공유

บทที่ 2

last update 최신 업데이트: 2025-01-18 11:26:48

“เหตุผลอะไร ถึงไม่มีเวลาแม้จะบอกลากัน” เขาเงียบไป และฉันก็ไม่ได้เซ้าซี้อยากได้คำตอบเหมือนกัน จึงเมินใส่ กระทั่งได้ยินเสียงเขาพูดขึ้น 

“พ่อกับแม่ผมประสบอุบัติเหตุจนทำให้ท่านเสียพร้อมกัน และเพราะผมไม่มีผู้ปกครองที่นี่เหลือพอจะพึ่งพาได้ เลยต้องย้ายไปอยู่กับครอบครัวลุงกับป้าที่อังกฤษ ทุกอย่างมันเกิดเร็วมากจนผมเองก็ตั้งรับไม่ทัน” ความจริงที่ได้รู้ ทำเอาฉันอึ้งไป รู้สึกผิดที่โกรธริวมานานเป็นสิบๆ ปี...เฮ้อ

“อ้อ…ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องขอโทษด้วย ที่เข้าใจคุณผิดไป”

“ผมเองก็ขอโทษ ที่ไปโดยไม่ลา”

“อื้อ” ฉันเอ่ยรับแค่นั้น ก่อนจะเก็บข้าวเก็บของใส่กระเป๋าพร้อมกับถามเขากลับบ้าง 

“แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่”

“ผมมาดูแลบริษัทให้พี่เออเนสชั่วคราวน่ะ” คำตอบของริว ทำให้ฉันถึงบางอ้อ ลูกพี่ลูกน้องของบอสสุดหล่อเธอนั่นคือเขาอย่างนั้นเหรอ อ๋อย…ชีวิต 

“อย่าบอกนะ ว่าฟ้าเป็นเลขาส่วนตัวของพี่ชายผม”

“อื้อ”

“โลกกลมจริงแฮะ แต่ผมดีใจนะ ที่เราได้กลับมาเจอกันอีก” 

“หึ…ดีใจก็ส่วนดีใจ แต่ไอ้นี่ จะทำไง” ฉันเปลี่ยนเรื่องด้วยการหยิบซากลิปสติกขึ้นมาให้เขาดู เรื่องในอดีตมันจบไปแล้วก็จริง แต่เรื่องลิปนี้มันไม่จบง่ายๆ แน่...ฮึ๋ย! 

“ก็แค่ลิปสติก เดี๋ยวผมซื้อให้ใหม่ เอากี่สีก็ได้อ่ะ” มีความใจป้ำ แต่ฉันกลับเบ้ปากใส่ 

“สีนี้ แบบนี้หมดแล้วค่ะ หาไม่ได้แล้ว”

“งั้นผมขอเลี้ยงข้าวเป็นการไถ่โทษ ตกลงนะ” เขาชวนแบบรวบรัด ทำเอาฉันงง พอเห็นฉันไม่ตอบอะไร ริวก็ถามอีก

“ว่าไงฟ้า ตกลงไหม” 

“ตกลง” ฉันตอบตกลง นั่นเพราะมีแผนในใจ ค่าลิปสติกของฉันมันแพง ข้าวมื้อนี้มันก็ควรจะแพงกว่าเป็นสองหรือสามเท่าสิ จริงไหม แต่พอจะไป ฉันก็นึกอะไรขึ้นมาได้ 

“ไหนๆ ก็มาแล้ว ช่วยเซ็นเอกสารนี่ให้หน่อยสิ งานด่วนน่ะ”

“ได้ครับผม” ริวเอ่ยรับ ก่อนจะลากเก้าอี้ออกมานั่ง จากนั้นก็เซ็นเอกสารที่ฉันยื่นให้อย่างไม่ลังเลสักนิด นี่ถ้าฉันให้เขาเซ็นเช็คเงินสดสิบล้านทำไง คนอะไรไม่มีความรอบคอบเอาเสียเลย แบบนี้เจ้านายเธอยังไว้ใจได้อีก มันน่านัก

