คืนนั้นมี่ฮวากลับเข้ามานอนในห้องของซีจงจวิน ความเหนื่อยล้าทำให้นางผล็อยหลับไปไม่รู้ตัวเช่นกัน
และเดินทางเข้าสู่ห้วงฝัน..
ใต้ท้องฟ้าสีหม่นมัวที่ฝนปรอยลงมา รอบข้างเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีดูไม่คุ้นเคย ตัวนางยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้
ข้างกาย..เป็นชายผู้หนึ่ง
ไม่รู้เหตุใดนางถึงเห็นใบหน้าเขาไม่ชัด..
และเหมือนเขาจะพูดอะไรสักอย่าง แต่นางฟังไม่ถนัดเลย..
"ท่านเป็นใคร"
คำถามนั้นได้รับการตอบกลับ แต่นางฟังไม่ออก ยามชายผู้นั้นยื่นมือมาลูบหัว น่าแปลกที่มี่ฮวาไม่ขยับหนี
แม้ในความฝันจะไม่ได้สัมผัสกันจริงๆ แต่นางกลับได้รับไออุ่นท่ามกลางสายฝนมาเต็มหัวใจ
"ข้าคิดถึงท่าน"
ไม่รู้ว่าพูดออกไปทำไม แต่ความรู้สึกด้านในมันบอกมาเช่นนั้น
ชายผู้นั้นโอบกอดนาง เนิ่นนานเหลือเกิน..
และนางเองก็รู้สึกเหมือนอยากให้มันเป็นเช่นนี้ตลอดไป..
...
เสียงวิหคขับขาน บอกเวลาที่มันตื่นและโผบินออกจากรัง
เปลือกตาหนักอึ้งเปิดขึ้นช้าๆ กายของซีจงจวินล้าจนขยับแทบไม่ไหว แต่จำต้องฝืนลุกเพราะห่วงเตรียมสำรับให้ภรรยา
เมื่อลุกขึ้นนั่งก็พบว่าบนตัวมีผ้าห่มหนาคลุมอยู่ ทั้งที่เมื่อคืนจำได้ว่าทำแผลเสร็จก็นอนไปบนพื้นเย็นๆทั้งอย่างนั้น
...พลันรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าดุดันสีแดงอ่อน...
ผ้าห่มผืนนี้ คิดว่าภรรยาคงเป็นคนเอามากางห่มให้ตอนเขาหลับไปแน่
หัวใจซีจงจวินสั่นไหว รู้สึกร่างกายเบาหวิว กำลังวังชาที่หายไปกลับคืนมาถึงแปดส่วนเพียงเพราะผ้าผืนเดียว
ซีจงจวินรีบลุกเตรียมอาหาร เติมน้ำใส่อ่างอาบ วิ่งวุ่นทำความสะอาดบ้านที่สภาพเละเทะจากการต่อสู้เมื่อคืน สุดท้ายจึงไปซ่อมแซมห้องของมี่ฮวา
ตะวันกำลังจะขึ้น เทพอสูรทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้วรีบไปทำงาน ตามที่ภรรยาสั่งไว้เมื่อวาน
ฝ่าเท้าใหญ่หยุดชะงักตอนเดินผ่านหน้าห้องนอนตัวเอง
ก่อนไป อยากเห็นหน้านางเหลือเกิน...
ซีจงจวินไม่อาจยั้งมือตัวเองได้ ค่อยๆเลื่อนแง้มบานประตูเบาที่สุด หวังเพียงได้เห็นหน้าภรรยาสักเสี้ยวก็ยังดี
ช่างน่าผิดหวัง นอกจากนางยังไม่ตื่นแล้วยังปลดม่านคลุมเตียงปิดสนิทไม่ให้เห็นแม้แต่เงา
แม้จะเสียดายเล็กน้อย แต่เห็นมี่ฮวานอนหลับสบายเขาก็พอใจแล้ว
ซีจงจวินออกไปทำงานแต่เช้าดังเช่นที่ควรจะเป็น...
คล้อยหลังไปมี่ฮวาสะดุ้งตื่น ลุกขึ้นนั่งบนเตียงหลังกว้างในห้องที่ไม่ใช่ของนาง
บนใบหน้ามีร่องรอยความโศกเศร้าเกิดขึ้น คราบน้ำตาที่สองข้างแก้มยังไม่เหือดแห้งไป
ร้องไห้...ทำไม?
มี่ฮวาไม่เข้าใจตัวเอง นางจำความฝันนั้นได้เลือนราง แต่รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งในใจขาดหายไป
บางครั้ง.. หลังสายฝนพรำยามค่ำคืน มี่ฮวาจะฝันประหลาดถึงคนผู้หนึ่ง
ในความฝันนางมีความสุขเสียมากมาย แต่เมื่อฟ้าสาง.. นางเจ็บหัวใจราวจะฉีกเสียให้ได้
เขาเป็นใคร นางไม่รู้...
ให้นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก...
แต่การฝันถึงเขานานๆครั้ง ทำให้รู้สึกเหมือนในชีวิตมีบางอย่างขาดหาย เหมือนนางต้องการอะไรบางอย่างที่ไม่รู้ว่าคืออะไร
เหมือนกับที่ซีจงจวินคิดถึง..แต่ไม่รู้ว่าคิดถึงอะไร...
มี่ฮวาก็คิดถึงเช่นกัน...
...
หน้าบันไดเขาสวรรค์ เมื่อไปถึงตงหลิงจวินก็ถึงกับอ้าปากค้างคล้ายเห็นคนตายต่อหน้า
"แขนเจ้า!!?"
ได้ยินคำทัก ซีจงจงจวินยิ้มตอบบางๆ "เมื่อคืนมีวิญญาณบุกเข้าบ้านข้าขอรับ"
"มันบุกบ้านเจ้าได้อย่างไร หินอาคมเสื่อมรึ? แล้วเหตุใดเจ้าถึงให้มันเอาแขนไปได้?" ตงหลิงจวินออกอาการตื่นตระหนก ถามเสียจนเลือกตอบไม่ถูก
"ข้าประมาทเกินไปขอรับ แขนขาดเท่านี้ถือว่ายังเบา"
สายตาคนพูดเรียบนิ่ง แขนแค่ข้างเดียวซีจงจวินไม่สนใจหรอก เพราะหากภรรยาเขาเป็นอะไรไปคงรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น
"ปกติวิญญาณกลัวเจ้าจะตาย เห็นแล้วพากันเผ่นหนีป่าราบ กลัวจะตายซ้ำอีกหลายรอบ"
"วิญญาณตนนั้นกินสัตว์อสูรมาขอรับ ถึงมีฤทธิ์มากเช่นนั้น เป็นความผิดข้าที่ปล่อยมันเร่ร่อนอยู่บนแผ่นดินใหญ่ตั้งนานไม่รีบจัดการ"
"ใช่ที่ไหนกัน เจ้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่พวกมันจะหลุดออกมา ข้ายังคิดอยู่ว่าเจ้าหาพวกมันเจอเร็วทุกครั้งเช่นนี้ นับว่าเชี่ยวชาญการจับวิญญาณกว่านายนิรยบาลอีก"
"พี่ตงหลิงกล่าวหนักไปแล้ว"
เทพอสูรเช่นพวกเขาจะทำงานได้ดีกว่าก็ไม่แปลก เพราะร่างกายมีประสาทสัมผัสเหนือชั้นกว่าเทพและมาร รวมกับการฝึกวิทยายุทธมานาน ทำงานมาทั้งชีวิต กำจัดวิญญาณเท่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
แต่ก็น่าแปลกที่เมื่อวานอยู่ๆซีจงจวินเกิดหมดแรงไปดื้อๆไม่มีสาเหตุ..
ซีจงจวินไม่เข้าใจตัวเอง น้ำฝนไม่กี่หยดทำให้เขาอ่อนล้าได้ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ทั้งที่เมื่อก่อนลงไปสู้กับปีศาจใต้ทะเลกลางคลื่นพายุยังไม่เห็นเป็นอะไร
"แล้วเมียเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"
"นางปลอดภัยดีขอรับ ข้าช่วยไว้ทันและกำจัดวิญญาณร้ายในห้องนางเลย"
คำนั้นทำให้ตงหลิงจวินคิ้วขมวด หันมองด้วยสายตาแปลกใจกว่าเดิม
"เจ้าจัดการต่อหน้านางรึ!?"
"ขอรับ"
"แล้วนางว่าอย่างไร"
"นางเงียบไป ไม่พูดกับข้าขอรับ"
ว่าจบ คนฟังก็เอามือลูบหน้ากุมขมับ นึกภาพออกทันที
เขารู้ว่าซีจงจวินเป็นคนเช่นไร แม้ปกติเห็นท่าทางนิ่งเฉยตลอดเวลา แต่เมื่อยามต้องสู้เขาจะกลายเป็นฆาตกรอำมหิตในร่างเทพทันที
นั่นเพราะซีจงจวินทำอะไรไปตามสัญชาตญาณ ชีวิตครั้งก่อนเจอแต่เรื่องโหดร้ายเสียจนชินชา นอกจากต้องพยายามเอาชีวิตรอดให้ได้ ไม่มีสิ่งใดที่ต้องทำอีก
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เทพอสูรตนนี้.. ติดนิสัยทารุณเหยื่อให้ตายอย่างทรมานที่สุด
แล้วยิ่งเขารักหลงภรรยาถึงเพียงนั้น ไม่อยากคิดสภาพวิญญาณตนนั้นเลยจริงๆ ...
"กลับบ้านเย็นนี้เจ้าต้องเอาใจภรรยาให้มากนะ"
"ข้าทำแบบนั้นทุกวันขอรับ"
"ข้าหมายถึงทำให้มากขึ้นกว่าทุกวันน่ะ นางจะได้ไม่กลัวเจ้า เห็นเจ้าเป็นสามีที่ประเสริฐอะไรทำนองนั้น"
"เข้าใจแล้วขอรับ" ซีจงจวินตอบไปแบบทื่อๆ เขาไม่มั่นใจว่ามี่ฮวาจะมองเช่นไร
สามีสุดประเสริฐเป็นเช่นไรเขาไม่รู้หรอก..
แต่หากให้เป็นสามีที่รักมั่นซื่อสัตย์ต่อภรรยาผู้เดียวไม่เปลี่ยนแปลงนั้นเขาเป็นได้แน่
พลบค่ำ..ซีจงจวินรีบกลับบ้าน วิ่งเข้าครัวทำกับข้าวเหมือนเดิมเสร็จแล้วก็หลบมานั่งกินที่มุมห้อง
ด้วยเกรงว่าหากภรรยาเห็นแผลแล้วจะกินข้าวไม่ลงจึงนั่งหันเอาฝั่งที่แขนขาดเข้ากำแพง เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ซีจงจวินนั่งหันหลังให้มี่ฮวา
นางลอบมองเขาเป็นระยะๆ แม้จะดูกินข้าวได้คล่องปาก แต่คงยังเจ็บอยู่ไม่น้อยเลย
เมื่อเช้าตอนตื่นมาบ้านก็กลับมาสะอาด ห้องนอนนางมีเครื่องเรือนชิ้นใหม่วางตั้งอยู่ ข้าวของถูกย้ายมาใส่เรียบร้อย สำรับเช้าส่งกลิ่นหอม อ่างอาบน้ำมีควันพวยพุ่งอ่อนๆ
แต่กลับไม่เห็นตัวคนทำ...
