เพลิงแค้นพ่ายแรงพิศวาส

เพลิงแค้นพ่ายแรงพิศวาส

에:  หรูซู่방금 업데이트되었습니다.
언어: Thai
goodnovel4goodnovel
평가가 충분하지 않습니다.
30챕터
30조회수
읽기
서재에 추가

공유:  

보고서
개요
목록
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.

เสียพรหมจรรย์โดยไม่คาดคิด แต่พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงกลับใช้เธอไปแลกกับสัญญาที่มีมูลค่าสูงลิ่วกับปีศาจ เขาคือ บุตรรักแห่งสวรรค์ ผู้พลิกมือเป็นฟ้า คว่ำมือเป็นฝน กักขังเธอไว้เพียงเพื่อความแค้นของตระกูล ในเกมการลงโทษที่ต่างฝ่ายต่างหนีและตามไล่ล่าครั้งแล้วครั้งเล่า เขากลับตกหลุมพรางความอ่อนโยนและน่ารักของกระต่ายขาวตัวน้อยอย่างถลำลึก จนไม่อาจถอนตัวได้

더 보기

1화

บทที่ 1

เครื่องบินโคลงเคลงวูบหนึ่ง ดึงสติของเวินหนานจื่อให้กลับมา

เธอมองสภาพอากาศอันเลวร้ายด้านนอก ช่างเหมือนความร้อนรนในใจของเธอในยามนี้ไม่มีผิดเพี้ยน

จากนั้นก้มหน้ามองโทรศัพท์ในมือ ข้อความที่ส่งหาแม่ของเธอยังไม่ได้รับการตอบกลับ และแม่ของเธอก็ขาดการติดต่อไปตั้งแต่เมื่อวาน

ข้อความสุดท้ายที่ได้รับคือคำขอความช่วยเหลือ——“หนานจื่อ ช่วยแม่ด้วย”

ดังนั้นเธอจึงมีทางเลือกเดียว คือกลับมายังบ้านตระกูลเวินที่กลืนกินคนทั้งเป็น

เสียงหวานไพเราะของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินดังขึ้นข้างหูเวินหนานจื่อ “อีกหนึ่งชั่วโมง เครื่องบินจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติอี๋ซื่อ เรากำลังเดินทางผ่านสภาพอากาศแปรปรวน อาจทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านนั่งประจำที่ คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอดเวลา และงดลุกจากที่นั่ง ขอบคุณค่ะ”

เวินหนานจื่อยกโทรศัพท์ขึ้นส่องดูใบหน้าของตัวเอง ดวงตาที่ไม่ได้นอนทั้งคืนว่างเปล่าไร้ประกาย ใต้ตาคล้ำเข้ม แก้มซีดจนแทบไม่มีเลือดฝาดเลยสักนิด

เธอกัดริมฝีปากพลางนึกถึงคนตระกูลเวิน เธอไม่อยากให้พวกเขามองเธอเป็นตัวตลกจึงหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางขึ้นมา และรอจนเครื่องบินนิ่งก่อนจึงลุกขึ้นไปห้องน้ำเพื่อแต่งหน้า

เธอแตะแป้งลงบนหน้า พอปัดแก้มแล้วหน้าถึงดูมีสีสันขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เธอกำลังจะทาลิปสติกต่อ อยู่ ๆ ไฟเหนือศีรษะก็ดับ ๆ ติด ๆ

เวินหนานจื่อเงยหน้ามอง ทันใดนั้นเครื่องบินก็สั่นแรงอีกครั้ง พร้อมกับไฟในห้องน้ำดับสนิท

ตามมาด้วยเสียงดังระงมด้วยความตื่นตระหนกของผู้โดยสารด้านนอก

ความหวาดกลัวแล่นขึ้นสู่หัวใจทันที เธอรีบเก็บลิปสติกที่ทายังไม่เสร็จ แล้วคลำมือไปเปิดประตูห้องน้ำอย่างตื่นตระหนก แต่ทันทีที่ประตูแง้มออก ก็มีเงาร่างสูงใหญ่ขวางเอาไว้

เธอยังไม่ทันที่จะได้เปล่งเสียงใด ๆ ออกมา อีกฝ่ายก็ปิดปากเธอไว้เสียก่อน พร้อมกับยื่นมือมารั้งเอวเธอ...

ห้องน้ำอันคับแคบของเครื่องบิน ไม่อาจรองรับคนทั้งสองได้ จึงจำต้องเบียดชิดติดกันจนแทบเป็นเนื้อเดียวกัน

“อู้อู้อู้” เวินหนานจื่อพยายามขัดขืน

ทว่าอีกฝ่ายกลับกอดรัดเธอจากด้านหลังอย่างแน่นหนา แล้วกดเธอลงบนอ่างล้างหน้าในท่าคว่ำหน้าได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องออกแรง

ศีรษะของเวินหนานจื่อกระแทกเข้ากับก๊อกน้ำอย่างจัง ทำให้ดวงตาพร่ามัวไปชั่วขณะ

เมื่อร่างของคนที่อยู่ด้านหลังทาบทับลงบนแผ่นหลังของเธอ ความหนักอึ้งและแข็งแกร่งของร่างกายนั้นตอกย้ำให้เธอรู้ว่าคนที่กำลังกดทับเธออยู่คือผู้ชาย

ทุกครั้งที่เสียงหอบหายใจที่ดังกระชั้นชิดอยู่ข้างหูระคนเสียงเสียดสีของฟันที่ขบกันแน่น ราวกับเข็มแหลมที่ทิ่มแทงเข้าสู่สมองของเวินหนานจื่อ

เขาเป็นใคร?

หรือว่าบนเครื่องบินจะมีพวกโรคจิต?

“อย่าขยับ”

เสียงแหบพร่าของชายคนนั้นดังขึ้นท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนของเครื่องบิน “เชื่อฉัน… แล้วเธอจะรู้สึกดีขึ้น” กล่าวจบ มือของเขาก็กดลงบนลำคอของเธอ

เวินหนานจื่อรีบยกมือดันไปด้านหลัง แต่ชายคนนั้นกลับรวบแขนทั้งสองข้างของเธอไว้ได้ด้วยมือเดียว แขนของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ตึงร้อน อุณหภูมิสูงจนน่าตกใจ เหงื่อไหลซึมจนเปียกเสื้อเธออย่างรวดเร็ว

มืออีกข้างของชายหนุ่มเลื้อยไปตามชายกระโปรงของเธอก่อนจะแนบชิดติดกับต้นขา โดยปราศจากความเมตตาใด ๆ เล็บที่แข็งกระด้างกรีดข่วนผิวหนังบนขาของเธออย่างดุดัน ก่อนจะหยุดอยู่ที่ขอบกางเกงในของเธอ

เวินหนานจื่อบิดกายช่วงล่างเพื่อพยายามให้หลุดพ้นจากมือของชายผู้นั้น แต่เธอกลับไม่รู้เลยว่า นั่นยิ่งกลายเป็นการยั่วยวนอีกรูปแบบหนึ่ง

ชายหนุ่มยกขาแทรกเข้ามาตรงกลางระหว่างเรียวขาของเธอ เข้าใกล้บั้นท้ายของเธอ

ลำท้อนอันแข็งแกร่งและร้อนระอุเตรียมพร้อมที่จะปลดปล่อย พร้อมดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการทั้งหมดในไม่ช้า

ทันทีที่รูดซิปออก ผิวหนังของทั้งคู่ก็แนบชิดติดกัน ความรู้สึกละเอียดอ่อนนั้นทำให้ส่วนที่แข็งขืนยิ่งกำเริบเสิบสานจนยากจะทานทน ชายคนนั้นจึงได้แต่ส่งเสียงครางต่ำออกมา

เวินหนานจื่อส่ายศีรษะอย่างแรง ดิ้นรนเงยหน้าขึ้น ในพื้นที่มืดมิดนั้น ทุกตารางนิ้วล้วนอบอวลไปด้วยความร้อนระอุจนน่าอึดอัด บนกระจกสะท้อนเพียงเงาดำพร่ามัวของผู้ชายคนนั้น ราวกับปีศาจที่กำลังจะกลืนกินเธอ

“อื้อ!" เธอเบิกตากว้างด้วยความหวาดผวา ศีรษะของเธอกระแทกเข้ากับกระจกจากการกระแทกอย่างแรงของชายหนุ่ม ความเจ็บปวดจากการฉีกขาดทำให้เธอเริ่มสิ้นหวัง น้ำตาไหลรินอาบแก้ม แต่กลับถูกมือใหญ่ที่ปิดปากอยู่สกัดกั้นเอาไว้

เธอตัวเกร็งไปทั้งร่างด้วยความหวาดกลัว และก็สั่นสะท้านไม่หยุด เงาดำสูงใหญ่ของชายหนุ่มเริ่มบิดเบี้ยว

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง... ชายที่อยู่ด้านหลังปลดปล่อยความต้องการอันแรงกล้าของตัวเองอย่างเต็มที่ บดกระแทกเข้าภายในร่างกายของเวินหนานจื่ออย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

เนื่องจากเธอถูกปิดปากอยู่จึงได้แต่ส่งเสียงอู้อี้อ้อนวอนขอความเมตตา

ในขณะที่ร่างกายของเธอกำลังจะแหลกสลาย ชายคนนั้นก็ปล่อยแขนที่ถูกพันธนาการของเธอออก มือข้างหนึ่งของเขาบีบเอวเธอเอาไว้พร้อมกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรง ราวกับต้องการจะทิ่มแทงเธอให้ทะลุปรุโปร่ง

ชายกระโปรงที่ถูกยกขึ้นเปียกชุ่มไปด้วยความร้อนชื้น ร่องรักอันคับแคบสัมผัสเปียกแฉะและส่งเสียงที่น่าอับอายออกมา

ชายคนนั้นหยุดไปชั่วขณะแล้วพูดต่อว่า “ครั้งแรกเหรอ?”

“ไม่ อย่า” เมื่อเวินหนานจื่อรู้สึกได้ว่ามือที่ปิดปากเธออยู่คลายออกเล็กน้อย จึงเริ่มขัดขืนทันที ในน้ำเสียงของเธอปนได้ด้วยเสียงสะอื้น ดวงตาแดงก่ำที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตากลับมาว่างเปล่าและสิ้นหวังอีกครั้ง

ทว่าชายหนุ่มกลับโยกบั้นเอวไม่ยั้ง แถมพลิกตัวเธอให้หันกลับมานั่งอยู่บนอ่างล้างหน้าอย่างน่าอึดอัด มือข้างหนึ่งยิ่งออกแรงกดปากของเธอแน่นขึ้น ส่วนอีกข้างหนึ่งจับขาของเธอแยกออกจากกัน ทำให้การเสียดสีแต่ละครั้งยิ่งแทงลึกเข้าจนสุดลิ่ม

ช่วงบนของชายหนุ่มค่อย ๆ โน้มเข้าหาเวินหนานจื่อ เธอสัมผัสได้ถึงเสียงหอบหายใจถี่อย่างเร่งเร้าของเขาผ่านมือที่ปิดกั้นอยู่ รู้สึกได้แม้กระทั่งของเส้นผมที่ปัดผ่านใบหน้าของเธอ

เธอยกมือที่ไร้เรี่ยวแรงผลักไหล่เขา เตะถีบไปอย่างไร้ทิศทาง ไม่รู้ว่าโดนเขาไปกี่ครั้ง แต่สำหรับร่างใหญ่กำยำตรงหน้า แรงทั้งหมดของเธอแทบไม่ระคายผิวด้วยซ้ำ

“อึก...หึ” ชายหนุ่มส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจพร้อมออกแรงเฮือกสุดท้าย

ช่วงล่างของเวินหนานจื่อปวดแสบปวดร้อน แต่แรงสั่นสะท้านภายใต้ร่างทำให้เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำตาของเธอไหลอาบแก้มทั้งข้าง เสียงสะอื้นตีบตันในลำคอจนแทบหายใจไม่ออก

ในขณะที่ชายคนนั้นยังคงดื่มด่ำอยู่กับกามารมณ์ เธอกัดริมฝีปาก กลืนเลือดขมขื่นลงไป ก่อนจะกำหมัดแน่นแล้วชกเข้าที่หน้าผากของชายคนนั้น

เวินหนานจื่อรีบฉวยโอกาสวิ่งออกไปข้างนอกขณะที่เขากุมศีรษะด้วยความเจ็บปวด ทว่ากลับถูกรวบเอวจากด้านหลัง

“คิดหนีเหรอ?” น้ำเสียงเย้ยหยันที่เต็มไปด้วยความเย็นชาดังขึ้น

เวินหนานจื่อยังไม่ทันได้ผละหนี ก็ถูกกดกลับลงไปที่อ่างล้างมืออีก
펼치기
다음 화 보기
다운로드

최신 챕터

더보기
댓글 없음
30 챕터
บทที่ 1
เครื่องบินโคลงเคลงวูบหนึ่ง ดึงสติของเวินหนานจื่อให้กลับมาเธอมองสภาพอากาศอันเลวร้ายด้านนอก ช่างเหมือนความร้อนรนในใจของเธอในยามนี้ไม่มีผิดเพี้ยนจากนั้นก้มหน้ามองโทรศัพท์ในมือ ข้อความที่ส่งหาแม่ของเธอยังไม่ได้รับการตอบกลับ และแม่ของเธอก็ขาดการติดต่อไปตั้งแต่เมื่อวานข้อความสุดท้ายที่ได้รับคือคำขอความช่วยเหลือ——“หนานจื่อ ช่วยแม่ด้วย”ดังนั้นเธอจึงมีทางเลือกเดียว คือกลับมายังบ้านตระกูลเวินที่กลืนกินคนทั้งเป็นเสียงหวานไพเราะของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินดังขึ้นข้างหูเวินหนานจื่อ “อีกหนึ่งชั่วโมง เครื่องบินจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติอี๋ซื่อ เรากำลังเดินทางผ่านสภาพอากาศแปรปรวน อาจทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านนั่งประจำที่ คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอดเวลา และงดลุกจากที่นั่ง ขอบคุณค่ะ”เวินหนานจื่อยกโทรศัพท์ขึ้นส่องดูใบหน้าของตัวเอง ดวงตาที่ไม่ได้นอนทั้งคืนว่างเปล่าไร้ประกาย ใต้ตาคล้ำเข้ม แก้มซีดจนแทบไม่มีเลือดฝาดเลยสักนิดเธอกัดริมฝีปากพลางนึกถึงคนตระกูลเวิน เธอไม่อยากให้พวกเขามองเธอเป็นตัวตลกจึงหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางขึ้นมา และรอจนเครื่องบินนิ่งก่อนจึงลุกขึ้นไปห้องน้ำเพื่อแต่ง
더 보기
บทที่ 2
ในห้องน้ำอบอวนไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แผดเผาไปทั่วทุกอณูของเวินหนานจื่อ เธอเกาะขอบอาบล้างมือแน่น ร่างกายโคลงเคลงราวกับผ้าขาดรุ่งริ่งทว่าร่างของชายคนนั้นกลับยังคงกระแทกตัวเธออย่างไม่หยุดหย่อน“คุณ คุณเป็นใคร?” เธอกอดหน้าอกตัวเองพร้อมถอยรนหนีชายคนนั้นสัมผัสแก้มของเวินหนานจื่อได้อย่างแม่นยำราวกับมองทะลุความมืดได้ ก่อนจะปัดปอยผมที่เปียกเหงื่อขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ แล้วลูบไล้ผ่านแก้มและมุมปากของเธออย่างจงใจ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า“บางทีถ้าเธอให้ฉันลิ้มลองอีกครั้ง ฉันอาจจะบอกเธอก็ได้”แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืด แต่เวินหนานจื่อก็รู้สึกได้ว่าริมฝีปากของเขากำลังยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างเย็นชาเวินหนานจื่อตัวสั่นคลอน รู้สึกเหมือนโสเภณีที่ถูกเหยียดหยาม เธอแกว่งมือที่สั่นเทาไปตบหน้าของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ“หน้าไม่อาย!”อุณหภูมิในห้องน้ำลงลดอย่างฉับพลัน ถึงขั้นเย็นยะเยือกเวินหนานจื่อฉวยโอกาสผลักชายคนนั้นออก แล้วรีบวิ่งออกไป เครื่องบินเริ่มสั่นสะเทือนอีกครั้ง ร่างของเขาจึงถูกบานประตูห้องน้ำที่ปิดลงกั้นไว้เธอรีบย่อตัวลง หลบเข้าไปในที่นั่ง แล้วคว้าผ้าห่มบนที่นั่งมาคลุมตัวเองจนมิด แต่
더 보기
บทที่ 3
เวินหนานจื่อรีบวิ่งหน้าตั้งกลับบ้านตระกูลเวิน แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นประตู ก็ถูกผู้หญิงแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดคนหนึ่งขวางเอาไว้เสียก่อน“หนานจื่อ ดูสภาพแกเหมือนหนีตายกลับมาจากต่างประเทศไม่มีผิด? ตระกูลเวินเคยให้แกอดอยากตรงไหนกัน?”เวินหนานจื่อดึงปลายผมสั้นที่ถูกตัดอย่างลวก ๆ บนศีรษะแล้วเงยหน้ามองผู้หญิงตรงหน้า ซึ่งก็คือแม่เลี้ยงของเธอ เป็นความลับที่เลื่องลือไปทั่วว่าตระกูลเวินมีนายหญิงสองคน และผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คือคนที่ได้รับความโปรดปรานสูงสุด ชื่อเฉียนฮุ่ยหรูเฉียนฮุ่ยหรูใช้ปรายนิ้วจิ้มหน้าผากเวินหนานจื่อ “จุ๊จุ๊ น่าอายจริง ๆ! เหมือนแม่ที่เงียบเป็นใบ้ของแกไม่มีผิด วัน ๆ เอาแต่ทำหน้าอมทุกข์ เห็นแล้วอารมณ์เสีย”ดวงตาสีแดงก่ำของเวินหนานจื่อคลอไปด้วยน้ำ เธอถามคนตรงหน้าอย่างเอาความว่า “แล้วแม่ฉันล่ะ? พวกคุณทำอะไรแม่ฉัน? พวกคุณไม่ชอบฉัน ส่งฉันไปต่างประเทศฉันก็ยอมแล้ว แต่ทำไมต้องทำร้ายแม่ฉันด้วย? แม่ฉันถือศีลกินเจ ท่านไปทำอะไรให้พวกคุณหนักนัก?”เฉียนฮุ่ยหรูอวดกำไลหยกสวยบนข้อมือพลางกล่าวยั่วยุว่า “ก็เพราะแม่แกชอบทำตัวสูงส่งไงล่ะ ถึงได้ไม่มีปัญญารั้งผัวตัวเองไว้ ขนาดพระโพธิสั
더 보기
บทที่ 4
เวินหนานจื่อกลิ้งตัวอยู่บนเตียงอย่างยากลำบาก แม้จะมองไม่เห็นคนที่อยู่ตรงหน้า แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าอากาศรอบกายกำลังจับตัวเป็นก้อนเพราะการคืบคลานเข้ามาใกล้ของชายผู้นั้นเธอกลั้นหายใจไว้ลึกสุด พรั่นพรึงว่าเสียงหายใจของตนเองจะไปยั่วโทสะผู้ที่อยู่เบื้องหน้าชายหนุ่มแทรกตัวเข้ามาอยู่ระหว่างร่องขาของเธอ เนื้อผ้ากางเกงที่เรียบลื่นเสียดสีกับผิวหนังบริเวณขา สัมผัสที่เย็นเยียบนั้นคล้ายกับอสรพิษ เธอนึกว่าตัวเองถูกอันตรายรัดพันเอาไว้แล้ว และในเสี้ยววินาทีต่อไป เธอจะต้องขาดใจตายเป็นแน่“ไม่… อย่า” เวินหนานจื่อเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบากเตียงสั่นไหวขึ้นมาในทันใด เธอรู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งทาบลงมาใกล้หู จนเกิดแรงลมพัดเส้นผมของเธอปลิวไหวไปหลายเส้น หัวใจของเธอพลันหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุดใบหน้าของชายคนนั้นอยู่ใกล้มาก และลมหายใจของเขาที่รดหน้าเธอทั้งร้อนผ่าวและอันตราย จนเธอต้องกลั้นหายใจด้วยความหวาดกลัวในเสี้ยววินาทีถัดมา เสื้อผ้าของเธอก็ถูกฉีกขาด มือที่ทาบอยู่ข้างหูเลื่อนผ่านแก้มลงมากดบีบลำคอของเธอ ขณะที่มืออีกข้างก็ลูบไล้ไปบนเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเธออย่างได้ใจเธอรู้สึกเหมือนมือท
더 보기
บทที่ 5
เวินหนานจื่อที่กำลังจมอยู่ในอ่างน้ำเย็นจัดควานมือทาบขอบอ่างด้วยสัญชาตญาณ พยายามดันร่างท่อนบนขึ้นมาเพื่อหายใจเฮือกใหญ่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัว กงเฉินในชุดสีดำก็ปรากฏตัวตรงหน้า ที่มุมปากของเขายังคงติดตรึงรอยยิ้มอันชั่วร้ายอยู่ตลอดเวลา มันอันตรายจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้กงเฉินยกมือขึ้นกดไหล่ของเวินหนานจื่อ อุณหภูมิฝ่ามือของเขาเย็นยะเยือกไม่ต่างจากน้ำเย็นนั้นเลย กลิ่นเส้นยาสูบที่ติดปลายนิ้วเรียวยาวเย้ายวนชวนให้หลงใหล ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความอันตรายดุจคมมีดเพียงเขากดนิ้วลงเบา ๆ ก็ทำให้ไหล่ของเธอแดงเป็นปื้นเวินหนานจื่อลืมตาโพลง มองชายหนุ่มรูปงามดุจปีศาจตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว กว่าจะหายใจเป็นปกติ แต่แล้ววินาทีถัดมา กงเฉินกลับกดเธอกลับลงไปในน้ำอีกครั้งเธอกรีดร้องอย่างหมดทางสู้ “อ๊า!” เมื่อเสียงกรีดร้องของเวินหนานจื่อดังระงมทั่วห้องน้ำ กงเฉินจึงปล่อยมืออย่างพอใจก่อนถอยหลังไปหนึ่งก้าว ร่างสูงโปร่งทอดยาวราวกับเงาปีศาจที่แฝงไว้ด้วยความอำมหิตเขาดึงบุหรี่ม้วนหนึ่งออกมาจุด แล้วค่อย ๆ พ่นควันจาง ๆ ออกมา ดวงตาสีดำสนิทเต็มไปด้วยความสะใจ“เข้ามาล้างตัวเธอให้สะอาด”สาวใช้เดินเข้ามาอย่างหุ่
더 보기
บทที่ 6
รถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดเทียบหน้าประตูใหญ่บ้านตระกูลเวิน พ่อบ้านก้าวลงจากรถ ก่อนกดกริ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติชายร่างบึกบึนสองคนโยนเวินหนานจื่อผู้หมดสติลงตรงหน้าประตู เนื้อตัวเธอมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวห่อหุ้ม ผมเพ้าที่เปียกชื้นถูกลมหนาวพัดเป่าจนแห้งกรังพ่อบ้านขมวดคิ้ว ถอดเสื้อโค้ตตัวยาวห่มคลุมให้แก่เวินหนานจื่อ จากนั้นจึงพูดสีหน้าเรียบเฉย "ไปกันเถอะ"เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากในบ้านตระกูลเวิน พ่อบ้านก็นำคนขึ้นรถจากไปเฉียนฮุ่ยหรูอยู่ในสภาพเกียจคร้านหลังงีบหลับ ปากก่นด่าสาวใช้ว่าหูหนวกตาบอดขณะเดินมาเปิดประตูเพราะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าบ้านทันทีที่เห็นเวินหนานจื่อนอนกองอยู่กับพื้น ใบหน้าของเฉียนฮุ่ยหรูพลันซีดขาว หัวใจกระตุกวูบ รีบคว้าเอกสารข้างกายเวินหนานจื่อขึ้นมาพลิกดูเมื่อเห็นช่องสำหรับลงนามของกงเฉินยังคงว่างเปล่า เธอก็กรีดร้องเสียงแหลม "แย่แล้ว! แย่แล้ว!"สถานการณ์ย่ำแย่จริงดังว่า เวินเสียงผู้เป็นพ่อซึ่งอยู่ชั้นบนเพิ่งวางสายโทรศัพท์ กงเฉินบีบคั้นจนโรงงานในเครือกว่าครึ่งของเขาต้องหยุดชะงัก ไม่อาจขับเคลื่อนสายพานการผลิตได้อีกเวินเสียงกระแทกโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ เดินไ
더 보기
บทที่ 7
เวินเสียงและเฉียนฮุ่ยหรูไม่เปิดโอกาสให้เวินหนานจื่อได้พักหายใจ ทั้งคู่ลากเธอขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่ตระกูลกง โดยไม่ให้เวลาเธอได้สวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเสียด้วยซ้ำเวินหนานจื่อกระชับเสื้อคลุมตัวนอกแนบแน่น ศีรษะซึ่งยังคงหนักอึ้งและมึนงงเดี๋ยวก้มเดี๋ยวเงยด้วยความทรมาน เส้นผมที่ถูกตัดเปียกชุ่มด้วยคราบน้ำตาแนบติดใบหน้าเฉียนฮุ่ยหรูสั่งให้คนส่งผลตรวจปลอมฉบับหนึ่งมาที่บ้านตระกูลเวิน ตลอดการเดินทางก็เอาแต่หารือกับเวินเสียงไม่หยุดปากว่าควรทำอย่างไรให้กงเฉินหลงเชื่อรายงานฉบับนี้ดีเมื่อถึงตระกูลกง พ่อบ้านผู้อยู่หน้าประตูก็กวาดตามองพวกของเวินหนานจื่อทั้งสามคนพลางขมวดคิ้ว เขาไม่ได้เปิดประตูให้ในทันที แต่กลับเดินเข้าไปในตัวคฤหาสน์เพื่อเรียนให้กงเฉินทราบเรื่องกงเฉินวางแก้วไวน์ในมือลง กระตุกยิ้มมุมปาก “ให้เข้ามา”เวินหนานจื่อถูกคุมตัวมาอยู่ตรงหน้ากงเฉินคล้ายเป็นตุ๊กตาผ้าเก่าขาดตัวหนึ่ง เธอยังไม่ทันยืนให้มั่นคง เฉียนฮุ่ยหรูก็ปรี่เข้าไปเตะข้อพับขาของเธอจนทรุดฮวบลงหัวเข่ากระแทกพื้น นั่งคุกเข่าต่อหน้ากงเฉินผู้ยืนตระหง่านกงเฉินยืนอยู่บนขั้นบันได รูปร่างที่สูงโปร่งอยู่แล้วยิ่งดูโดดเด่น มือข้างหนึ่งล้
더 보기
บทที่ 8
เวินหนานจื่อตื่นขึ้นในยามฟ้าสาง เหงื่อกาฬแตกพลั่กทั่วร่าง รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปทั้งตัว ลำคอแห้งผากระคายเคืองเธอกวาดตามองไปรอบห้องเก็บของ ก่อนก้มมองผ้าห่มบนตัว ตรงหน้ามีน้ำหนึ่งแก้วและของกินวางอยู่ จึงรีบคว้าขนมปังในจานทรงกลมขึ้นมากัดกินโดยไม่ลังเลเพราะเธอหิว หิวจนแทบทนไม่ไหวแล้วนับตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิดแต่ขนมปังที่วางทิ้งไว้ข้ามคืนหมดสิ้นความนุ่มนิ่มทั้งแห้งและแข็ง เวลากลืนลงไปจึงให้ความรู้สึกราวกลืนใบมีดที่คอยกรีดผ่านลำคอซึ่งเจ็บระบมอยู่แล้วเวินหนานจื่อคว้าแก้วน้ำขึ้นมากระดกดื่ม ฝุ่นละอองบนพื้นฟุ้งกระจายขึ้นมาเป็นชั้น จนเธอต้องหรี่ตาลงแสงอรุณจากหน้าต่างบานเล็กสาดส่องเข้ามา ฝุ่นผงในห้องเก็บของลอยล่องหนาตากระจายตัวอยู่ในลำแสงนั้นเมื่อมองไปรอบกาย เวินหนานจื่อก็ยกมือขึ้นปิดปาก เพิ่งหวนนึกถึงสภาพความเป็นจริงของตนเอง เธอขยี้ดวงตาที่แสบพร่า พยายามสะกดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลรินเวินหนานจื่อจ้องมองกระเป๋าเดินทางที่เฉียนฮุ่ยหรูให้ติดตัวมาตรงมุมห้อง คิดจะลุกเดินไปหา แต่หัวเข่ากลับอ่อนพับ ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ทำได้เพียงคลานเข้าไปหากระเป๋าเดินทา
더 보기
บทที่ 9
ภายในห้องยังคงหลงเหลือกลิ่นอายของการระบายความใคร่อันดิบเถื่อน ผ้าม่านกั้นเตียงหนาทึบปิดกั้นจนแสงไม่อาจเล็ดลอดเข้ามาได้ ภายใต้ความสลัวชวนวาบหวามนั้น เงาร่างของกงเฉินดูเลือนรางไม่ชัดเจนเวินหนานจื่อเหลือบตามองเล็กน้อย ครั้นเห็นคนบนเตียงลุกขึ้น ก็ตกใจรีบหลุบตาลงมองปลายเท้าบนพื้นทันทีกงเฉินลุกขึ้นโดยไม่คิดปิดบังสิ่งใด เผยให้เห็นเรือนร่างอันกำยำชัดเจน ก่อนคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำขึ้นมาคลุมตัว ไม่ได้สวมใส่แขนเสื้อให้เรียบร้อยเสียด้วยซ้ำ"ตามฉันมา"สิ้นเสียงคำสั่งที่เปี่ยมด้วยความดุดัน ก็ตามมาด้วยเสียงกริ๊ก นิ้วมือของกงเฉินคีบบุหรี่มวนหนึ่ง ปลายบุหรี่ขยับไหวขึ้นลง ยามเดินผ่านหน้าเวินหนานจื่อก็จงใจพ่นควันออกมากลุ่มหนึ่งเวินหนานจื่อสำลักจนอยากจะไอ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ร้าย นอกจากยอมสยบด้วยความสั่นเทาแล้ว เธอก็ทำได้เพียงข่มความอึดอัดทั้งหมดเอาไว้เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนก้าวเท้าตามกงเฉินไป ภาพอันน่าอับอายในหัวสมองคอยทรมานทุกประสาทสัมผัส ความเจ็บปวดในช่วงล่างยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายโซเซ ขณะเงยใบหน้าที่ซีดเซียวเสียยิ่งกว่าคนป่วยขึ้นเล็กน้อยห้องน้ำในห้องนอนนั้นกว้างขวาง อ่างอาบน้ำระ
더 보기
บทที่ 10
กงเฉินหยัดกายลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ เผยให้เห็นรอยสักที่พาดผ่านทั่วทั้งแผ่นหลังเมื่อครู่เวินหนานจื่อเอาแต่ก้มหน้า ตอนนี้จึงเห็นรอยสักถนัดตา ผ้าขนหนูในมือถึงกับร่วงหล่นลงน้ำไปกงเฉินปรายตามองมาแวบหนึ่ง เธอจึงรีบคว้าผ้าขนหนูแห้งมาเช็ดหยดน้ำตามตัวให้เขาทันที ไม่กล้าชักช้าแม้แต่น้อยด้วยความที่รอยสักรูปพญาอินทรีซึ่งสุดจะสมจริงนั้นมีรอยนูนเล็กน้อย เธอจึงแอบชำเลืองมองอย่างระมัดระวัง ถึงได้พบว่าบนตัวอินทรีนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่พาดเฉียงไปมา ทับซ้อนจนกลายเป็นปีกของพญาอินทรี แต่ละรอยล้วนดูสดใหม่และชัดเจนรอยสักนี้มีไว้เพื่อปกปิดรอยแผลเป็นใช่ไหม?แล้วทำไมบนตัวเขาถึงได้มีรอยแผลเป็นมากมายขนาดนี้ล่ะ?กงเฉินสัมผัสได้ถึงสายตาที่หยุดมองของเวินหนานจื่อ จึงกระชากผ้าเช็ดตัวจากมือเธอมาพันกายลวก ๆ "ไสหัวไป""ดะ...ได้ค่ะ"เวินหนานจื่อรีบพุ่งตัวออกจากห้องทันที เหมือนรอเวลานี้มานานแล้วแต่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว เซียวหลานกำลังยืนรอเธออยู่ เพื่อเยาะเย้ยว่า "แหม โผล่หัวออกมาได้แล้วเหรอ? เดี๋ยวนี้สาวใช้ตระกูลกงใจกล้าขนาดนี้เชียว? ถึงกับกล้าปีนขึ้นเตียงเจ้านายเลยสินะ?"เวินหนานจื่อเม้มปาก พยายามเบี่ยงกายท
더 보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status