หน้าหลัก / รักโบราณ / บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน / ตอนที่ 7 น้ำแกงจากเรือนมารดา

แชร์

ตอนที่ 7 น้ำแกงจากเรือนมารดา

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-10 15:14:21

หยางเจี้ยนคิดขึ้นมาคราใดก็ให้รู้สึกโกรธมากจริงๆ

ห้องหอวันนั้นเดิมทีเป็นห้องนอนของหยางเจี้ยน เรือนที่ภรรยาพำนักอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเรือนหลักของเขา

การที่ชายหนุ่มเลือกนอนในห้องหนังสือทุกคืนเช่นนี้ล้วนเป็นเพราะไป๋หมิงเยว่! นางได้สร้างบาดแผลในใจให้เขาอย่างสุดซึ้ง ยิ่งคิดหยางเจี้ยนก็ยิ่งอับอายและโกรธเกรี้ยวผสมปนเปจนหน้าดำคล้ำไปหมด

ความรังเกียจสายหนึ่งพุ่งปะทุเต็มทรวงอกทันที ภรรยาพระราชทานของเขานางนี้ทำอย่างไรก็ชอบไม่ลง!

ครู่หนึ่งเสียงของจิ้นเหอพลันดังทุ้มต่ำจากนอกห้อง

“ท่านแม่ทัพ สาวใช้เรือนฮูหยินใหญ่นำน้ำแกงบำรุงมาส่งให้ขอรับ”

หยางเจี้ยนรับเสียงเฉยชา “เข้ามา”

ประตูถูกเปิดออก จิ้นเหอรับน้ำแกงร้อนๆ ถ้วยใหญ่จากสาวใช้มาวางลงบนโต๊ะแล้วเดินออกไปเงียบๆ

หยางเจี้ยนยกน้ำแกงขึ้นดื่มอย่างไม่รู้รสชาติ ไม่นานต่อมาแม้รู้สึกร้อนผ่าวแปลกประหลาดก็มิสนใจ

สองเค่อ[1]ให้หลัง สาวใช้ของเรือนมารดาก็มาอีกครา  จิ้นเหอส่งเสียงทุ้มต่ำอีกรอบ “ท่านแม่ทัพ ฤกษ์งามยามดี ได้เวลาเข้าหอแล้วขอรับ”

“อืม...” เสียงตอบรับของหยางเจี้ยนยังคงราบเรียบไร้ระลอกคลื่น ทว่ากายแกร่งกลับรู้สึกวูบวาบไปหมด

ประกายเพลิงรุมเร้าค่อยๆ ถูกจุดขึ้นในแววตา  ความร้อนแรงค่อยๆ แผดแสงแรงกล้าออกมาเด่นชัด ท้ายที่สุดไฟอารมณ์ร้อนรุ่มก็ลุกท่วมร่าง

ย่อมเป็นน้ำแกงที่ถูกส่งมาจากเรือนมารดา

แม่ทัพหนุ่มรู้ดีว่าผู้อาวุโสในจวนกำลังต้องการสิ่งใด เขาจึงลุกขึ้นออกจากห้องหนังสือ ตรงไปที่เรือนอนุคนงาม เพื่อทำตามปรารถนาของทุกคนในสกุลหยาง ความคาดหวังจากพวกเขา หยางเจี้ยนพร้อมแบกรับไว้อย่างไม่อิดออด

ค่ำคืนนี้ดวงจันทร์สุกสกาว ดวงดาวพราวระยับ แสงสีนวลสบายตาสาดแสงทอดยาวลงมาส่องกระทบเรือนร่างสูงส่งของแม่ทัพบูรพา แลดูสง่างามหาใดเทียม

หยางเจี้ยนเดินอย่างสุขุมเยือกเย็นมาตามทางเดินกรวดขาวและแผ่นศิลา ทว่าภายในใจกลับกระตือรือร้นมาก

อาจเป็นปกติตามประสาของบุรุษวัยหนุ่มแน่นที่มีเลือดลมร้อนรุ่มเป็นทุนเดิม หรือเพราะฤทธิ์ยาในน้ำแกงที่ทำให้เพลิงอารมณ์ปะทุเดือดพล่านก็สุดรู้ ยามนี้ชายหนุ่มจึงก้าวเท้าหนักแน่นมั่นคง เดินตรงไปอย่างไม่มีลังเล

จิ้นเหอคนสนิทที่เดินตามหลังเริ่มรู้สึกไม่ว่าถูกต้อง

“ท่านแม่ทัพ!”

