@เวลา 19:48 น.
หลังจากพาลูกสาวเข้าไปนอนในห้อง ไอยลดาก็เดินตรงมาที่ห้องทำงานของนัตตี้ทันที
“ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงค่ะเจ้”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“เจ้รู้ดีว่าดาหมายถึงเรื่องอะไร ทำไมเจ้ไม่บอกดาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเจ้าของแบรนด์นั่น”ไอยลดาเริ่มหัวเสียกับเรื่องที่เจอมา ไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมได้ขนาดนี้
“เฮ้อ... เจ้ว่าจริงๆ แล้วก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนะ ดาก็เห็นว่างานทุกอย่างมันก็ราบรื่นดี ดาติดใจตรงไหนงั้นเหรอ” หญิงวัยกลางคนพยายามพูดอย่างใจเย็น เธอเข้าใจดีว่าไอยลดาคิดอะไรอยู่ แต่เธอก็อยากให้ไอยลดายอมรับความจริงและใช้ชีวิตให้มีความสุข และที่สำคัญเธอจะปิดบังเรื่องคิริณไปตลอดไม่ได้
“เจ้ก็รู้ว่าในชีวิตดามีคิริณแค่คนเดียว” ไอยลดาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แววตาของเธอบ่งบอกถึงความกลัว เธอกลัวว่าจะเสียลูกสาวสุดที่รักไป เธอกลัวเขาจะมาพรากลูกสาวไปจากเธอ
“เจ้รู้ว่าดาคิดยังไง แต่ดาก็ควรจะเห็นใจลูกด้วย เด็กมันต้องการพ่อต้องการครอบครัว ดารู้มั้ยว่าเพราะอะไรคิริณถึงอยากถ่ายแบบ ทั้งๆ ที่รู้ว่าดาไม่ชอบ”
“...” ไอยลดาได้แต่ยืนนิ่ง ในหัวคิดอะไรเต็มหัวไปหมด
“คิริณบอกกับเจ้ว่าอยากถ่ายแบบเยอะๆ เพราะอยากให้พ่อเห็นเธอในนิตยสารต่างๆ พ่อจะได้กลับมาหาคิริณ” คนพูดทั้งพูดทั้งสงสารหลาน และเธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้หลานมีความสุข ถึงแม้ผู้เป็นแม่จะไม่เห็นด้วยก็ตาม
ได้ยินเช่นนั้น... ไอยลดาถึงกับทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง ไม่คิดเลยว่าลูกสาวจะคิดอะไรได้ถึงขนาดนี้ หรือว่ามันถึงเวลาแล้วที่เธอควรบอกให้ลูกรู้ว่าพ่อของเธอคือใคร
เฮ้อ..เพียงแค่คิดถึงผู้ชายคนนั้นกับภรรยาของเขาหัวใจของเธอก็ปวดหนึบขึ้นมา ไอยลดาคิดไม่ตกกับเรื่องนี้อยู่หลายวัน วันนี้ก็เหมือนกันที่เธอยืนเหม่อลอยอยู่ในครัว
“ดา เจ้ขอคุยอะไรด้วยหน่อย” นัตตี้เดินเข้ามาถามไอยลดาที่กำลังยืนทำกับข้าวอยู่
“ค่ะเจ้ มีอะไรเหรอคะ”
“คุณติน่าเธออยากให้คิริณไปถ่ายแบบให้อีก ดาจะว่ายังไง”
“...” ไอยลดาหยุดชะงักทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน
“เจ้แล้วแต่ดานะ แต่เจ้อยากให้ดาคิดดูให้ดีๆ”
ไอยลดาได้แต่ยืนคิดทบทวนกับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำยังไงดี ถ้าลูกรู้จักพ่อแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นนะ
..
@ คฤหาสน์ตระกูลเวลล์
คริสติน่านั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ในสวนที่เป็นมุมโปรด เธอพยายามติดต่อนางแบบตัวน้อยไปหลายวันแล้วแต่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมาสักที นี่ก็ใกล้จะถึงวันเปิดตัวแล้วด้วย
“อะไรทำให้น้องพี่ทำหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้น” เสียงของพี่ชายดังขึ้นมาทำให้คริสติน่าละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปมองหน้าพี่ชายแทน
“เรื่องงานหน่ะค่ะ น้องติดต่อนางแบบตัวน้อยมาถ่ายให้ยังไม่ได้เลย ใกล้จะถึงวันงานแล้วด้วย”
“ทำไมเหรอ เขาไม่อยากรับงานหรือแค่ต้องการเรียกร้องค่าตัวเพิ่ม”
“ไม่ใช่หรอกค่ะพี่”
“ถ้าเขาไม่รับ ก็หาคนอื่นสิ จะไปคิดมากทำไม” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วยกมือขึ้นวางบนหัวของน้องสาวเหมือนที่ชอบทำ
“คนอื่นก็หาได้นะคะ แต่น้องรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ยังไงก็ไม่รู้ พี่ดูสิคะ เด็กอะไรไม่รู้น่ารักมากๆ แถมยังพูดเก่งอีกด้วย” คริสติน่าเอ่ยชมด้วยความเอ็นดู และตั้งใจจะเปิดรูปให้พี่ชายดู แต่ยังไม่ทันได้เปิด เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นมา
“คริสคะ”
คริสเตียนหันไปมองตามเสียงด้วยท่าทางแปลกใจ ที่เห็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายกลับมาเร็วกว่าที่คิด ส่วนคริสติน่าได้แต่กรอกตาใส่แล้วสนใจงานของเธอต่อ
“อยู่กับน้องติน่านี่เอง นุชนึกว่าสามีพาสาวที่ไหนมาบ้านตอนนุชไม่อยู่ซะอีก” นุชนาถแกล้งแซวสามีพร้อมรอยยิ้ม แล้วเข้าไปสวมกอดสามีด้วยความคิดถึง
“ไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอคะ ทำไมกลับมาเร็วจัง หรือจริงๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจไปเยี่ยม แต่ตั้งใจไปที่อื่น”
“แหม่... น้องติน่าก็ ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลยนะคะ” นุชนาถถึงกับหน้าถอดสีเมื่อโดนจี้ใจดำ
“ฉันพูดจริงค่ะ ไม่ได้ล้อเล่น เดินทางบ่อยแบบนี้ เมื่อไหร่จะมีลูกสักทีคะ”
“ไม่เอาน่าติน่า อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย” คริสเตียนเป็นฝ่ายสงบศึก ก่อนที่เรื่องจะเกินเลยไปมากกว่านี้
“พี่พร้อมอยู่แล้วจ๊ะ ถามพี่ชายติน่าเองดีกว่า ว่าพร้อมมีลูกหรือเปล่า” นุชนาถพูดออกไปอย่างไม่อาย และแอบประชดสามีไปด้วย มันก็จริงทีแรกเธอไม่พร้อมจะมีลูก แต่ตอนนี้เธอจะทำทุกวิธีให้ท้องกับคริสเตียนให้ได้
“หมายความว่ายังไงคะพี่คริส” คริสติน่าหันไปถามพี่ชายด้วยความสงสัย
“พี่ไปทำงานดีกว่า น้องอยู่บ้านดูแลคุณแม่ด้วยหล่ะ” คริสเตียนตัดบทแล้วเดินออกไปทันที
“น้องติน่าไม่ต้องกลัวว่าจะโดนบังคับแต่งงานหรอกนะจ๊ะ ยังไงพี่ก็ต้องมีหลานให้คุณปู่ให้ได้ ไม่แน่ตอนนี้พี่อาจจะมีแล้วก็ได้” นุชนาถพูดเสียงหวานแล้วลูบที่หน้าท้องตัวเองเบาๆ
“มีให้ได้ก่อนเถอะ” คริสติน่ายกยิ้มที่มุมปากก่อนจะรีบเก็บข้าวของกลับเข้าไปข้างใน ไม่สนใจผู้หญิงอีกคน
‘นังเด็กบ้า คิดว่าฉันชอบแกนักหรือไง รอให้ฉันท้องก่อนเถอะ ฉันจะไม่ไว้หน้าแกเลย’
นุชนาถมองตามหลังน้องสามีด้วยท่าทางเกลียดชัง คริสติน่าเป็นคนเดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่ก็ยังดีที่เธอไม่เคยบอกใคร เพราะเหตุผลง่ายๆ ไม่อยากทำลายครอบครัวของพี่ชาย
..
ครืด~~ ครืด~~
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าของเครื่องกลับไม่ว่างที่จะรับสาย เขาเคร่งเครียดกับงานตรงหน้าจนไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกือบจะบ่ายสามแล้ว และยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิด
ก๊อก!! ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาก่อนจะปรากฏร่างสูงในชุดสูทสีเข้ม เขาคือลูอีส ทาเลอร์ หรือลูซ มาเฟียหนุ่มในคราบนักธุรกิจที่เป็นเพื่อนรักของคริสเตียน และบังเอิญว่าวันนี้เขาผ่านมาทางนี้พอดี ก็เลยแวะเข้ามาทักทายเพื่อนรักสักหน่อย
“เฮ้... เคร่งเครียดไปหรือเปล่าเพื่อน” ลูอีสทักทายเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงทะเล้นตามสไตล์ที่มีให้เห็นเฉพาะกลุ่มเพื่อน แต่กับคนทั่วไปเขาจะกลายเป็นคนนิ่งขรึมทันที
“มาไงวะ” คริสเตียนถามเพื่อนโดยที่สายตายังคงจับจ้องที่เอกสารตรงหน้า
“คุยกับเพื่อนไม่คิดจะมองหน้าเลยเหรอวะ” ลูอีสแกล้งแซวออกไปก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานของคริสเตียน
“นายมีธุระอะไรรีบพูดมาเถอะ ช่วงนี้ฉันงานยุ่งมาก ไม่มีเวลาคุยเรื่องไร้สาระหรอกนะ”
“ถ้าการที่เพื่อนมาชวนไปทานข้าวเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับนาย ฉันก็ไม่รบกวนเวลาของนายหรอกเพื่อน ไปหล่ะ!!” มาเฟียหนุ่มแกล้งตัดพ้อด้วยท่าทางน้อยใจ
“กลายเป็นคนขี้น้อยใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ก็ตั้งแต่เพื่อนแต่งงานมีครอบครัวไปหมดนั่นแหละ ไอ้ฟรานก็อีกคน กลัวเมียจนไม่กล้าออกจากบ้าน อ่อนชิป!!” ลูอีสพูดออกไปตามที่เห็น เขาคนหนึ่งแหละจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาควบคุมเขาได้เด็ดขาด
“เอาเป็นว่าฉันจะยอมไปทานข้าวเป็นเพื่อนนายก็ได้ เพราะถึงฉันจะแต่งงาน ฉันก็ยังเป็นคริสเตียนคนเดิม ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงฉันได้” คริสเตียนพูดออกมาอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่มีใครมาบงการชีวิตของเขาได้
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาไอยลดากับลูกสาวได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังใหญ่เป็นการถาวร เพื่อความสุขและความสบายใจของทุกๆ คน ด้วยความเต็มใจของเธอและลูกสาวตัวเล็กตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่คิริณก็ดูสดใสและพูดคุยเก่งขึ้นเยอะ คงจะเป็นเพราะภายในบ้านหลังใหญ่นี้มีคนเยอะ และทุกคนต่างก็รักและเอ็นดูคิริณกันทุกคน เพียงแค่ย้ายเข้ามาได้หนึ่งเดือน ของเล่นก็แทบจะล้นห้องออกมาแล้วภายในห้องนั่งเล่นของบ้านหลังใหญ่มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งหญิงสาวได้พูดคุยถึงเรื่องการทำงานขึ้นมา“พี่คริสคะหนูขอถ่ายแบบคู่กับลูกได้มั้ยคะ?” ไอยลดาถามออกไปอย่างเฝ้ารอในคำตอบของชายหนุ่มมาเฟียหนุ่มมองใบหน้าสวยด้วยท่าทางนิ่งๆ โดยไม่มีการพูดคุยออกมาแต่อย่างใด“นะคะพี่คริส...”เมื่อดูท่าทางการใช้คำพูดจะไม่ได้ผล ไอยลดาก็เปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงออดอ้อนแทน และยังเข้าไปกอดแขนเขาเอาไว้พร้อมกับซบใบหน้าสวยไปที่ไหล่กว้าง เหมือนกับที่เธอชอบทำในทุกๆ ครั้ง“ไม่!! พี่ไม่อนุญาต” คริสเตียนตอบเสียงแข็ง ถึงเขาจะใจอ่อนให้กับลูกอ้อนของเธอไปแล้ว แต่เขาก็ต้องใจแข็งเอาไว้ เพราะไม่อยากจะให้ภรรยาคนสวยออกไปทำงาน โดยเฉพาะงานที่มีผู้ชายทำร่วม
หนึ่งเดือนต่อมา@คฤหาสน์ตระกูลเวลล์ถึงแม้ไอยลดาจะอยากจัดงานแบบเรียบง่าย เชิญเฉพาะญาติผู้ใหญ่กับคนสนิท แต่ทุกอย่างกลับเป็นอย่างที่เธอต้องการไม่ได้คริสเตียนเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและเป็นคนที่นักข่าวต่างเฝ้าจับตามองและพร้อมที่จะลงข่าวเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ยากที่จะปกปิดข่าววันนี้งานแต่งถูกจัดขึ้นในคฤหาสน์หลังใหญ่ ผู้คนในงานต่างมาร่วมแสดงความยินดีให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันนี้ รวมไปถึงนักข่าวที่มากันเกือบครบทุกสำนักเลยก็ว่าได้“ว๊าววว~ เจ้าสาวสวยมากๆ เลยค่ะ” คริสติน่าที่เดินเข้ามาตรวจเช็คความเรียบร้อยถึงกับตกตลึงความสวยของพี่สะใภ้“มาถึงก็ชมกันเลย แบบนี้ดาก็เขินแย่สิคะ” ไอยลดาก้มหน้าพูดด้วยความเขินอาย“ไม่ต้องเขินหรอกค่ะ ใครเห็นก็ต้องชมแบบติน่าทั้งนั้น” คริสติน่ายังคงยืนยันคำเดิม“งั้นคงต้องชมช่างแต่งหน้าแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ” ไอยลดาพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันไปขอบคุณช่างแต่งหน้าทุกคนที่ช่วยกันทำให้เธอดูสวยได้ขนาดนี้“พี่ดาไปตรวจเช็คความเรียบร้อยที่หน้ากระจกก่อนดีมั้ยคะ” คริสติน่าเอ่ยบอกเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าสาว“ค่ะ” เจ้าสาวตอบพร้อมกับพยักหน้า แล้วลุกขึ้นเดินตรงไปยังกระจกบานใหญ่โดย
