Beranda / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 10 หึงไม่รู้ตัว - 100%

Share

บทที่ 10 หึงไม่รู้ตัว - 100%

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-30 20:30:44

ไม่เกินสิบนาทีต่อมา ชายหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความผ่อนคลาย เห็นรวิชานั่งหน้าแดงเอียงคอ ทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

“คิดอะไรอยู่” ภีมพลเดินเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เห็นสีหน้าแววตาของรวิชาตื่นเต้นเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวจะรีบกลบเกลื่อนด้วยการหันมาฉีกยิ้มกว้าง แล้วรีบเบือนหน้าไปทางอื่นแทน ชายหนุ่มจึงเอามือทั้งสองข้างไปกุมใบหน้าเรียวสวยนั้นไว้ บังคับให้หันมองมาตน

“รู้ตัวหรือเปล่าว่าเราน่ะโกหกไม่เก่งเลย ว่าไงครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

รวิชาได้แต่ยิ้มแหย นัยน์ตากลมโตกวาดมองไปทางอื่นเพราะไม่กล้าสบตากับเขา ปากอิ่มเม้มแน่นตามความเคยชิน ทำเอาคนมองได้แต่จ้องริมฝีปากสีระเรื่อนั้นตาปรอย

“ก็...ก็แค่...นึกถึงวันนั้นค่ะ” วันที่เธอตื่นมาแล้วพบว่ามีผู้ชายเปลือยกายนอนหลับอยู่ข้าง ๆ แถมยังเป็นผู้ชายที่เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะได้มาพูดคุยจนเลยเถิดมาถึงขั้นหมั้นหมายกันอย่างวันนี้…และที่สำคัญ เธอยังได้เห็นหนอนชาเขียวตัวโตเต็มวัยของเขาอีกด้วย!

“ทำไมล่ะ จะบอกให้ว่าวันนั้นน้องอายโชคดีมากแล้วรู้ไหมที่เจออา ถ้าอาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ คราวหน้าคราวหลังห้ามหนีเที่ยวอีกนะ อยากไปไหนบอกอา อาจะเป็นคนพาไปเอง” คิดแล้วก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้ ถ้าวันนั้นคนที่ช่วยไม่ใช่เขาแต่เป็นนักเที่ยวกลุ่มอื่นที่มาพาตัวเธอไป เขาไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“อย่างวันนี้ใช่ไหมคะ” เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนตัดสินใจโพล่งถามเขา

“วันนั้น...น้องอายเห็นอาภีมนอนไม่ใส่เสื้อผ้า” พูดแล้วก็เขิน ใบหน้านวลแดงก่ำ หลุบตาลงต่ำก้มลงมองแต่มือของตัวเอง จนได้ยินเสียงหัวเราะของเขาดังแว่วมา เธอจึงได้ช้อนตาขึ้นมอง

“ว้า...งั้นน้องอายก็เห็นของอาหมดแล้วน่ะสิ ฮ่า ๆ”

ภีมพลหัวเราะอย่างถูกใจ ยิ่งเห็นหน้าใส ๆ นั่นอ้าปากค้างเมื่อถูกเขาพูดตรงประเด็นก็ยิ่งขำจนท้องคัดท้องแข็ง

“อาภีมบ้า! ไม่คุยด้วยแล้ว” รวิชาแหวใส่เสียงดัง คนที่ควรอายน่าจะเป็นเขามากกว่า แล้วทำไมเธอต้องมาอับอายแทนด้วย ดูเขาไม่สะทกสะท้านอะไรเสียด้วยซ้ำ สงสัยจะแก้ผ้าโชว์อยู่บ่อย ๆ

ชายหนุ่มโยกศีรษะเล็กไปมาอย่างเอ็นดู ก่อนจะรั้งให้เธอเอนมาซบบ่าของเขาพร้อมกับก้มลงจูบหนัก ๆ ที่หน้าผากหนึ่งที รู้สึกได้ว่าร่างน้อยเกร็งพอสมควรในยามที่ได้แนบชิด หรือถูกเขาแสดงความรักด้วยแบบนี้

“น้องอายสบายใจได้ วันนั้นอาไม่ได้ทำอะไรน้องอายเลย อาเมาจนแทบจะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว ถึงอยากทำแค่ไหนแต่ก็คงฝืนร่างกายไม่ไหวหรอก แล้วที่อาแก้ผ้าหมดนั่นก็เพราะอานอนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันคือความเคยชิน”

