Share

บทที่ 2

last update Dernière mise à jour: 2025-09-20 16:32:34

บทที่ 01 ชะตากรรมของแก้วตา

"หนูแก้วตาตื่นแต่เช้าเลยนะจ้ะ" เสียงหวานดังขึ้นขณะที่ฉันกำลังจะเดินผ่านหน้า ทว่าหญิงวัยกลางคนกลับส่งยิ้มกว้างพร้อมเอ่ยกับฉันเหมือนที่ชอบทำ จนฉันต้องหยุดเดินชะงักแล้วหันกลับไปตอบบ้างตามมารยาท

"ไม่พูดสักวันก็ไม่มีใครบอกว่าเป็นใบ้หรอกนะจ้ะป้า" ฉันยิ้มหวานตอบกลับ ขณะที่อีกคนเริ่มชักสีหน้ารอยยิ้มหุบลงในทันทีที่ได้ยิน

"นี่อีแก้ว! ฉันพูดกับแกดีๆ นะ" นิสัยที่แท้จริงถูกเผยออกในเวลาต่อมา แม่ค้าขายผักที่ชอบแซะฉันในแต่ละวันเริ่มแสดงตัวตนที่แท้จริง และฉันเองก็ดูออกตั้งแต่แรกว่ายัยป้าบัวไม่ได้พูดเพราะกำลังชมฉันจริง ๆ แต่เพียงเพราะกำลังประชดประชันใส่ฉันเนื่องจากเวลาที่ฉันกำลังจะเปิดแผงขายของเลยเวลาเปิดปกติสายมามากแล้ว

จะบอกว่าคนอย่างแก้วตาก้าวร้าวก็ได้ แต่ฉันก็เลือกทำเหมือนกัน ฉันไม่ได้เป็นแบบนี้กับทุกคน แต่ถ้ามองออกว่าคนไหนไม่จริงใจ ฉันเองก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งจริงใจกลับ แม้ว่าจะเป็นคนแก่กว่าก็ตาม

นั้นคือนิสัยของฉัน

"เก็บคำพูดดี ๆ ของป้าเถอะ ฉันไม่อยากได้" ว่าจบฉันก็เข็นรถเข็นที่มีผลไม้หลายลังผ่านไปในทันที เสียเวลาทำมาหากินชะมัด…อยู่ตลาดเดียวกันแท้ ๆ แต่กลับทำตัวแซะคนนั้นคนนี้มั่วไปหมด แน่นอนว่าคนอย่างแก้วตาไม่เคยยอมใคร ร้านก็ร้านฉัน จะเปิดขายเวลาสายโด่แค่ไหนมันก็เรื่องของฉันอยู่ดี

"หน้าบูดแต่เช้าเลยยัยแก้ว…" จนเดินมาถึงแผงขายของตัวเองเสียงของอีกคนก็ดังขึ้น แต่ฉันไม่ตอบกลับเหมือนคนที่แล้วหรอก เพราะป้าณีที่เป็นคนทักฉันขายอยู่แผงตรงข้าม เป็นคนใจดีจริง ๆ ไม่ได้สร้างภาพเหมือนคนก่อนหน้าฉันรับประกัน

"เรื่องเดิม ๆ น่ะป้า" ฉันยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ก่อนที่จะจัดการยกลังผลไม้ที่หนักหนาด้วยตัวคนเดียว ถึงจะหนักแต่มันคือสิ่งที่ฉันทำมาหลายปี ทำแบบนี้โดยไม่มีใครช่วยมาตลอด จนตอนนี้ฉันก็ลืมว่ามันเคยหนักเสียแล้ว

"หักโหมอีกแล้วเหรอ…" ระหว่างนั้นป้าณีก็ชวนคุยเช่นทุกวัน ขณะที่ฉันก็จัดหน้าร้านเพื่อเตรียมจะเปิดร้านทำอาชีพสร้างรายได้ของตัวเองบ้าง

"ช่วงนี้ใกล้จะปิดเทอมแล้ว ต้องขยันหน่อยป้า"

"แกจะเรียนต่อใช่ไหม?"

"เปล่า…หนูหมายถึงไอต้นกล้า เปิดเทอมมันขึ้นปีหนึ่งต้องใช้เงินเยอะ"

"แล้วแกล่ะ ไม่คิดจะเรียนต่อบ้างหรือไง"

"แค่มอหกก็พอแล้วป้า ที่เหลือให้ไอต้นกล้ามันเรียนแทน" ต้นกล้าคือน้องชายที่อายุห่างกันสองปี พี่น้องคนละแม่ที่ฉันกำลังทำงานงก ๆ เพื่อส่งมันเรียนระดับชั้นมอหกและจะขึ้นปีหนึ่งในไม่ช้า ส่วนฉันอายุปาไปยี่สิบแล้ว เรียนจบมอหกมาได้สองปีก็หยุดเรียนไปแค่นั้นเพราะไม่มีเงินเรียนต่อ ยัยแก้วตาเลยต้องออกมาทำงานสู้ชีวิตส่งน้องเรียนและเลี้ยงแม่เลี้ยงอีกหนึ่งคนแทน ถึงจะอยากเรียนกับเขามากแค่ไหนแต่คนอย่างฉันคงไม่มีบุญมากพอ

ฉันกลายเป็นแม่ค้าขายผลไม้ตั้งแต่อายุสิบแปด ตกเย็นเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านเหล้าเพราะลำพังอาชีพแม่ค้าคงหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวไม่พอ

และที่วันนี้เปิดแผงขายช้ายอมรับตรง ๆ ก็เพราะตื่นสาย เมื่อคืนกว่าผับจะปิดก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน จัดของหลังร้านต่อจนถึงตีหนึ่ง แต่เมื่อได้ยินทางร้านบอกขาดเด็กล้างจานคนอย่างแก้วตาก็ไม่เคยปล่อยให้พลาดโอกาส กว่างานทุกอย่างจะเสร็จกลับไปถึงบ้านเวลาก็ลากยาวไปถึงตีสาม นอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องลากสังขารตัวเองมาเปิดแผงขายผลไม้ต่อ แต่กว่าจะได้ลุกจากที่นอนเวลาก็ล่วงเลยมาถึงหกโมงเช้า ซึ่งมันช้ามากถึงหนึ่งชั่วโมงถ้าเทียบกับวันปกติที่ฉันเปิดขายประจำ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมยัยป้าบัวถึงได้แซะฉันจนได้ แต่แล้วไงยัยแก้วตาหน้าด้านกว่านั้น ฉันโดนมาเป็นประจำอยู่แล้ว ถึงจะไม่ใช่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องอื่นอยู่ดี ตอบกลับด้วยความปากแซ่บใส่คนอื่นมาก็เยอะ แต่ไม่มีใครที่กล้าว่าฉันยกเว้นป้าบัวนี่แหละ ผ่านไปกี่ปีต่อกี่ปีก็ยังคงความหวังดีประสงค์ร้ายต่อฉันเหมือนเดิม!

"เฮ้อ…ฉันล่ะสงสารแกจริงๆ แก้วตาเอ้ย…"

"หึ สงสารก็ขอขนมจีนฟรีสักจานนะป้า" ฉันหัวเราะในลำคอแล้วตะโกนตอบกลับป้าณี เอาจริง ๆ ก็ฟังคำว่าสงสารมาเยอะแล้ว ทุกคนรู้ชะตากรรมชีวิตของฉันหมดแหละ คนในตลาดนี้บางคนก็ใจดีกับฉันมาก โดยเฉพาะป้าณีที่ให้ฉันกินขนมจีนที่ร้านฟรีทุกวัน

"แกนะแก ไม่เคยเครียดกับอะไรเลย" ป้าณีส่ายหัวด้วยความเอือมก่อนที่จะตักขนมจีนที่แกขายอยู่ใส่จาน แล้วเดินเอามาให้ฉันแน่นอนว่าข้าวมื้อนี้ฉันไม่ต้องจ่ายแล้ว

"ขอบคุณสำหรับขนมจีนอร่อย ๆ ค่า~" ชีวิตแม่ค้าก็ดีแบบนี้แหละ คนที่ใจดีมีอะไรก็แบ่งปันกัน คอยช่วยเหลือกันจนฉันเหมือนเป็นญาติพี่น้องกันเสียแล้ว

ระหว่างที่ไม่มีลูกค้ายัยแก้วตาก็จัดการกับขนมจีนและเฝ้าร้านไปด้วย ร้านผลไม้ของฉันขายดีมากถ้าวันนั้นไม่มีใครเข้ามากวนโอ๊ยฉันก่อน ตอนขายแบบนิ่ง ๆ สวย ๆ ผู้ชายก็ชอบแวะเวียนมาซื้อบ้าง แต่เมื่อไหร่ที่องค์ลงแม้แต่ลูกค้าผู้หญิงยังหนีไปเลย

"แค่ก ๆ เอาอะไรดีคะ?" ฉันรีบยัดขนมจีนใส่ปากอย่างรีบเร่งเมื่อเห็นว่าลูกค้าหนุ่มกำลังเดินมา แล้วน้ำยามันก็ทำงานดีเหลือเกินสูดเร็วไปหน่อยจนเกือบจะสำลักต่อหน้าลูกค้า

มือบางรีบเช็ดปากอย่างไว ก่อนที่จะส่งยิ้มเป็นมิตรให้ลูกค้าที่กำลังเลือกซื้อของ

"ส้มนี่…"

"โลละห้าสิบค่ะ" ยังไม่ทันลูกค้าจะถามจบฉันก็ยิ้มหวานตอบทันที ขณะที่ลูกค้ากำลังเลือก ฉันก็เป็นแม่ค้าที่น่ารักคอยแนะนำไม่ห่าง

จนกระทั่ง…

"เจ๊!…"

"เจ๊แก้ว!…" เสียงเด็กชายวิ่งหอบมาหาจนฉันชะงักผละสายตาไปมอง

"มีอะไรไอปั๊ก"

"พี่ต้นกล้า…"

"ไอต้นกล้าทำไม!?"

