ชานนท์อยากเขกหัวน้อยๆ ของหญิงสาวนัก! แต่เห็นสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังของณิชาแล้ว เขาก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ยื่นหน้าไปใกล้ทำให้ณิชาเอนหลังถอยหนีอย่างไม่รู้ตัว ทำให้อีกฝ่ายตามติด จนกระทั้งแผ่นหลังของหญิงสาวแนบชิดไปกับเบาะโซฟาณิชาได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัว ตั้งแต่ตัดสินใจคบหากันอย่างเป็นทางการและมาอาศัยพักค้างคืนที่คอนโดของเขาทุกครั้งที่เข้ากรุงเทพฯ แม้จะนอนเตียงเดียวกัน นอกจากจูบแล้วเขายังไม่เคยล่วงเกินเธอเลย“เป็นพี่ต่างหากที่กลัวว่าจะทำให้น้องเตยไม่พอใจ”“อะไรนะคะ” หญิงสาวทำหน้างุนงง ลืมไปว่าตอนนี้ตัวถูกร่างกายของเขากักขังไว้“พี่อายุมากกว่าเตยตั้งสิบปีเชียวนะ” เมื่อหมาป่าอยู่ใกล้ลูกแกะน้อย ก็อดสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนกายสาวไม่ได้“เตยไม่อายเหรอมีแฟนแก่”“พี่นนท์แก่ที่ไหนกัน” ณิชาหัวเราะเบาๆ แล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาอย่างเอาใจ แต่เมื่อเธอผละจากแก้มของเขา ชายหนุ่มฉวยโอกาสประกบริมฝีปากกดจูบทันทีเมื่อร่างกายบดเบียนแนบชิด ชานนท์ก็ไม่ต้องการให้เธอคิดเหลวไหลอะไรอีก เพียงแค่ได้จูบคนที่เขารัก ร่างกายก็ตื่นตัวอย่างแข็งขัน หลายเดือนมานี่เขาต้องทนอดกลั้นเพียงเพราะรอให้หญิงสาวคุ้นเคยกับเ
“ห้ามคิดอะไรทั้งนั้น” เขาห้ามเธอไว้ก่อน “พี่กับวีว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน”“แต่เคยมีอะไรกัน” เธอไม่ใช่เด็กเรื่องแบบนี้เข้าใจได้“มันเป็นอดีตไปแล้วนะครับ” เขายื่นมือไปกุมมือเธอไว้“เราจะมีปัจจุบันด้วยกันใช่ไหมครับที่รักของพี่”หญิงสาวเพียงถอนหายใจเบาๆ ไม่มีใครไม่มีอดีต เธอก็หวังว่าตัวเองจะรับมือกับเรื่องเหล่านี้ได้ เธอพยักหน้ารับอย่างจนใจ เขาเปิดประตูรถให้เธอเข้าไปนั่งแล้วรีบเดินอ้อมรถไปฝั่งคนขับ เห็นหญิงสาวนิ่งไปก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เขายื่นหน้าไปใกล้แต่พออยู่ใกล้ก็อดใจไม่ไหว หอมแก้มและคลอเคลียจนหญิงสาวสะท้าน “พี่นนท์”“ว่าไงจ๊ะ คนดีของพี่” “เตย...เตยไม่เก่งนะ”“หือ?” เขาถอยกลับมาเล็กน้อย สีหน้าแปลกใจ “เรื่องอะไรครับ”“เรื่องนั้น...” “เรื่องไหน?” เขาจนใจกับคำพูดของเธอ“เรื่อง...เรื่องนั้นนั่นแหละ เตยกลัวทำให้พี่นนท์ไม่มีความสุข” พอเห็นอาการเขินอายหน้าแดงลามไปทั้งตัว เขาก็เข้าใจความหมาย“เรื่องนั้น พี่สอนให้ก็ได้” ชานนท์ยกมือเรียวขึ้นมาจูบฝ่ามือของเธอเบาๆ แต่สายตายังจ้องมองที่ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า“พี่รักเตย มันไม่มีอะไรมีความสุขได้มากเท่ากับการได้อยู่กับคนที่เรารัก”หญิงสาว
“ทำไมคะ” คราวนี้ณิชาสีหน้ากังวล เกรงว่าตัวเองจะทำอะไรไม่ถูกกาลเทศะ“ก็น้องเตยจะทำให้ผู้ชายคนอื่นเกลียดพี่ที่ได้แฟนสวยขนาดนี้ไงล่ะ” เขายิ้มกริ่มส่งสายตาเจ้าชู้“บ้าแล้ว” หญิงสาวยิ้มเขินแล้วอาหารก็ยกมาเสิร์ฟ เพราะเขาสั่งไว้รอแล้ว เป็นดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่เพลิดเพลินอาหารอร่อย และไวน์แดงก็หอมหวานจนเธอหน้าแดง“เตยขอตัวไปห้องน้ำสักเดี๋ยวนะคะ”“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม”“เตยไปเองได้ค่ะ ไม่ได้เมาเสียหน่อย” เธอลุกขึ้นแล้วเดินออกไปชานนท์รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่น่าอิจฉาเสียจริง เขารู้ว่าณิชาเป็นคนสวยแต่ไม่คิดว่า เธอจะสวยและมีเสน่ห์มากขนาดนี้ ขณะยกแก้วไวน์ขึ้นเดิม หญิงสาวในชุดสีดำก็เดินเข้ามาใกล้ กลิ่นหอมของน้ำหอมราคาแพงทำให้เขาฉุนจมูก ชานนท์เงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องทำประหลาดใจที่เห็นวีว่าปรากฏตัวตรงหน้า“จะไม่เชิญให้นั่งหรือคะ” วีว่าส่งถามแล้วส่งสายตาเย้ายวน“ผม...” เขาต้องไล่เธอไปใช่ไหม แต่ระหว่างเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากคู่ขาที่ต่างมีความสุขด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าไล่ไปดื้อๆ ก็จะเหมือนคนร้อนตัวไปหน่อย“วันนี้ผมมากับคนรัก” เขาพูดตรงไปตรงมาจนวีว่าตกใจ ผู้ชายอย่างชานนท์นะหร
“ก็ระดับวีว่าแล้ว ปกติใส่แต่ของนอก นี่เพราะรุ่นพี่ที่รู้จักกันแนะนำมาถึงได้ยอมมาหรอกนะ” “ค่ะๆ” พนักงานยิ้มแย้มแต่ในใจตรงข้าม ทำไปเพราะหน้าที่ทั้งนั้น“วีว่าเอาชุดนี่แหละค่ะ จ่ายด้วยบัตรค่ะ”หญิงสาวกระตุกยิ้มที่มุมปาก ไม่แน่ใจหรอกว่าเรื่องที่สองคนนั้นพูดจริงเท็จแค่ไหน แต่เรื่องที่ชานนท์ไปพักฟื้นร่างกายต่างจังหวัดไม่ได้บอกใครในช่วงนั้นเป็นเรื่องจริง แต่จะเป็นอะไรไปถ้าเธอจะแวะไปเยี่ยมเยือนคู่ขาสักหน่อยณิชาถูกเพื่อนสาวจับแปลงโฉมเสียจนเจ้าตัวได้แต่ยืนจ้องเงาตัวเองในกระจกตรงหน้า ชุดเดรสสีม่วงเป็นแบบปาดไหล่ เธอไม่เคยใส่เสื้อเปิดเปลือยช่วงไหล่แบบนี้ ตัวกระโปรงยาวคลุมเข่า มันไม่ดูเซ็กซี่อย่างที่ข้าวหอมพูดจริงๆ นั้นแหละ เพียงแค่เธอไม่คิดว่าผู้หญิงในกระจกเป็นเธอ“สวยมาก” ข้าวหอมพูดอย่างภูมิใจ“แค่ไปกินข้าว ต้องแต่งตัวขนาดนี้เหรอ”“ดินเนอร์ใต้แสงเทียน โรงแรมหรู วิวสวย มันสุดยอดที่สุดเลยนะเตย” ข้าวหอมจิ้มหน้าผากเพื่อนเบาๆ ผมยาวของณิชาถูกปล่อยให้ยาวสยายเพราะเจ้าตัวอายที่จะอวดไหล่เนียน“ฉันต้องไปแล้วล่ะ”“รอเดี๋ยวนะ รอคนขับรถก่อน”“เตยมีรถ เตยขับไปเองก็ได้” ณิชาคิดแบบนั้นเลยไมได้ให้ชานนท
