Home / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่40ศึกชิงนาง

Share

ตอนที่40ศึกชิงนาง

last update Last Updated: 2025-09-03 21:13:09

หลังจากพิธีปักปิ่นอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าผ่านพ้นไป ตกเย็นก็ควรจะเป็นเวลาของคนในครอบครัว 

แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้ว

อวี้จิ้งเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงคำกล่าวที่ว่า

เชิญเทพมาง่าย แต่ส่งกลับไปแสนยาก ก็ในวันนี้เอง

รองเสนาบดีผู้มากบารมี ปลายสายตาเหลือบมองบุรุษหนุ่มผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะด้วยสีหน้าอึมครึม เขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใดออกมา เพราะแม้จะเงียบ แต่หนวดที่กระตุกอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาวาววับที่ราวกับจะพ่นลูกไฟออกมาได้ทุกเมื่อ ก็ฟ้องหมดทุกอย่าง

และถึงจะเป็นเช่นนั้นอีกฝ่ายกลับยังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ หาได้รู้ถึงความผิดของตัวเอง ประหนึ่งว่าเขาคือเจ้าของเรือน มิหนำซ้ำยังทำตัวกลมกลืนอย่างยิ่งราวกับคนในครอบครัว

ไม่ขัดเขิน ไม่เกรงใจ ไม่ถ่อมตน

กระทำตัวเหมือนเขยของบ้านข้าเข้าไปทุกที

หึ…กล้าดียังไง

แน่นอนว่าอวี้จิ้งได้แต่คิดในใจเท่านั้น ไม่มีวันกล้าเอ่ยออกมา

เพราะบุรุษตรงหน้านั้น หาใช่ใครอื่นไกล แต่คือ องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง

การกระทำของอีกฝ่ายในวันนี้สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาอย่างยิ่ง แต่แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพียงใด ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหยางฮูหยินผู้เฒ่า ซึ่งเป็นถึงมารดาของอดีตฮองเฮาและเป็นที่เคารพของเหล่าขุนนางทั้งราชสำนัก แม้แต่รองเสนาบดีผู้มากบารมีเช่นเขาก็ยังต้องก้มศีรษะให้ จึงจำต้องยอมหลับตาข้างหนึ่ง 

เขายินดีให้หยางฮูหยินผู้เฒ่า เป็นผู้ปักปิ่นให้หลันเอ๋อร์ เพราะนับว่าเป็นเกียรติสูงสุดสำหรับบุตรสาว แม้ในใจจะรู้สึกอึดอัดบ้าง แต่ก็ยังรับได้

แต่สิ่งที่มิอาจยอมรับได้คือ การที่อีกฝ่ายเปลี่ยนปิ่นในพิธีโดยพลการ ปิ่นที่ใช้มิใช่สิ่งที่เขาเตรียมไว้ หากเป็นปิ่นของเจ้าคนหน้าหนานี่ ซึ่งไม่ใช่แค่ปิ่นธรรมดา หากแต่มีความหมายลึกซึ้งมากพอจะทำให้ผู้คนทั้งงานจับตามอง

อวี้จิ้งรู้ดีว่า หากลุกขึ้นขัดขวางหรือแสดงความไม่พอใจในตอนนั้น ย่อมไม่ต่างจากการหักหน้าแขกผู้ใหญ่ และเป็นการเสียมารยาทอย่างร้ายแรงในพิธีสำคัญ เขาจึงทำได้เพียงเงียบไว้ กัดฟันทนปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างฝืนใจที่สุด จึงกลายเป็นว่าเหมือนยินยอมรับโดยปริยาย

แต่ดูเอาเถอะ เจ้าตัวต้นเหตุยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ยังคงปักหลักอยู่ที่จวนของเขา หาได้สำนึกว่ากระทำการตามใจตัวเองมากเพียงใด ตอนนี้ไหนเลยจะยังมีจวนใดกล้ามาสู่ขอบุตรสาวของเขาอีก เมื่ออีกฝ่ายกระทำการโจ่งแจ้งถึงเพียงนั้น

