ตอนที่ 4 จะชดใช้ยังไง
หลังจากงานศพของกันตาเสร็จสิ้นไปได้สองอาทิตย์ กนกรดาต่างก็ดำเนินชีวิตเป็นไปตามปกติอย่างเช่นทุกวัน ต่อศักดิ์พี่ชายเพียงคนเดียวของเธอได้ติดต่อมาหาเธอเพียงแค่หนึ่งครั้ง เพื่อส่งข่าวมาบอกน้องสาวว่าตอนนี้เขาได้ขายทอดตลาดกิจการทั้งหมดด้วยราคาที่ถูก ๆ ให้กับคุณอาดนัย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของพ่อเธอ ตอนนี้บริษัทของพ่อแม่เธอที่สร้างขึ้นมาได้ตกไปเป็นของคนอื่นแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่พอใช้หนี้ทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ เพราะหนี้นอกระบบที่ต่อศักดิ์ไปกู้ยืมมาจากพวกมาเฟียนั้นมากกว่าห้าสิบล้านบาท จนถึงตอนนี้เขาเองก็ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทางด้านตัวของกนกรดาเองเธอก็ต้องดิ้นรนเพื่อหางานพิเศษทำ เพราะเธอไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว พี่ชายเพียงคนเดียวที่เธอมีอยู่ก็ไม่สามารถที่จะอยู่กางปีกปกป้องน้องสาวเช่นเธอได้อีกต่อไป เงินที่ต่อศักดิ์โอนมาให้เธอจำนวนห้าแสนบาท เพื่อให้เธอเก็บไว้ใช้จ่าย เธอเองก็ไม่กล้าที่จะเอามันออกมาใช้เลยด้วยซ้ำ เพราะเธออยากจะเก็บเอาไว้เพื่อใช้ในคราวจำเป็น เธอเองจึงต้องหางานพิเศษทำช่วงหลังเลิกเรียน สายฝนที่กระหน่ำโปรยปรายลงมาอย่างหนักเป็นเวลากว่าชั่วโมงแล้ว ทำให้ร่างเล็กบอบบางของกนกรดาในชุดนักศึกษาต่างเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น มือเรียวบางต่างยกขึ้นมาป้องกันสายฝน ที่สาดเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสายใส่ใบหน้าเนียน ในขณะที่กำลังไขประตูรั้วบ้านอย่างเร่งรีบ ก่อนจะก้าวขาเรียวยาวเข้าประตูบ้านไป โดยไม่ลืมที่จะปิดประตูลงล็อกตามหลัง พร้อมกับสายฟ้าแลบแปลบ ๆ ที่มาพร้อมกับเสียงฟ้าที่ร้องกระหน่ำดังครืน ๆ ลมหายใจอุ่น ๆ ถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มที่ดูซีดเซียว ร่างบอบบางรีบถอดรองเท้าผ้าใบ และรีบเดินตรงดิ่งเข้าไปภายในบ้านเพื่อจะอาบน้ำชำระร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกปอนให้ตัวเองสบายตัว กนกรดาเดินไปพลางปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาสีขาวสะอาดตาออกอย่างรีบร้อน ร่างเล็กบอบบางเดินก้าวผ่านห้องรับแขกเพื่อขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัว แต่เธอก็ต้องชะงักท้าวไปในทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในห้องนอน ก่อนมือเรียวบางจะขยุ้มอกเสื้อที่เพิ่งจะถอดกระดุมออกให้แนบชิดกันทันที หญิงสาวหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อร่างสูงใหญ่ที่เธอคุ้นตากำลังก้าวเท้ายาว ๆ ตรงดิ่งเข้ามาหาเธอ ร่างบางยืนนิ่งราวกับโดนสาปอยู่แบบนั้น นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้างอย่างตะลึงงัน จ้องกับนัยน์ตาสีดำขลับของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดสูทสีดำสนิท เช่นเดียวกับสีของดวงตาคมกริบคู่นั้น ที่กำลังจดจ้องมองมาอย่างโกรธเคืองราวกับว่าเธอคือศัตรูคู่อาฆาตของเขา “คะ คุณ อาชะ!!” เสียงของเธอหายวูบลงไปในลำคอ เมื่อฝ่ามือหนาแข็งแกร่งคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็ก ๆ ก่อนจะออกแรงกระชากจนมือเธอหลุดออกจากอกเสื้อที่ขยุ้มไว้ เธอกำมืออีกข้างที่จับเสื้อนักศึกษาเอาไว้แน่น เวลานี้เธอหวาดกลัวผู้ชายตรงหน้า จนยากเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ “ไอ้ต่อศักดิ์มันอยู่ไหน!!” อาชาไนยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ในขณะที่เธอเองนิ่งอึ้งไปด้วยอาการเหมือนคนที่สมองได้หยุดสั่งการไปชั่วขณะ (พี่ต่อ… เขามาถามหาพี่ต่อทำไมกัน) “คะ คุณมาถามหาพี่ต่อทำไมคะ ละ แล้วคุณ ขะ เข้ามาในบ้านของฉันได้ยังไงกัน” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามขึ้นมาอย่างตะกุกตะกัก ก่อนจะพยายามสะบัดมือให้ออกจากการเกาะกุมแต่ก็หาได้มีผลไม่ เพราะมือของเขามันแน่นราวกับคีบเหล็ก “ปล่อยนะคะ ไม่งั้นฉัน จะ แจ้งตำรวจ” “หึ ตำรวจคนไหนล่ะ ไอ้ผู้กองปริญนั่นเหรอ เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะกลัวมันหรือไง!!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดตวาดกลับมาจนกนกรดาถึงกลับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ “คุณต้องการอะไร!” “ไอ้ต่อศักดิ์พี่เธอ มันมุดหัวอยู่ที่ไหน” “คุณมาถามหาพี่ฉันทำไม พี่ชายฉันทำอะไรให้คนอย่างคุณโกรธนักหนา คุณถึงต้องบุกเข้ามาในบ้านของฉันในเวลากลางค่ำกลางคืนแบบนี้คะ” “เธอคิดว่าตัวต้นเหตุอย่างมัน ที่ทำให้น้องสาวเพียงคนเดียวของฉันต้องมาตายอย่างอนาถ แล้วคนอย่างพวกเธอสองพี่น้องจะได้อยู่กันอย่างเป็นสุขงั้นเหรอห้ะ!! ในขณะที่ครอบครัวของฉันต้องมานั่งเป็นทุกข์ แต่พวกเธอกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทั้ง ๆ ที่สาเหตุมันเกิดจากไอ้พี่ชายระยำของเธอ ถ้าคนอย่างฉันไม่ได้ฆ่ามัน หรือลากคอมันมาขอขมาต่อหน้าอัฐิยัยกวาง อย่ามาเรียกฉันว่าอาชา!!” น้ำเสียงเข้มดุดันสบถขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าและแววตาของเขาตอนนี้มันช่างน่ากลัวจนเธอเริ่มรู้สึก ร้อน ๆ หนาวๆ ขึ้นมา เธอเองกลับพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว เพราะมันจริงอย่างที่เขาว่า ถ้ากันตาไม่ขับรถออกมาหาพี่ชายของเธอในคืนนั้น กันตาเองคงไม่ต้องมาตายอย่างน่าอานาถเช่นนี้ “ฉันเองก็เสียใจ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ไม่มีใครอยากจะให้มันเกิดเลยนะคะ ถ้าพี่ชายฉันเป็นต้นเหตุ ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันขอโทษแทนพี่ต่อ ฉันเองก็เสียใจมากเหมือนกัน ที่ต้องสูญเสียเพื่อนดี ๆ อย่างกวางไป” อาชาไนยแค่นยิ้มดุดันให้กับคำพูดที่แสนจะใสซื่อ เพื่อให้คำพูดของตัวเองดูดีซะเหลือเกินของเด็กสาวตรงหน้า “ขอโทษแล้วน้องสาวของฉันฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ไหมล่ะ!!” “ถะ ถ้าพวกเราผิดนักหนา ละ แล้วคุณจะให้พวกเราชดใช้ให้ยังไง คุณถึงจะยกโทษให้” อาชาแสยะยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เขากวาดสายตาคมกริบไปทั่วร่างบอบบางของวัยสาวอย่างแม่กระต่ายน้อยคนนี้ และพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อนักศึกษาสีขาวสะอาดตาที่เปียกปอนซึ่งตอนนี้แนบไปกับทรวงอก ภายใต้ซับในสีดำที่เปียกน้ำ จนแทบจะไม่ปกปิดความงามของหน้าอกอวบใหญ่ที่บดเบียดชิดกันอยู่ในบราเซียตัวจิ๋วได้ ก่อนเขาจะลากสายตาคมกริบมองลงมาถึงกระโปรงทรงเอรัดรูปสีดำ ที่เผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้เป็นอย่างดี กนกรดาดึงขาขาว ๆ หลบจากสายตาของเขาที่จ้องมองอยู่ พร้อมกับยกมือเรียวที่ถูกพันธนาการไว้ขึ้นปิดอกด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวลามไปถึงใบหู เมื่อถูกอีกฝ่ายจ้องมองด้วยสายตาแทะโลมแบบนี้ “ชดใช้ยังไงดีล่ะ ด้วยตัวของเธอดีไหม!!” “คุณพูดอะไรของคุณ” น้ำเสียงสั่นคลอนถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มได้อย่างยากลำบากยิ่งนัก เธอกำลังกลัว และลนลานจนอาชาสัมผัสได้ “หึ” อาชาแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ ในลำคอ เธอคงจะคิดว่าคนอย่างเขาจะเชื่อผู้หญิงอย่างเธอสินะ ว่าเธอบริสุทธิ์อย่างที่เธอพยายามแสดงออกมา ในเมื่อพี่ชายของเธอมันชั่วช้า ไม่มีทางที่คนอย่างเธอมันจะใสสะอาดเหมือนเพชรที่เจียระไนได้หรอก เมื่อคิดได้เช่นนั้น มือหนาของชายหนุ่มก็กระชากร่างบอบบางเข้าหาตัวจนปะทะกับอกแกร่งของเขา คนที่ร่างเล็กกว่าต่างตกใจและสะดุ้งตกใจกลัว น้ำใส ๆ ที่กลอกกลิ้งไปมาต่างรินไหลลงมาอาบแก้ม “ปะ ปล่อยนะ!” น้ำเสียงแหบพร่านั้นหายเข้าไปในลำคอปนกับเสียงสะอื้นไห้ “อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ปล่อยฉันไปเถอะ” “ปล่อย..? ปล่อยให้โง่สิ!!” อาชาสบถออกมาเบา ๆ ทำให้เธอถึงกับขวัญกระเจิง มือน้อย ๆ ผลักอกแกร่งของชายหนุ่มเต็มแรง จนทำให้ร่างหนาของคนตัวโตเซถลาไปนิด ร่างบอบบางพยายามถัดกายไปประชิดกำแพงด้วยความหวาดกลัว ก่อนร่างสูงโปร่งกำยำจะก้าวยาว ๆ พรวดเดียวก็ถึงตัวเธอ มือหนากระชากร่างของเธอเข้าหาตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มอุ้มร่างที่เบาเหมือนปุยนุ่นขึ้นพาดบ่า ก่อนจะโยนร่างของกนกรดาลงไปกระแทกกับเตียงนอน