หญิงสาวรีบปล่อยมือจากประตูเมื่อสู้แรงเขาไม่ได้ เพราะกลัวมันจะหนีบใส่.. แล้วร้องกรี๊ดออกมาดังลั่นเมื่อได้ทบทวนคำพูดของเขา
“ทำไมมีนจะไม่ใช่เมียคุณ เราเคยรักกันมาตั้งห้าปี คุณยังเคยคุกเข่าอ้อนวอนไม่ให้มีนทิ้งคุณ คุณบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมีน มีนก็กลับมาหาคุณแล้วไงล่ะ ทำไมคุณไม่ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ คุณมันผู้ชายสับปลับ” เธอตอกย้ำคำพูดที่เขาเคยพูดเอาไว้เมื่อเจ็ดปีก่อน ตบท้ายด้วยการต่อว่าเขารุนแรง
“คุณมีนจะตะโกนให้มันได้อะไรขึ้นมาคะ ในเมื่อเรื่องมันจบไปแล้วตั้งหลายปี”
มีนาหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเดรสสั้นแขนกุดสีดำ ช่วยขับเน้นผิวขาวอมชมพูให้ดูเด่น ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มไว้บางเบา ผมยาวหยักศกสีน้ำตาลถูกรวบเป็นมวยง่าย ๆ สะพายกระเป๋าสีชมพูแบรนด์หรู แค่เธอแต่งตัวง่าย ๆ แค่นี้ แต่เธอก็ดูแพงจนต้องอิจฉา
“มันเป็นเรื่องของฉันกับโมก คุณไม่เกี่ยว”
“ชาร์มก็แค
“ยังแบมือขอเงินพ่อใช้อยู่เลย คิดจะมารับผิดชอบพี่ได้ยังไง”“ใครบอกพี่โมกว่าชาร์มไม่ได้ทำงาน ชาร์มเขียนเพลงแล้วก็ช่วยงานคุณพ่อด้วยนะ” เธอเชิดหน้าเถียงเขาที่บังอาจมาดูถูก “คุณพ่อถึงอนุมัติให้ชาร์มใช้เงินได้เต็มที่ไงคะ”“งั้นเหรอ แล้วได้ค่าจ้างเดือนละเท่าไหร่ล่ะ” ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าสาวน้อยคนนี้ทำอะไรบ้าง เพราะน้องสาวเคยเล่าให้ฟังแล้ว แต่เขาก็แค่อยากแกล้งเธอเล่นเท่านั้น“ก็เท่าที่อยากจะใช้นั่นแหละค่ะ” เธอมองค้อนพร้อมกับย่นจมูกใส่เขาเล็กน้อยเขาหัวเราะเบา ๆ เพราะตลกกับคำตอบของเธอ “หึ ๆ ๆ จ่ายให้พี่ไปก่อนก็แล้วกัน แล้วพี่จะใช้เงินสดให้ดีไหม เราจะได้มีเงินสดติดตัวเพิ่มขึ้นอีกหน่อย”“ชาร์มบอกแล้วไงคะว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมดเอง” เธอหน้างอยิ่งกว่าเดิมเมื่อถูกขัดใจวิโมกข์เอื้อมมือไปลูบแก้มใส ๆ นั้นอย่างลืมตัว เพราะรู้สึกเอ็นดูกับท่าทางน่ารักน่าชังที่เธอแสดงออกมา“ถ้าไม่ตกลงตามนี้พี่ก็ไม่เอา เดี๋ยวพี่เดินไปเอากระเป๋าที่รถก็ได้”“ก็ได้ค
หญิงสาวรีบปล่อยมือจากประตูเมื่อสู้แรงเขาไม่ได้ เพราะกลัวมันจะหนีบใส่.. แล้วร้องกรี๊ดออกมาดังลั่นเมื่อได้ทบทวนคำพูดของเขา“ทำไมมีนจะไม่ใช่เมียคุณ เราเคยรักกันมาตั้งห้าปี คุณยังเคยคุกเข่าอ้อนวอนไม่ให้มีนทิ้งคุณ คุณบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมีน มีนก็กลับมาหาคุณแล้วไงล่ะ ทำไมคุณไม่ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ คุณมันผู้ชายสับปลับ” เธอตอกย้ำคำพูดที่เขาเคยพูดเอาไว้เมื่อเจ็ดปีก่อน ตบท้ายด้วยการต่อว่าเขารุนแรง“คุณมีนจะตะโกนให้มันได้อะไรขึ้นมาคะ ในเมื่อเรื่องมันจบไปแล้วตั้งหลายปี” มีนาหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเดรสสั้นแขนกุดสีดำ ช่วยขับเน้นผิวขาวอมชมพูให้ดูเด่น ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มไว้บางเบา ผมยาวหยักศกสีน้ำตาลถูกรวบเป็นมวยง่าย ๆ สะพายกระเป๋าสีชมพูแบรนด์หรู แค่เธอแต่งตัวง่าย ๆ แค่นี้ แต่เธอก็ดูแพงจนต้องอิจฉา “มันเป็นเรื่องของฉันกับโมก คุณไม่เกี่ยว” “ชาร์มก็แค
ชายหนุ่มแนบกายทาบกับเรือนร่างเนียนนุ่มไร้ฝ้ากระ สอดฝ่ามือโอบประคองเต้างามเต่งตึงแล้วคลึงเคล้นเบามือ พรมจูบบ่าบอบบางกรุ่นกลิ่นหอมอย่างหลงใหล แล้วตัดใจผละออกเมื่อความรู้สึกอยากเริ่มวิ่งพล่านไปทั่วร่างอีกครั้ง“พี่จะไปหาหมอแต่คงขับรถเองไม่ได้ ชาร์มขับรถเป็นหรือเปล่า” เขาแกล้งถามทั้งที่ไม่สนว่าคำตอบของเธอจะออกมายังไง เพราะถึงอย่างไรก็จะเอาเธอไปด้วยให้ได้“เป็นค่ะ แต่พี่โมกต้องบอกทางชาร์มนะคะ” เธอรีบตอบรับ ไม่กล้าหันหน้าไปประจันกับเขา เพราะกลัวจะหวั่นไหว เรียกร้องขอความสุขจากเขาอีก“หันหน้ามาคุยกับพี่สิ ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ” เขาตำหนิที่เธอจงใจหลบหน้าหญิงสาวหมุนตัวไปเผชิญหน้าอย่างที่เขาต้องการ เอนกายพิงผนังแล้วเลียริมฝีปากเล่นแก้เก้อ ขณะที่มองหน้าเขาไม่ค่อยเต็มตานัก“โธ่เว้ย!” วิโมกข์สติแตกกับท่าทางใสซื่อแต่ดูยั่วยวนอย่างร้ายกาจของเธอจนได้ เขาไม่น่าเรียกร้องให้เธอหันมาเลย ให้ตายสิ! เขาโน้มหน้าไปจนชิดริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ “อย่าไปทำแบบนี้ให้ใครเขาเห็นอีกนะ” แล้วจูบทำโทษความยั่วยวนนั้นอย่างหนักห
แล้วเขาจะมาเคืองเธอทำไมเนี่ย มันไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่มันเป็นสิทธิ์ของเธอ เขาจะโมโหทำไมแล้วตอนนี้ล่ะ เขาควรจะปล่อยเธอไป หรือมอมเมาด้วยรสรักจนลืมไม่ลง เขาพินิจใบหน้างดงามหมดจดจนทั่ว.. จะปล่อยเธอไปได้ยังไง ในเมื่อความต้องการของเขาก็เรียกร้องรุนแรงขึ้นทุกทีอยู่อย่างนี้ ดังนั้นคนที่ต้องสอนบทรักบทแรกให้เธอก็ต้องเป็นเขานี่แหละเขาก้มหน้าลงไปหาซอกคอระหง ขบเม้มเบา ๆ สร้างความกระสันให้เธอ ไล้ต่ำลงไปที่เนินอกสล้าง พรมจูบไปทั่วเต้างามเต่งตึงทั้งสองลูก และต่ำลงไปเรื่อย ๆ ตามที่ใจปรารถนา“พี่โมกขา” หญิงสาวจิกเล็บลงไปบนบ่าแน่นตึง เมื่อถูกปลายลิ้นจู่โจมเข้าที่กึ่งกลางของเรือนร่าง มันซาบซ่านจนเธอต้องส่งเสียงร้องออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าเธอมองเรือนร่างที่สมบูรณ์ไปด้วยมัดกล้ามสวยงามไม่วางตา เมื่อเขาขยับตัวขึ้นนั่งคุกเข่า มองไปที่มือของเขากำลังจับเอาไว้ แล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างลืมตัว.. แต่ก็ยังอยากที่จะต้อนรับมัน ถึงแม้จะมีความกลัวแฝงอยู่ เธอขยับขากว้างขึ้นเมื่อเขานำมันมาทักทายกับปากเหว รู้สึกสุขสมกับความซ่านที่ได้รับจากมันชายหนุ่มสะท้านไปทั่วทั้งเรือนร่
วิโมกข์วางโทรศัพท์เมื่อคุยธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเห็นสัญญาณไฟเตือนว่ามีสายเข้ามาที่เบอร์บ้าน แต่ยังไม่มีคนรับจึงกดรับเสียเอง “บ้านโชคอนันต์ครับ” (พี่โมกเหรอคะ วิเองค่ะ) “จ้ะ โทรมาหาป้าหวังเหรอ” (โทรหาชาร์มมิ่งค่ะพี่โมก วิโทรเข้ามือถือแต่ปิดเครื่อง ไม่แน่ใจว่าชาร์มเขาลืมเปิดเครื่องหรือยังไม่ตื่นก็เลยโทรเข้าเบอร์บ้าน พี่โมกตามชาร์มมิ่งมารับโทรศัพท์วิหน่อยสิคะ) “โอเคจ้ะ วิวางสายไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่บอกให้ชาร์มมิ่งเขาโทรกลับไปหาก็แล้วกัน” (ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่โมก) ชายหนุ่มวางโทรศัพท์จากน้องสาวแล้วเดินออกมาจากห้องทำงาน เรียกหา
“เหมือนใครเหรอคะคุณมีน” วิเวียนถามขึ้นด้วยความสนใจใคร่รู้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวสักนิด“เหมือนรูปปั้นตรงบันไดเคลื่อนตัวเข้ามาหามีนค่ะ มีนรีบปิดประตูวิ่งขึ้นเตียงเลยค่ะ แล้วมีนยังได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังเข้ามาในห้อง สลับกับเสียงร้องของตุ๊กแกตลอดทั้งคืนเลยค่ะคุณวิ”“ถ้ามีตุ๊กแกจริงพวกเราก็ต้องเคยได้ยินสิ” วิโมกข์แย้ง ถึงแม้อยู่ในห้องนอนแล้วเขาอาจจะไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกถ้าไม่ได้เปิดหน้าต่างทิ้งไว้ แต่การที่มีสัตว์เลื้อยคลานประเภทนี้อยู่ในบ้านก็ต้องเคยได้ยินเสียงร้องของมันบ้างแหละ “คุณจะบอกว่าตุ๊กแกมันร้องเพราะเห็นผีงั้นเหรอ”“แต่มันร้องจริง ๆ นะโมก แล้วเสียงมันไม่ได้ดังมาจากที่เดียวกันด้วย เหมือนมันจะมีกันหลายตัวเลยนะ” “บ้านนี้ไม่มีผีหรอก ลื้อฟุ้งซ่านไปเองหรือเปล่า ตุ๊กแกก็ไม่เคยมี” เจ๊หวังที่ทนฟังความเพ้อเจ้อของมีนามานานขัดขึ้น “ฉันไม่ได้ฟุ้งซ่านนะ ฉันเห็นกั