หน้าหลัก / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 5 แผนการขอหมั้นหมาย - 70%

แชร์

บทที่ 5 แผนการขอหมั้นหมาย - 70%

ผู้เขียน: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 16:45:36

หญิงสาวเม้มปากแน่นเพราะมันคอยแต่จะคลี่ออกกว้าง นัยน์ตากลมโตตวัดมองไปทางที่คนบ้าเพิ่งเดินผ่านไป พลางค้อนลมค้อนแล้งไปเรื่อย ก่อนจะหยิบหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่านอีกครั้ง หวังจะให้มันช่วยปัดเป่าความฟุ้งซ่านที่อยู่ในใจ แต่ดูเหมือนไม่ค่อยได้ผลเท่าไรนัก

ภีมพลมองหาเจ้าของบ้านเพราะไม่อยากเสียมารยาทไปนั่งรอที่ห้องรับแขกโดยพลการ ระหว่างชั่งใจว่าจะเดินย้อนไปหารวิชาดีหรือไม่ เขาก็เห็นมาลัย แม่บ้านของที่นี่เดินมาหาเสียก่อน

“มาหาคุณผู้ชายหรือคะคุณ”

“ผมมาหาพี่อาทิตย์กับพี่วิน่ะครับ”

แม่บ้านเดินนำภีมพลไปที่ห้องรีบแขกแล้วให้เขานั่งรอในนั้น จากนั้นมาลัยจึงเดินไปยังห้องทำงานเพื่อบอกเจ้านายว่ามีแขกมารอพบ

ภีมพลลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะใต้บันไดเมื่อเห็นกรอบรูปหลายอันวางอยู่ เขาเลือกหยิบขึ้นมาอันหนึ่งซึ่งเป็นรูปของเด็กหญิงตัวน้อย นัยน์ตาสุกสกาว มัดแกละไว้สองข้าง ที่แก้มยุ้ย ๆ นั่นประแป้งไว้ขาวนวลจนน่าหยิกเล่น เจ้าตัวกำลังยิ้มร่าอวดฟันน้ำนมที่ขึ้นเรียงตัวสวยทั้งบนและล่าง มีตุ๊กตาหมีสีขาวใส่ชุดเจ้าสาวฟูฟ่องอยู่ในอ้อมกอด ดูเหมือนเจ้าตัวจะเห่อและหวงน่าดู

ชายหนุ่มจำได้ว่าตุ๊กตาตัวนี้ตนเป็นคนซื้อให้ตอนที่รวิชาอายุครบสี่ขวบ และตั้งแต่นั้นมาเวลาแม่หนูน้อยเดินไปไหนมาไหนก็มักหนีบหมีเจ้าสาวตัวนี้ไปด้วยเสมอ

ภีมพลอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้น เขารู้ว่าหญิงสาวคงจำไม่ได้แล้วเพราะยังเล็กเหลือเกิน แต่สำหรับเขายังจดจำได้ดีทีเดียวว่า ตอนนั้นตนเอ็นดูแม่หนูน้อยมากแค่ไหน

เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ ทำให้ชายหนุ่มตัดใจวางกรอบรูปลงตามเดิม เมื่อหันไปทางที่มาของเสียงก็เห็นสองสามีภรรยาเดินมาหา เขาจึงยกมือขึ้นไหว้

“ไปที่ห้องทำงานกันดีกว่าครับคุณภีม” อาทิตย์รับไหว้แล้วชี้ไปทางห้องทำงาน ส่วนรวิวรรณเดินไปทางห้องครัวเพื่อเตรียมของว่างต้อนรับแขก

ภีมพลหย่อนตัวนั่งบนโซฟาตัวเดิมกับที่นั่งเมื่อวาน โดยมีอาทิตย์นั่งฝั่งตรงข้าม ครั้นพอรวิวรรณเข้ามาแล้ว ชายหนุ่มจึงหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วหยิบกระดาษแผ่นเล็กที่สอดไว้ในนั้นยื่นให้คนตรงหน้าทันที

“นี่ครับ เช็คยี่สิบล้านบาท” ชายหนุ่มเห็นอาทิตย์รับเช็คไป แต่สีหน้ายังงุนงงสงสัยจึงเอ่ยปากถาม

“มีอะไรหรือเปล่าครับพี่ทิตย์”

“แล้วไหนสัญญาการกู้ยืมล่ะครับ คุณภีมลืมหรือเปล่า” อาทิตย์เห็นว่าจำนวนเงินไม่ใช่น้อย ๆ เหตุใดภีมพลจึงไม่คิดทำสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร

“ผมคิดว่าคงไม่จำเป็นครับ ผมเชื่อใจพี่ทั้งสองคน แต่ถ้าพวกพี่ไม่สบายใจผมจะให้ลูกน้องเอาสัญญามาให้เย็นนี้ก็ได้ครับ ส่วนเรื่องซื้อหุ้นต่อจากนายบุญทรง ผมให้ลูกน้องจัดการติดต่อไปแล้ว ไม่เกินพรุ่งนี้เราน่าจะได้คำตอบกัน แต่ผมมีเรื่องที่จำเป็นจะต้องบอกให้พี่ทั้งสองคนทราบ เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนูอายครับ”

ภีมพลพยายามปั้นหน้าให้ดูจริงจัง ราวกับกำลังเล่าเรื่องคอขาดบาดตาย ซึ่งได้ผล เพราะสองสามีภรรยาหันมองหน้ากันทันที ก่อนจะถามเขาอย่างร้อนรน

“เรื่องของยายหนู เรื่องอะไรหรือครับคุณภีม”

“ก่อนอื่น ผมอยากขอร้องพี่ทั้งสองคนก่อนว่าถ้าผมเล่าอะไรให้ฟัง ได้โปรดอย่าไปว่ากล่าวหรือทำโทษหนูอายนะครับ ผมไม่อยากให้หนูอายคิดมาก และไม่อยากให้แกโกรธที่ผมเอามาเล่าให้พี่ทั้งสองคนฟัง”

ภีมพลนั่งเอนตัวมาข้างหน้า เอาศอกเท้าไว้กับหน้าขาแล้วประสานมือเข้าด้วยกัน ดูเคร่งเครียดจนสองสามีภรรยาเริ่มใจคอไม่ดี

“ได้ค่ะ พี่สัญญา ว่าแต่เรื่องอะไรคะที่คุณภีมจะบอกพวกเรา” รวิวรรณรับปาก เพราะอยากให้ชายหนุ่มเล่าเรื่องของบุตรสาวให้ฟัง

ภีมพลถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา ก่อนเริ่มเล่าเหตุการณ์ในคืนนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่รวิชาไปเที่ยวกลางคืนทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและเรื่องที่ถูกกลวิชรมอมยาหวังจะรวบหัวรวบหางที่โรงแรมไหนสักแห่ง แต่ยกเว้นเรื่องที่เขาพารวิชาขึ้นไปนอนบนเตียงเดียวกันในห้อง เขาดัดแปลงเนื้อเรื่องส่วนนี้ให้กลายเป็นว่าตนให้แฟนสาวของเพื่อนคอยดูแลอยู่ที่ห้องพยาบาลในคลับซุส จนรวิชาฟื้นแล้วจึงขับรถพามาส่งบ้าน

“ตายจริง คุณทิตย์คะ ทำไมเขาเล่นสกปรกแบบนี้”

รวิวรรณยกมือขึ้นทาบอก รู้สึกใจหายใจคว่ำกับเรื่องที่ภีมพลเล่าให้ฟัง อาทิตย์เองก็ไม่ต่างกัน เขานึกไม่ถึงเลยว่ากลวิชรจะเลวถึงขนาดกล้ามอมยาบุตรสาวของเขาได้

“ผมคิดไม่ถึงเลยว่าพวกนั้นจะเลวกันได้ขนาดนี้ นี่ถ้าไม่ได้คุณภีมช่วยป่านนี้ยายหนูคง...” อาทิตย์พูดได้แค่นั้นก็เงียบไป การที่แก้วตาดวงใจถูกกระทำเป็นสิ่งที่เขาหวาดกลัวมากที่สุด

“คุณคะ ที่ยายหนูหนีไปเที่ยวเมื่อคืนก่อนคงเป็นเพราะน้อยใจเราแน่เลยค่ะ เพื่อนคนไหนนะที่ชวนไป ฉันล่ะอยากรู้จริงเชียว เดี๋ยวฉันต้องถามนมพิมให้รู้เรื่องเสียแล้ว” รวิวรรณรู้สึกไม่สบายใจ เกรงว่าบุตรสาวจะเสียคนเพราะเพื่อน

“ที่ผมตัดสินใจมาบอกพี่ทั้งสองคน เพราะผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าหากช่วงไหนที่พี่ต้องไปติดต่องานที่ต่างประเทศ แล้วน้องอายต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ผมว่านายคนนั้นคงลงมืออีกแน่ ผมเลยคิดว่าผมจะยอมรับข้อเสนอของพี่ที่ว่าจะให้ผมหมั้นกับหนูอาย เผื่อคนพวกนั้นรู้ข่าวจะได้เลิกตอแย เพราะเห็นว่าหนูอายมีผมคุ้มครองอยู่”

ภีมพลทำน้ำเสียงจริงจังเป็นการเป็นงาน ทั้งที่ในใจลุ้นระทึกกับคำตอบของทั้งสองคน

“คุณภีมแน่ใจแล้วหรือครับ เพราะผมมาคิดดูอีกที การหมั้นหมายไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลย ผมเกรงว่าคุณภีมจะมีแฟนหรือคู่หมั้นแล้วรึเปล่า ผมไม่อยากให้คุณมีปัญหาตามมาภายหลัง”

“ผมยังไม่มีแฟนครับพี่ทิตย์ ที่ผมคิดว่าควรจะหมั้นกับหนูอายก็เพราะผมเป็นห่วงเธอ อย่างที่พี่เคยบอกครับว่าถ้าคนทั่วไปรับรู้กันว่าผมหมั้นกับหนูอายแล้ว พวกนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอีก ผมเองก็จะสามารถดูแลหนูอายในช่วงที่พี่ไม่อยู่เมืองไทยโดยที่ไม่มีใครนินทาหรือครหาลับหลังได้ เพราะผมทำในฐานะคู่หมั้น”

ภีมพลพยายามยกเหตุผลต่าง ๆ นานาที่คิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนมาหว่านล้อมแบบไม่ให้ดูเป็นการจงใจเกินไป โชคดีที่เขารู้ว่าผู้ชายที่คิดจะรวบหัวรวบหางรวิชาดันเป็นคนเดียวกับบุตรชายของบุญทรงซึ่งเคยมาขอหมั้นหมายก่อนหน้านี้เพราะหวังผลทางธุรกิจ แต่อาทิตย์ปฏิเสธเพราะไม่อยากให้มายุ่งกับบุตรสาว

“แต่ผมยังไม่ได้คุยกับหนูอายเลยน่ะสิ ไม่รู้แกจะว่ายังไงบ้างถ้ารู้ว่าต้องหมั้นกับคุณ” อาทิตย์นึกถึงคำพูดของรวิชาเมื่อคืนที่ว่าภีมพลนั้นแก่เกินไป ดูท่าแล้วบุตรสาวของเขาคงต่อต้านน่าดู

“ก็ต้องบอกเหตุผลให้เธอเข้าใจครับพี่ทิตย์ ผมดูแล้วน้องอายเป็นเด็กที่ค่อนข้างมีเหตุผล ถ้าหากเราอธิบายถึงสาเหตุให้รู้ ผมว่าเธอน่าจะยอม อย่าลืมนะครับว่าก็แค่ช่วงนี้เท่านั้นที่อยู่ในสถานะหมั้นหมาย ถ้าหนูอายเรียนจบสามารถดูแลตัวเอง และช่วยเหลือกิจการของพี่ได้เมื่อไร ค่อยถอนหมั้นกันก็ได้”

...แน่นอนว่าจะไม่มีวันนั้น เพราะเขาจะไม่ยอมถอนหมั้นอย่างเด็ดขาด เขาจะทำให้สาวน้อยรวิชายอมรับ และรักเขาในฐานะคู่หมั้นให้ได้

“คุณคะ ฉันเป็นห่วงลูก”

