Share

17

last update Last Updated: 2025-05-10 20:46:08

หลังจากที่หม่อมราชวงศ์รวิมั่นใจว่าแม่หญิงเดือนฉายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับแก้วกัลยา เขาก็ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับเธออีกครั้ง เพื่อให้เธอหยุดการกระทำที่ไร้คุณธรรมนี้

ในเช้าวันหนึ่ง หม่อมราชวงศ์รวิเดินทางไปยังเรือนของแม่หญิงเดือนฉายด้วยสีหน้าที่แน่วแน่ เมื่อไปถึง เขาก็ขอพบเธอเป็นการส่วนตัว

แม่หญิงเดือนฉายออกมาพบหม่อมราชวงศ์รวิด้วยรอยยิ้มที่ดูประหลาดใจเล็กน้อย

“ท่านหม่อมราชวงศ์ มาหาดิฉันถึงเรือนแต่เช้า มีเรื่องอะไรด่วนหรือคะ?” แม่หญิงเดือนฉายเอ่ยถาม

“ผมมาเพื่อพูดคุยเรื่องข่าวลือเกี่ยวกับคุณแก้วกัลยา” หม่อมราชวงศ์รวิตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

รอยยิ้มบนใบหน้าของแม่หญิงเดือนฉายจางหายไป “ท่านยังไม่เลิกสงสัยดิฉันอีกหรือคะ?”

“ผมไม่ได้สงสัย ผมรู้” หม่อมราชวงศ์รวิตอบอย่างหนักแน่น “ผมรู้ว่าคุณเป็นคนปล่อยข่าวลือเหล่านั้น”

แม่หญิงเดือนฉายทำท่าทางตกใจ “ท่านกำลังกล่าวหาดิฉันโดยไม่มีหลักฐานนะคะ!”

“หลักฐานอยู่ในคำพูดและการกระทำของคุณ” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ “คุณริษยาคุณแก้วกัลยา และพยายามทำลายชื่อเสียงของเธอ”

แม่หญิงเดือนฉายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้น “ทำไมดิฉันต้องริษยาแม่แก้วด้วยคะ?”

“เพราะคุณต้องการผม” หม่อมราชวงศ์รวิตอบอย่างตรงไปตรงมา “และคุณไม่พอใจที่ผมให้ความสนใจคุณแก้วกัลยามากกว่า”

ใบหน้าของแม่หญิงเดือนฉายแดงก่ำด้วยความโกรธ “ท่านคิดผิดแล้ว! ดิฉันไม่ได้สนใจท่าน!”

“ถ้าเช่นนั้น ทำไมคุณถึงต้องปล่อยข่าวลือทำร้ายคุณแก้วกัลยา?” หม่อมราชวงศ์รวิถามกลับ

แม่หญิงเดือนฉายหลบสายตาของเขา “ดิฉันไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร”

“อย่าปฏิเสธเลยครับ ผมรู้ความจริงแล้ว” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาด “ผมมาที่นี่เพื่อบอกให้คุณหยุดการกระทำเหล่านี้ทันที ข่าวลือที่คุณปล่อยไปกำลังสร้างความเสียหายให้กับคุณแก้วกัลยา และผมจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายเธอได้อีกต่อไป”

“แล้วท่านจะทำอะไรได้หรือคะ?” แม่หญิงเดือนฉายถามด้วยน้ำเสียงที่ท้าทาย

“ถ้าคุณยังไม่หยุด ผมจะบอกความจริงทั้งหมดให้พ่อเลี้ยงอินทาและเจ้าศิริวัฒน์ได้รู้” หม่อมราชวงศ์รวิตอบอย่างหนักแน่น

คำพูดนั้นทำให้แม่หญิงเดือนฉายชะงักไป เธอรู้ดีว่าหากเรื่องนี้ถึงหูของเจ้าศิริวัฒน์ เธอจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ร้ายแรง

“ท่านกล้าทำเช่นนั้นจริง ๆ หรือคะ?” แม่หญิงเดือนฉายถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเครือ

“ผมพูดจริงทำจริง” หม่อมราชวงศ์รวิตอบด้วยแววตาที่เด็ดเดี่ยว “ผมจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายคนที่ผมรัก”

คำว่า “คนที่ผมรัก” ทำให้แม่หญิงเดือนฉายรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า เธอจ้องมองหม่อมราชวงศ์รวิด้วยความเจ็บปวดและความโกรธ

“ท่านรักแม่แก้วหรือคะ?” แม่หญิงเดือนฉายถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความขมขื่น

“ใช่ ผมรักเธอ” หม่อมราชวงศ์รวิตอบอย่างไม่ลังเล

น้ำตาคลอเบ้าของแม่หญิงเดือนฉาย เธอรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย

“แล้วดิฉันล่ะคะ? ท่านไม่เคยเห็นใจดิฉันบ้างเลยหรือ?” แม่หญิงเดือนฉายกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

หม่อมราชวงศ์รวิมองเธอด้วยความเห็นใจเล็กน้อย “ผมเสียใจที่คุณรู้สึกเช่นนั้น แต่ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณเป็นเพียงมิตรภาพเท่านั้น”

“มิตรภาพหรือคะ?” แม่หญิงเดือนฉายหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น “ท่านใจร้ายเหลือเกิน”

“ผมไม่ได้ต้องการทำร้ายคุณ” หม่อมราชวงศ์รวิตอบ “ผมเพียงแต่ต้องการให้คุณหยุดทำร้ายคุณแก้วกัลยา”

แม่หญิงเดือนฉายเงียบไปครู่หนึ่ง น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถเอาชนะความรู้สึกที่หม่อมราชวงศ์รวิมีต่อแก้วกัลยาได้

“ท่านต้องการให้ดิฉันทำอย่างไร?” แม่หญิงเดือนฉายถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“ผมต้องการให้คุณหยุดปล่อยข่าวลือ และขอโทษคุณแก้วกัลยา” หม่อมราชวงศ์รวิตอบ

แม่หญิงเดือนฉายหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้งด้วยแววตาที่ยอมจำนน

“ดิฉันจะทำตามที่ท่านต้องการ” แม่หญิงเดือนฉายกล่าวเสียงแผ่ว

หม่อมราชวงศ์รวิถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ขอบคุณครับ ผมหวังว่าคุณจะทำตามสัญญา”

การเผชิญหน้ากันในวันนี้ ทำให้หม่อมราชวงศ์รวิได้พูดความจริงในใจ และทำให้แม่หญิงเดือนฉายยอมรับผิดในสิ่งที่เธอได้กระทำลงไป... แต่ผลของการกระทำเหล่านี้จะนำไปสู่สิ่งใดต่อไปนั้น ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตาม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   40

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป ความรักและความผูกพันของแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิยังคงเบ่งบานและหยั่งรากลึกในหัวใจของลูกหลาน พวกเขาได้สร้างครอบครัวที่อบอุ่นและเป็นที่รักของคนรอบข้าง เรื่องราวความรักของทั้งสองกลายเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นในนครพิงค์ในวัยชรา แก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิยังคงอยู่เคียงข้างกันและกัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ความรักและความเข้าใจของพวกเขาก็ไม่เคยจางหาย ทั้งสองใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยความสงบสุข มองดูลูกหลานเติบโตและสร้างครอบครัวของตนเองวันหนึ่ง ในยามเช้าที่อากาศสดใส แก้วกัลยานั่งอยู่บนเก้าอี้หวายในสวน มองดูดอกไม้ที่ยังคงเบ่งบานงดงาม หม่อมราชวงศ์รวิเดินเข้ามานั่งเคียงข้างเธอ จับมือของเธออย่างอ่อนโยน“วันนี้อากาศดีจริง ๆ นะครับ” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยรอยยิ้มแก้วกัลยามองตอบด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “ค่ะ ทุกวันที่ได้อยู่กับท่านก็เป็นวันที่ดีเสมอ”ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆ สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ และฟังเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว ความเงียบนั้นไม่ได้น่าอึดอัด แต่กลับเต็มไปด้วยความเข้าใจและความผูกพันที่ลึกซึ้ง“ท่านยังจำวันที่เราพบกันครั้งแรกได้ไหมคะ?” แก้วกัลยาเ

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   39

    กาลเวลาผันผ่านไป บุตรชายและบุตรสาวของแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มสาว พวกเขาได้รับการสั่งสอนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม และมีความรักใคร่ในครอบครัว เฉกเช่นที่บิดามารดาเคยปฏิบัติบุตรชายคนโตของพวกเขาเติบโตขึ้นมาเป็นคนเฉลียวฉลาดและมีความมุ่งมั่น เขาได้รับการศึกษาอย่างดีและได้ช่วยแบ่งเบาภาระของหม่อมราชวงศ์รวิในการบริหารจัดการกิจการต่าง ๆ ในเมืองส่วนบุตรสาวคนเล็กก็มีความงดงามและมีจิตใจโอบอ้อมอารี เธอได้รับการอบรมให้เป็นกุลสตรีที่ดี และเป็นที่รักใคร่ของทุกคนในครอบครัวแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิมองดูลูก ๆ เติบโตด้วยความภาคภูมิใจ ความสุขของพวกเขาทวีคูณยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นลูก ๆ มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตพ่อเลี้ยงอินทาและมารดาของแก้วกัลยาก็แก่ชราลง แต่ท่านทั้งสองก็ยังคงแข็งแรงและเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับลูกหลาน ความรักและความอบอุ่นในครอบครัวยังคงเหนียวแน่นเจ้าสรุศักดิ์ยังคงเป็นเพื่อนสนิทของครอบครัว เขามักจะมาเยี่ยมเยียนและเล่นกับหลาน ๆ เป็นประจำ แม้จะไม่ได้มีครอบครัวเป็นของตนเอง แต่เขาก็มีความสุขที่ได้เห็นความสุขของเพื่อนวันหนึ่ง แก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวินั่งอยู่ด้วยกัน

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   38

    ภายหลังจากพิธีแต่งงานครั้งที่สอง แก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิก็ได้เริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกันอย่างแท้จริง เรือนของพ่อเลี้ยงอินทาอบอวลไปด้วยความรักและความสุข แก้วกัลยาปรับตัวเข้ากับการเป็นภรรยาได้อย่างราบรื่น เธอเรียนรู้การดูแลเรือนและการจัดการต่าง ๆ จากป้าเมี้ยน และได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากหม่อมราชวงศ์รวิเป็นอย่างดีหม่อมราชวงศ์รวิยังคงปฏิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์และขยันขันแข็ง เขาให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก และมักจะหาเวลาอยู่กับแก้วกัลยาเสมอทั้งสองใช้เวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในสวน การอ่านหนังสือ การสนทนา หรือการไปเยี่ยมเยียนญาติมิตร ความรักและความเข้าใจของพวกเขายิ่งแน่นแฟ้นขึ้นในทุก ๆ วันพ่อเลี้ยงอินทาและมารดาของแก้วกัลยามีความสุขที่ได้เห็นลูกสาวมีความสุข ท่านทั้งสองเอ็นดูหม่อมราชวงศ์รวิเหมือนลูกชายแท้ ๆ และมักจะให้คำแนะนำและช่วยเหลือทั้งสองเสมอเจ้าสรุศักดิ์เองก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของทั้งคู่ เขามักจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเสมอ แม้ในใจลึก ๆ จะยังคงมีความรู้สึกบางอย่าง แต่เขาก็เลือกที่จะยินดีกับความสุขของเพื่อนกาลเวลาผ่

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   37

    ข่าวการจับกุมแม่หญิงเดือนฉายได้ถูกส่งไปถึงแก้วกัลยาที่บ้านเดิมของเธอ ป้าเมี้ยนเป็นคนนำข่าวดีนี้ไปบอก เมื่อแก้วกัลยาทราบว่าอันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว ความรู้สึกโล่งใจก็ท่วมท้นหัวใจ เธอรู้ว่าหม่อมราชวงศ์รวิได้ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอในจดหมายที่หม่อมราชวงศ์รวิส่งมาพร้อมกับข่าวนี้ เขาได้เขียนถึงความรักและความคิดถึงที่มีต่อเธออย่างลึกซึ้ง และขอให้เธอกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันอีกครั้งเมื่ออ่านจดหมายจบ แก้วกัลยารู้สึกอบอุ่นหัวใจ เธอรู้ว่าที่ที่เธอควรอยู่คือข้างกายหม่อมราชวงศ์รวิ เธอตัดสินใจที่จะกลับไปหาเขาในทันทีแก้วกัลยาเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว และร่ำลาพ่อเลี้ยงและมารดาด้วยความรัก ท่านทั้งสองดีใจที่เห็นแก้วกัลยาตัดสินใจเช่นนั้น และอวยพรให้เธอมีความสุขกับหม่อมราชวงศ์รวิการเดินทางกลับมายังเรือนของพ่อเลี้ยงอินทาเต็มไปด้วยความรู้สึกตื้นตัน เมื่อรถม้ามาถึงหน้าเรือน แก้วกัลยารีบลงจากรถและมองไปยังเรือนที่คุ้นเคย หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความคิดถึงหม่อมราชวงศ์รวิที่รอคอยการกลับมาของเธออยู่แล้ว รีบออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรัก เมื่อทั้งสองได้พบกัน พวกเขาก็โผเข้ากอดกันอย่างแนบแน่น ค

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   36

    ภายหลังจากที่หม่อมราชวงศ์รวิและเจ้าสรุศักดิ์วางแผนการอย่างรอบคอบ พวกเขาก็เริ่มดำเนินการตามล่าแม่หญิงเดือนฉายอย่างเงียบ ๆ พวกเขาสืบหาเบาะแสจากคนรู้จักและแหล่งข่าวต่าง ๆ จนในที่สุดก็ทราบว่าแม่หญิงเดือนฉายได้หลบซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมร้างนอกเมืองหม่อมราชวงศ์รวิและเจ้าสรุศักดิ์นำกำลังคนจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังกระท่อมร้างแห่งนั้นในคืนหนึ่ง แสงจันทร์ส่องสว่างพอให้เห็นทาง แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเงียบสงัดและน่าหวาดหวั่นเมื่อไปถึงกระท่อม หม่อมราชวงศ์รวิสั่งให้คนล้อมกระท่อมไว้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้แม่หญิงเดือนฉายหลบหนีไปได้“ระวังตัวด้วยนะครับท่านหม่อมราชวงศ์” เจ้าสรุศักดิ์กระซิบเตือนหม่อมราชวงศ์รวิพยักหน้า เขาเดินนำหน้าเข้าไปในกระท่อมอย่างระมัดระวัง ภายในกระท่อมมืดสนิท แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของใครบางคน“ออกมาเถิดแม่หญิงเดือนฉาย เรารู้ว่าท่านอยู่ในนี้” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นความเงียบปกคลุมอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เสียงหัวเราะเยาะจะดังขึ้นจากมุมมืด“เก่งนี่ท่านหม่อมราชวงศ์ ตามหาฉันจนเจอ” เสียงของแม่หญิงเดือนฉายดังขึ้นจากเงามืด แม่หญิงเดือนฉายปรากฏตัวออกมา เธอมีสีหน้าที่บิดเบี้ย

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   35

    แม้จะรู้สึกเจ็บปวดกับการจากลาของแก้วกัลยา แต่หม่อมราชวงศ์รวิก็ไม่ยอมแพ้โดยง่ายดาย เขารู้ดีว่าการตัดสินใจของแก้วกัลยามาจากความหวาดกลัวและความปรารถนาที่จะปกป้องเขา เขาเชื่อมั่นในความรักที่พวกเขามีให้กัน และไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจบลงเช่นนี้ตลอดหลายวันที่แก้วกัลยาไม่อยู่ หม่อมราชวงศ์รวิใช้เวลาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เขาคิดถึงความสุขที่เคยมีร่วมกัน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความผูกพันที่ลึกซึ้ง เขาไม่สามารถจินตนาการถึงชีวิตที่ไม่มีแก้วกัลยาได้หม่อมราชวงศ์รวิตัดสินใจว่าจะไม่ปล่อยให้ความหวาดกลัวมาพรากคนรักของเขาไป เขาจะหาทางพิสูจน์ให้แก้วกัลยาเห็นว่าเข้มแข็งพอที่จะปกป้องเธอได้ และความรักของพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าความแค้นของแม่หญิงเดือนฉายหม่อมราชวงศ์รวิเริ่มวางแผนบางอย่าง เขารู้ว่าแม่หญิงเดือนฉายยังคงเป็นภัยคุกคาม และตราบใดที่เธอยังไม่ถูกจัดการ ทุกคนก็ยังคงไม่ปลอดภัยเขาได้ปรึกษากับเจ้าสรุศักดิ์ถึงเรื่องนี้ เจ้าสรุศักดิ์เองก็เห็นด้วยว่าพวกเขาไม่ควรปล่อยให้แม่หญิงเดือนฉายลอยนวล“เราต้องหาทางจับตัวแม่หญิงเดือนฉายให้ได้” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่“ท่านมีแผนอย่างไรห

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   34

    คำพูดของแก้วกัลยาสร้างความเงียบงันและความตกตะลึงให้กับทุกคนในที่นั้น หม่อมราชวงศ์รวิรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจเช่นนี้ หลังจากที่พวกเขาได้ฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย“แก้วกัลยา... คุณพูดจริงหรือ?” หม่อมราชวงศ์รวิถามด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดแก้วกัลยามองหน้าเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ค่ะ ดิฉันคิดว่า... นี่คือทางที่ดีที่สุดสำหรับเรา”“ทางที่ดีที่สุด?” หม่อมราชวงศ์รวทวนคำด้วยความไม่เข้าใจ “การที่เราต้องจากกันนี่น่ะหรือคือทางที่ดีที่สุด?”“ดิฉันไม่อยากให้ท่านต้องมาเสี่ยงอันตรายเพราะดิฉันอีกต่อไป” แก้วกัลยากล่าวเสียงสั่น “แม่หญิงเดือนฉายยังคงมีความแค้น และดิฉันกลัวว่าเธอจะกลับมาทำร้ายท่านอีก”“แต่ผมไม่กลัว!” หม่อมราชวงศ์รวิตอบอย่างหนักแน่น “ผมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งเพื่อคุณ”“แต่ดิฉันไม่ต้องการให้ท่านต้องเป็นเช่นนั้น” แก้วกัลยากล่าว “ดิฉันอยากให้ท่านมีชีวิตที่สงบสุข ปลอดภัย”พ่อเลี้ยงอินทาและมารดาพยายามที่จะพูดเกลี้ยกล่อมแก้วกัลยา แต่เธอก็ยืนยันในการตัดสินใจของตนเอง“ลูกคิดดีแล้วหรือแม่แก้ว?” มารดาถามด้วยความเป็นห่วง“ค่ะแม่” แก้วกัลยาตอบด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่เจ้าสรุ

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   33

    ภายหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายและการต่อสู้ในงานแต่งงาน ทุกคนต่างก็อยู่ในอาการตกใจและเหนื่อยล้า ผู้บาดเจ็บได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และบรรยากาศแห่งความสุขได้แปรเปลี่ยนเป็นความเงียบเหงาและความกังวลแก้วกัลยาดูแลบาดแผลของหม่อมราชวงศ์รวิด้วยความเป็นห่วง เธอใช้ผ้าสะอาดพันรอบแขนของเขาอย่างเบามือ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องบาดเจ็บ“ดิฉันขอโทษนะคะ ที่ทำให้ท่านต้อง...” แก้วกัลยากล่าวเสียงแผ่วหม่อมราชวงศ์รวจับมือเธอเบา ๆ “อย่าโทษตัวเองเลยครับ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมยินดีที่จะปกป้องคุณเสมอ”พ่อเลี้ยงอินทาและมารดาของแก้วกัลยาเข้ามาด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย ท่านทั้งสองรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันมงคลของบุตรี“พวกเราขอโทษด้วยนะแม่แก้ว ที่ปกป้องลูกได้ไม่ดีพอ” มารดากล่าวพลางลูบศีรษะของแก้วกัลยาเบา ๆ“ไม่เป็นไรค่ะแม่ อย่างน้อยทุกคนก็ปลอดภัย” แก้วกัลยากล่าวให้กำลังใจเจ้าสรุศักดิ์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “เราต้องแจ้งทางการให้มาจัดการเรื่องนี้ แม่หญิงเดือนฉายทำเกินไปแล้ว”หม่อมราชวงศ์รวิเห็นด้วย “ผมจะไปแจ้งความด้วยตัวเอง”ในขณะที่หม่อมราชวงศ์รวิกำลังจะไปแจ้งความ แก้ว

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   32

    ความโกลาหลและความวุ่นวายปกคลุมทั่วบริเวณงานแต่งงาน กลุ่มชายฉกรรจ์ที่แม่หญิงเดือนฉายส่งมาเข้าโจมตีแขกเหรื่ออย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงร้องด้วยความตกใจ เสียงข้าวของแตก และเสียงปะทะดังสนั่นไปทั่วสวนหม่อมราชวงศ์รวิรีบดึงแก้วกัลยามาไว้ข้างหลังเพื่อปกป้องเธอ เขามองไปยังกลุ่มผู้บุกรุกด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและพร้อมที่จะต่อสู้“คุณอยู่ตรงนี้ อย่าไปไหน” หม่อมราชวงศ์รวิกระซิบกับแก้วกัลยาด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันหน้าเผชิญหน้ากับอันตรายเจ้าสรุศักดิ์และคนของพ่อเลี้ยงอินทารีบเข้ามาช่วยต่อสู้ พวกเขาพยายามที่จะต้านทานกลุ่มผู้บุกรุกและปกป้องแขกเหรื่อ แต่จำนวนของศัตรูนั้นมีมาก ทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบากพ่อเลี้ยงอินทาแม้จะตกใจ แต่ก็พยายามตั้งสติและสั่งให้คนของตนเองที่เหลืออยู่เข้ามาช่วยเสริมกำลังแก้วกัลยามองภาพการต่อสู้ด้วยความหวาดกลัว เธอเห็นหม่อมราชวงศ์รวิต่อสู้อย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องเธอและคนอื่น ๆ เธอรู้สึกเป็นห่วงเขาจับใจแม่หญิงเดือนฉายยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสะใจ เธอต้องการที่จะทำลายความสุขของแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิให้พังพินาศในระหว่างการต่อสู้ หม่อมราชวง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status