ไอยลดาตื่นเช้าตามปกติเหมือนกับทุกๆ วัน เธอตื่นมาทำนู่นนี่นั่นตามปกติ หลังจากทำอาหารเช้าไว้ให้ลูกสาวเสร็จเธอก็เปิดดูทีวีดูรายการข่าวที่เธอชอบดู เพื่อไม่ให้คิดถึงคนใจร้ายที่หายไปทั้งวันทั้งคืน แล้วปล่อยให้เธอนอนร้องไห้จนหลับไป แต่แล้วเธอก็ต้องแปลกใจกับหัวข้อข่าวที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ‘ไฮโซสาวประกาศหย่ากับนักธุรกิจชื่อดังแบบสายฟ้าแลบ’ตากลมโตจ้องมองหน้าจออย่างไม่ละสายตา เมื่อภาพตรงหน้าเป็นภาพของนุชนาถกับคุณแม่ของเธอกำลังแถลงข่าว‘ก่อนอื่นนุชต้องขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจในคู่ของเรา แล้วก็ต้องขอโทษที่ไม่ได้ออกมาพูดเรื่องนี้ให้ทุกคนได้ทราบเร็วกว่านี้ คือความจริงแล้วนุชกับคริสเราได้แยกกันอยู่หลายปีแล้วค่ะ’‘หมายความว่าคุณได้หย่ากับคุณคริสเตียนมานานแล้วเหรอคะ?’‘ใช่ค่ะ หย่ากันมาเกือบสามปีแล้วค่ะ แต่ที่ยังเห็นมีข่าวไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง คือเราไปในฐานะเพื่อนร่วมธุรกิจค่ะ’‘ขอทราบได้มั๊ยคะว่าอะไรที่เป็นสาเหตุให้ต้องเลิกกัน เป็นเพราะมีมือที่สามตามข่าวลือหรือเปล่าคะ?’‘ไม่ใช่เลยค่ะ ไม่มีมือที่สามแต่อย่างใด ความจริงคือเราสองคนเอาแต่บ้างานจนไม่ค่อยมีเวลาให้กัน...’ไอยลดาตกตลึงกับข่าวที่ได้ยิน ทำไมเรื่
คฤหาสน์ตระกูลเวลล์คุณหญิงของบ้านเดินวนไปวนมาอยู่หน้าบ้านด้วยท่าทางตื่นเต้นขณะที่รอหลานสาวตัวเล็ก ทันทีที่รถของคริสติน่ามาจอดท่านก็รีบเดินออกไปรับหลานสาวทันทีคิริณยกมือไว้ทุกคนด้วยท่าทางอ้อนน้อมตามที่คุณแม่สอนและไม่งอแงเอาแต่ใจเล่นกับคุณย่าอย่างน่าเอ็นดูจนคุณย่าหลงหลานหนักยิ่งกว่าเดิม หลงถึงขั้นสั่งทำสวนน้ำไว้ในบ้าน และยังมีบ้านบอลขนาดใหญ่เกือบจะเท่ากับที่อยู่ในสวนสนุกเลยก็ว่าได้“ยิ้มไม่หุบเลยนะคะ” คริสติน่าแซวผู้เป็นแม่ที่กำลังนั่งมองดูหลานสาววิ่งไล่จับกับพวกแม่บ้าน“มีเด็กในบ้านก็มีความสุขแบบนี้แหละ แล้วเมื่อไหร่เราจะมีหลานให้แม่สักที” คุณหญิงพูดทีเล่นทีจริงไม่ได้จริงจังนัก เพราะท่านรู้ดีว่าลูกสาวยังไม่มีแฟน“หนูยังไม่พร้อมจะอุ้มท้องตอนนี้หรอกค่ะ ยังอยากใส่ชุดสวยๆ อยู่”คริสติน่าตอบอย่างรวดเร็วจนไม่ทันคิดว่าคำตอบของเธอทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกถึงความผิดปกติ“เอ๊ะ!! ตอบแบบนี้หมายความว่ายังไง นี่ลูกมีแฟนแล้วเหรอ”“ยังไม่มีหรอกค่ะ”“มีพิรุธนะเรา แอบไปคบกับใครไม่บอกแม่หรือเปล่า”“อย่ามองหนูแบบนั้นสิคะ หนูจะไปปิดบังแม่ทำไมคะ ไม่เอาแล้ว หนูไปชวนหลานเล่นน้ำดีกว่า”คริสติน่ารีบเดินไปหาหลานอย่
ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้าคริสเตียนก็ยังไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เมียของเขาคิดมากจนฝันร้ายแบบนั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่ถามเธอ หากแต่เธอไม่ยอมบอกอะไรเขาเลยต่างหาก“พี่ไปส่งลูกก่อนนะ” คริสเตียนสวมกอดร่างเล็กที่กำลังล้างจานอยู่“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มเช่นเคย หากแต่รอยยิ้มนั้นดูไม่สดใสเหมือนทุกวัน เหมือนเธอกำลังฝืนยิ้มเพื่อให้เขาสบายใจมากกว่า“เฮ้อ...” ไอยลดาถอนหายใจออกมาทันทีที่ร่างสูงออกไปจากห้องครัว ความหวาดระแวงเกาะกุมหัวใจอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้ใจเขา แต่ความฝันเมื่อคืนมันสมจริงจนเธอลบมันออกจากหัวไม่ได้เลยไอยลดานั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถขับเคลื่อนมาจอดหน้าร้าน ตามมาด้วยร่างสูงที่คุ้นเคยที่น่าจะอยู่ที่ทำงานมากกว่ามายืนอยู่ตรงนี้“ลืมอะไรเหรอคะ?”ไอยลดาลุกจากที่นั่งไปหาร่างสูง เผื่อจะได้ไปหยิบของที่เขาอาจจะลืมไว้ แต่กลับโดนคนตัวโตสวมกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเอาหัวใจที่สับสนพองโตขึ้นมาอีกครั้ง แล้วยิ่งได้ยินประโยคต่อมายิ่งทำให้ความอึดอึดภายในใจปลิวหายไป“ลืมบอกรักเมีย”ใบหน้าสวยเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อเจอประโยคบอกรักแบบไม่ทันตั้งตัว และมาในจังหวะที่พอดีกับที
“เป็นเด็กดีตั้งใจเรียนนะคะ ฟอด!!”ไอยลดาบอกลูกสาวพร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาเหมือนที่เคยทำในทุกๆ วันก่อนที่จะส่งลูกขึ้นรถหรูของผู้เป็นพ่อที่ยืนยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่ข้างๆ รถ ซึ่งแตกต่างจากหน้าตาอันบึ้งตึงในตอนที่รู้ว่าเธอกับลูกจะขอไปถ่ายแบบ ไม่ต้องบอกทุกคนก็น่าจะรู้ว่าเพราะอะไร หากไม่ใช่โดนเมียง้อจนเกือบเช้า“พี่ก็อยากได้กำลังใจในการทำงานเหมือนกันนะ” คนเจ้าเล่ห์เดินมาสวมกอดเมียด้วยท่าทางออดอ้อนที่ดูขัดกับลุคมาเฟียเป็นอย่างมาก“ได้ทั้งคืนแล้วยังไม่พออีกเหรอคะ” ไอยลดาตอบเสียงเบากลัวใครจะได้ยิน ทั้งๆ ที่ตรงนี้ไม่มีใครนอกจากเธอกับเขา ส่วนในรถมีอเล็กซ์กับคิริณและคนขับรถ“กับเมียไม่มีคำว่าพอหรอก อยากอยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืนเลย”“ไม่เอาด้วยหรอก แค่นี้หนูก็แทบจะไม่มีแรงเดินแล้ว” เธอบอกไปตามจริงอย่างไม่อาย เพราะร่างกายของเธอสู้ความอึดและทนของเขาไม่ไหวหรอก“งั้นหนูนอนเฉยๆ เดี๋ยวพี่ทำเอง”คำพูดหื่นๆ ของคริสเตียนทำให้ไอยลดาเขินจนหน้าแดงไปหมด อีกทั้งหัวใจยังเต้นแรงเมื่อเขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อประตูรถถูกเปิดออก ทั้งสองคนรีบผละออกจากันเพราะคิดว่าเป็นลูกสาว“เดี๋ยวสายนะครับ”อเล็กซ์