1 สัปดาห์ต่อมา
ฉัันยังคงมาทำงานตามปกติเหมือนทุกวันแต่ที่ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คือการทำงานของฉันดูราบลื่นขึ้นมากและได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยๆ แถมพนักงานหลายๆ คนก็เริ่มให้ความการเคารพฉันในฐานะเลขาของคุณทศบ้างแล้วจากที่ตอนแรกดูจะตึงๆ และไม่ชอบฉันอย่างเห็นได้ชัด "คุณดาวหลังจากที่ทีมการตลาดได้โฆษณาออกไปผลตอบรับของโครงการหมู่บ้านที่พัทยาเป็นยังบ้าง" คุณทศถาม "ดีมากเลยค่ะคุณทศ ตอนนี้ลูกค้ากำลังให้ความสนใจโครงการของเราเป็นอย่างมากแล้วก็มีสปอนเซอร์รายใหญ่ติดต่อมาหลายบริษัทเลยค่ะ" "งั้นก็ดีแล้ว คุณไปทำงานต่อเถอะ" คุณทศพูดจบฉันก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาแล้วมานั่งทำงานของตัวเองต่อเหมือนเดิม พอใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันฉันก็กดสั่งอาหารมาไว้ให้เขาตามปกติก่อนจะลงไปทานมื้อกลางวันของตัวเองที่โรงอาหาร โรงอาหาร ทุกคนนั่งทานอาหารกลางวันและพูดคุยกันถึงปัญหาต่างๆ ในแต่ละวันกันอย่างสนุกสนานมีทั้งเรื่องรถติดบ้าง ทะเลาะกับสามีบ้าง มีปัญหาหากับเพื่อนร่วมงานบ้าง "น้องดาวเย็นนี้ว่างไหมจ๊ะ" พี่เจนถาม ก็ว่างนะคะพี่เจน พอดีดาวไม่ได้มีงานด่วนอะไรด้วย" ฉันตอบ งั้นน้องดาวไปกับพวกเราไหม" พี่เจนถาม "พวกพี่จะไปไหนกันหรอคะ" "ก็ก่อนที่น้องดาวจะลงมาเนี่ยพวกเราปรึกษากันว่าวันนี้หลังจากเลิกงานแล้วพวกเราจะไปซื้อของที่ห้างแล้วก็กินเลี้ยงฉลองกันนิดหน่อยน่ะ...น้องดาวไปกันพวกเรานะ" พี่แหม่มตอบ "ได้สิค่ะว่าแต่พวกพี่จะไปซื้ออะไรกันหรอคะ" คืออย่างงี้ครับน้องดาว พรุ่งนี้เป็นวันวาเลนไทน์พวกเราเลยกะจะไปซื้อช็อกโกแลตกับของขวัญเล็กๆ น้อยไว้ให้สำหรับคนสำคัญ ๆ ของพวกเราน่ะ" พี่บอสตอบ "อ๋อ~อย่างนี้นี่เอง...แล้วพี่นุ่นกับคุณชัชไปด้วยกันไหมคะ" "พี่กับสามีไม่ค่อยมีโมเม้นหวานๆ ให้กันหรอกจ่ะแล้วก็คงไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นด้วย...พี่เขิน" พี่นุ่นตอบ "ส่วนผมก็ยังไม่มีแฟนครับเลยไม่รู้จะซื้อไปทำไม" คุณชัชตอบ "วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักก็จริงแต่ก็ไม่ได้กำหนดนิคะว่าเป็นวันของคู่รักอย่างเดียว มันน่าจะหมายถึงวันที่ใช้แสดงความรักกันเฉย ๆ ทั้งในรูปแบบคนรัก เพื่อนหรือว่าครอบครัว ดาวคิดว่าคุณชัชเป็นผู้ชายปกติน่าจะเขินถ้าต้องบอกใครสักคนแม้กระทั่งคนในครอบครัวแต่ว่าถ้าคุณชัชลองใช้วันสำคัญแบบนี้บอกความรู้สึกของตัวเองออกไปมันก็น่าจะช่วยได้เยอะเลยว่าไหมคะ" "ผมก็ไม่รู้จะไปบอกใครอยู่ดีอ่ะครับ" คุณชัชทำหน้างงเหมือนไม่ค่อยเข้าใจที่ฉันพูด ฉันเลยส่งยิ้มให้คุณชัช "ก็คุณป้าของคุณชัชไงคะ ถ้าคุณชัชลองแสดงออกให้คุณป้าของคุณชัชรู้ว่าคุณชัชรักเธอมากขนาดไหน ดาวว่าเธอคงจะมีความสุขไม่น้อยเลย" คุณชัชยิ้มออกมาด้วยใบหน้าเขินๆ "ก็ดีเหมือนกันนะครับ ขอบคุณนะครับคุณดาว" คุณชัชตอบ "แล้วน้องดาวละจ๊ะจะซื้ออะไรให้แฟนบ้าง" พี่เจนถาม ฉันรู้สึกเขินกับคำถามเลยได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกไป "ดาวเองก็ยังไม่มีแฟนเหมือนกันค่ะ ที่จะไปด้วยก็เพื่อไปซื้อของขวัญให้แม่กับป้าน้อยเฉย ๆ" ฉันตอบ "ถึงแม้ท่านประธานจะไม่ชอบทานของหวานจากร้านอื่นแต่ว่าถ้าเป็นช็อกโกแลตเนี่ย...ผมว่าท่านประธานอาจจะชอบก็ได้นะครับ" อยู่ดีๆ คุณชัชก็พูดขึ้นมาซะงั้นทำเอาทุกคนบนโต๊ะทำหน้างงไปตาม ๆ กันเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณชัชถึงพูดออกมาแบบนั้นแต่มันกลับรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่าทุกคนกำลังมองมาที่ฉันเป็นตาเดียวกันฉันหันซ้ายหันขวาสบตากับทุกคนก่อนที่จะหันกลับมาหาคุณชัช "เอ่อ...คุ...คุณชัชบอกดาวทำไมคะ" ฉันถาม "เอ้า~ ก็ผมเห็นว่าช่วงนี้คุณดาวกับท่านประธานดูสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษหนิครับ" คุณชัชตอบพร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อย ตอนนี้ฉันอยากจะลุกออกจากโต๊ะไปให้พ้นๆ หน้าทุกคนเลยเพราะสายตาของทุกคนดูพยายามเค้นเอาคำตอบจากฉันสุดๆ "นั่นนะสิน้องดาว พี่ก็อยากรู้ว่าน้องดาวกับท่านประธานเนี่ยสรุปแล้วยังไงแน่" พี่แหม่มถาม "กะ...ก็ไม่มีอะไรนิคะ แค่เจ้านายกับลูกน้องปกติทั่วไปนั่นแหละ" "แหน่ะ! ใช่หรือเปล่าจ๊ะ" ทุกคนยิ้มและก็ถามฉันกันใหญ่จนฉันทำตัวไม่ถูก "โอ้ย~ดาวไม่คุยกับทุกคนแล้วดาวขึ้นไปทำงานต่อดีกว่า" พูดจบฉันก็ลุกออกจากโต๊ะเตรียมจะหนีทุกคนทันที "เขินหรอจ๊ะน้องดาว ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เสียงพี่แหม่มตะโกนตามหลังมา ฉันเลยรีบเดินสาวเท้าหนียาวๆ พอฉันขึ้นมาข้างบนก็เดินตรงไปที่ห้องของคุณทศทันที ก๊อกๆๆ "ดาวเองค่ะคุณทศ" "เข้ามา" ฉันเปิดประตูเข้ามาเห็นว่าคุณทศกำลังนอนพักอยู่ที่เก้าอี้นวดอย่างสบายใจ "ดาวมาเก็บจานค่ะ" "ทำไมวันนี้ขึ้นมาเก็บเร็วจัง" 'อ๋อคือ..." อยู่ดีๆ ก็นึกถึงเรื่องที่โดนแซวเมื่อกี้ขึ้นมาเฉยเลย "เป็นอะไรทำไมหน้าแดงขนาดนั้นไม่สบายหรือเปล่า" "เปล่าค่ะ ดาวแค่มีงานค้างที่จะต้องทำให้เสร็จกห็เลยรีบทานแล้วรีบขึ้นมาทำงานต่อเฉยๆ ค่ะ" คุณทศพยักหน้าแล้วเอนหลังลงไปนอนเหมือนเดิม ฉันรีบเก็บแล้วรีบออกจากห้องทันทีขืนอยู่นานมีหวังหัวใจวายตายแน่ๆ "นี่เราชอบเขาจริงเหรอว่ะเนี่ย" ฉันถามตัวเองด้วยความสับสนก่อนจะเอาของไปเก็บแล้วกลับมานั่งทำงานเหมือนเดิม1 สัปดาห์ต่อมาฉัันยังคงมาทำงานตามปกติเหมือนทุกวันแต่ที่ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คือการทำงานของฉันดูราบลื่นขึ้นมากและได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยๆ แถมพนักงานหลายๆ คนก็เริ่มให้ความการเคารพฉันในฐานะเลขาของคุณทศบ้างแล้วจากที่ตอนแรกดูจะตึงๆ และไม่ชอบฉันอย่างเห็นได้ชัด"คุณดาวหลังจากที่ทีมการตลาดได้โฆษณาออกไปผลตอบรับของโครงการหมู่บ้านที่พัทยาเป็นยังบ้าง" คุณทศถาม"ดีมากเลยค่ะคุณทศ ตอนนี้ลูกค้ากำลังให้ความสนใจโครงการของเราเป็นอย่างมากแล้วก็มีสปอนเซอร์รายใหญ่ติดต่อมาหลายบริษัทเลยค่ะ" "งั้นก็ดีแล้ว คุณไปทำงานต่อเถอะ" คุณทศพูดจบฉันก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาแล้วมานั่งทำงานของตัวเองต่อเหมือนเดิม พอใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันฉันก็กดสั่งอาหารมาไว้ให้เขาตามปกติก่อนจะลงไปทานมื้อกลางวันของตัวเองที่โรงอาหารโรงอาหารทุกคนนั่งทานอาหารกลางวันและพูดคุยกันถึงปัญหาต่างๆ ในแต่ละวันกันอย่างสนุกสนานมีทั้งเรื่องรถติดบ้าง ทะเลาะกับสามีบ้าง มีปัญหาหากับเพื่อนร่วมงานบ้าง"น้องดาวเย็นนี้ว่างไหมจ๊ะ" พี่เจนถามก็ว่างนะคะพี่เจน พอดีดาวไม่ได้มีงานด่วนอะไรด้วย" ฉันตอบงั้นน้องดาวไปกับพวกเราไหม" พี่เจนถาม"พวกพี
"อะไรนะ!!" เสียงของอนุวัฒน์ดังขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทมารายงานข่าวเรื่องที่ดิน ที่เขาเคยยื่นขอเสนอไปแต่ก็ถูกตัดหน้าไปก่อนอย่างหน้าเสียดาย"คึ...คือคุณลดาเธอบอกว่าเธอนำที่ดินไปลงทุนกับบริษัท KTK แล้วครับ" ดนัยตอบ (ลูกน้องของอนุวัฒน์)"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อเราติดต่อพูดคุยกับคุณลดาไว้ตั้งแต่หลายเดือนแล้วนิว่าเราจะขอซื้อที่ดินตรงนั้นของเธอด้วยเงินสด ทำไมเธอถึงยังปฎิเสธเราได้อีก นี่แกประสานงานยังไงกันแน่ว่ะ" อนุวัฒน์ถามด้วยความโมโห"คือผมทำตามที่คุณอนุวัฒน์สั่งจริงๆ นะครับแต่ผมทราบมาว่าคุณทศราชผู้บริหารคนใหม่ของทางบริษัท KTK ได้ยื่นขอเสนอให้คุณลดาเป็นหุ้นส่วนโครงการใหม่ที่ทางบริษัทนั่นกำลังจะทำขึ้นในอีกไม่ช้าแถมยังให้เปอร์เซ็นที่สูงอีกด้วย เธอก็เลยเกิดลังเลกับข้อเสนอของเราแล้วตกลงเซ็นต์สัญญากับทางนู้นครับ" ดนัยตอบ อนุวัฒน์รู้สึกโกรธยิ่งขึ้นอีกเมื่อรู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ที่พึ่งจะก้าวเข้าวงการของธุรกิจอย่างทศราชมาชิงตัดหน้าเขาไป เขาติดต่อกับคุณลดามาเป็นเวลานานมากกว่าคุณลดาจะยอมเปิดใจอ่านสัญญาซื้อขายกับเขา เสียทั้งเงินทั้งเวลทไปก็ไม่ใช้น้อยเพื่อซื้อใจฝั่งนั้นแต่กลับมารู้ทีหลังว่าสิ่งที่เ
ฉันค่อยๆ นั่งลงตามที่คุณทศสั่ง"คุณทศจะไม่กลับบริษัทหรอคะ" ฉันถาม"ผมหิวข้าวน่ะ" คุณทศตอบ ฉันตกใจรีบยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาทันทีถึงได้รู้ว่านี่มันเลยเวลาอาหารกลางวันของคุณทศมานานแล้ว"โอ้! จริงด้วย ดาวขอโทษนะคะที่ไม่ได้สั่งอาหารกลางวันมาให้คุณทศ" ฉันพูด"เราอยู่กันที่ร้านอาหารนะไม่ใช่บริษัท ถึงคุณจะสั่งอะไรมาให้ผมผมก็กินไม่ได้อยู่แล้วป่ะ" คุณทศตอบ"ดาวขอโทษค่ะ" ฉันมัวแต่ลนจนทำขายหน้าคุณทศอีกแล้ว"อยู่กับผม คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรที่ไม่ได้ทำผิด เข้าใจไหม! ได้ยินทีไรล่ะรู้สึกหงุดหงิดทุกที" คุณทศพูด"ขอโท- " ฉันกำลังจะเผลอพูดคำนั้นออกมาอีกครั้งแล้วแต่ก็เจอเข้ากับสายตาที่มองมาอย่างดุๆ ก็เลยชะงักไปก่อน"เอ่อ~...รับทราบค่ะ" ฉันตอบ"แล้วนี่คุณไม่หิวหรือไง" คุณทศถาม"ดาวว่าจะกลับไปทานที่บริษัทค่ะ" ฉันตอบ"นี่มันจะบ่ายสองแล้วกว่าจะไปถึงบริษัทก็เกือบเลิกงานพอดี ผมทนไม่ไหวหรอกนะ" คุณทศตอบแล้วยกมือเรียกให้พนักงานมารับออร์เดอร์"คุณอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง" คุณทศพูดแล้วลงไปดูเมนูอาหาร ฉันรับเมนูจากพนักงานมาเปิดดูก็ถึงกับอึ้งไปเลย ไม่รู้ทำไมอาหารทุกอย่างมันถึงได้แพงขนาดนี้ ราคาอาหาร
ฉันกับคุณทศมาถึงร้านได้ประมาณ 30 นาที แล้ว ฉันนั่งอยู่ข้างๆคุณทศได้แต่เงียบไม่กล้าพูดอะไร คุณทศสั่งน้ำผมไม้มาให้ฉันระหว่างที่นั่งรออยู่ ฉันก็เห็นว่ามีผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเราเมื่อพวกเขาเดินมาถึงคุณทศกับฉันก็รีบยืนขึ้นทันที "สวัสดีค่ะคุณทศราชรอนานไหมคะ" คุณลดาถาม "สวัสดีครับคุณลดา คุณเอกภพ รอไม่นานเลยครับพวกเราเองก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน เชิญนั่งก่อนสิครับ" คุณทศพูดด้วยคำสุภาพน้ำเสียงทุ้มน่าฟังสุดๆ แต่เดี๋ยวนะรอไม่นานอะไรละนี่มันตั้งครึ่งชั่วโมงเลยนะ"คุณลดากับคุณเอกภพสั่งอะไรก่อนดีไหมครับ" "ไม่ดีกว่าครับพวกเราทานมาแล้ว" "เอ่อ! นี่คือคุณดวงดาวเลขาของผมครับ" ฉันรีบก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพและกล่าวแนะนำตัวอย่างมีมารยาท "งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ" พอคุณทศเริ่มพูดฉันก็หยิบแผนโครงการออกมาส่งให้คุณลดากับคุณเอกภพทันที "โครงการนี้คาดว่าจะเปิดพร้อมเข้าอาศัยประมาณสิ้นปีนี้ครับ จะมีบ้านทั้งโครงการทั้งหมด 25 หลังใหญ่ 10 หลังและบ้านขนาดกลาง 15 หลังครับ ทางเราคาดการงบของโครงการประมาณไว้ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาทครับ ตอนนี้จากการคำนวณของทางบริษัทบ้านหลังใหญ่เราจะได้กำไร
ฉันมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าและตอนนี้ก็กำลังนั่งคุณทศอยู่ที่ล็อบบี้ ฉันคิดมาตลอดทางว่าฉันจะทำทุกอย่างที่คุณชัชเคยทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ผิดต่อความตั้งใจของเขา พอรถของคุณทศมาจอดที่ประตูหน้าบริษัทฉันก็รีบเดินไปรอรับเขา ตอนแรกฉันกะว่าจะช่วยเปิดประตูรถให้แต่ก็เข้าไปไม่ทันพี่รปภ.ที่ยืนรออยู่ ฉันเลยได้แต่ยืนมองดูด้วยความเสียดาย ทันทีที่คุณทศลงจากรถฉันก็ยื่นมืือไปขอกระเป๋าและเอกสารในมือเขาทันที คุณทศมองหน้าฉันแปปนึงก่อนที่จะส่งของทั้งหมดมาให้ ฉันรับมันแล้วเดินตามหลังคุณทศไปติดๆ ฉันเห็นคุณทศเหล่มองมาที่ฉันหลายครั้งสงสัยคงยังไม่ชินละมั้ง พอประตูลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบเดินตามเข้าไปจนเผลอชนเข้ากับหลังของเขาจังๆ "ขอโทษค่ะ" ฉันพูดแล้วรีบถอยตัวหนีทันที"เอกสารที่ให้เตรียมพร้อมหรือยัง" คุณทศถาม"เรียบร้อยแล้วค่ะ" ฉันตอบ ฉันพูดจบคุณทศเดินออกไปเลย เขาเป็นคนที่เดินเร็วมากไม่รู้ว่าเป็นเพราะขายาวด้วยหรือเปล่าทำเอาฉันที่สับแทบตายก็ยังตามไม่ทันบวกกับมีรองเท้าส้นสูงด้วยแล้วนี่ยิ่งไปกันใหญ่"เดี๋ยวคุณเข้าไปคุยกับผมในห้องด้วยนะ" คุณทศพูดแล้วเปิดประตูเข้าไปห้อง ฉันวางของของคุณทศลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเดินอ้อมไป
หลังจากเลิกงานฉันก็ออกมานั่งรอแท็กซี่อยู่ที่หน้าบริษัท"ไปไหนครับ" พี่คนขับถาม"ไปตลาดคุ้มฟ้าค่ะ" ฉันตอบ "ได้ครับ" เค้าตอบฉันแล้วกดมิเตอร์ทันที พอมาถึงตลาดฉันก็รีบหยิบเงินส่งให้พี่คนขับแล้วลงจากรถเพื่อไปหาแม่กับป้าน้อยในตลาด ปกติหนึ่งวันของบ้านเราช่วงเช้้าแม่กับป้าน้อยจะทำขนมออกมาขายด้วยกัน พอสายๆ หน่อยคนเริ่มซาแล้วป้าน้อยก็จะเดินไปซื้อพวกของสดในตลาดเพื่อมาเตรียมไว้ทำพวกข้าวแกงมาขายตอนเย็น โชคดีที่ตลาดที่นี่ติดกับโรงงาน โรงเรียน วัดและก็ศาลเจ้าเลยทำให้มีคนเดินพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าเป็นวันพระพวกเราก็จะทำขนมและกับข้าวถุงมาแต่เช้าเลย ถึงอย่างนั้นก็ยังขายหมดเร็วมาก ส่วนตอนเย็นก็จะเน้นขายไปที่พนักงานโรงงานที่เลิกค่ำๆ หน่อยเพราะตลาดคุ้มฟ้าของเราจะเปิดตั้งแต่ตี 5 ครึ่งถึง 3 ทุ่มเลย ฉันเดินเข้าที่แผงของเราก็เห็นคนกำลังมาต่อคิวซื้อกับข้าวของเราเต็มเลย แม่ฉันจะคอยหยิบกับข้าวใส่ถุง รับเงินทอนเงินส่วนป้าน้อยก็ตักกับข้าวใส่ถุงมัดยางวางใส่ถาดไว้ให้แม่ ตอนนี้ทั้งสองคนดูยุ่งมากเลยฉันก็เลยรีบเข้าไปช่วยทันที"มาเลยจ้าๆ อร่อยทุกอย่างเลยนะคะ" ฉันพูดพร้อมกับเอากระเป๋าไปวางไว้ข้างหลังแผง "อ้าว เล