“หืม...”

“เอ่อ...ท่านเดินมาผิดทางแล้วขอรับ”

“...!?”

เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน หยางเจี้ยนจึงต้องเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อมอง แล้วเขาก็เห็นเรือนสุดปลายทาง

เรือนนั้นยังคงมีแสงเทียนเล็ดลอดออกมาริบหรี่  ทว่าชั่วครู่ก็ดับมืดลงเฉกเช่นทุกวัน เป็นเรือนที่ยังคงไม่เคยจุดโคมแดงรอเขา

นางไม่เคยใส่ใจว่าเขาจะกลับเรือนหรือไม่?

น้ำแกงสักถ้วยก็ไม่เคยส่งไปให้ที่ห้องหนังสือ!

เป็นภรรยาประสาอันใด?

แววเกลียดชังสายหนึ่งวาบผ่านม่านตาไปอย่างลึกล้ำ หยางเจี้ยนสะบัดแขนเสื้อเสียงดังพรึบ เดินเลี้ยวไปอีกทางอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสีย ซักพักร่างสูงก็ค่อยๆ ห่างจากเรือนของภรรยาเอกอย่างหมิงเยว่ไปไกล

ใช้เวลาแค่ไม่นาน เบื้องหน้าในระยะสายตาเย็นชาของแม่ทัพหนุ่มจึงปรากฏเรือนเล็กท่ามกลางสวนพฤกษา มีการประดับประดาโคมแดงงามตา บ่งบอกได้ว่าสตรีด้านในยินยอมพร้อมปรนนิบัติเพียงใด

---

[1] หนึ่งเค่อประมาณ 15 นาที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 29 โดดเดี่ยวเดียวดาย3

    รุ่งอรุณมาเยือนหลิวไท่หยางทำทีกวาดใบไม้ที่เกลื่อนลาน หมายรอให้ซิงเยว่จัดการธุระส่วนตัวในยามเช้าเสร็จสิ้น กระทั่งเดินออกมานั่งรับแสงแดดริมระเบียง เขาจึงรีบเดินมาชักชวน“คุณหนู วันนี้อากาศดียิ่งนัก ไปเดินยืดเส้นยืดสาย ดีหรือไม่?”การออกกำลังแขนขาย่อมผ่อนคลายความตึงเครียด บรรเทาอาการอึดอัดกระสับกระส่ายจากการนอนไม่หลับ หลังจากนั้นค่อยกลับมาหลับยามกลางวันให้สบายตัวชายหนุ่มคิดในใจมิได้เอ่ยออกไป ทว่าซิงเยว่กลับเข้าใจได้โดยง่ายน่าแปลกนักที่บุรุษผู้หนึ่งจะเข้าใจผู้อื่นได้ดีปานนี้ หากเสี่ยวชางมีภรรยา นางผู้นั้นย่อมต้องเป็นสตรีที่มีโชค การได้บุรุษแสนดีมาครองย่อมเปรียบเสมือนได้ครองใต้หล้าซิงเยว่เริ่มคิดเรื่อยเปื่อยไปไกลเมื่อหลุดจากภวังค์เลื่อนเปื้อน นางก็พยักหน้ายิ้มๆ ให้กับบุรุษแสนดีที่จะมีภรรยาเป็นสตรีครองใต้หล้าหญิงสาวลุกขึ้นยืน “ไปกันเถิด เสี่ยวชาง”นางหันมาพยักหน้าอีกทาง “ตงอิง เจ้าเฝ้าเรือนเตรียมอาหารเช้าแล้วกัน”ตงอิงยอบกายรับคำไม่อิดเอื้อน “เจ้าค่ะ”หลิวไท่หยางปรารถนาเข้าไปโอบกระชับบ่าเล็กๆ แล้วจับมือนางเดินเล่นด้วยกันอย่างปลอบประโลมเหลือเกินแต่จนใจที่ทำไม่ได้เพราะยามนี้เขาเป็นเพ

