Beranda / โรแมนติก / ปกรณัมใต้แสงดาว / Chapter5.ตัวข้าสำคัญที่สุดแล้ว

Share

Chapter5.ตัวข้าสำคัญที่สุดแล้ว

last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-27 01:16:20

“ข้ารู้แค่ว่านี่เป็นป้ายประจำตัวองค์รัชทายาท”  เขากอดอกยืนฟังนาง พยายามสนใจเพียงดวงตากลมโตสีนิล ไม่มองผิวกายเนียนละเอียดที่เต็มไปด้วยรอยบอบช้ำ  

ตลอดการเดินทาง นางครุ่นคิดอยู่หลายตลบว่าจะเริ่มเรื่องอย่างไรให้เขาเชื่อใจนาง จะแสดงตัวเช่นไรไม่ให้ถูกจับได้ว่าเป็นหญิง แต่เมื่อฐานะถูกเปิดเผยแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะต้องปิดบังอันใดอีก นางสูดลมหายใจแล้วเอ่ยออกมา

“ข้าคือจางฟางหรง”

“หือ?”  หลัวหลิวหยางเลิกคิ้วประหลาดใจ “จางฟางหรง?”

“จางฟางหรงที่เขียนจดหมายโต้ตอบกับท่าน”  นางยังคงสงบใจกล่าวต่อ  

“ข้าเคยพบจางฟางหรง เขาเป็นบุตรบุญธรรมของอาจารย์ข้า เขาเป็นบุรุษมิใช่สตรี”

“ถูกต้อง จางฟางหรงที่ท่านแม่ทัพพบคือน้องชายต่างมารดาของข้า ข้าชื่อจางฟางซิน ข้าและจางฟางหรงเป็นบุตรบุญธรรมของอาจารย์ หยางอี้เสียง” นางแนะนำตัวเอง และเมื่อเห็นว่าเขาไม่คิดจะพูดขัด นางจึงพูดต่อ  “คนที่เขียนจดหมายถึงท่านคือข้า ข้าใช้ชื่อของน้องชายเพื่อคุยกับท่าน”

แววตาของหลัวหลิวหยางประหลาดใจเล็กน้อย เดิมทีเขาสงสัยมาตลอด บุรุษอย่างจางฟางหรงดูเหมือนคนที่ไม่สนใจตำราพิชัยยุทธ์ ไม่ชอบการทหาร แต่กลับแลกเปลี่ยนความคิดกับเขาและเสนอแนวทางให้เขาหลายต่อหลายครั้ง  

“ที่ข้าต้องมาด้วยตนเองเช่นนี้เพราะ คนที่องค์รัชทายาทส่งจดหมายให้ท่านถูกกำจัดไปหมด องค์รัชทายาทต้องการให้จางฟางหรงมาอยู่ข้างกายท่าน เผื่อว่าจะได้ช่วยติดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิด พร้อมทั้งมอบหมายอำนาจตัดสินใจทางการทหารให้ท่านจัดการได้หากมีความจำเป็น”

หลัวหลิวหยางทำเพียงพยักหน้ารับรู้  เขาคิดสงสัยอยู่นาน สองเดือนมานี้ไม่มีข่าวสารจากเมืองหลวง ที่แท้เกิดเรื่องขึ้นจริง 

“เดิมทีข้าควรแสดงตัวต่อท่านในฐานะบุรุษ แต่เกิดเรื่องเสียก่อน หวังว่าท่านจะไม่ขับไล่ข้ากลับไปเพราะเห็นว่าข้าเป็นสตรี”

“ต่อให้ข้าอยากให้เจ้าไป เจ้าก็คงไปไหนไม่ได้” เขาหลุบตามองข้อเท้าของนางที่ถูกพันผ้าไว้อย่างแน่นหนา “อย่างน้อยก็หนึ่งเดือน”

จางฟางซินนึกอนาถใจ นางไม่มีสิ่งใดดึงดูดใจเขาได้เลย  นี่นางควรขอบคุณโจรเหล่านั้นที่ทำให้นางบาดเจ็บจนไปไหนไม่ได้สินะ

“ตอนนี้ผู้อื่นรู้แล้วเจ้าเป็นสตรี ก็อยู่ในฐานะสตรีเถิด ข้าเรียกเจ้าจางฟางซินได้ใช่ไหม”

“อืม” นางพยักหน้ารับ แล้วนึกได้ว่าตนเองพูดจาไม่สุภาพนักจึงเอ่ยขึ้นใหม่ “เจ้าค่ะ” 

“เพื่อไม่ให้ผู้อื่นสงสัยฐานะของเจ้า ข้าคิดว่า...”

“ท่านแม่ทัพสามารถบอกผู้อื่นได้ว่า ข้าเป็นคนที่มารดาของท่านส่งมาปรนนิบัติรับใช้ท่าน ข้ากับท่านจำเป็นต้องใกล้ชิดกัน เราไม่อาจรู้ได้ว่ามีใครทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ หากผู้อื่นรู้ว่าข้าเป็นคนขององค์รัชทายาท เกรงว่าทั้งข้าและท่านจะไม่ปลอดภัย”

มุมปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้ม แม้จะเล็กน้อยก็เห็นชัดว่าเป็นรอยยิ้ม จางฟางซินรู้สึกตาพร่าไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าเขาจะยอมฟังแผนการไร้สาระของนางด้วยท่าทางใจเย็นเช่นนี้

“ดี  ตกลงตามนั้น”

“อื้ม เอ่อ เจ้าค่ะ”

“เจ้าคงอยู่ในฐานะบุรุษมานาน เห็นทีต้องฝึกเป็นสตรีหน่อยกระมัง” เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก เมื่อนางเป็นฝ่ายเสนอความคิดเอง เขาก็ไม่ใส่ใจว่านางจะเสียชื่อเสียงหรือไม่ อย่างไรเขาก็ไม่มีอะไรให้เสีย และที่สำคัญคือการเคลื่อนไหวของต่างแคว้นที่สอดคล้องกับฝ่ายที่หวังโค่นล้มอำนาจขององค์รัชทายาท

“เจ้าพักผ่อนเถิด ข้าจะให้คนมาดูแล”

“ขอบคุณ”  นางถอนหายใจเบาๆ “เอ่อ...”

“ว่ามา”

“ข้าอยากอาบน้ำ..”

หลัวหลิวหยางเลิกคิ้ว “สระผมด้วยไหม?”

 “ถ้าได้เช่นนั้นข้าจะขอบคุณยิ่ง”

“ข้าจะสั่งเด็กๆ ดูแลเจ้า”

“ขอบคุณ”

“อืม” 

นางไม่คิดว่านั้นเป็นคำถามประชด เขาเป็นทหาร ใช้ชีวิตในสนามรบมากกว่าบ้านเกิดอันอบอุ่น การพูดของเขาจึงเด็ดขาดเหมือนเป็นคำสั่งเสมอ  ร่างสูงใหญ่ที่นางเคยแอบมองอยู่หลายครั้งเดินออกไปแล้ว นางผ่อนลมหายใจยาว หวังใจว่าเรื่องราวต่อจากนี้จะไม่มีอุปสรรคใดอีก

นางได้แต่ภาวนาในใจ

เรือนหลังนี้ช่างเงียบสงบ มีแสงอ่อนๆ ลอดผ่าน กระทบเครื่องเรือนงดงามและประณีต มันสวยมากแต่ดูแปลกและน่าอึดอัด

จางฟางซินใช้ความพยายามทั้งหมดยันกายลุกขึ้นนั่งและมองรอบๆ ผ่านมาสามวันความเจ็บปวดรวดร้าวทุเลาลง แต่จุดที่เจ็บปวดที่สุดคือข้อเท้าของนาง ท่านหมอทหารยืนยันหนักแน่นว่านางสามารถกลับมาเดินได้อย่างปกติอย่างแน่นอน แต่บางครั้งนางยังมึนงงราวกับยังไม่ตื่นจากความฝัน จนกระทั้งมือหยาบกร้านวางบนไหล่ของนางเป็นการยืนยันว่านางมิได้ฝันไป

“ยังฝันร้ายอยู่อีกหรือ?”

“ฝันร้าย?”

