공유

Chapter2. หลุมพราง

last update 최신 업데이트: 2024-10-01 16:37:22

อาชาสีน้ำตาลเข้มพุ่งทะยานไปดุจลูกธนูที่พุ่งออกจากเกาทัณฑ์ รวดเร็วพอที่จะเข้าขวางไม่ให้คนที่อยู่บนอาชาอีกตัวฟาดดาบลงทำร้ายคนอีกผู้หนึ่งได้สำเร็จ ดวงตาคมกริบตวัดมองอย่างยากจะคาดเดาอารมณ์ บังคับบังเหียนม้าด้วยมือเพียงข้างเดียวขณะที่ยกกระบี่จ่อที่ลำคอของอีกฝ่ายที่ล่วงรู้ความพ่ายแพ้ของตนแล้ว

“จะฆ่าก็ฆ่าเลย ข้าไม่ต้องการความปราณีของพวกเจ้า!”  

            คิ้วงามขมวดอย่างครุ่นคิดแต่สีหน้ายังเรียบนิ่ง หางตารับรู้การเคลื่อนไหวของคนบนหลังอาชาสีขาวงามสง่า มือใหญ่ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนล่วงรู้ว่าหัวหน้าโจรป่าพ่ายแพ้ในการสู้รบครั้งนี้แล้ว

“เจ้าตายก็มิได้อะไรขึ้นมา สู้รักษาชีวิตอยู่กับลูกเมียไม่ดีกว่าหรือ?” เป็นน้ำเสียงของ จ้าวจิ่นสือ บุรุษหนุ่มผู้นำทหารมาปราบเหล่าโจรป่าที่ดักซุ่มปล้นเสบียงของทางราชสำนักหลายครั้ง

            “พวกเจ้าหมายความเช่นใดกัน”

“ความตายไม่ช่วยอะไร แต่กลับตัวกลับใจเป็นฝ่ายเดียวกับทางการ ชีวิตเจ้ายังจะมีประโยชน์เสียกว่า” คราวนี้เป็นน้ำเสียงของหญิงสาว ทำให้คนฟังตะลึงไป เพราะเจ้าของเสียงถือกระบี่จ่อที่คอของโจรป่า

            “เหอะ! ทางการนะเรอะ! ข้าไม่หลงเชื่อพวกเจ้าหรอก! เอาแต่ขูดรีดประชาชน” หัวหน้าโจรตะโกนใส่อย่างไม่กลัวตาย

            ปลายกระบี่ลดลงพร้อมเสียงทอดถอนหายใจ เจ้าของกระบี่มองดูคราบเลือดที่ยังเปรอะเปื้อนอยู่จนหยดลงบนพื้น หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องการให้กระบี่ต้องดื่มโลหิตผู้ใด  หัวหน้าโจรมีสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายลดกระบี่ที่จ่อคออยู่ลง

            “ข้าเข้าใจ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างจริงใจมืออีกข้างปล่อยบังเหียนแล้วปลดผ้าที่ปิดครึ่งหน้าอยู่ลง “พ่อของข้าก็เคยเป็นเช่นท่าน แต่นับว่าโชคดีที่พ่อของข้าได้พบกับ แม่ทัพจ้าวซื่อก่วง ทำให้รู้ว่าคนในราชสำนักยังมีคนดีให้นับถืออยู่”

            “พ่อของเจ้าคือ...”