ท่านพ่อ พูดออกมาสักทีเถอะขอรับ อย่าให้เขาแย่งชิงพี่สาวไปได้ง่ายๆ

อวี้เฉินตะโกนก้องอยู่ในใจ ขณะเหลือบมองบิดาที่นั่งหน้าเคร่งขรึม ท่าทางฮึดฮัดจนหนวดกระตุกเป็นระยะดูแล้วชวนขันมากกว่าน่าหวาดกลัว

เด็กหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองบิดาด้วยแววตาแน่วแน่ พยายามส่งกำลังใจผ่านสายตาไปให้สุดกำลัง

แม้เขาจะเคารพและนับถือองค์ชายใหญ่ ทั้งยังชื่นชมในความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและความสามารถของอีกฝ่ายจนแทบยกให้เป็นแบบอย่าง แต่...เรื่องของพี่สาวมันคนละเรื่องกันนะ

พี่สาวของเขาน่ะ ทั้งอ่อนโยน เรียบร้อยอ่อนหวาน และบอบบางถึงเพียงนั้น แล้วจะรับมือคนที่ทั้งหยาบกระด้าง ปากร้าย ชอบสั่ง เจ้ากี้เจ้าการ แถมยังชอบทำอะไรตามอำเภอใจตัวเองเช่นผู้เป็นนายได้อย่างไร

นี่เขาไม่ได้แค้นเคืองอะไรอีกฝ่ายหรอกนะ ไม่เล๊ย...อีกอย่าง พระองค์ก็เป็นคนตรัสเอง ว่าไม่ชมชอบสตรีอ่อนแอ

แล้วนี่จะมายื่นไมตรีให้พี่สาวเขาทำไมกัน

อวี้เฉินหรี่ตามองผู้เป็นนาย มุมปากกระตุกยิ้มร้ายกาจอย่างอดไม่อยู่

คิดจะมาเป็นพี่เขยของเขาหรือ ท่านคงต้องพยายามหน่อยนะ องค์ชาย

อวี้จิ้งขึงตาใส่บุตรชายของตนคราหนึ่ง ที่กดดันเขาผ่านทางสายตา แต่จะให้ปฏิเสธความคาดหวังในแววตานั้น เขาก็ทำไม่ลง รองเสนาบดีผู้มากบารมีจึงกระแอมออกมาเบาๆ เพื่อปรับลมหายใจ

"ฮะแอ่ม!"

ก่อนจะใช้น้ำเสียงเรียบขรึมเอ่ยขึ้น สีหน้าสงบนิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยแรงกดดัน

"บุตรสาวของกระหม่อม…เพิ่งจะปักปิ่น"

"ก็ใช่อย่างไร"

องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลงเงยหน้าขึ้นจากจอกชา ตอบคำอย่างไม่สะทกสะท้าน

"พระองค์สามสิบชรรษาแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

อวี้จิ้งเลิกคิ้วน้อยๆ เอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมา คำกล่าวของเขาเต็มไปด้วยความหมาย ทว่าอีกฝ่ายกลับยังตีหน้ามึน 

ส่วนอวี้เฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับพยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วยกับบิดาเสียเต็มประดา

ท่านน่ะแก่แล้วนะองค์ชาย

"นั่นก็ใช่อีกนั่นแหละ"

หลี่เหวินหลงวางจอกชาลง ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงสุขุมแต่ตรงประเด็น

"ข้าจึงควรที่จะแต่งพระชายาได้แล้ว"

อวี้จิ้งขึงตามองคนตรงหน้าอย่างลืมตัว หลงลืมฐานะของอีกฝ่ายไปชั่วขณะ ก่อนจะโพล่งขึ้นอย่างเหลืออด

"แต่หลันเอ๋อร์ของกระหม่อมอายุยังน้อย ห่างกับพระองค์มากเกินไปพ่ะย่ะค่ะ"

รอยยิ้มมุมปากของหลี่เหวินหลงผุดขึ้นทันควัน เขาหรี่ตามองสองพ่อลูกตรงหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความยียวนจนน่าหมั่นไส้

"ใต้เท้าอวี้ สตรีทั่วทั้งแผ่นดินก็ล้วนแต่งงานตอนอายุเท่านี้"

