เมื่อกำหนดการมาถึง เตชินก็ต้องยอม
แต่งงานกับณัชชาอย่างจำใจ งานแต่งงานถูกจัดขึ้นในโรงแรมอย่างหรูหรา แต่แขกที่เชิญมามีแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีเพื่อนของทางฝั่งเจ้าบ่าวเลยสักคน มีเพียงผู้ช่วยคังที่ต้องรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงาน ผู้คนที่มางานต่างพกรอยยิ้มมาด้วยความชื่นมื่น แต่เตชินกลับนิ่งเงียบแววตาเย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึก ณัชชารู้สึกเหมือนเตชินไม่ให้เกียรติและรู้สึกไม่ดีเอามากๆ เพราะเกรงแขกในงานจะเอาไปเมาท์สนุกปาก เธอจึงกระซิบกับเขาว่า " วันนี้เป็นวันแต่งงานของเรา พี่ช่วยฝืนทำหน้าให้เป็นปกติหน่อยได้มั้ยคะ ขอร้องล่ะ " เตชินยิ้มร้าย มองมายังเธอแล้วเอ่ย " คุณหนูณัชชาอายเป็นด้วยเหรอ กลัวคนรู้หรือไงว่าผมไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับคุณ ถึงกับต้องเอ่ยขอร้อง ความจริงผมมาแต่งงานให้เป็นบุญแค่ไหนแล้ว ไม่แน่ผมอาจจะเปลี่ยนใจทิ้งเจ้าสาวกลางงานก็ได้ หลังจากที่ได้บอกความจริงสาเหตุที่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักอย่างคุณ " เอ่ยจบเขาก็โชว์เครื่องบันทึกเสียงให้ณัชชาดูแล้วชี้ไปยังพนักงานคนหนึ่ง ที่กำลังเดินไปที่หลังเวทีกำลังเข้าไปในห้องควบคุมเครื่องเสียง แล้วเขาก็เอ่ยอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า " ทุกคำพูดของคุณที่พูดขู่ผมวันนั้น จะถูกเผยแพร่ในอีกไม่กี่นาทีนี้แล้ว ถึงเวลานั้น ผมขอแสดงความเสียใจด้วย ที่คุณไม่สมหวัง ได้ในสิ่งที่ต้องการ จำไว้ว่าผมจะไม่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกับคนที่ผมไม่ได้รักอย่างคุณแน่นอน ในเมื่อคุณกล้าขู่ผม คุณก็รับผลตอบแทนในสิ่งที่คุณทำลงไปทั้งหมด จากนี้ไปคุณกับผมเป็นแค่คนรู้จักคนหนึ่ง จะไม่ใช่พี่น้องหรือเพื่อนที่โตมาด้วยกันอีกต่อไป " ณัชชามองตามมือที่เตชินชี้ไป เธอเริ่มหน้าซีด และตื่นตระหนกอยู่ไม่เป็นสุขอีกต่อไป จากนั้นเธอก็หันมาเอ่ยกับเตชินอย่างอ้อนวอน " พี่อย่าทำแบบนี้เลย ขอร้องเห็นแก่ความสัมพันธ์และหน้าตาของตระกูลเราสองคนด้วยเถอะนะ " เตชินมองเธอด้วยแววตาคมกริบอย่างเหยียดหยามแล้วเอ่ยอย่างเลือดเย็นไร้หัวใจ " อย่าให้ผมได้ยินคุณเรียกผมว่าพี่อีก คุณกับผมกลายเป็นแค่คนอื่นไปแล้ว " เวลานี้สำหรับณัชชา เธอไม่สนอะไรแล้ว เพราะจะให้สิ่งที่เตรียมมาทั้งหมดพังลงเพียงพริบตาเดียวไม่ได้ เธอจึงปรับเปลี่ยนลุคทันที จากสาวหวานยืดตัวเชิดหน้าขึ้น