แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในห้องทำให้ขนตางอนยาวของวีรดาค่อยๆ ขยับ ร่างบางรู้สึกตัวตื่นเอาเมื่อตอนช่วงสาย กายสาวตอนนี้รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเป็นที่สุด ช่วงล่างของเธอนั้นมันร้าวไปถึงปลายเท้า
“อื้อ เจ็บจัง” เธอสบถ พรางก้มลงมองสิ่งที่อยู่ภายใต้ชุดนอนบางเบาของเธอนี้ ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอต้องเผชิญเมื่อคืน คนตัวเล็กก้มลงมองคราบหยดน้ำสีแดงเข้มที่แห้งเหือดเป็นจุดๆ แล้วรู้สึกหดหู่ ชีวิตของเธอนี่มันช่างน่าสมเพสสิ้นดี เกิดมาเธอก็ไม่เคยเห็นหน้าพ่อแท้ๆ มีแต่พ่อเลี้ยงที่เปลี่ยนหน้ามาให้เธอเห็นเกือบนับไม่ถ้วน
เธอลืมบอกไปว่าเธอมีแม่ที่ยังสวย และหุ่นดี จนมีพ่อม่าย หนุ่ม แก่ อ่อนมาป้อนขนมจีบแม่เธออยู่เป็นประจำ แม่เธอเป็นคนรักสบาย ใครเลี้ยงดูและดูแลเขาได้ เขาก็ไปอยู่กับคนนั้น บางครั้งแม้จะเป็นเมียน้อยเขาก็ยอม แต่ถึงแม่เธอเป็นยังไงก็ไม่เคยทิ้งลูก แม่ไปอยู่ไหนก็จะเอาเธอตามติดไปด้วย จนกระทั่งสามีคนล่าสุด ที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าลุงคมเป็นใครมาจากไหน รู้แต่เพียงว่าพอเธอกับแม่ย้ายมาอยู่กับลุงคมที่ญี่ปุ่นนี้ได้ไม่นานแม่เธอก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ โลกของเด็กสาววัย 20 ปี จึงพังทลายในพริบตา ความโดดเดี่ยวอ้างว้างเริ่มก่อตัวขึ้น เธอไม่รู้จักใครที่เป็นคนไทยนอกจากลุงคม ลุงคมบอกอะไร แนะนำอะไรเธอก็เชื่อโดยไม่รู้ตัวเลยว่าลุงคมนั้นพาเธอมาขายให้กับเศรษฐี และมารู้อีกทีคือเธอต้องรับหน้าที่เป็นแม่พันธ์ให้กับทายาทเศรษฐีนี้ ต่อไปชีวิตเธอจะเป็นยังไงไม่รู้เลย หญิงสาวคิดพรางน้ำตาไหลพราก
ก๊อกๆๆๆ !!เ
สียงที่ดังอยู่หน้าประตูทำให้เธอเองต้องปาดน้ำตา ใครมานะ ใช่ลุงคนนั้นหรือเปล่า วีรดานึกถึงคนที่มาบอกเธอเรื่องหน้าที่ของเธอเมื่ออยู่ที่นี่ สำหรับคนที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองมาที่นี่เพื่ออะไรนั้นก็คงจะรู้สึกดีใจเพราะวันๆ ไม่ต้องทำอะไร นั่งๆ นอนๆ กินแต่ของที่มีประโยชน์ แต่พอตกกลางคืนมีหน้าที่เป็นแม่พันธ์เพื่อผลิตทายาทให้กับเศรษฐีญี่ปุ่น แต่นี่เธอเพิ่งรู้เมื่อคืนก่อนที่เขาคนนั้นเข้ามาไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ แล้วยิ่งไปกว่านั้น เธอกลับไม่เคยเห็นหน้าคนที่มาเป็นพ่อพันธ์นั่นเอง แปลกจริงทำไมต้องปิดตาเธอด้วยนะ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
ก๊อกๆๆๆ !!