"และข้าก็จำได้ว่าตอนนั้น…พี่สาวอายุสิบเจ็ด ส่วนตัวท่านก็ไม่ได้เรียกว่าหนุ่มนักหรอก แก่กว่าข้าในตอนนี้อีกกระมัง"

ท่านเองก็แต่งภรรยาอายุน้อย

เสียงเอื้อนเอ่ยนั้นราบเรียบ แต่กลับทำเอาอีกฝ่ายสะอึก

"นี่... นี่...ท่าน...ท่านช่าง"

อวี้จิ้งถึงกับพูดไม่ออก เขาอ้าปากจะเถียง แต่กลับไม่มีถ้อยคำใดหลุดออกมา จึงทำได้เพียงอ้าปากพะงาบๆ คล้ายปลาทองขาดอากาศ

สีหน้าของรองเสนาบดีผู้ทรงอำนาจนั้นช่างประหลาดนัก

ทางด้านอวี้เฉิน เมื่อเห็นบิดาผู้เคยกล่าววาจาโต้เถียง ลับฝีปากกับขุนนางทั้งราชสำนักมาแล้วนับไม่ถ้วน กลับมาตกม้าตายเพียงประโยคเดียวจากองค์ชายใหญ่ก็ถึงกับกลอกตาขึ้นฟ้าอย่างปลงตก

เฮ้อ… บิดาข้า แพ้ราบคาบแล้วจริงๆ

อวี้เฉินพึมพำในใจ กลอกตาอีกครั้งพลางส่ายหน้าช้าๆ อย่างสิ้นหวัง ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ดังขึ้นด้านหน้าประตู

อวี้หลันเดินเข้ามาช้าๆ หลังจากชำระกายและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยแล้ว 

นางสวมชุดผ้าไหมเนื้อบางเบาสีส้มอ่อน ปักลายดอกเหมยละเอียดลออ เป็นโทนสีที่ขับผิวให้ยิ่งผุดผ่อง เนื้อผ้าพลิ้วแนบเรือนร่างบอบบางอย่างพอเหมาะ ไม่ฉูดฉาด ไม่โอ้อวด แต่กลับดึงดูดสายตาทุกคู่ให้หันมองโดยไม่รู้ตัว

เส้นผมยาวสลวยที่เคยปล่อยสยายอย่างเด็กสาว บัดนี้ถูกรวบเกล้าเป็นทรงสูงอย่างประณีต ตามแบบของสตรีที่ผ่านพิธีปักปิ่นแล้ว ประดับด้วยปิ่นทองระย้างดงามเรียบหรู แนบอยู่เหนือศีรษะอย่างพอดิบพอดี ผมด้านข้างถักเรียงไล่ระดับแนบศีรษะ เผยให้เห็นแนวต้นคอขาวผ่องระเรื่อ ทุกองค์ประกอบดูคล้ายจะเรียบง่าย แต่ยิ่งพินิจกลับยิ่งงดงามไร้ที่ติ

ดวงหน้างามละมุนที่แต่เดิมก็ตรึงสายตาอยู่แล้ว บัดนี้กลับยิ่งเปล่งประกายเจิดจ้างามสง่า

อวี้จิ้งที่เมื่อครู่ยังอ้าปากพะงาบๆ พูดไม่ออก บัดนี้กลับยืดตัวตรงขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิอย่างเห็นได้ชัด

อวี้เฉินเองก็ถึงกับกะพริบตาปริบๆ พี่สาวของเขางดงามราวกับเทพธิดา

ส่วนองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง เขาแทบละสายตาจากนางไม่ได้ ราวกับลมหายใจขาดห้วงไปชั่วขณะ จึงยกจอกชาขึ้นแนบริมฝีปาก จิบน้ำชาอุ่นร้อนลงลำคอที่แห้งผาก จนเห็นลูกกระเดือกเคลื่อนขยับอย่างชัดเจน สายพระเนตรยังคงจับจ้องนางไม่วางตา 

"สนทนาเรื่องใดกันอยู่หรือเจ้าคะ เคร่งเครียดเชียว"

