ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’
EP.3
เก็บเป็นความลับ
กระบะรุ่นเก่าสภาพสมบุกสมบันเน้นใช้งานมากกว่าเน้นความสะดวกสบายแล่นลิ่วด้วยความเร็วพอประมาณไปตามถนนเส้นรอง บรรยากาศบนรถสงัดเงียบมีเพียงเสียงเครื่องยนต์รถกำลังทำงาน กับเสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าของคนนั่งตำแหน่งคนขับเท่านั้น
ไม่ใช่แค่ปราณที่ไม่อยากคุยกับนรี หญิงสาวเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน ตั้งแต่กลับออกมาจากสวน ต่างฝ่ายต่างก็ตกอยู่ในอาการปั้นปึ่งด้วยกันทั้งคู่ ในระหว่างความเงียบน่าอึดอัดใจ ตากลมโตก็บังเอิญสังเกตเห็นเข้ากับอะไรบางอย่างที่ข้างตัว
มันคือกล่องถุงยางอนามัยชนิดยกโหลซึ่งถูกแกะใช้ไปแล้วบางส่วนวางไว้อย่างเปิดเผยในช่องเก็บของระหว่างเบาะที่ไม่มีฝาปิด ความเป็นชายแท้ของอีกฝ่ายทำเอานรีพูดไม่ออก แม้รู้ว่าเธอเห็น เขาก็ไม่คิดที่จะเก็บให้พ้นสายตา
นรีไม่แปลกใจในความเป็นบุรุษเพศที่ได้เห็น หากไม่นับเรื่องความไม่ลงรอยระหว่างคนทั้งคู่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปราณเป็นผู้ชายประเภทที่สาว ๆ ชื่นชอบ สมัยเรียนเขาเป็นหนุ่มหล่อขวัญใจรุ่นพี่รุ่นน้องทุกชั้นปี เป็นนักกีฬาของมหา’ลัย เป็นนักกิจกรรมตัวยง ซ้ำยังได้เป็นประธานรุ่นอีกต่างหาก กระทั่งตอนนี้ผ่านมาร่วมสิบปี เธอก็ค่อนข้างแน่ใจว่าคงมีคนหลงไปรูปลักษณ์ภายนอกของคนที่ว่าเหมือนครั้งวันวาน
ปราณมีรูปร่างสูงโปร่ง ท่าทางกระฉับกระเฉงคล่องตัว ซ้ำยังมีเครื่องหน้าคมชัดหล่อเหลา ยังไม่นับรวมเรือนร่างใต้ร่มผ้าที่เธอเคยได้สัมผัสมาแล้วก็ด้วย ยิ่งเวลาผ่านล่วงเลยไปไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเขายิ่งดูดีขึ้นเป็นกอง
นรีคิดว่าคนเดียวบนโลกใบนี้ที่เหม็นขี้หน้าเขา คงมีแค่เธอ…
“ควรตกลงเรื่องระหว่างเราไหม?”
หญิงสาวเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นในจังหวะหนึ่ง ด้วยเล็งเห็นว่าการที่เธอโผล่มาแบบนี้ ซ้ำยังอุ้มท้องลูกเขามาด้วย อาจทำให้อีกฝ่ายเกิดความไม่สะดวกใจในบางเรื่อง
“เราคิดว่าควรเก็บเรื่องลูกเป็นความลับ ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องบอกใคร ปราณจะได้ไม่ต้องลำบากใจเวลาจะทำอะไร” ประกอบคำพูดนัยน์ตาสีอ่อนก็หลุบลงมองเครื่องป้องกันทางเพศที่ข้างตัวเพื่อสื่อความนัย
“เธอจะบอกให้เราไปกินกับใครก็ได้?” เจ้าของเครื่องหน้าคมคายถามกลับอย่างตรงไปตรงมา จนสาวเจ้าถึงกับต้องเมินหันหนี
“เราไม่ได้แต่งงาน ไม่ใช่สามีภรรยา เป็นแค่พ่อแม่ของลูกร่วมกัน ปราณจะทำอะไรก็ทำไปสิ”
เพราะการปะทะคารมคือเรื่องปกติระหว่างทั้งคู่ ได้ยินฝ่ายหญิงเสนอมาแบบนั้น ปราณก็อดไม่ได้ที่จะประชดประชัน
“เธอก็เหมือนกัน ถ้าระหว่างนี้มีใครมาจีบก็เชิญได้ตามสบาย”
นรีบึนปากด้วยหมั่นไส้ในความเย่อหยิ่งที่ได้เห็น เธออุตส่าห์คุยด้วยดี ๆ แต่ในสายตาเขาคงคิดว่าเธอเป็นศัตรูคู่อาฆาตมากกว่าแม่ของลูกแบบนั้นกระมัง
“ปราณไม่บอกเราก็คิดจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว ได้ข่าวว่าคนต่างจังหวัดนี่เศรษฐีตัวจริง”
“ท้องจะโตอยู่ไม่กี่วัน ยังคิดจะหาผู้ชาย” เสียงไร้อารมณ์ถากถาง ปราณไม่แม้แต่จะหันมองหน้าเธอ เมื่อกี้ก็เขานั่นแหละที่บอกให้เธอคุยกับคนอื่นได้ตามสบาย
นรีนึกอยากจะหันไปเขย่าคนตัวโตแรง ๆ ให้พักยกคุยกันเหมือนคนปกติสักที แต่ก็ทำได้เพียงสะกดเก็บอารมณ์ขุ่นมัวเอาไว้ เมื่อคิดได้ว่าทั้งคู่ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันไปอีกหลายเดือน ปรองดองกันไว้คงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซ้ำเธอเองเป็นฝ่ายมาอยู่อาศัยบ้านเขาก็ด้วย สุดท้ายจึงพยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“เราจะคุยกันดี ๆ สักครั้งไม่ได้รึไง?”
“…”
คู่สนทนาชะงักเล็กน้อย ก่อนจำต้องยอมเก็บหมากลับเข้าปากเป็นการชั่วคราว ปราณรู้ว่านรีต้องการคุยอย่างจริงจัง อีกทั้งสองคนไม่ใช่เด็ก ๆ ที่จะถกเถียงกันทุกครั้งที่เจอหน้าเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ชายหนุ่มมีสารพัดความคิดตบตีกันยุ่งเหยิงอยู่ในหัว
จู่ ๆ เขาก็ต้องเป็นพ่อคนทั้งที่เมียก็ยังไม่มี ซ้ำร้ายแม่ของลูกยังเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายบนโลกที่เขาคิดจะใช้ชีวิตด้วย ไหนจะเสนอเรื่องงานแต่งแต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธ ไหนจะเรื่องลูกที่หากเขาไม่จดทะเบียนสมรสกับเธอ การร้องขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูก็จะยุ่งยากไปกันใหญ่หากเกิดปัญหาในภายภาคหน้า นี่ยังไม่นับรวมเรื่องหัวใจที่เขามีคนที่หมายตาต้องใจอยู่ก่อนแล้ว
มีแต่เรื่องประสาทกินแบบนี้ จะให้ปลอดโปร่งโล่งสบายได้อย่างไร?