ร่างน้อยสะดุ้งเมื่อเสียงนั้นดังขึ้นมาอีก
“อ้อ เข้ามาได้ค่ะ” ด้วยความลืมตัวเธอจึงตะโกนเป็นภาษาไทย
“สวัสดีค่ะคุณวีรดา หนูชื่อปิ่นค่ะ นายท่านให้มารับใช้คุณวีรดาค่ะ ” เด็กสาววัย15-16 เอ่ยเสียงแจ้ว วีรดายิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนไทยเหมือนกัน
“เธอคนไทยเหรอ ดีใจจัง”
“ค่ะ หนูเป็นแรงงานไทยที่หนีเข้าเมืองมาค่ะ แต่ว่าไม่มีใครทำอะไรหรอกนะคะ เพราะเป็นคนของตระกูลคาวาชิตะค่ะ” เมื่อได้ฟังจึงรู้ว่าชื่อตระกูลนี้คืออะไร
“อ่อ งั้นเหรอจ๊ะ ว่าแต่ปิ่นอายุเท่าไร”
“15 ค่ะ”
“น้อยจัง ไม่ใช้แรงงานเด็กหรอกหรือ”
“ไม่ค่ะ เพราะยังไงหนูก็เต็มใจค่ะ แต่ว่าคุณวีรดาอย่าถามมากเลยนะคะ เพราะหนูก็ไม่รู้อะไรมากกว่าหน้าที่ของตัวเองค่ะ”
วีรดาถึงกับสะอึก เพราะคำพูดนั้นทำให้เธอต้องตระหนักถึงหน้าที่ของเธอเองเหมือนกัน ใบหน้าสวยจึงปรับให้เป็นปกติแล้วบอกความต้องการของตัวเธอเอง
“อื้อ อืมจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นปิ่นพยุงฉันไปอาบน้ำหน่อยสิ”
“ได้ค่ะ อาบน้ำเสร็จเดี๋ยวปิ่นเอาอาหารมาให้เลยนะคะ อยากได้อะไรอีกไหมคะ” เด็กสาวเงยหน้ามาถาม วีรดาส่ายหน้า เพราะตอนนี้เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าต้องการสิ่งใด ในใจจริงๆ อยากออกไปดูโลกภายนอกบ้าง แต่ลุงคนที่พาเธอมาบอกว่าให้เธออยู่ในห้องนี้ครบ 2 อาทิตย์แล้วถึงจะออกไปดูโลกภายนอกได้ หญิงสาวแล้วก็จำต้องถอดใจ
“ไม่แล้วล่ะ แต่ขอยาแก้ปวดหน่อยก็ดีนะปิ่น” วีรดาเอ่ยเสียงอ่อย ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยหัวใจที่หดหู่นี้
ทางด้านภายนอกห้องที่วีรดาอยู่นั้นมันคือชั้น 3 ของคฤหาสน์หรูของตระกูลคาวาชิตะ นักธุรกิจที่ร่ำรวยจากการค้าขายอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ รวมถึงอะไหล่รถยนต์หรูๆ หลายยี่ห้อที่ทางตระกูลนี้ที่รับผลิตและนำไปสวมยี่ห้อต่างๆ ร่ำรวยเงินทอง ร่ำรวยความสุข แต่ทว่ากลับอาภัพเรื่องทายาทสืบสกุล ซึ่งทายาทรุ่นสุดท้ายตอนนี้เหลือเพียง 2 คนพี่น้องฝาแฝดเท่านั้น คือโทมะ คาวาชิตะ กับ ริเอะ คาวาชิตะ ฝาแฝดชายหญิงที่แต่ละคนเพียบพร้อมไปทุกอย่าง รูปร่างหน้าตา กิริยาท่าทาง รวมถึงการงาน แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความเพียบพร้อมและห้อมล้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติ เหมือนกับสวรรค์กลั่นแกล้ง