            “ข้าคือเคอหลิ่งหลินบุตรสาวเพียงคนเดียวของขุนโจรแห่งเขาชิงซาน”

 นางแนะนำตัวอย่างสุภาพ ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อบิดาผู้ล่วงลับของนางออกไปก็ทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าอ้าปากค้างก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ บิดาของนางคือเคอตงตงเป็นเจ้าของฉายาขุนโจรแห่งหุบเขาชิงซาน  แม้บิดาของนางจากไปหลายปีแล้ว แต่กระนั้นชื่อเสียงของบิดายังคงคุ้มครองนางอยู่เสมอจนถึงวันที่นางอายุยี่สิบปีแล้วก็ตาม

“ถ้าเป็นเช่นนั้น”

“หากพวกเจ้าทั้งหลายกลับตัวกลับใจไม่กระทำการเยี่ยงโจรอีก ข้าเคอหลิ่งหลินขอเอาชีวิตเป็นประกันว่าจะไม่มีผู้ใดทำร้ายพวกเจ้า”

“ได้! ข้าจะลองเชื่อใจพวกเจ้าดู”

“ถ้าเช่นนั้นขอเชิญท่านตามพวกเรากลับไปที่จวนเถิด  เพื่อจะได้เจรจาตกลงให้เข้าใจกัน”

หญิงสาวในชุดทหารสีน้ำเงินเข้มเก็บกระบี่เข้าที่แล้วผายมือเชิญ  จอมโจรยอมทำตามอย่างว่าง่าย  ชายหนุ่มผู้อยู่หลังอาชา

สีขาวกระตุกม้าให้เดินเข้ามาใกล้ยื่นมือไปตบไหล่หญิงสาว

“ทำดีมาก”

“อึก!”หญิงสาวกัดฟันข่มความเจ็บที่แล่นขึ้นมา ชายหนุ่มเห็นสีหน้ากลั้นความเจ็บปวดของอีกฝ่าย

“หลิ่งหลิน? เจ้าเป็นอะไร”  

หญิงสาวฝืนทนแล้วส่ายหน้าไปมา “กลับจวนเถิด ข้าหิวจนจะกินห่านได้ทั้งตัว”

“ดี...ครึ่งเดือนมานี่ลำบากเจ้ามากจริงๆ”   

‘จ้าวจิ่นสือ’ ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาได้รับคำสั่งจากบิดาให้ออกมาปราบกองโจรที่ออกปล้นทรัพย์สินโดยเฉพาะคนจากราชสำนัก ผู้ที่รู้เส้นทางในป่าเขาแทบทุกซอกก้อนหินก็คือหญิงสาวที่นั่งบนหลังม้าชื่อเดิมของนางคือ ‘เคอหลิ่งหลิน’ แต่ตอนนี้นางคือ ‘จ้าวหลิ่งหลิน’ บิดาของเขารับนางเป็นบุตรบุญธรรมหลังจากที่เคอตงตง-พ่อบังเกิดเกล้าของนางตายจากไปเมื่อหกปีก่อน

“เจ้านำหน้ากลับจวนไปก่อนเถอะ ข้าจะคุ้มกันด้านหลังให้เอง” เคอหลิ่งหลินเผลอสั่งบุรุษบนหลังม้า ตามด้วยเสียงถอนหายใจโล่งอกหลังจากทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว

“ได้” จ้าวจิ่นสือพยักหน้ารับ  กลั้นยิ้มทำหน้าเคร่งขรึม  อ้อ! นี่เขากลายเป็นน้องชายตัวน้อยในสายตานางไปอีกแล้วละซิถึงได้ออกปากสั่งเขาให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้

“ข้าจะให้คนที่จวนเร่งทำอาหารไว้รอเจ้า”

 “ฝากดูแลหัวหน้าโจรด้วย  ข้าเชื่อว่าเขาไม่มีเจตนา

ทำร้ายผู้อื่น”

“ข้ารู้แล้ว” จ้าวจิ่นสือเห็นเคอหลิ่งหลินมีท่าทางเหน็ดเหนื่อยจึงกระตุ้นม้าให้เดินนำหน้าไปก่อนเพื่อคุมผู้คน

เคอหลิ่งหลินรั้งม้าให้เดินช้าลงสายตาของนางมองบรรดาโจรกลับใจราวๆ สามสิบคนที่เดินเท้ามุ่งหน้ากลับจวนของ ‘แม่ทัพจ้าวซื่อก่วง’ ที่มอบหมายหน้าที่นี่ให้บุตรชาย แน่ล่ะ นางไม่ได้ถูกส่งให้มาปราบโจรด้วย แต่นางเองที่เสนอตัวมาช่วยจ้าวจิ่นสือเอง  และมันก็เป็นอย่างนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

