/ โรแมนติก / บ้านไร่ในฝัน / ตอนที่ 6 รสชาติของความเงียบ

공유

ตอนที่ 6 รสชาติของความเงียบ

last update 최신 업데이트: 2025-08-08 21:04:10

คืนนั้นเป็นคืนที่ยาวนานสำหรับ ขุน เขานอนอยู่บนเตียงเก่าในห้องเดิม แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าในบ้านตัวเอง ทุกสิ่งรอบกายยังคงเหมือนเมื่อเจ็ดปีก่อนที่เขาจากมา ยกเว้นเพียงเสียงหัวเราะของแม่ที่หายไป และความเงียบเหงาที่เข้ามาแทนที่

เขาพลิกตัวไปมา หลับตาลงแต่ภาพในหัวกลับมีแต่เรื่องราวที่ถาโถมเข้ามา ทั้งความโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่ คำพูดของพี่เข้มที่เคยตัดรอนความฝันของเขา ภาพของแม่ที่นอนแน่นิ่งในคืนนั้น และที่สำคัญที่สุดคือแววตาของ เดือน ที่มองมาที่เขาด้วยความดีใจระคนเจ็บปวด

“พี่ขุนหายไปไหนมาคะ…หนูคิดถึงพี่ขุนมาก” คำพูดของเดือนยังคงก้องอยู่ในหูของขุน มันเป็นคำถามที่เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรดีในตอนนี้ เขายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยบาดแผลทั้งหมดในใจให้ใครรับรู้

เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง ขุนตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง เขาเดินลงมาจากบ้าน กลิ่นหอมของกับข้าวลอยมาแตะจมูก

ข้าวหอม กำลังจัดสำรับอยู่บนโต๊ะไม้ใต้ถุนบ้าน เธอเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ขุน รอยยิ้มที่อบอุ่นและจริงใจทำให้ขุนรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

“พี่ขุน ตื่นแล้วเหรอคะ มาทานข้าวเถอะค่ะ” ข้าวหอมเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

ขุนพยักหน้า เขานั่งลงบนม้านั่งไม้ฝั่งตรงข้ามกับ พี่เข้ม ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว อาหารเช้าบนโต๊ะดูน่ากิน แต่ความเงียบระหว่างสองพี่น้องยังคงปกคลุมอยู่ พี่เข้มไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ตักข้าวใส่จานแล้วยื่นให้ขุน

ขุนรับจานข้าวมา วางช้อนลงไปแล้วแต่กลับยังไม่ตักกิน เขามองไปรอบ ๆ บ้าน ไร่ลำไยที่คุ้นเคย ทุกอย่างดูเหมือนเดิม แต่กลับมีบางสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างไม่อาจย้อนคืน

“แกคงเหนื่อยมามาก” พี่เข้มพูดขึ้นในที่สุด เสียงของเขาทุ้มต่ำและแฝงความรู้สึกบางอย่างที่ขุนไม่เคยได้ยินมาก่อน

ขุนเงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย พี่เข้มไม่ได้มองเขาตรง ๆ แต่สายตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้ง

“พักก่อนเถอะ…ไม่ต้องรีบ” พี่เข้มพูดต่อ “บ้านนี้ยังมีที่ให้แกเสมอ”

คำพูดนั้นทำให้หัวใจของขุนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด มันเป็นคำพูดที่เขาไม่เคยได้ยินจากพี่เข้มมาก่อน เป็นคำพูดที่ปลดล็อกความหนักอึ้งในใจเขาไปได้เล็กน้อย

ขุนพยักหน้า เขาตักข้าวเข้าปาก รสชาติของอาหารเช้าวันนี้ไม่เหมือนเดิม มันมีรสชาติของความเงียบ…ความเงียบที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและการให้อภัย