ตุ๊บ!!! “โอ้ย!!” กนกรดากรีดร้องออกมาด้วยความจุก เนื่องจากแรงเหวี่ยงของเขาเมื่อสักครู่ ก่อนจะยกมือขึ้นผลักเขาให้ออกห่างด้วยตัวสั่นงันงก เมื่อร่างหนากำยำขึ้นมาคร่อมร่างของเธอ ร่างบางผลักไสเขาออกเป็นพัลวัน ก่อนจะได้จังหวะยกขาขึ้นถีบร่างหนาของอาชาเต็มแรงจนเขาหงายหลัง กนกรดาตะเกียกตะกายเพื่อจะหลบหนีแต่ก็ยังช้ากว่าอีกคน มือหนาจับข้อเท้านวลขาวกระชากลงมาทีเดียวเข้าหาตัว จนเธอเสียหลักไถลกายลงมาตามแรงฉุด เพียงไม่นานร่างเล็กบอบบางก็ถูกตรึงกายไว้บนที่นอนอย่างแน่นหนา อาชาไนยไม่แม้แต่จะสนใจเสียงร้องห้ามปรามที่ปนกับเสียงสะอื้นไห้ของคนใต้ร่าง มือหนาจับข้อมือเล็ก ๆ ของเธอทั้งสองข้างตรึงไว้เหนือศรีษะ ก่อนจะเลื่อนลูบสะเปะสะปะไปตามเนื้อตัวเนียนนุ่ม ราวกับจงใจจะให้เธอนั้นหวาดกลัว “เธอจะชดใช้ยังไง หืม” น้ำเสียงทุ้มต่ำพ่นออกมาจากริมฝีปากหนา ในขณะที่ผิวกายอ่อนนุ่มหอมกรุ่นนั้นจะติดตรึงอยู่บนฝ่ามือ และปลายจมูกขณะโน้มใบหน้าคมคายเข้าใกล้นวลเนื้อสาว จนกระทั่งไอร้อนหลั่งไหลไปกระจุกตัวอยู่กลางกายตามสัญชาตญาณ แต่อาชาไนยกลับต้องรีบสลัดมันออก ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะมานึกพิศวาสหลงใหลในตัวของเธอ มันก็เป็นเพียงแค่อาการทางร่างกายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติก็แค่นั้น “ปล่อยนะคะ ฉัน ไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมคุณต้องมาทำร้ายฉันด้วย!” “เธอผิด!! ผิดที่เธอเป็นน้องของไอ้ต่อไง ในเมื่อมันหนีหน้า และไม่กลับมายอมรับในความผิดของตัวเอง แม้กระทั่งงานศพยัยกวางมันก็ไม่เสนอหน้ามาให้เห็น เพราะฉะนั้น..คนที่จะชดใช้ความผิดนี้ก็คือเธอ!!” ร่างบอบบางที่อยู่ใต้ร่างของคนที่ตัวโตกว่าและสูงกว่า กนกรดาเองเธอแทบจะขยับตัวไม่ได้ สายตาคมกริบที่มีแต่ความโกรธได้แสดงออกมาผ่านแววตา เขาจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตที่มีแต่แววหวาดกลัวจนแทบจะสิ้นสติ ก่อนเขาจะเลื่อนระดับสายตาลงไปถึงเนินเนื้ออวบอิ่มนุ่มนิ่ม ที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ และบดเบียดอยู่ภายใต้บราเซียตัวจิ๋วสีดำที่ตัดกับสีผิวขาวเนียนของเธอ “ถ้าเธอบอกว่าไอ้ต่อศักดิ์มันมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่แน่..ฉันอาจจะใจดีปล่อยเธอไปก็ได้!” “ฉันไม่รู้จริง ๆ ค่ะ ว่าพี่ต่ออยู่ที่ไหน…แต่ถึงฉันรู้ฉันก็ไม่บอกเพื่อให้คุณไปฆ่าพี่ชายฉันหรอก!” น้ำเสียงสั่นคลอนพูดขึ้นมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “หึ ดี! ฉันก็ชอบที่จะได้ฟังประโยคระคายหูแบบนี้แหละ ในเมื่อเธอไม่อยากให้ไอ้พี่ชายชั่วของเธอรับกรรม เพราะฉะนั้นคนที่จะต้องรับกรรมแทนพี่ชายก็คือเธอ หวังว่าเธอพอจะเดาออก ว่าตัวเธอเองจะต้องชดใช้และต้องเจอกับอะไรบ้าง!!”