เช้าวันรุ่งขึ้นเขาออกไปข้างนอก ที่จริงเจนควรจะใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดหลังสมรส แต่เธอกลับใช้ชีวิตราวกับว่าเธอเป็นหญิงชราอายุเจ็ดสิบหรือแปดสิบปีในช่วงฤดูหนาวเช่นนี้ เมื่อมีแดดออกเธอมักจะเอาเก้าอี้และผ้าห่มรวมทั้งขวดน้ำร้อนมาอุ่นมือและเท้าด้วย ด้วยเหตุนี้เธอจึงนั่งบนระเบียงและอาบแดดเธอใช้ชีวิตเหมือนกำลังจะตายพ่อบ้านคนใหม่มาถึงคฤหาสน์ พ่อบ้านคนใหม่ก็ลักษณะคล้ายๆ พ่อบ้านทั่ว ๆ ไป ที่มักจะเป็นคนจริงจังเคร่งขรึม และไม่แสดงออกทางสีหน้าคล้ายกับพ่อบ้านซัมเมอร์ ในตอนเช้าเจนได้ยินเสียงพ่อบ้านชรายื่นกระบองให้ผู้สืบทอดทั้งสองคนเคยเป็นพ่อบ้านมาเกือบทั้งชีวิต งานของพวกเขาจึงไร้ที่ติ อย่างไรก็ตามภายใต้ความปกติสงบเงียบนั้น มีสัญชาตญาณแห่งการแข่งขันกันอยู่เจนนั่งฟังบทสนทนาของพ่อบ้านพวกเขาไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่คำที่พวกเขาแลกเปลี่ยนกันนั้นเต็มไปด้วยความหมายเจนเพียงแค่จับจ้องไปข้างหน้า เธอไม่สนใจจริง ๆ ว่าการสืบทอดนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่เธอไม่รู้ว่าทั้งสองคนยังคงเงียบอยู่ได้อย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้มีเสียงกรอบแกรบจากด้านหลังของเธอ และเธอก็เหลือบมองออกไปด้วยปลายหางตาของเธอ เมื่อเธ
ณ คฤหาสน์สจ๊วต“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ นายท่าน”"อ่าหะ" ฌอนส่งเสื้อโค้ทตัวหนาของเขา ให้พ่อบ้านโอ้คส์ “อาหารกลางวันพร้อมหรือยัง?”“พร้อมมาสักพักแล้วครับ นายท่าน มีซุปไก่ดำและถั่งเช่า ดอกลิลลี่ผัดขึ้นฉ่าย และไข่ตุ๋นกับไวท์เบท ทั้งหมดนี้ทำด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ที่สุดครับ”ฌอนพยักหน้า “เตรียมทุกอย่างใส่ถาด แล้วส่งอาหารมาให้ฉัน”คุณพ่อบ้านโอ้คส์เพรียบพร้อมทุกอย่าง “ทุกอย่างอยู่บนถาดพร้อมแล้วครับ”“ดีมาก ถ้าอย่างนันก็เอาถาดมาให้ฉันได้เลย”ฌอนยกถาดขึ้นไปชั้นสองเมื่อเขากลับมา เสียงเครื่องยนต์รถของเขานั้นมันดึงดูดความสนใจของพ่อบ้านซัมเมอร์มาก ๆ พ่อบ้านซัมเมอร์ไม่ได้มีหน้าที่อะไรในบ้านอีกต่อไป ฌอนแค่อนุญาตให้เขาอยู่ที่นี่เท่านั้น เพื่อที่เขาจะได้พักผ่อนอย่างสบาย ๆ จนกว่าเขาจะเกษียณอย่างเป็นทางการ เป็นวิธีการให้เกียรติความสัมพันธ์ระยะยาวของพวกเขาในฐานะเจ้านายและผู้รับใช้“ที่รัก ทานให้หมด”ฌอนวางถาดไว้ที่โต๊ะลิ้นชักข้างเตียง เจนค่อนข้างแปลกใจที่เห็นชายคนนี้กลับมาที่นี่ในเวลานี้"ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ เวลานี้?"“ในบริษัท ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ ฉันเลยมีเวลาว่าง” เมื่อเขาพูดอย่างน
"คุณกำลังกินอะไร?" ฌอนปรากฏตัวขึ้นที่ประตูมือของเจนจับไปรอบ ๆ ขวดและเธอก็ตื่นตระหนกไปชั่วเสี้ยววินาที แต่ในไม่ช้าเธอก็กลับมามีสติสัมปชัญญะ “วิตามิน ฉันขอให้อโลร่าซื้อมาให้เมื่อวานก่อน”เมื่อเธอพูดอย่างนั้น ฌอนก็เดินไปหาเธอและหยิบขวดจากมือเธอ เมื่อเขาเห็นมันความสงสัยก็จางหายไปจากคิ้วของเขา เขาคิดย้อนกลับไปและจำได้ว่าอโลร่าได้นำมันมาไปเมื่อวันก่อนในขณะที่พวกเขาคุยกันเรื่องยา พ่อบ้านโอ้คส์ก็เคาะประตูฌอนและเจนมองไปที่เขาในเวลาเดียวกัน "เกิดอะไรขึ้น?" ฌอนวางขวดที่เขาถือไว้ และหันไปถามพ่อบ้านโอ้คส์ซึ่งอยู่ที่ประตู“คู่สามีภรรยาอยู่ด้านล่าง พวกเขาอ้างว่าเป็นพ่อแม่ของคุณผู้หญิงครับ” พ่อบ้านโอ้คส์ได้รับการว่าจ้างให้เป็นพ่อบ้านของคฤหาสน์สจ๊วต ดังนั้นเขาจึงรับผิดชอบในการจัดการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่นี้ และทุก ๆ อย่างภายในนั้นรวมไปถึงรายละเอียดที่เล็ก ๆ ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันเขาเป็นพ่อบ้านที่ยอดเยี่ยม และทำงานเป็นพ่อบ้านมาหลายสิบปี ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถพิเศษของเขาเขาจะดึงดูดสายตาของฌอนได้อย่างไร?พ่อบ้านที่มีความสามารถเช่นนี้ คงจะทำการค้นคว้าก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารคฤหาสน์สจ๊วตท
"พยาน?"“ใช่ พยาน”“ถ้ามีพยานอยู่ในที่เกิดเหตุ ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้?”คำพูดของเจนเฉียบคม คดีนี้ร้ายแรง และมีรายละเอียดเกี่ยวพันกันมากมาย เธอจำเป็นต้องไปที่ด้านล่างต้นตอ“เฮ้อ” คุณหญิงดันน์ถอนหายใจ และมองไปที่เจน “คุณรู้จักคน ๆ นี้ ครอบครัวของเธอไม่ต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเธอรู้เห็นการข่มขืนนี้ มันเป็นอาชญากรรมที่สกปรกมาก”เจนเข้าใจว่าคุณหญิงดันน์หมายถึงอะไร ถ้าเธอรู้จักบุคคลนี้ และหากครอบครัวของบุคคลนี้ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ก็มีความเป็นไปได้สูง ...“ลูกชายของใคร?”เธอถามคุณหญิงดันน์ มันยากที่จะมีความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกสาวที่นี่ หลังจากหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น“ไม่ใช่ลูกชาย เป็นลูกสาวคนที่สองของตระกูลแทนเนอร์”เจนรู้แจ้งในทันทีเขาเป็นผู้หญิง!ไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอเป็นลูกสาวของคนรวยและมีชื่อเสียง มันจะทำลายชื่อเสียงของเธอ หากมีคนรู้ว่าเธอได้พบเห็นอาชญากรรมที่สกปรกเช่นนี้มันไม่ใช่สถานที่เกิดเหตุธรรมดา เป็นอาชญากรรมที่ผู้ชายสองสามคนล่วงละเมิดผู้หญิงได้ลงคอ!แม้ว่าเธอจะได้รับการรู้แจ้ง แต่ก็ยากที่จะยอมรับเรื่องนี้ “คุณบอกว่าเธอรู้เห็นก
เจน และคุณหญิงดันน์กำลัง "หวนรำลึกถึงอดีต" ในส่วนของโจเซฟก็ไม่พลาดโอกาสที่จะพูดคุยกับฌอนเช่นกันบริษัทสจ๊วต อุตสาหกรรมมีทรัพยากรเยอะ และโจเซฟก็ต้องการอย่างเร่งด่วนฌอนฟังคำพูดที่ประจบของโจเซฟ เขารู้ทันทีว่าโจเซฟต้องการอะไรถ้าโจเซฟไม่ขอสิ่งของ และขอร้องให้เขาช่วยทำอะไรบางอย่างเมื่อเขามาที่นี่แล้ว ก็จะมีบางอย่างผิดปกติแน่ถ้าชายชราคนนี้ไม่ได้มาด้วยจุดประสงค์แล้วทำไมเขาถึงจะมาที่นี่ละ? ถ้าเขาไม่ได้มีจุดประสงค์จริง ๆ ก็คงแปลก เขาจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักพัก เขาจิบวิสกี้และมองออกไปนอกหน้าต่าง แม้ว่าเขาจะต้องสนใจโจเซฟ แต่เขาก็ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นครั้งคราวโจเซฟมองไปยังจุดที่เขามองอยู่ เขาดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขาถามอย่างห่วงใยว่า“คุณเป็นห่วงเจนไหม คุณชายสจ๊วต?”เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ฌอนก็หลีกเลี่ยงการจ้องมองของเขาและมองไปที่โจเซฟ เขายิ้มอย่างสุภาพโจเซฟเป็นคนที่มีไหวพริบ เขาเห็นเช่นนั้นและเขาก็ไม่ได้ถามต่อ เขาเปลี่ยนเรื่องและกลับไปที่หัวข้อที่พวกเขากำลังพูดถึงในตอนนี้ "คุณชายสจ๊วต คุณคิดว่าโครงการใหม่จะได้ผลหรือไม่?”นิ้วของฌอนถูกับแก้ว เขาไม่ได้ดูเหมือนว
ไม่กี่วันหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เจน และฌอนคุยกันเกี่ยวกับการไปเยี่ยมบ้านตระกูลดันน์“ฉันต้องไปทำธุระสองสามวันนี้ ฉันจะไปกับคุณหลังจากที่ฉันกลับมา?”“ฉันจะขอให้อโลร่าไปกับฉัน ฉันเบื่อจะตายแล้วเพราะถูกขังอยู่ที่บ้านอย่างเดียวเนี่ย ฉันไม่มีที่จะไปอยู่แล้ว เนื่องจากแม่และพ่อขอ…ให้ฉัน…” เธอก้มศีรษะลง และช่วยเขาเก็บกระเป๋าเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้ เธอพูดช้า ๆ “อย่างไรก็ตามอโลร่าจะอยู่ที่นั่นกับฉันตลอด ฉันแค่จะไปทานอาหารกลางวันที่นั่น”เมื่อเธอพูดแบบนั้นแล้ว ฌอนจึงมองไปที่เธอ และจ้องมองอย่างนุ่มนวล “โอเค ๆ ฉันจะโทรหาอโลร่าให้ไปกับคุณในวันพรุ่งนี้”…เป็นคืนที่นอนไม่หลับวันรุ่งขึ้นฌอนจากไป คราวนี้เขาจะบินไปสหราชอาณาจักรสักสองสามวัน ก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้สั่งให้คนรอบข้างดูแลเจนให้ดี ๆ เจนยืนอยู่ที่ประตู และโบกมือให้ชายคนนั้น "กลับมาเร็ว ๆ นะ"ทั้งสองคนดูเหมือนสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ความสัมพันธ์สงบสุข และกลมกลืน ผู้ที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจะไม่คาดคิดว่าจะเกิดความพัวพันระหว่างพวกเขาการจ้องมองของฌอนอ่อนลงและนุ่มนวลขึ้น เขาเข้าไปในรถ อากาศเย็นในฤดูหนาวไม่สามารถทำให้ความอบอุ่นในใจของเ
ฌอนไม่ได้ไปทำธุระคนเดียว เขาพาเอลิออร์ไปด้วยเอลิออร์เป็นชายหนุ่มในตระกูลไวท์ เพื่อการฝึกฝนทางการแพทย์ของเขา เขาได้ต่อสู้กับพ่อของเขาเป็นอย่างมาก โดยปกติเอลิออร์ดูเหมือนคนว่านอนสอนง่าย แต่เมื่อเขาจะดื้อพ่อของเขาก็จะปวดหัวมาก ๆ ด้วยเช่นกันพ่อของเขาไม่สามารถเอาชนะเอลิออร์ได้ เขาจึงประนีประนอม ด้วยการบอกเขาว่าเมื่อตระกูลไวทืต้องการเอลิออร์ช่วยในด้านธุรกิจ เขาจำเป็นต้องอุทิศตัวให้กับครอบครัวโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆนี่จึงเป็นเวลาที่เอลิออร์จะต้องอุทิศตัวเองเพื่อครอบครัวของเขา สจ๊วตและไวท์มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และทำงานร่วมกันอยู่หลาย ๆ ครั้ง การเดินทางไปสหราชอาณาจักรครั้งนี้ มันมีความสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าไม่เช่นนั้นคนสำคัญ ๆ ของ บริษัทสจ๊วตอุตสาหกรรม และ บริษัท ไวท์ วิสาหกิจ นั่นคือ ฌอนและเอลิออร์ ก็คงจะไม่เดินทางไปด้วยตัวเอง“เรียกร้องเยอะชะมัด” หลังจากการพบปะกับอีกฝ่ายเอลิออร์ที่สวมเสื้อโค้ทสไตล์อังกฤษ และฌอนที่สวมสูทสีน้ำเงินเข้มที่ถูกสั่งทำพิเศษเดินออกจากประตู ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มคุยกันหลังจากการพบปะในครั้งนั้นเสร็จสิ้นฌอนยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลา "ไปกันเถอะ เราควรรีบหาอะไรกินก่อน”
ทำไมฌอนถึงไม่ได้สังเกตเห็นบางสิ่งที่แม้แต่อโลร่ายังสังเกตเห็นได้กัน?นี่ไม่ใช่อะไรมากไปกว่าการหลอกตัวเอง เมื่อการหลอกลวงถูกทำลายเท่านั้นเขาจึงจะสามารถหลุดออกจากภวังค์ของเขาได้“ถ้าคุณพลาด คุณก็พลาดแล้วฌอน” เอลิออร์แทบจะไม่ได้พูดคุยอย่างจริงจังกับฌอนเกี่ยวกับเจน “ได้เวลาปล่อยแล้ว”ในเวลาต่อมาลมหายใจเปลี่ยนเป็นหนักขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์เสียและดิ้นรน“คุณรู้อะไรไหม เอลิออร์?”เอลิออร์มองดูขณะที่ชายตรงหน้ายกแก้วกาแฟขึ้นด้วยแขนที่สั่นเทาแล้วจิบ ไม่แน่ใจว่าเขาจะลิ้มรสรสชาติของกาแฟได้ไหม เห็นเขาเป็นแบบนั้นก็ทำให้เอลิออร์อารมณ์เสียอย่างมาก ในขณะที่เขารอคำพูดปลอบใจมา ชายตรงหน้าก็วางแก้วกาแฟลง“เธอกินยาคุมทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน เธออ้างว่าเป็นวิตามินเม็ด” ฌอนหัวเราะอย่างน่าสังเวช “ เธอไม่รู้เลยว่ายาที่อยู่ในขวดนั้นถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินจริง ๆในเวลาต่อมา”“ฉันเปลี่ยนยาคุมกำเนิดในขวดและบอกให้ใครบางคนปลอมมันขึ้นมาใหม่ ในเวลาไม่นาน ฉันก็ทำแผง "เม็ดวิตามิน" ที่มีรูปร่างและรสชาติที่เกือบจะเหมือนกัน“ฉันรู้มานานแล้วว่าในขวดไม่มียาคุมกำเนิดที่เธอต้องการอีกต่อไป ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังรู้สึกเจ็