"พี่ต้นกล้ายกพวกตีกันที่ท้ายตลาดครับ"

"แม่งเอ้ย" ฉันรีบถอดผ้ากันเปื้อนออกอย่างไว หลังจากที่ได้ยินไอปั๊กพูดจบ หมายจะรีบวิ่งออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าลูกค้ายังยืนงงอยู่หน้าร้าน

"ชั่งกิโลแล้ววางเงินตามราคาเลยนะคะ ป้าฝากดูร้านด้วย!" ประโยคแรกฉันเอ่ยบอกกับลูกค้า ก่อนที่ประโยคที่สองจะตะโกนบอกป้าณีแผงตรงข้ามแล้วรีบวิ่งสี่คูณร้อยไปท้ายตลาดทันที
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 115

    "ฉันเป็นคนทำทำไมฉันจะไม่รู้""ชิ จงใจชัด ๆ เลย""เมื่อกี้ฉันห้ามแล้ว เธอจะกินเอง" ก็จริงเมื่อครู่เขาส่งสายตาให้ฉันตลอด ทว่าฉันเป็นคนรั้นจะกินเอง"เพื่อความสุขของลูกกับพี่ แม้เค็มฉันก็ยอม""เจ้าเล่ห์จริง ๆ" มือหนาขยี้หัวฉันด้วยความมันเขี้ยว แน่นอนว่าท่าทางฉันเมื่อกี้คือการออดอ้อนใส่เขาต่างหาก แต่ก็มี

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 114

    "ผมคิดว่าเมื่อกี้เราทำเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม""อันนี้มันเค้กช็อกโกแลตหน้าไหม้หนิครับ" ฉันถึงทำกับหลุดขำพรืดในตอนที่ลูกชายสองคนที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จกำลังจดจ้องเค้กก้อนแรกของพวกเขาสีหน้าขมวด ก่อนที่จะปรายตาไปมองคนเป็นพ่อพร้อมกัน พี่สงครามจึงกระแอมคอนิดหน่อยราวกับกำลังคิดคำตอบ"พ่อว่า…เตาอบที่บ้านน่าจะม

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 113

    ห้าปีผ่านไป"นี่มันอะไรกันเนี่ย!" ฉันได้แต่อ้าปากค้างแล้วเหลือบมองคนสามคนที่กำลังทำอะไรบางอย่าง ไล่มองสามร่างต่างขนาดทีละคนก่อนที่จะหยุดที่คนสุดท้ายที่ฉันคิดว่าเป็นตัวต้นเรื่อง"…" ไม่มีเสียงตอบรับจากใครสักคนที่อยู่ในครัว ตอนนี้ฉันกำลังเล็งผู้ชายสามคนที่กำลังพังห้องครัวของฉัน ไล่เรียงตั้งแต่หกขวบคาม

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 112

    ท่อนเอ็นปูดนูนกำลังถูกฉันค่อย ๆ นั่งทับลงรูสวาท ความใหญ่โตเต็มที่กำลังทำให้กลีบดอกไม้ที่ฉ่ำเยิ้มแหวกออกจากกัน สุดท้ายมันก็เข้ามาในร่างกายของฉันสำเร็จ เอ็นร้อนแท่งใหญ่ทำให้ฉันต้องงอตัวไปข้างหน้า สอดประสานมือหนาของพี่สงครามแน่นเพื่อเป็นที่ยึดไม่ให้ฉันตกลงไปคอหักจากโต๊ะทำงานตัวสูง"ซี๊ดดด~" ร่างสูงคราง

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 111

    "เป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหม?" ร่างสูงเอ่ยถามในขณะที่ฉันเพิ่งกลับเข้ามา วันนี้ฉันเบบี้และแม่บ้านอีกสองคนพากันออกไปตามหาเนื้อผ้าหายากเพื่อมาตัดชุดคนสำคัญ ทั้งบ้านจึงเหลือแค่พี่สงครามคนเดียวที่เลี้ยงลูกเพราะป้าปิ่นลางาน แต่สิ่งที่เขาถามฉันว่าฉันควรเป็นคนถามเขามากกว่า เพราะใบหน้าคมดูเหนื่อยล้าต่างจากก่อนหน

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 110

    ใช่…มันมาจากผมกับไอกวินที่ถอนหายใจออกมาพร้อมเพรียง เหมือนเพิ่งผ่านการสู้รบกับกองทัพข้าศึก ผมกับมันจึงมองหน้ากันอย่างโล่งใจ"งั้นผมไปนะครับนาย" กวินเอ่ย"มึงหยุด อยู่ในบ้านนี่แหละ ช่วยกูดูลูก""แต่นาย…" กวินมันเรียกผมเสียงเบาลง"มึงกล้าขัดคำสั่งกูเหรอวะ""อยู่ก็อยู่ครับนาย" คามิลที่เริ่มได้กินนมก็เริ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status