ตอนพิเศษ2 ครอบครัวอบอุ่น(จบบริบูรณ์) ~เช้าวันต่อมา~ “แง้ แง้ แง้!!” “โอ๋ ๆ อย่าร้องนะครับลูก เดี๋ยวแม่ก็มาแล้วครับ คุณแม่อาบน้ำแป๊บเดียวนะครับ” คุณพ่อมือใหม่อุ้มลูกชายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด ด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ เขาโอ๋และทำทุกอย่างแล้วจริง ๆ แต่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็ยังตั้งหน้าตั้งตาแหกปากร้องลั่นไปทั่วทั้งบ้าน อีกทั้งยังไม่ยอมเอาใครอีก แม้แต่คนใช้ภายในบ้านมาช่วยโอ๋หยอกล้อแล้วแต่ก็ยังร้องไม่หยุด วันนี้คุณย่าก็ไม่อยู่ด้วยเพราะไปเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่ต่างจังหวัด เขาเลยต้องทำหน้าที่พ่อลูกอ่อนอย่างเต็มที่เพื่อช่วยภรรยาเลี้ยงลูก อีกทั้งยังหอบงานมาทำที่บ้านอีกตั้งแต่ภรรยาคลอด “แง้ แง้ แง้!!” “พ่อขอเถอะครับอคินหยุดร้องได้แล้วครับ โอ๋ โอ๋” “แหม๋….ไอ้คุณพ่อมือไหม่ ไปทำอีท่าไหนให้ลูกร้องไห้เสียงดังคับบ้านได้ขนาดนี้วะ” คีตภัทรพูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในเขตบริเวณบ้านวัชรโชติก็ได้ยินเสียงเด็กร้องดังคับบ้าน วันนี้ครอบครัวคีตภัทรและเจไดนัดกันมาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ อีกทั้งลูก ๆ ของพวกเขายังอยากจะมาเล่นกับอคินน้องคนเล็กสุดอีกด้วย แต่ก็ต้องเจอเข้ากับคุณคุณพ่อมือใหม่ป้ายแดงที่กำลังโอ๋ลูกช
ตอนพิเศษ 1 อยากเอาเมีย เก้าเดือนผ่านไป… สายตาคมกริบจ้องมองไปยังร่างบางของผู้เป็นภรรยาที่ทำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกใบโตหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ มือหนาตบก้นลูกชายตัวน้อยเบา ๆ ก่อนรอยยิ้มบาง ๆ จะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าคมคาย ในขณะที่ไม่ยอมละสายตาจากภรรยาสาวสวยที่ไม่เหมือนคนที่เพิ่งผ่านการคลอดลูกมาเลยสักนิด แต่เธอกลับดูมีน้ำมีนวลมากกว่าแต่ก่อน และเขากลับชอบเธอในตอนนี้มาก ๆ “ตกลงพี่อาชาจะมองต่ายหรือว่าจะกล่อมลูกคะ” ร่างบางเดินทอดกายเข้ามาหาเขาที่นอนกล่อมลูกอยู่บนเตียง เพราะเธอเห็นสายตาคมของผู้เป็นสามีผ่านหน้ากระจกที่เอาแต่จ้องมองเธออย่างไม่วางตามาสักพักแล้ว “ก็เมียพี่สวย พี่จะมองเมียไม่ได้เลยเหรอครับ หื้ม?” “ปากหวานจังเลยนะคะ” เธอตอบพรางยิ้มอ่อนส่งให้เขา ก่อนจะก้าวขาขึ้นมาบนเตียงที่มีเขากับลูกชายตัวน้อยนอนอยู่ ในขณะที่มือหนาของผู้เป็นสามียังคงตบก้นกล่อมลูกชายตัวเล็กไปพลาง ๆ มือตบก้นลูกแต่สายตาคมยังจดจ้องใบหน้าหวานของเมียสาวไม่วางตา “นอกจากปากหวานแล้ว อย่างอื่นก็หวานนะครับ” สายตาเจ้าเล่ห์แพรวพราวมองไปที่ภรรยาพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ตลอดเวลาหลายเดือนที่เขาต้องอดกลั้นที่จะไม่แตะต
