공유

บทที่ 660

작가: มู่โร่ว
เหล่าทหารยังไม่ทันได้เปล่งเสียงร้อง ก็ร่วงลงมาจากหอคอยสูง

และเสียชีวิตในทันที

หน้าผากของเขาถูกแรงระเบิดฉีกจนแหลกเละ

เหล่าทหารเผ่าหมานจำนวนมากพากันกรูเข้าไปดู

เมื่อได้เห็นสภาพศพ ทุกคนล้วนเผยสีหน้าตื่นตระหนก

นี่คืออาวุธลับ

อาวุธลับชั้นยอดที่มีระยะยิงไกล

พวกเขาแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระสุนถูกยิงมาจากทิศไหน และเป้าหมายที่แท้จริงคือใคร

ผู้คนล้มตายไปโดยไม่ทันได้รู้ตัวแม้แต่น้อย

จะสู้อย่างไร?

นี่มันน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!

หลัวซู่เห็นเหล่าทหารพากันล้อมเข้ามา เขาตะโกนลั่น เสียงนั้นดุดันจนฝูงชนรีบแตกกระเจิงออกจากกัน

เขาก้าวไปหาศพของทหารที่เสียชีวิต

เมื่อเห็นหน้าผากที่ถูกระเบิดเปิดเป็นโพรงดำสนิท เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด

เขาชักดาบออกมา ก่อนจะฟันลงไปตรงกะโหลก

ในสมองของทหารคนนั้น มีหัวกระสุนขนาดใหญ่ที่ระเบิดอยู่ภายใน

ทุกคนที่ถูกยิง โดนเข้าทีเดียวก็ตายคาที่!

สีหน้าหลัวซู่ซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้างจนแทบฉีกขาด เขาจ้องมองกระสุนลูกซองแน่นิ่ง

“นี่มัน...”

นี่มันอะไรกันแน่?

ทำไมมันถึงสามารถฆ่าทหารยามของเขาได้จากระยะไกล?

เดิมที ศึกครั้งนี้เขามั่นใจเต็มสิบส่วนว่าจะสังหารจ้านเฉิงอิ้นได้ เพื่อแก้แ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 661

    ทหารหลายพันนายรีบขึ้นรถทันที พวกเขาง้างธนู ยิงปืนไรเฟิลใส่ทหารเผ่าหมานที่เข้ามาที่รถ...แม้ทหารเผ่าหมานจะขี่ม้า ทว่า เมื่อรถบรรทุกเร่งความเร็ว ม้าก็ยังตามไม่ทันอยู่ดียิ่งตามยิ่งห่างไกลไม่พูดถึง พวกเขายิงปืนในห้อง ทำให้ทหารม้าของเผ่าหมานล้มลงไม่น้อยทว่าที่ล้มลงเยอะกว่าคือม้าศึกตามออกมาครั้งหนึ่ง มีม้าศึกตายนับพันตัว กับอีกหลายร้อยคนทว่ากองทัพตระกูลจ้านกลับไม่ถูกฆ่าเลยแม้แต่คนเดียวแม้พวกเขาอยู่บนหลังม้าก็ยังยิงธนูได้ ทว่าระยะของการยิงธนู ไกลไม่สู้หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...ในตอนที่พวกเขากลับมารายงานอย่างทุลักทุเล แล้วหลัวซู่ได้ยินว่าฆ่าไม่ตายเลยแม้แต่คนเดียว ก็เดือดดาลจนฟันทิ้งเสียตรงนั้นเลย พร้อมกับนำทหารไล่ล่าแม่ทัพของกองทัพตระกูลจ้าน!นี่ต่างจากบทที่เขาจัดวางเอาไว้!ทำไมกัน?ทำไมกองทัพตระกูลจ้านถึงมีอาวุธที่ล้ำหน้ามากมายขนาดนั้นทำไมถึงได้มีกรงขนาดใหญ่ที่วิ่งเร็วเสียยิ่งกว่าม้า!ไม่ง่ายเลยกว่าพวกเขาจะหาวัตถุระเบิดมาได้!สุดท้าย กองทัพตระกูลจ้านก็เปลี่ยนอาวุธที่ร้ายกาจกว่า และมีประสิทธิภาพสูงกว่าออกมาไม่ เขาบุกมาจนถึงบริเวณใกล้กับเมืองหลวงของต้าฉี่แล้ว เห็นได้ว่าจะสำเร็จอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 662

