หน้าหลัก / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่1อวี้หลันนักฆ่าอันดับหนึ่ง

แชร์

บุปผาสีชาด
บุปผาสีชาด
ผู้แต่ง: ฉู่เฉียว

ตอนที่1อวี้หลันนักฆ่าอันดับหนึ่ง

ผู้เขียน: ฉู่เฉียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-07 19:33:20

ในค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำ ตกลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง ใต้เงามืดของตึกสูง หญิงสาวร่างบางในชุดแนบเนื้อสีดำสนิทกลมกลืนไปกับความมืด เคลื่อนไหวอย่างเงียบกริบ ฝีเท้าเบาราวกับแมว เธอย่างเท้าผ่านตึกสูงกลางเมืองเหมือนสายลม 

ในมือถือปืนเก็บเสียงกระบอกเล็กเรียบลื่นมันวาว ที่ยังคงอุ่นจากการลั่นไกเมื่อไม่กี่นาทีก่อน กระสุนนัดเดียว ปิดฉากชีวิตของเป้าหมายอย่างแม่นยำ เงียบสนิทเหมือนฝันร้ายที่ไม่มีใครได้ยิน

ก่อนที่หญิงสาวจะหายลับไปท่ามกลางสายฝน ราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ในค่ำคืนนี้...

เธอคือ อวี้หลัน หรือที่วงการนักฆ่ารู้จักกันดีในนาม "เงาสีชาด" นักฆ่าอันดับหนึ่ง ผู้ที่ลงมือเมื่อใด ไม่มีเป้าหมายใดรอดชีวิต

แต่ก่อนจะกลายเป็นเงามรณะในโลกมืด เธอเคยเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ อายุแค่เก้าขวบ มีพ่อขี้ยาที่นิสัยโหดร้าย ชอบทำร้ายร่างกายแม่กับเธออย่างทารุณเป็นประจำ

จนกระทั่งคืนหนึ่งเกิดเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ เมื่อคนเป็นพ่อบังคับให้แม่ขายตัวแลกยา

แม่ของเธอถูกกรอกยา ทำร้ายร่างกายจนตายในคืนนั้น

เด็กหญิงที่ถูกความโกรธ ความเกลียด ครอบงำจนขาดสติ แทงมีดใส่คนเป็นพ่อจนทะลุอก 

เธอ...ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขา แต่ก็ไม่มีทางย้อนคืน

อวี้หลันหนีออกจากบ้านมาเพราะความตกใจกลัว วิ่งหนีออกมาจากบ้านที่ไม่เคยเป็นบ้านในสภาพสั่นเทา เนื้อตัวเปื้อนเลือด กลายเป็นเด็กไร้บ้าน คนไร้ชื่อ และไม่มีใครเหลียวแล นั่งตัวสั่นอยู่ข้างถังขยะกลางฤดูหนาว

เธอหนาวจนชาไปหมดทั้งตัว และในหัวใจของเธอก็ด้านชาจนไร้ความรู้สึกเช่นกัน

และก่อนที่เธอจะหนาวตาย เธอก็ถูกหิ้วจากกองขยะโดยองค์กรนักฆ่าใต้ดิน ตั้งแต่ตอนนั้นเธอก็ถูกฝึกให้เป็นนักฆ่า มีเพียงเสียงปืนและการฝึกฝนที่ไม่รู้จบ

พวกมันป้อนข้าวแลกเลือด สอนให้ฆ่าแทนคำกล่อมนอน และลบคำว่า "ร้องไห้" ออกจากพจนานุกรมของเธอ

สิบปีผ่านไป เด็กข้างถังขยะคนนั้น กลายเป็น เงาสีชาด นักฆ่าอันดับหนึ่ง ทุกครั้งที่เธอลงมือ เป้าหมายไม่เคยมีโอกาสรอดชีวิต 

เร็ว เงียบ แม่นยำ เธอคือนิยามของความตายที่ไม่มีเสียง ในเวลาเพียงไม่กี่ปี เธอฆ่าคนไปมากมายราวใบไม้ร่วง แต่คนที่เธอฆ่าก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไรนัก

แต่โลกนี้ไม่มีที่ว่างให้เงาหลบซ่อนตลอดไป เมื่อรัฐบาลเปิดยุทธการกวาดล้างองค์กรใต้ดิน อวี้หลันเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เธอก็รอดมาได้ด้วยโชคและฝีมือ ในที่สุดก็หลุดออกจากโลกมืดที่เธอเติบโตมา

อวี้หลันเปลี่ยนตัวตนใหม่ กลายเป็นบอดี้การ์ดรับจ้างให้กับคนใหญ่คนโตในสังคม ไม่มีใครรู้ว่าเธอเคยเป็น "เงาสีชาด" อดีตนักฆ่าระดับตำนาน

ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบ แต่ไม่นานนัก เธอก็ได้รู้ว่า บางครั้ง ชีวิตธรรมดา ก็วุ่นวายยิ่งกว่าสมรภูมิ

ปัญหาโลกแตกที่เธอไม่คาดคิด และไม่เคยพบเจอ

เพราะเป็นคนที่หน้าตาดีเกินไป นายจ้างหลายคนจึงเริ่มเกาะแกะ พูดจาแทะโลม จนโดนหึงหวงจากภรรยาของพวกเขาแบบไม่มีเหตุผล จากที่ควรปกป้อง กลายเป็นต้องป้องกันตัวเองจากคนที่ควรเป็น "ลูกค้า"

สุดท้ายเธอทนไม่ไหว และก่อนที่จะพลั้งมือฆ่าใครตาย จึงเลือกหันหลังให้โลกที่เต็มไปด้วยความโสมมและซับซ้อน แล้วหันหน้าเข้าสู่วงการใหม่

สแตนด์อินฉากแอคชั่น

อาชีพที่ต้องใช้ร่างกายเข้าแลก ทั้งต้องพุ่งตัวจากดาดฟ้า กระโดดหนีออกจากรถที่กำลังจะระเบิด กลิ้งตัวหลบการโจมตี หรือพุ่งชนกระจกจนแตกกระจาย เรียกได้ว่าทุกฉากที่เป็นฉากเสี่ยงตาย ล้วนเป็นเธอที่ต้องแสดงแทน

สำหรับใครหลายคนมันอาจฟังดูบ้าระห่ำ หรืออันตรายเกินไป แต่สำหรับอวี้หลัน มันคืออาชีพที่ซื่อสัตย์ที่สุดที่เธอเคยทำมาในชีวิต เจ็บจริง ล้มจริง แลกค่าตัวจริง และที่สำคัญ ไม่มีใครต้องตาย

อวี้หลันคิดว่า เธอไปได้สวยกับเส้นทางนี้ มันเหมาะกับเธอมากกว่าที่คิด เธอได้ใช้ทักษะทั้งหมดที่มี โดยไม่ต้องเอาชีวิตใครเป็นเดิมพัน

แต่แล้วความสวยและความสามารถของเธอก็ดันไปเข้าตาผู้กำกับเข้าอีกจนได้

ผู้กำกับหนุ่มที่เธอไม่แม้แต่จะสนใจว่าอีกฝ่ายชื่อแซ่อะไร ว่ากันว่าเขาเป็นชายหนุ่มผู้โด่งดังในวงการบันเทิง ผู้พาภาพยนตร์ทำรายได้ทะลุพันล้านติดกันห้าปีซ้อน เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ และมีสายตาเฉียบคมในการมอง "ดาว"

วันนั้น เขาเพียงแค่เดินผ่านฉากฝึกดาบ แต่ภาพหญิงสาวในชุดนักแสดงบู๊ที่เหวี่ยงดาบด้วยสายตาเย็นชา ท่าทางคล่องแคล่วเหมือนเกิดมาเพื่อฆ่า ก็ทำให้เขาหยุดชะงักทันที