สร้างให้แฝดชายนั้นไม่มีอวัยวะสืบพันธ์ ไม่มีแม้น้ำเชื้อที่จะสืบเชื้อสาย แถมยังเป็นชายที่รักชายอีกด้วย แฝดชายจึงเลือดสรรค์สร้างของสงวนนั้นเป็นเพศเดียวกับสิ่งที่ตัวเองชอบ (ไปทำจิมิ) นั่นเอง ส่วนแฝดหญิงนั้น ดันไปมีเจ้าของสงวนเป็นบุรุษเพศ ร่างกายภายในสามารถผลิตน้ำเชื้อในการสืบพันธ์ได้ เรื่องวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้นในตระกูลใหญ่ที่มีหน้ามีตาในสังคมนี้
“คิดอะไรอยู่เหรอมิเอะ” เสียงนั้นเอ่ยเป็นภาษาญี่ปุ่น ร่างโปร่งจึงหันไปมองด้านหลังแล้วยิ้มให้กับพี่ชายตัวเอง
“เปล่าค่ะ แค่คิดว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่ถึงต้องปิดเรื่องนี้ด้วย โลกสมัยนี้มันเปิดกว้างแล้วนะคะ”
“อ่อ เปิดกว้าง แต่ในหน้าตางสังคมของตระกูลเรา ผู้ใหญ่เขาคงคิดดีแล้ว ว่าแต่เรื่องนั้นโอเคไหม” โทมะมองหน้าน้องสาวฝาแฝดแล้วยิ้มอ่อนๆ
“ก็โอเคนะคะ ว่าแต่ไม่รู้ว่ากับผู้หญิงคนนี้จะได้ผลหรือเปล่า”
“แล้วทำไมถึงเลือกวิธีนี้หละ ทำไมไม่เลือกวิธีทางการแพทย์”
“พี่ก็เห็นนี่คะ ล้มเหลวมากี่ครั้งแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่ก็เลยอยากให้ลองวิธีนี้”
“จริงหรือเปล่า พี่เห็นว่ามิเอะเสนอเองไม่ใช่เหรอ ซิงจริงอะป่าว ” โทมะหรี่ตามองน้องสาวแล้วอมยิ้ม เพราะเขารู้ดีว่าที่น้องสาวเลือกวิธีธรรมชาติกับสาวไทยคนนี้ เพราะอยากรู้ว่าเปิดซิงสาวจริงๆ นั้นมันเป็นยังไง เพราะที่นี่สมัยนี้มันไม่มีอีกแล้ว
“อื้อ ไม่บอกค่ะ มิเอะไปดีกว่า” ร่างโปร่งอมยิ้มพรางส่ายหัวไปมา ก่อนจะยกมือลูบปากตัวเองไปมาอย่างมันเขี้ยวเมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนนี้ บอกตามตรงกลิ่นสาวบริสุทธิ์ยังติดอยู่เลย ร่างโปร่งก้มมองเป้าตัวเองก่อนจะนึกแอบภูมิใจลึกๆ กับมัน...>>>>
“อ๊ะ อ๊ะ นายท่านขา อื้อ หนูเสียวจังค่ะ” เสียงครางของวีรดาดังออกมาไม่ขาด ตอนนี้ร่างกายของเธอร้อนลุ่มขึ้นมาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไรของค่ำคืนนี้ เพราะตั้งแต่เข้าหาจนป่านนี้เธอกับเขายังไม่หยุดกิจกรรมเข้าหอกันเลยก็ว่าได้ หญิงสาวบิดกายไปมาด้วยความเสียว ขณะที่กลีบเนื้อนุ่มก็ถูกลิ้นร้อนจุ่มลงมาไม่ขาดนั้น หญิงสาวเหลียวหลังไปมองคนที่จุ่มหน้าอยู่ด้านหลัง ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาหัวเตียงนี้ บ้าจริง เธฮกับเขารักกันมาราธอนมากตอนนี้ก็เกือบจะตีสามแล้วเธอยังถูกเขาจับกินอยู่เลยหญิงสาวคิด พรางเม้มปากแน่นเพื่อระงับเสียงครางลงบ้าง“อื้อ จ๊วบ อ่าส์ เสียวก็ร้องดังๆ นะคะ ฉันชอบฟังเธอเองก็รู้ แพล่บๆ แพล่บๆ ” มิเอะเบนหน้าออกจากบั้นท้ายสวย ไปบอกคนที่หมอบคลานเข่าหันหลังให้เธอดื่มด่ำกับน้ำหวานนี้เสียงแหบพร่า ดวงตาหวานเยิ้มเป็นที่สุด“อ๊ะ นายท่านขา นายท่าน อื้อ อ่าส์” วีรดาเหลียวหลังมาครางเสียงหวาน เธออมยิ้มก่อนจะยกบั้นท้ายขึ้นแยกเรียวขาสวยออกเพื่อเปิดทางให้ใบหน้าของเขามุดลงไปอิ่มเอมกับสิ่งที่อยู่ใต้ระหว่างขาของเธอได้ถนัดถนี่นี้“อื้อ อย่างนั้นค่ะอย่างนั้น อึ้ม หวาน อื้ม จ๊วบ อ่าส์” มิเอะหลับหูหลับตาตวัดปาดลิ้น
มิเอะมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดวงตาเป็นมันส์ เธอยกยิ้มุมปากทันทีที่เห็นกลีบเนื้อสวยของภรรยาขับน้ำสีหวานออกมานั้น เรียวขาสวยของอีกฝ่ายค่อยๆ แยกออกกว้าง ก่อนจะค่อยๆ ชันกายลุกขึ้นเป็นกึงนั่งกึ่งนอนนี้ หัวเข่าทั้งสองข้างตั้งฉากกับเตียวกว้าง ทำเอามิเอะถึงกับเลือดในกายพุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง“นายท่านขา หนูพร้อมแล้วค่ะ มัวช้าอยู่ใยคะ” วีรดาร้องเรียกเขาเสียงแหบพร่าง ร่างสวยบิดเร้าเย้ายวนเพื่อให้เขาอดรนทนไม่ไหว เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่เพราะผ้าปิดตาผืนนี้ แต่เธอพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายยังคงจ้องมองตรงส่วนนั้น“อื้อ อย่าใจร้อนนักซิคะ ทำไมถึงได้โหยหานักนะ” มิเอะเปรยเสียงแหบพร่า ก่อนจะขยับกายเข้าไปหาร่างนุ่มที่นั่งอ้าซ่าอยู่ตรงนั้น เธอเดินเข่าเข้าใจกลางความสาว ก่อนจะลากปลายท่อนเนื้อร้อนถูไถไปตามร่องกลีบสีหวานขึ้นลงไปมา“อ๊ะ อื้อ ก็หนูรักนายท่านนี่คะ อยากทำให้นายท่านมีความสุขมากๆ ค่ะ” พอรู้ว่าเขาอยู่ตรงหน้า เธฮก็คว้าลำคอขาวของเขาโอบเอาไว้ เบียดกายสาวช่วงล่างกับเจ้าแท่งร้อน ไปมาอย่างจงใจ“อื้อ หมายความว่าถ้าอย่างนั้นฉันจะรอเธอมอบความสุขแล้วกันนะคะ”อึ๊บ !!“อ๊ะ นายท่าน อื้อ โอ้ว อ่าส์” ร่างบางตกใจเล็ก
มิเอะยืนรอเมียรักอยู่สักพัก ด้วยความที่อารมณ์ค้างจึงทำให้เธอหน้างอเล็กน้อย เจ้าหล่อนบอกว่าให้เธอรอโดยบอกว่าไม่นาน ไม่นานอะไรกันนี่มันเกือบ 5 นาทีแล้ว เธอจะรอไม่ไหวแล้วนะเนี่ย หญิงสาวคิดพรางแกะกระดุมเสื้อสูททักซิโด้รอเมียรักไปพรางๆ“รอนานหรือเปล่าคะนายท่าน”“วีรดา...” มิเอะอุทานออกมาเบาๆ กับสิ่งที่ปรากฏบนกระจกนั้น ภาพสะท้อนของหญิงสาวด้านหลังทำให้เธอคลายยิ้มออกมา