แชร์

บทที่ 487

ผู้เขียน: มู่โร่ว
หวังเซิ่งส่ายศีรษะ “ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เราส่งเจ้ากลับไป...”

“ส่วนเรื่องอื่น เจ้าไปคุยกับท่านแม่ทัพใหญ่เถิด วางใจได้ ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอำมหิตอะไร เขาบอกว่าจะส่งเจ้ากลับบ้าน ก็ต้องทำได้แน่!”

ครั้นได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวอึกทึกดังขึ้นมาจากด้านนอก

ช่างวังที่คอยดูต้นทางอยู่ ก็โยนหินก้อนเล็กไปใต้หน้าต่าง

เตือนว่าหวังเซิ่งควรไปได้แล้ว!

หวังเซิ่งมองไปยังนอกหน้าต่าง “ข้าต้องไปแล้ว!”

เขาเปิดหน้าต่าง ขณะกำลังจะกระโดดลงไป ก็หันหลังกลับมาอีกครั้ง

เขาทิ้งไฟฉายเอาไว้

“ต่อให้ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ช่วยเจ้า เจ้าก็ควรออกไป เจ้าทุ่มเทและจริงใจต่อมู่ฉีซิว แต่เขากลับสั่งไม่ให้โรงครัวส่งของกินให้เจ้า!”

“แม่ทัพใหญ่ไม่มีทางทำกับลูกน้องของตัวเองเช่นนี้ ทุกคนมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน”

“เขายังล้วงขนมปังแข็งที่อยู่ในอกออกมาวางอีก”

ขณะที่เขากำลังจะเปิดหน้าต่างออกไป หยางชิงเหอก็รีบเอ่ยถามเขาขึ้นว่า

“เจ้าชื่ออะไร?”

หวังเซิ่งโบกมือ “ต่อไปเรายังเจอกันอีก!”

พูดจบก็กระโดดออกไปจากหน้าต่าง

หวังเซิ่งปีนออกไปจากกำแพงอย่างรวดเร็ว เมื่อโรยตัวมาถึงยังหลังคาของห้อง ก็อาศัยแสงยามค่ำคืนหนีไป

การกระทำของเขาร
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 488

    “ชิงเหอ เธอยังโกรธฉันอยู่เหรอ?”“ขอเพียงผ่านช่วงเวลานี้ไป รับมือกับตระกูลชุยได้แล้ว ฉันจะทำดีกับเธอให้มาก ๆ”“หลังฉันแต่งงานกับชุยลั่วซิน เธอจะต้องระวังในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าปะทะกับเขา ไม่งั้นถ้าเขาไม่ผ่อนปรนให้เธอ ฉันเองก็ช่วยเธอไม่ได้เหมือนกัน!”“เธอเชื่อฟังนะ! เพื่อธุรกิจของเรา อดทนเอาไว้ก่อน!”หยางชิงเหอขมวดคิ้วมุ่น เธอยิ่งฟังก็ยิ่งสะอิดสะเอียนหากไม่ใช่เพราะออกไปไม่ได้ เธอคงถึงค่ายพักกองทัพตระกูลจ้านนานแล้ว!“ตัดสินใจเลือกฐานที่ตั้งโรงงานเรียบร้อยแล้ว อีกสามวันเธอกับช่างย้ายไปแล้วกัน”“ฉันกับลั่วซินกำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้าจะผลิตปืนออกมา เธอก็อยู่ที่นั่นไปก่อน อย่าปรากฏตัวอีก”“ฉันกลัวว่าตระกูลชุยกับลั่วซินจะไม่ยอมปล่อยเธอไป!”“เอาละ วันนี้ฉันยุ่งมาก อยู่เป็นเพื่อนเธอแพล็บเดียวก็เสียเวลาไปเยอะมากแล้ว!”“จำเอาไว้ อย่าสร้างเรื่องให้ฉัน ไม่งั้นฉันเองก็รับประกันให้เธอไม่ได้เหมือนกัน!”หลังพูดจบ มู่ฉีซิวก็เดินออกไปก่อนหน้านี้เขาใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง แถมยังสัญญาลอย ๆ และยังปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลตอนนี้ กระทั่งสัญญาลอย ๆ เขายังขี้เกียจ และขี้เกียจแสร้ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 489