หญิงสาวในชุดทหารองอาจสีน้ำเงินเข้มที่ตัดเย็บเพื่อให้นางได้ออกสนามรบเคียงบ่าเคียงไหล่จ้าวจิ่นสือ  สำหรับนางแล้วแม้ตัวเองจะอยู่ในฐานะบุตรบุญธรรมของ ‘แม่ทัพจ้าวซื่อก่วง’และ ‘ฮูหยินอี้ซิ่ว’ และนางข่มเหงจ้าวจิ่นสือทำให้ผู้ชายตัวโตอย่างเขาต้องยอมเรียกนางว่า ‘พี่สาว’

            ใบหน้าสวยได้รูป แม้จะไม่สวยเลิศเท่าหญิงสาวในเมืองหลวง แต่นางก็มีเครื่องหน้าที่ชวนมอง ไม่ว่าจะเป็นคิ้วโกงหรือดวงตาพราวระยับและริมฝีปากน่าหลงใหล หากไม่เพราะนางชอบทำหน้าเรียบนิ่งดุจแผ่นน้ำแข็ง และมือไม่ได้จับกระบี่อยู่เป็นนิจ  นางเป็นสาวงามคนหนึ่งเลยทีเดียว ขณะอยู่บนหลังม้าเคอหลิ่งหลินนึกถึงเรื่องราวเมื่อเกือบสิบปีที่ผ่านมา  บิดาของนางเป็นจอมโจรที่ถูกทางการหมายหัว แต่อาจเพราะนางเป็นเด็กจึงไม่ได้เข้าใจความหมายนั้น จนเมื่อบิดาของนางได้พบกับแม่ทัพจ้าวซึ่งถูกส่งออกมาปราบโจรป่าก่อนจะออกไปประจำที่หัวเมืองชายแดน  ช่วงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงในราชสำนักการขึ้นครองราชของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ บิดาของนางได้พบกับแม่ทัพจ้าวที่ช่วยเหลือชาวบ้านด้วยใจจริงจึงยอมติดตามออกร่วมรบ แน่นอนว่ามีนางติดสอยห้อยตามไปด้วย   

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 90 จบ.

    นางจึงให้กินยาบำรุงไป ส่วนคนอื่นก็เจ็บป่วยตามประสาโรคของผู้หญิงจึงมิกล้าเอ่ยปากพูดไป พอเห็นนางเป็นหญิงจึงแทบจะเรียกว่ารุมล้อม จากที่คิดจะเสร็จเร็วจึงใช้เวลาไปมากกว่าที่คิด “อ้อ! ข้าจะให้เสี่ยวเอ้อไปส่งเจ้านะ” คณิกานางหนึ่งเอ่ยอย่างเพิ่งนึกได้ เชิญตัวนางมารักษา ต้องมีคนไปส่งนางกลับ เหตุเพราะท่านหมอหญิงผู้นี้ ฝีมือเก่งกาจนัก ทว่ากลับมักจะหลงทิศหลงทางบ่อยๆ “อืม” นางได้แต่พยักหน้ารับ กำลังง่วนกับการเก็บสัมภาระ มือบางก็ถูกยื้อไว้แล้วกำไลหยกวงหนึ่งก็ถูกวางใส่ฝ่ามือของนาง “เห็นว่าเจ้าไม่รับเงิน เจ้าก็เอาสิ่งนี้ไปแทนเถิด หากจำเป็นเจ้าจะขายหรือทำอย่างไรก็ย่อมได้” “ไม่เป็นไรเจ้าคะ เรื่องเล็กน้อยจริงๆ” มู่ฟางเหนียงปฏิเสธแต่อีกฝ่ายยืนกรานนางจึงรับไว้ เสี่ยวเอ้อเดินมารับมู่ฟางเหนียง หญิงสาวกล่าวลาแล้วเดินออกมา ทว่าเมื่อเดินผ่านห้องๆ หนึ่ง นางกลับเห็นเงาร่างที่คุ้นตา ยิ่งเมื่อเพ่งตามองผ่านช่องประตูกลับเห็นชายผู้นั้นชัดเจน เขานั่งดื่มสุราอย่างเมามาย “ท่านรองแม่ทัพ” มู่ฟางเหนียงร้องอย่างตกใจ นางรีบผลักบานประตูเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจว่าใครจะร้องห้าม “นี่ๆ ใครให้เจ้าเข้ามา” คณิกานางหนึ่งโวยว

