หลินซือหย่าก้มหน้า ลังเลอยู่นาน สุดท้ายเธอก็เล่าเรื่องที่ฉู่เฉินบอกกับเธอให้ฟังทั้งหมด“เพียะ!”ฟังจบ หลินฟางเจิ้งสะบัดฝ่ามือใส่ดวงหน้าเรียวยาวของหลินซือหย่าบนดวงหน้าขาวเนียน ปรากฏรอยนิ้วมือแดงๆ ห้าเส้นในพริบตา!“ไร้ประโยชน์!”ดวงตาของหลินฟางเจิ้งฉายแววโหดเหี้ยม เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เรื่องเล็กๆ แค่นี้ก็ยังทำให้ดีไม่ได้ ตระกูลหลินเลี้ยงเธอไว้จะมีประโยชน์อะไร!”“เธอรู้ไหมว่าสิทธิ์ในการซื้อขายยาบำรุงปราณสำคัญกับตระกูลหลินขนาดไหน!”“ฉันบอกกี่ครั้งแล้ว ขอแค่คว้าสิทธิ์ซื้อขายมาได้ แม้ต้องเสียสละความบริสุทธิ์ ก็ถือว่าคุ้มค่า แม่งฟังไม่รู้เรื่องเหรอ!”พูดจบ หลินฟางเจิ้งก็สะบัดฝ่ามือใส่หน้าเธออีกครั้ง“กรี๊ด!”หลินซือหย่ากรีดร้องด้วยความตกใจ รีบหดหัวหลบทันทีแต่ฝ่ามือนั้นก็ยังคงตวัดโดนใบหน้าเรียวของเธออยู่ดีหลินซือหย่าข่มกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ก่อนจะหันไปพูดกับหลินฟางเจิ้งว่า “หลินฟางเจิ้ง ฟังหนูนะ พ่อแม่ของหนูเป็นคนสร้างหลินซื่อกรุ๊ปขึ้นมา!”“ตอนนี้อาเป็นแค่รักษาการประธานเท่านั้น อีกอย่าง หนูไม่ใช่เครื่องมือของอา!”“ถ้าอากล้าแตะต้องหนูอีก หนูจะแจ้งตำรวจ!”หลินฟางเจิ
หลิ่วหรูเยียนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านหลัง เธอพลิกตัวลงจากเตียงโดยจิตใต้สำนึก นัยน์ตางามมองไปทางหน้าต่างอย่างระแวดระวัง“แกเป็นใคร?”หลิ่วหรูเยียนลนลาน มือเล็กๆ คู่นั้นขยับไปมาบนตัวอย่างไม่รู้ว่าควรปิดด้านบนหรือด้านล่างดีนั่นกลับทำให้เธอดูเหมือนหญิงหม้ายที่ปกปิดความปรารถนาไว้ไม่มิด“ไม่ต้องกลัว ผมแค่มาดูว่าแผลของคุณดีขึ้นรึยัง”เสียงของฉู่เฉินเปลี่ยนเป็นเสียงที่ทุ้มมีเสน่ห์ บวกกับใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั่น ทำให้หลิ่วหรูเยียนนึกถึงใบหน้าอันงดงามสมบูรณ์แบบของราชามังกรที่อยู่ในความทรงจำขึ้นมาได้ทันที!“ระ…ราชามังกร?”หลิ่วหรูเยียนเผยสีหน้าดีใจออกมาผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่กำยำ น้ำเสียงไพเราะที่ยืนอยู่ตรงหน้า คือราชามังกรที่ช่วยเธอไว้ในวันนั้นงั้นเหรอ?หล่อเกินคำบรรยาย!“ใช่ ผมคือผู้สืบทอดของราชามังกรแดนเหนือ แน่นอนว่าคุณจะเรียกผมว่าราชามังกรก็ได้”ฉู่เฉินยิ้มแย้ม ขณะสาวเท้าเดินเข้าไปก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ?!ก่อนตาย ตาเฒ่านั้นเคยพูดอะไรเกี่ยวกับราชามังกรแดนเหนือไว้จริงๆ น่าจะถูกต้องแล้วล่ะ“คุณจริงๆ ด้วย!”หลิ่วหรูเยียนวิ่งไปหาฉู่เฉินด้วยความตื่นเต้นสุดขีดขณะวิ่ง ชา
“เอ่อ… หนู… หนูกำลัง…”หลิ่วหรูเยียนที่ไม่ได้กร้านโลกนัก ถูกความรู้สึกที่ราวกับโดนไฟแผดเผาไปทั้งตัวจู่โจมกะทันหัน ส่งผลให้สมองขาวโพลนไปชั่วขณะแม้แต่คำโกหกที่เตรียมไว้ ก็ยังลืมไปเสียจนสิ้น“หรูเยียน ลูกทำอะไรอยู่ข้างในกันแน่? รีบเปิดประตูสิ!”หลิ่วชิงเหออาบน้ำร้อนมาก่อน ได้ยินเสียงของหลิ่วหรูเยียนก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติแล้ว เสียงเคาะประตูจึงยิ่งรัวกว่าเดิมฉู่เฉินมองหลิ่วหรูเยียนในอ้อมกอดที่ตอนนี้ดวงหน้าแดงผ่าว ตาปรือเล็กน้อย ท่าทางเหมือนคนลืมตัว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายผ่านใบหน้าของเขา“หนู… หนูกำลัง… หนูกำลังวิ่งออกกำลังกายค่ะ…”วิ่งเหรอ?!เด็กบ้า เธอกำลังหลอกใครอยู่ไม่ทราบ!หลิ่วชิงเหอสูดหายใจลึกๆ ข่มไฟโทสะในใจ ก่อนจะทุบประตู พร้อมกับตะโกนเสียงดัง “หรูเยียน ลูกเปิดประตูก่อน!”“อื้อ… อา… อื้อๆ…”หลิ่วหรูเยียนในตอนนี้มีเวลาไปสนใจหลิ่วชิงเหอเสียที่ไหน?ดวงตางามหลับสนิท สมองของเธอได้จมดิ่งสู่ภวังค์อันงดงามไปแล้ว!ลำธารใสที่ไหลผ่านระหว่างภูเขา ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีและดอกไม้งดงามมากมาย เกิดเป็นลำธารลึกและใส เธอและราชามังกรกำลังบรรเลงบทเพลงรักอยู่ข้างลำธารสายนั้นปัง!ในที่สุด
เช้าวันต่อมา ขณะที่ฉู่เฉินกำลังล้างหน้าล้างตา กู้รั่วเสวี่ยก็โทรศัพท์มา“ฉู่เฉิน พี่อยู่บ้านไหม?”พอรับโทรศัพท์ เสียงอ่อนหวานของกู้รั่วเสวี่ยก็ดังมาจากปลายสาย“อยู่ครับ มีอะไรหรือเปล่า?”ฉู่เฉินตอบกลับเสียงเรียบ“ฉันมาเดินตลาดแถวบ้านพี่ ไม่ทันระวังเลยข้อเท้าแพลง พี่รีบเปิดประตูบ้านให้ฉันหน่อย”กู้รั่วเสวี่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเร่งรีบฉู่เฉินวางโทรศัพท์ ก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูบ้านกู้รั่วเสวี่ยยืนอยู่หน้าบ้านนานแล้ววันนี้ กู้รั่วเสวี่ยแต่งตัวเซ็กซี่และทันสมัย ท่อนบนสวมเสื้อเนื้อบางคอวีแหวกลึก ท่อนล่างสวมกระโปรงทรงเอสีดำ เรียวขายาวขาวเนียนทั้งสองข้างถูกกระโปรงทรงเอสีดำรวบไว้แน่นส่วนเท้าเล็กๆ คู่นั้นสวมรองเท้าหนังส้นสูงสีดำพอเห็นฉู่เฉิน กู้รั่วเสวี่ยเดินกะเผลกด้วยสีหน้าเจ็บปวด ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคอฉู่เฉิน บอกว่า “เมื่อกี้ฉันไม่ทันระวัง เลยข้อเท้าแพลง พี่รีบดูให้หน่อยว่าเป็นอะไรมากไหม”ขณะเอ่ย เธอเผยสีหน้าเจ็บปวดออกมาอีกครั้งฉู่เฉินก้มหน้าดูข้อเท้าที่กู้รั่วเสวี่ยเขย่งขึ้นมาให้ดู พบว่าไม่ได้มีรอยแดงที่ชัดเจนแต่อย่างใดตรงกันข้าม พอเธอยกข้อเท้าข้างหนึ่งขึ้นมา ทำให้กระโปรงของเ
ถ้าไม่ใช่เพราะการเดิมพันกับหลิ่วหรูเยียน ฉู่เฉินไม่มีทางเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนโบราณอะไรนั่นแน่นอนส่วนจะดังหรือไม่ดัง ฉู่เฉินไม่เคยสนใจอยู่แล้วมีวิชาสืบทอดจากมังกรเฒ่าอยู่ ของจำพวกชื่อเสียง เป็นเพียงม่านหมอกที่ผ่านเข้ามา ไม่นานก็ผ่านไปหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่เฉินจึงพูดกับฮว่าจิ่วหยางว่า “อาวุโสฮว่า เข้ามาคุยกันข้างในเถอะครับ”“ขอบคุณคุณฉู่มาก อย่างนั้นผมต้องขอรบกวนด้วยนะครับ”ฮว่าจิ่วหยางประสานหมัดให้ฉู่เฉิน ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปในลานบ้านเวลานี้ กู้รั่วเสวี่ยนั่งดื่มชาอยู่ที่โต๊ะหินข้างๆ เธอพยักหน้าให้ฮว่าจิ่วหยางเล็กน้อย“คุณหนูกู้ก็อยู่ด้วยเหรอครับเนี่ย?”สายตาของฮว่าจิ่วหยางกวาดมองผ่านรอยแดงเรื่อบนแก้มของกู้รั่วเสวี่ย พลันตระหนักได้ถึงบางอย่างโดยสัญชาตญาณกู้รั่วเสวี่ยกลับพยักหน้าตอบอย่างนิ่งๆ ว่า “อาวุโสฮว่า นั่งก่อนสิคะ”อย่างไรตระกูลกู้ก็เป็นตระกูลใหญ่ ย่อมต้องรู้จักแพทย์แผนจีนอาวุโสไม่น้อยอยู่แล้ว ฮว่าจิ่วหยางเองก็มีโอกาสได้พบกู้รั่วเสวี่ยในคฤหาสน์ตระกูลกู้เช่นกัน ฉะนั้นทั้งสองก็นับว่าเป็นคนรู้จักกันฮว่าจิ่วหยางจึงไม่เสียเวลาเกรงอกเกรงใจ เขาหันไปพูดกั
เอ่ยจบ เธอก็สาวเท้าไปทางประตูบ้านอย่างขยันขันแข็งฉู่เฉินกลั้นยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าพิจารณาเท้าเล็กๆ ที่ ‘บาดเจ็บ’ ของกู้รั่วเสวี่ยพอเห็นสายตาของฉู่เฉิน กู้รั่วเสวี่ยตระหนักได้ทันที ดวงหน้าน้อยๆ แดงแปร๊ด ก่อนจะยิ้มอย่างเขินๆ ว่า “พี่ดูสิ ฉันบอกแล้วว่าพี่มีความสามารถด้านการแพทย์ที่ล้ำเลิศ คะ…แค่ลูบไม่กี่ที ขาของฉันก็หายแล้ว”ฮ่าๆๆๆ…ฉู่เฉินกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เขาจูงมือเล็กๆ ของกู้รั่วเสวี่ย เดินออกไปข้างนอก……ไม่นาน เฟอร์รารี่สีชมพูคันหนึ่งก็ขับมาจอดตรงหน้าทางเข้าโรงยิมพอประตูรถเปิดออก ขาเรียวยาวคู่หนึ่งที่สวมถุงน่องสีดำก็ก้าวออกมา ดึงดูดสายตาจากคนรอบๆ ได้ในพริบตาหลี่จวิ้นเฟิงที่เพิ่งจะจอดรถในลานจอดรถ ก็มองไปทางเจ้าของเรียวขายาวสวยคู่นั้นอย่างสงสัยเช่นกัน“เมืองเจียงจงนี่มันสุดยอดทำเลทองจริงๆ ไปไหนก็มีแต่ผู้หญิงสวยๆ!”หลี่จวิ้นเฟิงสายตาร้อนแรง น้ำลายแทบจะไหลออกมาอยู่แล้วแต่พริบตาต่อมา เงาร่างของฉู่เฉินก็ปรากฏตัวอยู่ข้างกู้รั่วเสวี่ย เห็นทั้งสองคล้องแขนกันเดินเข้าไปในโรงยิมอย่างสนิทชิดเชื้อ หลี่จวิ้นเฟิงเบิกตากว้างจนแทบถลนออกมา!ไอ้หนูนี่มันโชคดีจริงๆ ถึงขั้นควงสาวสวยระดับนี
“ฉันไม่มีใบปริญญาทางการแพทย์”ฉู่เฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบข่งลิ่งเจี๋ยจ้องฉู่เฉินตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะพูดจาเย้ยหยันดูถูกเขา “ทุกคนได้ยินแล้วใช่ไหม ไอ้หมอนี่ไม่มีแม้แต่ใบปริญญาทางการแพทย์ ยังกล้าเสนอหน้ามาเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนอีก?”“แกไม่รู้เหรอว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนต้องรักษาคนไข้น่ะ? ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดถึงแก่ชีวิตขึ้นมา แกจะรับผิดชอบไหวไหม?”พอได้ยินว่าฉู่เฉินไม่มีแม้แต่ใบปริญญาทางการแพทย์ ทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างก็ส่งสายตาดูถูกมาตามกฎแล้ว แพทย์ทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขัน ล้วนต้องวินิจฉัยโรคให้กับคนไข้ และเขียนใบเบิกยาให้ด้วยฉู่เฉินที่เป็นคนนอกสายอาชีพมาเข้าร่วมการแข่งแบบนี้ ไม่เท่ากับส่งผลเสียกับคนไข้เหรอ?นี่มันไม่ต่างอะไรกับการฆ่าคนเลย!“หมอนั่นมาจากไหน จะใช้กลลวงอะไรก็ควรดูสถานการณ์หน่อยรึเปล่า”“ใครหน้าไหนก็เข้ามาร่วมสนุกได้เหรอ? การแข่งขันครั้งนี้มันยังไงกัน ถึงได้ปล่อยให้คนแบบนี้แฝงตัวเข้ามาได้?”“เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล่ะ? รีบไล่เขาออกไปได้แล้ว!”ฉู่เฉินไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากรอบข้าง แต่กลับเอ่ยด้วยสีหน้าใจเย็นว่า “ฉันไม่มีใบปริญญา เกี่ยวอะ
เอ่ยจบ ฮว่าจิ่วหยางก็เดินมาหยุดยืนต่อหน้าฉู่เฉิน ก่อนจะเอ่ยอย่างขอโทษขอโพยว่า “คุณฉู่ ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ เป็นความสะเพร่าของเราเอง ที่ปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามาอยู่ในทีมผู้คุมการแข่งได้ ผมจะสั่งให้ไล่เขาออกเดี๋ยวนี้”อะไรนะ?ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตะลึงงันนี่มันอะไรกัน?เพื่อขอโทษฉู่เฉิน แม้แต่ผู้คุมการแข่งยังต้องถูกไล่ออก?ข่งลิ่งเจี๋ยหน้าซีด หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว!แค่ตำแหน่งผู้คุมการแข่ง สำหรับเขาไม่ได้สลักสำคัญอะไรก็จริงแต่การถูกฮว่าจิ่วหยางจงใจไล่ออกอย่างนี้ เขาไม่ได้เสียโอกาสในการเป็นผู้คุมการแข่งขันเท่านั้น แต่สิ่งที่รอเขาอยู่ คือการถูกแบนในแวดวงการแพทย์ของเจ็ดมณฑลใต้ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ข่งลิ่งเจี๋ยตัดสินใจทุ่มหมดหน้าตัก ยืดอกและพูดกับฮว่าจิ่วหยางว่า “อาวุโสฮว่า ถึงผมจะเคารพคุณมาก แต่ว่า…”“คนที่ไม่มีแม้แต่ใบปริญญาด้านการแพทย์ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าความสามารถด้านการแพทย์เป็นยังไง”“ปล่อยให้คนแบบนี้เข้าร่วมการแข่งขัน ไม่เท่ากับเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาหรอกหรือ”ฮว่าจิ่วหยางได้ยินก็อดหัวเราะไม่ได้ “ทำไม นี่คุณกำลังตั้งข้อกังขาว่าผมไม่ยุติธรรมงั้นเหรอ?”สายตาของฮว่า
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก