Home / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่16เมื่อต้องเผชิญหน้า

Share

ตอนที่16เมื่อต้องเผชิญหน้า

last update Last Updated: 2025-07-24 20:05:13

ในที่สุด หลี่จื้อหยวนก็ฝืนยกเท้าขึ้น ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าสงบนิ่ง ทว่าภายในกลับเต็มไปด้วยคลื่นอารมณ์ที่โถมซัดไม่หยุด และเพียงก้าวเท้าเข้าไปเพียงไม่กี่ก้าว สายตาของเขาก็มองเห็นนางแต่ไกล โดยที่ไม่ต้องมองหาเลยด้วยซ้ำ หัวใจของเขากระตุกวูบ ความรู้สึกผิดปะปนกับความคิดถึงแล่นเข้ามาพร้อมกันอย่างโหดร้าย

คนที่อยู่ภายในศาลาเมื่อรู้ว่าองค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนเสด็จมาก็รีบออกมารอรับเสด็จ ยกโขยงกันออกไปรออย่างพร้อมเพรียง หนึ่งในนั้นย่อมมีอวี้หลัน ซึ่งเพิ่งจะทรุดกายนั่งลงได้ไม่นาน นางยังไม่ทันจะได้ยกชาขึ้นจิบดับกระหายเลยด้วยซ้ำ ก็ต้องฝืนลุกขึ้นอีกครั้ง

ริมฝีปากภายใต้ผ้าคลุมหน้าจึงเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความขัดเคืองใจปนหงุดหงิด

คนโบราณนี่ช่างยุ่งยากจริงๆ ใครจะมาใครจะไป ก็ต้องยกโขยงออกไปต้อนรับกันให้วุ่น

อวี้หลันสบถในใจอย่างเบื่อหน่าย

แต่เหตุใด นามขององค์ชายผู้นี้จึงรู้สึกคุ้นหูนัก เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน

คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองฉิงหว่านที่ติดตามอยู่เบื้องหลัง คิดจะถามอีกฝ่ายว่าคนผู้นั้นเป็นใคร แต่พอเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอึดอัดคับข้องใจราวกับจะร้องไห้ของสาวใช้คนสนิทก็พลันกระจ่าง

อ้อ...องค์ชายห้าหลี่จื้อหยวน อดีตว่าที่คู่หมั้นของข้านี่เอง แต่ปัจจุบัน...กลายเป็นว่าที่พี่เขยไปเสียแล้ว

โผล่หัวมาทีก็วุ่นวายจังเลยนะ

ยอมรับว่านางไม่ใส่ใจจะจดจำชื่อของอีกฝ่าย เมื่อนึกได้ อวี้หลันก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ จนฉิงหว่านถึงกับส่งค้อนวงโตอย่างกระเง้ากระงอดมาให้

"คุณหนู ถูกผู้อื่นแย่งชิงวาสนา ยังจะหัวเราะได้อยู่อีกหรือเจ้าคะ"

อวี้หลันหันกลับมายิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือแตะหลังมือของฉิงหว่านเบาๆ อย่างนึกเอ็นดู

"หวานหว่านคนดี อย่าได้เศร้าใจไปเลย ก็แค่บุรุษที่ไม่มีความหนักแน่นผู้หนึ่ง พึ่งพาสิ่งใดก็ไม่ได้ มีสิ่งใดให้ข้าต้องเสียดายกัน"

ภายในศาลาเงียบสงบลงทันที เมื่อคนที่พวกเขาเฝ้ารอปรากฏตัวขึ้น สายตาทุกคู่จ้องมองไปยังร่างสูงโปร่งขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนที่ก้าวเดินเข้ามาอย่างสง่างาม

หลี่จื้อหยวนยืดตัวตรง สีหน้าเรียบนิ่งเฉยชา วางตัวเฉกเช่นเชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์ หากแต่หัวใจของเขาตอนนี้กลับเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ

เพราะเบื้องหน้าของเขา คือสตรีที่อยู่ในความทรงจำ คือสตรีที่เขาไม่เคยลืม 

หลันเอ๋อร์ นางยืนอยู่ตรงนั้น 

นางยืนอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของโต๊ะใหญ่อย่างสงบนิ่ง ใบหน้าเรียวเล็กก้มลงเล็กน้อย ยามที่นางเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ เผยให้เห็นดวงตากลมใสเปล่งประกายที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น 

ในชั่วขณะนั้น สายลมบางเบาวูบหนึ่งก็พลันพัดผ่านเข้ามา ปลายผ้าคลุมหน้าบางเบาพลิ้วไหว เผยให้เห็นใบหน้างดงามของนางชั่วอึดใจ

แต่เพียงแค่นั้น ก็ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ใบหน้านั้นกลับตราตรึงอยู่ภายในใจ 

หลี่จื้อหยวนรู้สึกเหมือนลมหายใจติดขัด เผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว เมื่อดวงตากลมใสทอประกายเหมือนหยาดน้ำค้างยามรุ่งอรุณกำลังมองตรงมาที่เขา 

เพียงแค่นางมองมา ความรู้สึกทั้งมวลก็ถาโถมเข้ามาเหมือนคลื่นทะเลคลั่ง ความคิดถึง ความปวดร้าว และความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจเขาทุกครั้งที่คิดถึงนาง

เมื่อสายตาของนางกับเขาสบกัน หลี่จื้อหยวนพลันรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาคล้ายจะหยุดเต้น เขาบอกกับตัวเองในทันที ว่าไม่อาจที่จะปล่อยมือจากนางได้

อวี้หลัน มองชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์เบื้องหน้าที่กำลังจ้องนางอย่างเอาเป็นเอาตาย จนสตรีที่ตามมาด้านหลังคล้ายจะกระโจนเข้ามาฉีกอกนางอยู่รอมร่อ อย่างเอือมระอา

ฝ่ายบุรุษก็จ้องมองมาตาหวานเชื่อมลึกซึ้ง ฝั่งสตรีก็ถลึงตามอง จนตาถลนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าอย่างหึงหวงเกลียดชัง

ให้ตายเถอะ นี่นางหนีไม่พ้นปัญหาโลกแตก น่ารำคาญนี่จริงๆ น่ะหรือ

อวี้หลันรู้สึกเจ็บปวดใจทุกครั้งที่คิดถึงสาเหตุการตายของตัวเอง นักฆ่าระดับตำนานอย่างนาง ต้องตายเพราะความหึงหวงไร้สาระของสตรีด้วยกันเอง

เฮ่อ! อยากจะบ้าตาย

องค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนผู้นี้ หน้าตาก็จัดว่า ดีใช้ได้

แต่นางไม่นิยมชมชอบบุรุษที่ดูสะโอดสะอง ผิวขาว ปากแดงเช่นนี้หรอกนะ

อวี้หลันคิดอย่างเงียบๆ ขณะไล่สายตาประเมินอีกฝ่าย ตั้งแต่ปลายผมที่ถูกรวบเรียบร้อย ใบหน้าของเขาเรียวได้รูป คิ้วเรียวยาวราววาดด้วยปลายพู่กัน ดวงตาคมกริบ และสันจมูกโด่งคมราวงานแกะสลัก

ท่าทางเป็นบุรุษหนุ่มเจ้าสำอาง สำรวมกิริยาและพิถีพิถันในทุกย่างก้าว ชวนให้รู้สึกอึดอัดสิ้นดี

แต่ความทรงจำเกี่ยวกับคนผู้นี้ที่ปรากฏขึ้น ทำให้อวี้หลันเหยียดริมฝีปากน้อยๆ เป็นรอยยิ้มจางๆ นางทอดสายตามองเขาอย่างเงียบๆ ด้วยแววตาที่แฝงความดูแคลนเจืออยู่เล็กน้อย 