    หลังหวังเซิ่งจากไป ทุกคนก็ดำดิ่งสู่ความเงียบงันอันที่จริง ช่างวังอยากไปเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้านตั้งนานแล้ว กระทั่งซุนเฮ่อคนหมู่บ้านเดียวกันยังอยู่ดีกินดีขนาดนั้นเขาเป็นช่างตีเหล็ก มีความสามารถติดตัว ไม่มีทางไม่มีข้าวกินทว่าพวกเขาล้วนเป็นคนที่หยางชิงเหอเสนอขึ้นมาตอนนี้เห็นท่าทีที่ท่านหัวหน้ามีต่อนาง เรียกได้ว่าตกลงมาจากฟ้าเลยทีเดียวมิหนำซ้ำ เขายังไปตบแต่งคุณหนูของตระกูลชุยแห่งป๋อหลิงด้วยเช่นนั้นตำแหน่งภรรยาเอกของแม่นางหยางก็ไม่มีแล้วมิหนำซ้ำยังต้องหาวิธีเอาตัวรอดภายใต้เงื้อมมือชุยลั่วซินอีกกระทั่งพวกเขายังร้องขอความเป็นธรรมแทนแม่นางหยางท่านหัวหน้าจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ยุติธรรมเลยทั้งสามคนตัดสินใจ!หนีคืนนี้จะแสร้งตาย!*ตอนพลบค่ำ ที่พักของหยางชิงเหอเกิดเพลิงใหญ่ลุกโชนเพลิงไหม้รุนแรง พลันลุกโชนเผาขึ้นมาถึงขั้นที่ทหารรักษาการณ์ที่ปิดล้อมอยู่ด้านนอก ได้ยินเสียงตะโกนร้องขอให้ช่วยโหยหวนอยู่เลือนรางอยากจะบุกเข้าไปช่วยคน...ทว่าเพลิงลุกไหม้รุนแรง ไม่มีผู้ใดกล้าบุกเข้าไปเมื่อซาเทียนอี้ได้ยินข่าว ก็รีบควบม้ากลับมาจากสนามฝึกการต่อสู้ทันที เขาควบจนม้าเหนื่อยทรุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 490

    ไม่ว่าผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่า นางจะอยู่บนรถม้านอกเมืองหวังเซิ่งพยายามสุดความสามารถที่จะหารถม้ามาเขานำรถม้ามาสองคัน ม้าแต่ละตัวผ่ายผอมจนเห็นกระดูก ไม่มีกำลังวังชาอะไรหวังเซิ่งกลัวว่าพวกมันจะวิ่งไม่ออก เมื่อคืนจึงให้อาหารและขนมแผ่นแป้งไปมากมาย พร้อมให้น้ำไปจนเพียงพอแล้ววันนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่เลวทั้งหมดแปดคน แบ่งเป้นรถม้าสองคัน ม้าหนึ่งตัวลากหนึ่งคันหยางชิงเหอ เสี่ยวเถา หวังเซิ่ง เสียวอู่นั่งคันเดียวกันสวีจู้จัดการให้ช่างทั้งสองคนนั่งคันเดียวกันเดิมทีจะเดินทางตอนกลางคืนทว่าขณะที่หวังเซิ่งหาศพมายัดเข้าไปในเตียงหยางชิงเหอกล่าวว่า “เดินทางตอนกลางคืนอันตรายเกินไป เดินทางตอนบ่ายเถอะ!”หวังเซิ่งไม่เข้าใจนางกล่าวว่า “ตอนกลางคืนออกจากเมืองไม่ได้ ตอนบ่ายใช้อาหารมาติดสินบนทหารรักษาการณ์ประตูเมืองนิดหน่อย ก็ออกไปได้ตามใจชอบแล้ว!”“หลังออกไป อย่าใช้ถนนสายหลัง ความเป็นไปได้ที่จะถูกจับมีเยอะเกินไป!”หวังเซิ่งตัดสินใจฟังนางจากนั้นก็ราดน้ำมันเบนซินที่เตรียมเอาไว้ไปทั่วทั้งห้อง และพลันจุดไฟขึ้นมาฉวยโอกาสขณะที่ทุกคนเบนความสนใจไปที่ห้องด้านหน้า อยากจะช่วยดับไฟพวกหวังเซิ่งก็เคลื่อนย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 491

    ภายในรถ เด็กน้อยถูกมารดาอุ้มไว้ในอ้อมอกและสวีจู้ขับรถอยู่ข้างหน้าเสี่ยวเถากำลังงีบหลับ หวังเซิ่งกับหยางชิงเหออยู่ในห้องเดียวกันอย่างอึดอัดหวังเซิ่งหยิบอากาศยานไร้คนขับออกมาหนึ่งเครื่องจากสัมภาระและยื่นให้หยางชิงเหอหยางชิงเหอเห็นอากาศยานไร้คนขับแล้วเบิกตาโพลงราวกับแผ่นดินไหว“นะ นี่มัน อากาศยานไร้คนจับจริงด้วย พวกเจ้ามีแม้กระทั่งสิ่งนี้?”เขาพยักหน้า “นี่เป็นเพียงรุ่นเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอากาศยานไร้คนขับขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ที่สามารถพกพาสิ่งของหนักหนึ่งร้อยชั่งอยู่กับท่านรัฐทายาทตรงนั้นอีก!”“เจ้าบังคับมันบินออกไปแล้วดูว่ามีทหารไล่ตามมาด้านหลังหรือไม่”“ข้าจะบังคับหนึ่งเครื่อง คอยสังเกตว่าทางเล็กด้านหน้ามีคนหมอบซุ่มหรือไม่…”“เจ้าบังคับการบินเป็นใช่ไหม?”หยางชิงเหอพยักหน้า “เป็น เมื่อก่อนข้าเคยมีหนึ่งเครื่อง!”*เย่มู่มู่เตรียมตัวบินไปเมืองหลวงในตอนแรก แต่ไม่คาดคิดว่า จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่าแม่นางหยางผู้นั้นเดินทางถึงฐานทัพเมืองหยงโจวอย่างราบรื่นเหมืองแร่ถูกกองกำลังหนึ่งแสนคนของกองทัพตระกูลจ้านยึดครองดึงดูดพลเมืองของหมู่บ้านบริเวณใกล้ ๆ และพลเมืองขุดเหมืองมาได้นับไม่ถ้วน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 492

    หวังเซิ่งพูดกับหยางชิงเหอ “ข้าจะพาเจ้าไปพบแม่ทัพใหญ่!”“อืม!”หวังเซิ่งพาหยางชิงเหอมาถึงค่ายพักประจำการของกองทัพตระกูลจ้านมีกระโจมมากมายหลายหลัง ส่วนใหญ่เป็นกระโจมผ้าใบกันน้ำกันแดดที่มาจากโลกปัจจุบันตรงยอดกระโจมยังติดแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไว้หนึ่งอันภายในกระโจมมีไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์และมีพัดลมตัวเล็ก…หยางชิงเหออ้าปากค้างเป็นรูปตัวโอเมื่อมาถึงกระโจมของแม่ทัพใหญ่วินาทีที่เห็นกระโจมเธอตะลึงงันอีกครั้งเพราะว่าอันที่เรียกว่ากระโจม แท้จริงแล้วเป็นบ้านสำเร็จรูปใช่ หน้าตาเหมือนบ้านสำเร็จรูปตามพื้นที่ก่อสร้างในโลกปัจจุบันทุกประการเย่มู่มู่ซื้อรถขุด รถบรรทุกดินที่ยุคปัจจุบันจำนวนมาก เถ้าแก่ที่เคยทำงานก่อสร้างสมัยก่อน จึงนำบ้านสำเร็จรูปที่ขายไม่ออก มาขายให้เธอในราคาถูก ๆ ทั้งหมดพื้นที่บ้านสำเร็จรูปสามารถให้คนมาอยู่อาศัยได้นับหมื่นคนเพราะว่ามีจำนวนที่มากเกินไปจริง ๆภายนอกของบ้านสำเร็จรูปดูเก่า ๆ แต่เพียงทำความสะอาดและฆ่าเชื้อข้างในสักหน่อยก็เข้าอยู่ได้แล้วที่สำคัญมันสะดวกกว่ากระโจมอีกบ้านสำเร็จรูปที่จ้านเฉิงอิ้นพักค่อนข้างกว้าง ข้างบนปูแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไว้เต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 493

    หยางชิงเหอมีพื้นฐานวิชาช่างที่มั่นคงมาก แม้ว่าเธอไม่ได้จบการศึกษาด้านการออกแบบ แต่การที่เย่มู่มู่ส่งหนังสือมาให้เรื่อย ๆ ทำให้เธอได้ศึกษาไปพร้อมกับวางแผนฐานรากไปด้วยภายใต้การชี้นำของเธอ ฐานรากจึงสร้างขึ้นมาอย่างประสบความสำเร็จ!*เย่มู่มู่กับบอดี้การ์ดสองคนบินไปที่ตำบลอีกครั้งหลังจากฐานรากของจ้านเฉิงอิ้นสร้างเสร็จแล้วโรงงานของตำบลก็ซ่อมบำรุงเสร็จแล้วเช่นกันสภาพแวดล้อมในโรงงานแตกต่างไปจากครั้งล่าสุดผนังกำแพงใหม่เอี่ยมและสิ่งก่อสร้างล้วนมีการทาสีขาวใหม่ทั้งหมดวัชพืชตามทางเดินในโรงงานก็กำจัดแล้วเรียบร้อยเมื่อเข้าไปในโรงงาน ไม่มีฝุ่นหนาอยู่ข้างในอีกต่อไปหม้อต้มเคยเผาแล้ว ห้องผลิตเคยเปิดใช้งานแล้วและปล่องควันก็ได้รับการทำความสะอาดแล้วเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบที่เดินทางมาพร้อมกัน ทำการทดสอบแล้วหนึ่งรอบพบว่าตรงตามมาตรฐานการใช้งานทุกชิ้นอุปกรณ์สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ!เธอจึงเซ็นสัญญาเข้ารับช่วงต่อกับรัฐบาลท้องถิ่นในอนาคตพวกเขายังต้องพึ่งการถ่ายทอดสดเพื่อขายสินค้า ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นไม่มีทางซ่อมแซมตามใจชอบเพียงรับมือกับเธอแน่นอนหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว เธอจึงชำระเงินส่วนที่เห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 494