"คนนั้น...ชื่ออะไร"

ชายหนุ่มถามผู้ช่วยโดยไม่ละสายตาจากใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังเช็ดเหงื่อ

และเพียงไม่นาน เขาก็เดินเข้าไปหาเธอ พร้อมยื่นข้อเสนอที่ใครหลายคนต่างใฝ่ฝัน

"ผมต้องการปั้นคุณให้เป็นนางเอก"

อวี้หลันเงยหน้ามองเขานิ่งๆ ก่อนจะตอบสั้นๆ อย่างไม่ต้องคิด

"ขอบคุณ แต่ฉันไม่สนใจ"

แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมล้มเลิกง่ายๆ เขาตื๊อเธอทุกทาง ตื๊อเธอไม่หยุด ยอมเสนอให้แม้กระทั่งค่าตอบแทนล่วงหน้าที่สูงลิบ ซึ่งอวี้หลันก็ยืนยันที่จะปฏิเสธทุกทางเช่นกัน แต่อีกฝ่ายกลับยังคงตามตื้อ วุ่นวายจนน่ารำคาญ

ชายหนุ่มเหมือนนักล่าที่ไม่ยอมปล่อยเหยื่อที่ตัวเองหมายตา

ในขณะที่อวี้หลันแค่อยากใช้ชีวิตเงียบๆ ในมุมที่ไม่มีใครสนใจเธอ

อวี้หลันคิดว่าแค่ไม่สนใจก็พอ เดี๋ยวอีกฝ่ายก็คงเหนื่อยและเบื่อไปเอง

แต่เธอคิดผิด...

เพราะการที่เขาเอาแต่สนใจเธอ กลับสร้างความไม่พอใจและความเกลียดชังให้กับผู้หญิงอีกคน

เธอยังไม่ทันจะได้ย่างเท้าก้าวขึ้นสู่จุดสว่างในวงการบันเทิงเลยด้วยซ้ำ กลับถูกกำจัด

อวี้หลันคิดว่าตัวเองหนีจากความตายได้แล้วแท้ๆ แต่กลับต้องมาตายง่ายๆ เพราะพิษของความหึงหวงและอิจฉาริษยาของสตรีด้วยกันเอง

เธอถูกนางเอกที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงและคงจะเป็นคู่ขาของเจ้าผู้กำกับเฮงซวยนั่น วางยานอนหลับในน้ำดื่ม ทำให้เธอหมดสติกลางฉากใต้น้ำ

เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงน้ำทะลักเข้าปากและจมูก ภาพสุดท้ายที่เห็นคือภาพฟองอากาศแตกกระจาย และความรู้สึกสุดท้ายคือ... 

ความคับแค้นใจที่มีต่อผู้กำกับเฮงซวยนั่น

และเธอคงแค้นเขามาก กระทั่งในวินาทีสุดท้าย เธอยังเห็นใบหน้าของเขากำลังใกล้เข้ามา ก่อนที่ความมืดจะกลืนกินทุกอย่าง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่53เที่ยวชมตลาด