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มมีทีท่าอ่อนลง นรีก็ตั้งท่าเอ่ยอย่างเป็นงานเป็นการอีกครั้ง “เราพูดจริงนะ ปราณอยากทำอะไรก็ทำได้เลย ถ้ามีแฟนก็คบต่อได้ เราจะไม่ทำให้เกิดปัญหา”
ประโยคหลังแผ่วเบาจนน่าใจหาย นรีไม่คิดว่าจะต้องเป็นฝ่ายอ่อนข้อให้เขาขนาดนี้ แต่หากจะอยู่อย่างสงบสุข การยอมถอยคนละก้าวคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แม้ชั่วโมงที่ผ่านมาเธอและเขาเพิ่งผ่านการปะทะฝีปากกันมาก็ตามที
“เราก็พูดจริง เธออยากทำอะไรก็ทำ” ปราณตอบกลับด้วยประโยคเดียวกัน “ถ้าเธอยืนยันว่าไม่แต่งแน่”
“เราไม่แต่ง เราไม่ได้อยากแต่งกับปราณ” หญิงสาวตัดบทชนิดไม่จำเป็นต้องคิดให้เสียเวลา ทำเอาคู่สนทนาเริ่มรู้สึกเสียเซลฟ์เล็ก ๆ จนต้องแสร้งทำเสียงรำคาญใจ
“เออ ไม่แต่งก็ไม่แต่ง”
“ใครถาม ก็บอกว่าเราเป็นเพื่อนปราณแค่นั้นพอ”
“อืม เพื่อนที่อีกไม่กี่เดือนก็คงจะเดินท้องโต”
“เรื่องไปหาหมอ เราก็คิดว่าน่าจะไปเองได้” นรีเมินคำถากถาง เธอคิดว่าคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะเดินทางเข้าตัวเมืองคนเดียว
แม้ปราณจะไม่เห็นด้วยเพราะต้องขับรถข้ามอำเภออย่างไรเขาคงต้องเป็นฝ่ายพาไป แต่หากเสนอ นรีคงดึงดันที่จะรับผิดชอบตัวเอง เอาไว้ถึงเวลาเขาค่อยบังคับให้ไปด้วยกันแค่นั้นพอ
“เราจะพาแวะเข้าไปที่หน้าตลาด เผื่อเธอจะออกมาหาซื้ออะไรตอนเราไม่อยู่บ้าน” พูดจบ คนขับก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่ถนนเทศบาลโดยไม่เอ่ยเรื่องเดิมเพื่อเป็นการยุติบทสนทนาในเรื่องนั้น
“ปกติปราณไม่อยู่บ้านเหรอ?”
“คนเขามีงานมีการให้ทำ ไม่ได้ว่างไปวัน ๆ” ประโยคท้ายนั้นราวกับจะค่อนขอด แต่นรีก็ทำทีไม่ได้ยิน
“แล้วปราณทำงานอะไร?”
“เป็นคนงานในสวน”
“เป็นเจ้าของสวนไม่ใช่เหรอ?”
“เจ้าของสวนแล้วทำงานไม่ได้?”
“ก็เราเห็นคนงานเยอะแยะออก”
นรีไม่ได้เอ่ยเรื่องเกินจริง เธอรู้มาจากเพื่อนว่า ฐานะทางบ้านฝ่ายชายนั้นใช่ว่าจะไก่กา อีกทั้งชั่วโมงที่ผ่านมาก็พิสูจน์กับตาแล้วว่าจริง
สวนตาหมานมีอาณาบริเวณกว้างขวาง เต็มไปด้วยคนงาน ทั้งฝ่ายเก็บเกี่ยว ฝ่ายคัดแยก ฝ่ายขนขึ้นรถ อีกทั้งโกดังพักผลผลิตก็ใหญ่โตจนอดจินตนาการไม่ได้ว่าขนาดพื้นที่ของ สวนบ้าน ๆ ดังคำเอ่ยอ้างที่ปราณมักบอกกับเพื่อนเสมอนั้นกินพื้นที่กี่ไร่ และทั้งหมดทั้งมวลทำให้นรีคิดว่า ลูกชายเจ้าของสวนไม่น่ามีอะไรให้ทำ
และแม้ชายหนุ่มจะทำตัวติดดิน ไม่ได้สวมใส่แบรนด์เนมแม้แต่ชิ้นเหมือนอย่างคนที่เธอเคยคบหา แม้กระบะที่ขับล้อทั้งสี่จะเต็มไปด้วยดินลูกรังเกรอะกรัง ทว่าการที่เขาไม่อิดออดแม้แต่น้อยกับเรื่องลูกในท้องของเธอ ความพร้อมที่จะให้การรับผิดชอบนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า ระหว่างอยู่ที่นี่เธอคงไม่ถึงกับลำบากตรากตรำ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบ นรีก็ไหวไหล่
“เราจะไปรู้ได้ไงว่าที่สวนมีอะไรให้ปราณทำ”
ปราณคิดว่าถึงเขาจะอธิบายให้ฟังว่าในสวนนั้นมีงานให้ทำหลายอย่าง แต่คนซึ่งน่าจะไม่เคยทำงานอย่างนรีคงไม่มีวันเข้าใจ สุดท้ายจึงตัดจบด้วยคร้านจะแจกแจงรายละเอียดส่วนตัว
“เราเข้าสวนตั้งแต่เช้ากว่าจะกลับก็ค่ำ ๆ”
“เราต้องอยู่คนเดียวจนถึงค่ำเลยเหรอ?”
