หลังจากพายุร้ายผ่านพ้นไป ความสงบสุขก็กลับคืนสู่คฤหาสน์คาร์ดินัลอีกครั้ง แม้โซเฟียจะถูกเปิดโปงและถูกขับออกจากชีวิตของคริสเตียนไปแล้ว แต่บาดแผลทางใจที่หลงเหลืออยู่ยังคงต้องใช้เวลาเยียวยา แพรไหมพยายามปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจจากคริสเตียน แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังคงกังวลกับโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายที่เธอต้องเผชิญในฐานะคนรักของมาเฟีย
วันหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มผ่อนคลายลง คาร่า เพื่อนสนิทที่สุดของแพรไหมตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูคฤหาสน์คาร์ดินัล คาร่าคือหญิงสาวผู้ร่าเริง สดใส และมองโลกในแง่ดีเสมอ เธอทำงานเป็นนักเขียนอิสระ และมีนิสัยช่างสังเกตเป็นพิเศษ การมาของคาร่าครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการมาเยี่ยมเยียนเพื่อนรัก แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราววุ่นวายครั้งใหม่ที่คาร่าไม่เคยคาดคิดมาก่อน
“คาร่า! เธอมาได้ยังไงเนี่ย ทำไมไม่บอกกันก่อนเลย” แพรไหมโผเข้ากอดเพื่อนรักอย่างแน่นหนา ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของคาร่าทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนได้กลับไปสู่โลกใบเก่าที่คุ้นเคย
“ก็อยากเซอร์ไพรส์ไงยะ!” คาร่าตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง “นี่เธอสบายดีใช่ไหมยะ เห็นเงียบๆ ไปตั้งนาน ฉันเลยแวะมาดู”
คริสเตียนที่กำลังเดินลงมาจากบันได มองดูสองสาวที่กอดกันกลม เขาจำคาร่าได้ดี เพราะเคยเห็นรูปถ่ายที่แพรไหมเก็บไว้ คริสเตียนเดินเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยตามปกติ แต่แววตาอ่อนโยนลงเมื่อมองแพรไหม
“สวัสดีครับคุณคาร่า ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์คาร์ดินัล” คริสเตียนกล่าวทักทายอย่างสุภาพ
คาร่าหันไปมองคริสเตียน เธอเคยได้ยินเรื่องราวของมาเฟียหนุ่มผู้นี้จากแพรไหมมาบ้าง แต่เมื่อได้เห็นตัวจริงก็อดทึ่งในรูปลักษณ์และรัศมีอำนาจที่แผ่ออกมาไม่ได้ “สวัสดีค่ะคุณคริสเตียน ขอบคุณที่ให้การต้อนรับนะคะ”
แพรไหมพาคาร่าไปยังห้องรับรองที่จัดเตรียมไว้ให้ คฤหาสน์คาร์ดินัลกว้างใหญ่และสวยงามจนคาร่าอดไม่ได้ที่จะเดินสำรวจไปรอบๆ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นในทุกซอกทุกมุม
“โห แพรไหม นี่เธออยู่คฤหาสน์ใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย อลังการงานสร้างสุดๆ ไปเลย!” คาร่าร้องอุทาน
“ก็นิดหน่อยน่ะ” แพรไหมยิ้มแห้งๆ เธอรู้ว่าการใช้ชีวิตในคฤหาสน์แห่งนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็นเสมอไป
ทั้งสองสาวใช้เวลาตลอดบ่ายในการพูดคุยปรับทุกข์ แพรไหมเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่การถูกจับตัวมา การแต่งงานปลอมๆ เรื่องของลิเลีย ฟรานเชสโก การถูกหลอกใช้โดยโซเฟีย และเหตุการณ์เปิดโปงแผนการร้าย รวมถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนของเธอกับคริสเตียน
คาร่าฟังด้วยความตกใจระคนตื่นเต้น เธอไม่เคยคิดว่าชีวิตของเพื่อนรักจะผจญภัยได้ขนาดนี้
“โอ้โห แพรไหม! นี่มันยิ่งกว่านิยายอีกนะเนี่ย! เธอไปเจออะไรมาบ้างเนี่ย” คาร่าอ้าปากค้าง “แล้วสรุปเธอรักคุณคริสเตียนแล้วจริงๆ เหรอ”
แพรไหมพยักหน้าช้าๆ ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ “อืม…ก็คงงั้นแหละ”
คาร่ามองเพื่อนด้วยความเข้าใจ “ฉันดีใจนะที่เธอปลอดภัย แล้วก็ได้เจอคนที่ดูแลเธอได้” เธอจับมือแพรไหมแน่น “แต่เธอก็ต้องระวังตัวให้มากนะยะ โลกของมาเฟียนี่มันอันตรายสุดๆ เลย”
ในช่วงเวลาที่คาร่าพักอยู่ในคฤหาสน์ เธอไม่เพียงแต่ใช้เวลาอยู่กับแพรไหมเท่านั้น แต่ยังคงมีนิสัยช่างสังเกตสิ่งรอบตัวอยู่เสมอ เนื่องจากเธอเป็นนักเขียน จึงมีความสนใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนอื่นอาจมองข้ามไป
วันหนึ่ง ในขณะที่คาร่ากำลังเดินสำรวจคฤหาสน์ เพื่อหาแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายเรื่องใหม่ เธอสังเกตเห็นว่ามีห้องๆ หนึ่งที่ดูเหมือนจะถูกใช้งานเป็นครั้งคราว แต่กลับมีบรรยากาศที่แปลกไปจากห้องอื่นๆ ในคฤหาสน์ ห้องนั้นคือ ห้องเก็บของเก่า ที่เคยเป็นที่ที่แพรไหมค้นพบสมุดบันทึกของโซเฟีย
คาร่าเดินเข้าไปในห้องนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น ภายในห้องเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ กล่องไม้เก่าๆ และข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ได้ถูกใช้งานมานาน เธอเดินสำรวจไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสายตาของเธอไปสะดุดเข้ากับ ลิ้นชักลับ บนโต๊ะเขียนหนังสือไม้โอ๊กเก่าแก่ตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นลิ้นชักที่แพรไหมเคยค้นพบกระดาษโน้ตของโซเฟีย
ด้วยความอยากรู้ คาร่าพยายามเปิดลิ้นชักนั้น มันถูกล็อกไว้ เธอพยายามหาวิธีเปิดอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งเธอพบปุ่มเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ด้านล่างของลิ้นชัก เมื่อกดปุ่ม ลิ้นชักก็เปิดออก ภายในลิ้นชักว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ข้างใน แต่สิ่งที่ทำให้คาร่ารู้สึกแปลกใจคือ รอยขีดข่วนเล็กๆ จำนวนมากที่ปรากฏอยู่บนพื้นผิวไม้ด้านในของลิ้นชัก เหมือนมีอะไรบางอย่างถูกขูดขีดอย่างรุนแรง
คาร่าใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไปตามรอยขีดข่วนเหล่านั้น เธอนักเขียน นักสังเกต จึงจินตนาการไปถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในห้องนี้ เธอคิดว่านี่อาจจะเป็นร่องรอยของการพยายามเปิดลิ้นชักอย่างรุนแรง หรือการพยายามซ่อนบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เกิดรอยเหล่านี้ขึ้น
นอกจากนี้ คาร่ายังสังเกตเห็น เศษกระดาษเล็กๆ ที่ติดอยู่ตามซอกของลิ้นชัก เธอพยายามดึงมันออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อนำมาดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นเศษกระดาษที่ถูกฉีกขาดอย่างไม่เป็นระเบียบ มีข้อความบางส่วนปรากฏอยู่เล็กน้อย เพียงแค่ไม่กี่ตัวอักษร แต่กลับทำให้คาร่ารู้สึกไม่สบายใจ