มี่ฮวาจึงนึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อคืนเป็นนางเองที่บอกเขาให้ออกไปทำงานได้เลยหลังเตรียมทุกอย่างไว้ให้
อุตส่าห์ช่วยชีวิต แล้วยังไม่บ่นสักคำเช่นนี้ นางจะกล้าใจร้ายกับเขาเท่าเดิมได้อย่างไร
"เมื่อคืน.. ขอบคุณที่ช่วยข้า"
เสียงหวานเอ่ยคำแรกของวัน นั่นทำให้ใบหูยาวคล้ายหูวัวของซีจงจวินกระดิกนิดๆ
เป็นครั้งแรกที่นางเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเช่นนี้
เทพอสูรหันกลับมามองช้าๆ สตรีที่นั่งอยู่ตรงนั้นจ้องกลับเช่นกัน ไม่นานซีจงจวินก็ต้องหลุบตาต่ำ ด้วยเกรงนางจะเคืองเขาอีก
"สามี..มีหน้าที่ปกป้องภรรยา"
ยามเอ่ยคำนั้น ซีจงจวินใจเต้นโลหิตสูบฉีดแรง ใบหูสีแดงอ่อนจู่ๆก็เริ่มเป็นสีแดงเข้มขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ชอบ..คำว่าเขาเป็นสามี นางเป็นภรรยา
กลับกลัน มี่ฮวามองซีจงจวินสีหน้าเรียบนิ่งดังเดิม ตอนแรกคิดว่าจะเริ่มพูดดีด้วย แต่ตอนนี้กลับรู้สึกไม่พอใจตงิดๆ
สามีภรรยาหรือ.. นางเกลียดคำนี้เสียจริง
เพราะไม่อยากยอมรับว่าตนตกเป็นของเทพอสูรอัปลักษณ์ จิตใจหยาบช้า
"เจ้าอ้างเรื่องความสัมพันธ์เช่นนี้ หวังสิ่งใดจากข้า"
ในเมื่อเขาอ้างความเป็นสามี นางก็ควรทำตัวเป็นภรรยาแสนดีด้วยอย่างนั้นหรือ!?
ขณะที่มี่ฮวาเข้าใจว่าเขาอ้างสิทธิ์ ซีจงจวินฟังทันแค่ประโยคหลังกลับเข้าใจไปคนละทาง
เขาคิดว่านางยินยอมให้เรียกร้องความต้องการได้หนึ่งอย่าง
นางยอมใจดีขึ้นมาบ้างแล้วหรือ...
นางใจอ่อนแล้วใช่หรือไม่...
"เช่นนั้น.. ขอข้าพูดมากกว่าวันละยี่สิบคำได้หรือไม่"
ริมฝีปากอิ่มยิ้มเหยียดหลังฟังจบ "แล้วถ้าข้าไม่ให้ล่ะ"
มี่ฮวาจะลองดูว่าซีจงจวินจะทำอย่างไรต่อหากนางไม่ยอมตามใจ และเดาว่าเขาคงจะไม่พอใจอยู่ลึกๆแน่
แต่การยั่วให้เกิดโทสะนั้นเปล่าประโยชน์ เพราะซีจงจวินไม่โกรธ ไม่ว่าอะไรเลยด้วย
ถ้านางไม่ให้ ก็พูดต่อไม่ได้เพราะวันนี้เขาพูดเกินยี่สิบคำไปแล้ว...
ชายหนุ่มทำได้แค่ตักข้าวเข้าปากเคี้ยว หมดแล้วก็ลุกเดินไปเตรียมน้ำให้อาบเท่านั้นเอง
ค่ำวันหนึ่งในวสันตฤดู มี่ฮวามายืนรอสามีหน้าประตูบ้าน เห็นเขากลับช้ากว่าปกติก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาราวสามก้านธูปผ่านไปเขาก็ยังไม่มาทำเอานางร้อนใจไปหมด พวกลูกๆหิวจนทนไม่ไหวเลยพากันกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว เหลือแต่นางที่ยังรอกินพร้อมสามีทำไมถึงชักช้านัก..เพียงหลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏเงาร่างดำๆบนท้องฟ้าตรงหลังบ้าน ซีจงจวินเห็นมี่ฮวามองออกไปยังทางที่เขากลับทุกวันก็แปลกใจ"มี่ฮวา ข้ากลับมาแล้ว"ได้ยินเสียงเรียกนางจึงหันหลังเดินมาหาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง"ไปไหนมา""ข้าไปช่วยสัตว์อสูรอพยพอยู่เลยกลับช้า"ได้ยินคำเขาบอก นางหรี่ตามองเล็กน้อยคล้ายไม่ค่อยพอใจนัก"สัตว์อสูรที่ไหน""ตรงทางไปเขาสวรรค์นั่นแหละ พอดีข้าผ่านไปเห็นว่านางกำลังลำบากกับการย้ายถิ่นเลยช่วยไว้"เขาชี้แจงด้วยสีหน้างง ขณะอีกคนสะดุดใจในประโยคเมื่อครู่ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยอมรามือจากการเค้นถาม"เช่นนั้นก็แล้วไป วันนี้พวกลูกๆหิวจนรอเราไม่ไหว แต่ข้ายังไม่ได้กินข้าวเพราะรอท่าน" นางเข้ามาควงแขนเขาไว้ เอาใบหน้าถูไถออดอ้อนทำเอาสามีต้องอมยิ้มการทำแบบนั้นเขาคิดว่านางตั้งใจทำตัวน่ารัก แต่กลับกันนางกำลังแอบดมกลิ่นที่ติดตัวเขามาต่างหากในใจยังรู
เจ็ดร้อยปีผ่านไป..ซวนเฟยกับกับชิงเหลียงอายุพันสามร้อยปีแล้ว ร่างกายกลายเป็นหนุ่มน้อยไม่ใช่เด็กตัวกะเปี๊ยกอีกต่อไปทั้งคู่ยังคงตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในเรือนมีนายน้อยและคุณหนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคนจนทั้งสองกลายสภาพจากคนรับใช้เป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยสมบูรณ์"ถูตรงนั้นให้ดีๆล่ะ"ซวนเฟยสั่งแมวป่าน้อยที่มักจะถูพื้นบ้านด้วยความเร็วเกินไปจนไม่แน่ใจว่าสะอาดจริงหรือไม่"เจ้าค่าาา ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านหัวหน้า" นางตอบกลับมาเสียงประชดเหมือนเคย"เจ้าด้วย บนเพดานยังมีฝุ่นอยู่เลย" คราวนี้หันไปว่าเจ้ากวางผา"ข้าจะปีนขึ้นเช็ดเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" อสูรกวางผาตอบก่อนวิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นอย่างเร็วเพราะเจ้านายทั้งสองขยันมีลูกกันมาก เมื่อคนในบ้านเพิ่มงานก็เพิ่มตาม นายท่านจึงไปเสาะหาอสูรรับใช้ใหม่มาทำงานบ้าน ส่วนซวนเฟยกับชิงเหลียงมีหน้าที่อย่างเดียวคือเฝ้าจับตาดูลูกๆให้เจ้าวิหควายุเดินตรวจความเรียบร้อยตามส่วนต่างๆไปเรื่อย นายท่านของมันได้ขยายเรือนออกไปกว้างกว่าเดิมหลายส่วน ยิ่งทำความดีความชอบปกป้องยุทธภพด้วยแล้ว ยิ่งได้รับประทานรางวัลอย่างงาม ที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ทำให้ต้องใช้เวลาเดินตรวจตรานานขึ้น"ซวนเฟย! ซ
"ท่า..ท่านป้อ!"เด็กน้อยเกอซือชี้นิ้วไปที่บิดา เอ่ยเรียกแล้วยิ้มแป้น แก้มยุ้ยๆขึ้นสีระเรื่อช่างน่าเอ็นดูคนถูกเรียกตาเป็นประกาย อุ้มลูกขึ้นมาไว้ในมืออดใจไม่ได้ต้องจูบแก้มหนักๆสักหลายที"เก่งมากลูกพ่อ"ซีจงจวินดูจะภูมิใจเหลือเกิน มี่ฮวาที่นั่งปักผ้าอยู่ไม่ไกลมองพ่อลูกเล่นกันก็พลอยยิ้มตามไปด้วย"ท่าน..แม่!""จ้า เก่งมากเสี่ยวเกอ"นางยอมวางมือจากเข็มปักผ้าแล้วมาเล่นกับลูกบ้าง เกอซือเริ่มเติบโต ช่างน่ารักน่าเอ็นดู"ท่านตา ท่านยาย ท่านป้า"เกอซือเหมือนพยายามท่องคำที่ถูกสอนมา เสร็จแล้วก็หัวเราะตบมือเพราะคนเหล่านั้นใจดีและรักเกอซือเช่นกันตั้งแต่มี่ฮวาตั้งท้อง พ่อแม่นางมาเที่ยวหาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคลอดเกอซือออกมาตายายก็ดูจะเห่อหลานกันมาก ขยันมาบ้านนี้จนเด็กน้อยจำได้"พ่อจ๋า วันไหนว่างๆเราพาลูกไปเยี่ยมตายายดีหรือไม่"เดี๋ยวนี้สรรพนามที่ใช้เรียกสามีเปลี่ยนไป เพราะทั้งคู่อยากให้ลูกจำได้และเรียกตาม"เช่นนั้นข้าจะทำเรื่องลางานสักสองวัน"ภรรยาว่าอย่างไรเขาไม่เคยขัดอยู่แล้ว ในเมื่อนางอยากพาลูกออกไปเที่ยวเล่นบ้างเขาก็ตามใจดีเหมือนกัน นานๆทีจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นางกับลูกจะได้ไม่เบื่อความอุดอู้ใน
สิบปีต่อจากนั้นมี่ฮวาตั้งครรภ์ครั้งแรก จากที่ได้รับการดูแลอย่างดี ตอนนี้สามีนางแทบไม่ให้ลุกเดินขยับไปไหนเลยด้วยซ้ำซวนเฟยกับชิงเหลียงเองก็ถูกสั่งให้ช่วยกันดูแลนางเป็นพิเศษกระทั่งลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยเสียงร้องอุแว้ดังลั่นเรือน เซียนหมอสตรีมือฉมังจากแดนเทพที่ซีจงจวินไปเชิญเดินออกมาหาพ่อเด็กด้วยสีหน้ายินดี"เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ"นางบอกแล้วยื่นห่อผ้าให้ซีจงจวินอุ้ม เทพอสูรมองหน้าเด็กทารกในมือแล้วแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เด็กคนนี้มีร่างกายเป็นเทพตัวขาวผ่องอมชมพูน่าทะนุถนอม แต่มีลักษณะคล้ายพ่อตรงที่บนหน้าผากมีเขาเล็กๆงอกออกมาสองคู่ ซึ่งมันจะค่อยๆขยายไปตามกาลเวลาซีจงจวินก้มลงหอมแก้มลูกเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาภรรยาในห้องซวนเฟยมีหน้าที่ไปส่งท่านเซียนหมอ ชิงเหลียงช่วยเช็ดตัวให้มี่ฮวา ซีจงจวินนั่งลงข้างเตียงซับเหงื่อให้เล็กน้อยก่อนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากนาง"ลูกเรา"เขายื่นเด็กน้อยให้นาง มี่ฮวารับเด็กที่ร้องไห้จ้าตั้งแต่เมื่อครู่มาไว้ในอ้อมแขน โอ๋กล่อมด้วยความรักใคร่"ตั้งชื่อว่าอะไรดีเจ้าคะ" นางถาม สามีใช้เวลาคิดครู่สั้นๆก่อนตอบเสียงนุ่มทุ้ม"เกอซือ"ได้ยินชื่อนั้นนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มให้
ผ่านไปกี่คืนวันแล้วไม่รู้ตั้งแต่ซีจงจวินได้ร่างคืนมา เขาได้เป็นเทพเฝ้าประตูสวรรค์ดังเดิม ทุกวันทำงานตามปกติคล้ายเหตุการณ์เมื่อสี่สิบกว่าปี่ก่อนไม่เคยเกิดขึ้น"ข้ากลับมาแล้ว"ตะวันพึ่งลาลับขอบฟ้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา ร่างเทพอสูรบึกบึนก็มาโผล่หน้าประตูเรียบร้อย น้ำเสียงของซีจงจวินดูร่าเริงมาก ผิดกับตอนเช้าก่อนออกไปทำงานที่จะอิดออดถ่วงเวลาอยู่นั่น"สำรับพร้อมแล้ว"ภรรยาผู้น่ารักเดินออกมาจากห้องอาหาร เนื้อตัวเป็นกลิ่นของคาวหวานคลุ้งไปหมด แต่สามีก็ยังวิ่งเข้ามาสวมกอดหอมฟัดนางเสียจนแทบล้มพับ"กินข้าวอาบน้ำก่อนซีจงจวิน"มี่ฮวาต้องรีบปราม ไม่เช่นนั้นนางจะไม่อาจหลุดจากอุ้งมือพันธนาการของสามีไปได้นับวันซีจงจวินยิ่งทำตัวเหมือนเป็นเด็กเข้าไปทุกที เขาชอบอ้อน ชอบเอาใจ จนบางครั้งมี่ฮวาก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนเขารู้ถึงตัวตนด้านนี้บ้างหรือเปล่าซีจงจวินยอมผละออกแต่โดยดี หลังจากถอดชุดเกราะออกแล้วก็มานั่งกินข้าว ไปอาบน้ำ เตรียมเข้านอนพร้อมภรรยาสุดที่รักแต่จะเรียกว่าเข้านอนเลยก็ไม่ได้เพราะก่อนหน้านั้นต้องมีกิจกรรมสำหรับคู่รักเสียก่อนซีจงจวินถึงจะยอมนอน"มี่ฮวา"สัมผัสจากปลายนิ้วสะกิดหลังเบาๆให้นางหันมาห
เป็นจูบที่หวานที่สุดในชีวิตซีจงจวิน พอนางขยับเปิดปากเขาก็สอดลิ้นเข้าไปชิมรสชาติด้านใน กระหวัดเกี่ยวอย่างโหยหาเมื่อตักตวงจนมากพอแล้วมี่ฮวาผลักเขาออกเพื่อพักหายใจเล็กน้อย ดวงตายังสบประสานกันอย่างหวานฉ่ำ"เชื่อหรือยังว่าข้ารักเทพอสูรซีจงจวิน ไม่ใช่จงซีจ้านผู้นั้น"มี่ฮวารู้ว่าที่ซีจงจวินขอให้มหาเทพใส่จิตเขาลงไปในร่างของจงซีจ้านเพราะอะไรคนตอบพยักหน้าเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองนางอย่างเด็กน้อยที่กลัวจะถูกว่าเมื่อทำผิด"ข้า.. เห็นว่าเจ้ายอมนอนกับข้าในร่างจงซีจ้าน เลยคิดว่าหากอยู่ในร่างนั้นเจ้าอาจจะชอบมากกว่า"ซีจงจวินไม่มั่นใจในตัวเองเอามากๆเลยสินะ ถึงได้มีความคิดแบบนี้มี่ฮวาระบายลมหายใจยาว กระเถิบขึ้นไปนั่งบนตักสวมกอดเขาไว้แน่นๆ ซุกหน้ากับแผ่นอกอีกรอบ"ข้าไม่สนว่าจะอยู่ในร่างไหน ขอแค่เป็นท่านก็พอ""เจ้าไม่รังเกียจข้าแล้วใช่หรือไม่""ไม่เลย ข้ากลับชอบด้วยซ้ำเวลาที่ท่านกอดข้าแบบนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย"นางชอบมือทุกข้างที่มอบความรู้สึกหลากหลายให้ มันมีความรักเจืออยู่ในทุกการกระทำร่างกายทั้งคู่ที่แนบชิดบดเบียดกันสร้างความร้อนขึ้นมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กอดจากนางผู้เป็นที่รักเริ่มไม่เพียงพอเ