อวี้หลันเจ้าของร่างเดิม ช่างเป็นเด็กสาวที่ไร้เดียงสายิ่งนัก นางเฝ้ารอคนผู้นี้อย่างโง่งม ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่เคยที่จะปรากฏตัวหรือโผล่หัวมาเลยสักครั้งยามที่นางต้องการหรือลำบาก

เมื่อครั้งยังเยาว์ก็แล้วไปเถิด เพราะเด็กหนุ่มผู้หนึ่งคงไม่อาจทำสิ่งใดได้มาก แต่ตอนนี้เขากลายเป็นองค์ชายมากความสามารถ หากอีกฝ่ายต้องการจะเจอนางจริงๆ องค์ชายสูงศักดิ์ที่ฉลาดเฉลียวเช่นเขาย่อมไม่ไร้หนทาง

แต่คนผู้นี้กลับไม่เคยโผล่มา จนเจ้าของร่างเดิมตายจากไป

แล้วแววตาห่วงหาอาวรณ์เช่นนั้นหมายความเช่นไร มีใจแต่ไม่ใส่ใจดูแล บุรุษเช่นนี้ไม่มีค่าให้ต้องใส่ใจเลยจริงๆ

แต่กระนั้น สายตาของนางก็ไม่มีความรู้สึกใดแฝงอยู่ เรื่องความสัมพันธ์เก่าก่อนเหล่านั้นของเจ้าของร่าง นางไม่อยากเอามาใส่ใจ

ในขณะที่หลี่จื้อหยวนจ้องนางอย่างเอาเป็นเอาตาย ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกถาโถม อวี้หลันกลับเพียงแค่ยอบกายลงอย่างสุภาพ

"คารวะองค์ชายห้าเพคะ"

เสียงของนางนุ่มนวล พอเหมาะพอดี ไม่มีความสนิทชิดเชื้อ ไม่มีแม้แต่คำทักทายนอกเหนือจากนั้น

หญิงสาวยืนนิ่ง สีหน้าสงบเฉยชา ดวงตาไร้ระลอกคลื่น ใบหน้าที่เคยอ่อนเยาว์ในความทรงจำของเขา บัดนี้เปลี่ยนเป็นความเยือกเย็นที่เขาไม่คุ้นเคย

ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีเสียงเรียก “พี่ชาย” อย่างที่เคยได้ยินมาตลอดในวัยเยาว์

เขาเองก็ยืนนิ่งไปเช่นกัน

แปดปีแล้ว นานพอที่เด็กหญิงตัวน้อยในวันนั้นจะเปลี่ยนเป็นหญิงสาวผู้สงบนิ่งและสุขุมเช่นนี้

แต่นานพอที่จะทำให้บางคนลืมอดีตไปจนหมดสิ้นเลยหรือ

"เจ้าสบายดีหรือไม่"

เขาเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน เสียงทุ้มต่ำแผ่วเบา แต่ชัดเจน

อวี้หลันเพียงสบตาเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

"ดีเพคะ"

สั้น กระชับ และห่างเหิน

นางเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

ไม่สิ บางที นางอาจไม่ได้เปลี่ยน แต่เป็นเขาต่างหาก ที่ทิ้งนางไว้ข้างหลังมานานเกินไป

ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความรู้จักคุ้นเคยในแววตาคู่นั้น

ในดวงตาคู่นั้น ว่างเปล่า

ราวกับว่าเขาเป็นแค่คนแปลกหน้าที่นางไม่เคยรู้จักมาก่อน หรือแม้แต่ความไม่พอใจใดๆ เป็นเพียงสายตาที่เย็นชาและเงียบงัน

หลันเอ๋อร์เกลียดเขาแล้ว...ใช่หรือไม่

หลี่จื้อหยวนเม้มริมฝีปากแน่น ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นผ่านกลางอก ความคิดถึงที่เคยโหยหา กลับแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บร้าว ความเงียบของนางทำให้เขารู้สึกร้อนรน เขาอยากเอื้อมมือไปคว้ามือเรียวคู่นั้นมากุมไว้ อยากอธิบายถึงความจำเป็นทุกอย่างให้ฟัง อยากจะอธิบายทุกสิ่งที่ฝังแน่นในใจ แต่กลับไม่กล้าพอ

"ข้า…" 

เขาอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็หยุดไว้ ถ้อยคำทั้งหลายจุกคาอก พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

"เชิญองค์ชายพ่ะย่ะค่ะ"

เสียงของอวี้จิ้งดังขึ้น คลี่คลายความอึดอัดนั้น พร้อมผายมือไปยังที่นั่งตรงตำแหน่งประธาน

หลี่จื้อหยวนชะงักเล็กน้อย สีหน้าเจือความลังเล แต่สุดท้ายก็ไม่เอ่ยสิ่งใด เขาเดินไปนั่งอย่างเงียบเชียบ

ภายในศาลาคล้ายจะตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอึดอัดที่แผ่คลุมบรรยากาศ แม้ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างปกติ ดูสงบเรียบร้อย เป็นระเบียบตามธรรมเนียม แต่กลับมีความตึงเครียดจางๆ แฝงอยู่ในนั้น

แต่สายตาทุกคู่เหมือนจะคอยจับจ้องท่าทีของบุรุษผู้สูงศักดิ์ ว่าที่ชายา และสตรีผู้เคยมีสถานะเป็นว่าที่คู่หมั้น แต่ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของพวกเขา

หลี่จื้อหยวนยังคงมองอวี้หลันไม่วางตา 

จะจ้องอะไรนักหนา

อวี้หลันคิดอย่างรำคาญใจ ก่อนจะเบือนหน้ากลับไปมองถ้วยชาเบื้องหน้าแทน

อวี้เหมยที่สังเกตเห็นมาตลอดก็ยิ่งเจ็บลึกในใจ ดวงตาคู่งามฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน

"องค์ชายห้าเพคะ นี่เป็นชาชั้นดีมีชื่อจากทางใต้ ท่านตาของหม่อมฉันเพิ่งส่งมาให้ พระองค์ลองชิมดูนะเพคะ"

เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้เขา เสียงหวานที่เปล่งออกมานั้นเต็มไปด้วยความนุ่มนวลและจริตแบบสตรีชั้นสูง 

หลี่จื้อหยวนหันไปช้าๆ พบว่าเป็นอวี้เหมย คู่หมั้นของเขา หญิงสาวท่าทางอ่อนหวานนุ่มนวล มือเรียวขาวบรรจงรินน้ำชาลงจอกตรงหน้าอย่างแผ่วเบา น้ำชาสีอ่อนส่งกลิ่นหอมกรุ่นลอยอบอวลในอากาศ

"อืม" 

เขารับคำเบาๆ ก่อนจะยกจอกชาขึ้นจิบ ไม่แม้แต่จะส่งยิ้มให้ด้วยซ้ำ สายตายังคงเผลอเหลือบไปทางร่างเล็กในมุมเดิมโดยไม่รู้ตัว

ที่ตรงนั้น อวี้หลันยังคงนิ่งสงบ ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก นางไม่แม้แต่จะหลบสายตาเขา นางสบตาเขาตรงๆ แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมอง คนแปลกหน้า คนหนึ่ง

ไม่มีความคุ้นเคย ไม่มีเยื่อใย มีเพียงสายตาเรียบนิ่งตามมารยาทเท่านั้น

หลี่จื้อหยวนกำมือที่ตอนนี้สั่นน้อยๆ ภายใต้แขนเสื้อแน่น ความห่างเหินระหว่างเขากับอวี้หลัน ช่างไกลเกินกว่าที่เคยคิดไว้มากนัก 