รวิชาค่อย ๆ ขืนตัวเองออกจากบ่าเขา เธอยังไม่ค่อยชินนักกับการใกล้ชิดแบบถึงเนื้อถึงตัว หรือเพราะการเปลี่ยนสถานะจากคนข้างบ้านมาเป็นคู่หมั้น จึงทำให้เขาแสดงออกกับเธออย่างที่เห็น เธอไม่รู้ว่าคู่หมั้นคู่อื่นจะทำกันแบบนี้หรือเปล่า แล้วอย่างเธอกับเขาจะใช้คำว่า “แฟน” กันได้หรือยัง

แต่จะว่าไปแล้ว...คนเป็นแฟนกันต้องบอกรักกันก่อนไม่ใช่หรือ แต่เขาไม่เคยบอกว่ารักเธอเลยสักคำ หรือแท้จริงแล้วเขาไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลย หรือคิดเพียงว่าเธอคือหลาน คือเด็กสาวข้างบ้านเท่านั้นจึงรู้สึกเอ็นดูมากเป็นพิเศษ แล้วเธอเล่าคิดกับเขาอย่างไร ในใจตอนนี้เธอยังไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้เลย

รวิชาได้แต่คิดสับสนวนเวียนไปมาอยู่ในหัว คำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ คำถามที่ไม่รู้ว่าควรถามหรือปรึกษาใคร แม้กระทั่งผู้ชายที่นั่งโอบบ่าของเธออยู่

ใจหนึ่งอยากถามเรื่องค้างคาใจที่วิคกี้พูดทิ้งท้ายเอาไว้ แต่อีกใจก็คิดว่าขืนถามไปตามตรง แล้วใครที่ไหนจะยอมรับว่าตัวเองทำจริง สุดท้ายเธอจึงได้แต่ปิดปากเงียบ

 “ไปข้างล่างกันเถอะ”

ภีมพลลุกขึ้นยืนแล้วเอามือสอดประสานกับมือของรวิชา เขาพาเธอเดินลงบันไดมาจนกระทั่งพบกับพชรที่กำลังเปิดประตูห้องทำงานออกมาพอดี พชรเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเดินจูงมือสาวน้อยที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นป้ายแดงลงมาจากห้องพักชั้นบน

พชรเดินเข้าไปกระซิบข้างหูเพื่อนให้ได้ยินกันแค่สองคน

“โทษฐานพรากผู้เยาว์นี่...เขาติดคุกกันกี่ปีวะเพื่อน”

“ไอ้บ้า! ไม่มีอะไรเว้ย ขึ้นไปคุยกันเฉย ๆ” ภีมพลเค้นเสียงตอบ แต่ระดับเสียงเพียงกระซิบ พชรได้ยินถึงกับทำตาโต

“ว้าว! อเมซิ่งมากเลยเพื่อน แกอำฉันเล่นหรือเปล่าวะ”

เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ คนอย่างภีมพลเนี่ยน่ะหรือจะปล่อยให้สาวหลุดมือถ้าได้ขึ้นไปถึงห้องนอนชั้นบน ปกติเห็นขึ้นไปกี่คน ๆ ก็ต้องโซซัดโซเซเดินลงมาขาแข้งอ่อนกันทุกราย

“เฮ้อ...น้องอายจ๋า เราไปกันเถอะ” ภีมพลส่ายหน้าให้เพื่อนอย่างระอา รีบจับจูงมือสาวน้อยเดินลงไปชั้นล่างทันที เพราะขืนอยู่นานกว่านี้เขาคงได้โดนพชรแซวไม่เลิก

ก่อนจะเปิดประตูออกไปสู่ฮอลล์ด้านนอก ภีมพลรั้งมือเธอไว้พลางจับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวให้หันมาทางตน เพื่อจะพูดย้ำบางอย่างให้เธอปฏิบัติตาม