“…”
ตอนนี้เองที่คิ้วหนากระตุก นรีคงไม่ได้หมายความว่าจะให้เขาหยุดทำงานมาอยู่ด้วยใช่หรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นจะทำอย่างไร? เขาไม่ใช่คนประเภทอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยังชอบตะลอนไปนู่นมานี่ อีกทั้งไอ้คำว่า ‘ดูแล’ ที่พ่อเขากำชับนักหนามันมีขอบเขตประมาณไหนกันแน่?
นรีเห็นสีหน้าราวกับกำลังตบตีกับตัวเองอยู่ในใจ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดไปไกลหลายหมื่นโยชน์กับการตั้งคำถามของเธอ
“เราแค่ถาม ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ปราณวุ่นวายหรอก”
“ดี เราก็มีเรื่องส่วนตัวต้องทำเหมือนกัน”
สีหน้าโล่งใจชนิดไม่เก็บอาการของเขา ทำเอาหญิงสาวแอบทำเสียง ‘หึ’ ในใจ อดคิดไม่ได้ว่าในคืนนั้นเกิดปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ขึ้นหรืออย่างไรเธอกับเขาถึงได้ลงเอยกันบนเตียง ซ้ำร่างกายยังปะทะเข้าหากันจนถึงหัวรุ่งของอีกวัน
เพียงแค่ห้วงคำนึงคิดย้อน ภาพท่วงท่าเร่าร้อนของบุรุษเพศวัยฉกรรจ์ในคืนที่ว่าก็ฉายกลับเข้าหัวโดยพลัน มัดกล้ามขัดแข็งทั่วทั้งร่าง สัมผัสหนักหน่วงทว่ารัญจวนใจยังคงตราตรึง
นรีพลั้งเผลอชำเลืองมองอีกฝ่ายโดยไม่ตั้งใจ และดันมีคนสังเกตเห็นสายตาของเธอเข้าพอดี
“มองไร?”
“เปล่า”
“ถึงตลาดแล้วจะลงไหม? หรือแค่วนดูก็พอ?”
โชคดีที่ตอนนี้ถึงหน้าตลาดแล้วจริง ๆ กระบะจอดสนิทลงหน้าร้านข้าวมันไก่ที่คนเยอะเป็นพิเศษยิ่งกว่าร้านอื่นในบริเวณใกล้เคียงซึ่งตั้งเรียงรายอยู่ในอาคารชั้นเดียวตรงหน้า
หญิงสาวปลดเข็มขัดนิรภัยแทนการให้คำตอบเพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีข้าวตกถึงท้องเลยสักเม็ด แต่ปราณกลับรู้สึกพลาดท่าที่เสนอไปเช่นนั้น
เขาลืมคิดไปว่าคนที่กำลังลงจากรถแต่งตัวโดดเด่นแค่ไหน และลืมคิดว่า อาจเกิดสารพัดคำถามประเดประดังเข้ามา ด้วยคนละแวกนี้รู้จักมักคุ้นกับเขาด้วยกันทั้งสิ้น
ทว่าก็ทำได้เพียงพรูลมหายใจเสียงดัง กระแทกศีรษะเข้ากับเบาะรถด้วยความรู้สึกหนักอกเกินกว่าจะบรรยาย ก่อนจำใจต้องดับเครื่องยนต์ลง
ตอนพิเศษ 5เจ้าตัวน้อยที่เรียกว่ารักหลายปีผ่านไปบรรยากาศในสวนยามบ่ายคล้อยของวันไม่ต่างไปจากทุกทีแสงอาทิตย์นวลตาสาดส่องลอดผ่านกิ่งก้านผอมบางของไม้ใหญ่จนเกิดเป็นร่มเงา สายลมพัดโชยผ่านไม่ขาดสายส่งผลให้ใบไม้ร่วงกราวจากด้านบน ลานดินละลานตาด้วยสีสันของใบไม้แห้งที่ยังไม่ได้รับการเก็บกวาด