แม่คุณแม่ทูลหัวที่สนับสนุนให้เขาตั้งวง..จัดแจงทอดหมูแดดเดียว หาถั่วลิสง ตั้งเตาหน้าบ้านให้พร้อม..เขาควรดีใจใช่มั้ยที่มีเมียสปอยขนาดนี้?
"เบียร์หมดบอกได้นะพี่ เดี๋ยวอัญออกไปซื้อให้"
"..."
ใบหน้าจิ้มลิ้มเปื้อนยิ้ม..ทั้งยังเอาหมูที่หมักพึ่งเสร็จ กับถาดอาหารทะเลพวกปลาหมึก กุ้ง ปู มาให้อีก..ส่วนเจ้าตัวทยอยขนเอาผ้าที่รีดเรียบร้อยแล้ว..จัดแจงไปส่งลูกค้า..ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดคอกลมพอดีตัวรีบลุกทันที
"เดี๋ยวพี่ช่วย"
"ไม่เป็นไรพี่ แค่นี้เองพี่นั่งดื่มไปเถอะ..ฟังเรื่องสมัยก่อนเยอะๆ เพื่อพี่จะจำได้ไง"เสียงใสส่งมาพร้อมรอยยิ้มหวาน ก่อนที่รามิลจะทันได้ตอบอะไร..ร่างบอบบางตัวเล็กก็ขับรถหนีเขาไปแล้ว..ทิ้งให้ไอ้พี่ข้างบ้านจมอยู่บรรยากาศชวนอึดอัด
"ดื่มดิมึง ชน!!!"น้ำเสียงวิญญูทัก พร้อมทั้งยกแก้วเป็นเชิงขอชนกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาชักกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำใจต้องจิบเบียร์เป็นเพื่อน
ส่วนไอ้เพื่อนผอมชอบกินกับแกล้มมากกว่าเริ่มชวนคุย..เขาเงยหน้าจากแก้วเบียร์มองมัน
"เมียมึงยังแสนดีไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้มิล..พวกกูโคตรอิจฉามึงเลยอะ"
"ยังไง?"
"ดูดิ..มึงอยากตั้งวงก็ไม่บ่น เป็นอิหมวยเมียกูนะ..บ่นจนบ้านบึ้มละ..คงไม่มีกับแกล้มมาเสิร์ฟถึงที่ขนาดนี้"
"ขนาดนั้นเชียว"น้ำเสียงเรียบเรื่อยราวกับเรื่องแบบนี้ทุกบ้านก็เป็นมั้ย? เพื่อนตัวอ้วนได้ทีนินทาเมียรีบเสริม
"มึงรู้มั้ย..วันหยุดนะ ลูกกูหลับละ..กูแอบเล่นเกม..ด่ากูเป็นชั่วโมง..จนกูรีบขอเพื่อนจบเกมอะมึง..เงินในกระเป๋านะติดตัววันละ50 กูถามจริ้ง..ค่าข้าวกลางวันก็หมดละมะ"
"ของมึงยังดีนะไอ้วิน กูนี้ซิ...อดีตหนุ่มหล่อเดือนเกษตร ได้เงินไปทำงานวันละ20 ส่วนข้าวกลางวันอะนะ ห่อไปกินจ้า..กูยอมใจเมียกูเลย"
"...."
พอเริ่มกรึ่มได้ที่สองเพื่อนรักก็เริ่มนินทาเมียถึงพริกถึงขิงจนรามิลกลืนน้ำลายดังเฮือก..จากบรรยากาศที่ชวนอึดอัดตอนแรก..เริ่มกลายเป็นหดหู่
สักพักไอ้สองคู่หูก็เริ่มน้ำหูน้ำตาไหล..จนเจ้าของบ้านรีบปลอบ..ไม่ใช่อะไรกลัวน้ำตาจะท่วมบ้านเขาเสียก่อน
"พวกมึงใจเย็น..อย่าร้อง..ผู้หญิงก็แบบนี้แหละ..ยอมๆไปเหอะ"สรรพนามที่เรียกเริ่มแสดงความสนิทสนม
"มึงไม่เข้าใจไอ้มิล..เมียมึงโคตรแสนดีอะ..ตั้งแต่มึงหายตัวไปเป็น10ปี ยัยหนูอัญก็ไม่ยอมมีคนใหม่"ไอ้เพื่อนตัวอ้วนเริ่มเพ้อ..คนตัวโตชะงักไปเล็กน้อย..ดวงตาคมหลุบลง
"แล้ว..ไม่มีคนมาจีบ..บ้างเหรอ"น้ำเสียงยังคงราบเรียบ..ไอ้เพื่อนตัวผอมอธิบายทันที
"ใครว่าไม่มี..เมียมึงอะโคตรฮอตเลย..หน้าตาน่ารักขนาดนั้น ออกงานทีนึง ผู้ชายในหมู่บ้านตามจีบแทบไม่ทัน แต่น้องมันรอมึงไง..กูยังคิด..ถ้ากูหายตัวไป..เมียกูจะรอกูแบบที่เมียมึงรอมั้ย"
คำตอบของคนเป็นเพื่อน..ส่งผลให้คนตัวโตอดอมยิ้มไม่ได้ นิ้วหยาบลูบปากแก้วเล่น จนเพื่อนเรียกให้ดื่ม
เขาถึงยกแก้วจิบอย่างอารมณ์ดี..เขาเข้าใจแล้วทำไมสมัยก่อนเขาถึงคบกับไอ้เพื่อนขี้เมาสองตัวนี้..เพราะอยู่ด้วยไม่ต้องคิดอะไรมาก..ไม่เหมือนอยู่กับเพื่อนบางกลุ่มที่ปั้นหน้าหาประโยชน์ต่อกัน
ความคิดวาบเข้ามา..เพื่อนบางกลุ่ม? กลุ่มไหน?
