“จันทร์ทำอะไรอยู่” เสียงของน้าพิกุลถามในเวลาเช้าหลังจากที่เธอไปทำกับข้าวให้คนงานและกลับมาไม่เห็นลูกเลี้ยง
“จันทร์ฉันกำลังจัดห้องอยู่ค่ะ น้าพิกุลน้ามีอะไรจะให้จันทร์ทำหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตะโกนออกมาจากห้องนอน
“น้าเอากับข้าวมาให้น่ะ” ปกติแล้วเวลาอยู่คนเดียวพิกุลก็จะทานข้าวที่สวนยางกับคนงาน แต่วันนี้มีชมจันทร์มาอยู่ด้วยเธอก็เลยขอแบ่งกับข้าวมาทานที่บ้านเพราะยังไงกับข้าวก็เหลือทุกวันอยู่แล้ว
“น้าพิกุลกินมาหรือยังคะ” ชมจันทร์เปิดเปิดประตูออกมาถาม
“ยังเลย น้าว่าจะมากินด้วยกันนี่แหละ จันทร์หุงข้าวแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ จันทร์หุงข้าวแล้วกำลังว่าจะทำไข่เจียวอยู่เลย เห็นมีแกงไตปลาเหลืออยู่”
“ไม่ต้องเจียวไข่หรอก อุ่นแค่แกงไตปลาก็พอน้าเอาคั่วกลิ้งกับแกงเทโพมาจากสวนยางแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ น้าพิกุลรอแป๊บหนึ่งนะคะจันทร์ขอจัดตรงนี้อีกนิด”
“เร็วหน่อยนะเดี๋ยวมีอย่างอื่นต้องไปทำต่อ”
เมื่อน้าพิกุลบอกว่ามีธุระชมจันทร์ก็รีบออกมาจากห้องและจัดการอุ่นแกงไตปลา ระหว่างนั้นก็แกะถุงคั่วกลิ้งกับแกงเทโพ และตักข้าวใส่จานไว้รอ พอแกงร้อนก็ตักใส่ชาม ไม่นานทั้งสองก็ทานอาหารเสร็จ
“สายๆ น้าว่าจะพาจันทร์เข้าไปในเมืองสักหน่อย”
“หมายถึงตัวอำเภอใช่ไหมคะ” คำว่าในเมืองของคนที่นี่มีได้สองอย่างคือตัวอำเภอกับตัวจังหวัดซึ่งถ้าเป็นตัวจังหวัดก็ต้องใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง
“ตัวอำเภอจ้ะ เดี๋ยวเราไปขึ้นรถสองแถวแล้วไปด้วยกัน”
“น้าพิกุลจะไปซื้อของใช้เหรอคะ”
“เปล่าหรอกน้าจะไปซื้อของให้เรานั่นแหละ”
“ของอะไรคะ”
“ของที่ต้องเตรียมไว้เวลาไปอยู่บ้านนายหัว”
“ไม่เห็นต้องเตรียมอะไรเลยจันทร์เอาของที่กลับมาจากหอก็ได้ค่ะ”
“ต้องเตรียมสิอย่าลืมนะว่าเราไปครั้งนี้เราไม่ใช่ไปทำงานเอกสารอย่างเดียว” พิกุลย้ำให้เด็กสาวเข้าใจถึงภารกิจที่ตัวเองจะต้องทำอีกครั้ง
ชมจันทร์ไม่ชอบการกระทำแบบนี้เลยแต่หญิงสาวก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเธอกลัวอิทธิพลของนายหัวชาวีอีกครั้งก็ยังอยากรู้เรื่องมารดาของตนมากจนต้องยอมทำตามที่น้าพิกุลบอกทุกอย่าง
ทั้งสองคนนั่งรถสองแถวประมาณ 45 นาทีก็มาถึงตัวอำเภอซึ่งมีห้างสรรพสินค้าสาขาเล็กๆ มาเปิดอยู่
“น้าพิกุลจะซื้ออะไรบ้างคะ”
“ของใช้เดี๋ยวเราค่อยซื้อก่อนกลับก็ได้จะได้ไม่ต้องถือให้หนักน้าว่าเราไปซื้อเสื้อผ้ากันก่อนดีไหม”
ชมจันทร์ขี้เกียจจะถามว่าทำไมจะต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่เธอก็เลยเดินตามน้าพิกุลไปยังร้านขายชุดชั้นในและชุดนอน
“โอ้โห แบบนี้มันเซ็กซี่เกินไปหรือเปล่าใครจะกล้าใส่กันคะ”
“กล้าไม่กล้าเราก็ต้องใส่นะจันทร์”
“แบบนี้วัยรุ่นเขาฮิตใส่กันค่ะ”
“แต่มันโป๊ะมากเลย”
“ชุดชั้นในมันอยู่ข้างในไม่มีใครเห็นหรอกค่ะ” น้องพนักงานรีบอธิบายเมื่อเห็นสีหน้าชมจันทร์ว่าไม่ค่อยชอบชุดเท่าไหร่
“มันก็จริงนะคะ ชุดมันอยู่ข้างในแล้วทำไมเราจะต้องใส่แบบเซ็กซี่ด้วยเหรอคะชมจันทร์หันมาถามน้าพิกุล”
“จันทร์คิดว่าถ้าแต่งตัวกะโปโล ใส่ชุดชั้นในเก่าๆ แล้วนายหัวเขาจะชอบหรือไง อย่าลืมนะเรามีเวลาแค่สามเดือนเอง จากนั้นจันทร์ก็ต้องกลับไปเรียนแล้ว จะเอาตังค์ที่ไหนเรียนล่ะถ้าไม่ได้นายหัว” พิกุลกระซิบให้พอได้กันแค่สองคน
“แต่มันเซ็กซี่เกินไปนี่คะ”
“ใส่ไปเถอะอีกสักพักก็ชิน”
“แล้วน้าพิกุลเอาเงินที่ไหนมาซื้อคะ”
“น้าเบิกเงินเดือนล่วงหน้ามาจากนายหัวนะ” พิกุลโกหกลูกเลี้ยงทั้งที่จริงแล้วเธอได้เงินมาจากไหนหัวก้อนแรกหนึ่งแสนบาทและนายหัวจะให้เธออีกก้อนในวันที่เธอไปจากที่นี่
พิกุลเลือกชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินแบบกระโปรงเหนือเข่าให้กับชมจันทร์สามชุดและชุดนอนกางเกงขาสั้นกับเสื้อสายเดี่ยวอีกสองชุดไว้ใส่สลับกัน
ส่วนชุดชั้นในที่เธอเลือกให้ก็เป็นจีสตริงลายลูกไม้มีทั้งสีขาวสีแดงสีดำรวมๆ แล้วก็ 10 กว่าชุด บราเซียร์ก็มีทั้งแบบเกาะอกแบบถอดสายได้ทุกอย่างรวมๆ แล้วไม่ต่ำกว่าอย่างละ 10 ชิ้น
“แค่นี้ใช่ไหมคะที่เราต้องซื้อ” ชมจันทร์มองถุงในมือด้วยความเสียดายเงินเพราะจ่ายไปไม่น้อยเลย
“จันทร์ต้องเลือกเสื้อผ้าที่ใส่อยู่บ้านด้วย”
“ใส่แบบเดิมไม่ได้เหรอคะจันทร์ฉันเสียดายตังค์”
“ต้องเสียดายตังค์หรอกนะเราจะทำงานใหญ่มันก็ต้องลงทุนกันหน่อย” น้าพิกุลพาชมจันทร์ไปเลือกเสื้อผ้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสื้อแขนกุดกางเกงขาสั้นหรือไม่ก็เดรสแขนกุดเหนือเข่าเผื่อเวลานายหัวจะพาออกไปข้างนอก
ชมจันทร์ขอเลือกเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาวอีกสองสามตัวโดยให้เหตุผลว่าเผื่อจะตามนายหัวออกไปทำงานข้างนอกบ้านซึ่งน้าพิกุลก็ตามใจและยังแถมชุดสำหรับใส่เที่ยวกลางคืนให้อีกสองชุดเพราะรู้ว่านายหัวชอบเข้าไปเที่ยวกลางคืนในเมือง
“เราต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ”
“ต้องทำให้ถึงสิเพราะนายหัวเจอผู้หญิงมามากน้ากลัวว่าเราจะเอาเขาไม่อยู่”
หลังจากได้เสื้อผ้าแล้วน้าพิกุลก็ชวนเธอไปซื้อรองเท้าแต่ชมจันทร์ปฏิเสธเพราะเธอมีรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ที่เพิ่งซื้อมากับรองเท้าสวมแบบสานที่ไม่ได้เก่ามาก
“งั้นก็ตามใจนะเดี๋ยวเราไปซื้อพวกครีมบำรุงผิวกันต่อ”
“ครีมบำรุงผิวจันทร์มีแล้วค่ะ พี่ชายของเพื่อนเพิ่งเอามาฝากยี่ห้อดีเหมือนกัน”
“ถ้างั้นก็ไปซื้อลิปสติกกับน้ำหอม”
“พวกเครื่องสำอางกับครีมทาผิวพวกนี้นะพิกุลไม่ต้องซื้อให้จันทร์หรอกค่ะ จันทร์มีของที่ใช้ประจำอยู่แล้ว”
“แล้วน้ำหอมล่ะจันทร์ใช้น้ำหอมหรือเปล่า” เพราะอยากให้ชมจันทร์ประทับใจนายหัวเธอเลยเตรียมทุกอย่างให้เต็มที่
“จันทร์ใช้น้ำหอมตามตลาดนัดค่ะ”
“แบบนั้นกลิ่นมันจะติดทนได้ยังไง น้าจะพาไป ซื้อเอาที่มันดีๆหน่อยแต่”
“มันแพงนะคะน้าขวดหนึ่งตั้งเป็นพันเลย”
“ไม่แพงหรอกมันมีหลายขนาด น้าได้ยินพวกสาวๆ ในสวนยางคุยกันว่าร้านไหนขายของถูกตามน้ามาทางนี้”
ชมจันทร์อยากจะปฏิเสธแต่เห็นท่าทางตั้งใจของน้าพิกุลแล้วก็เลยเดินตามไปที่ร้านขายน้ำหอมพนักงานเอาน้ำหอมแต่ละกลิ่นมาให้หญิงสาวเลือก ชมจันทร์เลือกกลิ่นที่ไม่ฉุนเท่าไหร่แต่น้าพิกุลบอกว่ากินนั้นมันดูเด็กไปจึงเสนออีกกลิ่นหนึ่งที่คนขายแนะนำว่าเป็นกลิ่นที่กระตุ้นอารมณ์ของผู้ชายได้เป็นอย่างดี
“มันจะน่าเกลียดเกินไปหรือเปล่าคะ” ชมจันทร์ไม่อยากใช้น้ำหอมกลิ่นที่พนักงานเสนอเลย
“ไม่น่าเกลียดหรอกน่าเราใช้นิดเดียวก็พอ”
“จริงค่ะ กลิ่นนี้ดีมากเขาเรียกน้ำหอมจอมยั่วค่ะ”
“จำไว้นะจันทร์เราต้องแต่งตัวให้ดูดีเสมอเสื้อผ้าหน้าผมต้องพร้อมตื่นเช้ามาก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวให้สะอาดสะอ้านอย่าปล่อยให้ตัวเองมีกลิ่นอับเด็ดขาด”
“แหมน้าก็พูดเกินไป ปกติจันทร์ก็อาบน้ำเช้าเย็นอยู่แล้ว”
“น้ารู้ว่าเราอาบน้ำเช้าเย็นแต่ก็ควรจะรักษาจุดซ่อนเร้นด้วยให้มันสะอาดที่สุด”
“เดี๋ยวน้าจะพาไปซื้อสเปรย์ฉีดจุดซ่อนเร้นด้วยนะ ฉีดแล้วจะช่วยดับกลิ่นอับได้แถมยังมีรสชาติด้วย”
“ไม่เอาหรอกค่ะแบบนั้นมันอันตราย”
“อันตรายที่ไหนล่ะน้าได้ยินมาว่ายี่ห้อนี้หมอเขาเป็นคนแนะนำด้วยนะ” พิกุลรู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยคุยกับเจ๊อ้วนเจ้าของผับที่มีสาวๆ มาคอยบริการหนุ่มๆ เขาเล่าให้ฟังว่าสเปรย์พวกเวลาฉีดจุดซ่อนเร้นแล้วจะทำให้กลิ่นหอมอีกทั้งยังมีรสชาติที่หวานทำให้ผู้ชายได้กลิ่นก็จะหลงใหลอีกด้วย
“ก็ได้ค่ะ” ชมจันทร์ไม่ปฏิเสธแต่เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้อย่างเด็ดขาดเพราะมันจงใจจนเกินไปอีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่ามันอาจจะอันตรายหรือเปล่าแค่ใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นมันก็น่าจะพอแล้ว หญิงสาวได้แต่คิดในใจเพราะรู้ว่าปฏิเสธไปน้าพิกุลก็ไม่ยอมอยู่ดี
เมื่อเสียบคีย์การ์ดเข้าที่ประตูห้องทุกอย่างก็ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติชาวีกับชมจันทร์ปรี่เข้าหากันราวกับไม่ได้เจอกันมานานทั้งสองจูบแลกลิ้นอย่างเราร้อนสองลิ้นพัวพัน ขณะที่มือก็ช่วยกันถอดชุดของอีกฝ่ายออกจนร่างกายเปลือยเปล่านายหัวหนุ่มกอดเธอกระชับสองมือบีบคลึงสะโพกขณะที่ชมจันทร์ก็ใช้มือเล็กของเธอลากไปตามลำตัวก่อนจะชักรูปท่อนเอ็นร้อนของเขาเป็นจังหวะ“จันทร์เธอร้อนแรงเป็นบ้า”“แล้วชอบแบบนี้ไหม”“ชอบสิ ฉันชอบผู้หญิงร้อนแรงแบบเธอนะจันทร์”นายหัวครางอย่างพอใจ เขาแทบคลั่งเมื่อชมจันทร์คุกเข่าลงตรงหน้าและใช้ลิ้นเล็กๆ ของเธอเลียไปบนท่อนเอ็นขณะที่มือก็รูดอย่างชำนาญ“เธอไปฝึกแบบนี้มาจากไหนจันทร์”เขาครางสะท้านลมหายใจขาดห้วง เมื่อชมจันทร์ยังคงชักรูดท่อนเอ็นเป็นจังหวัด ขณะที่ปากเล็กของเธอก็กำลังหยอกล้อกับลูกตุ้มที่มันกำลังหดเกร็งเพราะความเสียวซ่าน เธออมก้อนกลมสองก้อนเข้าปากเล็ก ก่อนจะปล่อยออกมาแล้วใช้ลิ้นเลียตั้งแต่ส่วนโคนมายังส่วนปลายที่บานฉ่ำ“อ้าห์...ใจเย็นนะ ฉันยังไม่อยากแตก”เขารีบห้ามเพราะกลัวว่าชมจันทร์จะทำให้เขาปลดปล่อยออกมา ชาวีอยากปลดปล่อยในตัวของเธอหลายๆ ครั้งมากกว่าปลดปล่อยใส่ลำคอของเธอซึ่งค
เช้าวันเสาร์นายหัวชาวีพาชมจันทร์มายังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้และเสื้อผ้าเพิ่มอีกคนละหลายชุด นอกจากของจำเป็นแล้วนายหัวยังพาหญิงสาวมายังร้านขายเครื่องประดับ ก่อนจะให้ชมจันทร์เลือกของที่ตัวเองชอบหนึ่งชิ้น“จันทร์ไม่เอาหรอกค่ะนายหัว แต่ละอย่างแพงทั้งนั้นเลย”“แต่ฉันอยากซื้อให้นะ”“นายหัวอย่าซื้อของแพงพวกนี้ให้จันทร์เลยค่ะ จันทร์ยังเรียนอยู่นะคะใส่ของแบบนี้ไม่ได้”“ก็ใส่เล่นไง ลองแหวนนี่สิฉันว่ามันเหมาะกับวัยรุ่นดีนะ”เมื่อพนักงานเห็นนายชายหนุ่มสนใจแหวนก็รีบหยิบขึ้นมาให้ชมจันทร์ลองสวมแต่ขนาดของมันใหญ่เกินไป พนักงานจึงจะเอาวงใหม่ที่ขนาดเล็กลงเธอลอง“ไม่เป็นไรหรอกคะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะเธอไม่มีทางซื้ออยู่แล้ว“จันทร์ ฉันให้เธอเลือกมาหนึ่งอย่างถ้าไม่เลือกฉันจะจูบเธอโชว์พนักงานเลย”“นายหัว....” หญิงสามหันมามองหน้าแล้วสะบัดหน้าหนีเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขาที่แสนจะเจ้าเล่ห์“มีอะไรที่ถูกกว่านี่ไหมคะ” ชมจันทร์ถามพนักงานไปแบบตรงๆ“มีค่ะ เชิญด้านนี้เลยค่ะ” พนักงานผายมือไปยังตู้โชว์อีกด้านที่มีเครื่องประดับสำหรับใส่เล่นราคาไม่สูงมาก“เลือกตามที่ตัวเองชอบนะจันทร์ อย่าสนใจราคา” นายหัวสั่งเมื่อชมจัน
นายหัวชาวีพาชมจันทร์มากรุงเทพด้วยเครื่องบินเที่ยวหัวค่ำ เมื่อมาถึงก็พาเธอเข้าพักยังห้องพักในโรงแรมที่เขาพักอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว“เดี๋ยวเราเอาของเก็บแล้วไปหาอะไรกินกันนะจันทร์” ชาวีพูดจากับหญิงสาวอย่างอ่อนโยนเพราะอยากจะทดแทนกับสิ่งที่ทำไม่ดีกับเธอ แต่เขาก็รู้ว่ามันทดแทนยากแต่ตัวเองก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดเพราะกลัวว่าชมจันทร์จะไปจากเขา“ได้ค่ะ” ชมจันทร์ตอบสั้นๆ เธอยังไม่อยากคุยกับชาวีมากไปกว่าการสนทนาถามตอบตามปกติเพราะเธอรู้สึกกลัวเขาและอีกใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะได้ใจและทำกับเธอแบบนั้นอีกเขาพาหญิงสาวมารับประทานหรูที่อยู่ในโรงแรม ชาวีเอาอกเอาใจ เมื่อเห็นเธอยิ้มและทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยนายหัวหนุ่มก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น“คืนนี้อยากไปเที่ยวกลางคืนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ อายุไม่ถึง”“ไม่เห็นต้องกลัวเธอมากับฉันนะ”“นายหัวคงไม่มีหุ้นอยู่ที่ผับในกรุงเทพหรอกนะคะ”“มันไม่ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่ฉันก็มีเพื่อนที่ทำร้านแบบนั้นอยู่ เธออยากเข้าไปเที่ยวไหมล่ะ จะได้เห็นว่าเด็กกรุงเทพเขาเที่ยวกันยังไงบ้าง”“ไม่ล่ะค่ะ”“ทำไม”“ถึงจะเห็นว่าเขาเที่ยวยังไงจันทร์ก็ไม่ได้มีโอกาสขึ้นมาอยู่กรุงเทพหรอกค่ะนายหัว”“ไม่คิดอย
“จันทร์ไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว” ชมจันทร์เถียงคอเป็นเอ็นแม้ความจริงมันก็ไม่ต่างอะไรเลยกับคำว่าขายตัว“ไม่ขายก็ไม่ขาย แต่เธอจะทำแบบนี้กับใครไม่ได้อีกแล้ว เธอต้องมีแค่ฉันคนเดียว”“จันทร์ไม่เคยคิดจะทำแบบนี้กับใคร”“แล้วที่เธอเข้าไปในผับนั่นล่ะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ”“หมายถึงผับไหน”“นี่ไงล่ะ” เขาเอาภาพที่หญิงสาวเดินออกจากผับแห่งหนึ่งให้กับชมจันทร์ดู“รูปนี้ใช่มั้ยที่ทำให้นายหัวโมโหเป็นฟืนเป็นไฟและคิดว่าจันทร์ไปขายตัว”“แล้วเธอจะให้ฉันคิดว่ายังไงล่ะ”“ทำไมไม่ถามจันทร์ก่อน”“มันก็เห็นชัดเจนแล้วทำไมจะต้องถามอีก”“จันทร์ก็แค่ไปคุยกับรุ่นพี่ของเพื่อน”“คุยเรื่องอะไร ทำไมจะต้องเข้าไปคุยในนั้น”“จันทร์บอกไม่ได้”“นั่นไง เธอมีพิรุธ”“มันเป็นความลับของผู้หญิง” เพราะสัญญากับพี่ชมพูและเพื่อนไว้แล้วว่าเรื่องที่คุยกันจะไม่บอกใครอย่างเด็ดขาด และชมจันทร์ก็ไม่อยากผิดสัญญา“แต่ถ้าเธอไม่บอกฉันจะทำโทษเธอให้หนักกว่าเมื่อคืนอีกนะ”“แค่นี้มันยังหนักไม่พอเหรอคะ จันทร์ยังเจ็บไม่พอใช่ไหม” ชมจันทร์มองเขาน้ำตาคลอ“ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันทำแบบนั้นเธอก็บอกความจริงมา ฉันลืมบอกเธอไปอีกอย่างว่าอารมณ์ของฉันมันจะคุมไม่อยู่ถ้าหากโ
นายหัวไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่ชมจันทร์พูดเท่าไหร่เพราะน้าพิกุลไม่เคยพูดถึงเรื่องมารดาของชมจันทร์ให้เขาฟังเลย“เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าที่เธอเข้ามาตีสนิทกับฉันเพราะอะไร”“นายหัวรู้เหรอคะ”“รู้สิ”“ถ้ายังงั้นนายหัวก็ควรปล่อยจันทร์ไปได้แล้ว เพราะจันทร์ไม่ได้ต้องการอะไรจากนายหัวอีกแล้ว มันก็แค่ของนอกกาย”“ฉันว่าเธอรู้มาจากนะพิกุลไม่หมดนะจันทร์”“หมายความว่ายังไงคะ”“น้าพิกุลของเธอน่ะ ขายเธอให้ฉันแล้วนะ”“อะไรนะคะ ขายเหรอคะ”“ใช่น้าเธอขายเธอให้ฉัน”“ไม่จริงน้าพิกุลบอกว่าให้จันทร์เข้ามายั่วยวนนายหัวเพื่อให้นายหัวคืนบ้านกับที่ดินคืนเท่านั้น และไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย”“เธอจะดูหลักฐานไหมล่ะ ฉันเพิ่งโอนเงินให้น้าเธอไป สามแสน”“สามแสนเหรอคะ นายหัวต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย”“ก็ใช้น่ะสิฉันมันบ้า บ้าที่ไปหลงเด็กดื้ออย่างเธอไงล่ะ” เขาพูดแล้วก็เอาสลิปที่บันทึกอยู่ในโทรศัพท์ให้ชมจันทร์ดู“จันทร์ไม่เชื่อหรอกค่ะว่าน้าพิกุลจะทำอย่างนั้น” หญิงสาวมองสลิปโอนเงินที่นายหัวโอนให้กับแม่เลี้ยง เธอไม่อยากจะเชื่อแต่เมื่อเห็นหลักฐานความมั่นใจก็ลดน้อยลง“เธอก็เห็นสลิปแล้วนี่”“มันต้องมีการเข้าใจผิดแน่ๆ น้าพิกุลไม่มีทาง
นายหัวชาวียังคงคาท่อนเอ็นร้อนในช่องคับแน่น ปากร้อนขบเม้มแผ่นหลังขาวของเธอจนขึ้นรอย ฟันขาวครูดไปตามแนวสันหลัง“อื้อ....”ชมจันทร์ทรุดลำตัวลงแนบกับพื้นสะโพกยังคงแอ่นขึ้น เธอหันหน้ามามองอย่างร้องขอ ความเป็นสาวของเธอมันกำลังทรยศ มันเรียกร้องเขาอย่างน่าอาย“นายหัวขา...”“ยังไม่พอใช่ไหม เธอยังอยากให้ฉันเอาเธอต่อใช่ไหม เขาถามอย่างรู้ทัน”เธอกัดริมฝีปากของตนเองแน่น เขาก้มหน้าลงมือใหญ่บีบปลายคางเธอก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปดูดดึงลิ้นเล็ก ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดร่างหนาของนายหัวชาวีเริ่มขยับอีกครั้ง“ฉันจะทำต่อถ้าเธอสัญญากับฉันว่าจะมีฉันเป็นผัวแค่คนเดียว”“จันทร์จะมีนายหัวแค่คนเดียว”“มีฉันเป็นผัวแค่คนเดียวจันทร์”“เขาพูดย้ำอีกครั้ง”“ค่ะนายหัว จันทร์จะมีนายหัวเป็นผัวแค่คนเดียว”หญิงสาวรีบตอบไปตามที่เขาอยากได้ยินเพราะกลัวว่าเขาจะทำรุนแรงและมัดเธอติดกับเตียงอีกครั้ง“ดีมาก จันทร์ของฉัน เอาล่ะตอนนี้ฉันอยากนอนพัก”ชมจันทร์ได้ยินก็ทั้งดีใจและขัดใจ ร่างกายของเธอกำลังร้อนขึ้นเพราะท่อนเอ็นของเขาที่มันยังคาอยู่ในรูสวาทของเธอ“ได้ค่ะ จันทร์จะไม่กวนนายหัวเลย”“ฉันหมายถึงฉันอยากนอนพักแต่ไม่ได้อยากหยุดเอากับเธอ”