รวิวรรณเริ่มคล้อยตามเหตุผลของภีมพล ซึ่งอาทิตย์ก็ดูจะตัดสินใจได้แล้วเช่นกัน การที่ยอมให้บุตรสาวหมั้นหมายกับชายหนุ่มตรงหน้าเพื่อให้รวิชาอาศัยปีกของภีมพลปกป้องคุ้มครองนั้น ยังดีกว่าที่จะต้องยกรวิชาให้กับคนคิดไม่ซื่ออย่างบุญทรง ที่จ้องจะควบรวมบริษัทของเขาไปเป็นของตนเอง

“ตกลงตามนั้นครับคุณภีม” อาทิตย์เงยหน้าขึ้นพูดกับภีมพล ซึ่งดูเหมือนจะมีสีหน้าพึงพอใจกับคำตอบที่ได้รับ

ภีมพลรีบพูดรายละเอียดเรื่องการหมั้นหมายทันที เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจกะทันหัน

“เรื่องวันนัดหมายการหมั้นและพิธีการ ผมจะเป็นคนจัดการเองครับ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง รวมทั้งเรื่องนักข่าวที่จะมาทำข่าวด้วย ไม่ทราบว่าทางพี่ทิตย์กับพี่วิอยากให้งานออกมาในลักษณะไหนครับ เอ่อ... ผมหมายถึงว่าจะจัดใหญ่ไหม หรืออยากจะเชิญแขกคนไหนมาเป็นพิเศษหรือเปล่าน่ะครับ”

ภีมพลยกมือขึ้นเกาจมูกเมื่อรู้สึกตัวว่า ตนดูจะกระตือรือร้นมากเกินไป โชคดีที่สองสามีภรรยาไม่ได้ใส่ใจนัก

“จัดที่บ้านนี่แหละครับ ง่ายดีไม่ต้องเอิกเกริกมาก แขกก็เชิญเฉพาะญาติสนิทกันก็พอ และคนที่ขาดไม่ได้เลยก็คือนายบุญทรงกับลูกชาย ยังไงผมก็ต้องเชิญสองคนนี้มาด้วย”

“ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องโทร. บอกคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านสวนก่อน เผื่อท่านจะได้ช่วยดูฤกษ์ให้” ภีมพลหลุบตาลงมองมือของตนเองเพื่อซ่อนประกายตากรุ้มกริ่ม เขารู้ดีว่าแววตาของตนคงวาววามเปิดเปลือยความรู้สึกอยู่เป็นแน่ ฉะนั้นจึงต้องปิดให้มิด จะให้สองคนตรงหน้าเห็นไม่ได้เด็ดขาด

ที่เหลือก็แค่รอดูว่าอาทิตย์กับรวิวรรณจะตะล่อมรวิชาอย่างไรให้ยอมหมั้น

“น้องอายต้องต่อต้านผมแน่เลยถ้ารู้เรื่อง แกคงงอแงน่าดู”

ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าเง้างอของคนที่เอ่ยถึง เขาพอจะเดาออกเลยว่าสาวน้อยจะแผลงฤทธิ์สักแค่ไหนถ้ารู้เรื่องนี้ขึ้นมา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 100%

    “อ้าว! วันนี้คุณอายไม่เข้าบริษัทหรือ” เมื่อเช้าก็ออกมาด้วยกันแท้ ๆ แต่แม่เจ้าประคุณแอบหนีไปเที่ยวไหนกันล่ะนี่ ชายหนุ่มคิดอย่างเข่นเขี้ยวในใจเมื่อเจอ “เซอร์ไพรส์” สุดพิเศษจากศรีภรรยาภีมพลยิ้มกริ่มอย่างหมายมาด เห็นทีต้องรีบกลับไปรับขวัญก่อนเวลาเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถออกมา เหลือบไปเห็นแฟ้มงานสองแฟ้มที่ยังคงแผ่หราอยู่เต็มโต๊ะ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังดูค้างเอาไว้ เขากวาดตามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ใจจริงเขามีตัวเลือกเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อตัดสินใจได้เขาก็คว้าแฟ้มขวามือเดินออกจากห้องทันที จากนั้นจึงไปยื่นให้กับเลขาฯ ส่วนตัว“ผมเลือกของบริษัทนี้ ให้ฝ่ายจัดซื้อทำเรื่องได้เลย อ้อ วันนี้ผมไม่เข้าแล้วนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ผละออกไป และต้องหยุดชะงักเมื่อเลขาฯ รีบวิ่งมาถามถึงงานบางอย่างที่เขาให้เตรียมไว้สำหรับช่วงบ่ายนี้“คุณภีมคะ แล้วเรื่องที่ให้เตรียมเอาไว้บ่ายนี้ล่ะคะ”“ยังคอนเฟิร์มอยู่ แต่ว่าคุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ”ภีมพลหันมายิ้มพรายเต็มวงหน้าเมื่อคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 70%

    อดคิดไปถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ ท่านทั้งสองช่างมีความอดทนและมุมานะอย่างล้นเหลือที่สู้ฝ่าฟันจนกระทั่งบริษัทเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้ นึกมาถึงตอนนี้แล้วก็โกรธตัวเองที่ตอนนั้นเอาแต่น้อยใจ คิดว่าท่านทำแต่งานจนไม่สนใจใยดีกับเธอผู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว‘รวิชา แปลว่าลูกพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้นหนูต้องเข้มแข็ง อดทนให้สมกับที่เป็นลูกสาวของพ่อ ชีวิตของหนูจะต้องรุ่งโรจน์สดใสเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า’ถ้อยคำจากบิดายังคงดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่นึกถึงเวลาเมื่อรู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าไม่มีแม่นมชราและสามีที่คอยเป็นกำลังใจให้ ป่านนี้ชีวิตเธอจะหักเหไปทางไหนแล้วบ้างก็สุดรู้“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับจุมพิตเบา ๆ ที่ข้างแก้ม จากนั้นคนตัวโตก็ทรุดตัวลงนั่งซ้อนหลังไว้พร้อมกับดึงบ่าของเธอให้เอนซบลงมาบนตัวเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” หญิงสาวทักทายกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของสามี“จำเป็นต้องตื่นเช้าน่ะ จู่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 35%

    หลังจากถวายสังฆทานจนกระทั่งกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อย ภีมพล รวิชา และนมพิมก็พากันเดินออกมาเทน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้ากุฏิ ชายหนุ่มสวดบทกรวดน้ำพึมพำโดยไม่ออกเสียง ในขณะที่หญิงสาวและนมพิมอธิษฐานเพื่อส่งผลบุญให้แก่ผู้ล่วงลับอยู่ในใจวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของบิดามารดาของรวิชา นมพิมเปรยเอาไว้หลายวันก่อนหน้าแล้วว่าอยากมาทำบุญให้ท่านทั้งสอง ซึ่งเธอเองก็เห็นด้วยเพราะคิดไว้เหมือนกันว่าจะมาทำบุญวันนี้ จึงชวนสามีหนุ่มให้มาด้วยกัน และเขาก็ไม่ขัดข้อง เพราะตั้งแต่ผ่านพ้นพิธีแต่งงานมาได้สองเดือน ภีมพลก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกเลยจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางกลับบ้าน พอมาถึง ชายหนุ่มปล่อยให้รวิชาได้อยู่กับแม่นมตามลำพังเพราะคิดว่าทั้งสองคนคงมีเรื่องอยากพูดคุยกัน เขาเองก็เห็นใจคนแก่อย่างนมพิม เพราะตั้งแต่รวิชาเรียนจบมาก็เอาแต่ทำงาน แถมหลังจากนั้นสองเดือนก็เข้าพิธีแต่งงานกับเขา ทำให้บางคืนรวิชาไม่ได้กลับไปนอนบ้านตัวเอง ถึงแม้เขากับรวิชาจะแก้ปัญหาด้วยการสลับบ้านนอนเป็นวันเว้นวันแล้วก็ตาม แต่หัวอกคนแก่ก็คงหงอยเหงาเป็นธรรมดา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 100%