เสียงนกร้องดังคลอผสานไปกับเสียงเสียดสีของใบไม้ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปในแบบที่ควรจะเป็น…หากที่ต่างคงเป็นเพราะตอนนี้ปอป่านลูกชายตัวน้อยของนรีและปราณกำลังอยู่ในวัยเดินเตาะแตะ เสียงหัวเราะของเจ้าตัวน้อยดังผสานไปกับเสียงเด็กอีกคนที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ด้วยกัน หากเด็กชายอีกคนตัวโตกว่าเพราะอายุอานามมากกว่าหลายปีนรีในชุดคลุมท้องตัวยาว ส่งเสียงเรียก จ๋อม ให้จูงมือน้องกลับมานั่งที่แคร่ไม้หน้าบ้าน พร้อมวางผลไม้ซึ่งได้รับการปอกเปลือกเรียบร้อยแล้วรอให้เด็ก ๆ ได้กินตอนนี้หญิงสาวท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีเดินเหินไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก จะลุกจะยืนก็ต้องระมัดระวัง โชคดีที่ช่วงนี้ได้จ๋อมหลานชายของเหนือเข้ามาช่วยเลี้ยงปอป่านในช่วงปิดภาคเรียน มิเช่นนั้นคงทำอะไรได้ไม่สะดวก“จ๋อมกินได้เลยนะ เดี๋ยวอาไปเอาของกินเล่นมาเพิ่มให้” นรีลูบหัว
ตอนพิเศษ 4คู่กัดสิบปีก่อน นรีเบื่อเต็มทีกับการต้องอดทนฟังเสียงเพื่อนสนิทร้องห่มร้องไห้เพราะเรื่องแฟน ลูกตาลสะอึกสะอื้นไม่หยุดมาร่วมชั่วโมงเข้าให้แล้วตลอดทั้งเช้าที่ผ่านมา “ถ้ามันไม่คุย วันนี้ฉันจะพาแกไปคุยให้รู้เรื่องเอง”เจ้าของเรือนร่างสะโอดสะองในชุดนิสิตขนาดพอดีตัวผุดกายขึ้นยืน คว้ากระเป๋าขึ้นคล้องแขน ตั้งท่าจะดึงลากเพื่อนซี้ให้เดินไปด้วยกัน แต่ลูกตาลกลับส่ายหน้าหวือ“คุยที่นี่เหรอ? ไม่เอาหรอกแก”“ไม่คุยที่นี่แล้วจะคุยที่ไหน? ในเมื่อแกไปหาที่ห้องมันก็ไม่ยอมคุย” ดวงหน้าอ่อนหวานเอ่ยทั้งเสียงหงุดหงิดเต็มทนมัน ที่นรีว่าคือ โชกุน เพื่อนร่วมคณะฯ ที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ยันตอนนี้ล่วงเข้าปีที่สาม นรีก็ไม่คิดว่าลูกตาลจะไปคบกับคนที่ว่าได้ลง นอกจากเป็นพวกเจ้าชู้ตัวพ่อแล้ว ยังเที่ยวกลางคืนเก่งยิ่งกว่าอะไร ลับหลังคนเป็นแฟนอาจนอกลู่นอกทางได้ไม่ยากเย็นหากมองจากนิสัยที่เคยได้เห็นนรีเบื่อหน่ายกับความเป็นนักรักของเพื่อนเต็มที สเปกที่ลูกตาลชื่นชอบนั้น กี่ที ๆ ก็ลงเอยด้วยการน้ำตานอง… “เดี๋ยววันนี้ฉันจะลองไปคุยอีกที” ลูกตาลยังคงดึงดันย้ำในคำเดิม พลางก็ปาดน้ำตาออกจา
ตอนพิเศษ 3ราหูอมจันทร์ 3นรีรู้สึกสั่นไหวอยู่ในอกกับภาพเครื่องเพศของอีกฝ่ายซึ่งขณะนี้ผงาดตั้งลำอวดโชว์ความเป็นชาย ใจดวงน้อยเต้นรัวไม่เป็นส่ำกับความใหญ่โตสมตัวของเจ้าของ อายุก็ตั้งขนาดนี้ แต่นรียังไม่เคยมีโอกาสได้เห็นของจริง และของจริงที่ได้เห็นก็น่าประทับจิตประทับใจ ชวนให้รู้สึกหวามสั่นไปทั้งกาย…ขณะเดียวกันปราณกำลังใส่เครื่องป้องกันโดยไม่คิดถามความเห็นให้เสียเวลา หากนรีไม่ต้องการในสิ่งเดียวกับเขา เจ้าตัวคงร้องประท้วง ทว่าจากสายตาฉ่ำเยิ้มที่ทอดมอง ปราณสามารถตัดสินความรู้สึกหญิงสาวได้ด้วยตัวเองร่างสูงคลานขึ้นเตียงโดยมีของแข็งผงกหัวตามการเคลื่อนไหว ท่อนขาแข็งแรงเคลื่อนเข้าแทรกระหว่างสองขาเรียวงาม มือก็นวดเอ็นเนื้อไปพลางขณะที่คนเมาได้แต่หลุบตามองแท่งเนื้อลำโต ก่อนเมินหันหนีด้วยความเขินอาย นรีไม่ได้คิดว่าเหตุการณ์จะดำเนินมาถึงขั้นนี้ และแม้ใจจะอยากปฏิเสธ ทว่าอีกความรู้สึกดันมีมากกว่าปราณโน้มตัวเข้าหาเจ้าของกลิ่นกายหอมหวาน คลอเคลียจูบเข้าที่ซอกคอผ่องขาว เสียงพร่ากระซิบที่ข้างกกหูเล็กแผ่วเบา“เรื่องวันนี้ถ้าเธออาย สัญญาว่าเราจะไม่บอกใคร”คนฟังหันมอง ส่งเสียงอึกอักถามราวกับไม่เข้าใจในสิ่
ตอนพิเศษ 2ราหูอมจันทร์ 2 ยี่สิบนาทีต่อมา นรีหลับ หลับไปทั้งยังอยู่ในการประคองกอดของคนตัวโตปราณพยายามปลุกเรียกเท่าไรก็ไร้การตอบสนอง มีเพียงการส่งเสียง ‘อืม’ ในลำคอเท่านั้น และเพราะตอนนี้เขาเหนื่อย ร่างกายต้องการนอนพักเต็มที ประกอบกับดูเวลาแล้วจึงจำใจต้องพานรีกลับที่พักไปด้วยเตียงของโรงแรมตั้งกว้าง นอนสองคนไม่น่ามีปัญหา…อย่างไรก็คงไม่มีใครคิดอยากจะขึ้นคร่อมเหนือร่างของใคร… แต่เพียงแค่ประตูห้องปิดลง คนในอ้อมแขนกลับเปิดเปลือกตาขึ้นมอง แพขนตาเรียงตัวสวยกะพริบเพียงสองสามที กายอ่อนระทวยบนสองแขนของชายหนุ่มก็แข็งเกร็งขึ้นทั้งอย่างนั้น ตาคมหลุบมองดวงหน้าผุดผาดเรื่อแดงของคนที่สติเริ่มกลับมา พร้อมทั้งจำต้องรีบปล่อยอีกฝ่ายลงยืนบนพื้นทันที ก่อนใครจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนประเภทชอบลักหลับ “เธอหลับ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น” ปราณขยายความการกระทำด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์“อือ” คู่สนทนาผงกหัวรับ สีหน้ายังคงมึนงงกับอาการของตนเองราวกับไม่คิดติดใจอะไร ทว่าเพียงต้องยืนบนรองเท้าส้นสูง ปลีน่องเรียวเล็กก็เซวูบแทบล้มลงกองในวินาทีนี้นรีทำได้เพียงสะบัดศีรษะไล่คว
ตอนพิเศษ 1ราหูอมจันทร์ 1เพนต์เฮาส์หรูบนชั้นสูงสุดของตัวอาคารแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหลวงของประเทศเป็นสถานที่ที่หญิงสาวไม่อยากเหยียบย่างเข้าใกล้เท่าไรนัก หากไม่ใช่เพราะต้องมาร่วมงานวันเกิดเพื่อนสนิทอย่าง ลูกตาล อย่างไรนรีก็คงไม่มา เพราะเจ้าของที่พักสุดหรูซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิท เป็นผู้ชายประเภทเจ้าชู้ ซ้ำยังชอบทำร้ายจิตใจคนเป็นแฟนอยู่บ่อยครั้ง ร่างผอมบางในชุดเดรสสีครีมสั้นเหนือเข่ายืนทอดอารมณ์กอดอกอยู่ทางมุมหนึ่งของระเบียงบนตึกสูงระฟ้ามาได้สักพักแล้ว เวลาล่วงผ่านเที่ยงคืน ค็อกเทลสีฟ้าสวยในมือหมดไปอีกแก้ว แต่เสียงเพลงรวมถึงแสงไฟจากด้านในก็ยังไม่มีทีท่าจะยุติลงนรีเริ่มรู้สึกมึนศีรษะ ตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมาเธอใช้เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ชนิดนี้ฆ่าเวลาระหว่างรอเพื่อนทะเลาะกับแฟน แม้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเจ้าตัวก็ตามที และหลังจากยืนทอดอารมณ์เพียงลำพังอยู่นาน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีชายสองคนมาหยุดยืนที่ข้าง ๆ “คุณนรีไม่เข้าไปด้านในเหรอครับ? หนาวนะ” “เข้าไปนั่งจอยกับพวกเราดีกว่านะครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” ปากอิ่มยิ้มให้คู่สนทนา ก่อนรอยยิ้มที่ว่าจะคลายล
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.47ผลลัพธ์เท่ากับรัก ตอนเย็น บรรยากาศในสวนตาหมานไม่มีอะไรต่างไปจากเดิมกับที่เคยเป็น รอบบริเวณมีเด็ก ๆ ลูกของคนงานวิ่งเล่นส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันเหมือนทุกวัน หลังจากติดต่อกับชิปปิงเรื่องการส่งออกผลิตผลลอตใหม่เรียบร้อยปราณก็เดินออกจากห้องทำงานในตอนเย็น วันนี้เขากับนรีมีนัดกินมื้อเย็นกับน้องสาวและคนเป็นสามีตาคมกวาดมองไปโดยรอบก็ทันได้เห็นร่างแบบบางคุ้นตายืนอุ้มลูกชายแนบไว้กับอก เสียงใจดีของนรีกำลังพูดคุยกับเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งที่วิ่งเล่นอยู่กับเพื่อน หญิงสาวแอบควักเงินจากกระเป๋ากระโปรงส่งต่อให้เด็กคนที่ว่าเป็นค่าขนมไม่ต่างจากทุกที คนมองพลันผุดยิ้มกว้างกับภาพที่ได้เห็น ปัจจุบันไม่มีใครในสวนตาหมานไม่รู้จักเมียของปราณ และไม่ใช่แค่ที่สวน หากแต่ในตลาดต่างก็รู้กันถ้วนหน้าว่านรีเป็นใคร ด้วยความช่วยเหลือในการกระจายข่าวของมดและกระถินที่ประกาศบอกชาวบ้านให้รู้ทั่วกันว่าสองหนุ่มสาวเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่เมื่อปีกลาย และได้ร่วมงานมงคลสมรสหลังจากนรีคลอดลูกได้ไม่นานเพื่อยืนยันว่าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง ร่างสูงเดินเข้าหาคนเป็นเมี