“น้องอายฟังอานะ อาไม่ได้อยู่เฝ้าน้องอายตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเวลาที่ใครมาตีสนิท มายื่นแก้วเหล้าให้ล่ะก็ อย่ารับมาอย่างเด็ดขาด เพราะเราไม่รู้ว่าในแก้วนั้นเขาใส่อะไรเอาไว้บ้าง อย่ารับฝากของจากคนแปลกหน้า หรือโต๊ะข้าง ๆ หรือใครก็ตาม เพราะเราไม่รู้ว่าในกระเป๋านั้นใส่อะไรเอาไว้ บางทีมันอาจจะมียาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายก็ได้ และที่สำคัญเลยก็คืออย่าให้เบอร์โทรศัพท์กับใครเด็ดขาด ไอดีไลน์ด้วย ถามชื่อน่ะถามได้ แต่ถ้าจะทำความรู้จักนอกเหนือไปจากนั้น ปฏิเสธไปให้หมด บอกไปเลยว่ามีแฟนแล้ว แฟนดุมากด้วย โอเคนะครับ”

ภีมพลพูดจบก็ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของรวิชาหนึ่งที เห็นเธอยังคงยืนทำหน้าเหวอ ๆ ปากอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยจนเห็นไรฟันขาว เขาเห็นแล้วก็อยากลองลิ้มชิมรสริมฝีปากสีหวานนี้เหลือเกิน

แต่ยังไม่ถึงเวลา ทุกอย่างจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ให้เธอค่อย ๆ ชินกับการมีเขาอยู่ใกล้ ๆ ค่อย ๆ ชินกับสัมผัสของเขาไปทีละนิด แค่นี้รวิชาก็เกร็งกับสัมผัสของเขาจะแย่อยู่แล้ว ขืนบุ่มบ่ามทำตามใจตัวเองมากเกินไป คงถูกเธอตราหน้าว่าเป็นตาแก่ตัญหากลับแน่

รวิชาเอาแต่อึ้งกับประโยคสุดท้ายของเขา ตอนนี้สมองแทบไม่รับรู้แล้วว่าเขาจับจูงมือเธอเดินไปทางไหนบ้าง รู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่เธอมายืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะที่พรรณรายกับสกลธีกำลังลุกขึ้นวาดลวดลายกันแล้ว เธอหันมองเขาก็เห็นเขากำลังโน้มใบหน้าลงมากระซิบข้างหูพอดี

“อย่าลืมนะ ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ตาม โทร. หาอาได้ตลอดเวลา แล้วอาจะรีบลงมาหา สนุกกับเพื่อนให้เต็มที่แต่ห้ามดื่มจนเมา และอย่าลืมที่อาบอกไว้ล่ะ”

ชายหนุ่มกำชับเสียงนุ่มน่าฟัง รวิชาได้แต่พยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มให้ แต่สายตาอดมองเลยไปยังโต๊ะของผู้หญิงที่เธอเห็นเขานัวเนียด้วยก่อนหน้านี้ไม่ได้

ภีมพลมองตามแล้วหันมาคลี่ยิ้มกว้างให้คู่หมั้นสาว

“อาไม่แวะหรอกน่าไม่ต้องห่วง อากลัวโดนถอนหมั้นจะตายไป น้องอายไม่รู้หรือ แล้วอีกอย่างนะ คุณคนนั้นก็มีคนมานั่งเป็นเพื่อนแล้วนั่นไง”

เขาหยิกแก้มนวลอย่างแผ่วเบา ก่อนเดินจากไป ทิ้งสัมผัสร้อนผ่าวเอาไว้ให้เจ้าตัวได้แต่นั่งอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว

“แฟนงั้นหรือ...นี่ตกลงเราเป็นแฟนกับอาภีมแล้วหรือเนี่ย” แล้วการเป็นแฟนกันต้องปฏิบัติต่อกันยังไงบ้าง

เห็นทีเรื่องนี้คงต้องปรึกษากูรูอย่างพรรณรายเสียแล้ว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 100%

