Share

บทที่ 5

“เพราะว่า…” เธอกลืนหมั่นโถวที่เหลือ รสชาติของหมั่นโถวเหล่านี้ไม่ได้ดีมากนัก เมื่อก่อนเธออาจจะไม่ชอบมัน แต่ตอนนี้รสชาติเป็นรอง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอคือการทำให้อิ่มท้อง

"เราเป็นคนประเภทเดียวกันใช่ไหม? เราทั้งคู่ถูกสังคมทอดทิ้ง ดิ้นรนอยู่อย่างชนชั้นล่าง ไม่มีใครต้องการคนอย่างเราและไม่มีใครเห็นค่า แต่อย่างน้อยเราก็ต่างทำให้อีกฝ่ายอบอุ่นใจได้ ฉันเป็นห่วงคุณและคุณก็เป็นห่วงฉันได้ด้วยใช่ไหม? " เธอยิ้มอ่อนโยนให้เขา รอยยิ้มนั้นปนเปทั้งความหวัง ความปรารถนาและความกระวนกระวาย

“อย่างนั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าเราจะเป็นคนประเภทเดียวกันจริง ๆ แหละนะ...” เขาพึมพำ สายตาของเขาดุจดั่งนักล่าที่กำลังจ้องมองสัตว์ตัวเล็ก ๆ ซึ่งตกหลุมพรางของเขา บางทีชีวิตอาจน่าเบื่อเกินไปสำหรับเขาเพราะเขาสามารถคว้าทุกสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ดีดนิ้ว แต่ตอนนี้การละเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้เริ่มทำให้เขาสนใจขึ้นมาแล้ว

"พี่สาว" เขาพูดคำที่เธอหวังจะได้ยินออกมาเบา ๆ

ในชั่วพริบตานั้นรอยยิ้มของเธอก็สดใสเหมือนดั่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

หลังอาหารค่ำหลิงอี้หรานพาอี้จิ่นหลีไปตลาดกลางคืนกับเธอเพื่อที่จะซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ แม้จะเลือกเสื้อผ้าที่ราคาดูก แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดถึง 5000 บาท

หลิงอี้หรานยืนกรานอี้จิ่นหลีสวมเสื้อแจ็คเก็ตนวม “ตอนนี้อุ่นขึ้นหรือยัง?” เธอถาม

“อืม” อี้จิ่นหลีตอบอย่างเฉยเมย เขาหลุบตาลงมองเธอ เขาสูงกว่าเธอเกือบหนึ่งช่วงศีรษะ "ที่จริงพี่ไม่จำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ให้ก็ได้ ฉันชินกับความหนาวเย็น ฉันใส่เสื้อผ้าชุดเดิมก็ชินแล้ว"

“มันไม่ได้หมายความว่านายจะต้องทนหนาวเย็นเพราะว่านายชินกับมันเเล้ว” เธอกล่าว “ฉันไม่ได้มีเงินมากนักและไม่สามารถซื้อเสื้อผ้าให้นายได้มากขนาดนั้น แต่อย่างน้อยฉันก็สามารถให้นายได้สวมเสื้อผ้าที่อุ่นกว่านี้ได้”

“ทำไมพี่ถึงดีกับฉันจัง?” เขาถามเบา ๆ

“เพราะว่าฉันเป็นพี่สาวของนายยังไงล่ะ” เธอยิ้ม มือของเธอบังเอิญไปโดนมือของเขา เธอพบว่ามือของเขานั้นเย็นเฉียบเธอจึงจับมือเขา แล้วก้มศีรษะลงเเละเป่ามือของเขาก่อนจะเริ่มถูไปมา

“มือของนายเย็นมากเลย การถูแบบนี้จะช่วยให้มือของนายอุ่นขึ้น” เธอกล่าว

เขาตัวเเข็งทื่อชั่วขณะเมื่อเธอจับมือเขา แววตาอันทรงเสน่ห์ของเขาซ่อนอยู่หลังผมหน้าม้านั้นหรี่ลงเล็กน้อย ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนถูดมือเขาเพียงเพื่อทำให้อบอุ่นมาก่อน เพราะเธอเป็นส่วนสำคัญของเกมเขากระมังถึงทำไม้เขาไม่รังเกียจสัมผัสของเธอ?

เมื่อเห็นเขาไม่ได้บ่ายเบี่ยง ทันใดนั้นเธอดูเหมือนว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างได้และชำเลืองมองไปที่มือของเธอซึ่งเต็มไปด้วยผิวหนังอันหยาบกร้าน เธอรีบพูดว่า “ฉันทำให้นายเจ็บหรือเปล่า? มือของฉันค่อนข้างจะหยาบกร้านน่ะ...”

ขณะที่เธอพูดเธอก็รีบปล่อยมือเขาลง

เขาคิ้วขมวดลงเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าความอุ่นบนมือของเขานั้นหายไป “ฉันไม่คิดว่ามือของพี่หยาบเลย แต่อันที่จริงมือของพี่ก็เย็นเหมือนกัน ทำไมพี่ไม่ถูมือของพี่กับมือของฉันต่อล่ะ?”

ขณะที่เขาพูด เขาก็ยื่นมือของเขาให้กับเธอ

เธอลังเลเล็กน้อยแต่ก็จับมือเขาไว้อีกครั้ง เมื่อเทียบกับมือที่ใหญ่ของเขา มือของเธอนั้นมีขนาดเล็กกว่ามาก แต่ในคืนฤดูหนาวที่หนาวเหน็บเช่นนี้ มือเล็ก ๆ ของเธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกุมมือใหญ่ของเขาไว้แล้วใช้ฝ่ามือของเธอถูซ้ำ ๆ กับหลังมือของเขา

เธอก้มศีรษะลงแล้วและเป่าลมหายใจเพื่อให้ไออุ่นเป่าลงบนมือของเขาเป็นครั้งคราว จมูกของเธอแดงก่ำขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากความหนาวเย็น ในสายตาของเขาเห็นว่ามันเพิ่มความน่ารักให้เธอนิดหน่อย

แพขนตาของเขาสั่นไหวเล็กน้อย อี้จิ่นหลีมองไปที่มือของตนซึ่งมือเล็ก ๆ ของเธอกุมไว้ ดูเหมือนว่ามันก็อุ่นขึ้นมาเล็กน้อยจริง ๆ

สองวันต่อมา หลิงอี้หรานได้รับโทรศัพท์จากหลิงลั่วอิน "พี่สาว พ่อบอกว่าวันนี้เขาจะทิ้งอัลบั้มรูป ฉันโน้มน้าวเขาแทบตายกว่าเขาจะยอมให้ฉันมา ฉันอยากจะให้อัลบั้มรูปนี้กับพี่ พี่มาหาฉันได้ไหม?" เสียงของหลิงลั่วอินปลายสายฟังดูนุ่มนวล จากนั้นเธอก็บอกที่อยู่และวางสายโดยไม่รอคำตอบของหลิงอี้หราน

หลิงอี้หรานจ้องมือถือ เธอรู้ว่าหลิงลั่วอินพูดถึงอะไร มันเป็นอัลบั้มที่มีรูปถ่ายของเธอและแม่เมื่อตอนที่เธออายุได้สามขวบ

“ถ้าพี่ไม่มา อาจจะมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับอัลบั้มรูปนี่ก็ได้” หลิงลั่วอินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

หลิงอี้หรานรู้ว่าหลิงลั่วอินจะไม่มีวันมอบอัลบั้มให้เธอโดยไม่หวังอะไรแน่ อย่างไรก็ตามอัลบั้มนั้นล้วนบรรจุไปด้วยความทรงจำมีค่าเกี่ยวกับแม่ของเธอและความทรงจำเกือบทั้งหมดของเธอเกี่ยวกับแม่ของเธอก็อยู่ในอัลบั้มนั้น