หลังจากทานอาหารเช้า ขุนก็เดินออกมาที่ลานหน้าบ้าน เขามองไปยัง บ้านของเดือน ที่อยู่ไม่ไกลนัก เขาเห็นเงาร่างของเดือนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน แผ่นหลังเล็ก ๆ นั้นดูคุ้นเคย แต่ก็งดงามเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้

ขุนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นพูดคุยกับเดือนอย่างไร หลังจากที่เขาหายไปนานขนาดนี้ แต่เขาก็รู้ว่าเขาต้องทำ ต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่ค้างคาในใจของเธอ และของตัวเขาเองด้วย

บ่ายวันนั้น ขณะที่ขุนกำลังช่วยพี่เข้มเดินตรวจงานในไร่ลำไย เสียงรถกระบะสีขาวคุ้นตาคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ขุนจำรถคันนั้นได้ดี หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความรู้สึกที่ปะปนกัน

ประตูรถเปิดออก พอล ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมเข้ม ก้าวลงมายืนยิ้มทักทายอย่างเป็นกันเอง ตามมาด้วย ลินดา หญิงสาวร่างเพรียว ใบหน้าสวยคมในชุดกระโปรงลายดอก เธอคือเจ้าของ ไร่ดอกไม้และคาเฟ่ชื่อดังที่อยู่ทางเหนือของไร่ลำไย ของพวกเขา ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญ และเป็นเพื่อนสนิทของพี่เข้ม

“พี่เข้ม! ไม่เจอกันนานเลยนะครับ” พอลเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่พี่เข้มเบา ๆ

ลินดาเองก็ยิ้มให้พี่เข้มอย่างอบอุ่น “มาเยี่ยมถึงที่เลยค่ะ เห็นว่าช่วงนี้ผลผลิตลำไยน่าจะดี”

พี่เข้มพยักหน้าพลางยิ้มรับ “มาพอดีเลย งั้นอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันนะ”

สายตาของพอลกับลินดาเหลือบมาเห็นขุนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พี่เข้ม ใบหน้าของทั้งคู่ฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มจะกว้างขึ้นกว่าเดิม

“ขุน! นายกลับมาแล้วเหรอ!” พอลร้องออกมาด้วยความดีใจ เขาก้าวเข้ามาตบไหล่ขุนอย่างแรง “หายไปไหนมาวะ ไม่เห็นหน้าตั้งนาน”

ลินดาก็ยิ้มให้ขุนอย่างอ่อนโยน “ดีใจด้วยนะคะที่กลับมา”

ขุนยิ้มตอบอย่างเก้อเขิน เขายังไม่ชินกับการถูกทักทายแบบนี้หลังจากที่หายไปนาน “ครับ…เพิ่งกลับมาเมื่อวาน”

ทั้งสี่คนพากันเดินเข้าไปในบ้าน เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังขึ้นมาเป็นระยะ บรรยากาศภายในบ้านที่เคยเงียบเหงาดูเหมือนจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง การมาของพอลและลินดาทำให้พี่เข้มดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด เขายิ้มและหัวเราะบ่อยขึ้นกว่าที่ขุนเคยเห็นมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน…

เดือน ที่กำลังช่วยคุณแม่ทำกับข้าวอยู่ในครัวที่บ้านของเธอเอง ได้ยินเสียงรถและเสียงคนคุยกันดังมาจากบ้านพี่เข้ม เธอแอบชะโงกหน้ามองออกไป เห็นเงาร่างคุ้นตาของพอลและลินดา เธอยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก พอลกับลินดาเป็นคนที่น่ารักและใจดีเสมอ

แต่เมื่อเธอเห็นขุนยืนอยู่กับพวกเขา หัวใจของเดือนก็เต้นระรัวอีกครั้ง เธอรู้สึกอยากจะเข้าไปหาเขา อยากจะคุยกับเขาให้มากกว่านี้ แต่ความเขินอายและความประหม่าก็ยังคงเกาะกุมเธอไว้

เมื่อเห็นว่าทุกคนพากันเข้าไปในบ้านแล้ว เดือนก็ค่อย ๆ ย่องออกมาจากบ้านของเธอเอง เธอเดินเลียบแนวรั้วไปอย่างเงียบ ๆ ตรงไปยังบ้านของพี่เข้ม เมื่อมาถึงหน้าต่างบานหนึ่งที่เปิดอยู่ เดือนแอบชะโงกหน้าเข้าไปมอง

เธอเห็นขุนนั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารกับพี่เข้ม พอล และลินดา พวกเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน ใบหน้าของขุนดูผ่อนคลายและมีรอยยิ้มมากกว่าที่เธอเห็นเมื่อวานนี้

เดือนยืนอยู่นิ่ง ๆ ตรงหน้าต่างบานนั้น ปล่อยให้สายลมยามเย็นพัดปลิวผ่านปลายผมของเธอ กลิ่นของลำไยสุกและกลิ่นดินชื้นจากไร่ลอยเข้ามาปะปนกับกลิ่นกับข้าวที่ลอยออกมาจากบ้านของพี่เข้ม

ในใจของเธอ...เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

ดีใจ...ที่เขากลับมา

กลัว...ว่าเขาจะจากไปอีก

หวัง...ว่าเขายังจำคำสัญญาในวัยเด็กนั้นได้

และคิดถึง...มากจนเธอไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำว่า "คิดถึง" ต่อหน้าเขา

เธออยากเข้าไป อยากร่วมโต๊ะ อยากนั่งฟังเสียงหัวเราะของทุกคน

แต่ราวกับบางสิ่งกำลังกั้นไว้ ความกลัวที่ยังไม่กล้าก้าวข้าม

เธอเงียบอยู่ตรงนั้นอีกสักพัก ก่อนจะยิ้มบาง ๆ ให้กับตัวเอง แล้วค่อย ๆ ถอยกลับ เดินเลียบรั้วกลับบ้านด้วยฝีเท้าเบา ๆ เหมือนคนที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเคยมายืนตรงนี้

ในคืนนั้น หลังจากที่แขกกลับไปแล้ว ขุนเดินออกมาหน้าบ้าน

ลมเย็นพัดมาเบา ๆ

เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงดาวส่องแสงสว่างเหมือนคืนเก่า ๆ ที่เขาเคยนั่งดูดาวกับแม่ กับเดือน กับพี่เข้ม

แต่วันนี้แม่ไม่อยู่แล้ว

พี่เข้มเงียบกว่าเดิม

และเดือน…ก็ยืนอยู่ไกลกว่าเดิมเพียงแค่รั้วบาง ๆ

ขุนถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะเดินไปที่ข้างบ้าน เดินไปตามแนวรั้วที่เชื่อมไปถึงบ้านของเดือนโดยไม่ตั้งใจ

แต่เขาหยุดเท้าเมื่อเห็นบางสิ่งวางอยู่บนรั้ว

ถ้วยดินเผาเล็ก ๆ สีเทา มีดอกพุดขาวเสียบไว้ พร้อมกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่พับครึ่ง

ขุนเปิดมันออก

ในนั้นมีเพียงข้อความสั้น ๆ ที่เขียนด้วยลายมือเรียบง่าย

“ขอบคุณที่กลับมานะคะ เดือน”

ขุนยืนนิ่งอยู่นาน มองข้อความนั้นอยู่นานกว่าเวลาที่ใช้เปิดมันออก

เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังบ้านของเธอ

หน้าต่างปิดม่านไว้ เงาเลือนรางของโคมไฟภายในส่องออกมาอ่อน ๆ

หัวใจของเขาเต้นช้าลง แต่แน่นขึ้น ราวกับมีบางอย่างกำลังไหลย้อนกลับเข้ามา

เขาวางถ้วยดินเผาลงอย่างเบามือ ยิ้มมุมปากอย่างเงียบ ๆ

ขุนไม่ได้พูดอะไร

ไม่ได้ตอบกลับในคืนนั้น

แต่ความเงียบของเขา…เต็มไปด้วยคำตอบมากมายกว่าคำพูดใด

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 14 คืนแห่งการเฉลิมฉลอง

    บรรยากาศในบ้านของ พี่เข้ม เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะ ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองให้กับ บัณฑิตใหม่ อย่าง ขุนพอล และ ลินดา เดินทางมาร่วมงานด้วย พวกเขานำไวน์ชั้นดีและขนมเค้กมาเป็นของขวัญ ข้าวหอมช่วยจัดเตรียมอาหารเย็นชุดใหญ่ มีทั้งอาหารพื้นบ้านและอาหารที่ขุนชอบเป็นพิเศษโต๊ะอาหารถูกจัดวางไว้นอกชานบ้าน ใต้แสงไฟสลัว ๆ ที่ห้อยระย้าจากต้นไม้ใหญ่ เสียงดนตรีเบา ๆ คลอเคล้าไปกับเสียงพูดคุยและเสียงแก้วกระทบกันเดือน มาถึงพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส เธอสวมชุดที่เรียบง่ายแต่ดูสง่างาม ดวงตาเป็นประกายเมื่อมองมาที่ขุน“ยินดีด้วยอีกครั้งนะคะพี่ขุน” เดือนเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่จริงใจขุนยิ้มตอบ “ขอบคุณนะเดือน” เขารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดเมื่อได้เห็นเธออยู่ตรงนี้ทุกคนนั่งล้อมวงกันที่โต๊ะอาหาร พี่เข้มรินไวน์ให้ทุกคน พอลยกแก้วขึ้น“ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ของเราด้วยนะขุน” พอลกล่าว “นายเก่งมากจริง ๆ”ทุกคนยกแก้วขึ้นชนกัน เสียง “ไชโย!” ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงลินดายิ้มให้ขุน “ดีใจด้วยนะคะขุน ที่ดิน 50 ไร่ที่พี่เข้มให้…อยู่ติดกับไร่ดอกไม้ของลินดาเลยนะ” เธอเอ่ยขึ้น “ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอกได้เลยนะ”ขุนพยั

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 13 วันแห่งความสำเร็จ

    หลังจากวันนั้นที่คาเฟ่ ขุน ตัดสินใจที่จะกลับไปเรียนต่อในเมืองตามคำแนะนำของ พี่เข้ม แม้ในใจลึก ๆ จะมีความรู้สึกบางอย่างที่อยากจะอยู่ใกล้ เดือน และไร่ลำไย แต่เขาก็รู้ว่าการเรียนคือโอกาสสำคัญที่พี่ชายมอบให้ และเป็นสิ่งที่เขาเคยใฝ่ฝันมาตลอดขุนเดินทางกลับเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยอีกครั้ง เขาทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างหนัก ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องสมุดและห้องปฏิบัติการ ความรู้ใหม่ ๆ ที่ได้รับทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เขามองเห็นอนาคตที่สดใสขึ้นเรื่อย ๆ และตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนา "บ้านไร่ในฝัน" ของเขาให้เป็นจริงตลอดช่วงเวลาที่ขุนเรียนอยู่ในเมือง เขาจะโทรศัพท์กลับมาคุยกับพี่เข้มและข้าวหอมเป็นประจำ เพื่อสอบถามสารทุกข์สุกดิบและข่าวคราวของไร่ลำไย และแน่นอนว่าเขามักจะแอบถามถึง เดือน เสมอเดือนเองก็ใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็งและมีความสุขกับการทำงานที่คาเฟ่ดอกไม้ของ ลินดา เธอเติบโตเป็นหญิงสาวที่มั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในใจลึก ๆ ก็ยังคงเฝ้ารอคอยการกลับมาของขุนเสมอเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว…ในที่สุด วันที่ ขุน รอคอยก็มาถึง วันรับปริญญา ของเขาพี่เข้มและข้าวหอมพร้อมด้วย ต้นฝัน ลูกสา

