แชร์

Chapter 6. ไม่ถูกใจรึ

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-27 01:16:56

“เช่นนั้น...”  นางอ้าปากแต่ยังพูดได้เพียงสองคำ เขาก็ยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อน ครู่หนึ่งแม่นมเหมยกุ้ยเข้ามาพร้อมหญิงรับใช้ที่นำเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้จางฟางซินผลัดเปลี่ยน  แม่นมเหมยกุ้ยพยักหน้าให้บ่าวรับใช้ออกไปก่อน เมื่อเหลือเพียงสามคนนางจึงเอ่ยขึ้น

“แม่นางได้สติดีแล้ว ข้าจึงจัดเตรียมเสื้อผ้ามาให้”  

“ขอบคุณแม่นมเหมยกุ้ยมากเจ้าค่ะ”  นางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หลายวันมานี้ท่านลำบากเพราะข้าแท้ๆ ข้าวของเครื่องใช้ของข้าอยู่ในรถม้า”

“ในรถม้ามีของสำคัญใดหรือไม่ ข้าส่งคนออกไปดูไม่พบสิ่งใด พวกโจรคงขโมยไปหมดแล้ว”

จางฟางซินส่ายหน้าไปมา “นอกจากเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวแล้วไม่มีสิ่งอื่นเจ้าค่ะ โจรกลุ่มนั้นคงปล้นเสียเทียวแล้ว”

‘ตัวข้าสำคัญที่สุดแล้ว’ นางไม่ได้พูดสิ่งที่คิดออกไป เกรงว่าเขาจะเห็นว่านางเป็นคนชอบเยินยอตัวเอง  

ยังไม่ทันพูดอะไรต่อเด็กรับใช้ประคองถ้วยยาเข้ามา หญิงสาวยิ้มค้าง ดวงตาจ้องมองหลัวหลิวหยางเป็นเชิงถาม นี่นางต้องดื่มยาอีกแล้วหรือ? ปกตินางเป็นคนแข็งแรงจนน้องชายหยอกล้อว่านางแข็งแรงเหมือนวัว ร้อยวันพันปีจะเจ็บป่วยสักครั้ง หากไม่นับข้อเท้าของนางที่เจ็บหนัก นางคิดว่าตัวเองแข็งแรงดีแล้วจริงๆ  

หลัวหลิวหยางรับถ้วยถือด้วยมือข้างเดียวแล้วช่วยพยุงนางขึ้น  ยกถ้วยยาขึ้นจ่อริมฝีปากที่ยังมีร่องรอยบาดแผล ดวงตาของนางฉายความไม่พอใจชัดเจน แต่เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็น บังคับให้นางค่อยๆ จิบยาอย่างยากลำบาก  รสขมเฝือดคอทำให้นางแตะหลังมือที่จับถ้วยยาเป็นเชิงบอกให้เขาหยุดก่อน นางประคองถ้วยยาด้วยตนเอง ยาขมร้ายกาจแล้วยังให้นางจิบที่ละนิดนี่มันช่างชั่วช้าเหลือเกิน  นางรับถ้วยยามาแล้วกระดกดื่มรวดเดียวหมดชาม แม้กิริยาไม่น่ามองนัก แต่นางเลือกจะตายดาบเดียวดีกว่าถูกทรมานด้วยการจิบยาที่ละนิดเช่นนี้  

แม่นมเหมยกุ้ยลอบมองสีหน้าของหลัวหลิวหยาง แม้เขาจะไม่แสดงอาการใด แต่นางสัมผัสได้ว่าสตรีผู้นี้เป็นคนพิเศษจริงๆ แม้ท่านแม่ทัพจะอธิบายฐานะของจางฟางซินแล้ว แต่สายตาของหญิงที่ผ่านร้อนผ่านหนาวอย่างนางย่อมมองเห็นประกายตาของแม่ทัพหนุ่ม

“ข้าเตรียมเสื้อผ้าและเครื่องใช้ส่วนตัวมาให้แม่นางฟางแล้ว” แม่นมพูดขึ้นแล้วหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งมาวางบนตักของจางฟางซิน “หวังว่าแม่นางจะชอบ” 

“รบกวนท่านมากแล้ว ท่านเรียกข้าว่าฟางซินก็ได้เจ้าค่ะ” นางยิ้มพลางคลี่เสื้อผ้าออกดู เดิมทีนางเพียงคิดว่าจะดูว่าชุดนี้พอดีกับรูปร่างของนางหรือไม่ ทว่าเมื่อคลี่ชุดกระโปรงสีขาวไข่มุกปักลายผีเสื้อโบยบินล้อมดอกเบญจมาศ  แม้ว่าพ่อบุญธรรมเลี้ยงดูนางกับน้องชายอย่างดีแต่นางเป็นคนสมถะแต่งกายเรียบง่าย ในขณะที่น้องชายมักชอบทำตัวเป็นคุณชายเจ้าสำอาง นางจึงไม่ค่อยมีเสื้อผ้าเครื่องประดับหรูหรา หากนางต้องเสียเงินจริง นางยอมเก็บเงินทุกอีแปะไว้เพื่อซื้อตำราที่อยากได้มากกว่า

“ไม่ถูกใจหรือ? เช่นนั้นลองดูชุดนี้เป็นไร”  แม่นมเอื้อมมือไปหยิบชุดสีชมพูหวานปักลายดอกไม้เล็กๆ สีขาว ยื่นให้จางฟางซิน

“ไม่ใช่ว่าข้าไม่พอใจ” นางรีบพูดขึ้น “เพียงแต่มันสวยงามมาก ขอสารภาพว่าปกติข้าสวมเสื้อผ้าบุรุษมากกว่าสตรี จึงรู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควรกับเสื้อผ้าที่แม่นมนำมาให้”

ได้ฟังเหตุผลของจางฟางซินแล้ว แม่นมเหมยกุ้ยพลันหัวเราะเบาๆ

“เสื้อผ้าเหล่านี้ข้าเลือกให้ เพราะเห็นว่าเจ้าต้องเป็นคนที่ฮูหยินส่งมาปรนนิบัติดูแลท่านแม่ทัพ แม่นางจางก็ฝืนใจแต่งกายให้งดงามสักนิดเถิด เพื่อที่ผู้อื่นจะได้ไม่เข้าใจว่าท่านแม่ทัพนิยมบุรุษด้วยกันเอง”

“แค่กๆ “  หลัวหลิวหยางสำลักน้ำลายตัวเอง ดูจากข้าวของที่แม่นมตระเตรียมมาให้นั้น แม่นมคงจริงจังกับสถานะกำมะลอของจากฟางซิน 

“เป็นข้าที่คิดน้อยเกินไป ต้องขอบคุณแม่นมเหมยกุ้ยที่เป็นธุระจัดการให้”

นางลืมไปเสียสนิท ฐานะปลอมๆ ที่นางเสนอเขาไปซึ่งท่านแม่ทัพก็เห็นดีให้เป็นเช่นนั้น  เขาเป็นแม่ทัพองอาจห้าวหาญ สตรีที่จะเคียงข้างแม้ในฐานะหญิงอุ่นเตียงก็ควรจะหน้าตาดีสักหน่อย ไม่เช่นนั้นผู้อื่นคงมองว่าเขาเป็นบุรุษกินไม่เลือก คว้าอะไรก็เอามาอุ่นเตียงได้หมด

“ข้าเตรียมเด็กรับใช้ให้แม่นางจางด้วย ชื่อเสี่ยวจิ้ง หากแม่นางจางต้องการสิ่งใดสามารถสั่งเสี่ยวจิ้งได้ทันที”

“ขอบคุณมาก”  

“อีกประเดี๋ยวจะได้เวลากินมื้อเที่ยง ไม่ทราบว่าท่านแม่ทัพจะรับมื้อเที่ยงที่ไหนเจ้าคะ”

“จัดมาที่นี่ก็ได้ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับนาง”

“เช่นนั้นข้าจัดของแม่นางจางมาพร้อมท่านแม่ทัพเลยนะเจ้าคะ”

หลัวหลิวหยางพยักหน้ารับ แม่นมเหมยกุ้ยยิ้มให้แล้วเดินออกไป ทั้งสองเผลอถอนหายใจออกมาพร้อมกัน เสียงถอนหายใจนั้นทำให้นางเงยหน้ามองเขาแล้วทั้งสองก็หัวเราะออกมา  

“อย่าถือสานางเลย แม่นมเหมยกุ้ยดูแลข้ามาตั้งแต่เด็ก เดิมทีครอบครัวเป็นแค่ครอบครัวชาวนาก็จริง แต่แม่นมเหมยกุ้ยเป็นญาติห่างๆ ของมารดาข้า คราวนั้นสามีของนางตายจาก ทางบ้านของสามีก็ไม่ใคร่อยากให้นางอยู่ร่วมชายคาจึงเดินทางบากหน้ามาขออาศัยกับมารดาของข้า ซึ่งตอนนั้นข้าเกิดพอดี ท่านแม่เลยให้ช่วยเลี้ยงข้า ข้าเลยกลายเป็นเด็กที่มีแม่นม”

“มารดาข้าตายจากตั้งแต่ข้ายังเด็ก แต่ก็มีมารดาของฟางหรงดูแลจนกระทั้งเราเหลือกันเพียงสองคนพี่น้อง บิดาของข้าฝากฝังข้ากับน้องชายให้ท่านอาจารย์หยางอี้เสียงดูแล ท่านเอ็นดูเราสองคนพี่น้องมาก รับเราทั้งสองเป็นบุตรบุญธรรม ข้าจึงได้เรียนเขียนอ่านจากพ่อบุญธรรม”

“ท่านอาจารย์จิตใจประเสริฐนัก” เขาเผลอยิ้มเมื่อนึกถึงวัยเด็กของตน “หากไม่ใช่เพราะความเมตตาของท่าน ข้าคงไม่มีวันนี้”

“เป็นเพราะท่านมีความเพียรพยายามด้วย” นางยิ้มให้เขา “พ่อบุญธรรมชอบเล่าเรื่องของท่านให้ฟังอยู่บ่อยๆ”

เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย พิศมองใบหน้าที่ยังมีร่องรอยบอบช้ำ เขาพบเห็นสตรีงดงามมามาก แน่นอนว่านางมิได้ครอบครองความงามพิลาศล้ำ แต่มีบางอย่างที่ทำให้คนอยู่ใกล้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย อาจเป็นท่วงท่าที่ดูสบายๆ ของนางเอง ทำให้เขารู้สึกสนทนากับสหายมิใช่บุรุษกับสตรีที่ต้องคอยรักษาระยะห่าง

“ข้าเองก็ไม่แปลกใจที่เจ้าเป็นเช่นนี้”

“ข้าเป็นเช่นนี้? ท่านแม่ทัพหมายความว่าอย่างไร”

“เป็นสตรีที่แต่งกายเป็นบุรุษแล้วเดินทางตามลำพังมาเพื่อแจ้งเตือนข้าเรื่องอนุชาแห่งแคว้นเหยี่ยนหรือ?”

นางพยักหน้ารับ “องค์รัชทายาทกำชับมาว่า ท่านจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด ในเมืองหลวงเวลานี้ ภายนอกมองว่าสงบสุข แต่มีผู้ที่ต้องการกำจัดพระองค์โดยร่วมมือกับแคว้นเหยี่ยน”

“ท่านแม่ทัพคิดว่า โจรป่าที่ปราบไม่สำเร็จนี้จะเกี่ยวกับเรื่องระหว่างแคว้นหรือไม่”

เป็นอีกครั้งที่นางทำให้เขาเขาประหลาดใจ เพราะสิ่งที่นางพูดคือสิ่งที่เขาคิด ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร แม่นมเหมยกุ้ยก็เข้ามาพร้อมสำรับอาหาร ทั้งสองจึงยุติบทสนทนา แม่นมเหมยกุ้ยดูแลจนบ่าวไพร่จัดวางอาหารเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกไป จางฟางซินขยับตัวหมายจะลุกไปที่โต๊ะอาหาร แต่การขยับเท้าเล็กน้อยก็ทำให้นางเจ็บจนหน้านิ่วคิ้วขมวด นางกัดฟันกลั้นเสียงร้อง ไม่อยากให้ผู้ใดเห็นความอ่อนแอของนาง ทว่าหลัวหลิวหยางกลับลุกขึ้นแล้วโน้มตัวลงอุ้มนางขึ้น  นางอ้าปากจะร้องห้ามขยับตัวดิ้นรนแต่เขาชิงพูดออกมาเสียก่อน  

“อย่าทำแบบนี้จะดีกว่า” เขาเตือน ก้าวเดินไม่กี่ก้าวก็พานางมานั่งที่เก้าอี้ “เจ้าควรอยู่นิ่งๆ”  

“เกรงว่าข้าจะไม่คุ้นชินกับการถูกผู้อื่นปรนนิบัติ” นางอดพูดไม่ได้ หวังใจว่าหน้าของนางยามนี้คงไม่แดงจัดเหมือนถ่านร้อนๆ ในเตาฟื้น

“จะเป็นผู้หญิงของข้า เรื่องแค่นี้เจ้าควรทำตัวให้คุ้นเคย” เขาพูดด้วยท่าทีเรียบๆ คล้ายไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ทำลงไป  

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 34.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ จบ

    “ก็...ก็ใช่นะสิ เป็นของนายของข้ามอบให้มา” นางพยายามดิ้นรนแต่กลับถูกท่อนแขนรัดเอวนางแน่นขึ้นจนเผลอร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา“นายเจ้าเป็นเศรษฐีที่ถูกหายตัวไปเมื่อสองเดือนก่อนรึ จุ๊ๆ เจ้าอย่ามาโกหกเลย บอกมาเถอะว่ารถม้าคันนั้นอยู่ที่ใด สมบัติในรถคันนั้นต้องมีมากกว่าที่เจ้าขนลงไปแน่”ฟางซินแตกตื่นจนพูดไม่ออก ยังไม่ทันคิดหาวิธีเอาตัวรอด ร่างของนางถูกเหวี่ยงลงพื้น หญิงสาวทั้งเจ็บและจุก พยายามดิ้นรนแต่ชายคนหนึ่งกลับคร่อมร่างนางไว้และอีกสองคนยึดแขนคนละข้าง เหตุการณ์กลับมาซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง นางนึกถึงเพียงใบหน้าของปีศาจภูเขา แต่นี่อยู่นอกเขตอาคม เขาไม่อาจออกมาช่วยนางได้ไม่! เขาจะออกมานอกเขตอาคมไม่ได้! เขาอาจจะตาย! และถ้ามีคนรู้ว่าปีศาจภูเขามีอยู่จริง จะต้องถูกชาวบ้านเชิญนักพรตมาสังหารเป็นแน่! นางยอมให้เขาเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด!“โอ๊ย!”แมวป่าตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่คนที่คร่อมร่างหญิงสาวอยู่ กรงเล็บของมันทำให้ใบหน้าของคนผู้นั้นเป็นรอยแผล และเพราะความเจ็บปวดที่ทำให้รับทำให้ชายคนนั้นจับแมวป่าตัวนั้นออกจากร่างของตนแล้วทุ่มลงบนพื้นกระแทกถูกก้อนหิน แมวป่าส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีอ่อนแรง

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 33.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 6.

    ทว่านางกลับมีหมาป่าสองสามตัวติดตามลงมาส่ง นางเดาว่าปีศาจภูเขาคงขู่บังคับให้ทำเช่นนี้ คิดได้ดังนั้นหัวใจนางก็ยิ่งเต้นรัว นางไม่อยากจากเขาไปไหนเลย เพียงแต่ว่าครั้งนี้ได้มาลาบิดามารดาก่อนจะไปอยู่กับเขาชั่วชีวิต แต่เขาเป็นปีศาจ หากผู้อื่นรู้เขาเกรงว่าครอบครัวของนางจะลำบาก ระหว่างเดินทาง นางจึงครุ่นคิดหาแผนการเพื่อให้ได้ออกจากบ้านอย่างไร้กังวลหญิงสาวลอบเข้าบ้านหลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอื่นผ่านมาเห็น เสียงไอโขลกๆ ของมารดาทำให้ฟางซินแทบทิ้งทุกสิ่งที่หอบมาเพื่อเข้าไปในเรือน บานประตูที่ถูกผลักออกโดยง่ายนั้น ทำให้มารดาที่นั่งปักผ้าอยู่เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าบุตรสาวคนเดียวที่หายไปร่วมเดือนก็ดีใจจนหลั่งน้ำตา“แม่คิดว่าเจ้า...เจ้า...”“ข้าไม่เป็นอะไรท่านแม่” นางวางข้าวของที่หอบลงมาจากเขา เปิดห่อผ้าหยิบโสมคนออกมาให้มารดา “นี่โสมคนชั้นเยี่ยม ข้าจะนำมาไปให้ท่านหมอปรุงยาให้ท่านแม่”“เจ้าไปเอาของพวกนี้มาจากไหน แล้วนี่...เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา ผู้อื่นลือกันว่าเจ้าตกเขาตายไปแล้ว”“เอ่อ...มีคนใจดีช่วยชีวิตข้าไว้” นางไม่อยากให้มารดารู้เรื่องที่เกือบถูกขืนใจ นางเองก็ไม่อยากคิดถึงเรื่องนั้นอีก “ข้า...ข้าข

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 32.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 5

    ฟางซินทั้งเขินอายและเสียวซ่าน นางผงกศีรษะขึ้นมอง เห็นเพียงศีรษะของเขาอยู่ตรงกลางหว่างขา นางอับอายเหลือเกินจึงพยายามดันศีรษะของเขาออก ทว่ารสสัมผัสที่เขามอบให้แสนเย้ายวนจนได้แต่ขยุ้มเส้นผมนุ่มสลวยที่นางบรรจงสางให้เขาอย่างดี เขาช้อนสะโพกนางให้ลอยขึ้น ถอนนิ้วเรียวออกแล้วห่อลิ้นแทรกเข้าไปแทนที่ น้ำหวานที่หลั่งออกมาทำให้ยิ่งฮึกเหิม เสียงครางกระเส่าของนางเสมือนรางวัลที่เขาตักตวงจากกายสาว สะโพกของนางลอยขึ้นจากพื้นโยกไหวตามอารมณ์รัญจวนที่เกิดขึ้น นางหลั่งน้ำหวานออกมามากล้นแต่ยังไม่เพียงพอสำหรับเขา เขาถอนลิ้นออกแล้วเปลี่ยนเป็นนิ้วเรียวสองนิ้วเข้าไป“อ๊า!” ฟางซินหลุดเสียงหวีดร้องออก สะบัดใบหน้าไปมา“เจ้า...ต้องพร้อมมากกว่านี้” เขาพูดเสียงแหบพร่า นิ้วร้ายยังคงเคลื่อนไหวเข้าออกนำพาน้ำหวานวาวใสให้หลั่งออกมาก ร่างกายของเขาแทบปริแตกด้วยความต้อง เขาจ้องมองร่างขาวเนียนบิดไปมาด้วยความรัญจวนจนกระทั่งร่างนางเกร็งและช่องทางที่แสนคับแคบบับรัดรุนแรงด้วยไปถึงจุดสุขสมฟางซินหวีดร้องอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายร้อนผ่าวและหลอมละลายด้วยน้ำมือของเขา เขาถอนนิ้วออกช้าๆ นางหอบหายใจแรงมองเห็นเขาส่งนิ้วที่เปื้อนเปรอะน้ำ

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 31.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 4

    “เปล่า” เขาส่ายหน้าไปมา “เป็นข้าที่ต้องดูแลเจ้า เจ้าถอดเสื้อผ้าสิ เร็วเข้า” “ไม่ เอ่อ...” เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายมีเจตนาดีไม่คิดรังแกนาง นางจึงยอมทำตามที่เขาสั่ง แต่การจะเปลือยกายต่อหน้าผู้อื่นนั้น นางไม่อาจทำได้ “เอาอย่างนี้ ท่านขึ้นจากน้ำไปก่อน ข้าจะถอดเสื้อผ้าในน้ำนี้” “อย่างนั้นรึ” เขาถามและนางก็พยักหน้ายืนยันแทนคำตอบ เขาจึงยอมเป็นฝ่ายขึ้นจากน้ำไปก่อน ฟางซินถอนหายใจโล่งอก ปีศาจตนนี้เอาใจไม่ยากนัก นิสัยคล้ายเด็กมากกว่า แต่นางก็ไม่เคยรู้จักปีศาจตนใดมาก่อนจึงไม่รู้ว่าปีศาจตนอื่นเป็นเช่นนี้หรือไม่ ฟางซินเห็นเขาหันหลังให้เหมือนยามที่นั่งหน้ากองไฟทุกค่ำคืน นางจึงถอดเสื้อผ้าที่เปียกน้ำนี่ออก ให้ร่างกายเปลือยเปล่าได้สัมผัสความอุ่นร้อนพอดีของสายน้ำ นางหลับตาอย่างผ่อนคลาย มันสบายอย่างนี้เองหรือ นางเผลอคลางออกมาอย่างไม่รู้ตัวแต่ประสาทการรับรู้ของปีศาจภูเขานั้นยอดเยี่ยม เขาหันขวับมามองด้วยความเป็นห่วง ทว่าภาพที่เห็นคือสาวงามเปลือกกายในสระน้ำ หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมาจากทรวงอก ดอกบัวคู่งามปริ่มน้ำชวนหลงใหล ผิวกายของนางแม้มีรอยบอบช้ำทว่ากลับน่ายื่นม

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 30.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 3

    ขึ้นเขาครั้งนี้เพราะหวังว่าจะหาโสมหรือสมุนไพรหายาก แต่ไม่คิดว่าจะเจอพวกคนในหมู่บ้านมาทำร้ายนางได้ นางหายออกจากบ้านมากี่วันแล้วนะ มีใครออกตามหานางบ้างไหม? มีคนเป็นห่วงนางหรือเปล่า? หรือคิดเพียงแค่ว่านางอาจหนีเอาตัวรอดทิ้งความยากจนไว้เบื้องหลัง เขารู้ว่าอาหารที่ตนทำไม่อร่อย แต่เห็นนางกินจนเกลี้ยงชามก็อดปิติยินดีไม่ได้ “ข้า...ข้ามาอยู่ที่นี่กี่วันแล้ว” “เจ็ดวัน” ปีศาจตอบ “ฝนตกติดต่อกัน หนักบ้างเบาบ้าง” “อย่างนั้นหรือ?” นางถามเหมือนรำพึงไม่ต้องการคำตอบ แต่ถ้าได้อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ คงดีไม่น้อย ไม่ต้องกลับไปเผชิญเรื่องเลวร้ายใดอีก เห็นท่าทางนิ่งงันของนางแล้ว ปีศาจภูเขารู้สึกใจคอไม่ดีนัก เขายื่นมือไปแตะแขนนางเบาๆ ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาเขา มุมปากค่อยๆ คลี่ยิ้มอ่อนหวานทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง “ข้า...ข้าอยากอาบน้ำ” “อาบน้ำ?” เขาทำหน้างุนงงไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ “ได้ๆ ตอนนี้ไม่มีฝนแล้ว ข้าจะพาไปที่สระน้ำกลางป่า มีน้ำพุร้อน ที่นั้นจะช่วยรักษาบาดแผลให้เจ้าได้” “น้ำพุ

  • ปกรณัมใต้แสงดาว   Chapter 29.ภาคปิศาจภูเขาหิมะ 2

    พายุฝนกระหน่ำทำเอาหญิงสาวต้องขดตัวกลมเพื่อปกป้องความเหน็บหนาวที่ถาโถมเข้าใส่ เสื้อผ้าบนร่างนั้นทั้งเก่าและขาดวิ่นแทบปกปิดเนินอกสล้างนั้นไม่ได้เลย หญิงสาวได้สติเมื่อผ้าผืนชุบน้ำผืนหนึ่งบรรจงเช็ดใบหน้าให้อย่างระวังว่ากรงเล็บจะถูกผิวกายของนาง หญิงสาวได้สติเพราะลมเย็นพัดผ่านผิวกาย มือเล็กยกขึ้นปกปิดทรวงอกไว้ เงาดำนั้นผงะเล็กน้อยแล้วถอยห่าง ฟางซินรู้สึกได้ว่าเงาดำนั้นก้าวออกไปจากบริเวณนั้นแล้ว นางจึงลุกขึ้นนั่ง ก้มมองสภาพตัวเองที่เสื้อผ้าแทบจะปกปิดอะไรไม่ได้เลย นางหยิบผ้าที่ที่วางในอ่างเล็กๆ นั้น ชุบน้ำแล้วเช็ดที่ใบหน้าและแขน แสงไฟจากกองไฟทำให้เห็นว่านางนั่งอยู่บนพรมหนังสัตว์ในถ้ำแห่งหนึ่ง ด้านนอกคงมีพายุฝนโหมกระหน่ำ นางอยู่ด้านในได้ยินเพียงเสียงฟ้าร้องคำรามและไอเย็นแผ่กระจายเข้ามา นางไม่กล้ามองเท้าขวาของตนเองเลย เจ็บจนน้ำตาร่วง และยิ่งคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นางก็ยิ่งขวัญเสีย “จะ...เจ็บ...เจ็บมากรึ” ฟางซินได้ยินเสียงแหบแห้งจากด้านหลัง ร่างใหญ่โตนั้นแทบบดบังแสงสว่างจากกองไฟหมดสิ้น นางอ้าปากแต่พูดไม่ออก มีเพียงเสียงสะอึกสะอื้นหลุดจากริมฝ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status