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 89.  โรงเตี๊ยมหมื่นบุปผา 3

    “มิคิดว่าโรงเตี๊ยมเล็กๆ จะมีสุราเลิศรสอย่างนี้” พูดพลางชิมอาหาร “อาหารรสชาติก็ใช้ได้ อีกหน่อยคงโด่งดังมิแพ้โรงเตี๊ยมอื่น” “เป็นอย่างไรล่ะ ผลงานของข้า” นางอวดขึ้นมาทันที “ว่าแต่ท่านรู้ได้อย่างไร ข้าอุตส่าห์แอบเก็บเป็นความลับ ตั้งใจว่าให้โรงเตี๊ยมเข้าที่เข้าทางกว่านี้อีกหน่อยค่อยบอกท่าน” “เจ้าออกจากวังอย่าคิดว่าข้าจะไม่รู้” องค์ชายไท่หยางส่ายหน้าไปมา ยังดีที่นางบอกใครต่อใครว่าแต่งงานแล้ว มิใช่ทำตัวเป็นสาวน้อย นางคงไม่รู้ตัวว่านับวันนางยิ่งดูเปล่งปลั่งงดงามขึ้นมากกว่าเดิมนัก “ท่านหมอมู่มา เจ้าได้ให้ท่านหมอตรวจร่างกายบ้างหรือไม่” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง เขารู้เรื่องที่ท่านหมอมู่กับบุตรสาวมาเมืองหลวงในช่วงที่เขาไปราชการต่างเมืองพอดี“ข้าให้น้องฟางเหนียงตรวจแล้ว” นางแย้มยิ้ม “นางเขียนใบสั่งยา เป็นยาบำรุงร่างกาย ร่างกายข้าขับพิษออกไปเกือบหมดแล้ว บำรุงตัวเองอีกนิดก็พร้อมมีทายาทให้ท่านได้”เพราะนางบาดเจ็บในครั้งนั้น แม้กำลังภายในจะกลับคืนแต่ร่างกายก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มทีนัก“ข้าห่วงเจ้ามากกว่า เรื่องนั้น ข้ารอได้” เขาแตะหลังมือนาง “สามีไม่โกรธภรรยานะ ข้าแค่อยากช่วยเหลือคนเหล่านี้” นางเคย

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 88.  โรงเตี๊ยมหมื่นบุปผา 2

    เสี่ยวหลิวกับอาปู้-ลูกชายวัยสิบขวบและอาเหลียง-ลูกสาววัยเจ็ดขวบ รวมถึงคนเฒ่าคนแก่หลายคนที่นางเคยเจอที่ศาลเจ้าร้างเมื่อครั้งที่แอบย่องหนีออกจากวังมาตามหาหัตถ์เทวะ คราแรกนางคิดแค่ว่าอยากมาดูว่าพวกเขายังอยู่ที่นี่หรืออพยพไปแล้ว แต่เมื่อกลับมาก็พบว่าทุกคนยังอยู่ คนไหนที่พอแข็งแรงหน่อยก็ออกไปหาทำงานรับจ้างทั่วๆ ไป พอได้มีข้าวสารมาจุนเจือคนอื่น จากที่คิดว่าจะหาบ้านให้อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งพอคุยกันไปกันมาก็กลายเป็นโรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งนี้ “คนพอใช้งานหรือเปล่า เมื่อครู่ข้าเห็นอาปู้ยกอาหารส่งลูกค้า” เคอหลิ่งหลินถามอย่างเป็นห่วง เขาเป็นแค่เด็กผู้ชายวัยสิบขวบ เพื่อนวัยเดียวกันวิ่งเล่นสนุกสนาน แต่เขากลับต้องทำงานหนัก ครั้งแรกที่เจอกันเขาผายผอมมากแต่ตอนนี้เริ่มมีเนื้อมีหนัง ยามว่างนางก็ให้เขาฝึกหัดเพลงมวยขั้นพื้นฐาน คิดอยู่ว่าจะหาทางให้อาปู้ได้ร่ำเรียนหนังสือหนังหาจะได้มีความรู้และมาช่วยดูแลคนอื่นๆ ได้ “ร้านเพิ่งเปิดค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า อย่าเพิ่งรีบร้อนเลยเจ้าคะ” เสี่ยวหลิวพูดขึ้น “อีกหน่อยอาปู้ต้องไปเรียนหนังสือจะไม่มีคนช่วยงานนะซิ” เคอหลิ่งหลินถอน

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 87.  โรงเตี๊ยมหมื่นบุปผา 1   

    “ก็ได้ ข้าถามใหม่ก็ได้ ท่านจะกลับเมืองหลวงเมื่อไหร่” นางถามทั้งที่ยังเคี้ยวขนมอยู่ “ข้ามาหลายวันแล้ว พรุ่งนี้ได้กำหนดกลับ ยังคิดอยู่ว่าจะได้เจอเจ้าหรือไม่” “โชคดีที่ได้พบกันก่อนท่านจะไป” นางพึมพำ “ระหว่างที่ท่านไม่อยู่ ข้าจะแวะเวียนไปดูแลแม่นมเหมยให้ท่านก็แล้วกัน” ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่ยังเอร็ดอร่อยกับขนมในตะกร้า แม่นมเหมยดูแลเขาอยู่หลายปีตั้งแต่อยู่เมืองหลวง เมื่ออายุมากขึ้นจึงขอกลับมาอยู่บ้านเดิม เมื่อเขาเดินทางมาพักฟื้นรักษาร่างกายจึงได้พบกับแม่นมเหมยอีกครั้ง แม้เขาจะไม่ใช่เด็กน้อยแล้วแต่แม่นมเหมยก็ยังคอยทำขนมของกินอร่อยๆ ให้เขาเสมอ ที่ไหนๆ ก็มีบ่อน้ำพุร้อน ทว่าแต่ละที่ที่เคยไป เขามักเบื่อหน่ายกับสตรีมากหน้าหลายตาที่พยายามเข้ามาทำให้ชีวีตคนใกล้ตายอย่างเขาวุ่นวายนัก ร่างกายของเขาอ่อนแอตั้งแต่กำเนิดจะตายวันตายพรุ่งมิอาจรู้ แต่เมื่อมาที่นี่ตามคำเชื้อเชิญของเหวินเฮ่าหลัน กลับได้พบหญิงสาวนิสัยตรงไปตรงมาผู้นี้ นางตรงเสียจนพูดต่อหน้าว่าชอบเขา แต่กลับไม่ได้วุ่นวายในชีวิตเขาเหมือนผู้หญิงคนอื่น ไปๆ มาๆ เขากลับรู้สึกชอบมองผู้หญิงที่ย