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 29 โดดเดี่ยวเดียวดาย2

    จูซิ่วตวัดแขโอบลำคอซ่งเสวียนชิงเพื่อมิให้เขาผละจากไป ดวงตาของนางเว้าวอน แอ่นอกชิดอกของเขาอย่างเย้ายวนชวนหวาบหวิว โน้มใบหน้าประทับจุมพิต รำพันยามแนบกลีบปากคลอเคลีย“แม้ข้ามิใช่พี่โม่เหลียน แต่ข้าไม่เคยโกรธท่าน ไม่เลย ...ข้ารักท่าน ขอแค่ท่านรักข้า รักเพียงข้า...”ดวงตาคมเข้มทอประกายวูบไหว หัวใจในโพรงอกด้านซ้ายเต้นในจังหวะไม่ช้า ทั้งสั่นไหวอย่างรุนแรง ประหนึ่งหนุ่มน้อยได้เจอปีศาจสาวจอมล่อลวงให้ตกบ่วงห้วงมายาแบบกะทันหัน ทั้งกิริยาหวิวซ่านและคำพร่ำรำพันแว่วหวาน และยามนี้สองร่างเปล่าเปลือยกำลังกอดเกยอยู่ในท่วงท่าหมิ่นเหม่หวามไหว ไหนเลยยังต้องคิดยั้งใจอันใด ซ่งเสวียนชิงจึงก้มหน้าพรมจูบจูซิ่วอย่างดุดัน จับอีกฝ่ายแยกขาพร้อมเคลื่อนกายขยับเป็นจังหวะวสันต์ ก่อนจะตอกตรึงลึกซึ้งถึงอารมณ์อันเร่าร้อนม่านเตียงพลิ้วไหว เคล้าเสียงกระเส่าครวญคราง เปลวเทียนวูบไว สาดส่องภาพวาดสตรีบนโต๊ะเนิ่นนาน...เรือนหนึ่งเสพสมสุขสันต์ ทว่าอีกเรือนหนึ่งนั้นกลับเห็นเงาร่างเลือนรางของคู่รักในม่านฝันแม้เป็นเพียงภาพฝันและเลือนรางปานนั้น หากแต่กลับทุกข์ระทมเด่นชัดในห้วงคะนึงนิทรานางทำราตรีนี้ยังคงทรมาน.

