เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าตุลน่ากลัว เขาพูดคำนั้นออกมาด้วยท่าทางที่สุดแสนจะเย็นชา
“พ…พี่” ฉันกำชายกระโปรงแน่น มันยากที่จะตัดสินใจกระทันหันถึงแม้ว่าจะชอบเขามากขนาดไหนก็ตาม ตุลไม่ได้รอฟังคำตอบเขาหันหลังให้ฉันแล้วเดินไปที่รถ เปิดประตูค้นหาของบางอย่าง “หาอะไร หะ ให้พี่ช่วยหาไหม” พอถามตุลก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันมามองฉันแล้วพูด “หาถุงยาง” “อ…เอาไปทำไม” หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินว่าเขากำลังหาอะไร “เอาไปเป่าเล่นมั้ง ถามไม่คิด” “…….” ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่ฉันกลับหวงเขามากๆ “เรื่องที่ตุลบอกพี่ขอคิดดูก่อนได้ไหม” “ไม่ได้บังคับ” เขาหันหน้ากลับไปค้นหาของต่อ “พี่อยากให้ตุลเปิดใจมากกว่าคิดเรื่องแบบนั้นนะ” “หยุดพูด รำคาญ!” เขาตวาดบอกทั้งที่ยังไม่หันหน้ามา “ตุลจะเอาหาถุงยางอนามัยไปใช้กับใครหรอ” “ยุ่ง!!” เขาพูดอย่างหงุดหงิด ฉันได้แต่นิ่งยืนมองแผ่นหลังกว้างอยู่ครู่ใหญ่ มองจนตุลหาของสิ่งนั้นเจอ เขาปิดประตูรถแล้วเดินมาหาฉันก่อนจะชูกล่องถุงยางอนามัยขึ้นตรงหน้า “อยากใช้ไหม ?” “ม…ไม่” “ชอบสด อ่า! มันคงไม่แปลกอายุขนาดนี้แล้วประสบการณ์คงจะโชกโชน” “……” เขาตัดสินใจฉันด้วยคำพูดที่แสนจะหยาบคายอีกแล้วนะ หมับ! ฉันดึงเอากล่องถุงยางอนามัยในมือตุลมา “พี่ขอเก็บไว้ใช้กับตุลได้ไหม ?” ความจริงคือฉันกลัว กลัวว่าเขาจะไปทำอะไรกับใคร “จะเอาไปให้เพื่อนไม่ได้คิดจะใช้เอง เอาคืนมา!” เขาบอกอย่างหงุดหงิด “เพื่อนหรอ ?” “รู้ไหมว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญขนาดไหน เลิกวุ่นวายสักทีได้ไหมวะ!!” ครั้งนี้เขาแสดงท่าทางที่ดุดันออกมา ก่อนจะเดินชนไหล่ฉัน เขาชนไหล่ฉันจริงๆ แถมยังชนแรงเอามากๆ จนฉันเกือบจะล้มแหนะ ถุงยางอนามัยก็ไม่ยอมเอาไปด้วย โกรธฉันงั้นหรอ…วันต่อมา
ฉันตื่นสายหน่อยวันนี้เพราะเมื่อคืนดื่มหนักจนเฮียต้องเป็นคนขับรถมาให้ เมื่อคืนฉันอยู่ดูตุลจนเขาออกจากคลับ ค่อยสบายใจหน่อยที่เขาไม่ได้ควงผู้หญิงที่ไหนออกไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงช้ำหนักแน่ๆ วันนี้คือวันใหม่ เรื่องแย่ๆ เมื่อคืนฉันจะลืมไปให้หมด ไม่อยากเก็บมาคิดให้ทุกข์ใจ วันนี้ฉันจะไปที่อู่เพราะรู้ว่าตุลไม่มีเรียน “จะไปอู่อีกแล้ว ?” เฮียนั่งจิบกาแฟอยู่ถามฉันที่เพิ่งเดินผ่าน อุตส่าห์ย่องเบาแล้วแท้ๆ “รถอยู่อู่น่ะเฮีย หนูจะไปดู” “ส่งลูกน้องไปดูก็ได้ทำไมต้องไปเอง กลับมาไทยแทนที่จะเข้าบริษัทแต่นี่อะไรเข้าแต่อู่ซ่อมรถ” “เอาน่าเฮีย ช่วงนี้หนูยังไม่อยากเข้าบริษัท” “ที่อู่มันมีอะไรดีน้องสาวคนนี้ของเฮียถึงชอบไปนัก” เฮียเฟยมองฉันอย่างจับผิด “ไม่มีอะไรหรอกเฮีย หนูไปก่อนนะ” ฉันรีบวิ่งออกมาจากบ้านเพราะกลัวจะถูกจี้ถามไปมากกว่านี้ ฉันให้คนขับรถที่บ้านมาส่งที่อู่ของตุล เพราะไม่อยากขับรถมาเองจะได้ใช้เป็นข้ออ้างให้เขาขับรถมาส่ง มันต้องมีสักครั้งสิที่เขาเห็นใจยอมมาส่งฉันที่บ้านน่ะ#อู่ซ่อมรถ