นางเอ่ยทวนคำที่ได้ยิน เหตุการณ์นั้นไม่ใช่ความฝัน มันเป็นเรื่องจริงที่กลายเป็นฝันร้ายของนาง เหเหมือนเมื่อตอนเป็นเด็กที่นางเคยตกหลังม้า ทำให้นางไม่กล้าขี่ม้าอีก  จางฟางหรงมักหัวเราะเยาะนางเรื่องนี้เสมอ แต่เขาก็ดึงมือนางให้นั่งม้าตัวเดียวกัน จางฟางหรงไม่ค่อยแสดงท่าทางห่วงใยนาง ไม่มีคำพูดดีๆ ให้กำลังใจ แต่นางรู้ว่าจางฟางหรงเป็นห่วงนาง นางเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่เช่นเดียวกับนางที่มีเขาเป็นญาติคนเดียวเช่นกัน  คิดถึงตอนนี้นางเผลอหัวเราะเบาๆ ออกมา

เสียงหัวเราะแม้แผ่วเบานั้นทำให้หลัวหลิวหยางเลิกคิ้ว มือของเขายังวางบนไหล่ของนาง ร่างกายนางบอบบางถึงเพียงนี้ หากเขาเผลอออกแรงมากไปสักหน่อยคงหักกระดูกนางได้เป็นแน่  เจ้าของร่างอรชรอ้อนแอ้นผู้นี้กลับเดินทางมาเพียงลำพังเพื่อพบเขา และบอกว่าจะอยู่เคียงข้างเขา

เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดเหลือเกิน

จางฟางซินได้สติ นึกขึ้นได้ว่าหลัวหลิวหยางเข้ามาดูอาการของนาง นางจึงเอ่ยขึ้น 

“ตอนเด็กๆ ข้าเคยตกหลังม้า นับจากนั้นข้าไม่กล้าขี่ม้าเพียงคนเดียวอีกเลย มันเป็นม้าที่สูงกว่าข้าไม่เท่าไหร่ แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดวันนั้นมันเกิดพยศทำให้ข้าตกลงมา แม้จะบาดเจ็บไม่มากนัก แต่ความรู้สึกที่อยู่บนหลังม้าที่พยศนั้นข้าจำได้อย่างดี ความทรงจำนั้นกลายเป็นฝันร้ายของข้า มาบัดนี้เห็นทีว่าการอยู่ในรถม้าที่ตีลังกาหลายตลบจะเป็นฝันร้ายแทนทีการตกม้าครั้งนั้นของข้าแล้ว”

“เจ้าจำอะไรได้ไหม” เขาถาม

“ข้าจำท่านได้” นางตอบด้วยรอยยิ้ม แม้นางจะแอบมองเขาจากที่ไกลๆ แต่นางยังจำดวงตาคมเข้มดุดัน  โหนกแก้มสูง  จมูกดุจเหยี่ยวทรงอำนาจที่ปรากฏชัดเจนในความฝันของนางได้ ถ้าการตกม้าคือฝันร้ายของนาง เขาก็คือฝันดีของนางเช่นกัน

“ท่านแม่ทัพ” หญิงสาวรำพึง “ท่านช่วยชีวิตข้า”

“ข้าแค่บังเอิญอยู่ที่นั้น”

จางฟางซินคิดพลางหลับตาลงช้าๆ เขาพูดถูกต้องทุกอย่าง เขาแค่บังเอิญผ่านมาในยามที่นางเดือดร้อน หากไม่ใช่เพราะนางคือ ‘จางฟางหรง’ เขาคงไม่เสียเวลามาใส่ใจนางถึงเพียงนี้ คิดได้ดังนั้นก็สูดลมหายใจลึก ยืดแผ่นหลังตั้งตรงแล้วสบตากับเขา

“ข้าดีขึ้นแล้ว เรามามาคุยเรื่องงานกันเถิด”

“งาน?”

“ใช่” นางพยักหน้ารับ “หรือท่านยังไม่เชื่อว่าข้าคือจางฟางหรงจริงๆ”

หลัวหลิวหยางปล่อยมือจากไหล่นาง ถอยหลังมาเล็กน้อยกวาดตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียง รอยฟอกช้ำยังเห็นอยู่เด่นชัด แต่สีหน้าของนางดีขึ้นมากแล้วจริงๆ

“ข้าเชื่อเจ้า”

“ท่านเชื่อข้าง่ายถึงเพียงนี้”  นางขมวดคิ้ว ที่ผ่านมานางกังวลมาตลอดว่าเขาจะไม่ยอมรับนาง เช่นนั้นการเดินทางของนางจะสูญเปล่า

“ข้าเคยพบจางฟางหรง” เขาพูด “ท่าทางเขาไม่เหมือนคนที่จะชอบอ่านตำราพิชัยยุทธ แต่ข้าเชื่อความคิดอ่านในจดหมายของเขามาก”

“อย่างนั้นหรือ?”  นางเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ข้ากังวลใจมาตลอดว่าจะอธิบายท่านอย่างไร”

“ข้าเป็นคนมีเหตุผล”  

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 34.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ จบ

    “ก็...ก็ใช่นะสิ เป็นของนายของข้ามอบให้มา” นางพยายามดิ้นรนแต่กลับถูกท่อนแขนรัดเอวนางแน่นขึ้นจนเผลอร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา“นายเจ้าเป็นเศรษฐีที่ถูกหายตัวไปเมื่อสองเดือนก่อนรึ จุ๊ๆ เจ้าอย่ามาโกหกเลย บอกมาเถอะว่ารถม้าคันนั้นอยู่ที่ใด สมบัติในรถคันนั้นต้องมีมากกว่าที่เจ้าขนลงไปแน่”ฟางซินแตกตื่นจนพูดไม่ออก ยังไม่ทันคิดหาวิธีเอาตัวรอด ร่างของนางถูกเหวี่ยงลงพื้น หญิงสาวทั้งเจ็บและจุก พยายามดิ้นรนแต่ชายคนหนึ่งกลับคร่อมร่างนางไว้และอีกสองคนยึดแขนคนละข้าง เหตุการณ์กลับมาซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง นางนึกถึงเพียงใบหน้าของปีศาจภูเขา แต่นี่อยู่นอกเขตอาคม เขาไม่อาจออกมาช่วยนางได้ไม่! เขาจะออกมานอกเขตอาคมไม่ได้! เขาอาจจะตาย! และถ้ามีคนรู้ว่าปีศาจภูเขามีอยู่จริง จะต้องถูกชาวบ้านเชิญนักพรตมาสังหารเป็นแน่! นางยอมให้เขาเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด!“โอ๊ย!”แมวป่าตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่คนที่คร่อมร่างหญิงสาวอยู่ กรงเล็บของมันทำให้ใบหน้าของคนผู้นั้นเป็นรอยแผล และเพราะความเจ็บปวดที่ทำให้รับทำให้ชายคนนั้นจับแมวป่าตัวนั้นออกจากร่างของตนแล้วทุ่มลงบนพื้นกระแทกถูกก้อนหิน แมวป่าส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีอ่อนแรง

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 33.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 6.

    ทว่านางกลับมีหมาป่าสองสามตัวติดตามลงมาส่ง นางเดาว่าปีศาจภูเขาคงขู่บังคับให้ทำเช่นนี้ คิดได้ดังนั้นหัวใจนางก็ยิ่งเต้นรัว นางไม่อยากจากเขาไปไหนเลย เพียงแต่ว่าครั้งนี้ได้มาลาบิดามารดาก่อนจะไปอยู่กับเขาชั่วชีวิต แต่เขาเป็นปีศาจ หากผู้อื่นรู้เขาเกรงว่าครอบครัวของนางจะลำบาก ระหว่างเดินทาง นางจึงครุ่นคิดหาแผนการเพื่อให้ได้ออกจากบ้านอย่างไร้กังวลหญิงสาวลอบเข้าบ้านหลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอื่นผ่านมาเห็น เสียงไอโขลกๆ ของมารดาทำให้ฟางซินแทบทิ้งทุกสิ่งที่หอบมาเพื่อเข้าไปในเรือน บานประตูที่ถูกผลักออกโดยง่ายนั้น ทำให้มารดาที่นั่งปักผ้าอยู่เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าบุตรสาวคนเดียวที่หายไปร่วมเดือนก็ดีใจจนหลั่งน้ำตา“แม่คิดว่าเจ้า...เจ้า...”“ข้าไม่เป็นอะไรท่านแม่” นางวางข้าวของที่หอบลงมาจากเขา เปิดห่อผ้าหยิบโสมคนออกมาให้มารดา “นี่โสมคนชั้นเยี่ยม ข้าจะนำมาไปให้ท่านหมอปรุงยาให้ท่านแม่”“เจ้าไปเอาของพวกนี้มาจากไหน แล้วนี่...เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา ผู้อื่นลือกันว่าเจ้าตกเขาตายไปแล้ว”“เอ่อ...มีคนใจดีช่วยชีวิตข้าไว้” นางไม่อยากให้มารดารู้เรื่องที่เกือบถูกขืนใจ นางเองก็ไม่อยากคิดถึงเรื่องนั้นอีก “ข้า...ข้าข

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 32.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 5

    ฟางซินทั้งเขินอายและเสียวซ่าน นางผงกศีรษะขึ้นมอง เห็นเพียงศีรษะของเขาอยู่ตรงกลางหว่างขา นางอับอายเหลือเกินจึงพยายามดันศีรษะของเขาออก ทว่ารสสัมผัสที่เขามอบให้แสนเย้ายวนจนได้แต่ขยุ้มเส้นผมนุ่มสลวยที่นางบรรจงสางให้เขาอย่างดี เขาช้อนสะโพกนางให้ลอยขึ้น ถอนนิ้วเรียวออกแล้วห่อลิ้นแทรกเข้าไปแทนที่ น้ำหวานที่หลั่งออกมาทำให้ยิ่งฮึกเหิม เสียงครางกระเส่าของนางเสมือนรางวัลที่เขาตักตวงจากกายสาว สะโพกของนางลอยขึ้นจากพื้นโยกไหวตามอารมณ์รัญจวนที่เกิดขึ้น นางหลั่งน้ำหวานออกมามากล้นแต่ยังไม่เพียงพอสำหรับเขา เขาถอนลิ้นออกแล้วเปลี่ยนเป็นนิ้วเรียวสองนิ้วเข้าไป“อ๊า!” ฟางซินหลุดเสียงหวีดร้องออก สะบัดใบหน้าไปมา“เจ้า...ต้องพร้อมมากกว่านี้” เขาพูดเสียงแหบพร่า นิ้วร้ายยังคงเคลื่อนไหวเข้าออกนำพาน้ำหวานวาวใสให้หลั่งออกมาก ร่างกายของเขาแทบปริแตกด้วยความต้อง เขาจ้องมองร่างขาวเนียนบิดไปมาด้วยความรัญจวนจนกระทั่งร่างนางเกร็งและช่องทางที่แสนคับแคบบับรัดรุนแรงด้วยไปถึงจุดสุขสมฟางซินหวีดร้องอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายร้อนผ่าวและหลอมละลายด้วยน้ำมือของเขา เขาถอนนิ้วออกช้าๆ นางหอบหายใจแรงมองเห็นเขาส่งนิ้วที่เปื้อนเปรอะน้ำ

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 31.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 4

    “เปล่า” เขาส่ายหน้าไปมา “เป็นข้าที่ต้องดูแลเจ้า เจ้าถอดเสื้อผ้าสิ เร็วเข้า” “ไม่ เอ่อ...” เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายมีเจตนาดีไม่คิดรังแกนาง นางจึงยอมทำตามที่เขาสั่ง แต่การจะเปลือยกายต่อหน้าผู้อื่นนั้น นางไม่อาจทำได้ “เอาอย่างนี้ ท่านขึ้นจากน้ำไปก่อน ข้าจะถอดเสื้อผ้าในน้ำนี้” “อย่างนั้นรึ” เขาถามและนางก็พยักหน้ายืนยันแทนคำตอบ เขาจึงยอมเป็นฝ่ายขึ้นจากน้ำไปก่อน ฟางซินถอนหายใจโล่งอก ปีศาจตนนี้เอาใจไม่ยากนัก นิสัยคล้ายเด็กมากกว่า แต่นางก็ไม่เคยรู้จักปีศาจตนใดมาก่อนจึงไม่รู้ว่าปีศาจตนอื่นเป็นเช่นนี้หรือไม่ ฟางซินเห็นเขาหันหลังให้เหมือนยามที่นั่งหน้ากองไฟทุกค่ำคืน นางจึงถอดเสื้อผ้าที่เปียกน้ำนี่ออก ให้ร่างกายเปลือยเปล่าได้สัมผัสความอุ่นร้อนพอดีของสายน้ำ นางหลับตาอย่างผ่อนคลาย มันสบายอย่างนี้เองหรือ นางเผลอคลางออกมาอย่างไม่รู้ตัวแต่ประสาทการรับรู้ของปีศาจภูเขานั้นยอดเยี่ยม เขาหันขวับมามองด้วยความเป็นห่วง ทว่าภาพที่เห็นคือสาวงามเปลือกกายในสระน้ำ หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมาจากทรวงอก ดอกบัวคู่งามปริ่มน้ำชวนหลงใหล ผิวกายของนางแม้มีรอยบอบช้ำทว่ากลับน่ายื่นม

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 30.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 3

    ขึ้นเขาครั้งนี้เพราะหวังว่าจะหาโสมหรือสมุนไพรหายาก แต่ไม่คิดว่าจะเจอพวกคนในหมู่บ้านมาทำร้ายนางได้ นางหายออกจากบ้านมากี่วันแล้วนะ มีใครออกตามหานางบ้างไหม? มีคนเป็นห่วงนางหรือเปล่า? หรือคิดเพียงแค่ว่านางอาจหนีเอาตัวรอดทิ้งความยากจนไว้เบื้องหลัง เขารู้ว่าอาหารที่ตนทำไม่อร่อย แต่เห็นนางกินจนเกลี้ยงชามก็อดปิติยินดีไม่ได้ “ข้า...ข้ามาอยู่ที่นี่กี่วันแล้ว” “เจ็ดวัน” ปีศาจตอบ “ฝนตกติดต่อกัน หนักบ้างเบาบ้าง” “อย่างนั้นหรือ?” นางถามเหมือนรำพึงไม่ต้องการคำตอบ แต่ถ้าได้อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ คงดีไม่น้อย ไม่ต้องกลับไปเผชิญเรื่องเลวร้ายใดอีก เห็นท่าทางนิ่งงันของนางแล้ว ปีศาจภูเขารู้สึกใจคอไม่ดีนัก เขายื่นมือไปแตะแขนนางเบาๆ ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาเขา มุมปากค่อยๆ คลี่ยิ้มอ่อนหวานทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง “ข้า...ข้าอยากอาบน้ำ” “อาบน้ำ?” เขาทำหน้างุนงงไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ “ได้ๆ ตอนนี้ไม่มีฝนแล้ว ข้าจะพาไปที่สระน้ำกลางป่า มีน้ำพุร้อน ที่นั้นจะช่วยรักษาบาดแผลให้เจ้าได้” “น้ำพุ

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 29.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 2

    พายุฝนกระหน่ำทำเอาหญิงสาวต้องขดตัวกลมเพื่อปกป้องความเหน็บหนาวที่ถาโถมเข้าใส่ เสื้อผ้าบนร่างนั้นทั้งเก่าและขาดวิ่นแทบปกปิดเนินอกสล้างนั้นไม่ได้เลย หญิงสาวได้สติเมื่อผ้าผืนชุบน้ำผืนหนึ่งบรรจงเช็ดใบหน้าให้อย่างระวังว่ากรงเล็บจะถูกผิวกายของนาง หญิงสาวได้สติเพราะลมเย็นพัดผ่านผิวกาย มือเล็กยกขึ้นปกปิดทรวงอกไว้ เงาดำนั้นผงะเล็กน้อยแล้วถอยห่าง ฟางซินรู้สึกได้ว่าเงาดำนั้นก้าวออกไปจากบริเวณนั้นแล้ว นางจึงลุกขึ้นนั่ง ก้มมองสภาพตัวเองที่เสื้อผ้าแทบจะปกปิดอะไรไม่ได้เลย นางหยิบผ้าที่ที่วางในอ่างเล็กๆ นั้น ชุบน้ำแล้วเช็ดที่ใบหน้าและแขน แสงไฟจากกองไฟทำให้เห็นว่านางนั่งอยู่บนพรมหนังสัตว์ในถ้ำแห่งหนึ่ง ด้านนอกคงมีพายุฝนโหมกระหน่ำ นางอยู่ด้านในได้ยินเพียงเสียงฟ้าร้องคำรามและไอเย็นแผ่กระจายเข้ามา นางไม่กล้ามองเท้าขวาของตนเองเลย เจ็บจนน้ำตาร่วง และยิ่งคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นางก็ยิ่งขวัญเสีย “จะ...เจ็บ...เจ็บมากรึ” ฟางซินได้ยินเสียงแหบแห้งจากด้านหลัง ร่างใหญ่โตนั้นแทบบดบังแสงสว่างจากกองไฟหมดสิ้น นางอ้าปากแต่พูดไม่ออก มีเพียงเสียงสะอึกสะอื้นหลุดจากริมฝ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status