Share

บทที่ 21 二十一

Author: PinkyPaw
last update Huling Na-update: 2024-12-17 11:06:53

คืนวันผันเปลี่ยน มี่ฮวากับซีจงจวินอาศัยอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยา

แต่แก่นแท้ในความสัมพันธ์กลับไม่พัฒนาไปไหนเลย..

มีเพียงเทพอสูรที่จงรักชนิดยอมตายถวายหัว ไม่รู้เพราะเหตุนั้นหรือเปล่ามี่ฮวาที่ถูกตามใจตลอดถึงเคยตัวเช่นนี้

หญิงสาวนั่งเล่นอยู่ในห้องชมสวนเหมือนอย่างเคย กำลังปักผ้าเช็ดหน้าลายดอกโบตั๋นสีแดงสดใส

ปลายยามอู่ ผ้าเช็ดหน้าแสนสวยก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย

"นายหญิงขอรับ มีคนมาขอพบขอรับ"

เสียงของซวนเฟยเรียกสายตาจากผู้เป็นนายให้หันไปมองอย่างสงสัย

"ใครหรือ"

"เขาบอกว่าชื่ออวี้เวินฉิงขอรับ"

ได้ยินชื่อนั้น ดวงตากลมเบิกกว้างทันที

ท่านอวี้เวินฉิงมาได้อย่างไรกัน?

"ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้" มี่ฮวารีบลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้า เดินออกไปรับแขกยังหน้าเรือน

ที่หน้าประตูมีร่างชายผู้หนึ่งยืนตัวตรงสง่า สายตาจ้องมองมาที่นางสื่อความคิดถึงเสียมากมายจนไม่อาจปิดกั้น

"มี่ฮวา"

บุรุษรูปงามที่แสนคุ้นเคยเรียกชื่อนางอย่างยินดี รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าดูราวกับเขามีความสุขเหลือเกิน

"คารวะท่านอวี้เวินฉิง" มี่ฮวาเอ่ย ทำความเคารพพร้อมส่งยิ้มให้เช่นกัน

อวี้เวินฉิงน้ำตารื้นเมื่อมองสาวงามตรงหน้า ก่อนเดินเข้ามาจับมือนุ่มกุมไว้

"มี่ฮวา..ข้า.. ข้าคิดถึงเจ้านัก"

ท่าทางของเขาทำให้นางนึกขำ ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปีก็เป็นถึงขนาดนี้เชียวหรือ

"ข้าก็คิดถึงท่านเช่นกัน ท่านไปอยู่โลกมนุษย์เป็นอย่างไร สบายดีหรือไม่"

"ข้าสบายดี จะมีทรมานมากหน่อยก็ตอนคิดถึงเจ้า"

ตั้งแต่พบหน้ากันอวี้เวินฉิงไม่อาจนับได้แล้วว่าเขาพูดคำว่าคิดถึงไปกี่คำ เพราะในใจเขาเฝ้าอยากแต่จะพบหน้ามี่ฮวา

"อย่าทรมานเลยเจ้าค่ะ วันนี้ก็ได้พบกันแล้วนี่"

รอยยิ้มของนางบำรุงจิตใจเขาได้ดีนัก แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ทำให้เขาดั้นด้นแอบละเมิดคำสั่งมหาเทพขึ้นมายังแผ่นดินใหญ่นี้ สีหน้าก็ดูเศร้าหมองลง

"มี่ฮวา ข้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วนะ"

อวี้เวินฉิงคุกเข่าลงแล้วเงยหน้ามองหญิงสาวที่ยังยืนอึ้งอยู่

"ท่านอวี้เวินฉิง.."

"อภัยให้ข้าด้วยมี่ฮวา ข้าไม่นึกเลยว่าเพราะเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนจะทำให้เจ้าต้องทนแบกรับภาระมากมายเช่นนี้"

ดวงตาสีฟ้าใสมองนางละห้อย แสดงถึงความเสียใจอย่างสุดแสน

เพราะเขา.. มี่ฮวาถึงต้องทนกับคำครหา

เพราะเขา.. ชุนหรงเซินถึงต้องดิ้นรนหาทางออกให้ลูกสาว

เขาเองที่เป็นต้นเหตุให้นางที่รักต้องมาเจอชะตากรรมโหดร้าย มีสามีเป็นเทพอสูรป่าเถื่อน

"ข้าทำให้เจ้าต้องเจอเรื่องโหดร้าย ข้าสมควรตายนัก"

"ท่านอวี้เวินฉิงลุกขึ้นก่อนเถิด"

มี่ฮวาเข้าไปจับที่ต้นแขนอีกฝ่ายพยุงขึ้น แต่อวี้เวินฉิงยังไม่ยอม คุกเข่าแล้วว่าต่อ

"เพราะข้า เจ้าถึงต้องมาอยู่ในที่แบบนี้ ข้าทำให้เจ้าต้องมาแต่งให้ผู้ใดก็ไม่รู้ ทำให้เจ้าทุกข์ใจมากมายมหาศาล มีร้อยหัวก็ไม่อาจตัดชดใช้ได้"

"ท่านอวี้เวินฉิงใจเย็นๆก่อนเถิด ข้าไม่เคยถือโทษหรือโกรธท่านเลย"

มี่ฮวาไม่เคยโกรธอวี้เวินฉิงจริงๆ เพราะวันนั้นบนเขาสวรรค์หากไม่ได้เขาเข้ามาปกป้องก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวนางจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ดวงตาทั้งสองสบประสาน ฝ่ายอวี้เวินฉิงเต็มไปด้วยความเสน่หา

"หากข้าไม่ถูกส่งไปที่โลกมนุษย์ รับรองว่าเจ้าจะไม่ต้องทนทุกข์อยู่เช่นนี้"

คำของเขามี่ฮวาเข้าใจดี ด้วยรู้ว่าอวี้เวินฉิงคิดกับตนแบบไหน

ถึงนางรู้ตัวว่ามองเขาเป็นเสมือนพี่ชายคนหนึ่ง แต่ก็ซึ้งน้ำใจเขานัก

บุรุษผู้นี้พร้อมที่จะปกป้องนางเสมอ ไม่ว่าเจอสิ่งใดก็พร้อมจะฟันฝ่า

ต่อให้ไม่ได้ปักใจรักมั่น แต่หากเป็นอวี้เวินฉิงที่นางแต่งให้ อย่างน้อยก็คงมีความสุขกว่านี้

"ขอบคุณท่านอวี้เวินฉิงที่เป็นห่วงข้า ลุกขึ้นก่อนเถิด เราจะได้ไปนั่งดื่มน้ำชากินขนมกันด้านใน"

ชายหนุ่มได้ยินคำเชิญชวนก็ยอมลุก เดินตามไปยังห้องชมสวน ชิงเหลียงกับซวนเฟยถูกสั่งให้ยกน้ำชาและขนมมาบริการ

ชากานั้นหอมกรุ่น ให้รสหวานจางๆที่ปลายลิ้น เข้าคู่กันเป็นอย่างดีกับของว่างยามบ่ายที่เป็นขนมเนื้อนุ่มทำจากแป้งและถั่ว

"น้ำชานี้สีสันสดใส กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ขนมเองก็เนื้อละมุน ช่างเหมาะสมกันอย่างยิ่ง"

อวี้เวินฉิงกัดเข้าไปแล้วเอ่ยชมไม่ขาดปาก คิดว่ามี่ฮวาเป็นคนทำเพราะเขารู้ว่ารสฝีมือนางดีเลิศขนาดไหน

..หารู้ไม่ว่าสิ่งที่นำเข้าปากไปนั้น ล้วนมาจากฝีมือของเทพอสูรเจ้าของเรือน หาใช่หญิงสาวที่นั่งอมยิ้มส่งให้

ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่มี่ฮวาไม่เคยคิดจะเข้าครัวหรือทำงานบ้านเอาใจสามี กลับกันคือเป็นสามีที่ต้องคอยเอาใจ

ชีวิตประจำวันของนางตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก็ไม่ค่อยมีอะไร นั่งปักผ้า อ่านหนังสือ วาดภาพเล่นไปเท่านั้น

"ท่านอยู่ที่โลกมนุษย์ได้กินของอร่อยบ้างหรือไม่"

"ได้กินอยู่บ้างแต่ไม่บ่อยนัก เพราะงานของข้าทำให้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากหลายครั้ง"

พูดแล้วก็ถอนหายใจ นึกถึงผืนพิภพที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายนั่นแล้วไม่อยากจะกลับลงไปเลย

"แต่มันคงเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เจ้าต้องแบกรับ มี่ฮวา"

ชายหนุ่มทำหน้าสลดลงไปอีก ก่อนจะวางขนมในมือ ล้วงหยิบของบางสิ่งออกมาจากอกเสื้อ

"แม้ข้าจะถูกสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นมาที่แดนเทพแต่หากมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ ได้โปรดใช้สิ่งนี้นะ"

เขายื่นของสิ่งหนึ่งให้ มันคือแผ่นหยกขาวสลักลวดลายประจำตระกูลเทพแห่งแสง

มี่ฮวาทำตาโตมองของสิ่งนั้นก่อนเอ่ยอย่างตกใจ

"นี่มัน.. ตราประจำตระกูล"

"ใช่ หากไม่มีที่ใดปลอดภัยสำหรับเจ้า จงแสดงของสิ่งนี้ที่หน้าวังของข้า เช่นนั้นแล้วเจ้าจะถือเป็นคนของข้า ไม่มีใครกล้าทำอะไรเจ้าแน่ สบายใจได้"

ความหมายของอวี้เวินฉิงคือ หากวันใดนางทนสามีเทพอสูรไม่ไหว ก็ให้หนีไปอยู่ที่วังของเขาเสีย

และตัวเขาก็จะอาสาเป็นคนปลอบใจนางต่อจากนั้นเอง

"ข้ารับของสำคัญขนาดนี้ไม่ได้หรอก"

"เจ้าสำคัญกว่าสิ่งใดทั้งหมดมี่ฮวา ได้โปรดรับไปเถิด อย่างน้อยก็ให้มันได้คุ้มครองเจ้า"

ได้ยินถ้อยคำแสดงความห่วงใยแล้ว มี่ฮวาก็ใจอ่อน ยอมยื่นมือไปรับแผ่นหยกนั้นมาเก็บไว้

"ข้าซึ้งน้ำใจท่านนัก"

"ข้าต่างหากที่ซึ้งน้ำใจ เจ้าไม่คิดโกรธเคืองข้าทั้งที่เป็นสาเหตุให้เจ้าต้องมีชีวิตเช่นนี้"

มี่ฮวาได้ยินแล้วส่ายหน้า ส่งรอยยิ้มบางแสนอ่อนโยนไปให้

"ท่านไม่ใช่ต้นเหตุของเรื่องนี้หรอก"

เพราะตัวต้นต้นเหตุจริงๆ คือคนที่ใช้เล่ห์กลออกอุบายหลอกล่อบิดานางจนตกหลุมพรางเสียง่ายๆ

คนที่ทำให้นางต้องมาทนทุกข์.. คือซีจงจวิน

คิดแล้วมวลความแค้นก็สุมอก หากแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้ารับมัน

ทั้งสองนั่งคุยเล่นกันอยู่เกือบสองชั่วยาม อวี้เวินฉิงก็จำใจต้องเอ่ยลา

"ข้าคงต้องไปก่อน น่าเสียดายนัก ครั้งนี้ข้าอยู่ได้ไม่นานเพราะหลังจากรู้เรื่องก็รีบมาไม่ได้สะสางงานที่ค้างอยู่ให้ดี คราวหน้าข้าว่างเมื่อไหร่จะมาเยี่ยมเจ้าแน่"

"ขอบคุณท่านอวี้เวินฉิงที่กรุณาถึงเพียงนี้"

ขณะกำลังร่ำลา ก่อนชายหนุ่มจะออกจากบ้านไป มี่ฮวาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้จึงเอื้อมไปจับมือเขา

"มีอะไรหรือ" เทพเซียนรูปงามหันมายิ้มหวาน มองที่มือเขาซึ่งนางรั้งไว้ หัวใจชุ่มชื่น

มี่ฮวาพึ่งรู้สึกตัว สะดุ้งรีบปล่อยมือก่อนเอ่ยธุระด้วยใบหน้าเขินอายเล็กน้อย

"ข้า.. มีสิ่งของจะตอบแทนที่ท่านให้ตราประตำตระกูลนี้มา รอสักครู่นะเจ้าคะ"

นางเดินกลับเข้าไปในห้องชมสวน แล้วกลับออกมาพร้อมผ้าเช็ดหน้าลายดอกโบตั๋นสีแดงสดที่พึ่งปักเสร็จวันนี้

"หาใช่ของมีค่าอันใด เพียงแต่ข้าคิดว่าท่านทำงานยุ่งมาก ถ้ามีสิ่งนี้ช่วยซับเหงื่อให้ท่านได้คงจะดีไม่น้อย"

อวี้เวินฉิงมองผ้าผืนนั้นตาเป็นประกายวาววับ ของที่มี่ฮวาทำไม่ว่าเป็นอะไรก็ยินดีรับทั้งนั้น

"ข้าจะเก็บรักษาอย่างดี"

นี่เป็นเสมือนของแทนใจของนางที่รัก ทำให้หัวใจเขาเต็มตื้นขึ้นมา

และหลงคิดไปว่าหัวใจนางเป็นของเขาเช่นเดียวกัน...

"ขอให้เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ"

มี่ฮวายืนส่งอวี้เวินฉิงที่เหาะขึ้นฟ้าหายไปตรงหน้าเรือน

โดยตลอดเวลานั้น มีสายตาของซวนเฟยกับชิงเหลียงมองอยู่ทุกการกระทำ

...นายหญิงกับแขกผู้นั้น มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกว่านายท่านเสียอีก...

แม้เป็นเด็กไม่ค่อยรู้ประสา แต่ทั้งสองเข้าใจได้ว่าสิ่งที่นางทำ ไม่ใช่เรื่องดีเลย

...

เย็นนั้น ซีจงจวินกลับบ้านตรงเวลาเหมือนเดิม

แต่..ทันที่เปิดประตูเข้ามา ฝีเท้ากลับต้องหยุดชะงัก

จมูกที่มีประสาทรับกลิ่นดียิ่งกว่าสุนัขทำหน้าที่ทันที...

เขารับรู้ได้ว่ามีผู้มาเยือนในบ้าน ซึ่งไม่ใช่ชุนหรงเซินผู้เป็นพ่อตา

กลิ่นมันติดอยู่หลายที่ ชัดที่สุดคือห้องชมสวนที่มี่ฮวาชอบนั่งเล่น

เมื่อเดินเข้ามาในครัว เห็นจานใส่ของว่างที่เขาทำว่างเปล่าก็ยิ่งมั่นใจว่ามีแขกมาเยือน เพราะปกติมี่ฮวาจะไม่ได้กินเยอะขนาดนี้ ต้องเหลือไว้ให้เขาแอบกินต่อทุกวัน

"ใครมาพบท่านหรือ" ซีจงจวินถามหลังจากยกสำรับวางบนโต๊ะหมดแล้ว

"แขกของข้า"

"แขกของท่านเป็นใคร" เขาถามต่อ กะว่าวันนี้จะต้องรู้เรื่องให้ได้

แต่แทนที่จะได้รู้คำตอบ มี่ฮวากลับทำตาขวางใส่อย่างรำคาญ

"เป็นใครแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า"

..ข้าเป็นสามีท่าน จะไม่เกี่ยวได้อย่างไร..

ซีจงจวินคิดแต่ไม่พูด เพียงหลุบตาต่ำลง นึกสงสัยว่าเหตุใดเขาถึงรู้ไม่ได้ว่าใครมาหานาง

"เผื่อคราวหลังข้ามีโอกาสเตรียมต้อนรับ"

"เจ้าเคยอยู่บ้านตอนกลางวันหรือ"

ประโยคนั้นไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการประชดประชัน เพราะรู้ดีว่าเทพอสูรจะอยู่บ้านได้ก็แค่ตอนกลางคืนเท่านั้น

ซีจงจวินพูดต่อไม่ได้แล้ว เพราะเพียงเท่านี้ก็ครบยี่สิบคำ

"เรื่องของข้า ถ้าข้าไม่อยากบอกก็ไม่จำเป็นต้องอยากรู้"

มี่ฮวาเอ่ยเสียงแข็ง วางถ้วยข้าวในมือลง ลุกเดินไปหายเข้าไปในห้องอาบน้ำ

ซีจงจวินมองอาหารที่ไม่พร่องไปเลยแม้แต่น้อยแล้วห่อเหี่ยวใจเหลือเกิน

โดนว่าไม่เท่าไหร่ แต่เหตุใดนับวันนางถึงยิ่งกินน้อยลง

..หรือเพราะเขาพูดมากเกินไป ทำให้นางไม่อยากอาหารจริงๆ..