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 86 . ได้ยินว่า

    “แต่คุณหนูเพิ่งเข้ามานะคะ” “ข้าจะพาเมฆเหินไปแช่น้ำร้อน มันอ่อนเพลียมาก” นางบอกไปตามตรง “แต่นายท่านทั้งสองรอคุณหนูอยู่นะเจ้าคะ” “ก็ไปรายงานอย่างที่ข้าบอกนั้นแหละ” หญิงสาวยืนยัน และเมื่อได้เสื้อผ้าเนื้อหยาบแบบสาวชาวบ้านแล้วก็รีบผลัดเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ชุนเอ๋อร์รีบสางผมและเกล้าขึ้นให้คุณหนูใจร้อนของตนเอง ยามอยู่ในชุดทหารนางดูเคร่งขรึมไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ แต่เมื่อถอดเกราะออกแล้ว นางก็เป็นหญิงสาวที่ร่าเริงและซุกซนราวเด็กน้อย หากคุณหนูของนางแต่งกายงดงามเหมือนคุณหนูบ้านอื่นละก็ นางก็งดงามไม่แพ้หญิงใดเลยทีเดียว ร่างเพรียวยกมือขึ้นแตะแก้มชุนเอ๋อร์หยอกล้อเหมือนทุกครั้ง “ข้าไปนะ เดี๋ยวมา” “คุณหนู” ทำได้แค่เรียก แต่คุณหนูของนางก็กระโจนออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วราวกับกับหายตัวได้อย่างไรอย่างนั้น ทำให้คนรับใช้อย่างนางต้องแบกภาระไปรายงานท่านแม่ทัพและฮูหยิน เคอหลิ่งหลินแอบย่องเข้าไปในห้องครัวได้หมั่นโถวมาสองลูกแล้วเดินกัดกินอย่างไม่กังวลเรื่องกิริยามารยาทแล้วเดินมาทางคอกม้า เมฆเหินเห็นนางก็ยกหัวสะบัดไปมาคล้ายจะบ่นที

  • บุปผาร่ายรัก   Chapter 85 จบแล้วสินะ

    หญิงสาวอดคิดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ได้ นางเองก็ไม่รู้หรอกว่า โม่ชิงถงถูกหมอกหลอนประสาทไปเห็นภาพอะไรจึงได้ปลิดชีพตนเช่นนั้น แต่นางเข้าใจลวดลายดอกไม้แดงที่ปรากฏแผ่นหลังของนางนั้น เป็นการเผยค่ายกลและที่ซ่อนกระบี่ผงาดฟ้า นางขอร้องให้เหวินเฮ่าหลันหาช่างทำลายดอกไม้แดงบนแผ่นหนังให้เพื่อเก็บไว้ยามจำเป็น เพราะนางจะไม่สำแดงดอกไม้ให้ผู้ใดเห็นอีกนอกจากชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางองค์ชายไท่หยางยื่นมือไปดึงร่างบางมานั่งบนตัก กอดรัดนางไว้ดื่มด่ำความอบอุ่นที่ละลายความโดดเดี่ยวในใจของเขาที่เกาะกุมอยู่เนิ่นนาน ‘ทายาทหญิงรุ่นต่อไปเมื่ออายุครบยี่สิบปีดอกไม้แดงจะปรากฏ แม้การปรากฏตัวของดอกไม้แดงจะนำความเจ็บปวดมาให้เจ้าของ ทว่าเมื่อเหยื่อพรหมจรรย์ถูกทำลายความเจ็บปวดนั้นก็มลายไปด้วย เพราะหมายความว่านางจะยอมเสียพรหมจรรย์กับชายคนที่นางรักและเชื่อใจ’เขาไม่ได้เล่าเรื่องที่สอบถามท่านนักพรตหญิง ปล่อยให้นางเข้าใจไปเถิด เขาจะเก็บความลับรอยสักดอกไม้แดงไว้เอง มือเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาไว้และเอียงคอมองเขาด้วยกิริยาน่ารักจนอีกฝ่ายต้องขมวดคิ้ว“ท่านรู้แล้วอย่าแสร้งทำไม่เป็นรู้ซิ” นางทำท่าแง่งอนออกมา“หาเรื่องไปเที่ย

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status