Accueil / โรแมนติก / บ้านไร่ในฝัน / ตอนที่ 6 รสชาติของความเงียบ

Share

ตอนที่ 6 รสชาติของความเงียบ

last update Dernière mise à jour: 2025-08-08 21:04:10

คืนนั้นเป็นคืนที่ยาวนานสำหรับ ขุน เขานอนอยู่บนเตียงเก่าในห้องเดิม แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าในบ้านตัวเอง ทุกสิ่งรอบกายยังคงเหมือนเมื่อเจ็ดปีก่อนที่เขาจากมา ยกเว้นเพียงเสียงหัวเราะของแม่ที่หายไป และความเงียบเหงาที่เข้ามาแทนที่

เขาพลิกตัวไปมา หลับตาลงแต่ภาพในหัวกลับมีแต่เรื่องราวที่ถาโถมเข้ามา ทั้งความโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่ คำพูดของพี่เข้มที่เคยตัดรอนความฝันของเขา ภาพของแม่ที่นอนแน่นิ่งในคืนนั้น และที่สำคัญที่สุดคือแววตาของ เดือน ที่มองมาที่เขาด้วยความดีใจระคนเจ็บปวด

“พี่ขุนหายไปไหนมาคะ…หนูคิดถึงพี่ขุนมาก” คำพูดของเดือนยังคงก้องอยู่ในหูของขุน มันเป็นคำถามที่เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรดีในตอนนี้ เขายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยบาดแผลทั้งหมดในใจให้ใครรับรู้

เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง ขุนตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง เขาเดินลงมาจากบ้าน กลิ่นหอมของกับข้าวลอยมาแตะจมูก

ข้าวหอม กำลังจัดสำรับอยู่บนโต๊ะไม้ใต้ถุนบ้าน เธอเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ขุน รอยยิ้มที่อบอุ่นและจริงใจทำให้ขุนรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

“พี่ขุน ตื่นแล้วเหรอคะ มาทานข้าวเถอะค่ะ” ข้าวหอมเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

ขุนพยักหน้า เขานั่งลงบนม้านั่งไม้ฝั่งตรงข้ามกับ พี่เข้ม ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว อาหารเช้าบนโต๊ะดูน่ากิน แต่ความเงียบระหว่างสองพี่น้องยังคงปกคลุมอยู่ พี่เข้มไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ตักข้าวใส่จานแล้วยื่นให้ขุน

ขุนรับจานข้าวมา วางช้อนลงไปแล้วแต่กลับยังไม่ตักกิน เขามองไปรอบ ๆ บ้าน ไร่ลำไยที่คุ้นเคย ทุกอย่างดูเหมือนเดิม แต่กลับมีบางสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างไม่อาจย้อนคืน

“แกคงเหนื่อยมามาก” พี่เข้มพูดขึ้นในที่สุด เสียงของเขาทุ้มต่ำและแฝงความรู้สึกบางอย่างที่ขุนไม่เคยได้ยินมาก่อน

ขุนเงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย พี่เข้มไม่ได้มองเขาตรง ๆ แต่สายตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้ง

“พักก่อนเถอะ…ไม่ต้องรีบ” พี่เข้มพูดต่อ “บ้านนี้ยังมีที่ให้แกเสมอ”

คำพูดนั้นทำให้หัวใจของขุนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด มันเป็นคำพูดที่เขาไม่เคยได้ยินจากพี่เข้มมาก่อน เป็นคำพูดที่ปลดล็อกความหนักอึ้งในใจเขาไปได้เล็กน้อย

ขุนพยักหน้า เขาตักข้าวเข้าปาก รสชาติของอาหารเช้าวันนี้ไม่เหมือนเดิม มันมีรสชาติของความเงียบ…ความเงียบที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและการให้อภัย

หลังจากทานอาหารเช้า ขุนก็เดินออกมาที่ลานหน้าบ้าน เขามองไปยัง บ้านของเดือน ที่อยู่ไม่ไกลนัก เขาเห็นเงาร่างของเดือนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน แผ่นหลังเล็ก ๆ นั้นดูคุ้นเคย แต่ก็งดงามเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้

ขุนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นพูดคุยกับเดือนอย่างไร หลังจากที่เขาหายไปนานขนาดนี้ แต่เขาก็รู้ว่าเขาต้องทำ ต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่ค้างคาในใจของเธอ และของตัวเขาเองด้วย

บ่ายวันนั้น ขณะที่ขุนกำลังช่วยพี่เข้มเดินตรวจงานในไร่ลำไย เสียงรถกระบะสีขาวคุ้นตาคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ขุนจำรถคันนั้นได้ดี หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความรู้สึกที่ปะปนกัน

ประตูรถเปิดออก พอล ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมเข้ม ก้าวลงมายืนยิ้มทักทายอย่างเป็นกันเอง ตามมาด้วย ลินดา หญิงสาวร่างเพรียว ใบหน้าสวยคมในชุดกระโปรงลายดอก เธอคือเจ้าของ ไร่ดอกไม้และคาเฟ่ชื่อดังที่อยู่ทางเหนือของไร่ลำไย ของพวกเขา ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญ และเป็นเพื่อนสนิทของพี่เข้ม

“พี่เข้ม! ไม่เจอกันนานเลยนะครับ” พอลเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่พี่เข้มเบา ๆ

ลินดาเองก็ยิ้มให้พี่เข้มอย่างอบอุ่น “มาเยี่ยมถึงที่เลยค่ะ เห็นว่าช่วงนี้ผลผลิตลำไยน่าจะดี”

พี่เข้มพยักหน้าพลางยิ้มรับ “มาพอดีเลย งั้นอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันนะ”

สายตาของพอลกับลินดาเหลือบมาเห็นขุนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พี่เข้ม ใบหน้าของทั้งคู่ฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มจะกว้างขึ้นกว่าเดิม

“ขุน! นายกลับมาแล้วเหรอ!” พอลร้องออกมาด้วยความดีใจ เขาก้าวเข้ามาตบไหล่ขุนอย่างแรง “หายไปไหนมาวะ ไม่เห็นหน้าตั้งนาน”

ลินดาก็ยิ้มให้ขุนอย่างอ่อนโยน “ดีใจด้วยนะคะที่กลับมา”

ขุนยิ้มตอบอย่างเก้อเขิน เขายังไม่ชินกับการถูกทักทายแบบนี้หลังจากที่หายไปนาน “ครับ…เพิ่งกลับมาเมื่อวาน”

ทั้งสี่คนพากันเดินเข้าไปในบ้าน เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังขึ้นมาเป็นระยะ บรรยากาศภายในบ้านที่เคยเงียบเหงาดูเหมือนจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง การมาของพอลและลินดาทำให้พี่เข้มดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด เขายิ้มและหัวเราะบ่อยขึ้นกว่าที่ขุนเคยเห็นมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน…

เดือน ที่กำลังช่วยคุณแม่ทำกับข้าวอยู่ในครัวที่บ้านของเธอเอง ได้ยินเสียงรถและเสียงคนคุยกันดังมาจากบ้านพี่เข้ม เธอแอบชะโงกหน้ามองออกไป เห็นเงาร่างคุ้นตาของพอลและลินดา เธอยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก พอลกับลินดาเป็นคนที่น่ารักและใจดีเสมอ

แต่เมื่อเธอเห็นขุนยืนอยู่กับพวกเขา หัวใจของเดือนก็เต้นระรัวอีกครั้ง เธอรู้สึกอยากจะเข้าไปหาเขา อยากจะคุยกับเขาให้มากกว่านี้ แต่ความเขินอายและความประหม่าก็ยังคงเกาะกุมเธอไว้

เมื่อเห็นว่าทุกคนพากันเข้าไปในบ้านแล้ว เดือนก็ค่อย ๆ ย่องออกมาจากบ้านของเธอเอง เธอเดินเลียบแนวรั้วไปอย่างเงียบ ๆ ตรงไปยังบ้านของพี่เข้ม เมื่อมาถึงหน้าต่างบานหนึ่งที่เปิดอยู่ เดือนแอบชะโงกหน้าเข้าไปมอง

เธอเห็นขุนนั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารกับพี่เข้ม พอล และลินดา พวกเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน ใบหน้าของขุนดูผ่อนคลายและมีรอยยิ้มมากกว่าที่เธอเห็นเมื่อวานนี้

เดือนยืนอยู่นิ่ง ๆ ตรงหน้าต่างบานนั้น ปล่อยให้สายลมยามเย็นพัดปลิวผ่านปลายผมของเธอ กลิ่นของลำไยสุกและกลิ่นดินชื้นจากไร่ลอยเข้ามาปะปนกับกลิ่นกับข้าวที่ลอยออกมาจากบ้านของพี่เข้ม

ในใจของเธอ...เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

ดีใจ...ที่เขากลับมา

กลัว...ว่าเขาจะจากไปอีก

หวัง...ว่าเขายังจำคำสัญญาในวัยเด็กนั้นได้

และคิดถึง...มากจนเธอไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำว่า "คิดถึง" ต่อหน้าเขา

เธออยากเข้าไป อยากร่วมโต๊ะ อยากนั่งฟังเสียงหัวเราะของทุกคน

แต่ราวกับบางสิ่งกำลังกั้นไว้ ความกลัวที่ยังไม่กล้าก้าวข้าม

เธอเงียบอยู่ตรงนั้นอีกสักพัก ก่อนจะยิ้มบาง ๆ ให้กับตัวเอง แล้วค่อย ๆ ถอยกลับ เดินเลียบรั้วกลับบ้านด้วยฝีเท้าเบา ๆ เหมือนคนที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเคยมายืนตรงนี้

ในคืนนั้น หลังจากที่แขกกลับไปแล้ว ขุนเดินออกมาหน้าบ้าน

ลมเย็นพัดมาเบา ๆ

เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงดาวส่องแสงสว่างเหมือนคืนเก่า ๆ ที่เขาเคยนั่งดูดาวกับแม่ กับเดือน กับพี่เข้ม

แต่วันนี้แม่ไม่อยู่แล้ว

พี่เข้มเงียบกว่าเดิม

และเดือน…ก็ยืนอยู่ไกลกว่าเดิมเพียงแค่รั้วบาง ๆ

ขุนถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะเดินไปที่ข้างบ้าน เดินไปตามแนวรั้วที่เชื่อมไปถึงบ้านของเดือนโดยไม่ตั้งใจ

แต่เขาหยุดเท้าเมื่อเห็นบางสิ่งวางอยู่บนรั้ว

ถ้วยดินเผาเล็ก ๆ สีเทา มีดอกพุดขาวเสียบไว้ พร้อมกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่พับครึ่ง

ขุนเปิดมันออก

ในนั้นมีเพียงข้อความสั้น ๆ ที่เขียนด้วยลายมือเรียบง่าย

“ขอบคุณที่กลับมานะคะ เดือน”

ขุนยืนนิ่งอยู่นาน มองข้อความนั้นอยู่นานกว่าเวลาที่ใช้เปิดมันออก

เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังบ้านของเธอ

หน้าต่างปิดม่านไว้ เงาเลือนรางของโคมไฟภายในส่องออกมาอ่อน ๆ

หัวใจของเขาเต้นช้าลง แต่แน่นขึ้น ราวกับมีบางอย่างกำลังไหลย้อนกลับเข้ามา

เขาวางถ้วยดินเผาลงอย่างเบามือ ยิ้มมุมปากอย่างเงียบ ๆ

ขุนไม่ได้พูดอะไร

ไม่ได้ตอบกลับในคืนนั้น

แต่ความเงียบของเขา…เต็มไปด้วยคำตอบมากมายกว่าคำพูดใด

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนพิเศษ วันเกิดของปาฏิหาริย์เล็ก ๆ

    เสียงฝนพรำเบา ๆ ในวันนั้นถูกกลบด้วยเสียงฝีเท้าร้อนรนของขุน เขาวิ่งเข้าออกหน้าห้องคลอดด้วยใบหน้าเครียดจัด มือที่เคยมั่นคงสั่นน้อย ๆ อย่างห้ามไม่ได้ “ใจเย็นนะขุน…” พี่ลินดาวางมือบนไหล่ พยายามปลอบ แต่ดวงตาคมก็ยังจับจ้องประตูบานนั้นอย่างไม่กะพริบ ชั่วเวลาที่เหมือนเป็นนิรันดร์ ในที่สุดเสียงแผ่วเบาแต่ชัดเจนก็ดังลอดออกมา เสียงร้องแหลมเล็กของทารกแรกเกิด น้ำตาที่ขุนไม่เคยคิดว่าจะหลั่งง่าย ๆ กลับเอ่อคลอทันทีที่หมอเปิดประตูออกมา “ยินดีด้วยครับ… คุณพ่อ” เขาแทบไม่รอคำอธิบาย รีบก้าวเข้าไป เห็นเดือนนอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง ผมเปียกชื้นด้วยเหงื่อ แต่รอยยิ้มบาง ๆ ที่มอบให้เขากลับงดงามที่สุดในชีวิต “พี่ขุน… เรามีลูกแล้วนะคะ” เสียงเธอเบาจนแทบเป็นกระซิบ ชายหนุ่มก้าวเข้าไปจับมือเธอแน่น ก่อนจะก้มลงจุมพิตหน้าผากด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก “เก่งที่สุดแล้วเดือน… ขอบคุณนะที่ให้พี่ได้เป็นพ่อ” พยาบาลอุ้มก้อนน้อยห่อผ้าเข้ามา เด็กน้อยตัวแดงจิ๋วส่งเสียงร้องแผ่ว ๆ เมื่อถูกวางลงบนอกแม่ เดือนหลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว ขณะที่ขุนนั่งข้าง ๆ มองภาพนั้นด้วยแววตาสั่นระริก เหมือนได้เห็น ความฝันของทั้งชีวิต กลายเป็นจริง

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนพิเศษ เช้าที่ไม่เหมือนเดิม

    แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านไม้ไผ่เข้ามาในห้องพักเล็ก เดือนขยับตัวจะลุกขึ้นตามปกติ แต่ทันทีที่ยืนขึ้น ร่างบางก็เซไปเล็กน้อย ความเวียนศีรษะแล่นเข้ามาอย่างกะทันหัน“อ๊ะ…” เธอเผลอร้องเบา ๆ มือคว้าขอบเตียงไว้แน่นขุนที่เพิ่งสวมเสื้อเชิ้ตพอดี รีบเข้ามาประคองทันที “เดือน! เป็นอะไรครับ ทำไมหน้าซีดแบบนี้”หญิงสาวยิ้มจาง ๆ “ไม่เป็นไรค่ะ แค่เวียนหัวนิดหน่อย”ในครัว พี่ไหมกำลังตั้งหม้อข้าวต้มอ่อน ๆ ไว้สำหรับแขกที่เพิ่งตื่น เสียงน้ำเดือดเบา ๆ คลอไปกับกลิ่นหอมอบอวลของข้าวสุกใหม่ แต่สำหรับเดือน กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพียงแค่กลิ่นลอยมาแตะจมูก เธอรีบเอามือปิดปาก สีหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีดทันที“พี่ขุน… หนูเหม็นกลิ่นข้าวต้มจังเลย”ขุนตาเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ความตกใจแล่นวาบผ่านใบหน้าคม “หรือว่า…” เขาเอื้อมมากุมมือเธอแน่นขึ้น สายตาเต็มไปด้วยทั้งห่วงใยและความตื่นเต้นที่ยังไม่กล้าพูดออกมาเสียงพี่ไหมดังแทรกขึ้นจากครัว “หนูเดือน ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ เดี๋ยวพี่ตักข้าวต้มให้นะ กินอุ่น ๆ จะได้ไม่เวียนหัว”แต่เดือนเพียงส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันไปซบอกขุนด้วยความอ่อนแรง ขุนกอดร่างบางไว้แน่น พลางมองออกไปนอกหน้าต่

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนพิเศษ ช้าของครอบครัวใหม่

    หนึ่งเดือนหลังงานแต่ง บ้านไร่ในฝันโฮมสเตย์ยังคงอบอวลด้วยความสุข แขกที่แวะมาพักทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พี่ไหมกับพี่นิ่มก็ทำงานได้ดี รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของพวกเธอทำให้ไร่เล็ก ๆ แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นเช้าวันนั้น ขุนลืมตาตื่นขึ้นท่ามกลางอ้อมกอดอุ่น ร่างเล็กของเดือนซุกแนบอยู่ข้าง ๆ ราวกับยังไม่อยากลุกจากเตียงไม้ที่ทั้งคู่ช่วยกันจัดแต่งเมื่อคราวเริ่มเปิดบ้านพักใหม่ ขุนก้มลงหอมแก้มภรรยาเบา ๆ จนเธอสะดุ้งยิ้มเขิน ๆ“พี่ขุน แกล้งหนูแต่เช้าเลยนะคะ”“ก็เมียพี่น่ารักนี่นา” เขาตอบเรียบ ๆ แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความรักทั้งคู่ลุกขึ้นมาช่วยกันทำอาหารเช้าง่าย ๆ ข้าวต้มหม้อเล็กกับผักสดที่เด็ดมาจากสวนหลังบ้าน เสียงหัวเราะดังเบา ๆ เมื่อเดือนทำขิงหั่นบางเกินไป ขุนเลยแอบแซวว่า “นี่เมียพี่ตั้งใจหั่นให้พี่กินทั้งแปลงหรือเปล่า”หลังมื้อเช้า ขุนกับเดือนเดินเล่นรอบไร่ ลมเช้าพัดกลิ่นดอกไม้จากไร่เรือนกระจกของพี่ลินดามาแตะจมูก ขณะที่ด้านไกลเห็นแขกกลุ่มหนึ่งนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจ“พี่ขุน…” เดือนเอ่ยขึ้นเบา ๆ “ถ้าวันหนึ่งมีเสียงเด็กวิ่งเล่นในไร่ คงจะดีไม่น้อยนะคะ”ขุนหยุดเดิน หันมามองใบหน้าของภรรยาที่แดงระเ

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 57 เช้าวันใหม่ของคู่แต่งงาน

    แสงอรุณสาดลอดผ่านกิ่งไม้ใหญ่ ขุนลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมสัมผัสอุ่นจากร่างเล็กที่ยังซุกอยู่ในอ้อมกอด รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าคมเมื่อได้เห็นเดือนหลับตาพริ้ม แก้มแดงระเรื่อจากความเหน็ดเหนื่อยเมื่อคืน“ตื่นได้แล้วคนสวย…เช้านี้เราต้องรีบกลับบ้าน เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะเอาใหญ่” ขุนก้มลงกระซิบเบา ๆ พลางกดจูบหน้าผากเธอเดือนขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงีย พอได้สติ สีหน้าก็แดงจัด รีบคว้าผ้าห่มมาคลุมกายพลางเบือนหน้าหนี“อายจังเลยพี่ขุน…เมื่อคืนเรา…”“เมื่อคืนเดือนชอบนี่นา” เขายิ้มอบอุ่น ก่อนจะช่วยประคองเธอลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยทั้งคู่รีบเก็บสิ่งของและเดินกลับบ้านด้วยหัวใจเต้นแรง ยิ่งใกล้ถึงเรือนหลังเล็กของแม่เดือน ความเขินก็ยิ่งทวีขึ้น เพราะรู้ดีว่าไม่นานนัก ทุกคนในไร่จะมาหาคู่แต่งงานหมาด ๆ ในเช้าวันนี้เดือนกระซิบเบา ๆ พลางจับมือเขาแน่น “พี่ขุน…อย่าปล่อยมือหนูนะ”ขุนหันมายิ้ม ดึงมือเธอมากุมแน่นกว่าเดิม “ไม่มีวันปล่อย…เราจะกลับไปเริ่มต้นบ้านของเรา…ด้วยกัน”ทั้งสองเดินเคียงกันไปใต้แสงเช้า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข แม้ยังมีความเขินอาย แต่ก็อบอุ่นเหลือเกินไม่นานหลังจากทั้งคู่กลั

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 56 คืนใต้ต้นไม้ของเรา

    ใต้แสงจันทร์นวล เสื่อผืนบางถูกปูลงบนพื้นหญ้านุ่ม ๆ ข้างลำต้นไม้ใหญ่ที่คุ้นตา ลมกลางคืนพัดเอื่อย เสียงจักจั่นดังเป็นจังหวะคล้ายเสียงขับกล่อม เดือนค่อย ๆ นั่งลงบนตักพี่ขุน แขนเล็กโอบรอบต้นคออย่างเคยชิน แก้มกลมซบอยู่ใกล้ใบหน้าคมที่ส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ “เหนื่อยมั้ยพี่ขุน…ทั้งวันเลยนะ” เดือนเอ่ยเบา ๆ พลางเอียงหน้ามองตาเขา ขุนส่ายหัวช้า ๆ แขนใหญ่โอบกอดร่างเล็กไว้แน่น “ไม่เหนื่อยเลย…แค่ได้กอดหนูแบบนี้ ทุกอย่างก็หายไปหมดแล้ว” คำพูดเรียบง่ายทำให้หัวใจเดือนเต้นแรงขึ้นทันที เธอหัวเราะเบา ๆ อย่างเขินอาย แต่ยังคงซุกตัวเข้าหาอ้อมแขนนั้นมากกว่าเดิม ขุนก้มลงหอมแก้มขาวเนียนอย่างแผ่วเบา กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากผิวและเส้นผมของเธอลอยแตะปลายจมูกจนหัวใจเขาอุ่นวาบ เดือนยกมือแตะอกเขาเบา ๆ สบตาพร้อมรอยยิ้มละมุน “คืนนี้…ดีจังเลยพี่ ข้างนอกอาจจะเงียบ แต่หนูรู้สึกว่าหัวใจมันเต็มไปด้วยเสียงเพลง” ขุนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ริมฝีปากแตะขมับเธออย่างแผ่วเบา เดือนเงยหน้าขึ้นสบตาพี่ขุน ดวงตากลมส่องประกายวาววับในเงาจันทร์ ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาประกบริมฝีปากกับเขาอย่างแผ่วเบา รสจูบอุ่นร้อนค่อย ๆ ลึกซึ้งขึ้น

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 55 พิธีแห่งความสุขกลางไร่ในฝัน

    เวลาล่วงเลยจนเกือบบ่าย แสงแดดอ่อนคล้อยลงสาดผ่านต้นไม้ใหญ่ ลานไร่ที่เมื่อเช้ายังเต็มไปด้วยเสียงกลองยาวและความคึกคัก บัดนี้กลับอบอวลด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบา ๆ หลังพิธีเสร็จสิ้นขุนกับเดือนนั่งเคียงกัน มือทั้งคู่ยังคงกุมไว้แน่นบนตั่งที่ปูผ้าพื้นเมือง ข้อมือขาวมีสายด้ายผูกข้อมือที่ญาติผู้ใหญ่และเพื่อนบ้านร่วมอวยพร กลิ่นน้ำอบคละคลุ้งผสมกลิ่นดอกไม้สดรอบกายเสียงแซว เสียงอวยพรยังดังไม่ขาดสาย แต่สำหรับคนสองคนตรงกลางพิธีนั้น ราวกับโลกหมุนช้าลง เหลือเพียงความสุขเรียบง่ายที่เอ่อท่วมในหัวใจลินดายืนมองภาพนั้นอยู่ด้านข้าง รอยยิ้มสวยค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เธอรีบยกมือเช็ด แต่ก็ไม่อาจหยุดได้ พอลที่ยืนข้าง ๆ เห็นเข้าก็เอื้อมมือมากุมไหล่ พลางเอ่ยเสียงนุ่ม “ร้องทำไมกัน…วันนี้มันเป็นวันดีนะ”ลินดาส่ายหน้าเบา ๆ หัวเราะทั้งน้ำตา “ก็เพราะมันดีไงพอล…ฉันเลยอดไม่ได้…เห็นเดือนกับขุนแล้วมันเหมือนฝันที่เป็นจริง เหมือนเราเองก็ได้ย้อนกลับมารู้ว่าความรักที่แท้จริงมันเป็นยังไง”แสงแดดบ่ายคล้อยลอดผ่านม่านใบไม้ลงมาส่องให้ภาพทั้งหมดเปล่งประกายราวกับถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่น งานวิวาห์กลางไร่ในฝัน ที่

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status