    “อ้าว! วันนี้คุณอายไม่เข้าบริษัทหรือ” เมื่อเช้าก็ออกมาด้วยกันแท้ ๆ แต่แม่เจ้าประคุณแอบหนีไปเที่ยวไหนกันล่ะนี่ ชายหนุ่มคิดอย่างเข่นเขี้ยวในใจเมื่อเจอ “เซอร์ไพรส์” สุดพิเศษจากศรีภรรยาภีมพลยิ้มกริ่มอย่างหมายมาด เห็นทีต้องรีบกลับไปรับขวัญก่อนเวลาเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถออกมา เหลือบไปเห็นแฟ้มงานสองแฟ้มที่ยังคงแผ่หราอยู่เต็มโต๊ะ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังดูค้างเอาไว้ เขากวาดตามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ใจจริงเขามีตัวเลือกเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อตัดสินใจได้เขาก็คว้าแฟ้มขวามือเดินออกจากห้องทันที จากนั้นจึงไปยื่นให้กับเลขาฯ ส่วนตัว“ผมเลือกของบริษัทนี้ ให้ฝ่ายจัดซื้อทำเรื่องได้เลย อ้อ วันนี้ผมไม่เข้าแล้วนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ผละออกไป และต้องหยุดชะงักเมื่อเลขาฯ รีบวิ่งมาถามถึงงานบางอย่างที่เขาให้เตรียมไว้สำหรับช่วงบ่ายนี้“คุณภีมคะ แล้วเรื่องที่ให้เตรียมเอาไว้บ่ายนี้ล่ะคะ”“ยังคอนเฟิร์มอยู่ แต่ว่าคุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ”ภีมพลหันมายิ้มพรายเต็มวงหน้าเมื่อคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 70%

    อดคิดไปถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ ท่านทั้งสองช่างมีความอดทนและมุมานะอย่างล้นเหลือที่สู้ฝ่าฟันจนกระทั่งบริษัทเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้ นึกมาถึงตอนนี้แล้วก็โกรธตัวเองที่ตอนนั้นเอาแต่น้อยใจ คิดว่าท่านทำแต่งานจนไม่สนใจใยดีกับเธอผู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว‘รวิชา แปลว่าลูกพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้นหนูต้องเข้มแข็ง อดทนให้สมกับที่เป็นลูกสาวของพ่อ ชีวิตของหนูจะต้องรุ่งโรจน์สดใสเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า’ถ้อยคำจากบิดายังคงดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่นึกถึงเวลาเมื่อรู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าไม่มีแม่นมชราและสามีที่คอยเป็นกำลังใจให้ ป่านนี้ชีวิตเธอจะหักเหไปทางไหนแล้วบ้างก็สุดรู้“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับจุมพิตเบา ๆ ที่ข้างแก้ม จากนั้นคนตัวโตก็ทรุดตัวลงนั่งซ้อนหลังไว้พร้อมกับดึงบ่าของเธอให้เอนซบลงมาบนตัวเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” หญิงสาวทักทายกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของสามี“จำเป็นต้องตื่นเช้าน่ะ จู่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 35%

    หลังจากถวายสังฆทานจนกระทั่งกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อย ภีมพล รวิชา และนมพิมก็พากันเดินออกมาเทน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้ากุฏิ ชายหนุ่มสวดบทกรวดน้ำพึมพำโดยไม่ออกเสียง ในขณะที่หญิงสาวและนมพิมอธิษฐานเพื่อส่งผลบุญให้แก่ผู้ล่วงลับอยู่ในใจวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของบิดามารดาของรวิชา นมพิมเปรยเอาไว้หลายวันก่อนหน้าแล้วว่าอยากมาทำบุญให้ท่านทั้งสอง ซึ่งเธอเองก็เห็นด้วยเพราะคิดไว้เหมือนกันว่าจะมาทำบุญวันนี้ จึงชวนสามีหนุ่มให้มาด้วยกัน และเขาก็ไม่ขัดข้อง เพราะตั้งแต่ผ่านพ้นพิธีแต่งงานมาได้สองเดือน ภีมพลก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกเลยจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางกลับบ้าน พอมาถึง ชายหนุ่มปล่อยให้รวิชาได้อยู่กับแม่นมตามลำพังเพราะคิดว่าทั้งสองคนคงมีเรื่องอยากพูดคุยกัน เขาเองก็เห็นใจคนแก่อย่างนมพิม เพราะตั้งแต่รวิชาเรียนจบมาก็เอาแต่ทำงาน แถมหลังจากนั้นสองเดือนก็เข้าพิธีแต่งงานกับเขา ทำให้บางคืนรวิชาไม่ได้กลับไปนอนบ้านตัวเอง ถึงแม้เขากับรวิชาจะแก้ปัญหาด้วยการสลับบ้านนอนเป็นวันเว้นวันแล้วก็ตาม แต่หัวอกคนแก่ก็คงหงอยเหงาเป็นธรรมดา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 100%

