“อย่าลืมที่อั๊วบอก ที่นี่ใช้แรงงานแลกอาหาร และที่อยู่อาศัย” “ฉันทำได้ดีแน่นอน แล้วก็อย่ามาตามก้นต้อยๆ ได้ไหม ฉันไม่ใช่แม่เป็ด และไม่เคยมีลูกมาก่อน” จางเซินถูกต่อว่าอย่างนั้น แต่เขายังอยู่ไม่ห่างจากหลี่ชิงม่าย กระทั่งเธอเข้าไปในครัว และเห็นว่า สตรีวัยกลางคนกำลังทำบะหมี่เป็ดย่าง และยังมีผัดผักเป็ดย่างที่หอมจัดจนทำให้หลี่ชิงม่ายหันไปดึงแขนเสื้อของจางเซิน “ฉัน...หิวจนเป็นบ้าไปหรือเปล่า ทำไมมันหอม แถมจัดจานได้น่ากินขนาดนั้น” เธอถามชายหนุ่ม และดึงแขนเสื้อเขาไม่หยุด “คุณไม่ได้บ้าหรอก อั๊วก็หิวและรับรองบะหมี่ทั้งสิบก้อนนั้นต้องเป็นของคนแซ่จาง” “อย่าให้มันมากเกินไป คุณตัวโตแล้ว กินเยอะเดี๋ยวก็อ้วน ฉันต้องกินมากกว่าคุณเพราะอดอาหารมาหลายวัน” การทะเลาะกันอย่างน่ารักตกอยู่ในสายตามารดาถังปิน และหล่อนก็ยิ้มให้ทั้งคู่ “รองหัวหน้าจางเชิญๆ คุณก็ด้วยนะคะ” “เรียกฉัน เสี่ยวม่ายก็ได้ค่ะ ส่วนตาหมียักษ์หน้าดุเนี่ย คุณน้าไม่ต้องเอาใจหรอก ท่าทางเห็นแก่กินจนน่ากลัว” มารดาถังปินหัวเราะจนได้ และนี่คงเป็นครั้งแรกที่หล่อนได้เห็นว่า จางเ
หลี่ชิงม่ายได้ยินชัดเจน และเธอไม่อาจยืนเป็นเป้านิ่งตกให้ใครมาจับตัวได้ หญิงสาวหมุนตัว ตั้งใจหลบไปอีกฝั่งของตู้ขบวนรถไฟ หากเป็นจังหวะเดียวกันที่โจรผ้าแดงอีกคน หวังพาเธอไปด้วย “ไปเป็นเมียอั๊วดีกว่านะคนสวย รับรองจะไม่เอาไปขายซ่องแน่นอน”เขาบอกแล้วยกปืนขึ้นขู่ เมื่อเห็นว่าเธอแสดงอาการขัดขืน “อย่าทำเรื่องโง่ๆเลย ไม่เป็นเมียอั๊ว ลื้อคนสวยก็ต้องตกเป็นของแก๊งเสือดำ แล้วพวกนั้นมันจะให้ขายทั้งยา และเป็นอีตัวที่อยู่ในเล้าหมูด้วยนะ มีชีวิตบัดซบอย่างนั้น ลื้อทนได้หรือ” ชายคนดังกล่าวว่า แล้วเบียดร่างกายของตนกับร่างกายนุ่มนิ่ม พอเธอถุยน้ำลายใส่ เขาก็ใช้ปลายกระบอกปืนตบเข้าที่ศีรษะเธออย่างแรง หลี่ชิงม่ายมึนงง แต่หูยังได้ยินเสียงปืน เสียงการต่อสู้รอบๆ ตัวอย่างอึงอล กระทั่งมีแรงปะทะวูบผ่านหน้าเธอไปสองสามหน ก่อนจะมีเรือนกายแข็งแกร่งอุ่นจัดมารับร่างบอบบางไปอยู่แนบอก “คนนี้เหรอ แกมั่นใจว่าไม่ผิดตัว” “ไม่ผิดแน่นอน แต่เซินเกอ จะพาเธอกลับไปด้วยจริงๆ หรือ สถานการณ์ยุ่งยากอยู่นะครับ อีกอย่างดอกไม้สวยๆ แบบนี้ มีหนามแหลม แล้วก็ดูมีพิษด้วย” “เฮ้อ พูดเป
ตอนพิเศษดอกไม้ในมือมาเฟีย หลี่ชิงม่ายได้รับการติดต่อจากหางหมี่ให้เดินทางไปเมืองฉีซาน พร้อมแจ้งว่าจัดหาที่พักและงานรองรับไว้ให้แล้ว ตอนแรกหญิงสาวอยากอยู่เมืองฝูเจียงอีกสักระยะ อย่างน้อยก็คือได้เยี่ยมพี่ชายที่อยู่ในคุก แต่หลี่เจ๋อฟูปฏิเสธการพบเธอ เรื่องนี้ทำให้หญิงสาวผิดหวังจนป่วยกระเสาะกระแส นอกจากนั้นภาพคู่รักที่มีความสุขร่วมกันของเฉินซือหยางกับอันหว่านถิงบาดตาบาดใจเหลือเกิน สตรีนางนั้นก็เปลี่ยนตัวเองใหม่ กลายเป็นคนรักครอบครัว ทั้งยังสร้างธุรกิจให้หลายชีวิตลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้ แม้ไม่คิดอยากอิจฉาใคร หากสุดท้ายหลี่ชิงม่ายก็ไม่อยากรับรู้เรื่องราวต่างๆ ของพวกเขาและเธอไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไรขนาดนั้น “ฉันแพ้เธอ...” หลี่ชิงม่ายเอ่ยคำนั้นกับอันหว่านถิง แล้วหันไปมองอดีตชายคนรักที่เธอหมายปอง เขาวางสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้แสดงออกว่าเป็นห่วงเธออย่างที่ผ่านมา นั่นยิ่งทำให้หลี่ชิงม่ายอับอาย และเกลียดตัวเองที่ลึกๆ ยังหวังให้เฉินซือหยางกลับมารักเธอเหมือนเดิม แต่เธอรู้ภายหลังว่า ชายหนุ่มไม่เคยคิดว่าหลี่ชิงม่ายเป็นคนรัก เขามอบตำแหน่งน้องสาวให้เธอเท่านั้น “เดินทางปลอด
“เอ่อ คุณชายใหญ่ เด็กนะครับอย่างไรผมคงยิงไม่ได้ มันเป็นบาป” “เฮอะ แล้วที่แกถูกพ่อมันซ้อมหนัก ทั้งยังไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงานเพราะมันสั่งห้ามไว้ ตอนนี้ก็ใกล้จะอดตายแล้ว จะยอมอยู่ในสภาพนี้ต่อไปเหรอ และถ้าไม่ยอมทำตามที่อั๊วสั่ง ไม่ใช่แค่แฟนแก แม่แก แต่ชีวิตเน่าๆ นี้ อั๊วก็จะส่งลงนรก” อาเค่อสูดลมหายใจลึก เขาเคยเป็นทหารรับจ้างเก่า ไปสงครามถึงสองหน ยิ่งกว่านั้นอดีตคือนักแม่นปืนที่เก็บชีวิตข้าศึกมาไม่น้อย “คุณชายใหญ่ บอกว่าจะไม่ทำร้ายคนของผม ถ้างั้นแลกกับชีวิตเด็กนั่น ก็แล้วกัน” “ฮ่าๆ ๆ แกพูดง่ายแบบนี้ดี และไม่ใช่แค่เด็ก ตัวพ่อมันก็ต้องยิงให้หัวกระจุย” ได้ฟังคำสั่งดังกล่าว อาเค่อก็ไม่ได้โง่ หากเขายิงปืนออกไปต้องรู้ว่าตนมีทางหนีทีไล่ ซึ่งรถจักรยานยนต์จอดห่างอยู่ด้านข้าง แต่บริเวณนี้คือค่ายทหาร แม้ยามนี้การป้องกันไม่แน่นหนา ด้วยถูกดึงกำลังคนไปส่วนกลางในเมือง แต่เขาจะประมาทไม่ได้ และนอกจากปืนยาว เขายังมีระเบิดที่ฝ่ายหลี่เจ๋อฟูเตรียมมาให้ด้วย “ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ คุณชายใหญ่รับผิดชอบไหวแน่นะครับ” “เฮ้ย อย่าชักช้า อั๊วพูดคำไห
เลือดข้นกว่าน้ำ หลี่ชิงม่ายตั้งใจจะสร้างสถานการณ์เพื่อเรียกร้องความสนใจหวังให้เฉินซือหยางยอมรับเธอในฐานะภรรยาอีกคน แม้เข้าใจว่า ยามนี้เขากับอันหว่านถิงรักกันอย่างหวานชื่น แต่ความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง ซึ่งอย่างไรเธอก็มาก่อน เรื่องนี้เธอจะเรียกร้องจากเฉินซือหยาง ฝ่ายนั้นต้องรับผิดชอบชื่อเสียงที่เสียหายไป อีกทั้งตอนนี้ อันหว่านถิงขีดเส้นตายให้เธอย้ายออกจากบ้านพักคนงานภายในห้าวัน และไม่สนว่าบ้านหลังเดิมที่ถูกไฟไหม้จะซ่อมแซมเสร็จแล้วหรือไม่ก็ตาม แล้วที่น่าน้อยใจ เฉินซือหยางไม่ยอมมาพบหน้าเธอ นับแต่เขากลับมาจากราชการเมืองหลวง เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เธอคะเนได้ว่า ผู้หญิงใจร้ายอย่างอันหว่านถิงคงปั่นหัวเขา ใช้มารยาชั้นต่ำหลอกล่อไว้ส่วนหางหมี่ยามนี้ไม่ยอมติดต่อมา ให้คนมาส่งข่าวเท่านั้น ด้วยพยายามสลัดหลี่ชิงม่ายให้พ้นตัว เป็นเพราะฝ่ายสกุลหลี่ยามนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือฝ่ายตรงข้ามผู้นำใหม่ของเกาะฉางไห่ คนสกุลหลี่ถูกจับกุมตัวหลายคน แล้วส่งออกไปนอกเมือง ดังนั้นเช้านี้เธอดักรอพบเฉินรุ่ยเผิง หวังใช้เด็กชายเป็นสะพานเชื่อมถึงบิดา เ
“อาบสิครับ แต่ตอนนี้ขอผัวอาบน้ำให้เมียก่อน อดใจไม่ไหวแล้ว”เขาเอ่ยพร้อมกับค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าหญิงสาวออก เพียงไม่กี่วินาที ร่างกายงดงามจึงเบาหวิว และร่างกายแกร่งประกบอยู่ด้านหลัง น้ำอุ่นๆ ไหลตามฝักบัวลงมา พอชายหนุ่มแนบร่างกายชิดหล่อนราวกับเป็นหนึ่งเดียว อันหว่านถิงจึงเอ่ยว่า “เอ่อ ฉันก็คิดถึงเหล่ากงที่สุดเลยค่ะ...” “ผมเก็บความคิดถึง ความรักไว้ตลอด ตอนนี้พร้อมจะบอกกับถิงถิงแบบลึกสุดใจ” เขาจูบหัวไหลกลมมน และดูดหลังคอหล่อนไปหลายที มือหนึ่งสอดเข้าใต้แขน เริ่มนวดคลึงเค้นหน้าอกอวบสวยด้วยความสิเน่หา ขณะเดียวกันความใหญ่โตที่แสนแกร่งถูกแทรกเข้ากลางหว่างขาของอันหวานถิง ความรู้สึกตอนนั้นของเธอคือตื่นตกใจเล็กน้อย พอเห็นว่าปลายหัวหยักเปิดเปลือยสีแดงก่ำแทรกผ่านมาอยู่ด้านหน้าขาตน หล่อนเลยหวามใจ ทั้งลำคอแห้งผาก โอ้ ใหญ่โตมาก และตลอดลำก็ร้อนจี๋ เส้นเลือดที่ปูดโปนนั้น ก็เต้นตุบๆ สร้างความสยิวให้หล่อนอย่างสาสมใจ “ผัวจะเอาเมียแบบนี้ได้ไหม และจะพุ่งให้ถิงถิงดูสักสามสี่น้ำ” “ถ้าทำไม่ได้ ตามที่พูด ฉันจะปรับเหล่ากงนะคะ ปรับหลายๆ ยกด้วย” หล่อ