ลาน่ารู้สึกได้ถึงสายตาสงสัยของคนรอบข้าง และเธอก็รู้ว่าเธอวิ่งหนีไม่ได้อีกแล้ว เพราะอย่างนั้นเธอจึงได้แต่แสดงสีหน้าว่าถูกใส่ร้ายและงุนงงออกมา“ฉันไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำนะคะ ได้โปรดอย่ากล่าวหาฉันในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำเลยค่ะ!”“หมายความว่าไงไม่รู้จักเหรอ? เมื่อศุกร์ที่แล้ว คุณคือคนที่รอฉันที่ออฟฟิศแล้วก็เป็นคนที่เรียกฉันไว้! คุณเป็นคนบอกให้ฉันเป็นหุ้นส่วนกับคุณ!” อีฟกล่าวอ้างขณะที่เริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อย ๆ “คุณแค่ใช้ฉันจัดการกับเอวลีน มอนต์โกเมอรีใช่ไหม? คุณมันเลวขนาดนี้ได้ยังไง?”เมื่อได้ยินดังนั้นเมเดลีนจึงหันไปกระซิบกับโคโค่ เลขาของเธอที่ยืนอยู่ข้าง ๆโคโค่พยักหน้าและรีบเดินออกไปเมเดลีนมองลาน่า แต่พบว่าสายตาของเธอกลับจับจ้องไปที่เจเรมี่ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังผู้หญิงคนนั้นแทนดวงตาของทั้งสองสบกัน ทำให้เมเดลีนต้องหลบตาจากสายตาเย็นชาคู่นั้นในตอนนี้ความสงบของลาน่าหายไปอย่างสิ้นเชิงขณะที่เธอจ้องไปที่อีฟเพื่อบอกให้หุบปาก แต่นี่ยิ่งทำให้อีฟโกรธมากขึ้นไปอีก“มองหน้าฉันทำไม? จะปฏิเสธเหรอว่าไม่ได้เป็นคนสั่งฉันตั้งแต่แรก? คุณยังบอกฉันด้วยนี่ว่าจะมีผู้หญิงอีกคนมาทำงานร่วมกับฉันเพื่อทำลายเอวลีน! ค
เจเรมี่ชำเลืองมองอีกฝ่ายอย่างใจเย็น “ถ้าบริสุทธิ์ใจ ก็ไม่มีอะไรที่คุณต้องกลัว”“แน่นอนอยู่แล้ว!” ลาน่าเอ่ยแล้วหันไปจ้องอีฟหญิงสาวกำลังกลอกตาในขณะที่กุญแจมืออีกคู่ถูกคล้องเข้าที่แขนของเธอเธอรู้สึกมึนงง “คุณจับฉันทำไมคะคุณตำรวจ? ฉันบอกคุณทุกอย่างที่ฉันรู้แล้ว ทำไมคุณยังจับฉันอีกล่ะคะ?”“แล้วคิดว่าเขาจะต้องจับใครกันล่ะ? ฉันเหรอ?” เมเดลีนยิ้มและโต้กลับ “เธอบอกว่าตัวเองบริสุทธิ์และถูกหลอกใช้ อีฟ แต่สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าในคืนนี้เธอจะไม่ตั้งใจทำร้ายฉันแต่แรก”“...”อีฟพูดไม่ออก จ้องไปที่ใบหน้าสงบนิ่งของเมเดลีน ไม่ใช่แค่รู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกใช้ แต่เธอยังแพ้เมเดลีนโดยสิ้นเชิงอีกด้วยเมื่อลาน่าและอีฟถูกพาตัวไปแล้ว นาโอมิที่ถูกทิ้งไว้ก็กระทืบเท้าด้วยความเดือดดาลเธอมองเมเดลีนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ รู้สึกอิจฉาขณะที่ไรอันปกป้องเมเดลีน ทุกคนที่พูดจาไม่ดีและสงสัยว่าเมเดลีนเป็นผู้กระทำผิดต่างออกมาขอโทษอย่างจริงใจผู้รับผิดชอบที่พูดให้เมเดลีนเสียหายที่สุดก็ออกมาเอ่ยด้วยสีหน้าแดงก่ำ รู้สึกลำบากใจ “ฉันขอโทษจริง ๆ คุณมอนต์โกเมอรี ฉันควรจะตรวจสอบทุกอย่างให้ชัดเจนก่อนที่จะกล่าวหาคุณ ฉัน
เจเรมี่ชะงักฝีเท้าหนัก ๆ ของเขาและไม่สามารถก้าวเดินได้อีกต่อไปเขายังคงเฝ้าดูขณะที่หญิงสาวอันเป็นที่รักยิ้มให้ไรอัน ริมฝีปากของเธอเผยอออกขณะที่ลักยิ้มผุดพรายขึ้นบนใบหน้างดงาม เขาปรารถนาว่ารอยยิ้มนั้นจะมีไว้ให้กับเขาคนเดียวเท่านั้นแต่เจเรมี่ก็รู้ ว่าเขาไม่คู่ควรกับรอยยิ้มนั้นอีกต่อไปเมเดลีนจับมือไรอันไว้แล้วหมุนตัวเดินมาหยุดอยู่ข้างเจเรมี่ ขณะที่เดินสวนกันเธอก็พูดว่า “ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่ล่ะ? ไปประกันตัวแฟนคุณจากสถานีตำรวจได้แล้ว มีแฟนเป็นคนที่มีอำนาจแบบคุณ ฉันมั่นใจว่าในไม่ช้าเธอก็คงได้ออกมา”เจเรมี่รู้ว่าเมเดลีนกำลังเย้ยหยันเขายิ้มอย่างเฉยเมยพลางมองไปที่ดวงตากลมโตและห่างเหินของหญิงสาวอีกครั้ง “ขอบคุณที่เตือน คุณมอนต์โกเมอรี งั้นผมต้องไปพาคนรักของผมกลับบ้านแล้วล่ะ”พาคนรักกลับบ้านบ้านมือของเมเดลีนซึ่งอยู่ในฝ่ามือของไรอันบีบเข้าหากันเล็กน้อย ในขณะที่ความหนาวเย็นพัดผ่านรูพรุนในหัวใจอันว่างเปล่าเธอหันไปยิ้มให้ไรอันโดยไม่สนใจเจเรมี่“คุณรู้ไหม ไรย์ ว่าการแต่งงานครั้งล่าสุดของฉันเหลวแหลกไม่เป็นท่า เพราะฉันแต่งงานกับผู้ชายเลว ๆ คนหนึ่ง” ดวงตาที่เปล่งประกายมองเย้ยหยันเจเรมี่ “
'ทำไมผมต้องมาถึงปลายฝั่งแล้วด้วยนะ?'มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ลินนี่ ผมไม่คู่ควรกับคุณตั้งแต่แรก'ผมหวังว่าคุณจะไม่คิดถึงผมอีก คนที่ทำให้คุณร้องไห้มานับครั้งไม่ถ้วน'เจเรมี่ยังไม่ประกันตัวลาน่าออกมา จนกว่าเขาจะแน่ใจว่าเธออยู่ภายใต้การควบคุมตัวของตำรวจเป็นเวลา 48 ชั่วโมงเต็ม เขาจึงประกันตัวเธอออกมาเมื่อลาน่ากลับมาที่วิลล่า เธอก็เริ่มด่าว่าเมเดลีน“ภรรยาเก่าของคุณนี่มันมีเล่ห์เหลี่ยมจริง ๆ นะ เจเรมี่” เธอพูดจาถากถาง “เธอไม่กลัวบางเหรอว่าวันหนึ่งฉันจะฆ่าเธอซะ?”คิ้วของเจเรมี่ขมวดมุ่น ขณะที่ความเย็นชาฉายผ่านแววตาของเขา “เอวลีนกับฉันหย่ากันแล้ว ทำไมเธอต้องสร้างปัญหาให้ตัวเองโดยไม่จำเป็นอย่างการไปหาเรื่องเขาด้วย?”ลาน่ากัดฟันอย่างขุ่นเคืองขณะที่เดินไปหาเจเรมี่ด้วยแววตาสงสัย “เจเรมี่ คุณยังรักเอวลีนอยู่ใช่ไหม?”“ก่อนหน้านี้ก็ใช่ ที่ฉันเคยรักเธอมาก่อน เพราะเธอก็เป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง” น้ำเสียงของเจเรมี่ไร้ความรู้สึกราวกับว่าเขากำลังพูดถึงคนที่ไม่สำคัญ แล้วเขาก็ยังอธิบายโดยเน้นเพียงรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายเท่านั้นริมฝีปากแดงของลาน่าคลี่ยิ้มและเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม “คุณชอบเธอแค่หน้าตางั้นเหรอ
“เอวลีน!”สายเกินไปแล้วที่ไรอันจะหยุดรถไว้ได้ เขาจึงเรียกแท็กซี่จากข้างทางอย่างรวดเร็วเพื่อไล่ตามรถให้ทันเขาโทรหาเมเดลีนทันที แต่ก็ถูกตัดสายเพราะกังวลว่าคนในรถจะทำอะไรบ้า ๆ ไรอันจึงโทรกลับไปหาคนที่เพิ่งคุยด้วยเมื่อกี้อย่างไม่ลังเล “สั่งทีม A ให้ติดตามรถของฉันเดี๋ยวนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคนในรถจะไม่ตกอยู่ในอันตราย!”คนที่อยู่อีกด้านหนึ่ง เมื่อได้รับคำสั่งของไรอันก็ปฏิบัติตามทันทีภายในรถของไรอันมีดสั้นสีเงินแวววาวถูกกดลงบนคอของเมเดลีน หญิงสาวเห็นนาโอมิกำพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว และกระสับกระส่ายนั่งไม่ติดที่นาโอมิขับรถอย่างงุ่มง่ามและฝ่าไฟแดงถึงสามครั้งเมเดลีนเพิ่งสะสางเรื่องเงินการกุศลไปเมื่อสองวันก่อน และเพิ่งได้มีเวลาว่างมาทานอาหารกับไรอันในวันนี้ เธอไม่คิดเลยว่านาโอมิจะมาสร้างปัญหาให้เธออีกเมเดลีนรู้สึกเหนื่อยในตอนแรกและตอนนี้ก็ยิ่งเหนื่อยมากขึ้น แต่เธอก็ยังคงสงบและใจเย็นอยู่“นาโอมิ ถึงแม้ว่าเธออยากจะฆ่าฉัน แต่เธอก็ไม่จำเป็นเอาชีวิตของตัวเองมาแลกนะ”“หุบปากซะ เอวลีน!” นาโอมิตะโกนใส่เธอให้เงียบปากอย่างดุร้าย และหันหน้าไปจ้องมองเธอ "เอวลีน แกทำให้ฉันเป็นตัวตลกต่อหน้าชา
เมื่อนาโอมิได้ยินอย่างนั้น เธอก็หงุดหงิดอย่างห็นได้ชัด“เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะอยู่กับฉันงั้นเหรอ? คุณอยากอยู่กับเอวลีนใช่ไหม? ได้ งั้นฉันก็จะตายไปพร้อมกับมัน!” ราวกับว่านาโอมิถูกปีศาจร้ายเข้าสิง เธอถือมีดและแกว่งใบมีดลงไปเพื่อจะแทงเข้าที่หัวใจของเมเดลีนในตอนที่เมเดลีนกำลังจะเบี่ยงตัวหลบ จู่ ๆ เธอก็เห็นไรอันล้วงเข้าไปในเสื้อสูทและดึงปืนลูกโม่ออกมาจากด้านหลัง จากนั้นเขาก็เล็งไปที่มีดของนาโอมิแล้วยิงกระสุนตกลงบนด้ามมีดอย่างแม่นยำ แรงกระแทกทำให้นาโอมิคลายมือด้วยความเจ็บปวดทันที และมีดก็ร่วงลงกับพื้นในขณะที่เมดลีนยังคงตกใจกับการกระทำของไรอัน ไรอันก็วิ่งเข้ามาหาเธอพร้อมทั้งหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา และกดมันลงบนคอของเธอที่มีเลือดไหลอยู่ “เอวลีน คุณโอเคไหม?”เมื่อเห็นว่าไรอันเป็นห่วงเมเดลีนมาก นาโอมิจึงหยิบมีดขึ้นมาและจะเข้าไปทำร้ายเมเดลีนอีกครั้งทันใดนั้นมือของนาโอมิที่กำลังยกขึ้นก็โดนกระสุนร้อน ๆ เฉียดผ่านไป หญิงสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มีดหล่นลงข้าง ๆ ฝ่ามือของเธอมีอาการปวดแสบปวดร้อนตามมาไรอันหันไปมองแล้วพบว่าเมื่อกี้เขากำลังประมาท และเกือบปล่อยให้นาโอมิทำร้ายเขากับเอวลีนเสียแล้ว อ
เมเดลีนได้ยินเสียงร้องของลูกชาย เธอจึงรีบออกมาจากห้องน้ำด้วยเท้าเปล่าหญิงสาวรีบอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาปลอบแล้วเอื้อมมือไปหยิบขวดนม แต่เมื่อเธอแตะมัน เธอก็รู้สึกว่าขวดนมถูกใช้ไปแล้ว อีกทั้งตอนนี้ปริมาณของนมในขวดก็ลดลงเล็กน้อยเธอเหลือบมองลูกน้อยที่ยังคงร้องไห้ด้วยความงุนงงเป็นไปไม่ได้ที่ทารกน้อยคนนี้จะคว้าขวดนมและดื่มด้วยตัวเองเธอคิดว่าอาจเป็นคาเลนที่เพิ่งเข้ามาจึงไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากพยายามกล่อมลูกน้อยให้หลับอีกครั้งแล้ว เธอก็เป่าผมให้แห้งแล้วนอนลงบนเตียงเธอรู้สึกเหนื่อยมากจนเปิดโคมไฟทิ้งเอาไว้ ทว่าก็นอนหลับได้ไม่นานเมเดลีนเปิดลิ้นชักของตู้ข้างเตียงและหยิบแหวนแต่งงานสองวงพร้อมด้วยเปลือกหอยและที่คั่นหนังสือขึ้นมา หลังจากมองดูพวกมันอย่างพินิจพิจารณาอยู่สักพัก เธอก็ใส่มันลงในกล่องเครื่องประดับและปิดผนึกเก็บไว้ที่ด้านล่างของตู้ขณะที่มองไปยังอีกด้านของเตียงที่ว่างเปล่า เธอก็ยกมือขึ้นลูบหมอนเบา ๆ"ทำไมการรักคุณถึงกลายเป็นแบบนี้ได้นะ เจเรมี่ บอกฉันทีว่าทำไม..." เธอถามตัวเองเบา ๆ โดยไม่ได้รับคำตอบใด ๆเวลาผ่านไปนาน จากนั้นภายในห้องก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อีกต่อไปเจเรมี่ซึ่งซ่
“คุณอยากไปกับฉันงั้นเหรอคะ?” ลาน่าดูประหลาดใจ "จริงหรือเปล่า?"เจเรมี่พยักหน้า “ตอนนี้ฉันเป็นคนของเธอแล้ว ฉันควรจะไปด้วยเพื่อช่วยจัดการไม่ใช่หรือไง?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มของลาน่าก็กว้างขึ้นไปอีก “โอเค คุณไปกับฉันก็ได้”สถานที่นัดพบคือภัตตาคารห้าดาว เจเรมี่กำลังเดินเคียงข้างลาน่าขณะที่เข้าไปในห้องส่วนตัวอีกฝ่ายเป็นสุภาพบุรุษที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย แต่รูปลักษณ์ภายนอกอาจหลอกลวงกันได้เจเรมี่ฟังอย่างเฉยเมยราวกับว่าเขาเป็นเพียงคู่ขาที่มาพร้อมกับลาน่าเท่านั้นใช้เวลาไม่นานในการหารือเรื่องต่าง ๆ อย่างราบรื่น เมื่อเขากำลังออกไปชายคนนั้นยังแซวด้วยว่า “คุณจอห์นสัน แฟนใหม่ดูไม่เลวเลยนะ ดูเหมือนว่าธุรกิจของแก๊งสเตเจี่ยน จอห์นสัน มีแต่จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ สิท่า”ลาน่าหยิบบุหรี่ออกมาสูบอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอน ฉันจะมอบส่วนหนึ่งของธุรกิจให้คนรักของฉันหลังจากนี้ และคงต้องขอให้คุณซาเวียร์ช่วยดูแลเขาด้วยนะคะ”"แน่นอนอยู่แล้ว" ชายคนนั้นตอบลาน่าเดินออกจากห้องอย่างมีความสุขและกำลังจะเกาะแกะเจเรมี่ แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากโยริค“แอบกลับมาที่เกลนเดลตั้งแ