    "ข้าคิดว่า เจ้าควรถอยออกมาให้ห่างจากว่าที่ชายาข้านะ เจ้าห้า"ดวงเนตรดุดันขององค์ชายใหญ่ฉายแววกร้าว ขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ หลี่จื้อหยวนยืนนิ่งไม่ไหวติง ดวงตาคมปลาบยังคงตรึงอยู่บนร่างบอบบางของอวี้หลัน สีหน้าสงบนิ่ง แต่แฝงความดื้อรั้นชัดเจน เขาแค่นยิ้มเย็น ก่อนหมุนตัวกลับไปสบตาพี่ชายต่างมารดาอย่างท้าทาย"เสด็จพี่ เกรงว่าทรงเข้าใจผิดแล้วกระมัง ข้าหาใช่คนอื่นคนไกล เพียงแวะมาทักทายหลันเอ๋อร์เท่านั้น"คำพูดนั้นแม้ฟังดูสุภาพแต่กลับแฝงแววท้าทาย ไม่มีผู้ใดยอมก้าวถอย บรรยากาศรอบตัวพลันเคร่งขรึมจนแม้แต่สายลมเย็นที่พัดลอดหน้าต่างเข้ามาก็ไม่อาจคลายความร้อนแรงระหว่างทั้งสองลงได้แต่ก่อนที่จะเกิดการปะทะกันระหว่างสองพี่น้อง อวี้หลัน สตรีเพียงผู้เดียวท่ามกลางแรงกดดันราวสนามรบ นางยอบกายเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบแต่ชัดเจน"องค์ชายห้า ได้โปรดหลีกทางให้หม่อมฉันด้วยเพคะ"เสียงหวานใสของนางเปรียบดังสายน้ำเย็นที่สาดลงบนเพลิงที่กำลังลุกโชน หลี่จื้อหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาสั่นไหวเต็มไปด้วยความตัดพ้อและเจ็บปวด เขาจ้องมองนางเนิ่นนาน ราวกับไม่อยากยอมรับคำพูดนั้น ก่อนจะฝืนหัวเราะเบาๆ ท้ายที่สุดก็ยอมถอย หลีกทางให

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่52ประจันหน้า

    หลังจากเหตุการณ์มากมายถาโถมเข้ามาในจวนอวี้ ความเงียบสงัดก็กลับกลายเป็นสิ่งที่ปกคลุมอยู่ทั่วทุกมุม แม้เรื่องราวจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ในใจของใครหลายคนยังคงหลงเหลือร่องรอยแห่งความเจ็บปวดอวี้จิ้งผู้เป็นบิดามองบุตรีคนรองด้วยสายตาอ่อนโยนกว่าที่เคย ความเข้มงวดถูกแทนที่ด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง ภายหลังเหตุการณ์คาวเลือดและความวุ่นวายในตระกูล เขาเกรงว่าดวงใจของอวี้หลันจะถูกครอบงำด้วยความหวาดกลัวและเศร้าหมอง"หลันเอ๋อร์"อวี้จิ้งเอ่ยเรียกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "หากเจ้าอยากออกไปเที่ยวเล่นนอกจวนก็ไปเถิด ความครึกครื้นภายนอกอาจช่วยให้จิตใจผ่อนคลายได้บ้าง"อวี้หลันยอบกายคารวะรับคำ ดวงตาคู่งามแม้ยังเจือความสงบนิ่ง แต่ในแววตากลับสะท้อนประกายอ่อนไหวเล็กน้อย นางรู้ดีว่า คำอนุญาตครั้งนี้ของบิดาไม่ใช่เพียงเพราะความเอ็นดู แต่เพราะท่านพ่อห่วงใยหัวใจของนางอย่างแท้จริง"ขอบคุณท่านพ่อเจ้าค่ะ"น้ำเสียงอ่อนหวานตอบรับอย่างอ่อนน้อม จะว่าไป การได้ออกไปสูดอากาศภายนอกก็ดีเหมือนกัน ความคึกคักของผู้คนในตลาด อาจช่วยคลายความอึดอัดในใจที่ยังหลงเหลืออยู่ได้บ้าง อีกทั้งนางเองก็ยังไม่เคยมีโอกาสเที่ยวชมความครื้นเครงของโลกภายน

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่51คลื่นใต้น้ำ

    ภายในห้องคุมขังอับชื้น กลิ่นสนิมของโซ่เหล็กและคราบเลือดคละคลุ้งอยู่โดยรอบ ร่างของเซิ่งซื่อซูบเซียวลงจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ใบหน้าซีดขาวเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ซ่อนความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ไม่เคยสมาน แผลที่แผ่นหลังของนางเริ่มเน่าเปื่อย แม้จะมีการทำแผลอย่างลวกๆ แต่พิษไข้ก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง นางนอนซูบซีดบนฟางเก่า เสียงหายใจขาดห้วงราวเปลวเทียนใกล้ดับดวงตาของนางพร่ามัว น้ำตาเอ่อรื้น เมื่อนึกถึงบุตรชายบุตรสาวที่ไม่อาจกอดเป็นครั้งสุดท้าย ความเจ็บปวดในกายคล้ายถูกกลืนหายไป เหลือเพียงความขมขื่นที่ตรึงอยู่กลางใจในห้วงสุดท้าย คล้ายถูกดึงวิญญาณไปทีละน้อย สายตาพร่ามัวค่อยๆ จับภาพตรงหน้า แล้วร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นราวกับฝันไป๋ซูเหยา ฮูหยินเอกผู้ล่วงลับ ภรรยาคนแรกของอวี้จิ้ง ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยชุดผ้าแพรสีอ่อนงดงาม ดวงหน้าสงบหากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความโกรธแค้นเซิ่งซื่อสะดุ้งเฮือก หัวใจสั่นสะท้าน นางพึมพำเสียงแผ่วเหมือนเพ้อ"ไป๋ซูเหยา เจ้า…เจ้าใช่หรือไม่"ภาพตรงหน้านั้นเหมือนจริงเหลือเกิน ริมฝีปากของไป๋ซูเหยาขยับเอื้อนเอ่ย แต่เสียงที่ได้ยินกลับเป็นเสียงกรีดร้องของหญิงผู้สิ้นใจด้วยพิษที่นางเป็นคนมอบให้ ค

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่50ลงดาบเซิ่งซื่อ

    "ไม่ใช่ว่าท่านมีจุดประสงค์อื่นหรอกหรือ"เสียงของอวี้หลันเอ่ยดังขึ้นชัดถ้อยชัดคำ ทุกถ้อยคำหนักแน่นดุจคมดาบ นางก้าวออกมาหนึ่งก้าว ดวงตาคมกริบฉายแววกร้าว ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยเสียงเรียบเย็น"สิ่งที่ท่านทำไปทั้งหมด ก็เพื่อเปิดทางให้หลานชายของท่านย่ำยีข้า... คงไม่ต้องให้ข้าบอกกระมังว่าเพื่อสิ่งใด"สิ้นถ้อยคำนั้น บรรยากาศพลันเงียบงัน หนักหน่วงจนผู้ใดก็ไม่กล้าเอ่ยอันใด บ่าวไพร่ที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างหน้าถอดสี ร่างสั่นระริก บางคนถึงกับหายใจติดขัดราวอกจะระเบิดดวงตาคมกริบของอวี้หลันสบกับผู้เป็นบิดา ก่อนจะตวัดไปยังร่างไร้สติของเซิ่งกงซุนที่ถูกองครักษ์คุมตัวลากเข้ามา ร่างนั้นนอนแน่นิ่งไร้เรี่ยวแรงบนพื้น ดูน่าสังเวชยิ่งนัก"นี่... นี่มันหมายความเช่นไร"อวี้จิ้งใบหน้าดำคล้ำ ตวัดสายตามองใบหน้าซีดเผือดของเซิ่งซื่ออย่างดุดันคำพูดนั้นของบุตรสาวที่ดังก้องกังวานในห้องหนังสือ ราวกับฟ้าผ่าลงมากลางใจอวี้จิ้ง เขาคล้ายจะมองเห็นความผิดหวังวูบหนึ่งในดวงตาของนาง ใช่ เขาเกือบจะใจอ่อนเพียงคำพูดไม่กี่คำของเซิ่งซื่อดวงตาคมวาววับของอวี้จิ้งจ้องมองภรรยาที่เขาเคยไว้ใจมานาน ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยความอ่อนโยนในความทรงจำ ยาม