กลายเป็นสาวมั่นที่หยิ่งผยองขึ้นมาทันทีพร้อมกับกัดฟันเอ่ย " ได้ หากคุณสั่งให้พวกเขาหยุด คุณต้องการอะไรฉันจะยอมทำให้คุณทุกอย่าง ขออย่างเดียวอย่าทำให้ฉันกับตระกูลต้องขายหน้าญาติพี่น้องในงาน " " คุณขอแล้วผมก็จะต้องทำตามที่คุณต้องการงั้นเหรอ คุณคิดว่าผมเป็นใคร โง่ถึงขนาดต้องยอมให้คุณมาขู่เหรอ ทีใครทีมัน คุณอย่าลืมนะว่าคุณขู่ผมเรื่องอะไร " ณัชชากระวนกระวายใจอย่างมาก นึกถึงเรื่องที่ตัวเองขู่เรื่องบริษัทก็หน้าซีดลงทันที เธอจึงยอมกัดฟันพูดออกมาว่า " คุณสั่งให้พวกเขาหยุด แล้วหลังแต่งงานฉันจะคืนหุ้นของบริษัทให้ทั้งหมด " ได้ยินดังนั้นเตชินก็เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา เลือดเย็นไร้ความปราณีใดๆ " ไม่พอ การที่คุณกล้าขู่ผม คุณต้องรู้จุดจบหลังการขู่นั้น " ณัชชาเองก็คิดหาวิธีต่อรองเจรจาแลกเปลี่ยนกับเขาอย่างมากเพื่อตระกูลของเธอ เธอจึงกัดฟันแข็งใจเอ่ยขึ้นทั้งที่ในใจเธอเจ็บปวดร้าวและจนแทบจะหยุดหายใจได้แล้ว " ได้ หลังแต่งงาน และหลังเซ็นคืนหุ้นเรียบร้อย ฉันจะหย่ากับคุณให้เร็วที่สุด " เตชินยิ้มเยาะด้วยแววตาร้ายกาจแล้วเอ่ย " อืม สมกับเป็นคุณหนูณัชชายอดนักเจรจา ข้อเสนอนี้น่าสนใจ แต่คำพูดจะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นผมจึงเตรียมสิ่งนี้มาเพื่อคุณโดยเฉพาะ " เอ่ยจบเตชินก็พยักหน้าให้ผู้ช่วยคังนำเอกสารมา ผู้ช่วยคังเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารในมือยื่นไปให้ณัชชา เธอรับมาแล้วเปิดดูทันที เตชินที่อยู่ข้างๆจึงเอ่ยขึ้น " เห็นแก่ความสัมพันธ์ในวัยเด็ก ผมยังเมตตาคุณอยู่เล็กน้อย ดังนั้นหลังแต่งงานผมจะไม่หย่ากับคุณทันที แต่หลังจากครบหนึ่งปี สถานะไร้สาระนี่ต้องหย่าขาดทันที สิ่งที่คุณควรได้หลังหย่า ผมจะให้ผู้ช่วยคังจัดการตามความเหมาะสม " เอ่ยจบเขาก็ยื่นปากกาให้ณัชชาทันทีแล้วนับถอยหลัง " เก้า แป็ด เจ็ด หก ห้า สี่.... " ณัชชารีบเซ็นอย่างเร็วเพราะกลัวเตชินจะเปิดเผยคลิปเสียง แล้วเอ่ย " เสร็จแล้ว หวังว่าคุณจะรักษาคำพูดและทำหน้าเจ้าบ่าวให้ดีทำหน้าเป็นปกติได้สักที " หลังเซ็นเสร็จเธอก็ยื่นเอกสารคืนเขา เตชินเปิดดูเขารู้สึกพอใจมาก จึงยื่นให้ผู้ช่วยคังแล้วเอ่ยเสียงเย็น " ไปจัดการให้เรียบร้อย " " ครับ " ผู้ช่วยคังเอ่ยแล้วเขาก็หมุนตัวเดินออกไปทำสิ่งที่เจ้านายสั่ง เตชินรู้ดีว่าผู้หญิงที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างณัชชา ห่วงเรื่องภาพลักษณ์และชื่อเสียงเป็นที่สุด และยังเป็นผู้หญิงที่มากเล่ห์ เพทุบายคนหนึ่ง แม้เธอจะเซ็นชื่อเรียบร้อย แต่เขาก็ไม่ไว้ใจเธออยู่ดี เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว เตชินก็ยิ้มเดินควงแขนกับเธอ งานแต่งก็ถูกดำเนินไปจนจบ พอส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเสร็จ เตชินก็ออกจากห้องหอทันทีโดยไม่สนใจณัชชาที่เอ่ยถาม " คุณจะไปไหน " เขาขับรถออกไป กลับไปยังบ้านพักของตนเอง นั่งดื่มเหล้าคนเดียวในบาร์ส่วนตัวด้วยสีหน้าเศร้า หลังแต่งงานทุกคืนเขาจะออกไปดื่มหนักแบบนี้กลับมาในสภาพเมาแอ๋ทุกคืน แม้บ้านจะไม่ใหญ่เท่าคฤหาส์ แต่ก็สมกับค่าจ้างที่จ้างแม่บ้าน ทุกวันพิมทำงานเหนื่อยจนสลบไปไม่มีเวลาไปคิดหรือสนใจอย่างอื่นเลย เจ้านายกับลูกน้องออกมากันคนละเวลาจึงไม่มีโอกาสได้พบกันเลยสักครั้ง หนึ่งเดือนต่อมา เตชินได้นัดเพื่อนมาร่วมปาร์ตี้งานวันเกิดที่บ้าน และจ้างสาวๆมาเอ็นเตอร์เท็นในงาน แต่ก็ไม่ลืมที่จะเตรียมชุดให้แม่บ้านของตัวเอง เขาจึงเอ่ยกำชับกับผู้ช่วยว่า " คุณคัง คืนนี้คุณช่วยจัดหาชุดให้แม่บ้านให้เหมาะสมด้วยนะ อย่าให้ขายหน้า แล้วเรื่องเค้กอย่าไว้ใจให้คนอื่นดูแล ให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้านเท่านั้น " " ครับ " ตอนเย็น ฟ้าเริ่มมืด ช่วงเวลากลางคืนเริ่มมาเยือน งานปาร์ตี้ก็เริ่มขึ้น ปาร์ตี้ริมสระ สนุกสนานครื้นเครงไปด้วยเสียงเพลงเพราะๆ ดนตรีจังหวะสนุกๆ สาวๆสวยๆคอยเอ็นเตอร์เท็นหนุ่มๆไม่ห่าง หนุ่มๆนั่งดื่มกินกันอย่างสนุกสนานครึกครื้น แม้เตชินจะเย็นชา แต่เรื่องผู้หญิงเขาก็ไม่ปฏิเสธ หากเขาพอใจก็ยินดีให้เธอเข้าใกล้ พิมเตรียมเค้กวันเกิดอยู่ในบ้าน จัดวางใส่ถาดเตรียมยกไปให้เจ้าของวันเกิด วันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีขาว กระโปรงพองๆ เป็นงานปักผ้าลูกไม้ น่ารัก ใบหน้างามผิวขาวสวย เอวเล็ก ขาเรียวยาว เมื่อมาใส่แบบนี้เธอดูราวกับเป็นเจ้าหญิงน้อย เธอรวบผมขึ้นปกติแต่แต่งหน้าซอฟๆเพื่อให้เข้ากับชุด เพราะตอนที่ผู้ช่วยคังมาส่งชุดได้กำชับไว้ว่า " คุณพิมวันนี้เป็นงานวันเกิดคุณชาย คุณชายกำชับมาว่า อย่าทำให้ขายหน้า คุณคงรู้นะว่าควรทำยังไง " เธอจึงจึงเอ่ยตอบไปว่า " ค่ะ ฉันรู้ ฉันเข้าใจแล้ว " เตชินนัวเนียกับสาวสวยคนหนึ่ง เธอดูเป็นเด็กใหม่ที่ไม่ผ่านมือใคร หล่อนนั่งรินเหล้าให้เตชินด้วยความไม่คุ้นชินดูก็รู้ว่าเพิ่งมาทำงานด้านนี้ ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอร์เตชินจึงโอบเอวสาวสวยไว้ ซุกหน้านัวเนียบริเวณไหปลาร้าและซอกคอของเธอจนอยากจะกลืนกินเธอในทันที เพื่อนสนิทคนหนึ่งเห็นว่ามันไม่เหมาะสมจึงเอ่ยเตือนขึ้น " เตชิน นายแต่งงานแล้วมานัวเนียสาวแบบนี้ ไม่กลัวคุณหนูณัชชาจะมาวินใส่หรือไง หรือนายเป็นพ่อบ้านใจกล้า ไม่กลัวภรรยา " ได้ยินดังนั้นเตชินหมดอารมณ์ทันทีแล้วไล่ให้สาวสวยไปที่อื่น หันมาเอ่ยกับเพื่อนว่า " นาวิน นายเป็นเพื่อนฉันหรือเปล่า นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้รักเธอ นายจะเอ่ยถึงเธอให้หงุดหงิดใจทำไม " " โอเคๆ ขอโทษครับเพื่อน " นาวินเอ่ยขอโทษแล้วเอ่ยต่อว่า " ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่อยากแนะนำให้นายรู้จัก เราเจอกันตอนไปเรียนต่างประเทศ วันนี้กลับมาพร้อมกัน ฉันเลยชวนมางานวันเกิดนายด้วย " เตชินเอ่ยตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ " อืม แล้วอยู่ไหนล่ะ " " ไปเข้าห้องน้ำ " เมื่อนาวินพูดจบคนที่เขาต้องการจะแนะนำให้ เตชินรู้จักก็เดินเข้ามา " นั่นไงมาแล้ว " แล้วเขาก็เริ่มแนะนำแบบเป็นกันเองว่า " ป๊อบ นี่เตชิน รู้จักกันไว้ ทีหลังจะได้มีเพื่อนร่วมวงเพิ่มขึ้น " ป๊อบยื่นมือออกไปแล้วยิ้มพร้อมเอ่ยอย่างเป็นมิตร " ยินดีที่รู้จักครับ คุณเตชิน " เตชินเองก็ยินดียื่นมือไปจับพร้อมกับเอ่ย " ยินดีที่รู้จักเช่นกันครับ " เมื่อทั้งสองทักทายทำความรู้จักกันเสร็จ ไฟในงานก็ดับลงพรึบทันที มีเพียงแสงสว่าง ที่ออกมาจากเทียนบนเค้ก เผยให้เห็นใบหน้าสวย ขาวใสสุขภาพดี ถือเค้กออกมา ค่อยๆเดินเข้ามาหาเจ้าของวันเกิดอย่างระมัดระวัง " พิม!!! " ป๊อบอุทานชื่อของผู้ถือเค้กออกมาเบาๆอย่างคาดไม่ถึง ว่าจะเจอเธอที่นี่ นาวินจึงหันมากระซิบถาม " นายรู้จักสาวสวยหน้าใสคนนี้ด้วยเหรอ " เขาไม่ตอบแต่อย่างใด เฝ้ารอดูสถานการณ์ในความมืดอย่างเงียบๆ เตชินเองก็อึ้ง เขากำชับกับผู้ช่วยคังแล้วให้แม่บ้านเป็นคนถือเค้กออกมา [ ทำไมถึงเป็นคนอื่นไปได้ ] เขาพึมพำในใจ ท่ามกลางเสียงร้องเพลง เมื่อเสียงร้องเพลงจบลง เขาก็เป่าเค้กทันทีไฟทุกดวงกลับมาสว่างขึ้นอีกครั้ง" ก็สั่งสอนแบบนี้ไง "เคอร์ฟิวจับณชาขึ้นมานั่งบนตักแล้วจูบเธอทันที ณชาตกใจจนดวงตาเบิกกว้างป้าใจเดินเข้ามาส่งพิซซ่าในห้องเจอเข้ากับฉากนี้พอดี แกจึงหมุนตัวหันหลังจะเดินออกไปแบบเงียบๆเคอร์ฟิวถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากณชาแล้วเอ่ย" ป้าไม่ต้องออกไปหรอก คุณณชาเธอหิวจนจะกลืนกินผมอยู่แล้ว "" พี่พูดอะไรน่ะ "เธอเอ่ยอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกับทุบตีอกของเขาหนึ่งทีป้าใจยิ้มเจื่อนแล้วหมุนตัวเดินเข้ามาวางพิซซ่าลงบนโต๊ะจากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเคอร์ฟิววางณชาลงนั่งข้างๆแล้วเปิดกล่องพิซซ่าออกมาหยิบพิซซ่าขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วเอ่ยกับณชาที่นั่งแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก" หิวไม่ใช่เหรอ อ้าปากสิ "ณชาเหลือบมองเขาอย่างหน้านิ่วแล้วเอ่ยเสียงขุ่น" ฉันทานเองได้ "เธอขยับมือจะหยิบพิซซ่ามาทานเอง แต่เคอร์ฟิวกลับจับมือเธอไว้แล้วเอ่ย" พี่อยากป้อน อ้าปาก ถ้าไม่อ้าปากพี่จะใช้ปากป้อนแล้วนะ "ณชาได้แต่มองแรงใส่เขาแล้วยอมอ้าปากให้เขาป้อน เขายิ้มแล้วเอ่ย" เชื่อฟังแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย "เคอร์ฟิวป้อนไปยิ้มไปอย่างพอใจ ณชาทานจนอิ่มลืมความโมโหและความไม่พอใจไปหมดสิ้น แล้วเปลี่ยนม
เช้าวันรุ่งขึ้น ป๊อบกับณัชชาลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้อง แล้วไปเคาะประตูห้องลูกสาวณชาที่ยังหลับอยู่บนเตียง พอได้ยินเสียงเคาะประตูเธอก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วลุกมานั่งหาว จากนั้นก็ลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยท่าทางงัวเงียเธอหาวออกมาอีกครั้ง แล้วยื่นมือไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่กำลังจะออกเดินทางแล้วเธอจึงเอ่ยขึ้น" คุณพ่อคุณแม่จะไปแล้วเหรอคะ ทำไมไปเช้าจัง "ณัชชายิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต้องไปไกล ลงจากเครื่องเสร็จก็ต้องนั่งรถไปต่ออีกแล้วต่อด้วยนั่งเรือไปเกาะก็ต้องไปให้ทันเวลา พ่อกับแม่แค่จะมาบอกให้ลูกรู้ว่าจะออกไปแล้ว อีกเรื่องนะ เวลาไปเข้าค่ายเตรียมยาที่จำเป็นไว้ให้พร้อมด้วย เแล้วก็อาหมวกแก๊ปกับเสื้อแขนยาวไปด้วยนะ "" ค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวให้สนุกนะคะ "ณัชชากับป๊อบพยักหน้าเบาๆ จากนั้นป๊อบก็เอ่ยกำชับลูกสาวอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงว่า" เวลาอยู่ในค่ายน่ะ ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ อย่าไปนั่งใกล้ผู้ชายคนอื่น ยกเว้นพี่เคอร์ฟิวของลูก เข้าใจมั้ย "เขาเป็นพ่อที่ค่อนข้างหวงลูกสาวมากคนหนึ่ง ถึงแม้ลูกสาวเขาจะห้าวๆแต่มันก็ไม่ได้ทำให้พ่ออย่างเขาหวงลูกสาวน้อยลงเลยณชารู้และเข้าใจดีว่