ร่างระหงส์อยู่ในชุดนอนบางเบาสายเดี่ยวสีขาว กางเกงขาสั้นลายลูกไม้บางเบา มันบางเสียจนเห็นว่าข้างในนั้นเจ้าหล่อนไม่ได้ใส่อะไรเลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ผ้าคลุมผมในชุดเจ้าสาวยังคงอยู่ตรงนั้น เสมือนกับว่ารอให้เจ้าบ่าวอย่างเธอเป็นคนเปิดมันยังไงยังนั้น สิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นก็คือผ้าปิดตาสีดำที่เจ้าหล่อนคาดเอาไว้ ยืนพิงกายข้างผนังห้องนอนนั้น ร่างโปร่งค่อยๆ หันไปมองอย่างช้าๆมิเอะเองก็ปรากฏดวงตาเป็นประกายทันที หญิงสาวนึกถึงวันแรกที่เธอพบกับเจ้าหล่อน และมันก็ทำให้อารมณ์ของเธอพุ่งขึ้นทีละนิดๆ เธอเดินเข้าไปหาร่างสวยอย่างช้าๆ รอยยิ้มยกขึ้นมุมปาก เมื่อคนที่ยืนคอยนั้นทำหน้าตาระแวดระวัง ภาพนั้นมันเหมือนกับคืนแรกที่เธอได้เจอกับเจ้าหล่อนนี้“ฉันชอบจ
วีรดานั่งมองร่างบางของตัวเองในกระจก ขณะที่สมองกลับนึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมาของตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมี่วันนี้ วันที่แต่งชุดผ้าลูกไม้สีขาวยาวกรอมพื้น ลายเสื้อประดับด้วยมุกสีครีมไปตามเนื้อผ้า ยังมีผ้าคลุมสีเดียวกันที่ต้องติดหลังจากที่ช่างแต่งหน้าแต่งแต้มสีสันบนใบหน้านั้น คิดแล้วขอบตาสวยหวานก็ร้อนผ่าวด้วยความตื้นตัน“คุณวีรดานี่สวยมากเลยนะคะ สวยเหมือนนางฟ้าเลย” เสียงเด็กสาวที่คอยรับใช้เอ่ยขึ้นจากด้านหลัง“พูดเกินไปหรือเปล่าปิ่น”“ไม่หรอกค่ะ ช่างแต่งหน้ายังชมเลย ขนาดมีลูกแล้วนะคะเนี่ย” เด็กสาวคนไทยที่ฟังภาษาญี่ปุ่นเข้าใจเอ่ย ก่อนจะมองนายหญิงของบ้านคนใหม่อย่างภาคภูมิใจ“อื้อ ปากหวานกันจริงเชียว ว่าแต่ตาหนูอยู่ไหนเนี่ย” วีรดามองหน้าสาวใช้แล้วถามด้วยความห่วงใย“อ่ออยู่กับนายใหญ่และนายหญิงนะคะ ทั้งสองท่านไม่ปล่อยให้ถึงมือคนรับใช้แบบพวกหนูเลยค่ะ”“เหรอจ๊ะ อื้อ” หญิงสาวพยักหน้าพรางนึกถึงวันที่นายหญิงไปตามหาพวกเราที่ต่างประเทศนั้น นายหญิงขอโทษอย่างสำนึกผิดทุกอย่าง นายหญิงต้องการให้นายท่านกลับบ้าน โดยยินยอมทำตามทุกอย่างที่นายท่านต้องการ ขออย่างเดียวให้พวกเราและลูกกลับไป กลับไปอยู่บ้าน โ