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 29 โดดเดี่ยวเดียวดาย1

    ค่ำคืนอากาศเย็นเยียบ บุรุษร่างใหญ่นั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวเงียบๆ แววตาจับจ้องเพียงสิ่งหนึ่งเนิ่นนานภายในห้องหนังสือ มีแสงเทียนนวลลออส่องสะท้อนภาพวาดของสตรีงดงามวางอยู่บนโต๊ะ ฝ่ามือหยาบกร้านของซ่งเสวียนชิงลูบไล้อย่างคิดถึง หวนคะนึงโหยหามิสร่างซา“โม่เหลียน ในที่สุดข้าก็ได้บุตรสาวของเรากลับมา ข้าดูแลนางอย่างดี” เขาแค่นยิ้ม “เจ้าอย่าโกรธข้าอีกเลย เลิกโกรธข้าเสียที...ข้ารักเจ้าถึงเพียงนี้...โม่เหลียน...”เปลือกตาหนักอึ้งของบุรุษค่อยๆ ปิดลงอย่างเชื่องช้า นานครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่อีกครา จอกเหล้าถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด เป็นอยู่เช่นนี้หลายครั้งหลายครา“ท่านพี่...” สุ้มเสียงอ่อนหวานดังขึ้นข้างกาย ซ่งเสวียนชิงจึงปรายตามองแต่แล้วเขาพลันชะงักวูบหนึ่ง เท้ามือกับพนักเก้าอี้เพื่อพยุงตัวลุกขึ้น สองตาเหม่อมองเจ้าของเสียงหวานนิ่งงัน“เหลียนเอ๋อร์”รอยยิ้มสตรีแข็งค้าง ทว่าชั่วแวบเดียวเท่านั้นกลับปรับให้ริมฝีปากสีแดงเรื่อแย้มยิ้มเฉิดฉันอ่อนโยนดุจเดิมส่งผลให้ผู้มองรับรู้ได้ว่ากลีบปากภายใต้รอยยิ้มนี้ นุ่มหวานปานใด “เหลียนเอ๋อร์ เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว...”ซ่งเสวียนชิงตวัดแขนโอบรัดเจ้าของรอย

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 28 รักใคร่อบอุ่น4

    ซิงเยว่ยังไม่เดินเข้าไป เพียงยืนมองภาพเบื้องหน้าด้วยกิริยานิ่งเงียบภาพที่สะท้อนเข้าสู่ม่านตาคือบิดานั่งยิ้มในหน้า แววตาอบอุ่นมากล้น เขาก้มมองบุตรสาวผู้น่ารักน่าชังอย่างเอื้อเอ็นดูสุดหัวใจ ส่วนมารดานั่งพะเน้าพะนอลูบหลังเบาๆ กล่าวสนับสนุนบุตรสาวทุกวาจาเป็นภาพของครอบครัวรักใคร่ปรองดองอย่างแท้จริงซ่งหลันจวิ้นยังไม่มา คงกำลังอาบน้ำผลัดอาภรณ์ทว่าเพียงสามคนพ่อแม่ลูกนี้ก็เพียงพอแล้วถึงกระแสความรักที่ท่วมท้น“ท่านพ่อ นี่คือหยกพกที่พี่หย่งปินมอบให้ข้าเจ้าค่ะ”ซ่งหลันอวี้ส่งเสียงกังวานใสไม่ขาดสายพร้อมล้วงเอาหยกเนื้อดีขึ้นมาโอ้อวดแก่สายตาบิดาเป็นหยกพกพาประจำกายของหย่งปินจริงๆหญิงสาวกล่าวอีกว่า “พี่หย่งปินบอกว่าภายหน้าจะมีข้าเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว พวกท่านเป็นพยานนะ หากมีสตรีใดกล้าสานสัมพันธ์กับเขา ต้องช่วยกันขับไล่ไปให้ไกล”จูซิ่วเห็นเช่นนั้นรีบส่งเสริม “สองคนนี้สนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก เผยท่าทีต่อกันชัดเจน เห็นทีคงต้องหมั้นหมายกันเสียแล้วกระมัง ท่านพี่คิดเห็นอย่างไรเจ้าคะ?”ซ่งเสวียนชิงพยักหน้ายิ้ม กล่าวคำว่าดีๆ ติดกันซ่งหลันอวี้เปลี่ยนท่าทีจากสดใสเป็นกระเง้ากระงอด “ท่านแม่ แต่พี่ซิงหลานมักจ