“พี่สาว?” เสียงเย็นของผู้ชายดังเข้าหูของเธอ

เธอกลับมารู้สึกตัวอีกทีก่อนหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นพูดว่า “จิน พี่ต้องออกไปข้างนอกครู่หนึ่ง นายไปนอนก่อนได้”

เธอก็รีบลุกขึ้นสวมเสื้อโค้ทของเธอและออกไป เธอไม่ทันได้รู้เลยว่าสายตาคู่หนึ่งนั้นจับจ้องมาที่เธอจากด้านหลังด้วยความครุ่นคิด

เมื่อหลิงอี้หรานไปถึงที่อยู่ที่หลิงลั่วอินให้ไว้ เธอก็พบว่าที่นี่คือคลับ เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวนั้นก็พบว่าหลิงลั่วอินไม่ได้อยู่ข้างในคนเดียว ยังมีชายวัยกลางคนร่างท้วมซึ่งดูเหมือนจะอายุราว ๆ สี่สิบเศษในห้อง

“ลั่วอิน นี่พี่สาวของคุณเหรอ?” ชายร่างท้วมมองไปที่หลิง อี้หราน เเละถาม

“ใช่ค่ะผู้กำกับเหอ เธอคือพี่สาวของฉัน พี่คะเขาคือผู้กำกับเหอจากภาพยนตร์ของฉันตอนนี้ เขาเคยพูดเสมอว่าเขาอยากเจอพี่หลังจากที่รู้ว่าพี่เคยเป็นเเฟนของเซียวจื่อฉี” หลิงลั่วอินกล่าวพร้อมยิ้ม

“แล้วอัลบั้มรูปล่ะ?” หลิงอี้หรานถามเสียงเย็น

“ก่อนอื่นฉันต้องขอให้พี่พูดดี ๆ ถึงฉันกับผู้กำกับเหอก่อน ถ้าผู้กำกับเหอพอใจกับพี่เขาก็อาจจะให้ฉันได้มีบทบาทมากขึ้น จากนั้นฉันจะให้อัลบั้มนั้นกับพี่” หลิงลั่วอินกระซิบและคำพูดของเธอแฝงเจตนาข่มขู่

“เอาล่ะ ไหน ๆ ก็มาที่นี่แล้ว เรามาดื่มกันเถอะ” ผู้กำกับเหอรินไวน์แดงและทำท่าบอกให้หลิงอี้หรานดื่ม

หลิงอี้หรานจ้องหลิง ลั่วอิน ดูเหมือนว่าน้องสาว ‘คนดี’ ของเธอคนนี้จะขายเธอเพื่อเเลกกับการให้ตัวเองได้บทเพิ่มขึ้น

หลิงลั่วอินถือโอกาสหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและยื่นมันให้กับหลิงอี้หรานพร้อมกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน “พี่สาว ก่อนหน้านี้พี่เคยทำลายโอกาสของฉัน พี่มาชดใช้ให้ก็ยุติธรรมดีแล้วใช่ไหม? อีกอย่างถ้าพี่ทำให้ผู้กำกับเหอพอใจได้ มันก็น่าจะดีสำหรับพี่นะ ”

"ฉันเพิ่งเคยได้ยินคนพูดเรื่องนี้ให้มันดูสูงส่งเนี่ย" หลิงอี้หรานสวน เธอไม่เคยคิดจะเอาเรือนร่างมาแลกกับอัลบั้มรูป แม่ของเธอก็ไม่มีทางต้องการแบบนี้

ตอนเธอกำลังจะหันพร้อมจะเดินออกไป ผู้กำกับเหอก็พูดว่า “อ้อ นี่คิดว่าตัวเองสูงส่งเกินจะทำแบบนี้เหรอ? คิดว่าตัวเองยังเป็นเเฟนของคุณเซียวแห่งตระกูลเซียวหรือไง? ฉันได้ยินมา

จากลั่วอินว่าเธอเป็นเพียงแค่พนักงานทำความสะอาดเท่านั้น ฉันให้เธอดื่มนี่ก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติแล้วนะ"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status