    เย่มู่มู่เพิ่งกลับถึงบ้าน เมื่อเธอกลับมาก็ให้คนใช้และบอดี้การ์ดช่วยกันย้ายขนมปัง และขนมปังแข็งที่ซื้อมาวันนี้กลับโกดังทุกครั้งที่เธอซื้อของข้างนอก มักจะเหลือไว้บนรถหนึ่งถึงสองลังเสมอ ให้คนย้ายกลับโกดังมาเรียนที่เมืองหลวง เพิ่งจะแค่สิบกว่าวัน โกดังก็มีของกองเต็มไปหมดแล้วเหล่าคนรับใช้ไม่เข้าใจระดับความบ้าคลั่งในการตุนของเย่มู่มู่เป็นอย่างมาก ทำเป็นว่าคุณหนูเย่เสพติดการช็อปปิงเธอได้ยินเสียงแหบแห้งของจ้านเฉิงอิ้น พร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้น กล่าวว่า : ท่านเทพ ขอบคุณนะขอรับ!เธอก็ฉีกยิ้มออกมา“จ้านเฉิงอิ้น ข้าดีใจมาก! มู่ฉีซิวตายแล้ว แปลว่าเราเปลี่ยนประวัติศาสตร์แล้ว?”“เขาซี้แหงแก๋แล้ว ถูกระเบิดจนสลายหายไปเป็นเถ้าถ่าน ฉะนั้น...เจ้าคงไม่ตายแล้ว ใช่หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นฉีกยิ้มในสายตามีความอาลัยอาวรณ์ เขากล่าวขึ้นว่า “ใช่ขอรับ ข้าจะไม่ตาย!”“เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่? เจ้าประสบความสำเร็จไม่น้อยไปกว่ากว้านจวินโหวเลย เจ้ารวมให้เป็นหนึ่งได้ล่วงหน้าก่อนจริง ๆ จะต้องกลายเป็นจิ๋นซีฮ่องเต้! จะถูกพิมพ์ด้วยตัวหนาและตัวใหญ่ในหนังสือประวัติศาสตร์ แม้จะผ่านไปหนึ่งพันปี สองพันปี หนึ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 663

    เย่มู่มู่ทำงานทั้งคืนจนถึงตีสองหาบริษัทเพาะพันธุ์ขนาดใหญ่สี่แห่ง บริษัทเพาะพันธุ์ในพื้นที่ มั่นใจว่าไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรมของเมล็ดพันธุ์ และสั่งออเดอร์ สั่งซื้อปริมาณล็อตใหญ่ติดต่อโรงงานอุปกรณ์การเกษตรขนาดใหญ่สามแห่ง โรงงานอุปกรณ์การเกษตรทางเหนือสายพันธุ์เยอะ ใช้สะดวกเป็นอย่างมากรถแทร็กเตอร์ เครื่องไถนาและเครื่องหว่านเมล็ดพันธุ์...มีครบทุกอย่างต่อให้เป็นอุปกรณ์เพาะปลูกเหล็กขนาดเล็กแบบบังคับมือ ก็มีครบทุกอย่างเย่มู่มู่กวาดสินค้าทั้งหมดจนเรียบ กระทั่งถามในสต็อก กวาดสต็อกที่ค้างของทั้งสามแห่งจนเรียบเช่นเดิมยังมีโรงงานปุ๋ย เธอสั่งกับโรงงานปุ๋ยโรงงานใหญ่สองแห่งหนึ่งในนั้นกิจการไปได้ไม่ค่อยสวย ในสต็อกค้างสินค้าไว้เยอะมาก สินค้าที่ขายออกไป ไม่ได้รับการชำระเงินชักหน้าไม่ถึงหลังแล้วเย่มู่มู่ไม่เพียงเหมาสต็อกจนเกลี้ยง ทว่ายังสั่งออเดอร์หนึ่งพันห้าร้อยล้านขอให้โรงงานส่งสินค้าตลอดทั้งปี ทำให้โรงงานแห่งนี้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งเถ้าแก่รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณอย่างสุดซึ้ง จะเลี้ยงข้าวเย่มู่มู่ให้ได้ ทว่าถูกเธอปฏิเสธกลับไป เธอบอกเถ้าแก่ไปว่า คุณภาพของปุ๋ยไม่มีปัญหา จะเพิ่มปริมาณการ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 664

    “คุณหนูเย่ นอนไม่หลับ? มาสนุกไหมคะ?”“ไม่ละ พี่เวินลี่ มีทนายที่พึ่งพาได้แนะนำบ้างไหม?”เมื่อพูดถึงทนาย เวินลี่ก็ไปหาที่เงียบ ๆ พูดคุยรายละเอียดกับเธอ“เกิดอะไรขึ้นเหรอค? หูลูหมิงออกมาจากสถานีตำรวจแล้วไม่ใช่เหรอ? หรือว่าอีกฝ่ายฟ้อง?”“ฮึ เรื่องที่คุณนายใหญ่ลู่จ้างวานฆ่าคน แพร่ออกไปจนคนรู้กันทั่ว พวกเขายังคิดอะไรแผลง ๆ อีก!”“เรื่องนี้เธอถูกสับจนเละแล้ว พลิกคดีไม่ได้!”“หากทนายของอีกฝ่ายตามตอแยคุณ ให้คุณเซ็นหนังสือยอมความ จำเอาไว้นะคะ อย่าเซ็นเป็นอันขาด!”“โอเคค่ะ พี่เวินลี่ เป็นเรื่องอื่น ฟู่ลี่กรุ๊ปที่พ่อฉันทิ้งเอาไว้ให้ เกือบจะหนึ่งปีแล้วยังไม่แบ่งเงินปันผลให้ฉันเลย ฉันรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากล เมื่อกี้โทรหาทนายทนายคนที่รับผิดชอบเรื่องกฎหมายของฟู่ลี่กรุ๊ป เขาแนะนำให้ฉันขายหุ้นทิ้ง!”“แต่ว่า บริษัทเป็นสิ่งที่พ่อฉันทุ่มเท!!”เวินลี่ได้ยินดังนั้นก็เดือดดาลจนโพล่งขำ“แม้ฟู่ลี่กรุ๊ปจะไม่ใช่บริษัทเมืองหลวง แต่ลูกค้าประจำที่อยู่ในบอร์ดหุ้น เนื่องจากบริษัทลูกที่ทำเรื่องพลังงานใหม่ ทะลุลิมิตติดต่อกันเจ็ดบอร์ดแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะไม่แบ่งเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นใหญ่?”“ฮ่า หนำซ้ำยังคิดเตะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 665