ทุกคนเริ่มจับอุปกรณ์ ทานข้าวกันอย่างเงียบๆ ระหว่างทานข้าวพิมมองหน้าลูกชายแล้วเอ่ยถามขึ้น" เคอร์ฟิว เปิดเทอมแล้วเป็นยังไงบ้าง อยู่โรงเรียนได้เจอกับน้องณชาบ้างมั้ย "เคอร์ฟิวได้ยินดังนั้นจึงยิ้มอ่อนออกมาแล้วเอ่ยตอบแม่ว่า" ก็ดีครับ อยู่โรงเรียนผมกับน้องอยู่คนละชั้น เรียนกันคนละตึกเลยไม่ค่อยได้เจอกันครับ "เตชินหันมามองลูกชายที่มีใบหน้าหล่อกระชากลากใจราวกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันกับเขาแล้วเอ่ยเสียงเรียบ" ยังไงน้องก็เป็นคู่หมั้นลูก ลูกก็ดูแลน้องให้ดีๆอย่าเปิดโอกาสให้หนุ่มคนอื่นมาสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนม จนทำให้น้องหวั่นไหวนะลูก ลูกผู้ชายต้องกล้าแสดงตัวหน่อย เข้าใจมั้ย "เคอร์ฟิวเอ่บตอบรับคำด้วยสีหน้าเรียบเฉยเพียงสั้นๆว่า" ครับ "" นี่ คุณสอนอะไรลูกน่ะ หนูณชายังเด็กก็ต้องมีเพื่อนทั้งผู้หญิงและผู้ชายเป็นธรรมดา การหมั้นหมายเป็นการตกลงกันของพวกเรา หากลูกหรือหนูณชาไม่ได้ชอบพอกันก็ต้องยกเลิกไป มันไม่สามารถบังคับกันได้ค่ะ "พิมเอ่ยออกมาตรงๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าลูกชายของเธอนั้นเริ่มแอบณชาเข้าแล้วและจริงจังกับการเป็นคู่หมั้นนี้มากเตชินจึงโต้ตอบกับพิมว่า" ลูกชายเราหล่อแถมยังเป็นปร
พอออกมาจากสนามกอล์ฟ ทั้งสองครอบครัวก็ไปทานข้าวด้วยกัน ในร้านอาหารชื่อดังสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งร้านอาหารสำหรับคนรวยซึ่งตัวอาคารติดด้วยกระจกสะท้อนความร้อน ทำให้คนข้างในสามารถมองเห็นวิวบ้านเมืองและตึกสูงข้างนอกได้อย่างสวยงามในขณะทานข้าวทั้งสองครอบครัวนั่งทานข้าวกันอย่างมีความสุข ณชากับเคอร์ฟิวก็นั่งทานข้าวบนเก้าอี้อย่างเรียบร้อยโดยที่ไม่รบกวนหรือเล่นซนเลย10 ปี ต่อมา.......ณ โรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นแหล่งรวมการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนอินเตอร์จำนวนมากมีหลากหลายภาษา หลากหลายวัฒนธรรมและหลากหลายชนชาติมาเรียนร่วมกันเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเด็กนักเรียนต่างทยอยกันเดินออกมาจากอาคารเรียน รอผู้ปกครองมารับบางคนบางกลุ่มที่บ้านใกล้โรงเรียนก็ออกจากโรงเรียนเดินเท้ากลับตามทางฟุตบาทเคอร์ฟิวกับกลุ่มเพื่อนๆกำลังเดินออกมาจากห้องเรียนลงไปยังใต้อาคาร ชุดนักเรียนชายโรงเรียนนี้ ประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว เสื้อสูทสีดำ มีตราสัญลักษณ์โรงเรียนปัก มีเน็กไทและกางเกงขายาวลายสก๊อตสีดำส่วนณชาที่เป็นรุ่นน้องของเคอร์ฟิวก็กำลังเดินลงจากอาคารเรียนเช่นกันแต่อยู่คนละตึกในต
ยามเย็นณัชชากับป๊อบลงมาเดินเล่นที่ชายหาด ส่วนลูกสาวก็อยู่กับตายาบนบ้านทั้งสองนั่งดูพระอาทิตย์ตกขอบทะเลด้วยกันอย่างโรแมนติก นั่งยาวไปจนถึงช่วงเวลาโพล้เพล้เธอนั่งเอาหัวพิงไหล่ป๊อบแล้วเอ่ย" ฉันมีความสุขจังเลยค่ะ เมื่อก่อนฉันรู้สึกอิจฉาคุณพิมมากที่สามีรักสามีหลงจนยอมตามใจทุกอย่าง "ป๊อบยิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต่อไปนี้คุณไม่ต้องไปอิจฉาพิมแล้ว เพราะถ้าไม่มีคุณผมก็อยู่ไม่ได้ การลองใจของคุณที่ผ่านมามันทำให้ผมรู้ว่า ผมก็เป็นสามีที่รักและหลงภรรยามากเช่นกัน ตอนที่คิดว่าคุณไม่อยู่แล้วคุณผมแทบจะเป็นบ้าจนเกือบจะเสียสติไปแล้วรู้มั้ย "" ฉันขอโทษนะ "เธอเอ่ยเสียงอ่อน" ไม่เป็นไรหรอก แค่คุณไม่จากผมไปไหน อยู่กับผม ให้ผมสัมผัส และจับต้องคุณได้แบบนี้ทุกวัน ก็พอแล้ว "ณัชชายิ้มแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆสบตากับเขาพร้อมกับเอ่ยอย่างซึ้งใจ" ขอบคุณค่ะ "ป๊อบสบตากับภรรยาอย่างลึกซึ้งแล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากเธอเบาๆจูบอย่างนุ่มนวลใจเย็น ในหัวใจของทั้งสองเต็มไปด้วยความรักที่บานฉ่ำ ตอนนี้ความปรารถนาของณัชชาเป็นจริงแล้ว เธอมีสามีที่น่ารัก ที่คอยเทคแคร์เอาอกเอาใจเธอเป็นอย่างดีมีลูกสาวที่น่ารัก มีครอบ
ณัชชาเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นพ่อกับแม่นั่งจ้องเธอตาเขม็งเธอยิ้มแหยๆออกออกมาพอให้เห็นฟันเล็กน้อยแล้วเดินเบี่ยงไปนั่งลงข้างๆลูก โดยไม่กล้าสบตาพ่อกับแม่อีกเธอจ้องมองใบหน้าแบเบาะอันน่ารักน่าชังที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมแล้วเอ่ย" ณชา สาวน้อยของแม่ แม่คิดถึงลูกที่สุดเลย แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่กับลูก ลูกไม่โกรธแม่ใช่มั้ยคะ น้าพิมกับคุณพ่อดูแลหนูดีมากมั้ยคะ "เด็กน้อยทำปากจู๋ แววตาดูใสแป๋วเปล่งประกายแวววาว ขนตาดกดำยาวสวย ส่งให้ดวงตาสวยมีเสน่ห์สมกับคำชมของเคอร์ฟิวน้อยเด็กน้อยยิ้มแป้นออกมาอย่างไร้เดียงสา ทำให้ผู้เป็นคุณแม่มือใหม่ หลงรักหนักเข้าไปอีก เธอจ้องหน้าลูกด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยต่อว่า" งุ้ยน่ารักน่าชังที่สุดเลย ต่อไปคุณแม่จะไม่ไปไหนแล้วนะคะ คุณแม่จะอยู่กับเบบี๋น้อยทุกวันทุกคืนเลยค่ะ "น้ำเสียงนุ่มนวลของณัชชาทำให้เด็กน้อยสัมผัสได้ถึงไออุ่นรักที่พิเศษกว่าพิมที่เป็นน้ามาก เพราะความเป็นแม่ลูกสามารถสัมผัสได้ผ่านจิตใจและความรู้สึกนั่นเองพ่อของณัชชานั่งยิ้มอ่อนบนโซฟามองลูกสาวด้วยแววตาอบอุ่นส่วนแม่ณัชชาพอเห็นว่าลูกสาวคุยกับลูกนานพอสมควรแล้วเขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงแข็งด้วยสีหน้าจริงจัง" ณัชชาลูกท