ซ่าาา!! ฉันปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวไหลรดผ่านใบหน้าและลำตัวไปอย่างช้าๆ พลางใช้เวลาระหว่างนี้นึกถึงคำพูดของท่านประธานที่พูดกับฉันก่อนหน้านี้
‘พรุ่งนี้เธอเตรียมตัวย้ายออกจากบ้านใหญ่ไปบ้านเจ้าคิมหันต์มันซะนะ เกวลิน’ ‘หมายความว่ายังไงคะ?’ ‘ฉันตกลงกับเจ้าคิมหันต์มันแล้ว ว่าจะยกเธอให้มัน’ ‘ท่านประธานช่วยฟังเรื่องที่เกวจะขอก่อนได้มั้ยคะ?’ ‘เฮ้อ…เธอว่ามาสิ’ ‘ความจริงวันนี้…เกวตั้งใจจะมาขออนุญาติท่านประธาน…ให้เกวออกไปจากตระกูลได้มั้ยคะ?’ ‘เฮ้อออ!! ฉันรับฟังเธอนะ แต่ตอนนี้…ฉันไม่มีสิทธิ์ในตัวเธอแล้ว ฉันยกเธอให้คิมหันต์ไปแล้ว เพราะฉะนั้น…คนที่เธอจะต้องไปขออนุญาติคือเจ้าคิมหันต์ ไม่ใช่ฉันอีกแล้ว’ ‘อ่าา เข้าใจแล้วค่ะ’ เฮอะ! ฟังดูน่าขำชะมัดว่ามั้ย? สุดท้ายแล้ว…ความหวังที่จะเป็นอิสระของฉันมันก็เป็นเพียงแค่ความหวังลมๆแล้วๆที่ไม่มีทางเป็นไปได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ของเจ้านายกับลูกน้อง ผู้มีบุญคุณกับผู้ตอบแทนบุญคุณ มันตัดกันง่ายๆไม่ได้สินะ เฮ้อออ…คนเป็นเจ้านายคงจะทำอะไรกับลูกน้องอย่างฉันก็ได้สินะ จะรับมาเลี้ยงตอนไหนก็ได้ จะยกให้ใครง่ายๆเหมือนสิ่งของก็คงไม่ใช่เรื่องยากเลย แล้วยิ่งเจ้านายคนใหม่ของฉันยังเป็นคนที่ฉันเกลียดที่สุดอีกด้วย ความหวังที่จะได้ออกไปมีอิสระเป็นของตัวเอง คงจะจบลงแล้วล่ะ เกว… เพล้งงง!! เสียงเหมือนของบางอย่างตกแตกดังขึ้นมาจากข้างนอกห้องน้ำ ทำเอาฉันสะดุ้งจนต้องรีบคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวไว้ลวกๆ “ใครคะ?” ฉันร้องตะโกนถามจากในห้องน้ำ แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับมา “ป้าออนเหรอคะ?” แอ๊ดดด!! เพราะไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาเลย ฉันเลยตัดสินใจเดินออกจากห้องน้ำ เพื่อไปดูต้นตอของเสียงดังที่เกิดขึ้น “คุณคิมหันต์!!”แต่เมื่อเดินมาจากห้องน้ำแล้ว ฉันกลับต้องตกใจมากกว่าเดิม เมื่อเห็นเศษแก้วน้ำตกแตกกระจายอยู่เต็มพื้นห้อง โดยฝีมือของคนตัวสูงที่ยืนทำหน้าตาเรียบนิ่งไม่รู้สึกอะไรในห้องคนอื่น “คุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง?” ตึก!ตึก!ตึก! คนตัวสูงไม่ตอบแต่กลับค่อยเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันซึ่งห่างกันเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น พลางใช้สายตาอันเยือกเย็นนั่นไล่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า และตอนนั้นเองแหละที่ฉันเริ่มจะรู้ตัวขึ้นมา ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมเกินไป มีเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนเล็กที่พันตัวเองไว้เท่านั้น หมับ!! ฉันรีบยกมือขึ้นมาปิดส่วนที่มันเกินออกมาจากผ้าขนหนู แม้ว่ามันจะปิดได้ไม่มิดแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้มันเด่นหราอยู่ตามเดิม “คุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลยนะคะคุณคิมหันต์!!” ฉันร้องตะโกนไล่ให้ผู้บุกรุกออกไปจากห้องของฉัน หมับ!! สิ่งที่เขาตอบโต้กลับมามันไม่ใช่การเดินออกไปจากห้องฉันง่ายๆ แต่กลับยื่นมือมาคว้าเอวฉันเข้าไปใกล้ “โอ้ย! คุณคิมหันต์ คุณจะทำอะไร? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคะ!” “นี่มันบ้านฉัน…ฉันจะไปที่ไหนมันก็เรื่องของฉัน เธอไม่มีสิทธ์มาไล่!” “ถึงบ้านนี้จะเป็นของคุณ แต่ตอนนี้ห้องนี้เป็นของฉัน แล้วสิ่งที่คุณทำอยู่ในตอนนี้มันคือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอยู่นะคะ ปล่อยฉันแล้วก็ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ คุณคิมหันต์” ฉันเริ่มดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากอ้อมแขนแกร่งของคนตัวสูง แต่เหมือนยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งรัดตัวฉันเอาไว้แน่นกว่าเดิมเรื่อยๆ “หึ! พูดเก่งแบบนี้สินะ พ่อฉันถึงอยากจะเก็บเธอไว้ใกล้ตัว” “คุณพูดอะไรของคุณ ปล่อยฉันนะ!” “หึ! โตขึ้นเยอะเลยนะ เกวลิน” นอกจากจะพูดจาไม่ให้เกียรติกันแล้ว สายตาของคนตัวสูงยังไล่ต่ำลงมองสิ่งที่เอ่อล้นออกมาจากผ้าขนหนู และกำลังแนบชิดอยู่กับตัวของของคนตรงหน้า สายตาแบบนี้! น่ารังเกียจที่สุด! “ปล่อยฉันนะคุณคิม! ทำแบบนี้มันมากเกินไปแล้วนะคะ” ฉันยังคงดีดดิ้นเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากอ้อมแขนของคนตัวสูง “หึ!” คนตัวสูงยังคงจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เป็นสายตาเหมือนที่เสือกำลังมองเหยื่อของตัวเอง ยิ่งเขายกยิ้มมุมปากขึ้นมาแบบนั้น ฉันรับรู้ได้ในทันทีเลยว่าฉัน…กำลังจะซวยแน่ๆ ฟุ่บ! แล้วหลังจากนั้น จู่ๆคนตัวสูงปล่อยมือที่กอดเอวฉันเอาไว้แน่นในตอนแรกโดยทันที พรึ่บ!! แต่เพราะผลจากการที่ฉันพยายามดีดดิ้นเพื่อหลุดจากพันธนาการของคนตัวสูง กลับทำให้ปมผ้าขนหนูที่ถูกผูกไว้ลวกๆในตอนแรกคลายออก เมื่อคนตัวสูงปล่อยมือออกกะทันหัน ผ้าขนหนูที่พันตัวฉันเอาไว้ก็ร่วงลงไปบนพื้นห้องในที่สุด “กรี๊ดดดด!!” ฉันกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะตอนนี้ร่างกายของฉันมันเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าคนตัวสูงซะได้ พรึ่บ!! เมื่อตั้งสติได้ก็ไม่รอช้าที่จะก้มลงไปหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาพันร่างของตัวเองเอาไว้ทันที “หึ! พรุ่งนี้อย่าสายล่ะ! คงยังไม่ลืมใช่มั้ยว่าต่อไปนี้ เธอเป็นของฉัน!!” ฉันเกลียดเขาที่สุด! เกลียดสายตานั่นที่สุด! สายตาที่ดูสนุกเวลาที่เห็นฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางสู้ สายตาที่มองมาด้วยความดูถูกเหมือนเจ้าของที่กำลังมองดูสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ฉันเกลียดผู้ชายคนนี้ที่สุดเลย!!![คิมหันต์]“คุณคิมหันต์!! มาดูนี่เร็ววว~” เสียงของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ริมทะเลหันมาร้องเรียกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส“หึๆ” ผมที่ที่กำลังเดินอยู่ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาเกวลินโดยทันที พร้อมกับหิ้วไก่ทอดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ติดมือมาด้วย ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก“คุณคิมหันต์ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลยว่ามั้ยคะ?” พอเดินเข้ามาถึงตัวเกวลินแล้ว เธอก็ยังคงยกยิ้มสดใสออกมาด้วยความสดใส แถมยังกระโดดไปมาดุกดิกด้วยความตื่นเต้นกับวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลตรงหน้าอีกด้วยผมที่ได้เห็นท่าทีของเธอที่น่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“ไหนว่าจะกลับห้องไง ทำไมถึงพามาที่นี่ล่ะ?” หลังจากออกมาจากห้างก่อนหน้านี้ ผมตั้งใจว่าจะพาเกวลินกลับไปพักที่ห้องของเธอทันที แต่เธอก็ดื้อดึงอ้อนให้ผมพามาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จนได้ แล้วท่าทีตอนที่เกวลินอ้อนผมมันก็ดันน่ารักซะจนผมปฏิเสธเธอไม่ลงเลยจริงๆ“จะกลับเลยได้ยังไงล่ะคะ วันนี้อุตส่าห์ได้พักทั้งที ต้องออกมาเที่ยวซะหน่อยสิ”หมับ!! เกวลินพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม ขณะเดียวกันเธอก็ยื่นมือตัวเองมาจับมือที่ว่างอยู่ของผมเอาไว้ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั
[เกวลิน]“แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คุณคิมหันต์ที่ขับรถอยูข้างๆเอ่ยถามคำถามนีเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง? หลังจากที่ฉันดีขึ้นแล้ว คุณริมหันต์ก็จัดการเรื่องลางานกับผู้จัดการให้ฉัน แถมยังอาสาพาฉันกลับห้องอีกด้วย และตั้งแต่ที่ออกมามาจากโรงแรม เขาก็เอาแต่ถามย้ำกับฉันอยู่ได้ว่าไม่เป็นไรแน่นะ? ไม่ต้องโรงพยาบาลแน่นะ? ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย? ถามย้ำรอบที่สิบได้แล้วมั้งน่ะ“เกวไม่เป็นไรแล้วจริงๆค่า แข็งแรงดี สบายใจหายห่วงได้ค่ะ”“ถ้างั้นกลับห้องไปก็พักผ่อนให้เต็มที่่นะ”“เอ่อ คือว่า…ก่อนกลับห้อง เกวมีที่ที่ต้องไปก่อนน่ะค่ะ” จริงๆวันนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญอย่างหนึ่ง ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณคิมหันต์ก็ดื้อดึงจะไปส่งฉันให้ได้ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยจริงๆ เลยต้องยอมให้เขามาส่งให้จนได้“ไว้รอหายดีก่อนแล้วค่อยไปวันหลัง วันนี้เธอต้องกลับไปพักก่อน”“ไม่ได้ค่ะ เกวต้องไปทำธุระสำคัญมากๆ ต้องไปวันนี้เท่านั้นค่ะ”“ฉันไม่ให้ไป” คนตัวสูงข้างๆเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“คุณคิมหันต์! นี่คุณจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไปแค่แปบเดียว คุณแค่ไปส่งฉันแล้วนั่งรออยู่บนรถก็ได้”“ธุระอะไรจะสำคัญไป
[คิมหันต์]พรึ่บ!! ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสอดส่องเข้ามากระทบกับดวงตา และเมื่อปรับสายตาให้คงที่ได้แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ใขอบนเตียงในห้องพักของเกวลินเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆที่เคยมีเกวลินนอนอยู่ด้วย กลับเหลือไว้เพียงแค่รอยยับที่ว่างเปล่าเท่านั้นเกวลิน…ยัยนั่นทิ้งผมไปอีกแล้วเหรอเนี่ย?ฟุ่บ!! ผมลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในนั้นกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาบนกระจกในห้องน้ำมีกระดาษอยู่สามแผ่นแปะเรียงกันไว้อย่างเป็นแถวเลยล่ะฟึ่บ! ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นที่แปะอยู่บนกระจกห้องน้ำมาอ่าน‘เกวต้องออกไปทำงานแต่เช้าเมื่อคืนคุณดูเหนื่อยมากเกวเลยไม่อยากปลุก ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนะคะ’“หึ! ใครกันแน่ที่เหนื่อย” ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจทันทีที่ได้อ่านข้อความที่เกวลินทิ้งไว้ให้ฟึ่บ!! จากนี้ก็หยิบกระดาษโน้ตใบที่สองขึ้นมาอ่านต่อ‘คุณอาบน้้ำแปรงฟันก่อนได้นะคะ เกวแขวนเสื้อผ้าที่คุณพอจะใส่ได้ไว้ให้ที่ตู้แล้ว’ผมอดไม่ไ
วันต่อมาณ โรงแรมพาวิลงเลียน“อ้าวเกว” เสียงของรินณ์เอ่ยทักขึ้นทันทีที่รินณ์เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ซึ่งมีฉันที่นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ววันนี้ฉันตั้งใจออกจากห้องมาแต่เช้า เช้าถึงขนาดที่คุณคิมหันต์ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ “ไงรินณ์”“ทำไมมาเช้าจังอ่ะ วันนี้เกวเข้างานกะบ่ายไม่ใช่เหรอ?”“อ่อ เราแลกเวรกับพี่แอนอ่ะ พอดี…ตอนเย็นเรามีธุระต้องไปทำธน่ะ” ใช่แล้วล่ะ! จริงๆ วันนี้ฉันเข้างานกะบ่าย แต่ช่วงเย็นวันนี้ฉันมีที่ที่ต้องไปน่ะ เลยแลกเวรกับพี่แอนไว้“ไปไหนอ่ะ? หรือว่า…ไปเดทเหรอ?” รินณ์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเดินเข้ามากระซิบใกล้ฉัน อะไรกัน? ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย?“ดะ เดทอะไรกันเล่า? ไม่ใช่ซะหน่อย” “เอ้า! ไม่ใช่หรอกเหรอ แต่เมื่อคืนเราเห็นน้า ผู้หญิงชุดฟ้าที่เดินควงแขนกับคุณคิมหันต์” รินณ์เข้ามานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเขยิบมากระซิบข้างๆหู“นี่รินณ์เห็นด้วยเหรอ?0_0!” ฉันถึงกับเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อคืนจะมีคนเห็นฉันกันคุณคิมหันต์ด้วย นี่ขนาดแอบย่องออกไปตอนไม่มีคนแล้วน่ะเนี่ย ยังมีคนเห็นอีกเหรอเนี่ย? “อื้ม เมื่อคืนเราอยู่ทำโอทีน่ะ”“นอกจากรินณ์แล้ว…”“ไม่ต้องห่วงหรอก เมื
“อื้มมม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักของฉัน เพราะรสจูบที่ร้อนแรงเกินกว่าจะต้านทานของกันและกัน เรียวลิ้นที่สอดประสานกันไปมาของเราสองคน มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความปรารถนาที่เหลือล้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าริมฝีปากของคนตัวสูงยิ่งหอมหวานน่าช่วงชิมมากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆหมับ!! ฉันเอื้อมมือออกไปค้วาท้ายทอยของคนตัวสูงเหนือร่างลงมากอดไว้แน่น เพื่อให้เราสองคนแลกเปลี่ยนรสจูบจากกันและกันได้แนบแน่นกันมากยิ่งขึ้น“อื้อออ~” ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องการสัมผัสจากคุณคิมหันต์ เขาเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับฉัน ฉันส่งเสียงครวญครางผ่านลำคอออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อคนตัวสูงเลื่อนไล้มือหนาของตัวเอง ลงไปสัมผัสกับกลีบกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงนอนของฉัน ในขณะที่ปากของเขาก็ยังคงดูดเม้ม ช่วงชิมรสหวานจากปากของฉันอย่างไม่ลดละ“อื้อ!!~” ฉันเริ่มจะทนกับความเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นทั้งช่วงบน และช่วงล่างไม่ไหวแล้ว จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงผ่านลำคอออกมาเพื่อให้เขาปล่อยส่วนใดส่วนหนึ่งซะที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวจนขาดใจตายไปซะก่อน“อึก!
หลังจากที่คุณคิมหันต์บุกเข้ามาหาถึงห้อง แล้วขอนอนค้างด้วย ตอนนี้เขา…กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆฉันถึงแม้ว่าคุณคิมหันต์จะนอนก่ายหน้าผากอยูข้างฉัน แต่เขากลับไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉันต่อเลยแม้แต่คำเดียวนี่เขา…กำลังไม่พอใจฉันอยูแน่ๆเลย“คุณคิมหันต์ หลับรึยังคะ?” ฉันรู้ว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ“หลับแล้ว” หลับแล้วเขาจะตอบฉันได้ยังไงล่ะ?“คุณ…โกรธเกวเหรอคะ?”“…” สิ้นสุดคำถามของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนข้างๆอีกเลย“เกวขอโทษนะคะ ที่ทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว”“…” คราวนี้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม“เกวแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริงน่ะค่ะ”“เกวลิน…”“คะ?”“รู้ใช่มั้ย…ว่าฉันรักเธอ?” คุณคิมหันต์ที่เอาแต่หลับตาในตอนแรก ตอนนี้เขากลับลืมตาหันมามองฉันที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน“…รู้ค่ะ” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอ่ยคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจออกไปอย่างลึกซึ้ง“แล้วเธอล่ะ?” คำถามที่คาดไม่ถึงจากคนตัวสูงตรงหน้า ทำฉันอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ออกมาได้“รักสิคะ เกวรักคุณมากๆค่ะ”“ถ้างั้น…อย่าทิ้งฉันไปอีกได้มั้ยเกว?” คำถามที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของคนตรงหน้า บวกกับ