“...แผน...คอร์เตส...” เป็นคำที่เธอพอจะถอดได้จากเศษกระดาษที่เล็กจิ๋ว และจากความรู้ที่เธอมีเกี่ยวกับแผนการของโซเฟียที่แพรไหมเล่าให้ฟัง เธอจึงเริ่มสงสัยว่านี่อาจจะเป็นร่องรอยของแผนการบางอย่างที่ยังไม่ถูกเปิดโปงทั้งหมด หรือเกี่ยวข้องกับบุคคลที่โซเฟียทำงานด้วย
คาร่าไม่ได้เล่าเรื่องที่เธอค้นพบนี้ให้แพรไหมฟังทันที เธอต้องการที่จะสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเอง เธอเริ่มจดบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสังเกตเห็นในคฤหาสน์ รวมถึงพฤติกรรมบางอย่างของคนใช้บางคนที่ดูเหมือนจะแปลกไปจากปกติ คาร่าเชื่อว่าแผนการของโซเฟียอาจจะยังไม่จบสิ้น หรืออาจจะมีผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นที่ยังคงอยู่ในคฤหาสน์
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา คาร่าแอบสังเกตเห็นว่ามี คนทำความสะอาดคนหนึ่ง ซึ่งปกติเป็นคนเงียบๆ และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร มักจะแอบเข้าไปในห้องทำงานของคริสเตียนในยามวิกาล หรือช่วงที่คริสเตียนไม่อยู่ คนทำความสะอาดคนนี้มีชื่อว่า มาเรีย เธอมีใบหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอ แต่แววตาของเธอดูลึกลับอย่างประหลาด
คืนหนึ่ง คาร่าแกล้งทำเป็นว่าเธอต้องทำงานเขียนจนดึก เธอแอบซ่อนตัวอยู่ในห้องสมุดที่อยู่ใกล้กับห้องทำงานของคริสเตียน เธอเห็นมาเรียเดินเข้าไปในห้องทำงานของคริสเตียนอย่างเงียบเชียบ มาเรียไม่ได้ทำความสะอาด แต่เธอกำลังใช้คอมพิวเตอร์ของคริสเตียนอยู่ คาร่าตกใจมาก เธอไม่คิดว่าคนทำความสะอาดจะกล้าทำเช่นนี้
คาร่าพยายามมองดูสิ่งที่มาเรียทำจากระยะไกล เธอเห็นมาเรียกำลังพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปในคอมพิวเตอร์ และส่งไฟล์บางอย่างออกไป คาร่าพยายามจดจำทุกอย่างที่เธอเห็น เธอรู้สึกว่านี่คือเบาะแสสำคัญที่จะนำไปสู่ความจริงบางอย่างที่ยังซ่อนอยู่
เมื่อมาเรียออกจากห้องไป คาร่าก็รีบเข้าไปในห้องทำงานของคริสเตียนทันที เธอพยายามหาหลักฐานเพิ่มเติม เธอตรวจดูประวัติการใช้งานคอมพิวเตอร์ แต่มาเรียได้ลบหลักฐานทั้งหมดออกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม คาร่าพบ แผ่นดิสก์ขนาดเล็ก ซ่อนอยู่ใต้พรมใกล้กับโต๊ะทำงาน แผ่นดิสก์นั้นมีสัญลักษณ์แปลกๆ บางอย่างที่คล้ายกับสัญลักษณ์ที่เธอเคยเห็นในเศษกระดาษที่พบในลิ้นชักลับ
คาร่ารู้สึกว่าหัวใจเต้นรัว นี่คือหลักฐานที่เธอต้องการ เธอรู้ว่าเธอต้องรีบนำเรื่องนี้ไปบอกแพรไหมและคริสเตียนโดยเร็วที่สุด เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไปแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น คาร่าตัดสินใจที่จะบอกเรื่องราวทั้งหมดที่เธอค้นพบให้แพรไหมฟัง เธอรู้ว่าแพรไหมจะต้องตกใจ แต่เธอก็ไม่สามารถเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวได้อีกแล้ว
แพรไหมนั่งฟังคาร่าเล่าเรื่องราวทั้งหมดด้วยความตกใจ ใบหน้าของเธอซีดเผือดลงเรื่อยๆ เมื่อได้ยินรายละเอียดที่คาร่าค้นพบ ตั้งแต่รอยขีดข่วนในลิ้นชัก เศษกระดาษที่เขียนว่า “แผน คอร์เตส” และโดยเฉพาะเรื่องของมาเรีย
