Home / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่2คุณหนูรองอวี้หลัน

Share

ตอนที่2คุณหนูรองอวี้หลัน

last update Last Updated: 2025-07-08 20:11:23

เสียงระฆังของศาลเจ้าเล็กๆ ด้านท้ายเมืองดังแว่วมาแต่ไกล ท่ามกลางสายลมเย็นของปลายฤดูใบไม้ผลิ ภายในเรือนที่ล้อมรอบด้วยกลิ่นหอมของดอกเหมย หญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่หน้ากระจกทองเหลือง ใบหน้าของนางซีดเซียวราวกับไร้ชีวิต 

"นี่เราตายไปแล้ว หรือว่ายังมีชีวิตอยู่กันแน่"

เสียงเอ่ยแผ่วเบาดังขึ้น ราวกับพึมพำกับตนเอง

ก่อนจะหมดสติ นางยังเป็น อวี้หลัน สตรีในยุคปัจจุบัน แต่พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที กลับมาอยู่ในร่างของหญิงสาวในยุคโบราณผู้มีชื่อแซ่เดียวกัน ทั้งใบหน้ายังมีเค้าโครงเดียวกัน ผิดแต่ตอนนี้ใบหน้าที่เห็นนั้นอ่อนเยาว์กว่า 

รอยยิ้มเยาะหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอวี้หลัน นางชั่งสมกับเป็นคนบาปหนาเสียจริง ตายแล้วก็ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด ไม่ได้มีชีวิตที่สุขสงบ กลับมาโผล่ในยุคที่ไม่คุ้นเคยนี้ ไม่รู้ว่าสวรรค์ส่งนางมาให้ชดใช้กรรม กับการที่นางคร่าชีวิตผู้อื่นไปมากมายหรืออย่างไร ถึงได้ส่งนางมาอยู่ในร่างที่ถูกวางยาพิษเช่นนี้

ใช่แล้ว เจ้าของร่างเดิมนี้ถูกวางยาพิษจนทำให้ถึงแก่ความตาย และดูเหมือนจะถูกวางยามาเป็นเวลานาน ร่างกายถึงได้อ่อนแอถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าคนที่ถูกวางยาเช่นนี้ ชีวิตคงไม่ได้สงบราบรื่นนัก

อวี้หลันถอนหายใจเบาๆ หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา ความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิมก็ไหลบ่าราวกับน้ำป่าที่ทะลักทลายไร้ทิศทาง ไม่รู้ว่าเรื่องใดเป็นเรื่องใดผสมปนเปกันไปหมด

เสียงร่ำไห้ของเด็กหญิงตัวน้อย

เสียงกล่องเครื่องหอมร่วงกระแทกพื้น

เสียงร่ำลาของหญิงงามผู้หนึ่ง ที่ดับสิ้นไปพร้อมกับกลิ่นเลือดที่เจือจางในอากาศ

ในความทรงจำ เจ้าของร่างคือบุตรีคนรองที่กำเนิดจากฮูหยินเอกผู้ล่วงลับของรองเสนาบดีกรมพิธีการนามว่า อวี้จิ้ง 

นางมีน้องชายฝาแฝดคนหนึ่ง เด็กคนนั้นอายุเพียงแค่เจ็ดขวบก็ถูกส่งไปศึกษานอกเมืองหลวงทันทีที่ผู้เป็นมารดาเสียชีวิต

มีพี่สาวและน้องชายต่างมารดาที่เกิดจากฮูหยินรองอีกสองคน

มีคู่หมายที่ผู้ใหญ่พูดคุยกันไว้ตั้งแต่วัยเยาว์

เจ้าของร่างแต่เดิมเป็นเพียงเด็กสาวร่างกายอ่อนแอ จิตใจดี อ่อนโยน แต่ขี้ขลาด ไม่สู้คน นางชอบเก็บตัวเงียบๆ อยู่แต่ในเรือนของตัวเอง ไม่สุงสิงกับใคร และแทบไม่เคยสร้างปัญหาให้ผู้ใด พูดจานิ่มนวลเกินไปจนคนรอบข้างมองว่าไร้ตัวตน แม้แต่บ่าวไพร่ก็เริ่มมองข้ามนางไปโดยปริยาย

สำหรับทุกคนแล้ว คุณหนูรองผู้นี้เป็นเงาเลือนรางที่มีอยู่ก็เหมือนไม่มี

จนกระทั่งเด็กสาวอายุย่างเข้าสิบห้าปี ซึ่งเป็นวัยสำคัญของหญิงสาวชนชั้นสูงในยุคนี้ที่จะต้องเข้าสู่พิธีปักปิ่น ถือเป็นก้าวแรกสู่การหมั้นหมายและแต่งงาน แต่นางกลับล้มป่วยหนักอย่างกะทันหัน ก่อนจะถึงวันปักปิ่นเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น

อาการของนางรุนแรงจนน่าตกใจ ร่างกายซูบซีด ไร้เรี่ยวแรง หลังจากนั้นก็หมดสติไปไม่ฟื้นขึ้นมาอีก มีเพียงลมหายใจบางเบาที่บอกให้รู้ว่า คนยังคงมีชีวิต หมอที่เชิญมาดูอาการล้วนพากันส่ายหัว ไม่มีใครกล้ารับประกันว่านางจะรอด ทั่วทั้งจวนต่างรอเพียงข่าวร้าย

ตอนนี้ความทรงจำของเจ้าของร่างก็มีเพียงเท่านี้ ซึ่งมันแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย แม้นางจะพยายามเค้นความทรงจำในหัว แต่ก็ราวกับมีม่านหมอกบางๆ ขวางกั้น มองเห็นและจดจำได้อย่างรางเลือน

อวี้หลันหลับตาลงช้าๆ เมื่อรู้สึกถึงอาการปวดศีรษะที่แล่นวาบขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ดูท่านางคงต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับร่างใหม่นี้ ร่างกายนี้อ่อนแอ จิตใจก็เปราะบางจนรู้สึกขัดใจ

ในตอนนี้ นางคงทำได้เพียงไหลตามน้ำไปก่อน คอยระมัดระวังหยั่งเชิงสถานการณ์อย่างเงียบๆ เพราะนางยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าใครคือผู้วางยาพิษ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตายของเจ้าของร่างนี้คือใคร เจตนาของอีกฝ่ายคืออะไร เหตุใดเด็กสาวอายุเพียงเท่านี้ถึงมีคนอยากให้ตาย ชีวิตของอวี้หลันผู้นี้มีเงื่อนงำเต็มไปหมด

ตอนนี้สิ่งที่น่าหวั่นใจและน่ากังวลที่สุด คือคนที่สามารถวางยาเจ้าของร่างได้นานขนาดนี้ ย่อมเป็นคนที่อาศัยอยู่ในจวนเดียวกันกับนาง ใกล้ตัวถึงเพียงนี้แต่นางกลับไม่รู้อะไรเลย

"คุณหนู ท่านหมอมาถึงแล้วเจ้าค่ะ"

เสียงสาวใช้หน้าตาอ่อนเยาว์เอ่ยขึ้น พร้อมเดินเข้ามาช่วยพยุงนางกลับไปนอนบนเตียง

อวี้หลันพิศมองสาวใช้ข้างกาย สาวใช้นางนี้มีนามว่า ฉิงหว่าน จากความทรงจำเด็กคนนี้เป็นสาวใช้คนสนิทของเจ้าของร่าง อีกฝ่ายเติบโตมาพร้อมกับนาง และเป็นคนเดียวที่ยังคงรับใช้อยู่ข้างกายผู้เป็นนายอย่างซื่อสัตย์

"ขอบใจ ลำบากเจ้าแล้ว"

หญิงสาวเอ่ยกับอีกฝ่าย พร้อมกับรอยยิ้มบางเบา

อวี้หลันนั่งพิงหมอนผ้าปักลายเมฆมงคลบนเตียงไม้หอม ห่มผ้าคลุมไหล่เรียบง่าย แววตาสงบเสมือนผืนน้ำที่ไร้คลื่นลม

หมอชราสวมอาภรณ์กลางเก่ากลางใหม่แต่สะอาดสะอ้าน เดินเข้ามาภายในห้องอย่างสงบ แผ่นหลังงุ้มเล็กน้อยตามวัย มือหนึ่งหอบกล่องไม้หอมทรงยาวที่ขัดเงาเรียบเนียน สีเข้มจัดของเนื้อไม้เผยให้เห็นร่องรอยแห่งกาลเวลาจางๆ 

เขาวางกล่องลงบนโต๊ะเตี้ยหน้าเตียง เปิดฝาออกอย่างแผ่วเบา เสียงเนื้อไม้เสียดสีกันเบาๆ ก่อนที่กลิ่นอ่อนละมุนของไม้จันทน์ผสมการบูรจะค่อยๆ ลอยฟุ้งออกมา แทรกด้วยกลิ่นสมุนไพรแห้งที่ติดอยู่ภายใน ทุกสิ่งบ่งบอกถึงความชำนาญและประสบการณ์ของหมอชราผู้นี้