หัวใจเขาแน่นหนึบ ราวกับถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็น

ความรู้สึกที่เคยมี เคยผูกพัน ตอนนี้มันพังลงด้วยน้ำมือของเขาเอง

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่43ผู้มาเยือน

    "หลันเอ๋อร์ ขอเวลาข้าสักครู่ได้หรือไม่"เสียงทุ้มต่ำขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน ทว่าแฝงแววเว้าวอนลึกซึ้ง เขาก้าวขวางเบื้องหน้าในจังหวะที่อวี้หลันหมุนกายจะจากไป หยุดยั้งฝีเท้าเรียวอย่างไม่เปิดโอกาสให้นางหลบเลี่ยงสายตาคมกริบทอดมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อาจละไปได้ ความคาดหวัง ความลังเล และความเจ็บปวดสลักทับซ้อนในแววตาคู่นั้นราวกับเพียงคำตอบหนึ่งคำจากนาง จะสามารถปลดปล่อยหรือขังเขาไว้ตลอดกาลอวี้หลัน..หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หมั้นในวัยเยาว์ของเขา หญิงสาวที่เขาเคยคิดว่าจะได้ครอบครองและปกป้องแต่ตอนนี้นางกลับไกลจากเขาออกไปทุกทีข่าวลือที่โด่งดังไปทั่วเมืองหลวงอยู่ในตอนนี้ ทำให้เขาไม่อาจทนนิ่งเฉย จนต้องมาปรากฏตัวที่นี่ ยิ่งเมื่อได้เห็น ปิ่นปักผม ที่ปรากฏอยู่บนมวยผมของนาง ดวงตาของเขายิ่งแข็งกร้าวปิ่นนั่นหลี่เหวินหลงผู้เป็นพี่ชายหวงแหนยิ่งกว่าสิ่งใด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมอบให้ใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่เขา "หมายปอง" อย่างแท้จริงหลี่จื้อหยวนกำมือแน่น ความรู้สึกในใจร้อนรนแทบระเบิดออกมา แต่กลับไม่เอ่ยอันใด นอกจากสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเปิดกล่องเครื่องประดับในมือออก ยื่นไปตรงหน้าอีก

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่42คนว่างงาน

    มาอีกแล้ว คนผู้นี้ว่างงานนักหรืออย่างไรอวี้จิ้งทอดถอนใจยาวตั้งแต่ยังไม่ทันได้จิบชาเช้า ใบหน้านิ่งขรึมเต็มไปด้วยริ้วรอยของความอดกลั้น และกลิ่นอายของความหงุดหงิดปนเวทนาในชะตากรรมของตนรุ่งเช้า ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีนัก คนก็มาเยือนถึงหน้าจวนเสียแล้ว"หากไม่มีงานการทำ เหตุใดถึงไม่กลับแดนเหนือไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด"อวี้จิ้งได้เพียงบ่นอยู่ในใจ ฟันกรามกัดแน่นจนขมับเต้นตุบๆ ขณะลุกจากที่นั่ง เดินออกไปต้อนรับแขกผู้สูงศักดิ์ แขกที่เหมือนจะกลายเป็นสมาชิกประจำบ้านเข้าไปทุกทีองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง ยืนตระหง่านราวขุนเขาเช่นเคย ท่าทีสงบนิ่ง เยือกเย็นประหนึ่งนักปราชญ์ผู้สูงส่ง ทั้งที่ความจริงแล้วก็แค่คนไร้ยางอาย หน้าด้านหน้าทนผู้หนึ่ง ที่ทำเอาเจ้าบ้านอย่างเขาแทบกระอักเลือดตาย เมื่อวานกว่าจะต้อนคนส่งกลับได้ก็เล่นเอาเขาแทบจะหัวหลุดจากบ่าอยู่หลายครั้ง"องค์ชายใหญ่มาตั้งแต่เช้าเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"อวี้จิ้งเอ่ย พลางฉีกยิ้มบางๆ ที่คล้ายรอยยิ้มของเสือเฒ่ากำลังข่มอารมณ์ แฝงไว้ด้วยคำว่า ‘เจ้าว่างนักหรือ’ ขณะทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท"ใต้เท้าอวี้ พบหน้าข้าแล้วยินดีถึงเพียงนี้เชียว"หลี่เหวินหลงยิ้มรับสีหน้าระร