อวี้หลันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทำลายบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกขัดเขิน

แต่ก่อนที่ใครจะได้เอ่ยอันใด เซิ่งซื่อก็ปรากฏตัวขึ้น ด้านหลังยังตามมาด้วยสาวใช้ที่ประคองถาดขนมเข้ามา บรรยากาศจึงคล้ายจะอึดอัดอึมครึมขึ้นมาในทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่43ผู้มาเยือน

    "หลันเอ๋อร์ ขอเวลาข้าสักครู่ได้หรือไม่"เสียงทุ้มต่ำขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน ทว่าแฝงแววเว้าวอนลึกซึ้ง เขาก้าวขวางเบื้องหน้าในจังหวะที่อวี้หลันหมุนกายจะจากไป หยุดยั้งฝีเท้าเรียวอย่างไม่เปิดโอกาสให้นางหลบเลี่ยงสายตาคมกริบทอดมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อาจละไปได้ ความคาดหวัง ความลังเล และความเจ็บปวดสลักทับซ้อนในแววตาคู่นั้นราวกับเพียงคำตอบหนึ่งคำจากนาง จะสามารถปลดปล่อยหรือขังเขาไว้ตลอดกาลอวี้หลัน..หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หมั้นในวัยเยาว์ของเขา หญิงสาวที่เขาเคยคิดว่าจะได้ครอบครองและปกป้องแต่ตอนนี้นางกลับไกลจากเขาออกไปทุกทีข่าวลือที่โด่งดังไปทั่วเมืองหลวงอยู่ในตอนนี้ ทำให้เขาไม่อาจทนนิ่งเฉย จนต้องมาปรากฏตัวที่นี่ ยิ่งเมื่อได้เห็น ปิ่นปักผม ที่ปรากฏอยู่บนมวยผมของนาง ดวงตาของเขายิ่งแข็งกร้าวปิ่นนั่นหลี่เหวินหลงผู้เป็นพี่ชายหวงแหนยิ่งกว่าสิ่งใด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมอบให้ใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่เขา "หมายปอง" อย่างแท้จริงหลี่จื้อหยวนกำมือแน่น ความรู้สึกในใจร้อนรนแทบระเบิดออกมา แต่กลับไม่เอ่ยอันใด นอกจากสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเปิดกล่องเครื่องประดับในมือออก ยื่นไปตรงหน้าอีก

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่42คนว่างงาน

    มาอีกแล้ว คนผู้นี้ว่างงานนักหรืออย่างไรอวี้จิ้งทอดถอนใจยาวตั้งแต่ยังไม่ทันได้จิบชาเช้า ใบหน้านิ่งขรึมเต็มไปด้วยริ้วรอยของความอดกลั้น และกลิ่นอายของความหงุดหงิดปนเวทนาในชะตากรรมของตนรุ่งเช้า ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีนัก คนก็มาเยือนถึงหน้าจวนเสียแล้ว"หากไม่มีงานการทำ เหตุใดถึงไม่กลับแดนเหนือไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด"อวี้จิ้งได้เพียงบ่นอยู่ในใจ ฟันกรามกัดแน่นจนขมับเต้นตุบๆ ขณะลุกจากที่นั่ง เดินออกไปต้อนรับแขกผู้สูงศักดิ์ แขกที่เหมือนจะกลายเป็นสมาชิกประจำบ้านเข้าไปทุกทีองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง ยืนตระหง่านราวขุนเขาเช่นเคย ท่าทีสงบนิ่ง เยือกเย็นประหนึ่งนักปราชญ์ผู้สูงส่ง ทั้งที่ความจริงแล้วก็แค่คนไร้ยางอาย หน้าด้านหน้าทนผู้หนึ่ง ที่ทำเอาเจ้าบ้านอย่างเขาแทบกระอักเลือดตาย เมื่อวานกว่าจะต้อนคนส่งกลับได้ก็เล่นเอาเขาแทบจะหัวหลุดจากบ่าอยู่หลายครั้ง"องค์ชายใหญ่มาตั้งแต่เช้าเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"อวี้จิ้งเอ่ย พลางฉีกยิ้มบางๆ ที่คล้ายรอยยิ้มของเสือเฒ่ากำลังข่มอารมณ์ แฝงไว้ด้วยคำว่า ‘เจ้าว่างนักหรือ’ ขณะทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท"ใต้เท้าอวี้ พบหน้าข้าแล้วยินดีถึงเพียงนี้เชียว"หลี่เหวินหลงยิ้มรับสีหน้าระร

