공유

ตอนที่ 7 ไม่อยากเรียน4

작가: LiHong
last update 최신 업데이트: 2025-08-09 13:52:12

แม้คิดเช่นนั้นแต่องค์ชายสูงศักดิ์เช่นจ้าวหมิงอวี่ กลับมิอาจขัดขืนไม่เรียนไม่ได้ 

‘เจ้าลูกไม่รักดี ถูกหักขาทำลายวรยุทธกลับมาเช่นนี้ จงเก็บตัวข่มใจอยู่แต่ในตำหนักตั้งใจเล่าเรียนเถอะ’

รับสั่งประกาศิตแห่งโอรสวรรค์ไหนเลยจะกล้าขัด

ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก! 

หากเปลี่ยนตำราปราชญ์ศาตร์บุ๋นเป็นตำราวิชามารศาตราวุธโบราณและคำภีร์ในตำนานย่อมดีไม่น้อย เขาชอบ

ความคิดของจ้าวหมิงอวี่เรื่อยเปื่อยล่องลอย

ไม่นานอาจารย์จากสำนักศึกษาหลวงก็เดินเข้ามา คนผู้นี้คืออาจารย์เซี่ยนามอวิ๋น

“คำนับอาจารย์” ทุกคนลุกขึ้นกล่าวคารวะทักทาย แนะนำตัวแบบเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยมารยาทสุขุม 

“ศิษย์ทุกคนนั่งลงได้ หยิบตำราบนโต๊ะขึ้นมา”

“ขอรับ/เจ้าค่ะ”

ท่ามกลางเสียงขานรับเหล่านั้น จ้าวหมิงอวี่ไม่สนใจ เพียงลอบสำรวจทั่วห้องเรียนอย่างเงียบงัน

เวลาเรียนต้องมีการสนทนาแลกเปลี่ยนปราศรัย ต่างแย่งชิงการแสดงความคิดหมายอวดภูมิอันสูงส่ง พวกเขาล้วนเป็นคุณชายคุณหนูจากตระกูลขุนนางย่อมไม่เขินอายหรือหลุดกิริยาดีงามยามต้องอยู่ต่อหน้าเชื้อพระวงศ์

อาจจะมีก็เพียงแววตาทอประกายวิบวับเกินงามของศิษย์หญิงที่ลอบมองเพียงองค์ชายสี่ตลอดเวลา ไม่ค่อยมองอาจารย์เท่าใด ช่างตั้งใจเรียนยิ่งนัก!

“องค์ชายสี่มีส่วนใดไม่เข้าใจหรือไม่” เซี่ยอวิ๋นถามเมื่อเห็นจ้าวหมิงอวี่ไม่ได้มองตำรา

“ข้าเข้าใจแล้ว เชิญท่านอาจารย์สอนเรื่องต่อไป”

“แต่กระหม่อมยังสอนเรื่องนี้ไม่จบ”

“เช่นนั้นก็เชิญอาจารย์สอนต่อให้จบโดยเร็วเถิด จะได้เรียนตำราอื่นบ้าง”

“...”

เซี่ยอวิ๋นสูดลมหายใจเข้าอกลึกยาว มีคนกล่าวว่าองค์ชายสี่เป็นจอมขบถดื้อรั้นไม่ชอบเรียนหนังสือเห็นจะจริง เห็นว่าชอบเรียนวรยุทธเพราะนิสัยดิบห่ามป่าเถื่อนเป็นที่สุด

เขากระแอมก่อนเอ่ยเสียงเครียด “หากองค์ชายสี่เข้าใจเรื่องนี้แล้ว กระหม่อมขอถาม”

จ้าวหมิงอวี่เมินเฉยไม่พูดจา ท่าทางเย่อหยิ่งเย็นชา ครู่หนึ่งค่อยปรายตามองเซี่ยอวิ๋นนิ่งๆ “เชิญอาจารย์ถาม”

“จงบอกลักษณะของปรัชญาที่ปราชญ์โบราณบอกว่าจงเมตตาต่อศัตรู พระองค์จะทรงทำอย่างไรต่อเชลยศึกที่เพียงออกรบตามหน้าที่พึงมี”

หลังจากอาจารย์ถามปัญหา จ้าวหมิงอวี่ก็หน้านิ่งเป็นหินถามคำตอบคำ ถูกบ้างผิดบ้าง แต่ก็ตอบไปเช่นนั้นอย่างไม่รู้สึกรู้สา ไม่ยอมขบคิดหรือสรรหาคำตอบที่ดีกว่า 

“ปรัชญาก็คือการเสนอทางแก้ปัญหานั่นเอง ประหารตัดคอ จุดไฟเผา ถือว่าเมตตาที่สุดแล้ว มิได้ทารุณ เพียงทำให้ร่างสลายกลายเป็นจุลในพริบตา ตัดหนทางกลับมาแก้แค้นในภายหน้า”

ช่างโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก ส่งไปทำงานที่เหมืองมิได้หรือไร เซี่ยอวิ๋นแทบหลั่งน้ำตา ไม่อยากสอนเลย

จ้าวหมิงอวี่เองก็ไม่ชอบเรียนนึกอยากหนีเรียนยิ่งนัก ครั้นความรู้สึกหน่ายระอาบังเกิดจึงพาให้เผยออกทางสีหน้า สายตาของเขาพลันเย็นเยียบชวนเหน็บหนาวขึ้นทันที รอบกายที่แผ่ซ่านกลิ่นอายสูงศักดิ์เปี่ยมบารมีนั้นประหนึ่งแค่เลิกคิ้วก็สามารถสั่งตายผู้คนได้กระนั้น

ทำเอาสหายร่วมเรียนทั้งชายหญิงต้องรีบหลุบตา มิกล้าเงยหน้ามองจ้าวหมิงอวี่อีก

บรรยากาศแสนดีชวนฝันในคราแรกพลันเปลี่ยนไป ทุกคนนั่งเรียนกันอย่างเคร่งเครียดจนหมดวันเลยทีเดียว

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว6

    “ข้ากล้าแน่” ว่าแล้วก็ตบอีกทั้งแก้มซ้ายแก้มขวาเพียะ เพียะ“โอ๊ยๆ”ผู้ตบเรี่ยวแรงเยอะนัก ชิงเอ๋อร์ล้มกลิ้ง แก้มแดงก่ำ ระบมไปหมด จังหวะนั้นหูซั่วได้ทีพลิกตัวลุกขึ้นมา ทำท่าเอาคืน แต่ถูกถีบอีกโครมใหญ่ “โอ๊ย” ชายหนุ่มลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาเป็นถึงองครักษ์จะเสียทีหลายกระบวนท่าได้อย่างไรหูซั่วม้วนตัวผุดร่างขึ้นมายืนผงาดหมายฟาดฟันทว่าผู้มาใหม่ฝีมือไม่ธรรมดา หูซั่วถูกเตะจนขาพับ ล้มแล้วล้มอีกจนเขาให้รู้สึกคาดไม่ถึง ชิงเอ๋อร์ก็เช่นกัน นางทั้งทุบตีทั้งกางเล็บข่วน แต่กลับไม่โดนตัวอีกฝ่ายเลย กลายเป็นตบตีหูซั่วเต็มแรงเสียอย่างนั้น จ้าวหมิงอวี่เลิกคิ้วมองความชุลมุนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ และทึ่งกับผู้มาใหม่ อีกฝ่ายเป็นสตรีชุดแดง ปากแดง ค่อนข้างป่าเถื่อนและมีวรยุทธ!นางคือ สวีหลิงเยี่ยน!เสียงพลั่กๆ ผลัวะๆ ดังต่อเนื่อง ชุลมุนไม่หยุดยามนี้หูซั่วเริ่มไม่ไหว นึกแปลกใจในฝีมืออีกฝ่าย “โอ๊ย เจ้าเป็นใคร” หูซั่วละล่ำละลั่กถาม “บังอาจทำร้ายองครักษ์ตำหนักหมิงเฟิ่งขององค์ชายสี่ เจ้าเป็นนักฆ่า เข้ามาลอบสังหารใช่หรือไม่?”“ใช่แล้วอย่างไร?” หลิ่งหลินเป็นนักฆ่าจริงแต่ยามนี้นางไม่ได้มาลอบสังหารใครเหมือนเช