คิ้วเข้มขมวดยุ่ง..เหมือนบางอย่างวาบเข้ามา..แต่เขากับคว้าไว้ไม่ทัน..แก้วเบียร์ถูกวางไม่ห่างตัว..มือหนาหยาบพยายามนวดขมับ..กลิ่นสบูอ่อนๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเดียวกันกับเขาลอยตามลงมา..ใจดวงโตสั่นไหววูบ..คนเป็นเมียยืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้..ก่อนเสียงใสจะเอยทัก
"พี่มิลปวดหัวอีกแล้วเหรอ"
ไม่พูดเปล่ายัยตัวเล็กไล่นวดตามบ่าถึงขมับ..เหมือนที่ทำให้ทุกวัน..เรียกความอิจฉาจากเพื่อนทั้งสองเป็นอย่างมาก
จนสีหน้าชายหนุ่มเริ่มกลับมามีสีสัน เธอถึงลากเก้าอี้พาสติกสีฟ้ามานั่งใกล้ๆ มือเล็กหยิบชามช้อน..ตะเกียบ เตรียมกินหมูกระทะบ้าง
"เอาเบียร์มั้ย?"เพื่อนตัวอวบอ้วนของคนเป็นสามีถาม
"ไม่ดีกว่าพี่..ขอน้ำเปล่านะ..พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน" หญิงสาวปฏิเสธ พร้อมส่งยิ้มสดใสไปให้ อีกมือก็คอยพลิกหมู อันไหนสุกแล้วก็ใส่บนจานคนตัวโตก่อน..สมกับฉายา 'คนหลงผัว' โดยแท้จริง
"อัญกินเลย ไม่ต้องตักให้พี่เยอะหรอก"เสียงเข้มแหบพร่า ยิ่งเห็นเหงื่อซึมตามไรผม..คนตัวโตอดไม่ได้ ต้องเอากระดาษทิชชูข้างตัวซับให้..ได้รางวัลเป็นรอยยิ้มหวานๆของคนตัวเล็ก
"หืมมม พวกมึงนี้นะหวานตลอดๆ เหม็นความรักวะ"ไอ้เพื่อนตัวผอมเริ่มแซว
รามิลละมือทันที..ใบหน้าหล่อเหลาเสมองทางอื่นด้วยความอาย..แตกต่างจากคนเป็นเมียครวญเพลงอารมณ์ดี ราวกับสก้อยสาวเต๊าะหนุ่มก็ไม่ผิด!!
"เออ อัญ..พี่เห็นแกเล่น rovด้วยนี้"วิญญูถาม หลังจากเขาเคยเจอเธอออนเกม..เพราะเขากับเธอเป็นเพื่อนทางเฟส..ดวงตากลมโตน้ำตาลระยิบระยับ
"ใช่พี่..เห็นแบบนี้ฉันเก่งมากเลยนะ"ยัยตัวแสบเริ่มอวด เพราะช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา..ตี้ของพวกเธอลองลงเล่นจัดอันดับ ปรากฏว่าชนะรัวๆ ขึ้นมาจ่อ 'commander II'* อีกไม่กี่ดาวจะขึ้น 'Conqueror'* แล้ว
รามิลชะงักไป..เตรียมจะห้าม..อยากจะบอกไอ้เพื่อนจอมซื่อบื้อทั้งสองคนว่า..คนที่เก่งอะ..คือลูกไม่ใช่แม่
"จริงปะ..งั้นแบกพวกพี่ได้มะ"คนตัวผอมเริ่มคึกคัก
"ถ้าพี่กล้าลง..น้องก็กล้าแบก"
ไอ้คนตัวเล็กแต่ใจใหญ่..ไม่พูดเปล่ายังทุบหน้าอกแบนๆของตัวเองเป็นเชิง..มามะ..เดี๋ยวพี่แบกเอง
"งั้นลองกันตอนนี้เลยดีมั้ย?"วิญญูทักพร้อมเอามือถือมาล็อกอินเกม จรัสหรือไอ้จูนก็ไม่น้อยหน้าเตรียมพร้อมเข้าเกม..ก่อนที่ดวงตาภายใต้แว่นจะหันมาสบตาคู่คมสวยของเพื่อนรัก
"มึงอย่าช้าดิวะ..รีบเข้าเกม"
"...."
เอาจริงเขาก็คร้านจะลง แต่พอสบตาใสซื่อของยัยตัวกระเปี๊ยกข้างๆ..ก็ได้แต่อดถอนหายใจ พร้อมหาข้อแก้ตัว
"สามคนพอดีละไง..ถ้าฉันเล่นด้วยก็ขาดอีกคน..พวกแกเล่นเลย"
"ไม่เห็นยากเลยพี่..ก็เรียกน้องอายมาเล่นด้วยไง"
ไม่พูดเปล่า..คนเป็นแม่รีบเดินไปที่โต๊ะสารพัดประโยชน์..ที่ลูกสาวกำลังนั่งทำแบบฝึกหัดวิชาคณิตศาสตร์..เธอลากลูกสาวตัวน้อยออกมาทันที..เด็กหญิงดารินถอนหายใจ..ใบหน้าสวยหวานที่ยังมีแก้มบูดบึ้งเล็กน้อย
ยัยลูกสาวจอมเจ้าระเบียบกวาดตามอง..'แก๊งผู้ใหญ่ติดเกม' ทั้งถอนหายใจซ้ำอีกรอบ
เมื่อสบตาคนเป็นพ่อ..ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีทันที..เขาก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีของลูก..แต่ยัยเมียตัวแสบกลับทำเสียเรื่องนี้ซิ
"น้องอาย นั่งๆ เอาเบียร์มั้ย..เดี๋ยวลุงรินให้"ไอ้ผู้ใหญ่ตัวอ้วนขี้เมาคิดจะมอมเด็กน้อยให้เสียคน..เรียกมะเหงกจากเพื่อนตัวผอมทันที
"มึงนี้ก็..หลานพึ่งอยู่ประถม..มาบงมาเบียร์..เดี๋ยวพ่อกับแม่เด็กก็มาถอนหงอกเอาหรอก"
"กูก็แค่พูดเล่นปะวะ ใครจะให้หลานดื่มจริงละ"
แล้วไอ้เพื่อนสองตัวก็เถียงกันครื้นเครง..เรียกเสียงหัวเราะของเมียตัวกระเปี๊ยกได้..เหมือนเธอจะชินบรรยากาศแบบนี้ไปซะแล้ว
แถมลูกสาวตัวดีที่ปกติจะแซะพวกผู้ใหญ่ไม่ได้เรื่อง..วันนี้กับนิ่งกริ้บจนผิดปกติ..เหมือนเธอเองก็ชินกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว
"อายจะเล่นเป็นเพื่อนก็ได้..แต่แค่สองเกมนะคะ อายมีต้องทบทวนข้อสอบ"
"โอเค เดี๋ยวลุงแบกเองลู๊กกกก"
พอเริ่มเกม
ยัยเมียตัวแสบเลือกวูคองทันที..ทำลูกสาวขมวดคิ้วยุ่ง..เธอหันมาสบตาคนเป็นพ่อด้วยความลังเล คนตัวโตได้แต่ส่ายหน้ากลับไป
"อัญจะป่าเหรอ ไหวแน่นะ"
"ไว้ใจหนูได้เลยพี่วิน"ไอ้ต้าวตัวเล็กยืนยันมั่นใจ
แต่ไอ้เพื่อนสามีสองคนได้ลิ้มรสความหัวร้อนขั้นสุด..จากความ 'ไว้ใจ'
"น้องอัญหนูเล่นวูคองต้องเข้าจังหวะสองซิลูก"เสียงวิญญูแหบพร่า..คนจริงจังกับการเสียดาว..แทบขาดใจ..เมื่อเห็นตัวป่าพาตัวเองไปตายโง่ๆ
"ก่อนเข้ากดสกิลหายตัวด้วย!"เพื่อนสามีอีกคนเน้นย้ำ เมื่อเห็นเมียเพื่อนมาช่วยแก๊งฝั่งออฟเลน
ผล 'DEFEEAT' ภายในสิบนาทีทำเพื่อนรักของสามีอยากร้อง..และได้ข้อสรุปเล็กๆว่า..อย่างน้อยเมียไอ้มิลก็มีข้อเสียหนึ่งข้อละวะ
*commander II,Conqueror เป็นระดับชั้นความเก่งในrov
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย