สิบสี่ปีต่อมา
“ฮื่อ” แสงไฟสดสว่างที่ส่องกระทบเข้ากับร่างไร้อาภรณ์ตรงหน้า ทำปวีร์ที่อยู่ในสภาพกึ่งเมาเกือบลืมวิธีหายใจ ยอดถันถูกฉกฉวยด้วยริมฝีปากอุ่น ชายหนุ่มรุกเร้าเรือนร่างสวยของผู้หญิงที่มีศักดิ์เป็นน้องสาว เมื่อชญาณัฐตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่กับปุริม หากนับตอนนั้นก็เป็นเวลาเกือบเจ็ดปีได้ที่หญิงสาวใต้ร่างก้าวเท้าเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ถาวรพร้อมกับแม่ และเป็นเวลาอีกเจ็ดปีเช่นกัน ที่พ่อและคนรักพยายามทำให้ปวีร์ยอมรับและเข้าใจในรักครั้งใหม่ ทว่ามันไม่เป็นผล ปวีร์ไม่เปิดใจยอมรับใครให้เข้ามาแทนที่แม่ของตน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชื่อชญาณัฐ คนที่เขาเกลียดฝังใจ ซ้ำยังเป็นคนพาลเกลียดไปยังถึงลูกของเธอ ชญาณัฐเป็นแม่หม้ายลูกติด... เสียงเตียงดังเอี๊ยดอ๊าดพร้อมกับจังหวะการกระแทก ร่างเล็กกระเพื่อมถี่บนเตียง หลุดร้องครวญครางขณะที่น้ำตาเอ่อคลอด้วยความเสียดเสียว เฌอเอมที่กำลังนอนตัวเปลือย ให้คนบนร่างสอดใส่ท่อนเอ็นขนาดใหญ่เข้ามารังแกในช่องทางนุ่มนิ่มครั้งแล้วครั้งเล่า มือบางยกขึ้นจับลำแขนที่กำลังคร่อมส่วนบนทั้งจิกลงเนื้อผิวครั้นความเสียวซ่านเล่นงาน แก่นกายเสียดสีดังสวบสาบครั้นน้ำเมือกใสไหลออกเพื่อหล่อลื่นตามอารมณ์ที่กำลังทะยาน “เอม อึ่ก...อ่า” “พี่วีร์ พอแล้ว อย่ารังแก” คำร้องห้ามแบบนี้เปล่งออกมาทุกครั้งที่เกิดเรื่องอย่างว่า ครั้นครั้งแรกที่เธอตกเป็นของลูกชายพ่อเลี้ยงตัวเองมาจากงานวันเกิดอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ “อ่า...” “พะพี่ เอมจุก อื้อ” แผดร้องเสียงหลงครั้นถูกกระแทกกระทั้นอย่างแรงจนรู้สึกจุก ปวีร์ก้มประกบเรียวปากบดขยี้คนใต้ร่างอย่างพอใจทั้งหยุดชะงักการขตยสะโพกไว้ชั่วขณะ ครั้นผู้หญิงที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวทว่าเกิดจากคนละพ่อละแม่ อ้าปากพะงาบทั้งหน้าแดงตัวแดงไปเสียหมด หลายต่อหลายครั้งที่ชายตรงหน้าแอบเข้ามากระทำ ทว่าไม่เชิงย่ำยีเมื่ออีกฝ่ายก็เผลอเต็มใจให้เผลอไผลไปโดยปริยาย ชายหนุ่มป้อนจูบให้น้องต่างสายเลือดอย่างดูดดื่ม เกลียวลิ้นสอดตวัดหาลิ้นอ่อนอย่างช่ำชอง ฝ่ามือหนาหนึ่งข้างกอบกุมเต้าอวบบีบขย่ำจนเนื้อนมไหลออกตามง่ามทั้งกอดกระชับร่างน้อยๆ และกดแทรกแท่งเนื้อลงจมมิดในตอนที่กำลังแลกน้ำลายให้คนเด็กกว่าอย่างหรรษา “พะพี่!!” “อะไร” “ปล่อยข้างนอกได้ไหม เอมยังไม่ได้ซื้อยา” “ก็รู้ว่าจะขึ้นมาหา ทำไมไม่เตรียม” ตำหนิคนเด็กกว่าที่ไม่เตรียมพร้อม ทุกครั้งที่ผู้ใหญ่ในบ้านไม่อยู่หรือมีเหตุต้องออกไปไหนมาด้วยกัน เฌอเอมย่อมถูกอีกฝ่ายป้อนความเสียวอย่างลับๆ มานานเป็นปี แต่กระนั้นปวีร์กลับไม่เคยมองเธอเป็นน้องที่น่ารักหรือมีความรู้สึกอ่อนโยนกับเธอเลยสักนิด เหตุผล คือเธอเป็นลูกติดของคนที่เกลียด... “แตกนอกนะ เอมกลัว…” “’ ขอแตกในปากเธอแล้วกัน” พูดจบก็ก้มซดดูดลำคอขาวทั้งออกแรงขยี้และกัดจนเกิดร่องรอยขึ้นมาอย่างจงใจ เพราะอีกฝ่ายมักมีร่องรอยแบบนี้ปรากฏในตัวเป็นผลให้ผู้ชายส่วนมากไม่กล้าเข้าใกล้เพราะคิดว่าเธอคงมีผู้ชายเป็นตัวเป็นตน แต่เปล่าเลยเธอถูกผู้ชายที่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอนอนเอาทุกครั้งที่มีโอกาส "อ่ะ!! ดูดแรงไป มันจะเป็นรอย" "กลัวไม่มีผู้ชายเข้าหาเหรอ" "ปะเปล่า กลัวแม่ถาม" ทว่าลำคอก็ยังถูกดูดขยี้อย่างไม่สนใจคำร้องห้าม ทั้งคนตัวเล็กถูกพลิกจับเปลี่ยนให้อยู่ในท่าคลานเข่า เฌอเอมหมอบหน้าซุกลงหมอนสีขาวใบใหญ่แอ่นก้นกลมสวยขึ้นสูงให้คนด้านหลังได้สอดเอ็นร้อนเข้ามา และเป็นท่าที่เธอไม่ชินแม้แต่ครั้งเดียวทุกการสอดแทรกมักมากับการจุกหน่วง ปวีร์ยัดเยียดมันเข้ามาได้อย่างถนัดจนมิดลำ ฝ่ามือหนาประคองก้นกลมและสอบสะโพกขยับรูดลำกายอย่างชอบใจพลางหลุบตาต่ำมองอวัยวะตัวเองที่กำลังเสียดสีในช่องรูหยักอันแดงแจ๋ กลีบกุหลาบช่อนี้มีแต่ปวีร์ที่ได้ลิ้มลองและเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว เขาขยับกระแทกดุเดือดจนร่างบางน้ำตารื้นจากความจุกทั้งความเสียวปะปน คนด้านหลังเขยื้อนเอวแรงจนคนโดนเผยอปากครางระส่ำทว่าเสียงมันกับจมหายลงไปในหมอน ในขณะที่ชายหนุ่มก็สูดปากมองการขยับความเป็นชายทะลุทะลวงรูรักเข้าไปจนสุด “อ๊า” “พี่วีร์ จะจุก อื้อ” “จุกหรือเสียวเอาดีๆ” “ท่านี้เอมจุก” เมื่ออีกฝ่ายสะอื้นกับความหน่วงช่องท้อง คนด้านหลังก็ชะงักลงทันทีแล้วก้มลงจูบบนแผ่นหลังเนียนอย่างแผ่วเบาจนหญิงสาวแอบประหลาดใจอยู่มาก ปวีร์ไม่เคยอ่อนโยนกับเรื่องบนเตียง ตลอดเวลาที่เคยนอนด้วยกันทว่าคราวนี้กลับทำในสิ่งที่เธอไม่คิดว่าเขาจะทำ “อดทนให้พี่หน่อย ชอบท่านี้ที่สุดเลย” น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบข้างใบหูจนคนฟังขนลุกอย่างเหลือ ครั้งแรกด้วยซ้ำที่เขาแทนตัวเองว่าพี่เพราะที่ผ่านมามีแต่ฉันกับเธอมาตลอด คนเด็กกว่าที่อยู่ใต้อาณัติไม่มีสิทธิ์ร้องขอใดๆ ยอมให้คนอายุมากกว่าได้กระทำในท่าคลานเข่าอย่างสมใจ เพราะต่อต้านไปก็ไม่เป็นผลอยู่ดี คราวนี้เฌอเอมจัดท่าทางตัวเองใหม่ใช้แขนสองข้างยันค่ำลงเตียงนิ่มแยกขาออกในจังหวะที่ถนัดให้ปวีร์ได้กระแทกเข้ามา เสียงเนื้อกระทบกันดังตับๆ ก้องขึ้นทั้งเสียงครางเครือของผู้ชายด้านหลังคำรามราวราชสีห์ “อ๊า อร๊าง!!” “ร่อนยั่วเหรอ”“เอมท้องได้สองเดือนแล้วครับน้าชญา”“...”ชญาณัฐที่ได้ยินก็เงียบปาก มองเด็กทั้งสองด้วยแววตาและสีหน้าเรียบเฉย พลันอีกฝ่ายนึกว่าเธอต้องไม่พอใจกับพฤติกรรมเกินงาม รู้ถึงไหนคงโดนนินทาไปถึงนั่น แต่ในสังคมปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้ว อยู่ก่อนแต่งหรือท้องก่อนแต่งมันมีเยอะแยะ ฉะนั้นเอามาวัดกันไม่ได้นอกจากความรักและความซื่อสัตย์ที่มีให้กัน สิ่งสำคัญในชีวิตคู่จะประคองอย่างไรให้ตลอดรอดฝั่งไม่เหมือนผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่เคยล้มเหลวมาก่อน“หนูขอโทษ”“ขอโทษทำไม แม่กับลุงอยากอุ้มหลานจะตาย”“แม่!”“แค่ตกใจที่หลานมาไวกว่าที่คิด”บรรยากาศจากตึงๆ กลายเป็นความรอยยิ้มของคนทั้งสี่ มีแม่บ้านอย่างป้าราตรียืนมองครอบครัวสุขสันต์อยู่ห่างๆ ครั้งที่ผ่านมาเหมือนตกอยู่ในสมรภูมิของสงครามมานานหลายปีห้องสี่เหลี่ยมห้องเดิมของเฌอเอม หากนับเวลาก็รวมๆ หกเดือนได้ที่เธอไม่ได้กลับมาใช้ห้องนี้อีกเลย มันดูโล่งไปนิด มีเพียงแจกันและโซฟาที่ยังตั้งวางไว้ ทว่าวันนี้เธอได้กลับมาใช้มันอีกครั้ง“เมื่อไหร่จะขึ้นเตียง มาให้พี่นอนกอด”ปวีร์เอ่ยถามขณะที่ตัวเองนั้นนอนยกแขนเท้าศีรษะแล้วตะแคงออกมาทางระเบียง เฌอเอมอยู่ในชุดนอนสีขาวตัวบางชนิดที่ว่ามองเ
ปวีร์ก็ไม่ฟังอยู่ดี เพิ่มข้อนิ้วเข้าไปอีก ล้วงผนังอุ่นเพื่อหาจุดกระสัน ตำถี่ๆ ให้คนอายุน้อยเสพความสุขได้อย่างเต็มที่ ขณะที่บั้นท้ายอวบอัดมีท่อนลำแข็งขดอยู่ด้านล่าง ความต้องการทำปวีร์ปวดหนึบ อยากควักมันออกมาแล้วสอดกระแทกเสียให้จบๆ แต่เมื่อเฌอเอมบอกว่าไม่ไหว ก็ทำได้เพียงเกี่ยวเบ็ดให้อย่างถึงใจ หลังจากนั้นค่อยจัดการตัวเองด้วยการชักว่าว“เสียวไหมคะ”เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เชิดดวงตามองคนอายุน้อยที่เอาแต่กัดริมฝีปากแล้วหลับตาแน่น เฌอเอมตัวแดงขึ้นเพราะความซาบซ่าน นั่งแอ่นเร่าร่างกายบนตักของชายหนุ่มราวกับยั่วเย้าอารมณ์ทางเพศของอีกฝ่าย เรียวนิ้วจิกเข้าที่หัวไหล่หนา ส่วนเรียวขานั้นก็อ้าออกกว้างให้ปวีร์ขยับเข้าออกได้ถนัด“อ่ะ ฮื่อ”ดวงตาคมหลุบต่ำลง มองผลงานตัวเองที่กำลังเล่นงานคนอายุน้อย กระตุกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าน้ำเสียวของเฌอเอมไหลเยิ้มออกมาเป็นสวย“อ่า เอมมองหน่อย”“มะไม่...ไม่มอง”“สวยนะ...มองหน่อย”เขาหว่านล้อมให้คนอายุน้อยก้มมอง จากที่หลับตาก็ปรือปรอยแล้วหลุบมองตามคำสั่ง ช่องทางรักของตัวเองมีข้อนิ้วขอชายคนรักสอดไปตั้งสามนิ้วตั้งแต่เมื่อไหร่ กลีบกุหลาบแยกออกเป็นทางเห็นแม้กระทั่ง
จากเดิมที่ตั้งใจมาอยู่เพื่อพักฟื้นจากอาการป่วย กลายเป็นว่าชายหนุ่มกลับย้ายมาอยู่ถาวร ขนข้าวของจำเป็นบางส่วนเข้ามาไว้ในคอนโด ปวีร์ยังคงทำงานที่รักตามเดิมคือช่างภาพ แม้ออฟฟิศกับคอนโดอยู่กันหลายกิโลเมตรก็ไม่เป็นอุปสรรค สามารถขับรถไปกลับรวมๆ เกือบสามสิบกิโลเมตรต่อวันได้แบบสบาย และอดทนต่อการจราจรติดขัดจนเฌอเอมแอบประหลาดใจ เพราะชายที่รักไม่ชอบอะไรที่แออัดโดยเฉพาะรถบนท้องถนนขณะที่คนอายุน้อยเริ่มทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ทั้งคู่ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจของปุริม ปล่อยให้คนอายุมากกับภรรยาได้ช่วยกันบริหารอย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างไรหากปุริมเกษียณตัวเองและวางมือลง แน่นอนว่าปวีร์ต้องเข้ามารับช่วงต่อเพราะเป็นลูกชายคนเดียวครัวเล็กๆ กำลังถูกใช้อุ่นอาหารสำเร็จที่ซื้อมาจากตลาด มื้อนี้เฌอเอมเลือกเป็นเมนูโปรดของปวีร์ เป็นแกงพะแนงเนื้อมะเขือพวงและยังมีหมูทอดแดดเดียวและน้ำจิ้มแจ่วรสจี้ดจ้าด ยังไม่ทันเสร็จดี ร่างน้อยๆ ถูกแขนแกร่งโอบกอดทางด้านหลังในจังหวะที่เธอไม่ทันตั้งตัว ปวีร์เปิดประตูเข้าห้องหลังจากกลับจากทำงานเพียงเงียบๆ แล้วเดินย่องมากอดคนอายุน้อยเหมือนเช่นทุกวัน“ตกใจหมดเลย”เอ่ยเพียงประโย
เขาสูดดมกลิ่นตัวทั่วกายบาง ความหอมรัญจวนทำสติที่มีแทบคลั่งอยู่รอมร่อ เพราะหลงรักเฌอเอมมานานแต่ทว่าดันซ่อนความรู้สึกเอาไว้แบบมิดชิดและบิดเบือนความจริงที่มี กระทั่งได้เปิดเผยออกมาทุกอย่างมันก็กระจ่างชัดเจนและทำให้เขากล้าแสดงออกมากขึ้นร่างนุ่มนิ่มแดงซ่านขึ้นมาราวกับว่ามีสีละเลงบนกาย ชุดนอนผ้าซาตินบนกายสาวหลุดออกอย่างง่ายดายด้วยฝีมือของชายหนุ่ม เรือนร่างขาวเนียนยามแสงไฟตกกระทบลงสู่ผิวขาวก็ปลุกตัวตนของเขาได้เป็นอย่างดีที่เขาเคยบอกว่าร่างกายของเฌอเอมไร้ราคา ตอนนี้มันกลายเป็นของห่วงและของมีค่าที่ประเมินราคาไม่ได้สำหรับเขา...ริมฝีปากหยาบประกบลงที่ต้นขาขาว ลากไซ้ไปมาแล้วยังพ่นลมหายใจรดริน ทำเฌอเอมขนลุกขนซันราวกับว่าที่ตรงนี้มีอุณหภูมิติดลบทั้งที่เปิดแอร์ในอุณหภูมิปกติ“อ่ะพี่วีร์...”เฌอเอมหลุดร้องทั้งสะดุ้ง ปวีร์งับเข้าที่ง่ามขาเพียงเบาๆ แต่ว่าแลบลิ้นเลียบริเวณนั้นก่อนจะปาดมายังช่องทางรักที่อยู่ใกล้แค่คืบ จับเรียวขาขาวให้แยกกว้างออกจากกัน มองรอยหยักที่ปิดไม่เสมอเพราะมันถูกความใหญ่โตของปวีร์มุดเข้าไปสำรวจด้านในมาแล้วครั้ง ชายหนุ่มมุดหน้าลงอย่างตั้งใจ ดูดดึงเนื้อสีอ่อนราวกับว่าเป็นหอยขม มอบค
“เอมเคยโกรธพี่ ที่เอาแต่อารมณ์เป็นใหญ่ ยัดเยียดให้เอมกับแม่เป็นผู้ร้ายมาตลอด”“...”เขาตั้งใจฟังอย่างมาก รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ ขณะที่คนอายุน้อยก็หายใจแรงเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ“แม่เคยสอนไว้ว่า การให้ที่ดีคือการให้อภัย – ถ้าเอมให้แล้ว พี่สัญญาได้ไหมจะไม่ทำให้เอมเสียใจอีก”“...”“เอมให้โอกาสพี่วีร์นะ”“เอม!!”ปวีร์ที่ได้ยินใจเต้นรัวมากกว่าเดิม แต่มันเป็นความดีใจ เขาได้ยินชัดเจนเต็มสองรูหู เฌอเอมให้โอกาสเขาแล้ว รีบจับร่างระหงหันหน้าเข้ามาหา ยกมือเกลี่ยข้างแก้มเนียนละเอียดแผ่วเบา พลันมองเห็นใบหน้าละมุนมีรอยยิ้มขึ้นมามันทำให้หัวใจของเขาพองโต ความพยายามง้อให้เธอกลับมาหากนับก็เวลาเป็นเดือนๆ อาจยังน้อยกับการกระทำป่าเถื่อนที่เขาเคยทำ แต่ถือว่านานมากสำหรับเขากับการใจแข็งของเธอ แต่ตอนนี้มันอ่อนลงแล้ว เฌอเอมให้โอกาสอย่างที่เขาขอ“พี่รักเอม”มือหนายังประคองข้างแก้ม เขาโฉบหน้าต่ำลง ป้อนเรียวปากให้คนอายุน้อยอย่างละมุน ปวีร์ค่อยๆ เล็มงับไปทีละน้อย แตกต่างจากที่เคยเอาแต่บดเบียดแรงๆ เพื่อความสะใจ มันอ่อนโยนขึ้นจนหญิงสาวหวั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง“พี่วีร์หยุด...”“พี่คิดถึง พี่โหยหาแต่เอม”ยิ่งเขาพูดออกม
“วันนี้กลับบ้านเลย ไม่มีอะไรน่าหวงแล้ว”“ขอบใจนะหมอ”ปุริมที่เอ่ยขอบคุณเมื่อคุณหมอที่รู้จักดูแลลูกชายอย่างดีตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้“ค่ารักษาใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพ ไม่ต้องสำรองจ่ายอะไร – กลับบ้านไปก็ดูแลตัวเองดีๆ นะวีร์”“ครับอาหมอ”อาการป่วยของปวีร์ในตอนนี้ ตัวไม่ร้อนและไม่มีอะไรน่าห่วง เมื่อดีขึ้นตามลำดับคุณหมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ข้าวของบางอย่างมีเฌอเอมช่วยเก็บและขนลงไปไว้ในรถให้ก่อน ภายในห้องพักผู้ป่วยมีเพียงพ่อลูกที่อยู่กันลำพัง ปวีร์สวมชุดลำลองตัวโปรดของตัวเอง และนั่งรอเฌอเอมขึ้นกลับมาประคองเดินลงไปด้วยกัน“กลับบ้านนะวีร์”“กลับคอนโดครับ”“...”ได้ยินก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ลูกชายไม่มีคอนโดส่วนตัวแล้วจะไปอยู่กับใคร“คอนโดของเอม – ผมอยากไปอยู่กับน้อง”“จะไม่กวนใจน้องเหรอวีร์”เพราะความสัมพันธ์ของเด็กสองคนมันยังไม่ดีขึ้นและยังคลุมเครือ ปุริมเกรงว่าลูกชายจะไปสร้างความรำคาญให้คนอายุน้อย ครั้นเฌอเอมยังมีธุระเรื่องของงานที่เธออาจจะต้องทำเป็นจริงเป็นจังในเร็วนี้ แต่กระนั้นปวีร์ยังยืนยันที่จะติดสอยห้อยตามไปพักฟื้นตัวเองต่อที่คอนโดของหญิงสาว และเหตุผลหลักเขาอยากอยู่ที่นั่นเพื่อง้อและปรับคว