เป็นเหมือนเดิมทุกครั้งที่พอตุลเห็นหน้าฉันแล้วเขาก็มักจะแสดงท่าทางเบื่อโลก “มาทำไม” “มาดูรถไง ^_^” “บอกว่าเสร็จอาทิตย์หน้า” “อื้อพี่รู้แล้ว แค่อยากมาดูทุกวันไม่ได้หรอ ^_^” ฉันพยายามไม่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนเพราะอยากทำให้ตัวเองมีความสุขทุกวัน มีความสุขกับการได้ชอบใครสักคน ตุลที่นั่งซ่อมรถอยู่พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ รู้ดีกว่าเขารำคาญแต่ฉันก็ยังยิ้มหวานให้ เวลาหงุดหงิดเขาโคตรจะแบดบอยเป็นบ้าเลย ฉันเดินมานั่งโต๊ะหินอ่อนที่ประจำแล้วมองดูตุลซ่อมรถแบบนั้น มีความสุขดีจัง ถ้าได้เป็นแฟนกันคงจะดีมากๆ “ใกล้จะเที่ยงแล้วตุลอยากกินอะไรไหมพี่จะสั่งมาให้” “ไม่หิว” เขาปฏิเสธความหวังดีของฉัน ชิ! คอยดูเถอะจะสั่งของกินมายั่วดูสิว่าม่หิวจริงๆ หรือเปล่า อะไรที่เป็นฉันเขามักจะปฏิเสธตลอดนั่นแหละ ยอมอ่อนให้บ้างก็ไม่ได้ “ห้องน้ำไปทางไหนหรอตุล” ฉันตะโกนถามแต่คนที่ถูกถามไม่ยอมตอบ “ตุล….” “เดินตรงไปในอู่ เลี้ยวซ้าย” เขาตอบกลับแบบไม่เต็มใจจะพูด ฉันลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินไปตามที่ตุลบอกเพราะปวดฉี่ไม่ไหวแล้ว เดินมาตามทางที่ว่าก็เจอกับห้องน้ำจึบรีบเข้าไปทำธุระ หลังจากทำธุระเสร็จกำลังจะเดินกลับแต่สายตาของฉันดันบังเอิญเห็นห้องๆ หนึ่งที่ประตูเปิดแง้มไว้ คิดว่าคงจะเป็นห้องนอนของตุลจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปดู เพราะอยากเห็นว่าเขาอยู่ยังไง นอนยังไง มันคงจะเป็นธรรมดาของห้องนอนผู้ชายที่ค่อนข้างรกเอามากๆ เสื้อผ้าถอดกระจัดกระจาย มีทั้งกระป๋องเบียร์วางอยู่ เห็นแล้วอยากจะเก็บห้องให้จริงๆ เลย ก่อนจะเดินออกจากห้องฉันเหลือบมองเห็นกรอบรูปที่ตั้งอยู่ จึงเดินไปหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัย แต่แล้วเมื่อมองใกล้ๆ มันก็ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ พร้อมกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ในกรอบรูปคือภาพถ่ายของตุลกับผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันจำคำพูดของแพรได้ที่บอกว่าตุลเคยมีผู้หญิงที่รักมาก แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะรักถึงขนาดเอารูปคู่กับเธอมาใส่กรอบตั้งไว้แบบนี้ “ทำอะไร!!” ฉันสะดุ้งโหย่ง เพราะความตกใจเสียงที่ตวาดถามทำให้กรอบรูปในมือหล่นลงพื้น แน่นอนว่ามันแตกกระจายแถมเศษของกระจกภาพยังปักมาที่เท้าฉันอีกด้วย แต่มันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย คงเป็นเพราะสีหน้าและแววตาที่ดุดันของตุลในตอนนี้มันทำให้ฉันลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ ตุลเดินมาเก็บกรอบรูปที่ฉันทำตก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันถูกเขาจ้องเขม็งแต่จู่ๆ เขาก็เงียบไป “ต…ตุลพี่ขอโทษ คือพี่….” “ออกไป” “…ตุล” “บอกให้ออกไปไงวะ!!!”