“เธอแน่ใจนะคาร่า” แพรไหมถามเสียงสั่น “ว่าคนทำความสะอาดคนนั้น…”
คาร่าพยักหน้า “ฉันเห็นกับตาเลยแพรไหม เธอไม่ได้ทำความสะอาด เธอใช้คอมพิวเตอร์ของคุณคริสเตียน และดูเหมือนจะส่งอะไรบางอย่างออกไป”
คาร่ายื่นแผ่นดิสก์ขนาดเล็กให้แพรไหม แพรไหมรับมาดูด้วยความหวาดหวั่น เธอจำสัญลักษณ์บนแผ่นดิสก์นั้นได้ มันเป็นสัญลักษณ์เดียวกับที่ปรากฏในจดหมายปลอมที่เธอเคยได้รับ และในสมุดบันทึกของโซเฟีย
“นี่มัน…สัญลักษณ์เดียวกับที่โซเฟียใช้!” แพรไหมอุทาน “หมายความว่าไง โซเฟียยังไม่หมดพิษสง หรือมีใครอยู่เบื้องหลังเธออีก”
คาร่าพยักหน้า “ฉันก็สงสัยเหมือนกัน นี่อาจจะเป็นแผนการที่ใหญ่กว่าที่เราคิดไว้ก็ได้นะแพรไหม เธอต้องรีบเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณคริสเตียนโดยเร็วที่สุดเลยนะ”
แพรไหมรีบลุกขึ้นยืน เธอรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เธอต้องนำแผ่นดิสก์นี้ไปให้คริสเตียนทันที เธอไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ค้างคาอยู่ได้อีกแล้ว เธอรู้สึกผิดที่ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติเหล่านี้ด้วยตัวเอง
แพรไหมรีบวิ่งไปหาคริสเตียนที่กำลังทำงานอยู่ในห้องทำงาน เธอเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่คาร่าค้นพบให้เขาฟังอย่างละเอียด พร้อมทั้งยื่นแผ่นดิสก์ให้เขาดู
คริสเตียนฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาเห็นแผ่นดิสก์และสัญลักษณ์บนนั้น เขาก็รู้ทันทีว่ามันเกี่ยวข้องกับโซเฟียและแผนการที่ผ่านมา
“นี่มัน…เหมือนกับลายเซ็นของโซเฟีย” คริสเตียนพึมพำ “มาเรีย…เธอเป็นใครกันแน่”
แพรไหมเล่าถึงความช่างสังเกตของคาร่า และวิธีการที่คาร่าค้นพบเบาะแสทั้งหมด คริสเตียนหันไปมองคาร่าที่ยืนอยู่ข้างแพรไหมด้วยความประหลาดใจ แววตาของเขาที่เคยสงบเยือกเย็นกลับเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและรู้สึกชื่นชมในตัวคาร่า
“คุณคาร่า…ขอบคุณมากนะครับ” คริสเตียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ “คุณช่วยเปิดเผยเรื่องสำคัญให้ผมได้รู้”
คาร่ายิ้มตอบ “ไม่เป็นไรค่ะคุณคริสเตียน ฉันแค่สังเกตเห็นอะไรแปลกๆ ก็เท่านั้น”
คริสเตียนรู้ดีว่าความช่างสังเกตของคาร่าไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา การที่เธอสามารถค้นพบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ได้ แสดงให้เห็นถึงไหวพริบและความฉลาดของเธอ
“ผมจะให้ลีโอตรวจสอบแผ่นดิสก์นี้ทันที และเราจะสืบประวัติของมาเรีย” คริสเตียนกล่าว “เราจะต้องเปิดโปงแผนการที่ยังหลงเหลืออยู่ให้ได้”
คริสเตียนสั่งให้ลีโอเข้ามาทันที ลีโอรับแผ่นดิสก์ไปตรวจสอบอย่างรวดเร็ว ส่วนคริสเตียนก็สั่งให้นิคสืบประวัติของมาเรียอย่างละเอียดที่สุด
แพรไหมรู้สึกโล่งใจที่คริสเตียนเชื่อใจเธอและคาร่า เธอรู้ว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยให้พวกเขาค้นพบความจริงทั้งหมด และจัดการกับภัยคุกคามที่ยังคงคืบคลานอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ให้หมดสิ้นไป
เมื่อลีโอตรวจสอบแผ่นดิสก์ เขาก็พบข้อมูลที่น่าตกใจ ข้อมูลในแผ่นดิสก์ไม่ใช่แค่ข้อมูลทั่วไป แต่มันคือ แผนผังโครงสร้างองค์กรลับ ที่โซเฟียเป็นส่วนหนึ่ง และมีชื่อของ อัลฟองโซ คอร์เตส เป็นผู้บงการระดับสูง พร้อมทั้งชื่อของบุคคลอื่นอีกหลายคนที่ดูเหมือนจะมีตำแหน่งสำคัญในองค์กรลับนี้ นอกจากนี้ยังมีไฟล์ข้อมูลที่เข้ารหัส ซึ่งลีโอพยายามถอดรหัสอยู่
“นายครับ! นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวของโซเฟียแล้วครับ นี่มันคือองค์กรลับที่ใหญ่มาก” ลีโอรายงานด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
คริสเตียนมองดูแผนผังด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าโซเฟียจะเกี่ยวข้องกับอะไรที่ใหญ่ขนาดนี้ และที่สำคัญคือชื่อของอัลฟองโซ คอร์เตส กลับปรากฏอยู่เหนือโซเฟียเสียอีก นั่นหมายความว่าโซเฟียเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมที่ใหญ่กว่ามาก
“อัลฟองโซ คอร์เตส…” คริสเตียนพึมพำ “แกยังไม่เลิกยุ่งกับตระกูลคาร์ดินัลอีกรึ”
ขณะเดียวกัน นิคก็ได้รับข้อมูลประวัติของมาเรีย มาเรียเป็นคนเก่าแก่ที่ทำงานในคฤหาสน์มานานกว่าสิบปี เธอเป็นคนเงียบๆ ไม่มีญาติพี่น้อง และข้อมูลส่วนตัวค่อนข้างลึกลับ ทำให้ไม่มีใครสนใจเธอมากนัก แต่จากข้อมูลที่ได้มา เธอมีความสัมพันธ์ลับกับบุคคลภายนอกที่ไม่เปิดเผย ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มของอัลฟองโซ คอร์เตส
“นายครับ มาเรียเป็นสายลับที่แฝงตัวอยู่ในคฤหาสน์เรามานานแล้วครับ เธอทำงานให้กับอัลฟองโซ คอร์เตส” นิครายงาน
แพรไหมและคาร่าต่างตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาไม่คิดว่าภัยคุกคามจะอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้ และเป็นคนที่ไม่คาดคิด
“แสดงว่าแผนการของโซเฟียเป็นแค่ส่วนหนึ่งของแผนการที่ใหญ่กว่านี้” แพรไหมกล่าว “และมาเรียก็เป็นสายลับของอัลฟองโซ ที่คอยส่งข้อมูลให้โซเฟียด้วย”
คริสเตียนพยักหน้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเด็ดขาด “ใช่…และตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าใครคือตัวการที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด”
เขาหันไปมองแพรไหม “ผมต้องขอโทษคุณอีกครั้งแพรไหม ที่ทำให้คุณต้องมาพัวพันกับเรื่องอันตรายแบบนี้”
แพรไหมส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะคริสเตียน เราจะสู้ไปด้วยกัน” เธอหันไปมองคาร่า “ขอบคุณมากนะคาร่า ถ้าไม่ได้เธอ เราคงไม่มีทางรู้เรื่องนี้เลย”
คาร่ายิ้มตอบ “ไม่เป็นไรเลยแพรไหม ฉันแค่ทำในสิ่งที่ควรทำ” เธอเริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับการได้มีส่วนร่วมในเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เธอไม่เคยคิดว่าชีวิตของเธอในฐานะนักเขียนจะเข้ามาพัวพันกับโลกของมาเฟียได้ถึงขนาดนี้
คริสเตียนตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ค้างคาอีกต่อไป เขาต้องการที่จะจัดการกับอัลฟองโซ คอร์เตส ผู้บงการที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทั้งหมด เพื่อปกป้องตระกูลของเขา และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อปกป้องแพรไหม