    “อยากเข้าไปดูข้างในยิ่งนัก ถ้าโรงงานแห่งนี้เริ่มใช้งาน เช่นนั้นแล้วหลังจากนี้พวกเราก็จะมีอาวุธเหล็กชั้นดีใช้อย่างต่อเนื่อง~!”“แต่ละแคว้นในหัวเซี่ย จะมีใครเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราอีก?”จ้าวเฉียนยิ้มแย้มกล่าวอย่างหนำใจ “ข้าถึงกระทั่งคิดถึงความเจริญรุ่งเรืองที่รวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยพวกเราแล้วล่ะ”ซ่งตั๋วตบ ๆ ที่ไหล่เขา “ชู่ว ถ่อมตัวหน่อย ตอนนี้พวกเรายังจัดการกองทัพธงเหลืองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ รวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวกันยังไกลเกินไป!”หยางชิงเหอสวมเสื้อผ้าผู้ชายเดินออกมาและได้ยินคำพูดของซ่งตั๋วเธอยิ้มแย้มเป็นดังที่คิดไว้จริง จ้านเฉิงอิ้นได้รับเงื่อนไขที่ดีถึงเพียงนี้!เขาไม่มีทางไม่ก่อกบฏ!การรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เขามีความได้เปรียบกว่ามู่ฉีซิวมากมู่ฉีซิวผู้นี้มีคุณสมบัติความเป็นคนที่ชั่วร้ายเกินไป!แต่จ้านเฉิงอิ้นแตกต่างออกไปช่วงเวลานี้ เธอมองเห็นแล้วว่าจ้านเฉิงอิ้นปฏิบัติกับคนใต้ล่าง ปฏิบัติกับทหารและปฏิบัติกับพลเมือง…แตกต่างจากมู่ฉีซิวโดยสิ้นเชิงมู่ฉีซิวนั้นหาทุกวิธีทางเพื่อเอาเปรียบพลเมือง ชีวิตของคนสำหรับเขาเป็นเพียงของฟุ่มเฟือยเมื่อมีคนเจ็บป่วย ทั้งที

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 495

    การสร้างสุดยอดโรงงาน ทำให้ชื่อเสียงของจ้านเฉิงอิ้นกลายเป็นตำนานอีกครั้งเพราะว่าพลเมืองทุกมองเห็นสุดยอดโรงงานแล้วทุกคนบอกต่อกันราวกับเป็นเรื่องปฏิหาริย์ผู้สอดแนมที่แต่ละแคว้นส่งมาแฝงตัวในกลุ่มพลเมืองวันนี้ ก็ได้ส่งข่าวที่จ้านเฉิงอิ้นสร้างสุดยอดโรงงานขึ้นมากลับไปยังแคว้นของตนรวมถึงมู่ฉีซิว เขาคือคนที่ได้รับข่าวมือแรกเมืองหยงโจกับเมืองซู่โจวอยู่ใกล้กันมากเมื่อมู่ฉีซิวได้ยินข่าวการตายของหยางชิงเหอ~เขากำลังอยู่กับตระกูลชุยที่ป๋อหลิง ยังปรึกษาหารือเรื่องงานแต่งงานกับหัวหน้าตระกูลชุย พลางได้ยินเรื่องที่หยางชิงเหอพร้อมกับสาวรับใช้และช่างสองคนถูกไฟเผาตายพร้อมกันทั้งหมดเขาตกใจมาก ไม่ได้กำหนดวันแต่งงานไว้แต่อย่างใด วางสินสอดทองหมั้นไว้อย่างรวดเร็วเสร็จก็พาคนกับม้าเร่งกลับมาในค่ายทหารทันทีเมื่อเขาเห็นศพที่ถูกไฟเผาไหม้เกรียมทั้งสี่ร่างสีหน้าก็เปลี่ยนไปชัดเจน!หยางชิงเหอตายแล้ว!เธอตายแล้ว!เส้นทางสู่การครองอำนาจของเขา เพราะการตายของหยางชิงเหอ คงไม่มีวันทำสำเร็จได้แล้วเขาไม่สามารถยอมรับผลของการโจมตีเช่นนี้ได้เขาโน้มตัวเข้าหาศพเพศหญิง พลิกตัวศพหาหลักฐานที่ยืนยันว่าศพร่างนี้

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status