้ายกับว่าในหัวใจเหมือนมีกลีบบุปผาเบ่งบานอยู่เต็มไปหมด จะให้บรรยายออกมานั้นข้าเองก็ไม่อาจเข

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 1

    ๑๑ฝูงลิงเมื่อดอกเหมยโรยราร่วงหล่นลงพื้นจนหมดต้นแล้วนั้น มันก็เริ่มผลิใบอ่อนขึ้นมาใหม่มีสีเขียวเต็มต้น จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงผลัดใบออก บ่งบอกถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนไปอีกหนึ่งฤดู ยามนี้ข้านั่งเล่นตรงระเบียง เอนตัวพิงหมอนด้านข้าง นั่งดูสีใบไม้ในสวนผ่านแสงจันทร์สีนวลในคืนนี้ท้องของข้าขยายใหญ่มาก ไม่ใช่มากธรรมดา มันใหญ่มากของมาก มิใช่แฝดสองที่คิดเอาไว้ ท่านหมอกล่าวบอกว่าน่าจะแฝดสามหรือไม่ก็แฝดสี่ได้ ถ้าดูจากขนาดท้องนี้ก่อนหน้านี้สองเดือนเกือบสามเดือนได้ คุณชายจิ้นมาขอยุติข้อตกลงไว้ชั่วคราวก่อน เพราะเขาติดทำภารกิจ ต้องกลับเรือนดึกดื่นเกือบเช้าทุกวัน จึงไม่อยากเข้ามากวนข้ากับลูกยามดึกข้าเองก็ไม่ติดใจอันใด เพราะรู้ว่าเขานั้นกำลังยุ่งวุ่นวายกับเรื่องในวังหลวง จึงกลายเป็นว่าเห็นหน้าเขาไม่เกินสิบครั้งได้กระมังที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่เจอก็ตอนมาขอเบี้ยรายเดือนของเขา เดือนไหนเบี้ยหมดไวก็อาจจะเจอสองครั้งสามครั้งต่อเดือน ไม่รู้ว่าเอาเบี้ยไปเททิ้งหรืออย่างไร หมดเร็วยิ่งนักส่วนเจ้าโซว่ก็ตัวโตขึ้น มันเป็นพันธุ์ผสมหมาป่า รูปร่างจึงใหญ่กว่าสุนัขบ้าน มีเรียวขาที่ยาวตัวสูงปราดเปรียวสีขาวฟูฟ่อง แต่กลับมีนิสัย

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status