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 12 แววตาที่ไม่เหมือนเดิม

    เสียงเรียกชื่อของ เดือน แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้โลกทั้งใบของ ขุน หยุดนิ่ง ดวงตาของทั้งคู่สบกัน ขุนเห็นความตกใจและแปลกใจในแววตาของเดือน ส่วนเดือนก็เห็นความรู้สึกบางอย่างที่เธออ่านไม่ออกในดวงตาของเขาลูกค้าหนุ่ม ๆ ที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างก็หันมามองขุนด้วยความสงสัยเล็กน้อย เดือนที่ตั้งสติได้ก่อน รีบส่งยิ้มให้ลูกค้าพร้อมรับออเดอร์อย่างเป็นธรรมชาติ“พี่ขุนมาเมื่อไหร่คะ” เดือนถามขณะที่เธอกำลังชงกาแฟให้ลูกค้า มือของเธอดูคล่องแคล่ว แต่ขุนก็สังเกตเห็นว่ามันสั่นไหวเล็กน้อย“เมื่อวาน” ขุนตอบสั้น ๆ สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่เดือน ไม่ได้สนใจลูกค้าคนอื่น ๆ เลยเมื่อเดือนชงกาแฟเสร็จและส่งให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว เธอก็หันมาเผชิญหน้ากับขุนอย่างเต็มที่“มาเที่ยวคาเฟ่เหรอคะ” เดือนพยายามยิ้มให้เขาอีกครั้ง รอยยิ้มนั้นยังคงสวยงาม แต่ดูต่างไปจากรอยยิ้มสดใสในวัยเด็กอย่างสิ้นเชิง มันคือรอยยิ้มของหญิงสาวที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย“มาเยี่ยมหลาน” ขุนตอบ และในที่สุดเขาก็เดินเข้าไปยืนที่หน้าเคาน์เตอร์ “พี่เข้มมีลูกสาวแล้ว ชื่อต้นฝัน”ดวงตาของเดือนเป็นประกายด้วยความยินดี “จริงเหรอคะ! ดีใจด้วยจังเล

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 11: ดอกไม้บานในใจเดือน

    หลังจากวันที่ ขุน จากไปอีกครั้งพร้อมกับคำสัญญาที่ยังค้างคา เดือน ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ เธอปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาจนหมดสิ้น ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เดือนรู้ดีว่าชีวิตต้องดำเนินต่อไป และเธอจะต้องเข้มแข็งให้ได้เวลาผ่านไป เดือนเริ่มเติบโตเป็นสาวเต็มตัว ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา แต่เป็นความคิดและจิตใจ เธอตัดสินใจที่จะไม่จมอยู่กับความเศร้า แต่จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เพื่อรอคอยวันที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ด้วยความช่วยเหลือของ พี่เข้ม และ ข้าวหอม เดือนได้มีโอกาสเข้าไปทำงานใน ไร่ดอกไม้เรือนกระจกของลินดา ซึ่งอยู่ทางเหนือของไร่ลำไย เธอเริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เรียนรู้การดูแลดอกไม้ การจัดดอกไม้ และการบริหารจัดการคาเฟ่ดอกไม้ที่สวยงามลินดา มองเห็นความตั้งใจและความมุ่งมั่นในตัวเดือน เธอเอ็นดูเดือนเหมือนน้องสาวคนเล็ก คอยสอนงาน ให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษาในทุก ๆ เรื่อง ลินดาไม่ได้สอนแค่เรื่องงาน แต่ยังสอนเรื่องการใช้ชีวิต การจัดการกับอารมณ์ และการมองโลกในแง่บวก“ดอกไม้ก็เหมือนใจคนนะเดือน” ลินดาเคยพูดขึ้นในวันหนึ่งขณะที่ทั้งคู่กำลังจัดดอกไม้อยู่ในเรือนกระจก “ถ้าเราดูแลมันดี

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 10 อ้อมกอดแห่งการจากลา

    วันเดินทางมาถึง ท้องฟ้าแจ่มใสผิดกับคืนก่อน ๆ ที่มืดครึ้ม ขุน ตื่นแต่เช้า จัดกระเป๋าเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชุดลงในกระเป๋าเดินทางใบเก่า ความรู้สึกตื่นเต้นระคนสับสนยังคงวนเวียนอยู่ในใจหลังจากทานอาหารเช้าที่ ข้าวหอม เตรียมไว้ให้ ขุนก็เดินออกมาที่หน้าบ้าน พี่เข้ม ยืนรออยู่แล้ว ข้าง ๆ เขาคือรถกระบะคันเก่าของไร่ สีซีดจางไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังดูดีและใช้งานได้“รถคันนี้…พี่ให้แกเอาไปใช้ในเมือง” พี่เข้มพูดขึ้น น้ำเสียงของเขานิ่งเรียบ แต่แววตาเต็มไปด้วยความห่วงใย “มันอาจจะเก่าหน่อย แต่ก็ยังวิ่งได้ดี ดูแลมันดี ๆ นะ”ขุนมองรถคันนั้นด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ เขาไม่คิดว่าพี่เข้มจะให้รถเขาไปใช้ในเมือง “ขอบคุณครับพี่”พี่เข้มวางมือบนไหล่น้องชาย “ไปถึงแล้วก็ตั้งใจเรียนนะ ไม่ต้องห่วงทางนี้”ขุนพยักหน้า เขารับกุญแจรถมาจากพี่เข้ม ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถ เตรียมตัวที่จะก้าวเข้าไปก่อนที่จะสตาร์ทรถ ขุนเหลือบมองไปยัง บ้านของเดือน ที่อยู่ไม่ไกลนัก เขาสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบที่ปกคลุมอยู่ แต่ในใจก็อดคิดถึงเธอไม่ได้เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเสียบกุญแจและบิดสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงเครื่องยนต์เก่า ๆ ดังกระหึ่มขึ้นมาใน

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 9 การชดเชยของพี่ชาย

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความคิดคำนึงถึงคำสัญญาในวัยเด็ก ขุน ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ยังหนักอึ้ง แต่เขาก็พยายามฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นมาช่วยงานในไร่ลำไยเหมือนเช่นเคยขณะที่ขุนกำลังช่วย พี่เข้ม ตัดแต่งกิ่งลำไยอยู่กลางไร่ พี่เข้มก็วางกรรไกรลง เขามองไปยังขุนด้วยแววตาที่จริงจังกว่าปกติ“ขุน…แกอยากกลับไปเรียนไหม” พี่เข้มเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหันขุนชะงักมือที่กำลังตัดกิ่งไม้ เขาเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าพี่เข้มจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา“เรียนเหรอครับพี่” ขุนทวนคำถามพี่เข้มพยักหน้า “ใช่…พี่รู้ว่าแกอยากเรียนมาตลอด พี่…พี่ขอโทษนะที่วันนั้นพี่พูดไม่ดี” น้ำเสียงของพี่เข้มแผ่วลงเล็กน้อย แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่เก็บงำมานาน “พี่อยากจะชดเชยให้แก”ขุนยืนนิ่ง เขามองพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งแปลกใจ ตื้นตัน และสับสน เขาไม่เคยคิดว่าพี่เข้มจะพูดคำว่าขอโทษ และไม่เคยคิดว่าพี่ชายจะยังจำความฝันเรื่องการเรียนของเขาได้“พี่ได้คุยกับ อาจารย์สมศักดิ์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ท่านเป็นเพื่อนเก่าของพ่อเรา ท่านบอกว่าถ้าแกสนใจ ท่านจะช่วยดูเรื่องทุนการศึกษาให้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status