    ตงโจวหยางชิงเหอและเฉินขุย จวงเหลียงมาถึงยังฐานที่มั่น ฟ้าก็มืดแล้วขณะพวกเขามาถึง กองทัพธงเหลืองส่วนน้อย ๆ นั่งอยู่บนพื้นไม่กินไม่ดื่ม นั่งอยู่ทั้งคืนพวกเขาไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าสวามิภักดิ์ก่อน ทว่าถูกตีจนพ่าย ถูกจับตัวเป็นเชลยศึกฉะนั้น กำลังอารมณ์ขุ่นมัวอยู่อีกด้านหนึ่ง กองทัพธงเหลืองส่วนใหญ่ที่ถูกจับเป็นเชลยศึก คุกเข่าอยู่บนพื้นกำลังช่วยก่อไฟต้มโจ๊ก!เมื่อวานประชาชนของตงโจได้กินโจ๊กที่ค่ายพักกองทัพตระกูลจ้านต้มแล้ว บวกกับทัพใหญ่สองแสนนายที่ถูกเผ่าหมานล้อมเอาไว้ในเมืองพวกเขาคิดตกแล้วเนื่องจากคนส่วนนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นสตรี คนชราและเด็ก หากเป็นบุรุษที่ยังหนุ่มยังแน่นจากไปได้ ก็ล้วนคิดหาวิธีเข้าไปในเมืองหลวงทั้งสิ้น ทิ้งลูกเมียและมารดาที่เป็นม่ายเอาไว้เมื่อวานพวกนางได้กินโจ๊กข้าวของกองทัพตระกูลจ้าน เส้นบะหมี่ร้อนแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นฝ่ายยินยอมอยู่ต่อเองทั้งสิ้นหนำซ้ำยังมีแหล่งน้ำไม่จำกัดให้ใช้ฉะนั้น จึงสมัครใจแบกรับการทำงานเล็กน้อย เพื่อแลกกับอาหารที่ไม่ต้องเสียเงินเช้าตรู่ พวกนางตื่นเช้ากว่าพ่อครัว เก็บฟืน ก่อเตาไฟ เตรียมต้มโจ๊กให้ทุกคนบวกกับอาหารของห้าหมื่นคน ฉะนั้นท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 666

    ส่วนกองทัพธงเหลืองที่กำลังประท้วงอดข้าว ครั้นเห็นพวกหยางชิงเหอและหวังเซิ่ง ก็ถุยออกมาคำหนึ่ง ก่อนจะก่นด่าว่าเป็นคนทรยศครั้นหวังเซิ่งเห็นเช่นนั้น ก็คิดจะอัดคนที่ถุยน้ำลายสักยกทว่าถูกหยางชิงเหอห้ามเอาไว้นางส่ายศีรษะ “อย่าไป หวังว่าหลังจากนี้พวกเขาจะยังแข็งแกร่งเช่นนี้อยู่!”หยางชิงเหอมายังหน้ากระโจมของจ้านเฉิงอิ้นหลังเขากับเย่มู่มู่พูดคุยกัน ก็เตรียมปักหลักที่ฐานที่มั่นนี้ในระยะยาว บุกเบิกพื้นที่นา เพาะปลูกข้าวนาน้ำตอนนี้ในที่ว่างเปล่าของแจกัน นอกจากมีตู้คอนเทนเนอร์เสบียงอาหารและประเภทเนื้อแล้ว ยังมีผักอีกมากมายยังมีรถบรรทุกมือสองอีกมากกว่าร้อยคัน บอกกับรถใหม่ในก่อนหน้านี้อีก เขามีรถบรรทุกทั้งหมดสามร้อยคันทุ่นกระบอกของรถบรรทุกน้ำมัน มีสามสิบกว่าคันรถบ้านห้าสิบกว่าคันรถบรรทุกขนาดกลางรถบรรทุกดินมือสอง ยี่สิบกว่าคันจักรยานไฟฟ้าสามล้อ ลากของได้ มีสิบกว่าคันทั้งหมดเป็นรถที่เย่มู่มู่ซื้อมาจากร้านขายรถมือสองรอบ ๆ เมืองหลวงในหลายวันมานี้นางบอกว่า ที่มหาวิทยาลัยให้หยุดสามวัน เตรียมซื้ออุปกรณ์การเกษตร เมล็ดพันธุ์และปุ๋ยให้ครบเมื่อของมาถึงก็ขนย้ายเข้าไปในที่ว่างเปล่าของแจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 667