อวี้หลันจับจ้องทุกการกระทำของหมอผู้นั้นอย่างไม่วางตา แววตาของนางสงบนิ่งแต่แฝงความระแวดระวังจนผู้ที่อยู่ข้างๆ สัมผัสได้

"บ่าวเป็นคนไปเชิญท่านหมอตู้มาเองเจ้าค่ะ คุณหนูให้ท่านหมอตรวจรักษาเถิดนะเจ้าคะ"

ฉิงหว่านรีบเอ่ยเสียงเบาแทบจะกลายเป็นกระซิบ พูดจบ นางก็รีบคุกเข่าลงข้างกายผู้เป็นนาย สองมือยื่นไปกุมมือบอบบางของผู้เป็นนายเอาไว้ แววตาเต็มไปด้วยความร้อนใจและอ้อนวอนอย่างเห็นได้ชัด นางกลัวว่าคุณหนูจะไม่ยอมรับการรักษาจากหมอผู้นี้

ท่านหมอตู้เป็นเพียงหมอชาวบ้านผู้หนึ่ง มีชื่อเสียงในหมู่ชาวบ้านยากไร้เท่านั้น เป็นเพียง คนธรรมดา หาใช่หมอที่มีชื่อเสียงที่เหล่าขุนนางและชนชั้นสูงให้ความเชื่อถือ 

แต่หลังจากที่คุณหนูของนางล้มป่วย หมอมีชื่อเสียงมากหน้าหลายตา หรือแม้กระทั่งหมอหลวงที่นายท่านเชิญมา กลับไม่มีผู้ใดสามารถรักษาอาการของคุณหนูให้ฟื้นคืนสติได้เลย

ฉิงหว่านไม่เชื่อสักนิดว่าอาการของคุณหนูจะรักษาไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่หมอถูกเชิญมาล้วนมีฮูหยินแซ่เซิ่งผู้นั้นคอยกำกับดูแลไม่ใช่หรือ จะให้นางเชื่อคำพูดของหมอเหล่านั้นได้อย่างไร

นั่นจึงเป็นเหตุให้ฉิงหว่านตัดสินใจลอบออกจากจวนไปเสาะหาหมอด้วยตนเอง หวังเพียงว่าแม้จะเป็นหมอที่ไม่มีชื่อเสียง แต่หากมีฝีมือก็ยังดีกว่าให้คุณหนูของนางนอนรอความตาย

และนางก็ได้พบกับท่านหมอตู้ แต่การจะเชิญหมอไร้ชื่อให้มาดูอาการของคุณหนูที่ไร้สติย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย นางจึงทำได้แค่บอกถึงอาการของคุณหนูจนได้เทียบยามา จากนั้นก็นำกลับมาปรุงและป้อนให้คุณหนูด้วยมือตนเอง

และผลก็เป็นดั่งปาฏิหาริย์ คุณหนูของนางฟื้นขึ้นมาจริงๆ

ตอนนี้คุณหนูฟื้นคืนสติแล้ว นางจึงฉวยโอกาสนี้ เชิญท่านหมอตู้เข้ามาตรวจดูอาการ

อวี้หลันสบตากับฉิงหว่าน ราวกับกำลังอ่านทะลุถึงสิ่งที่อีกฝ่ายคิดอยู่ในใจ นางมองออกถึงเจตนาที่อีกฝ่ายกำลังสื่อ

การที่บ่าวผู้หนึ่งกล้ากระทำการอุกอาจ ลอบออกไปพาหมอชาวบ้านมารักษาเจ้านายตนเช่นนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ก่อนหน้านี้คงเลวร้ายจนไร้หนทางจริงๆ

"เชิญท่านหมอเจ้าค่ะ"

อวี้หลันไม่ได้คิดสิ่งใดอีก นางยื่นมือให้อีกฝ่ายโดยไม่อิดออด จากนี้คงต้องดูความสามารถของหมอตู้ผู้นี้แล้ว

ในขณะเดียวกันนั้น เสียงฝีเท้าเร่งร้อนของผู้ที่ถูกสั่งให้จับตามองความเคลื่อนไหวในเรือนฮวาหง ก็วิ่งผ่านทางเดินไม้ในเรือนข้าง กลับไปรายงานผู้เป็นนาย ทันที ข่าว "คุณหนูรองฟื้นขึ้นมาแล้ว" กระจายไปทั่วจวน นายท่านใหญ่แห่งสกุลอวี้ที่พึ่งกลับมาถึงจวนและฮูหยินเอกที่พึ่งได้รับการแต่งตั้งได้ไม่นาน ก็มาถึง เรือนฮวาหง อันเงียบสงบนี้เช่นกัน

ภายในจวนดูเหมือนจะเกิดคลื่นลมบางอย่างขึ้น

ไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กสาวที่ร่อแร่ใกล้ตายผู้นั้นจะสามารถลืมตาตื่นขึ้นมาได้อีกครั้ง

และคงไม่มีใครคาดคิดอีกเช่นกัน ว่าผู้ที่ลืมตาตื่นขึ้นมาและพวกเขาต้องเผชิญต่อจากนี้จะไม่ใช่อวี้หลันคนเดิมอีกต่อไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่4เซิ่งซื่อ

    "หลันเอ๋อร์เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"อวี้จิ้งเอ่ยถามบุตรสาวน้ำเสียงเจือความร้อนใจ เมื่อเห็นว่านางนิ่งเงียบไปไม่ตอบคำอวี้หลันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ปรายตามองไปยังสตรีที่ยืนเงียบๆ อยู่ด้านหลังของอวี้จิ้ง ก่อนจะถอนสายตากลับมา เอ่ยตอบเสียงแผ่วเจืออาการอ่อนแรง สายตานิ่งเรียบราวไม่มีอะไร ทว่าในความนิ่งนั้นกลับมีประกายบางอย่างซ่อนอยู่"ท่านหมอกำลังจะตรวจเจ้าค่ะ""อ้อ เช่นนั้นหรือ"อวี้จิ้งพยักหน้ารับคำ ก่อนจะหันไปมองชายชราที่ยืนอยู่ด้านข้าง สายตาสำรวจด้วยความสงสัยอยู่ชั่วครู่ แม้จะรู้สึกประหลาดใจที่อีกฝ่ายดูเป็นเพียงหมอชาวบ้าน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใด เพียงบอกให้อีกฝ่ายเร่งตรวจดูอาการบุตรสาว"เชิญท่านหมอ"ท่านหมอตู้ที่ลุกขึ้นหลีกทางให้อวี้จิ้งตั้งแต่แรก พอได้ยินเช่นนั้นก็ค้อมศีรษะลงทำความเคารพเจ้าของจวน เขาไม่ใช่คนโง่ ย่อมพอเข้าใจได้ว่าเหตุใดคุณหนูผู้นี้จึงตอบออกมาเช่นนั้น เมื่อเข้าใจเจตนาของอีกฝ่ายก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด รีบก้าวเข้าไปนั่งลงตรงที่เดิมอย่างสงบ ยื่นมือไปจับชีพจรของนางอีกครั้ง ทำราวกับพึ่งจะตรวจรักษาปลายนิ้วของเขาวางลงบนข้อมืออย่างมั่นคง ผ่านไปครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุม"ชีพจรย

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่3รองเสนาบดีกรมพิธีการอวี้จิ้ง

    หมอชรายื่นมือออกไปจับชีพจรบนข้อมือบอบบาง ปลายนิ้วจับนิ่งอยู่ครู่หนึ่งพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย คุณหนูผู้นี้ถูกวางยาพิษจริงๆสีหน้าของท่านหมอตู้ไม่ได้มีความประหลาดใจมากนัก เขาคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่แรก หลังจากได้ฟังคำบอกเล่าถึงอาการจากสาวใช้ เทียบยาที่มอบให้ไปในครั้งนั้นจึงเป็นยาล้างพิษตามหลักการที่ควรจะเป็นเพียงแค่คิดว่า ใครกันที่อำมหิตถึงกับต้องการเอาชีวิตดรุณีน้อยนางหนึ่งชีวิตของผู้คนในวังวนชนชั้นสูง ไม่เคยง่ายเลยจริงๆ ทุกย่างก้าวที่เดินล้วนต้องคิดให้รอบคอบ เพราะอาจหมายถึงความเป็นหรือตายเพียงชั่วพริบตาเดียว คำพูดหนึ่งคำ สายตาหนึ่งคู่ หรือแม้แต่รอยยิ้มที่ดูไร้พิษภัย ก็อาจเป็นดาบที่ซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดได้มาฟรี แม้แต่ลมหายใจก็ยังต้องแลกมาด้วยการระแวดระวังและความอดทนช่างแตกต่างกับชีวิตของชาวบ้านธรรมดาเสียเหลือเกิน พวกเขาเหล่านั้นไม่ต้องพะวงว่าจะถูกลอบทำร้ายจากคนที่ดูเหมือนหวังดี ไม่ต้องวางแผนรับมือกับผู้คนรอบตัว ที่ไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้าย ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นแต่ละวัน แค่ได้กินอิ่มท้อง ได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว แม้จะยากจนสักเพียงใดก็ยังมีรอยยิ้มให้เห็นต่างกับโลก