“อ๊ะ อ๊ะ นายท่านขา หนูจะไม่ไหวแล้วค่ะ” วีรดาโน้มใบหน้าสามีเข้ามาบอก ตอนนี้ร่องสวยของเธอเสียวจนทนไม่ไหวอยู่แล้ว ขาสวยที่อ้าออกกว้างตอนนี้มันสั่นเทิ้มจนเกินจะทน แขนเรียวรีบคว้าร่างของเขาเอามั่น ก่อนจะแอ่นสะโพกให้เขาอัดกระแทกอย่างแรงเพื่อส่งเธอขึ้นสวรรค์นี้“อื้อ ฉันก็ไม่ไหวเหมือนกัน ซี๊ดดดด” มิเอะจับเอวเล็กนั้นแน่นพร้อมออกแรงกระแทกไปมานี้ แต่แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นขัดความสุข“อุแว๊ๆๆๆๆๆๆ !!!”สองสาวมองหน้ากันเลิกลั่นเมื่อได้ยินเสียงบุตรชยหัวแก้มหัวแหวนส่งเสียงร้อง ทุกการกระทำหยุดกึก เหงื่อซึมออกไปทั่วใบหน้า“เอาไงดีที่รักคะ” วีรดาหันมองหน้าเขาขณะที่จุดร่องสาวของเธอกำลังเชื่อมกันอยู่นี้“ไม่ต้องห่วงค่ะคนดี ฉันมีวิธี”พลึ่บ!!“ว๊าย!!อื้อ ไม่หนักหรือคะ” วีรดาร้องเสียงหลงเมื่อเขาช้อนร่างของเธออุ้มขึ้น เธอห้อยโตงเตงอยู่บนร่างของเขาโดยตรงนั้นของเรายังคงสอดรัดกันแนบแน่น ร่างโปร่งพาเธอไปยังห้องนอนของบุตรชาย ใบหน้าสวยของเธอร้อนผ่าวเป็นที่สุด เขาไม่ได้อุ้มเธอเพียงอย่างเดียว ขาเรียวที่เขาช้อนเอาไว้นั้นกับจับมันขยับเข้าออกตามจังหวะ เธอรู้สึกได้ถึงการเข้าไปข้างในที่มันลึกสุดหัวใจนี้“ไม่หนักเลยสักนิด
มิเอะได้รับโทรศัพท์จากพี่ชายฝาแฝด หลังจากกดวางก็ถอนหายใจขึ้นมาทันที ในใจยังนึกโกรธผู้เป็นแม่ แต่อีกใจก็รู้สึกสงสาร ตอนนี้ทั้งบ้านต่างโทษท่านคนเดียวที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอหนีหายไปแบบนี้ และตอนนี้ท่านกำลังได้รับผลของการกระทำนั้นอยู่ พี่โทมะบอกว่าท่านซึมเศร้าและไม่ค่อยท่านข้าวตั้งแต่ที่งานแถลงข่าวที่บ้านทาเคชิ นึกแล้วก็เริ่มใจอ่อนขึ้นมาเสียแล้ว“มีอะไรหรือเปล่าคะที่รัก ทำไมทำหน้าแบบนั้น” วีรดาวางขวดน้ำลงกับโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้ามาหาสามีที่ยืนหน้าเครียดอยู่ตรงหน้าต่าง“พี่โทมะโทรมาบอกเรื่องคุณแม่”“นายหญิง ๆ เป็นอะไรเหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ“พี่โทมะบอกว่าท่านเศร้ามาก”“เอาแบบนี้ไหมคะ เรากลับไปเยี่ยมท่านไหมคะ”“มันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดนะซิ หากไปแล้วฉันกับแม่ก็คง...” มิเอะคิดถึงการสู้หน้าท่าน เธอเกรงว่าจะมองหน้ากันไม่ติด แล้วเธฮเองก็ยังไม่อยากกลับด้วย ไม่อยากให้ท่านมาเจ้ากี้เจ้าการชีวิตของเธออีก“แต่หากว่าท่านล้มป่วย ที่รักจะรู้สึกดีอยู่เหรอคะ” วีรดาเดินเข้าไปจับต้นแขนผู้เป็นสามี สายตามองจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น เธอรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอรู้ว่าสามีรู้สึกเสียใจเช่นเดียวกัน“ไม่หรอกน่