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 28 รักใคร่อบอุ่น3

    เรือนซิงเยว่หญิงสาวกลับเรือนมาออกแบบกลไกใช้ยิงขนาดเล็ก เหมาะสำหรับเด็กไว้ยิงไม่ต่างจากธนูคันใหญ่และหน้าไม้ สิ่งนี้มีช่องเก็บลูกดอกเล็กๆ บรรจุติดกับกลไก เพียงยึดให้มั่นแล้วพลิกมือจนเกิดเสียงดังกริ๊ก ลูกดอกคล้ายธนูจะเข้าสลัก ยิงได้ไกลในเสี้ยวเวลา“ข้าจะทำให้หลันจวิ้น”หญิงสาวบอกเสี่ยวชางผู้เป็นลูกมือประกอบกลไกตามคำสั่ง ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะในเรือน ขะมักเขม้นกับกลไกนี้“ดูเจ้าเชี่ยวชาญยิ่งนัก เคยประกอบกลไกหรือ?”ซิงเยว่ถามเสี่ยวชางที่มีท่าทางปราดเปรื่องเหลือเกิน มองประเมินภาพแบบร่างกลไกของนางเพียงแค่ชั่วครู่เดียว กลับประกอบออกมาได้อย่างคล่องแคล่วสมบูรณ์แบบหลิวไท่หยางแทบทำไม้ปักมือตนเองขณะเผลอไผลแสดงความสามารถของตนออกไป ทว่าพริบตาก็ยกยิ้มโง่งม แล้วกล่าวเยี่ยงคนเขลาว่า “เมื่อก่อนตอนยังเป็นเด็กชาย ไม่มีข้าวกิน ข้าจึงชอบเข้าป่าล่าสัตว์ ชอบการยิงนกตกปลา เคยทำกับดักมากมายขอรับ”แท้จริงกลไกเยี่ยงนี้ในกาลก่อนล้วนเป็นเขาเองที่เพียรศึกษาแล้วนำมาสอนนางเพื่อเพิ่มการจู่โจมยามปล้นชิง ซิงเยว่ยามนั้นชอบมาก นางนำไปดัดแปลงอย่างชาญฉลาด ทว่ามิได้ทำเพื่อการปล้นชิง หากแต่กลับทำแล้วนำไปขาย จากนั้นก็เรียก

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 28 รักใคร่อบอุ่น2

    เขาผู้นี้คือเสี่ยวชางหย่งปินถอนหายใจเฮือก นึกชังกับบ่าวชายคนสนิทของคุณหนูใหญ่เหลือเกิน แต่จนใจที่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะผู้นี้คือคนโปรดของนางชายหนุ่มเบี่ยงตัวเลี่ยงออกหลบเจ้าท่อนไม้ยักษ์ เพื่อยื่นใบหน้าขาวๆ ของตนให้พ้นใบหน้าดำทะมึนของอีกคน ทว่าทำอยู่นานล้วนไร้ผล คนสูงสองคนจึงยืนประจันหน้ากัน หลิวไท่หยางไม่มีทางยอมให้บุรุษใดเกี้ยวพาซิงเยว่ทั้งนั้น ส่วนหย่งปินเองก็ไม่ยอมให้ใครขัดขวางทางรักของตนเช่นกัน ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอสตรีถูกใจเช่นนี้บุรุษแค่นเสียงลอดไรฟันใส่หน้ากันในระยะเผาขน“เจ้าทาสชั้นต่ำ หลบไป!” หย่งปินมองเหยียดหลิวไท่หยางแค่นเสียงเย็นชา “ข้าไม่ปล่อยคนถ่อยเข้าใกล้นางแน่!”“เจ้าว่าใครถ่อย?”“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ามักแสดงท่าทีกับซ่งหลันอวี้” น้ำเสียงหลิวไท่หยางเจือกระแสเหยียดหยันแววตาเยียบเย็น “มีแต่คนถ่อยเท่านั้นที่ทำพี่น้องต้องแย่งชิง ช่างไร้ยางอาย!”“เจ้า!” หย่งปินยิ่งเดือดดาล เขายิ้มเยาะ “พี่น้องแย่งชิงแล้วอย่างไร ข้าย่อมดูแลได้ดีทั้งหมด ทุกคน!”หลิวไท่หยางหรี่ตา สุ้มเสียงหยาบกระด้างมากขึ้น “คิดอยากเลี้ยงดูสตรีทั้งเมืองก็เรื่องของเจ้า แต่ต้องไม่ใช่คุณหนูของข้า ไสห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status