“เราจะยังไม่เปิดเผยเรื่องมาเรีย” คริสเตียนกล่าว “ให้เธอทำหน้าที่ของเธอต่อไป แต่เราจะใช้เธอเป็นเหยื่อล่อ เราจะส่งข้อมูลปลอมๆ ให้มาเรีย เพื่อให้อัลฟองโซตายใจ”
คริสเตียนเริ่มวางแผนการซ้อนแผนอย่างละเอียด เขาจะใช้ข้อมูลที่ได้จากแผ่นดิสก์ และความรู้ที่เขามีเกี่ยวกับอัลฟองโซ เพื่อสร้างสถานการณ์ที่จะนำไปสู่การจับกุมตัวอัลฟองโซ คอร์เตส
แพรไหมเองก็เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนด้วย เธอให้ความเห็นในมุมมองของเธอ ซึ่งช่วยให้แผนการสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น คาร่าในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่เฉียบแหลม ก็ให้ข้อคิดและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
“เราต้องทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังได้เปรียบ และกำลังจะสำเร็จ” คริสเตียนกล่าว “เมื่อเขาตายใจ นั่นคือโอกาสของเรา”
แผนการซ้อนแผนเริ่มดำเนินไป ทุกคนทำงานกันอย่างเงียบเชียบและระมัดระวัง พวกเขารู้ว่านี่คือเกมที่อันตราย และผลลัพธ์ของการแพ้ในเกมนี้อาจหมายถึงชีวิต
คาร่าเองก็รู้สึกถึงความตื่นเต้นและความท้าทาย เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องราวที่อันตรายและซับซ้อนขนาดนี้มาก่อน แต่เธอก็รู้สึกสนุกและรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่
“ฉันจะช่วยเต็มที่เลยนะแพรไหม” คาร่ากระซิบกับแพรไหม “เธอไม่ต้องห่วง”
แพรไหมยิ้มให้เพื่อนรัก เธอรู้สึกขอบคุณคาร่ามากจริงๆ การมาของคาร่าในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่นำเบาะแสสำคัญมาให้ แต่ยังนำกำลังใจและมิตรภาพที่แข็งแกร่งมาสู่เธอด้วย
ในค่ำคืนนั้น แพรไหมและคริสเตียนนั่งอยู่ด้วยกันในห้องทำงานของคริสเตียน แสงไฟสลัวๆ ส่องสว่างไปทั่วห้อง บรรยากาศเงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
คริสเตียนจับมือแพรไหมแน่น “ขอบคุณนะแพรไหม ที่อยู่เคียงข้างผมเสมอ”
แพรไหมยิ้ม “เราจะผ่านมันไปด้วยกันค่ะคริสเตียน”
เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง มองเห็นแสงจันทร์ที่ส่องสว่างลงมายังคฤหาสน์อันกว้างใหญ่ เธอรู้ว่าชีวิตของเธอได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลแล้ว เธอไม่ใช่อดีตเชลยอีกต่อไป แต่เป็นหญิงสาวผู้เข้มแข็งที่พร้อมจะยืนเคียงข้างคนที่เธอรัก และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอันตรายทุกรูปแบบ
และในมุมหนึ่งของคฤหาสน์ มาเรียยังคงทำหน้าที่ของเธอต่อไปโดยไม่รู้ตัวว่าทุกการเคลื่อนไหวของเธอถูกจับตามอง และทุกข้อมูลที่เธอส่งไปกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะปิดฉากเกมอันตรายนี้อย่างถาวร
เรื่องราวของคาร่า ที่บังเอิญก้าวเข้ามาในโลกของมาเฟีย และกลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ซับซ้อน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว... และมันจะนำพาพวกเขาไปสู่ความจริงที่เจ็บปวด และการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเผชิญมา.
ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวหลังผ่านบทพิสูจน์แห่งผู้นำ และการกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ อเล็กซานเดอร์ ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเขาและ ลลิล ให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงคือ ข่าวดีที่สุด ที่พวกเขารอคอยมาตลอด เสียงเล็กๆ ในอนาคตกำลังจะกลายเป็นความจริง และนำพาความสุขมาสู่ตระกูลคาร์ดินัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเรื่องการมีทายาท อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อแม่ ลลิลเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารกอย่างละเอียด ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มจัดเตรียมห้องเล็กๆ ในคอนโดเพื่อรอรับสมาชิกใหม่ความคาดหวังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน แต่พวกเขาก็พยายามไม่กดดันตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ลลิลรู้สึกไม่สบายตัว อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียทำให้เธอสงสัย เธอตัดสินใจใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความสุขและความตื่นเต้นสองขีดสีชมพู ปรากฏชัดเจน ลลิลกรีดร้องด้วยความดีใจ เธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้คนเดียวได้ เธอตัดสินใจจะบอกข่าวดีนี้กับอเล็กซานเดอร์ในทันที แต่เธอ
ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำท่ามกลางความกังวลเรื่องทายาทและความสุขในชีวิตคู่ อเล็กซานเดอร์ ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญในบทบาทของผู้นำ นั่นคือการแก้ไขวิกฤตการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความท้าทายนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณธรรมและความโปร่งใสที่ กลุ่มคาร์ดินัล ยุคใหม่ยึดมั่นเมื่อหลักฐานเริ่มชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงในบริษัทสตาร์ทอัพที่คาร์ดินัลลงทุนไป อเล็กซานเดอร์ ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรอบคอบ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จับตัวผู้กระทำผิด แต่ต้องการถอนรากถอนโคนปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอเล็กซานเดอร์เรียกประชุมทีมงานคนสำคัญของคาร์ดินัลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ รวมถึง เดฟ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาชื่อเสียงและความโปร่งใสของบริษัท“เราจะไม่ยอมให้การทุจริตใดๆ มาแปดเปื้อนชื่อเสียงของคาร์ดินัลอีกแล้ว” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในห้องประชุม “เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด”เขามอบหมายให้ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าม
ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคตชีวิตคู่ของ อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอบอุ่น แต่ในโลกของธุรกิจและความรับผิดชอบที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ย่อมมี ความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของพวกเขาเสมอ และท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น เสียงเล็กๆ ในอนาคตก็เริ่มดังขึ้นในหัวใจของทั้งคู่ในขณะที่โครงการเยียวยาชุมชนของมูลนิธิคาร์ดินัลดำเนินไปอย่างงดงาม และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ปัญหาใหม่กลับเกิดขึ้นภายในอาณาจักรธุรกิจของคาร์ดินัลเองคริสเตียน ได้มอบหมายให้ อเล็กซานเดอร์ เข้ามาดูแลการลงทุนใน โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่คาร์ดินัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่โครงการนี้กลับประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นมีรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่คาร์ดินัลเข้าไปลงทุน มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด และที่สำคัญที่สุดคือ มี ข่าวลือเรื่องการทุจริต ของผู้บริหารระดับสูงบางรายในบริษัทนั้น“พ่อว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะอเล็กซานเดอร์” คริสเตียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องทำงานของเขา “เราไม่อยากให้ชื่อเสียงของคา
ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วมหลังพิธีวิวาห์ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความหมาย อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็ได้เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักที่โรแมนติก แต่ยังรวมถึงการปรับตัว การเรียนรู้ และการเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ วันชีวิตคู่เริ่มต้นขึ้นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัวของพวกเขา แม้จะเคยมาพักอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่การย้ายข้าวของทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างถาวร ก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปลลิลใช้ความสามารถด้านการออกแบบของเธอเข้ามาเนรมิตห้องชุดให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว เธอเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและงานศิลปะที่เธอชื่นชอบ ทำให้คอนโดแห่งนี้มีชีวิตชีวาและเป็น "บ้าน" อย่างแท้จริง“คุณชอบไหมครับคุณ” อเล็กซานเดอร์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ลลิลจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยลลิลโอบแขนรอบเอวเขา “ฉันชอบมากค่ะที่รัก มันเป็นบ้านของเราจริงๆ”การปรับตัวเข้าหากันในรายละเอียด
ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ได้ขอ ลลิล แต่งงานอย่างเป็นทางการ บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์คาร์ดินัล การเตรียมงานแต่งงานเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์ของทั้งคู่ทั้งอเล็กซานเดอร์และลลิลต่างเห็นพ้องต้องกันว่างานแต่งงานของพวกเขาจะต้อง เรียบง่าย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ความหมายและความผูกพันของสองครอบครัวมากกว่าความหรูหราอลังการ“ฉันอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นวันที่เราได้แบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักและห่วงใยค่ะที่รัก” ลลิลบอกกับอเล็กซานเดอร์ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่องการจัดงานอเล็กซานเดอร์ยิ้ม “ผมก็คิดอย่างนั้นครับคุณ”พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีหมั้นและงานแต่งงานเล็กๆ ที่ คฤหาสน์คาร์ดินัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลลิลมีความทรงจำดีๆ มากมาย และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเธอ โดยจะมีเพียงญาติสนิทและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญแพรไหม ผู้เป็นแม่ของอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้ดูแลการเตรียมงานทั้งหมดอย่างละเอียดอ่อน เธอต้องการให้งานแต่งงานของลูกชายออกมาสมบู
ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคและร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาด้วยกัน อเล็กซานเดอร์ ก็ตระหนักแล้วว่า ลลิล คือผู้หญิงที่ฟ้าส่งมาให้เขา เขาไม่ต้องการรออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ความรักของพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ชัดเจนและมั่นคงการขอแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาหลายวันในการวางแผน เขาอยากให้การขอแต่งงานครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ลลิลจะไม่มีวันลืมเขาปรึกษาเรื่องนี้กับ แพรไหม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของผู้หญิงดีที่สุด“ลูกอยากขอแต่งงานกับลลิลครับแม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับเธอ”แพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ดีใจด้วยนะลูก แม่รู้ว่าลลิลคือคนที่ใช่สำหรับลูกจริงๆ”แพรไหมช่วยอเล็กซานเดอร์วางแผนอย่างละเอียด เธอแนะนำให้เขาเลือกสถานที่ที่มีความหมายกับทั้งคู่ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว อเล็กซานเดอร์คิดถึง บ้านพักที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ความรักของเขาและลลิลเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงเขาจัดเตรียมทุกอย่