Share

บทที่ 10

Author: เจียงหนานเยียน
ในขณะที่เหวยอิ้งหวนสั่งให้คนไปค้นจวนอ๋อง เยียนเซียวหรานยืนมองอยู่ด้านนอก

เขาเห็นว่าเจ้าหน้าที่เหล่านั้นไม่ได้ไปที่ใดเลย มุ่งหน้าตรงไปที่ห้องหนังสือของเยียนอ๋อง ทำให้แววตาของเขาเยือกเย็นขึ้น

เป็นไปตามคาด จดหมายเหล่านี้มีคนนำมาไว้แต่แรก

เขาไม่ได้ขัดขวางเจ้าหน้าที่เหล่านั้นค้นจวน แต่เขาก็กลัวว่าพวกเขาจะฉวยโอกาสยัดสิ่งอื่นเอาไว้

ดังนั้นจึงสั่งให้องครักษ์คอยติดตามเจ้าหน้าที่เหล่านั้นตลอด เพื่อป้องกันพวกเขาฉวยโอกาส

พวกเจ้าหน้าที่เกือบจะพลิกแผ่นดินจวนอ๋องเยียน ช่องลับในห้องหนังสือถูกเปิดออกทั้งหมด

ส่วนอ่างปลาถุกเจ้าหน้าที่ปัดจนคว่ำ

เยียนเซียวหรานเห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่ปัดอ่างปลาคว่ำกำลังควานหาบางอย่างในทราย ดวงตาของเขาเข้มขึ้น แล้วจดจำใบหน้าเจ้าหน้าที่คนนี้ไว้

หน้าผากเจ้าหน้าที่คนนั้นมีเหงื่อซึม เยียนเซียวหรานเอ่ยถาม “ต้องให้โม่ทรายจนละเอียดแล้วค้นหาต่อหรือไม่?”

เจ้าหน้าที่ “...”

เขาหันมองเยียนเซียวหราน ดวงตาอีกฝ่ายเยือกเย็น คมกล้าดุจมีดดาบ

เจ้าหน้าที่กระแอมเสียงค่อย “ไม่ต้อง”

หลังจากผ่านไปสองชั่วยาม เจ้าหน้าที่เหล่านี้ค้นหาทั่วจวนอ๋องหนึ่งรอบ แต่กลับไม่พบสิ่งใดเลย

เหวยอิ้งหวนได้ยินรายงานจากเจ้าหน้าที่ ดวงตาจึงเข้มขึ้น จากนั้นจึงหันไปทำท่าคารวะพระชายาผู้เฒ่า “คืนนี้รบกวนแล้ว”

พระชายาผู้เฒ่าพยักหน้าเบาๆ ต่อมาเหวยอิ้งหวนไปจุดธูปให้เยียนอ๋องที่ห้องทำพิธี ก่อนจะจากไป

ตอนที่เขาเดินไปถึงประตูทางเข้า ซือเจ๋อเยว่หาวแล้วเอ่ยขึ้น “ใต้เท้าเหวย หากมีเรื่องที่สะสางไม่ได้ก็ถามภูตผี สำนักเต๋ายินดีต้อนรับ”

เหวยอิ้งหวนหันมองนางครั้งหนึ่ง จากนั้นเดินออกไปจากจวนเยียนอ๋องทันที

ซือเจ๋อเยว่ยิ้มอ่อน จากนั้นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

เยียนเซียวหรานเดินมาข้างกายนาง “พวกเขาไม่พบสิ่งต้องการค้นหาในจวนอ๋อง น่าจะไม่มาในเร็วๆ นี้ เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

เมื่อคืนทั้งคืน ซือเจ๋อเยว่แค่งีบไปสักครู่ตอนที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะ

นางหาวพร้อมเอ่ยขึ้น “ได้ หากเหวยอิ้งหวนย้อนกลับมาที่จวน เจ้าให้คนไปตามข้าด้วย”

เมื่อคืนตอนซือเจ๋อเยว่ดูโหงวเฮ้งให้เหวยอิ้งหวน เยียนเซียวหรานไม่ได้อยู่ด้วย เพราะเขาต้องจับตาดูเจ้าหน้าที่เหล่านั้น แต่ก็ได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน

เขาเอ่ยถามนาง “เจ้าคิดว่าเหวยอิ้งหวนจะกลับมาหาเจ้าหรือ?”

ซือเจ๋อเยว่มั่นใจมาก “แน่นอน เขาจะต้องกลับมา”

เขาไม่เพียงจะกลับมา ซ้ำยังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้จวนเยียนอ๋องพ้นวิกฤต

เยียนเซียวหรานหันมองนาง เห็นเพียงแสงแดดยามเช้าสาดส่องไปที่ใบหน้าหญิงสาว ผิวของนางขาวมาก ภายใต้แสงแดดขาวเจิดจ้าจนแสบตา

ขณะนี้นางดูอิดโรยเล็กน้อย กำลังจะหาวอีกครั้ง จึงยื่นมือไปปิดปาก

มือของนางสวยมาก นิ้วเรียวยาว เพราะผิวขาวเกินไป ทำให้มองเห็นเส้นเลือดประปราย แลดูเปราะบางไม่น้อย

ตอนเยียนเซียวหรานเห็นมือนาง นึกถึงเมื่อคืนที่ส่งนางจากไป นึกว่าจะไม่ได้พบเจอกันอีก จึงจับมือนาง

กระทั่งตอนนี้ เขายังจำอุณหภูมิของนางได้ มือนางเย็นเฉียบ หนำซ้ำทั้งบอบบางนุ่มลื่น อ่อนนุ่มราวไร้กระดูก

เมื่อความรู้สึกเช่นนี้ผุดขึ้นในหัวของเขา เขารู้ว่าตัวเองล้ำเส้นแล้ว ใบหน้าจึงร้อนวูบวาบอย่างลืมตัว

ตอนที่เขาคิดจะอยู่ห่างนางอีกสักนิด พลันมองเห็นนางสะลึมสะลือกำลังจะเดินไปชนต้นไม้

เขาจึงกระชากนาง แต่คาดคะเนน้ำหนักของนางผิดพลาด พอดึงมาอย่างนี้ จึงทำให้นางโผเข้าไปในอ้อมกอดของเขา

ทั้งสองคนต่างชะงักงัน

ตั้งแต่เยียนเซียวหรานได้พบนางครั้งแรก เขาก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ครั้งนี้เมื่อดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด ความรู้สึกนั้นยิ่งชัดเจน

เขารู้สึกถึงเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นของนาง รวมถึงกลิ่นหอมสดชื่นของกล้วยไม้บนตัวนาง

แสงแดดสาดส่องทำให้นางราวกับภาพวาด เพราะนางดูมึนงง ดังนั้นดูแล้วช่างผุดผ่องและน่ารัก

นางที่เป็นเช่นนี้ทำให้เขานึกถึงค่ำคืนที่บ้าคลั่ง หญิงสาวบังอาจคนนั้นเกี้ยวพาราสีเขาอย่างใจกล้า ซ้ำยังทับเขาไว้ใต้ร่าง...

ใบหน้าของเยียนเซียวหรานแดงอย่างลืมตัว เตรียมจะยื่นมือไปประคองนางให้ยืนตรง แต่นางกลับได้กลิ่นประหลาดจากตัวเขา

จึงยื่นมือคล้องคอเขาไว้

เยียนเซียวหราน “...”

เขาอยากดันนางออก แต่กลับไม่รู้จะวางมือไว้ที่ใด

ซือเจ๋อเยว่สูดดมตรงลำคอของเขา เขาจึงเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “เจ้ากำลังทำสิ่งใด?”

ซือเจ๋อเยว่ไม่ตอบคำถามของเขา แต่กลับย้ายมาสูดดมตรงริมฝีปากของเขา

เยียนเซียวหราน “!!!”

เขาแข็งทื่อไปหมดทั้งตัว หัวใจเต้นเร็วระรัว ยืนอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้จะทำอย่างไร

มือของซือเจ๋อเยว่ที่คล้องคอเขาเอาไว้วางลง แล้วถามเขา “ทำไมบนตัวเจ้าถึงได้มีกลิ่นประหลาด?”

เยียนเซียวหรานรู้สึกตัวในที่สุด จึงรีบถอยไปหนึ่งก้าว แล้วทำหน้าเข้ม “องค์หญิง โปรดสำรวมด้วย!”