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่2คุณหนูรองอวี้หลัน

    เสียงระฆังของศาลเจ้าเล็กๆ ด้านท้ายเมืองดังแว่วมาแต่ไกล ท่ามกลางสายลมเย็นของปลายฤดูใบไม้ผลิ ภายในเรือนที่ล้อมรอบด้วยกลิ่นหอมของดอกเหมย หญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่หน้ากระจกทองเหลือง ใบหน้าของนางซีดเซียวราวกับไร้ชีวิต "นี่เราตายไปแล้ว หรือว่ายังมีชีวิตอยู่กันแน่"เสียงเอ่ยแผ่วเบาดังขึ้น ราวกับพึมพำกับตนเองก่อนจะหมดสติ นางยังเป็น อวี้หลัน สตรีในยุคปัจจุบัน แต่พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที กลับมาอยู่ในร่างของหญิงสาวในยุคโบราณผู้มีชื่อแซ่เดียวกัน ทั้งใบหน้ายังมีเค้าโครงเดียวกัน ผิดแต่ตอนนี้ใบหน้าที่เห็นนั้นอ่อนเยาว์กว่า รอยยิ้มเยาะหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอวี้หลัน นางชั่งสมกับเป็นคนบาปหนาเสียจริง ตายแล้วก็ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด ไม่ได้มีชีวิตที่สุขสงบ กลับมาโผล่ในยุคที่ไม่คุ้นเคยนี้ ไม่รู้ว่าสวรรค์ส่งนางมาให้ชดใช้กรรม กับการที่นางคร่าชีวิตผู้อื่นไปมากมายหรืออย่างไร ถึงได้ส่งนางมาอยู่ในร่างที่ถูกวางยาพิษเช่นนี้ใช่แล้ว เจ้าของร่างเดิมนี้ถูกวางยาพิษจนทำให้ถึงแก่ความตาย และดูเหมือนจะถูกวางยามาเป็นเวลานาน ร่างกายถึงได้อ่อนแอถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าคนที่ถูกวางยาเช่นนี้ ชีวิตคงไม่ได้สงบราบรื่นนักอวี้หลันถอนหายใ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่1อวี้หลันนักฆ่าอันดับหนึ่ง

    ในค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำ ตกลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง ใต้เงามืดของตึกสูง หญิงสาวร่างบางในชุดแนบเนื้อสีดำสนิทกลมกลืนไปกับความมืด เคลื่อนไหวอย่างเงียบกริบ ฝีเท้าเบาราวกับแมว เธอย่างเท้าผ่านตึกสูงกลางเมืองเหมือนสายลม ในมือถือปืนเก็บเสียงกระบอกเล็กเรียบลื่นมันวาว ที่ยังคงอุ่นจากการลั่นไกเมื่อไม่กี่นาทีก่อน กระสุนนัดเดียว ปิดฉากชีวิตของเป้าหมายอย่างแม่นยำ เงียบสนิทเหมือนฝันร้ายที่ไม่มีใครได้ยินก่อนที่หญิงสาวจะหายลับไปท่ามกลางสายฝน ราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ในค่ำคืนนี้...เธอคือ อวี้หลัน หรือที่วงการนักฆ่ารู้จักกันดีในนาม "เงาสีชาด" นักฆ่าอันดับหนึ่ง ผู้ที่ลงมือเมื่อใด ไม่มีเป้าหมายใดรอดชีวิตแต่ก่อนจะกลายเป็นเงามรณะในโลกมืด เธอเคยเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ อายุแค่เก้าขวบ มีพ่อขี้ยาที่นิสัยโหดร้าย ชอบทำร้ายร่างกายแม่กับเธออย่างทารุณเป็นประจำจนกระทั่งคืนหนึ่งเกิดเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ เมื่อคนเป็นพ่อบังคับให้แม่ขายตัวแลกยาแม่ของเธอถูกกรอกยา ทำร้ายร่างกายจนตายในคืนนั้นเด็กหญิงที่ถูกความโกรธ ความเกลียด ครอบงำจนขาดสติ แทงมีดใส่คนเป็นพ่อจนทะลุอก เธอ...ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขา แต่ก็ไม่มีทางย้อนคื

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status