ตอนที่ 63 ฮันนีมูน2 NC+ “ว่ายังไงครับ จะแก้แค้นพี่ทั้งที เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาพี่เองทำไม หื้ม?” น้ำเสียงเรียบเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนเขาจะเลื่อนมือหนามาที่ยอดอกอีกข้างไล้วนเป็นวงกลม ก่อนจะโน้มใบหน้าคมคายลงไปจูบปลายยอดปทุมถันแผ่วเบา เขาจงใจยั่วให้เธอคลั่ง เหมือนที่เธอเพิ่งจะยั่วจนเขาแทบคลั่งตาย “ก็ถ้าพี่อาชาเป็นเด็กดี ก็จะไม่โดนลงโทษไงคะ” “จริง ๆ แล้วนี่คือบทลงโทษผัว...” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะเว้นวรรคไปช่วงหนึ่ง เขาก้มลงจูบซับความหวานที่ริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง ขณะเคลื่อนฝ่ามือลงไปสู่ความอ่อนนุ่มชุ่มชื่นเบื้องล่างที่ตอนนี้ฉ่ำแฉะจนเปียกชุ่ม “หรือรางวัลใหญ่จากเมียกันแน่ หื้ม..?” มือหนาซุกซนสอดแทรกไปตามรอยแยกกลีบกุหลาบขึ้นลงไปมา พร้อมกับบดบี้ปุ่มกระสันจนขนอ่อนของเธอลุกพองไปหมดทั้งตัว “ถ้าพี่เป็นเด็กดี แล้วพี่จะได้อะไรตอบแทนบ้างล่ะ?” หากแต่เพียงริมฝีปากแตะถูกความหอมหวานอ่อนไหว เขาก็อดไม่ได้ที่จะและเล็มไล้เลียแล้วดูดกลืนเธอเอาไว้ในปาก เขาต้องหักห้ามใจอย่างหนักในการถอนริมฝีปากออก โดยเฉพาะเมื่อเธอทอดกายยินยอมไม่ขัดขืนหรือสะบัดหนีเลยสักนิดแบบนี้ กนกรดารั้งศีรษะเขาลงมาจูบคลึงอย่า
ตอนที่ 62 ฮันนีมูน1 NC+ อาชาไนยลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่แช่มชื่นกับยามเช้าที่แสนจะสดใส หลังจากเมื่อวานนี้เขาพาภรรยามาฮันนีมูนอย่างจริงจังเสียทีที่เกาะส่วนตัวของครอบครัวเขาเอง เกาะแห่งนี้มีพื้นที่เพียงราวๆ ห้าไร่ และปรับพื้นที่มากกว่าครึ่งให้เป็นบ้านพักตากอากาศสไตล์นอร์ดิก อาณาบริเวณโดยรอบถูกจัดและตกแต่งอย่างสวยงาม เขาสั่งให้คนดูแลนำกุหลาบมาปลูกหลากหลายสายพันธุ์บานสะพรั่งไปทั้งสวน กลิ่นกุหลาบหอมโชยเบา ๆ เข้ามาถึงในห้อง ชายหนุ่มกวาดมือหนาไปยังเตียงนอนที่เย็นเฉียบเพื่อควานหาคนที่นอนอยู่ข้างกาย หมายจะดึงเจ้าของร่างนุ่มนิ่มนั้นเข้ามากอดแนบอก แต่แล้วก็พบเพียงความว่างเปล่า อาชาไนยรีบลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีและรีบลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนรอยยิ้มจะปรากฏบนใบหน้าคมสัน เมื่อมองเห็นกุหลาบดอกหนึ่งวางอยู่บนหมอนของภรรยาสาว อีกทั้งยังมีการ์ดผูกไว้และเขียนใจความว่า “อรุณสวัสดิ์ค่ะที่รัก ขอให้เช้าวันนี้...เป็นวันที่พี่อาชามีความสุขที่สุดนะคะ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม ก่อนจะยิ้มบาง ๆ ออกมาอย่างไม่เข้าใจข้อความในกระดาษนั้นสักเท่าไหร่ จริง ๆ แล้วเขาก็มีความสุขทุกวันมาตลอดตั้งแต่แต่งงานกับเ