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่49เซิ่งซื่อจนมุม

    เซิ่งซื่อก้าวออกมาส่งแขกด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน ยังคงรักษาท่วงท่าอันงดงามและคำพูดนอบน้อมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นางเอ่ยขอบคุณเสียงนุ่ม เสมือนว่าเหตุการณ์ที่เจ้าของงานและบุตรทั้งสองหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรใส่ใจ แขกหลายคนมองหน้ากันอย่างประหลาดใจที่งานเลี้ยงถูกยุติลงเร็วกว่ากำหนด ทั้งที่ยังไม่ทันได้กล่าวคำอำลาเจ้าของงานด้วยซ้ำ"วันนี้ท่านอัครเสนาบดีมีธุระด่วนกะทันหัน จึงต้องขออภัยทุกท่านด้วยเจ้าค่ะ"เซิ่งซื่อยิ้มกล่าวเสียงนุ่มนวล มือขาวเรียวผสานคำนับทุกผู้คนอย่างสง่างามแขกหลายคนแม้จะรู้สึกฉงน แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าตั้งคำถามให้เป็นเรื่องใหญ่ จะมีก็เพียงการลอบสบตากันและการกระซิบกระซาบเบาๆ ก่อนแยกย้ายกันกลับไป แต่ละคนเก็บความสงสัยไว้ในใจเพียงเท่านั้นเมื่อประตูใหญ่ค่อยๆ ปิดลง ความเงียบอึมครึมก็เข้าปกคลุมทั่วโถงเรือนรับรองทันที รอยยิ้มที่เคยแต้มอยู่บนใบหน้าเซิ่งซื่อพลันเลือนหาย นางยกพัดในมือขึ้นโบกเบาๆ แววตาฉายประกายเย่อหยิ่งและพึงพอใจในสายตาของนาง เหตุการณ์ในคืนนี้หาใช่ความน่าอับอายไม่ หากแต่เป็นหลักฐานว่าแผนการที่วางเอาไว้กำลังเดินหน้าไปตามครรลอง ทุกสิ่งทุกอย่า

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่48กำจัดเซิ่งซื่อ

    แสงจันทร์ส่องลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามาในเรือนด้านทิศตะวันออกอย่างเงียบสงัด แสงเงินบางเบานั้นทอดลงบนร่างของอวี้เฉินที่นอนขดอยู่บนตั่งไม้ ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความเจ็บปวด ดวงหน้าซีดเผือดราวกระดาษ เหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผากและขมับ มือหนึ่งกุมท้องแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้น เขาขบกรามแน่นเพื่อกลั้นเสียง แต่สุดท้ายก็ยังเล็ดลอดเสียงครางต่ำออกมาอย่างน่าเวทนาเสียงนั้นแม้จะแผ่วเบา หากแต่กลับบาดลึกเข้าไปในอกของอวี้จิ้งผู้เป็นบิดา เขายืนเฝ้าอยู่ข้างเตียงของบุตรชายไม่ห่าง สายตาเต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม ใบหน้าที่เคยสุขุมมั่นคงในยามว่าราชการ บัดนี้กลับฉายชัดถึงความทุกข์ระทมอย่างไม่อาจปิดบัง มือใหญ่กำแน่นอยู่ข้างลำตัว ราวกับพยายามกักเก็บความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามามิให้ปะทุออกมาหัวใจของเขาเจ็บปวดเมื่อเห็นบุตรชายนอนทุรนทุราย เหงื่อเม็ดเล็กไหลชุ่มเต็มแผ่นอกและหน้าผาก แต่ในขณะเดียวกันความคิดอีกด้านกลับพลุ่งพล่านไม่หยุด เมื่อหลักฐานทั้งหมดชี้ชัดไปยังภรรยาของตนความรู้สึกมากมายถาโถมกดทับอยู่ในอกของอวี้จิ้ง ราวกับมีหินหนักทับทวีอยู่ไม่สิ้นสุด ดวงตาที่ทอดมองบุตรชายบนเตียงเต็มไปด้วยความห่วงใย แต่ลึกลงไปในนั้นกลับแฝงด้วยคว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status