เขาหันหลังจากไปทันทีที่พูดจบ

ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ต่อมาดึงแขนเสื้อมองดูเส้นสีแดงตรงข้อมือ พบว่าด้ายแดงถอยกลับไปเล็กน้อย

ทว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากไม่ดูให้ละเอียดจะไม่รู้

แต่ด้ายแดงเส้นนี้เชื่อมโยงกับชีวิตของซือเจ๋อเยว่ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนางก็ดูออก

เดิมทีนางง่วงนอนจะแย่ ทว่าเมื่อเห็นเส้นสีแดงที่สั้นลงเล็กน้อย กลับทำให้ตื่นตัวทันที

นางพึมพำกับตัวเอง “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ตั้งแต่เส้นสีแดงเส้นนี้ได้เกิดขึ้น มันไม่เคยถอยกลับไปเลย นี่ถือว่าเป็นครั้งแรก

เมื่อวานก่อนออกเรือนนางเคยเปิดดูเส้นสีแดงเส้นนี้ มันไม่ได้หดสั้น แสดงว่าการหดสั้นครั้งนี้ต้องเกี่ยวข้องกับจวนเยียนอ๋อง

เพราะนางช่วยเหลือจวนเยียนอ๋อง ดังนั้นเส้นสีแดงนี่ถึงได้หดสั้นหรือ?

หรือเพราะเมื่อครู่นางอยู่ในอ้อมกอดเยียนเซียวหราน แล้วได้กลิ่นบนตัวเขาเส้นสีแดงถึงได้หดสั้น?

ขณะนี้นางยังไม่มีคำตอบ แต่สิ่งที่มั่นใจได้ก็คือ การอยู่ในจวนเยียนอ๋องต่อไปทำให้เส้นสีแดงของนางหดสั้นลง

หรือพูดอีกอย่างก็คือ จวนเยียนอ๋องเป็นตัวแปรสำคัญในการทำลายชะตาชีวิตที่ต้องตายตั้งแต่เด็กของนาง

นางหัวเราะเสียงค่อย

เหวยอิ้งหวนที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืนเหนื่อยล้าเล็กน้อย เพียงแต่ในวังยังรอข่าวจากเขา เขาต้องเข้าวังไปกราบทูลก่อน

ระหว่างทางเขาเห็นคนมุงกันเป็นวง จนขวางทางเข้าวังไปเกือบครึ่ง

บ่าวที่ติดตามเขาเข้าไปสอบถามเรื่องราว ไม่ช้าบ่าวกลับมารายงาน “ใต้เท้า หนิวกงกงตายแล้วขอรับ สำนักจิงจ้าวกำลังตรวจสอบสาเหตุการตายของเขา”

เมื่อเหวยอิ้งหวนได้ยินตื่นตัวทันที “เจ้าว่าอะไรนะ? หนิวกงกงตายแล้ว?”

บ่าวรีบตอบ “ขอรับ สภาพการตายสยดสยองมาก ไม่มีดวงตา บนลำคอของเขามีแต่รอยมือเขียวช้ำ”

“ซ้ำยังถูกผ่าหน้าอกลงมาถึงท้อง หัวใจของเขาถูกควัก ไส้กระจัดกระจายเต็มพื้น”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้เขาอาเจียนไปหลายที ภาพที่เห็นน่าสะอิดสะเอียนเกินไป

เหวยอิ้งหวนครุ่นคิดสักครู่ จากนั้นรีบลงจากรถม้าไปตรวจดูทันที

คนของสำนักจิงจ้าวส่วนใหญ่จะรู้จักเขา จึงได้เล่าสถานการณ์ให้ฟังพอสังเขป “คนเคาะยามเป็นคนแรกที่พบศพเขา”

“เขาถูกเอ็นปลาแขวนไว้บนต้นไม้ จากนั้นถูกควักดวงตาและลิ้น ตอนที่พบเขาไส้ของเขาห้อยลากยาวลงมาจนถึงพื้น”

“หัวใจของเขาถูกหมาป่ากัดกินไปครึ่งหนึ่ง ลูกตาเต็มไปด้วยฝุ่นจึงถูกคนเคาะยามเหยียบเละโดยไม่ตั้งใจ”

“จนถึงตอนนี้พวกข้าก็ยังไม่รู้ว่าเขาถูกคนใช้เส้นเอ็นปลาไปแขวนไว้บนต้นไม้ได้อย่างไร มันสูงมาก หนำซ้ำยังไม่พบบันได...”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
Waranya Chaiwan
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
goodnovel comment avatar
Nam Rin
สนุกมากไม่เคยอ่านเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย
goodnovel comment avatar
Add Sunee Luamsai
สนุกมากไม่เคยอ่านแนวนี้มาก่อนเลย
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status