ตอนที่ 61 คนขี้หวง @บ้านวัชรโชติ “ต่ายล่ะครับคุณแม่” อาชาไนยถามขึ้นเมื่อกลับเข้ามาภายในบ้านแต่มองหาคนตัวเล็กไม่เจอ วันนี้เขากลับบ้านเร็วเป็นพิเศษเพราะกะว่าจะพาภรรยาออกไปทานข้าวเย็นนอกบ้าน “อ่อ หนูต่ายออกไปทานข้าวกับหนูริสาน่ะลูก แต่ออกไปตั้งแต่เที่ยงแล้วนะ ป่านนี้ทำไมยังไม่กลับมาอีกก็ไม่รู้” “ต่ายไปกับใครครับคุณแม่” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นประกอบกับสีหน้าที่เริ่มมีแต่ความกังวล ที่แสดงออกมาผ่านทางใบหน้าหล่อเหลานั้น “เอ่อ…หนูต่ายขับรถไปเองน่ะลูก แม่เป็นคนอนุญาตให้น้องไปเอง อาชาอย่าดุน้องนะลูก” พูดเพียงแค่นั้นมือหนาก็รีบล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงทันที ก่อนจะกดโทรออกไปยังคนปลายสายด้วยความเป็นห่วง อาชา : (ฮัลโหล ต่ายอยู่ไหน ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้านอีก) กระต่าย : (พอดีรถต่ายเสียค่ะพี่อาชา คุณหมอนัตถ์เลยมาส่งค่ะ ตอนนี้ใกล้จะถึงบ้านแล้วค่ะ) อาชา : (อะไรนะครับ รถเสีย? แล้วทำไมไอ้หมอนัตถ์ถึงมาส่งได้) น้ำเสียงทุ้มปนหงุดหงิดถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากหนา น้ำเสียงนั้นต่างแฝงไปด้วยความไม่พอใจ เพราะอาการขี้หึงขี้หวง กระต่าย : (เอ่อ พอดีหมอนัตถ์ขับรถผ่านมาเจอค่ะ เลยอ
ตอนที่ 60 เขาเกิดมาเพราะความรัก หลังจากงานฌาปนกิจศพของต่อศักดิ์เสร็จสิ้น เจ้าของร่างบางก็กลับมาพักผ่อนที่บ้านจากที่กินไม่ได้นอนไม่หลับมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว เมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้วเธอก็นั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียวในห้องนอนส่วนตัว ก่อนผู้เป็นสามีจะเดินเข้ามาโอบกอดและหอมแก้มนุ่มนิ่มนั้น ฟอด ฟอด!! “พี่อาชา ต่ายตกใจหมดเลยค่ะ” น้ำเสียงหวานใสพูดขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อจู่ ๆ ผู้เป็นสามีก็เข้ามาหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ “คิดอะไรอยู่ครับ หื้ม?” “เปล่าหรอกค่ะ กว่างานพี่ต่อจะเสร็จพี่อาชาเหนื่อยไหมคะ?” “เหนื่อยสิครับ พี่ถึงต้องหาอะไรให้ชื่นใจ อย่างเช่นหอมแก้มหอม ๆ ของต่ายไง” “ขอบคุณนะคะ ที่เป็นธุระจัดการเรื่องงานศพของพี่ต่อทุกอย่าง ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ” น้ำเสียงหวานใสเอ่ยขึ้นมาด้วยความจริงใจ ก่อนเขาจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าคมคายลงไปแนบกับเรียวปากอวบอิ่มของเธอเบา ๆ อีกครั้ง เธอไม่มีท่าทียั่วยวนเขาเลยสักนิด แต่เขาแค่ต้องการอยากจะจูบปลุกปลอบให้เธอได้หายเศร้าบ้าง แต่ร่างกายเจ้ากรรมมันกลับไม่ฟังคำสั่งเขา เพียงแค่ร่างนุ่มอวบเฉพาะส่วนตกอยู่ในอ้อมแขน แค่ได้ลิ้มรสริมฝีปากหอมหวานเพียงแผ่วเบา เขาก็หอบหายใจกระ