“ทำไมไม่อ่านก่อน ว่าฉันให้เซ็นเอกสารอะไร”

“อ่านแล้ว”

“อ่านแล้ว ตอนไหน” ฉันคิ้วขมวดสงสัย นั่นเพราะไม่เห็นเขาอ่านสักนิด 

“ก็ก่อนที่ผมจะเซ็นนั่นแหละ ลืมไปแล้วเหรอว่าผมเป็นคนอ่านหนังสือเร็ว อีกอย่างพี่เออเนสเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าเลขาส่วนตัวทำงานรอบคอบ สุจริต ไว้ใจได้ อะไรที่ฟ้าให้ผมเซ็นมันย่อมไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน” ฟังแล้วก็หมั่นไส้ ทีอย่างนี้มาอวยกัน ว่าแต่นี่เจ้านายเม้าท์เธอด้วยเหรอเนี่ย 

“เหอะ…เกิดฉันให้คุณเซ็นเช็คเงินสดสิบล้าน แล้วเอาเข้ากระเป๋าตัวเองขึ้นมาทำไง”

“ทำใจ”

“เอ้า!” ฉันทำหน้าตื่นๆ ส่วนคนตรงหน้ากลับยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่ได้สะทกสะท้านเลย 

“แต่ผมรู้ว่าฟ้าไม่ทำหรอก จริงไหม”

“ก็ไม่แน่”

“ไปเถอะ ผมหิวแล้ว” เขาเอ่ยชวน ซึ่งฉันก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องบ่ายเบี่ยงเหมือนกัน หมดมุกจะปฏิเสธเขาไปเสียดื้อๆ 

“ก็ไปสิ” ฉันเอ่ยเสียงตึงๆ ก่อนจะเดินตามหลังริวไปยังที่จอดรถ แต่ไปๆ มาๆ เขากลับเดินตามฉันมาที่รถ พร้อมกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ ทำยังกับจะขอไปด้วยยังงั้นแหละ

“รถคุณอ่ะ”

“ผมไม่มีรถ คนขับรถก็ไม่มี นี่ยังไม่รู้เลยจะไปนอนพักที่โรงแรมไหน” คนตัวโตกว่าฉันพูดได้น่าสงสารมาก แต่พอได้มายืนใกล้ๆ กันแบบนี้ ฉันถึงได้รู้ว่าริวนั้นตัวสูงมาก เขาสูงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทั้งๆ ที่ตอนเรียนเขาก็สูงไล่เลี่ยกับเธอ

คิ้วก็ดูหนากว่าแต่ก่อน จมูกที่โด่งอยู่แล้วก็ยังโด่งสวย ริมฝีปากที่เธอเคย…โอ๊ย ช่างมันเถอะ เลิกคิดๆ คิดไปก็เท่านั้น มันแค่อารมณ์ป๊อปปี้เลิฟแบบเด็ก ที่ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับเธอเลย...ไม่มี๊

“ฟ้า เป็นอะไร หน้าแดงๆ” เสียงที่ได้ยิน ทำเอาฉันสะดุ้ง ก่อนจะรีบปฏิเสธ

“เปล่า…แล้วนี่คุณมาแบบไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลยหรือไงกัน”

“ก็ทีแรกกะจะไปนอนบ้านพี่เออเนส แต่เจ้าบ้านดั้นบินไปอังกฤษ ผมเลยเท้งเต้ง ไม่มีที่ซุกหัวนอน” ฉันไม่ได้สงสารเขาสักนิด แต่กลับยิ่งหมั่นไส้ ที่ไม่รู้จักมีแผนสำรองไว้ยามฉุกเฉิน 

“ไปหาอะไรกินก่อนแล้วกัน โรงแรมในเมืองออกเยอะแยะ เดี๋ยวช่วยหาให้”

“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ จากนั้นก็ถือวิสาสะเก็บกระเป๋าเดินทางแล้วเข้าไปนั่งรอในรถฉันเสร็จสรรพ ส่วนเจ้าของรถอย่างฉันก็ได้แต่มองบน ก่อนจะเข้าไปในรถอีกคนและทำหน้าที่คนขับไปด้วย

จากที่ตั้งใจจะพาเขาไปถล่มให้กระเป๋าฉีก ก็มีอันต้องเปลี่ยนแผน ฉันพาเขาไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างดี อาหารอร่อยและราคาไม่แพงแทน

ตลอดเวลาที่นั่งกินข้าวกันนั้น ริวเล่าให้ฉันฟังว่าหลังจากเผาศพพ่อกับแม่ เขาก็ย้ายไปเรียนที่อังกฤษ ไปอยู่กับครอบครัวเออเนส ตอนเรียนเห็นเรียนไม่เอาถ่าน แต่ไหงตอนนี้ถึงเป็นเจ้าของบริษัทและยังมีแบรนด์รองเท้าเป็นของตัวเองอีก ชีวิตเขามันน่าทึ่งอยู่เหมือนกันนะ ผิดกับฉันที่ยังเป็นแค่มนุษย์กินเงินเดือนธรรมดาๆ

 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ป๊อปปี้(อิน)เลิฟ   บทที่ 20 (จบ)

    “ขอฟ้าแต่งงานก็พูดตรงๆ สิ อ้อมค้อมชักแม่น้ำอยู่นั่น”“โอเคๆ ฟ้าแต่งงานกับผมนะ” ประโยคขอแต่งงานจากริวดังขึ้น แม้ตอนนี้เขายังไม่ได้มีแหวนเพชรเม็ดโตหรือไม่ได้คุกเข่าขอฉันแต่งงานในสถานที่โรงแมนติก ท่ามกลางแสงจันทร์เหมือนในซีรีส์ ฉันก็จะตอบรับอย่างเต็มใจ เพราะฉันรักเขามากเหลือเกิน“แต่งค่ะ”“ดีใจจังที่ได้ยินแบบนี้” เขาคว้าฉันไปจูบ เป็นจูบที่ยังคงทำให้ฉันวาบหวามไปทั้งตัว และดูเหมือนจูบจะไม่พอ เพราะริวเริ่มยุบยับสำรวจร่างกายฉันอีกแล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่ฉันจะชินกับสัมผัสที่เขาขยันมอบให้แบบนี้เหมือนกัน“นี่หยุดนะ ฟ้าให้แค่จูบ” ฉันแหวใส่เพราะความเขิน ตั้งแต่เจอเขาฉันกลายเป็นคนปากไม่ตรงกับใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“อย่าลืมสิว่าตอนนี้ฟ้าไม่สบาย ต้องให้ผมคอยฉีดยาให้เรื่อยๆ” คำพูดห่ามๆ ของเขา ทำเอาฉันตัวร้อนผ่าว อาการเหมือนคนไข้จะกลับ“เอ้! ไม่เกี่ยวเลยนะ”“ดื้อแบบนี้ ไม

  • ป๊อปปี้(อิน)เลิฟ   บทที่ 19

    “ครับ…ก็วันที่ผมเห็นพีชควงแขนไปกับแฟนฝรั่งหน้าหล่อนั่นแหละ ผมโมโหเพราะคิดว่าพีชมาหลอกคบฟ้า เพื่อปิดบังรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกันของตัวเอง”“เฮ้อ...ริวนะริว”“ผมควรไถ่โทษพีชยังไงดี ฟ้าช่วยคิดหน่อยสิ” สีหน้าของริวรู้สึกผิดจริงๆ ฉันจึงช่วยคิดวิธีทำให้พีชอารมณ์ดี รับรองว่าวิธีนี้ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งริวเองก็เห็นด้วย“งั้นผมให้คนจัดการเลยนะ” ฉันหยักหน้าให้ ริวจึงหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาคนของเขา เพื่อให้จัดการตามที่ฉันบอก พรุ่งนี้พีชต้องกรี๊ดบ้านแตกแน่นอน“ฟ้า…เสาร์นี้ว่างไหมครับ” พอวางสายเสร็จ ริวก็เอ่ยขึ้น“ว่างค่ะ จะพาฟ้าไปไหน”“ไปหาพ่อกับแม่ผม ท่านคงอยากเห็นหน้าสะใภ้ เพราะผมบอกท่านทุกปีว่าถ้าเจอฟ้าจะพาไปหา” คำพูดของเขา ทำเอาฉันนิ่งไป เพราะรับรู้ถึงความเสียใจที่แทรกอยู่ในโทนเสียงของเขา“ริว”“ทำไมทำเสียงเศร้าแบบนี้&hel

  • ป๊อปปี้(อิน)เลิฟ   บทที่ 18

    ฉันตื่นมาในอ้อมกอดของริว เมื่อคืนฉันกับเขา เรา…โอ๊ย คิดแล้วก็เขิน หุบยิ้มแทบไม่ได้เลยทำไงดี ส่วนคนที่นอนกอดฉันอยู่ตอนนี้เหมือนจะยังไม่ตื่น เพราะยังหายใจสม่ำเสมออยู่ ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะยกมือขึ้นไปไล้บนริมฝีปากหยัก ที่มันทำให้ฉันร้อนๆ หนาวๆ ทุกครั้งเมื่อถูกเขาจูบแต่ความสุขของฉันก็มีอันต้องหยุดลงชั่วคราว เมื่อนึกขึ้นได้ว่านี่มันวันทำงาน ไม่ใช่เช้าวันหยุด ฉันลนลานลุกขึ้นจากเตียง พอหันไปเห็นเวลาบนนาฬิกา เข่านี่แทบทรุด“สายแล้ว ทำไงดี” ฉันหมุนซ้ายหมุนขวา ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน กระทั่งคนบนเตียงเสนอความคิดเห็น“อาบน้ำด้วยกันไหม จะได้เร็ว”“ไม่ได้ๆ”“ได้สิ ไปอาบน้ำกัน” เขาลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะอุ้มฉันตรงเข้าห้องน้ำ เมื่อคืนเราก็อาบน้ำด้วยกันมา รอบหนึ่งแล้ว อาบน้ำ ถูสบู่ให้กัน มันทำให้ฉันอายพอๆ กับตอนที่อยู่บนเตียง“เดี๋ยวริว” ฉันพยายามห้าม เพราะกลัวเขาจะลีลาเหมือนเมื่อคืน เดี๋ยวก็ยิ่งสายกันไปใหญ่ แต่การอาบน้ำด้

  • ป๊อปปี้(อิน)เลิฟ   บทที่ 17

    ก่อนจะสะดุ้งวาบจนตัวชา เมื่อรับรู้ว่าริวฝังใบหน้าลงไปบนต้นขาแทนฝ่ามือที่ตอนนี้สัมผัสสูงขึ้นมาจนถึงหน้าอกของฉัน“อ่ะ…อ่าห์” เมื่อริวเริ่มจูบต้นขาของฉัน นั่นทำให้ฉันไม่อาจกลั้นเสียงครางไว้ได้เช่นเดียวกัน มันเสียวซ่านเหลือเกินร่างกายของฉันบิดเร้าไปมาตามไฟของความปรารถนาที่ถูกริวจุดขึ้น มันคือประสบการณ์แปลกใหม่ที่หอมหวาน น่าลิ้มลอง และตอนนี้ริวก็ทำให้ฉันต้องการเขามากขึ้น“ระ…ริว” ฉันเอ่ยเรียกชื่อเขากระท่อนกระแท่นไม่เต็มเสียง รู้ว่าตอนนี้เขาขยับจูบสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จากหน้าขามาที่หน้าท้องและกำลังถึงหน้าอกที่เขาใช้มือลูบไล้ไปก่อนหน้า แค่ถูกเขาใช้มือบีบคลึง ฉันก็แทบบ้า แต่ทันทีที่ริวเปลี่ยนมาใช้ริมฝีปากและปลายลิ้น สติของฉันก็กระเจิดกระเจิง“อื้อ” ฉันไม่อาจพูดอะไรออกมาได้จริงๆ เวลานี้สมองของฉันมันกำลังมึนงงไปหมด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาปลดตะขอบราเซียร์ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันรับรู้ได้แค่เพียงว่ากำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า ยามที่ริวตวัดปลายลิ้นหยอกเย้ากับเม็ดยอดหน้าอกของฉันสลับกับการดูดดุนและบีบคลึงด้วยมือ สั

  • ป๊อปปี้(อิน)เลิฟ   บทที่ 16

    “ไม่ไปไหนแล้ว ผมจะอยู่ที่นี่ ถ้าฟ้าอยากให้ผมอยู่”“อยากให้อยู่สิ ไม่อย่างนั้นจะรอทำไม”“ฟ้า” เขาเอ่ยเรียกชื่อฉัน และฉันก็ชอบให้เขาเรียกแบบนี้ ไม่ใช่คำว่าคุณที่ฟังดูห่างเหินนั่นอีก เราสบตากันและกัน ก่อนที่เขาจะจูบฉันอีกครั้ง จูบที่หอมหวานทำให้ฉันสั่นสะท้าน หัวใจเต้นโครมคราม มือไม้ก็เย็นเฉียบไปหมดสัมผัสจากริมฝีปากของเขา ทำให้ฉันประหม่า ยามใดที่เขาค่อยๆ ละเล็มจูบซับอ้อยอิ่ง มันทำให้ฉันที่กำลังหลับตาพริ้มเกือบหยุดหายใจก็ว่าได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง เมื่อเขาถอนจูบออก“จะให้ผมหยุดหรือไปต่อ” เขาถามฉันมาแบบนี้ ฉันควรจะตอบเขาว่าไงดี“ว่าไง อยากให้ผมหยุดหรือไปต่อ” ใบหน้าของเราห่างกันแค่นิดเดียว เราจึงสัมผัสลมหายใจอุ่นๆ ของกันได้“ตะ…ต่อ” ฉันพึมพำบอกเบาๆ อายจนอยากมุดดินหนี และอยู่ๆ ตัวฉันก็ลอยขึ้นจากพื้น เพราะถูกเขาอุ้มเข้าบ้าน ริวตรงขึ้นไปบนห้องนอนของฉันทันทีเราทั้ง

  • ป๊อปปี้(อิน)เลิฟ   บทที่ 15

    เสียงออดหน้าบ้านที่ดังรัวราวกับปืนกล ทำให้ฉันที่ยังคงนั่งร้องไห้เป็นเผาเต่า ร้องชนิดที่ไม่เคยร้องแบบนี้มาก่อนต้องเงยหน้าขึ้นมอง แต่เพราะยังคงมีน้ำตาอยู่ จึงมองไม่ชัดว่าใครกันที่มากดออดเวลานี้ฉันปาดน้ำตาลวกๆ พร้อมกับสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ จากนั้นก็เดินไปหน้าบ้าน พอมองเห็นว่าใครก็ถึงกับยืนอึ้งไปเหมือนกัน“ริว” ฉันเอ่ยชื่อเขาออกมา จ้องตาเขาที่ตอนนี้ยืนจ้องฉันอยู่นอกรั้วบ้านราวกับจะกินเลือดกินเนื้อฉันอย่างนั้นแหละ“ผมลืมของ เลยกลับมาเอา” น้ำเสียงตึงๆ ดังขึ้น ทำเอาฉันงงว่าไปทำอะไรให้เขาโกรธกัน“อ้อ” เพราะเชื่อที่เขาพูด ฉันจึงเปิดประตูให้เขาเข้ามาในบ้าน ทันทีที่ฉันใส่กลอนประตูรั้วเสร็จ เขาก็คว้าฉันเข้าไปกอดและเขาก็จูบฉัน จูบแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจูบ…ที่ทำให้ฉันอึ้งจนยืนแข็งทื่อเป็นหินจูบ…ที่ทำให้ใจฉันเต้นแรง ตึกๆ ตักๆ ตึกๆๆๆ ตักๆๆๆๆจูบ…ที่ทำให้ฉันมีน้ำตา ทั้งๆ ที่ในใจนั้นไม่ได้รังเกียจสัมผัสจากเขาเลยสักนิด มันช่วยเติมเต็ม

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status