เช้าวันต่อมา ตื่นมาก็ไม่เจอคนที่เคยนอนอยู่ข้างๆ แล้ว โทรหาก็ไม่รับสาย วันนี้ตุลไม่ได้ไปเรียนพรุ่งนี้ก็ด้วยเขาจะไปไหนได้ ถ้าจะกลับบ้านหรืออู่ก็น่าจะทิ้งข้อความบอก เดินหาแทบทั้งบ้านในที่สุดก็เจอที่สวนดอกไม้ ทั้งที่พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสำคัญของเราแล้วแท้ๆ แต่ตุลยังทำตัวชิวอยู่อีก อาจเป็นเพราะทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว แต่เขาก็ควรแสดงความตื่นเต้นมากกว่าการมาปลูกดอกไม้แบบนี้สิ “ว่าที่เจ้าบ่าวทำตัวชิวจังเลยนะคะ” ฉันพูดแซวก่อนที่ตุลจะหันมายิ้ม สองมือของเขาเปื้อนดินเต็มไปหมด “เขาว่าคนท้องมองดอกไม้แล้วจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น เป็นไงอารมณ์ดีบ้างไหม?” เรื่องหาข้อมูลต้องยกให้เขาเป็นที่หนึ่งจริงๆ “อารมณ์ดีสิ แต่ตุลลืมอะไรไปหรือเปล่าเดี๋ยวเราก็ต้องย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่แล้วนะ” พ่อของตุลซื้อบ้านให้เป็นเรือนหอของเรา แต่คงต้องตกแต่งอีกสักหน่อยยังไม่ได้ย้ายไปกระทันหัน“อีกตั้งสองสามเดือนกว่าจะได้ย้ายไป จะปลูกไว้ที่นี่แล้วก็ที่บ้านหลังใหม่ด้วยเลย” “ตามใจแล้วกัน” ฉันเดินมาดูใกล้ๆ เห็นว่าตุลาตั้งใจกับการปลูกดอกไม้เอามากๆ “มา เดี๋ยวพี่ช่วยปลูก”“ไม่ต้องๆ แค่ไปนั่งให้กำลังใจตรงนั้นก็พอ” พอจะช่วยก็ถูกสั่งให้
ฉันไม่ได้แกะผ้าปิดตาออกเพราะเคลิ้มไปกับเพลงที่ตุลร้อง จนกระทั่งจบเพลง บรรยากาศกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง ไม่นานผ้าที่ปิดตาฉันก็ถูกเอาออกไป เดาไม่ยากว่าคนที่ยืนตรงหน้าฉันตอนนี้เขากำลังเขิน คงเป็นเพราะที่ผ่านมาตุลไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย แม้แต่การดีดกีตาร์ร้องเพลงฉันก็ไม่รู้ว่าเขาทำได้ “แฟนพี่ร้องเพลงเพราะนะเนี่ย ไม่เห็นเคยร้องให้ฟังบ้างเลย ^_^”“ไม่ได้ทำเป็นแต่แรกหรอก เพิ่งไปเรียนเมื่อเดือนที่แล้ว” “เรียน? หมายถึงดีดกีตาร์ร้องเพลงน่ะหรอ” “อือ” ตุลพยักหน้า ใครจะไปเชื่อ ภายในเวลาแค่เดือนเดียวเขาทำได้ขนาดนี้เชียวหรอ “คิดยังไงถึงไปเรียน” “อยากมีโมเมนต์หวานๆ กับเมียบ้าง”“ขอบคุณนะ ^_^”ฉันให้รางวัลด้วยการหอมแก้มเขาไปหนึ่งที จากนั้นก็มองไปยังโต๊ะดินเนอร์ที่ตุลเตรียมไว้ “ว้าว! นี่ตุลทำเองจริงๆ หรอเนี่ย” ถึงกับต้องตาลุกวาวเป็นประกายเมื่อเห็นโต๊ะอาหารที่ถูกจัดแต่งอย่างกับมืออาชีพมาทำด้วยตัวเอง แถมบรรยากาศรอบๆ ก็มีไฟติดอยู่หลากหลายสี สองข้างทางเดินไปที่โต๊ะมีเทียนวางอยู่เป็นทางยาว “มันดูไม่น่าเชื่อขนาดนั้น?” “เปล่า พี่แค่ไม่คิดว่าตุลจะทำออกมาสวยขนาดนี้” “ชอบไหม?”“ชอบสิ ชอบมากๆ ^_^” “หิวห
เวลาผ่านไป อีกแค่สองวันฉันกับตุลก็จะได้เข้าหอด้วยกันในฐานะสามีภรรยาแล้ว ที่ผ่านมาค่อนข้างยุ่งทั้งเรื่องเตรียมของชำร่วย เช็คความเรียบร้อยของสถานที่ ลองชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว การ์ดซองเชิญแขก มันยุ่งมากๆ ทำให้ฉันกับตุลแทบจะไม่ได้พักกันเลย ถึงแม้พ่อของเราสองคนบอกว่าจะช่วยจัดการอีกแรง แต่ในฐานะที่ฉันกับตุลเป็นเจ้าของงานก็อยากจะมีส่วนร่วม หลังจากผ่านความวุ่นวายไปแล้ววันนี้คุณแม่ท้องอ่อนอย่างฉันก็ได้พักผ่อนที่บ้านสักที ส่วนตุลก็ติดเรียน วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่แสนจะพิเศษ เพราะมีนัดดินเนอร์กินข้าวใต้แสงเทียนเพิ่มความหวานก่อนแต่งงาน แค่ได้ฟังตุลพูดฉันก็ดีใจปลื้มปริ่ม ตั้งแต่คบกันมานี่คือครั้งแรกที่เราสองคนได้ดินเนอร์ด้วยกัน ฉันสั่งของขวัญมาเซอร์ไพรส์เขาด้วยแหละ ตาตุลเห็นต้องชอบแน่ๆ ตอนนี้ฉันกำลังยืนมองดูเสื้อผ้าในตู้อย่างพิจารณา ก่อนจะหยิบมาทาบกับตัวเพื่อดูว่าจะใส่ชุดไหนดี ดินเนอร์ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวสวยๆ หน่อยสิ ใช่ไหมล่ะ ประมาณสามชั่วโมงผ่านไป ตุลกลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว วันนี้เขาดูกระตือรือร้นถือของมาเต็มไม้เต็มมือไปหมด “ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย” “ของจัดโต๊ะ ไม่รู้จะใช้แบบไหนดีเลยซื้อมาหลายๆ
ฉันบอกให้ตุลรอที่หน้าประตูบ้านแล้วเป็นฝ่ายไปหาเขาเอง ใบหน้าที่สลดของเขาทำให้รู้สึกหมั่นไส้อยากจะหยิกสักที“เมียจ๋าเค้าขอโทษ ความหึงมันบังตา ขอโทษจริงๆ ต่อไปจะไม่คิดอะไรแบบนั้นอีก” ตุลพูดเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมกับทำหน้าสำนึกผิด แต่ฉันคงไม่ยอมง่ายๆ ต้องสั่งสอนสักหน่อย “ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด” ฉันยืนกอดอกวางมาดออกคำสั่ง ส่วนคนที่ได้ฟังก็ถึงกับขมวดคิ้วเป็นปม “ถอดทำไม ?” “บอกให้ถอดก็ถอด ถามมาก!” “แต่ตรงนี้มีคนอยู่นะลิล ถ้าจะทำเรื่องสิบแปดบวกเราไปทำที่ห้องกันดีกว่าไหม” ความคิดนี้มันชี้ชัดได้แล้วว่าในหัวของเขามีแต่เรื่องบนเตียงจริงๆ “ใครจะทำเรื่องลามกแบบนั้นกันล่ะ” “อ้าว! แล้วให้ถอดทำไม”“ถอดเสื้อผ้าแล้วไปวิ่งรอบสนามหญ้ายี่สิบรอบ” “ละ…ลิล” ตุลเรียกชื่อฉันเสียงอ่อย สีหน้าของเขาเริ่มซีดเผือดขึ้นมาทันที “ถ้าอยากให้พี่หายโกรธก็ต้องทำ” “ถ้าทำแล้วต้องหายโกรธจริงๆ นะ”“ถอดสิ” ถึงแม้จะไม่เต็มใจแต่ตุลก็ยอมถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแค่เพียงบ็อกเซอร์สีดำตัวโปรดที่เขาชอบใส่กับเสื้อของฉันที่เขาพกติดตัวไม่ยอมวาง “ต้องถอดนี่ด้วยไหม” ตุลชี้ไปที่บ็อกเซอร์ชิ้นสุดท้ายบนร่างกายของตัวเอง “ไม่ต้อง”“ถ้าอย่างน
เมื่อคืนจำได้ว่าไม่ยอมให้ตุลดูดนมแต่ไหงตื่นเช้ามาริมฝีปากของเขาดันคาบอยู่ที่หน้าอกฉันได้ คงแอบตอนเผลอหลับแน่ๆ เช้าวันนี้ฉันอารมณ์ดีขึ้นไม่หงุดหงิดเหมือนเมื่อคืนแล้ว อย่าว่าแต่อารมณ์ของตุลแปรปรวนเลยอารมณ์ของฉันก็ไม่ต่างกัน “ตื่นได้แล้วตุล” วันนี้ไม่มีเรียนเขาจึงตื่นสายได้“อือ ขอดูดนมต่ออีกหน่อย” ดูเขาสิ ถ้าไม่ใช่แฟนฉันคงคิดว่าเป็นลูกแน่ๆ “วันนี้เราต้องไปลองชุดแต่งงานนะ”“ไปไม่ไหว เพลีย เหนื่อย อ้วกทั้งคืน” เขาบอกแล้วก็ปรือตาขึ้นมามอง ใบหน้าคมคายที่หล่อเหลาตอนนี้โทรมลงอย่างเห็นได้ชัด “อ้วกด้วยหรอเมื่อคืน” “อือ” วงแขนแกร่งกำชับกอดอย่างออดอ้อน “โทรนัดให้ร้านเอาชุดมาให้ลองที่บ้านดีไหม”“แบบนั้นก็ได้” ฉันพยักหน้าตอบ ให้ร้านเอาชุดมาให้ลองที่บ้านก็ดีเหมือนกัน สะดวกสบาย “แบบนี้จะเป็นเจ้าบ่าวไหวหรอ เลื่อนงานแต่งของเราออกไปก่อนจนกว่าตุลจะดีขึ้น……”“ไม่เลื่อน!!” ตุลตอบกลับมาเสียงแข็งทั้งที่ตอนแรกยังใช้เสียงออดอ้อนอยู่เลย “ไม่เห็นต้องเสียงแข็งใส่กันเลยนี่ พี่ตกใจนะ” “อือขอโทษครับ ก็ไม่อยากให้เลื่อนไงไม่ได้ตั้งใจขึ้นเสียงใส่สักหน่อย” “ลุกขึ้นไปอาบน้ำเลย เดี๋ยวพี่จะโทรบอกให้ร้านเสื้อเอาชุด
ตรวจคำผิดย้อนหลัง————ในเมื่อมันเป็นความต้องการของแฟนเด็กฉันก็ไม่สามารถขัดได้ และในตอนนี้ตุลกับฉันกำลังนอนบนเตียง โดยมีอุ้งปากร้อนๆ คาบเม็ดไตบนหน้าอกเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แถมยังใช้มือนวดคลึงหน้าอกอีกข้างไปด้วย “อื้อ~ อย่าดูดแรงสิตุล” ฉันร้องอุทานเบาๆ เหมือนโดนแกล้งไม่ให้หลับ พอเคลิ้มจะหลับตุลก็ดูดแรงๆ จนต้องสะดุ้ง “ดูดเบาๆ เองนะ” เขายังมีหน้ามาบอกด้วยใบหน้าทะเล้น อยากจะดีดหูสักที “ไม่ต้องเลย พี่เจ็บไปหมดแล้ว” “จะไปลองชุดเมื่อไร ใกล้จะถึงวันแต่งแล้วนะทำไมเจ้าสาวถึงยังทำตัวชิวอยู่อีก” ตุลพูดค้อน อีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงวันที่เราสองคนได้แต่งงานกันแล้วแต่ฉันยังไม่ได้ไปลองชุด เหตุผลก็เพราะอาการที่ไม่ค่อยจะสู้ดีของเขานั่นแหละ “ถ้าอย่างนั้นเราไปพรุ่งนี้เลยก็ได้” ตุลยิ้มให้กับคำตอบของฉัน เหมือนเขารอให้พํดแบบนี้มานานแล้ว “อยากเห็นเมียใส่ชุดเจ้าสาวจะแย่ ต้องเป็นเจ้าสาวที่สุดที่สุดในโลกแน่ๆ”“พูดเวอร์เกินไปแล้วตุล” “พูดเรื่องจริง” เขาทำเมินกับคำตอบแล้วก็วับเม็ดไตบนหน้าอกของฉันไปดูดอีกครั้ง “สัญญากับพี่นะว่าจะไม่ดึงมือที่สามเข้ามาในชีวิตคู่หลังแต่งงานของเรา ถ้าพี่ต้องเสียใจเพราะตุลอีกครั้ง….”“