    “ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย อย่างนี้ต้องให้รางวัล”ชายหนุ่มจับล็อกปลายคางมนของหญิงสาวไว้ แล้วก้มลงตบรางวัลให้คนปากหวานช่างจำนรรจาจนเขากระชุ่มกระชวยทุกทีที่ได้ฟังนาทีนี้ภีมพลเหมือนจะคลั่งเสียให้ได้ สาวน้อยช่างหวานจับจิตจับใจสมกับที่รอคอยมานานแสนนาน ถ้าไม่ติดว่าเธอยังใหม่กับความสัมพันธ์แบบนี้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งเขาและเธอยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเป็นแน่“อื้ม...อาภีมขา นี่มันริมถนนนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”แค่หญิงสาวพูดเบา ๆ แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วน้ำเสียงสั่นพร่านิด ๆ นั้นช่างฟังดูเซ็กซี่ยั่วยวนดีเหลือเกิน เขานึกถึงตอนเธอครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา ทั้งภาพทั้งเสียงยังคงติดตาตรึงใจเสียจนอะไร ๆ มันพรักพร้อมขึ้นมาอีกแล้ว“เราเข้าหมู่บ้านมาแล้ว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมาหรอก รถอาก็มืด ใครจะมองเข้ามาเห็นล่ะคะ”เอาอีกแล้ว ลงท้ายด้วยคะ ขาแบบนี้แปลว่าเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วเป็นแน่ ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร แต่ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน“แวะบ้านอาก่อนนะคะ”แค่เห็นแววตาระยิบระยับแพรวพราวของเข

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 70%

    “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้อยู่กับอาทั้งคืนได้ไหม ตามใจอาหน่อยได้ไหมคะ”เขาถามพร้อมกับประพรมจุมพิตไปทั่วหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะเอ่ยประโยคสำคัญที่ทำให้คนฟังหัวใจพองฟูคับอก“อาก็รักน้องอาย ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่อาอยากให้น้องอายอยู่ด้วยแต่เป็นทุก ๆ คืน และตื่นมาตอนเช้าก็เห็นหน้าน้องอายเป็นคนแรกในทุก ๆ เช้า”ชายหนุ่มหยุดพูด แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้งหนึ่งแล้วไต่ระเรื่อยมาจนถึงใบหู ใจอยากจะโจนจ้วงเข้าหาร่างเย้ายวนนี้ให้สมกับที่รอคอยมานานแสนนาน แต่ก็อยากให้หญิงสาวได้สัมผัสกับความสวยงามจากประสบการณ์ในรักครั้งแรกมากกว่า เขาจึงต้องอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่าความต้องการจะอัดแน่นจนแทบระเบิดแล้วก็ตาม“แต่งงานกับอานะคะ”ไหน ๆ เธอก็เรียนจบแล้ว มีงานมีการทำถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หนำซ้ำยังจดทะเบียนสมรสเป็นคนคนเดียวกันในทางกฎหมายแล้วด้วย เขาจึงคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรออีกต่อไป เพราะเขากับเธอก็แทบจะเป็นของกันและกันอยู่แล้ว จะเหลือก็แต่การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันในฐานะของสามีภรรยาเท่านั้นรวิชาคลี่ยิ้มกว้างพล

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 35%

    ภีมพลยืนยิ้ม มองภรรยาทางนิตินัยที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนานกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อยู่ข้างล่างด้วยแววตาทอดอ่อน เมื่อวานสอบวันสุดท้าย วันนี้รวิชาจึงขออนุญาตเขาพาเพื่อน ๆ มาสนุกกันที่คลับอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฉลองจบการศึกษา อีกทั้งฉลองที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปานั้นทะลุเป้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้พอสมควรสาวน้อยของเขาเรียนจบแล้ว...ปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งคู่หมั้น สองปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งสามีตามกฎหมาย รวมแล้วร่วมสี่ปีเต็มกับการเฝ้าดูแลเด็กสาวคนหนึ่งให้เติบโตเป็นหญิงสาวแสนสวย และมากความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเมื่อก่อนเขาเอาแต่นั่งนับวันเวลาว่าเมื่อไรเธอจะเรียนจบ เพราะอยากตีตราจองเธอเอาไว้ด้วยร่างกาย ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวตามประสาผู้ชายทั่วไปที่คิดอยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรัก ทว่าพอวันเวลาผ่านไป ความคิดของเขาก็ค่อยปรับเปลี่ยนไปทีละนิดตามความผูกพันที่เพิ่มขึ้นระหว่างเขากับเธอเซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เขาต้องการจากเธอเพียงอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกมั่นคงในรัก และการรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งขอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status