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว5

    ใบหน้าดำคล้ำยิ่งนานยิ่งบึ้งตึง ประกายตาแข็งกร้าวเกินบ่าวทั่วไป และนั่นย่อมทำให้องครักษ์ผู้หนึ่งสัมผัสได้ จึงหันมาเห็นพอดี ทำให้สตรีหันมาเช่นกัน “อ๊ะ! ท่านพี่หู ตรงนั้นมีคนนั่งอยู่ มันคงเห็นพวกเราแล้วเป็นแน่ บังอาจนัก!”วาจานางกำนัลผู้นี้ชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างยิ่งนางรีบเดินตรงดิ่งท่าทางพร้อมตำหนิอย่างรุนแรง องครักษ์หนุ่มแซ่หูจึงรีบปรี่เข้าหาพร้อมสีหน้าดุดันเช่นกัน ทิศทางด้านหน้าของพวกเขาคือจ้าวหมิงอวี่ที่ยามนี้ปลอมตัวเป็นแค่บ่าวชายผิวคล้ำจนจำรูปลักษณ์เดิมมิได้“เจ้า! บ่าวชั้นต่ำ มานั่งทำอันใดตรงนี้” หูซั่วคำรามอย่างต้องการข่มขวัญจ้าวหมิงอวี่มีหรือจะกลัว เขาเสียงเย็น “ข้าต่างหากที่ต้องถาม พวกเจ้ามาทำระยำอันใดกันตรงนี้”ชายหญิงชะงักกึกหูซั่วกัดฟันกรอดรับไม่ได้กับคำด่าจึงคำรามดุดัน “เหิมเกริมนัก พวกข้าทำสิ่งใด เจ้ามีหลักฐานหรือไร” “หลักฐาน?” จ้าวหมิงอวี่เหยียดยิ้ม “ข้าเป็นพยานเห็นกับตาก็พอกระมัง”หูซั่วหยัน “หึ! ใครจะเชื่อบ่าวระดับล่างเช่นเจ้ามากกว่าข้าที่เป็นถึงองครักษ์”จ้าวหมิงอวี่ร้อง “อ้อ เช่นนั้นให้คนเปิดประโปรงนางพิสูจน์แล้วกัน”นางกำนัลหน้าแดงเถือก รีบหนีบขาอย่างไว“จ่ะ เจ้า

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว4

    ชายหนุ่มเดินมานั่งใต้ร่มชายคาศาลาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเดิมที่แต่งกิ่งไม้เมื่อครู่ อุทยานท้ายตำหนักแห่งนี้มีน้ำตกจำลอง ด้านหลังของน้ำตกมีพุ่มไม้ดอกไม้ประดับ เหมาะแก่การหลบเร้นซ่อนกายจากผู้คนวุ่นวายพอดีแม้วันนี้มีหิมะโปรยปราย แต่สำหรับเขานับว่าอากาศกำลังเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายอารมณ์ ไหนเลยควรเรียนเคร่งเครียดทว่าอาจเป็นเพราะมีหิมะจึงพานให้นึกถึงใครบางคนบนยอดภูผาอันหนาวเหน็บวันนั้น‘เป็นถึงราชนิกุลแต่คิดสละฐานันดรเพื่อสตรีเช่นข้า ท่านบ้าหรือไร ข้ากำลังจะแต่งงาน ไสหัวไปซะ!’เสียงหวานที่ก้องกังวานยังคงชัดเจนในห้วงภวังค์จ้าวหมิงอวี่ค่อยๆ หลับตาลงเชื่องช้า สีหน้าเย็นชาผุดพรายความเศร้าหมองออกมาเลือนลางนางมักทำตัวร้ายกาจเช่นนั้นเสมอ ให้ผู้คนภายนอกมองเป็นพญามาร แต่เขารู้ดี มารตัวจริงมักมาในรูปแบบที่เราไม่รู้สึกถึงความอันตราย อันที่จริงนางควรทำตัวเหมือนมิตรสหาย มิให้เขาระแวดระวังภัยมิใช่หรือไร?ชายหนุ่มถอนหายใจให้ความคะนึงที่มิเคยจางหาย หลายครั้งที่หลับตา ภาพของหลิ่งหลินมักชัดเจนเสมอ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ทุกวันที่พบหน้า กระทั่งถูกหักขา ถูกผลักไสที่ริมหน้าผาครานั้นท่าม

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว3

    ฟ่านเจินให้รู้สึกเห็นใจสวีหลิงเยี่ยนขึ้นมาอย่างแท้จริง อีกฝ่ายแลดูจะเป็นคนกตัญญูรักครอบครัวเสียด้วย ก่อนนี้สตรีอื่นต่างเร่งร้อนมาเข้าตำหนักก่อนใคร เพื่อหวังให้เข้าตาองค์ชายสี่โดยเร็วที่สุด แต่นางกลับมาเข้าเรียนช้าเพราะอยู่เรือนช่วยมารดา ครานี้ต้องช่วยบิดา ต่อให้มิใช่นักฆ่าก็คงจำเป็นต้องหาวิธีฆ่าคนแล้วฟ่านเจิ้งเองก็คิดไม่ต่าง นางช่างน่าเห็นใจ แต่ว่า...“แผนการของพวกเราก็ไม่ควรเปลี่ยนนะพ่ะย่ะค่ะ” ฟ่านเจิ้งว่า “แม้พระองค์รังเกียจนางและไม่ชอบวิธีการนี้ แต่ยังคงต้องแสร้งเป็นเหยื่อลอบจับเสือต่อไป เพราะไม่นานฝ่ายเราจะได้หลักฐานและมีพยานเอาผิดองค์ชายรองส่งให้ฝ่าบาทเสียที”ฟ่านเจินพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ชายเฉกเดิม “ใช่ๆ เร่งเปิดทางให้นางเข้าหาแล้วรับตัวมาไว้ข้างกายเลยเพคะ”ลูกน้องคนสนิทคิดกันไป ในขณะที่จ้าวหมิงอวี่เพียงปิดตำรา อิงแผ่นหลังกว้างกับพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลงช้าๆ ท่าทางเงียบงันเย็นชา พาให้คู่แฝดลอบมองอย่างลุ้นระทึก ด้วยมิอาจคาดเดาความคิดของเจ้านายท้ายที่สุดจ้าวหมิงอวี่ยืดตัวลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง กล่าวเสียงเรียบอย่างเกียจคร้าน “ข้ารังเกียจนางจริง หน้าที่เข้าหานางข้าให้พวกเจ้า วั

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว2

    ขันทีหวังก้าวเท้าสั้นๆ เดินยิกๆ หลิ่งหลินก็เดินตามเพียงแต่ฝีเท้าของนางยาวและมั่นคง ไม่เหมือนคุณหนูทั่วไปที่ก้าวสั้นแบบนั้น ตำหนักนี่กว้างมากทีเดียว มีเรือนเยอะแยะยิ่ง เดินอยู่นาน ขันทีหวังถึงได้มาหยุดยืนหน้าเรือนหลังหนึ่ง เขาเอียงหน้ามาทางนางโค้งกายเล็กน้อย เปล่งเสียงแหลม“นี่คือเรือนหงซิ่ว เป็นเรือนพักของคุณหนูสวี”หลิ่งหลินประสานมือยอบกายตามมารยาทอันพึงมีของคุณหนูลูกขุนนาง “ขอบคุณหวังกงกง”“เชิญคุณหนูสวีเข้าด้านใน” หวังกงกงเปิดประตู ผายมือ ส่งแขกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์หญิงสาวเดินเข้าไปอย่างไม่อิดออดประตูห้องปิดลง หลิ่งหลินเห็นเพียงแผ่นหลังขันที อีกฝ่ายเดินเชิดหน้าซอยเท้าก้าวเล็กหายไปทางใดไม่ทราบ นางแค่เดินเข้าห้องไปสำรวจตรวจตราอย่างไม่ถือสาท่าทีของขันทีผู้นั้นในเรือนแม้ไม่กว้างแต่ครบครันยิ่ง หลิ่งหลินสำรวจ เห็นทิศตรงไปซึ่งชิดกำแพงด้านในสุดของห้องคือเตียงนอน ด้านซ้ายโต๊ะจิบชา ด้านขวาโต๊ะหนังสือ อีกฝั่งของเตียงคือฉากกั้นวางไว้เป็นสัดส่วนสำหรับเปลี่ยนอาภรณ์ ถัดออกไปคือห้องอาบน้ำ นอกหน้าต่างอากาศค่อนข้างเย็น แต่ด้านในห้องพักแม้ห้องมีขนาดกว้างขวางแต่กลับอบอุ่น แสงแดดสาดส่อง

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว1

    เรื่องวุ่นวายในจวนสวียังคงดำเนินไปทั้งอย่างนั้นผลตรวจของท่านหมอลงความเห็นว่าสวีจงสือมีภาวะเลือดลมสูบฉีดขั้นรุนแรงส่งผลให้จุดป๋ายฮุ่ย[1]แตกซ่านนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นอัมพาตท่อนล่าง ปากบิดปากเบี้ยว พูดจาไม่รู้เรื่องนั่นเอง หลังจากนี้เกรงว่าคงมิอาจหาความสำราญจากเรือนร่างสตรีได้อีกนอกจากนั้นยังมิอาจจัดการงานในจวนได้อีกด้วย เหยาซื่อซึ่งมีตำแหน่งเป็นฮูหยินใหญ่จึงต้องรับหน้าที่บริหารจัดการงานในจวนสวีทั้งหมดโดยปริยายมิใช่มีสิทธิ์มีเสียงแค่เพียงหลังเรือนเหมือนเมื่อก่อน แต่รวมถึงเรือนหน้าและอำนาจจวนสวีทั้งหมดที่เคยเป็นของสวีจงสือบัดนี้เป็นของเหยาซื่อโดยสมบูรณ์พอกัวเหมยรู้เรื่องก็กรีดร้องแทบบ้าคลั่งจนสลบไสล ครั้นตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้โหยหวนเป็นลมอีกในขณะที่อวี้เสวี่ยจีดีใจแทบตายแล้ว นางมีอิสระ ได้รับเบี้ยหวัด ไม่ต้องทนนอนปรนนิบัติใต้ร่างบุรุษเฉกอดีต ยอดเยี่ยมที่สุดทั้งหมดทั้งมวลหลิ่งหลินเพียงทิ้งไว้เบื้องหลังยามนี้นางต้องเข้าไปเรียนในตำหนักหมิงเฟิ่งเสียที เพียงแต่ปล่อยเวลาล่วงเลยหลายวัน ยังจะเรียนทันหรือไม่ จะเข้าตำหนักได้หรือเปล่าไม่ใช่พยายามเข้าหาจ้าวหมิงอวี่ตามคำสั่งสวีจงสือ เพ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status