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่41สนทนาพาที

    เซิ่งซื่อใช่ว่าจะไม่รู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดกดดันที่แผ่คลุมอยู่ภายในห้อง หากแต่นางยังฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าเอาไว้ ไม่ว่าสายตาใครจะจับจ้องมายังนางอย่างไร นางก็ยังสงบนิ่งไม่แสดงพิรุธหลายวันมานี้ นางสัมผัสได้ถึงบรรยากาศภายในจวนที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน นางรับรู้ได้ว่าสามีเริ่มมีท่าทีที่ผิดแผกไป ไม่เหมือนเดิมอย่างที่เคย นับตั้งแต่เกิดเรื่องกับอวี้หลัน ทว่าเขากลับยังคงนิ่งเฉยไม่เอ่ยสิ่งใด นั่นยิ่งทำให้นางทั้งหวาดระแวงและไม่อาจวางใจได้ ความเงียบของเขากลับทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งนางรู้ดีว่าคนอย่างอวี้จิ้งไม่ใช่ผู้ที่จะปล่อยผ่านเรื่องใดไปโดยไม่คิดสืบหาความจริง ไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกล่อได้ง่ายนัก และยิ่งเงียบก็ยิ่งน่าหวาดกลัวแต่ถึงอย่างนั้น นางก็ยังพอจะเบาใจอยู่บ้าง อย่างน้อยที่สุดหลานชายของนางก็กลับมาอย่างปลอดภัย และที่สำคัญ เขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดไว้ให้ถูกสาวมาถึงตัวทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม นางเพียงต้องระวังตัวให้มากพอ และฉลาดพอที่จะไม่ถามถึงรายละเอียดให้มากความ สิ่งที่ไม่รู้ ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ สิ่งที่รู้ นางก็เลือกจะซ่อนไว้ลึกสุดใจ ไม่ให้แม้แต่น้ำเสียงหรือแววตาเผลอเผยพิรุธออ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่40ศึกชิงนาง

    หลังจากพิธีปักปิ่นอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าผ่านพ้นไป ตกเย็นก็ควรจะเป็นเวลาของคนในครอบครัว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้วอวี้จิ้งเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงคำกล่าวที่ว่าเชิญเทพมาง่าย แต่ส่งกลับไปแสนยาก ก็ในวันนี้เองรองเสนาบดีผู้มากบารมี ปลายสายตาเหลือบมองบุรุษหนุ่มผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะด้วยสีหน้าอึมครึม เขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใดออกมา เพราะแม้จะเงียบ แต่หนวดที่กระตุกอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาวาววับที่ราวกับจะพ่นลูกไฟออกมาได้ทุกเมื่อ ก็ฟ้องหมดทุกอย่างและถึงจะเป็นเช่นนั้นอีกฝ่ายกลับยังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ หาได้รู้ถึงความผิดของตัวเอง ประหนึ่งว่าเขาคือเจ้าของเรือน มิหนำซ้ำยังทำตัวกลมกลืนอย่างยิ่งราวกับคนในครอบครัวไม่ขัดเขิน ไม่เกรงใจ ไม่ถ่อมตนกระทำตัวเหมือนเขยของบ้านข้าเข้าไปทุกทีหึ…กล้าดียังไงแน่นอนว่าอวี้จิ้งได้แต่คิดในใจเท่านั้น ไม่มีวันกล้าเอ่ยออกมาเพราะบุรุษตรงหน้านั้น หาใช่ใครอื่นไกล แต่คือ องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลงการกระทำของอีกฝ่ายในวันนี้สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาอย่างยิ่ง แต่แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพียงใด ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหยางฮูหยินผู้เฒ่า ซึ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่39วันปักปิ่น