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่41สนทนาพาที

    เซิ่งซื่อใช่ว่าจะไม่รู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดกดดันที่แผ่คลุมอยู่ภายในห้อง หากแต่นางยังฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าเอาไว้ ไม่ว่าสายตาใครจะจับจ้องมายังนางอย่างไร นางก็ยังสงบนิ่งไม่แสดงพิรุธหลายวันมานี้ นางสัมผัสได้ถึงบรรยากาศภายในจวนที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน นางรับรู้ได้ว่าสามีเริ่มมีท่าทีที่ผิดแผกไป ไม่เหมือนเดิมอย่างที่เคย นับตั้งแต่เกิดเรื่องกับอวี้หลัน ทว่าเขากลับยังคงนิ่งเฉยไม่เอ่ยสิ่งใด นั่นยิ่งทำให้นางทั้งหวาดระแวงและไม่อาจวางใจได้ ความเงียบของเขากลับทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งนางรู้ดีว่าคนอย่างอวี้จิ้งไม่ใช่ผู้ที่จะปล่อยผ่านเรื่องใดไปโดยไม่คิดสืบหาความจริง ไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกล่อได้ง่ายนัก และยิ่งเงียบก็ยิ่งน่าหวาดกลัวแต่ถึงอย่างนั้น นางก็ยังพอจะเบาใจอยู่บ้าง อย่างน้อยที่สุดหลานชายของนางก็กลับมาอย่างปลอดภัย และที่สำคัญ เขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดไว้ให้ถูกสาวมาถึงตัวทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม นางเพียงต้องระวังตัวให้มากพอ และฉลาดพอที่จะไม่ถามถึงรายละเอียดให้มากความ สิ่งที่ไม่รู้ ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ สิ่งที่รู้ นางก็เลือกจะซ่อนไว้ลึกสุดใจ ไม่ให้แม้แต่น้ำเสียงหรือแววตาเผลอเผยพิรุธออ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่40ศึกชิงนาง

    หลังจากพิธีปักปิ่นอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าผ่านพ้นไป ตกเย็นก็ควรจะเป็นเวลาของคนในครอบครัว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้วอวี้จิ้งเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงคำกล่าวที่ว่าเชิญเทพมาง่าย แต่ส่งกลับไปแสนยาก ก็ในวันนี้เองรองเสนาบดีผู้มากบารมี ปลายสายตาเหลือบมองบุรุษหนุ่มผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะด้วยสีหน้าอึมครึม เขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใดออกมา เพราะแม้จะเงียบ แต่หนวดที่กระตุกอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาวาววับที่ราวกับจะพ่นลูกไฟออกมาได้ทุกเมื่อ ก็ฟ้องหมดทุกอย่างและถึงจะเป็นเช่นนั้นอีกฝ่ายกลับยังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ หาได้รู้ถึงความผิดของตัวเอง ประหนึ่งว่าเขาคือเจ้าของเรือน มิหนำซ้ำยังทำตัวกลมกลืนอย่างยิ่งราวกับคนในครอบครัวไม่ขัดเขิน ไม่เกรงใจ ไม่ถ่อมตนกระทำตัวเหมือนเขยของบ้านข้าเข้าไปทุกทีหึ…กล้าดียังไงแน่นอนว่าอวี้จิ้งได้แต่คิดในใจเท่านั้น ไม่มีวันกล้าเอ่ยออกมาเพราะบุรุษตรงหน้านั้น หาใช่ใครอื่นไกล แต่คือ องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลงการกระทำของอีกฝ่ายในวันนี้สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาอย่างยิ่ง แต่แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพียงใด ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหยางฮูหยินผู้เฒ่า ซึ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่39วันปักปิ่น

    แสงอรุณอ่อนในฤดูใบไม้ผลิส่องพาดแนวหลังคาเรือน บรรยากาศทั่วทั้งจวนรองเสนาบดีเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายในเรือนใหญ่ของตระกูลอวี้อบอวลด้วยกลิ่นหอมของไม้จันทน์บ่าวไพร่ในจวนสีหน้าสดชื่นแจ่มใส ขะมักเขม้นจัดเตรียมพิธีมงคล ข้าวของเครื่องใช้ล้วนถูกจัดเรียงตามตำราโบราณเรือนหลักของจวนอวี้ในวันนี้ถูกประดับประดาด้วยผ้าแพรไหมสีมงคล ลวดลายดอกเหมยปักดิ้นทองสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ กลิ่นหอมของชาดอกไม้ที่ลอยอบอวลในอากาศ สร้างบรรยากาศละมุนละไมวันนี้คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณหนูรองอวี้ในที่สุดวันปักปิ่นของอวี้หลันก็มาถึง พิธีในวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติบุตรีขุนนางฝ่ายพิธีการ เรียกได้ว่าเป็นงานเลี้ยงที่หรูหราและงดงามที่สุดในรอบหลายปีของเมืองหลวง อวี้หลันในชุดผ้าไหมเนื้อละเอียดสีชมพูอมทองปักลวดลายดอกโบตั๋นอย่างประณีต เนื้อผ้าไหมพลิ้วไหวรับแสงแดดอ่อนยามเช้า ปลายแขนเสื้อขลิบดิ้นทอง ชุดตัวยาวรัดช่วงเอวด้วยสายผ้าแพรสีแดงสด ด้านข้างห้อยพู่หยกล้ำค่า เงาผ้าพลิ้วไหวราวกลีบดอกไม้ต้องลมตามจังหวะก้าวเดิน ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังสตรีน้อยผู้เป็นบุตรีของรองเสนาบดีหญิงสาวย่างก้าวด้วยท่วงท่าที่เปี่ยมไ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่38ความจริงเริ่มกระจ่าง

    เซิ่งซื่อนั่งนิ่งอยู่ในเรือนใหญ่ของตนเอง บรรยากาศภายในเรือนที่เคยสงบร่มรื่น บัดนี้กลับอึดอัดและหนักแน่นประหนึ่งมีเงาทึบปกคลุม มือที่ถือพัดเริ่มกำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว แววตาเคร่งเครียดขณะฟังรายงานจากบ่าวคนสนิท เสียงนั้นเบาราวกระซิบ แต่ทุกคำกลับฟังชัดเจนยิ่งในหูของนาง"คุณหนูรองกลับมาถึงจวนเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ มิได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น"คำบอกเล่านั้น ดังก้องในใจจนมือที่กำพัดเริ่มสั่นอวี้หลันกลับมาแล้ว อีกทั้งยังไม่เป็นอะไรเลย"ข่าวว่า...องค์ชายใหญ่เป็นผู้ช่วยชีวิตคุณหนูรองเอาไว้ด้วยพระองค์เองเจ้าค่ะ"เสียงในห้องเงียบงันชั่วอึดใจ"องค์ชายใหญ่"เซิ่งซื่อทวนคำเบาๆ อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ความหวาดหวั่นคละคลุ้งในอกองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง คนผู้นี้อีกแล้วหรือพัดในมือของนางถูกบีบจนแทบจะแหลกคามือ แววตาที่เคยสั่นไหวเปลี่ยนเป็นขุ่นมัวในฉับพลัน ริมฝีปากที่เคลือบชาดเอาไว้บางๆ เม้มแน่นจนแทบเป็นเส้นตรงทั้งที่แผนการถูกวางไว้อย่างดี หลานชายที่เก่งกาจของนางไม่เคยที่จะทำงานผิดพลาด ทุกอย่างที่ควรจะจบลงอย่างเงียบงัน กลับพังครืนเพราะการปรากฏตัวของบุรุษเพียงผู้เดียวและยิ่งแย่กว่านั้น…ข่าวนี้กำลังจะถูก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status