    “ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย อย่างนี้ต้องให้รางวัล”ชายหนุ่มจับล็อกปลายคางมนของหญิงสาวไว้ แล้วก้มลงตบรางวัลให้คนปากหวานช่างจำนรรจาจนเขากระชุ่มกระชวยทุกทีที่ได้ฟังนาทีนี้ภีมพลเหมือนจะคลั่งเสียให้ได้ สาวน้อยช่างหวานจับจิตจับใจสมกับที่รอคอยมานานแสนนาน ถ้าไม่ติดว่าเธอยังใหม่กับความสัมพันธ์แบบนี้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งเขาและเธอยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเป็นแน่“อื้ม...อาภีมขา นี่มันริมถนนนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”แค่หญิงสาวพูดเบา ๆ แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วน้ำเสียงสั่นพร่านิด ๆ นั้นช่างฟังดูเซ็กซี่ยั่วยวนดีเหลือเกิน เขานึกถึงตอนเธอครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา ทั้งภาพทั้งเสียงยังคงติดตาตรึงใจเสียจนอะไร ๆ มันพรักพร้อมขึ้นมาอีกแล้ว“เราเข้าหมู่บ้านมาแล้ว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมาหรอก รถอาก็มืด ใครจะมองเข้ามาเห็นล่ะคะ”เอาอีกแล้ว ลงท้ายด้วยคะ ขาแบบนี้แปลว่าเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วเป็นแน่ ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร แต่ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน“แวะบ้านอาก่อนนะคะ”แค่เห็นแววตาระยิบระยับแพรวพราวของเข

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 70%

    “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้อยู่กับอาทั้งคืนได้ไหม ตามใจอาหน่อยได้ไหมคะ”เขาถามพร้อมกับประพรมจุมพิตไปทั่วหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะเอ่ยประโยคสำคัญที่ทำให้คนฟังหัวใจพองฟูคับอก“อาก็รักน้องอาย ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่อาอยากให้น้องอายอยู่ด้วยแต่เป็นทุก ๆ คืน และตื่นมาตอนเช้าก็เห็นหน้าน้องอายเป็นคนแรกในทุก ๆ เช้า”ชายหนุ่มหยุดพูด แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้งหนึ่งแล้วไต่ระเรื่อยมาจนถึงใบหู ใจอยากจะโจนจ้วงเข้าหาร่างเย้ายวนนี้ให้สมกับที่รอคอยมานานแสนนาน แต่ก็อยากให้หญิงสาวได้สัมผัสกับความสวยงามจากประสบการณ์ในรักครั้งแรกมากกว่า เขาจึงต้องอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่าความต้องการจะอัดแน่นจนแทบระเบิดแล้วก็ตาม“แต่งงานกับอานะคะ”ไหน ๆ เธอก็เรียนจบแล้ว มีงานมีการทำถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หนำซ้ำยังจดทะเบียนสมรสเป็นคนคนเดียวกันในทางกฎหมายแล้วด้วย เขาจึงคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรออีกต่อไป เพราะเขากับเธอก็แทบจะเป็นของกันและกันอยู่แล้ว จะเหลือก็แต่การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันในฐานะของสามีภรรยาเท่านั้นรวิชาคลี่ยิ้มกว้างพล

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 35%

    ภีมพลยืนยิ้ม มองภรรยาทางนิตินัยที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนานกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อยู่ข้างล่างด้วยแววตาทอดอ่อน เมื่อวานสอบวันสุดท้าย วันนี้รวิชาจึงขออนุญาตเขาพาเพื่อน ๆ มาสนุกกันที่คลับอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฉลองจบการศึกษา อีกทั้งฉลองที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปานั้นทะลุเป้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้พอสมควรสาวน้อยของเขาเรียนจบแล้ว...ปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งคู่หมั้น สองปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งสามีตามกฎหมาย รวมแล้วร่วมสี่ปีเต็มกับการเฝ้าดูแลเด็กสาวคนหนึ่งให้เติบโตเป็นหญิงสาวแสนสวย และมากความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเมื่อก่อนเขาเอาแต่นั่งนับวันเวลาว่าเมื่อไรเธอจะเรียนจบ เพราะอยากตีตราจองเธอเอาไว้ด้วยร่างกาย ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวตามประสาผู้ชายทั่วไปที่คิดอยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรัก ทว่าพอวันเวลาผ่านไป ความคิดของเขาก็ค่อยปรับเปลี่ยนไปทีละนิดตามความผูกพันที่เพิ่มขึ้นระหว่างเขากับเธอเซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เขาต้องการจากเธอเพียงอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกมั่นคงในรัก และการรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งขอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status