    แสงอรุณอ่อนในฤดูใบไม้ผลิส่องพาดแนวหลังคาเรือน บรรยากาศทั่วทั้งจวนรองเสนาบดีเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายในเรือนใหญ่ของตระกูลอวี้อบอวลด้วยกลิ่นหอมของไม้จันทน์บ่าวไพร่ในจวนสีหน้าสดชื่นแจ่มใส ขะมักเขม้นจัดเตรียมพิธีมงคล ข้าวของเครื่องใช้ล้วนถูกจัดเรียงตามตำราโบราณเรือนหลักของจวนอวี้ในวันนี้ถูกประดับประดาด้วยผ้าแพรไหมสีมงคล ลวดลายดอกเหมยปักดิ้นทองสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ กลิ่นหอมของชาดอกไม้ที่ลอยอบอวลในอากาศ สร้างบรรยากาศละมุนละไมวันนี้คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณหนูรองอวี้ในที่สุดวันปักปิ่นของอวี้หลันก็มาถึง พิธีในวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติบุตรีขุนนางฝ่ายพิธีการ เรียกได้ว่าเป็นงานเลี้ยงที่หรูหราและงดงามที่สุดในรอบหลายปีของเมืองหลวง อวี้หลันในชุดผ้าไหมเนื้อละเอียดสีชมพูอมทองปักลวดลายดอกโบตั๋นอย่างประณีต เนื้อผ้าไหมพลิ้วไหวรับแสงแดดอ่อนยามเช้า ปลายแขนเสื้อขลิบดิ้นทอง ชุดตัวยาวรัดช่วงเอวด้วยสายผ้าแพรสีแดงสด ด้านข้างห้อยพู่หยกล้ำค่า เงาผ้าพลิ้วไหวราวกลีบดอกไม้ต้องลมตามจังหวะก้าวเดิน ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังสตรีน้อยผู้เป็นบุตรีของรองเสนาบดีหญิงสาวย่างก้าวด้วยท่วงท่าที่เปี่ยมไ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่38ความจริงเริ่มกระจ่าง

    เซิ่งซื่อนั่งนิ่งอยู่ในเรือนใหญ่ของตนเอง บรรยากาศภายในเรือนที่เคยสงบร่มรื่น บัดนี้กลับอึดอัดและหนักแน่นประหนึ่งมีเงาทึบปกคลุม มือที่ถือพัดเริ่มกำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว แววตาเคร่งเครียดขณะฟังรายงานจากบ่าวคนสนิท เสียงนั้นเบาราวกระซิบ แต่ทุกคำกลับฟังชัดเจนยิ่งในหูของนาง"คุณหนูรองกลับมาถึงจวนเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ มิได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น"คำบอกเล่านั้น ดังก้องในใจจนมือที่กำพัดเริ่มสั่นอวี้หลันกลับมาแล้ว อีกทั้งยังไม่เป็นอะไรเลย"ข่าวว่า...องค์ชายใหญ่เป็นผู้ช่วยชีวิตคุณหนูรองเอาไว้ด้วยพระองค์เองเจ้าค่ะ"เสียงในห้องเงียบงันชั่วอึดใจ"องค์ชายใหญ่"เซิ่งซื่อทวนคำเบาๆ อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ความหวาดหวั่นคละคลุ้งในอกองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง คนผู้นี้อีกแล้วหรือพัดในมือของนางถูกบีบจนแทบจะแหลกคามือ แววตาที่เคยสั่นไหวเปลี่ยนเป็นขุ่นมัวในฉับพลัน ริมฝีปากที่เคลือบชาดเอาไว้บางๆ เม้มแน่นจนแทบเป็นเส้นตรงทั้งที่แผนการถูกวางไว้อย่างดี หลานชายที่เก่งกาจของนางไม่เคยที่จะทำงานผิดพลาด ทุกอย่างที่ควรจะจบลงอย่างเงียบงัน กลับพังครืนเพราะการปรากฏตัวของบุรุษเพียงผู้เดียวและยิ่งแย่กว่านั้น…ข่าวนี้กำลังจะถูก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status