ปกรณ์เดินเข้ามาในร้านกาแฟข้างโรงพยาบาลเอกชนที่เขาทำงานอยู่ ใบหน้าของมีรอยยิ้มทันที่ที่เห็นหญิงสาวที่นัดไว้นั่งรออยู่ก่อนแล้ว แต่เจอครั้งนี้ดูแววตาเป็นประกายทั้งสุขและทุกข์ปนกันอยู่“เตยเอาเงินมาคืนค่ะ”“จ๊ะ เป็นลูกหนี้ที่น่ารักที่สุดที่พี่เคยเจอมาเลย” เขายิ้มแล้วยื่นมือไปรับเงินโดยไม่นับมาใส่กระเป๋า“กาแฟไหมคะ เตยเลี้ยงได้นะ” เธอหัวเราะจนตาหยี“นี่แหละที่ต้องการ” เขาดีดนิ้วแล้วมองหญิงสาวตรงหน้า “เอาอะไรดี”“วันนี้เตยกินไปสองแก้วแล้วค่ะ ขอเป็นนมปั่นได้ไหมคะ”“ได้ครับ พี่จัดให้” ปกรณ์ลุกขึ้นไปสั่งเครื่องดื่มแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม“วันนี้มาขายของเหรอครับ เป็นไงขายดีไหม?” เขาชวนคุย“ค่ะเกลี้ยงเลย” เธอยิ้มกว้างแล้วหยิบถุงกระดาษส่งให้ “คราวนี้กระปุกใหญ่ค่ะ เชิญกินให้เต็มที่เลย” ปกรณ์รับถุงกระดาษลายสวยมาดู ข้างในเป็นกระปุกน้ำพริกหลายชนิด ชายหนุ่มหัวเราะอารมณ์ดีและรับไว้ด้วยความเต็มใจอย่างมาก“ไปขายที่ไหนบ้าง คราวหน้าพี่จะไปอุดหนุน”“วันนี้ไปที่บริษัทของพี่นนท์มาค่ะ”“พี่นนท์? ไอ้ชานนท์นะเหรอ” “ค่ะ พี่ปกรณ์ยังเจอพี่นนท์อยู่ไหม” “อ้อ! ก็เจอกันบ้าง” ปกรณ์รับแก้วกาแฟของตั
ราวกับชานนท์ล่วงรู้ความคิดของคนรัก เขาสั่งให้พนักงานเคาน์เตอร์ฝ่ายประชาสัมพันธ์คอยส่งข่าว ทันทีที่เห็นว่าณิชาขายข้าวเสร็จ เขาไม่โกรธหรอกหากเธอจะวิ่งหนี พ่อกับแม่ของเขาทำอะไรไว้เยอะ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาจริงใจกับณิชาและสัญญากับพ่อของเธอไปแล้วว่าจะไม่ทำให้ลูกสาวคนเดียวของท่านต้องเสียใจมันไม่ใช่คำว่าช้าหรือเร็ว เพราะสามปีที่ผ่านมา เขาทนทุกข์กับความคิดถึงและเข้าใจผิดมาตลอด ชีวิตที่เคยป่วยเฉียดตายมาแล้วทำให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิตใหม่ที่ได้คืนมา เขาอยากจะรักษาทุกนาทีที่มีไว้กับคนที่เขารักหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงแล้ว พ่อกับแม่ร้อนใจจะพูดเรื่องผู้หญิงคนที่ลูกเรียกว่าแฟนคนนั้น เมื่อได้อยู่ตามพร้อมหน้าสามคนพ่อแม่ลูก แม่ก็เปิดฉากทันที“แกอย่าบอกแม่นะว่าแกจริงจังกับยัยเด็กคนนั้น” แม่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก“ครับ”“เรื่องนี้เรากลับไปคุยกันที่บ้านไม่ดีกว่าเรอะ” พ่อถอนหายใจเบาๆ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ตัดหางไอ้ลูกคนนี้ไปแล้ว ไม่คิดว่าจะมีวันที่มัน เอ๊ย! ลูกหันมาสนใจงานในครอบครัวแบบนี้เลยด้วยซ้ำ“ฉันร้อนใจ แบกกลับบ้านไม่ไหวหรอก” ดุพ่อเสร็จก็หันไปดุลูก “ผู้หญิงที่แม่เลือกให้ตั้