    ของเหล่านี้ล้วนเป็นเสบียงอาหารทั้งสิ้น!เป็นเสบียงอาหารทั้งหมด!เนื่องจากประตูของตู้คอนเทนเนอร์บางส่วนเปิดอยู่ มีกระสอบที่ไม่แข็งแรงหลายกระสอบ ใส่ของไว้จนแน่น เมล็ดข้าวขาวบริสุทธิ์ ไหลซู่ซ่าออกมาเป็นครั้งคราวทุกคนต่างเห็นกันหมด ภายในตู้คอนเทนเนอร์บรรจุข้าวเอาไว้ทหารกองทัพธงเหลืองนับไม่ถ้วน ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น แล้วเดินเข้าไปทางข้าวด้วยความไม่เป็นตัวเองตุบ ตู้คอนเทนเนอร์ที่ไม่ได้บรรจุกจนเต็มอีกตู้หนึ่งเนื้อแช่แข็งด้านในหล่นตุบ ๆ ลงมาเป็นหมูทั้งตัวตัวหนึ่ง หมูขาวแช่แข็งจนเป็นน้ำแข็ง หัวหลายหัวร่วงลงมาจากตู้คอนเทนเนอร์ตุบ ๆเนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์กองเอาไว้ครั้นหล่นลงมา ก็ตกลงพื้นดังตุบ ๆครั้งนี้ ไม่เพียงกองทัพธงเหลืองเท่านั้น กระทั่งพวกชาวบ้านต่างล้อมเข้าไปดูมีเด็กคนหนึ่งตะโกนเสียงดังว่า “ท่านแม่ ๆ เป็นเนื้อหมู เนื้อหมูขาวชิ้นใหญ่ ๆ”“ข้าไม่ได้เห็นเนื้อมานานมากแล้ว ฮือ ตกลงมาใช่หรือไม่ เราจะมีเนื้อกินแล้ว”สตรีผู้นั้นอุ้มเด็กไป แล้วขอโทษกับทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้าน ก่อนจะรีบออกไปเสียงตะโกนนี้ ทำให้เชลยศึกจากกองทัพธงเหลืองสามหมื่นนายที่ประท้วงอดอาหารอยู่ ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 668

    ดูสิเมื่อวานพวกเขาถูกควบคุมตัวมาที่นี่ ตรงหน้าพวกเขามีโจ๊ก และน้ำสะอาดหลายถังวางเอาไว้...ไม่มีใครทักทายพวกเขา กองทัพตระกูลจ้านเห็นว่าพวกเขาไม่มีตัวตนอยากกินก็กิน ไม่กินก็เก็บกลับไป ยุ่งเป็นอย่างมาก ไม่มีเวลามาสนใจพวกเขาทว่าชาวบ้านและกองทัพธงเหลืองคนอื่น ๆ มาพูดโน้มน้าวมาดูการยืนหยัดของตัวเองในตอนนี้แล้ว ช่างน่าขันจริง ๆฉะนั้น จึงมีคนลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาหน้าถังโจ๊กอย่างเลื่อนลอยเมื่อคืนพวกเขาทนหิวมาตลอดทั้งคืน บวกกับได้รับบาดเจ็บ จึงเดินไม่ค่อยมั่นคงแล้วโจ๊กเย็นหมดแล้วคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ด้านบน และเนื้อบดละเอียด เหนียวติดอยู่ด้วยกันแข็งอย่างมากไม่คล้ายกับน้ำซุปใส ๆ แบบนั้น ทว่าเป็นของกินที่สามารถทำให้อิ่มท้องได้หยิบถ้วยมาจากตะกร้าด้านข้างหนึ่งใบ จากนั้นใช้กระบวยตักโจ๊กมาหนึ่งถ้วยและกินลงไปในวินาทีที่เข้าปากไป กลิ่นหอมกรุ่นนุ่มละมุน แม้จะเย็นแล้ว ทว่าก็ยังอร่อยมากในนั้นไม่ได้มีเพียงเศษเนื้อ ทว่ายังใส่ไข่และผักกาดขาวลงไปด้วยยังมีกลิ่นเกลืออีกด้วยที่จริงในค่ายทหารกองทัพธงเหลืองไม่ขาดเกลือ ทว่าไม่ได้ใช้เกลือที่ดีที่สุด ใช้เป็นเกลือหยาบที่กินแล้วมีรสขมเสบียงอ

최신 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status