พอเห็นมี่ฮวาไม่กิน ซีจงจวินก็พลอยไม่อยากกินตามไปด้วย

"นายท่านขอรับ.." ชิงเหลียงมองผู้เป็นนายมีสีหน้าไม่สู้ดีจึงเอ่ยเรียก

ซีจงจวินชำเลืองมองเล็กน้อย แล้วเอ่ยกับมันเสียงแผ่ว

"สำรับทั้งหมดนี่ เจ้ากับซวนเฟยเอาไปแบ่งกันกินเถิด"

ว่าแล้วก็ยกออกไปวางไว้ในครัว เจ้าครึ่งงูได้แต่มอง คิดในใจว่าอาหารตั้งเกือบสิบอย่าง มันสองตัวจะไปกินหมดได้อย่างไร

************

ยามอู่ คือเวลา 11.00 น. ถึง 13.00 น.

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 72 七十二

    ค่ำวันหนึ่งในวสันตฤดู มี่ฮวามายืนรอสามีหน้าประตูบ้าน เห็นเขากลับช้ากว่าปกติก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาราวสามก้านธูปผ่านไปเขาก็ยังไม่มาทำเอานางร้อนใจไปหมด พวกลูกๆหิวจนทนไม่ไหวเลยพากันกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว เหลือแต่นางที่ยังรอกินพร้อมสามีทำไมถึงชักช้านัก..เพียงหลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏเงาร่างดำๆบนท้องฟ้าตรงหลังบ้าน ซีจงจวินเห็นมี่ฮวามองออกไปยังทางที่เขากลับทุกวันก็แปลกใจ"มี่ฮวา ข้ากลับมาแล้ว"ได้ยินเสียงเรียกนางจึงหันหลังเดินมาหาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง"ไปไหนมา""ข้าไปช่วยสัตว์อสูรอพยพอยู่เลยกลับช้า"ได้ยินคำเขาบอก นางหรี่ตามองเล็กน้อยคล้ายไม่ค่อยพอใจนัก"สัตว์อสูรที่ไหน""ตรงทางไปเขาสวรรค์นั่นแหละ พอดีข้าผ่านไปเห็นว่านางกำลังลำบากกับการย้ายถิ่นเลยช่วยไว้"เขาชี้แจงด้วยสีหน้างง ขณะอีกคนสะดุดใจในประโยคเมื่อครู่ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยอมรามือจากการเค้นถาม"เช่นนั้นก็แล้วไป วันนี้พวกลูกๆหิวจนรอเราไม่ไหว แต่ข้ายังไม่ได้กินข้าวเพราะรอท่าน" นางเข้ามาควงแขนเขาไว้ เอาใบหน้าถูไถออดอ้อนทำเอาสามีต้องอมยิ้มการทำแบบนั้นเขาคิดว่านางตั้งใจทำตัวน่ารัก แต่กลับกันนางกำลังแอบดมกลิ่นที่ติดตัวเขามาต่างหากในใจยังรู

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 71 七十一

    เจ็ดร้อยปีผ่านไป..ซวนเฟยกับกับชิงเหลียงอายุพันสามร้อยปีแล้ว ร่างกายกลายเป็นหนุ่มน้อยไม่ใช่เด็กตัวกะเปี๊ยกอีกต่อไปทั้งคู่ยังคงตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในเรือนมีนายน้อยและคุณหนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคนจนทั้งสองกลายสภาพจากคนรับใช้เป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยสมบูรณ์"ถูตรงนั้นให้ดีๆล่ะ"ซวนเฟยสั่งแมวป่าน้อยที่มักจะถูพื้นบ้านด้วยความเร็วเกินไปจนไม่แน่ใจว่าสะอาดจริงหรือไม่"เจ้าค่าาา ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านหัวหน้า" นางตอบกลับมาเสียงประชดเหมือนเคย"เจ้าด้วย บนเพดานยังมีฝุ่นอยู่เลย" คราวนี้หันไปว่าเจ้ากวางผา"ข้าจะปีนขึ้นเช็ดเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" อสูรกวางผาตอบก่อนวิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นอย่างเร็วเพราะเจ้านายทั้งสองขยันมีลูกกันมาก เมื่อคนในบ้านเพิ่มงานก็เพิ่มตาม นายท่านจึงไปเสาะหาอสูรรับใช้ใหม่มาทำงานบ้าน ส่วนซวนเฟยกับชิงเหลียงมีหน้าที่อย่างเดียวคือเฝ้าจับตาดูลูกๆให้เจ้าวิหควายุเดินตรวจความเรียบร้อยตามส่วนต่างๆไปเรื่อย นายท่านของมันได้ขยายเรือนออกไปกว้างกว่าเดิมหลายส่วน ยิ่งทำความดีความชอบปกป้องยุทธภพด้วยแล้ว ยิ่งได้รับประทานรางวัลอย่างงาม ที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ทำให้ต้องใช้เวลาเดินตรวจตรานานขึ้น"ซวนเฟย! ซ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 70 七十

    "ท่า..ท่านป้อ!"เด็กน้อยเกอซือชี้นิ้วไปที่บิดา เอ่ยเรียกแล้วยิ้มแป้น แก้มยุ้ยๆขึ้นสีระเรื่อช่างน่าเอ็นดูคนถูกเรียกตาเป็นประกาย อุ้มลูกขึ้นมาไว้ในมืออดใจไม่ได้ต้องจูบแก้มหนักๆสักหลายที"เก่งมากลูกพ่อ"ซีจงจวินดูจะภูมิใจเหลือเกิน มี่ฮวาที่นั่งปักผ้าอยู่ไม่ไกลมองพ่อลูกเล่นกันก็พลอยยิ้มตามไปด้วย"ท่าน..แม่!""จ้า เก่งมากเสี่ยวเกอ"นางยอมวางมือจากเข็มปักผ้าแล้วมาเล่นกับลูกบ้าง เกอซือเริ่มเติบโต ช่างน่ารักน่าเอ็นดู"ท่านตา ท่านยาย ท่านป้า"เกอซือเหมือนพยายามท่องคำที่ถูกสอนมา เสร็จแล้วก็หัวเราะตบมือเพราะคนเหล่านั้นใจดีและรักเกอซือเช่นกันตั้งแต่มี่ฮวาตั้งท้อง พ่อแม่นางมาเที่ยวหาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคลอดเกอซือออกมาตายายก็ดูจะเห่อหลานกันมาก ขยันมาบ้านนี้จนเด็กน้อยจำได้"พ่อจ๋า วันไหนว่างๆเราพาลูกไปเยี่ยมตายายดีหรือไม่"เดี๋ยวนี้สรรพนามที่ใช้เรียกสามีเปลี่ยนไป เพราะทั้งคู่อยากให้ลูกจำได้และเรียกตาม"เช่นนั้นข้าจะทำเรื่องลางานสักสองวัน"ภรรยาว่าอย่างไรเขาไม่เคยขัดอยู่แล้ว ในเมื่อนางอยากพาลูกออกไปเที่ยวเล่นบ้างเขาก็ตามใจดีเหมือนกัน นานๆทีจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นางกับลูกจะได้ไม่เบื่อความอุดอู้ใน

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 69 六十九

    สิบปีต่อจากนั้นมี่ฮวาตั้งครรภ์ครั้งแรก จากที่ได้รับการดูแลอย่างดี ตอนนี้สามีนางแทบไม่ให้ลุกเดินขยับไปไหนเลยด้วยซ้ำซวนเฟยกับชิงเหลียงเองก็ถูกสั่งให้ช่วยกันดูแลนางเป็นพิเศษกระทั่งลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยเสียงร้องอุแว้ดังลั่นเรือน เซียนหมอสตรีมือฉมังจากแดนเทพที่ซีจงจวินไปเชิญเดินออกมาหาพ่อเด็กด้วยสีหน้ายินดี"เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ"นางบอกแล้วยื่นห่อผ้าให้ซีจงจวินอุ้ม เทพอสูรมองหน้าเด็กทารกในมือแล้วแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เด็กคนนี้มีร่างกายเป็นเทพตัวขาวผ่องอมชมพูน่าทะนุถนอม แต่มีลักษณะคล้ายพ่อตรงที่บนหน้าผากมีเขาเล็กๆงอกออกมาสองคู่ ซึ่งมันจะค่อยๆขยายไปตามกาลเวลาซีจงจวินก้มลงหอมแก้มลูกเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาภรรยาในห้องซวนเฟยมีหน้าที่ไปส่งท่านเซียนหมอ ชิงเหลียงช่วยเช็ดตัวให้มี่ฮวา ซีจงจวินนั่งลงข้างเตียงซับเหงื่อให้เล็กน้อยก่อนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากนาง"ลูกเรา"เขายื่นเด็กน้อยให้นาง มี่ฮวารับเด็กที่ร้องไห้จ้าตั้งแต่เมื่อครู่มาไว้ในอ้อมแขน โอ๋กล่อมด้วยความรักใคร่"ตั้งชื่อว่าอะไรดีเจ้าคะ" นางถาม สามีใช้เวลาคิดครู่สั้นๆก่อนตอบเสียงนุ่มทุ้ม"เกอซือ"ได้ยินชื่อนั้นนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มให้

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 68 六十八

    ผ่านไปกี่คืนวันแล้วไม่รู้ตั้งแต่ซีจงจวินได้ร่างคืนมา เขาได้เป็นเทพเฝ้าประตูสวรรค์ดังเดิม ทุกวันทำงานตามปกติคล้ายเหตุการณ์เมื่อสี่สิบกว่าปี่ก่อนไม่เคยเกิดขึ้น"ข้ากลับมาแล้ว"ตะวันพึ่งลาลับขอบฟ้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา ร่างเทพอสูรบึกบึนก็มาโผล่หน้าประตูเรียบร้อย น้ำเสียงของซีจงจวินดูร่าเริงมาก ผิดกับตอนเช้าก่อนออกไปทำงานที่จะอิดออดถ่วงเวลาอยู่นั่น"สำรับพร้อมแล้ว"ภรรยาผู้น่ารักเดินออกมาจากห้องอาหาร เนื้อตัวเป็นกลิ่นของคาวหวานคลุ้งไปหมด แต่สามีก็ยังวิ่งเข้ามาสวมกอดหอมฟัดนางเสียจนแทบล้มพับ"กินข้าวอาบน้ำก่อนซีจงจวิน"มี่ฮวาต้องรีบปราม ไม่เช่นนั้นนางจะไม่อาจหลุดจากอุ้งมือพันธนาการของสามีไปได้นับวันซีจงจวินยิ่งทำตัวเหมือนเป็นเด็กเข้าไปทุกที เขาชอบอ้อน ชอบเอาใจ จนบางครั้งมี่ฮวาก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนเขารู้ถึงตัวตนด้านนี้บ้างหรือเปล่าซีจงจวินยอมผละออกแต่โดยดี หลังจากถอดชุดเกราะออกแล้วก็มานั่งกินข้าว ไปอาบน้ำ เตรียมเข้านอนพร้อมภรรยาสุดที่รักแต่จะเรียกว่าเข้านอนเลยก็ไม่ได้เพราะก่อนหน้านั้นต้องมีกิจกรรมสำหรับคู่รักเสียก่อนซีจงจวินถึงจะยอมนอน"มี่ฮวา"สัมผัสจากปลายนิ้วสะกิดหลังเบาๆให้นางหันมาห

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 67 六十七

    เป็นจูบที่หวานที่สุดในชีวิตซีจงจวิน พอนางขยับเปิดปากเขาก็สอดลิ้นเข้าไปชิมรสชาติด้านใน กระหวัดเกี่ยวอย่างโหยหาเมื่อตักตวงจนมากพอแล้วมี่ฮวาผลักเขาออกเพื่อพักหายใจเล็กน้อย ดวงตายังสบประสานกันอย่างหวานฉ่ำ"เชื่อหรือยังว่าข้ารักเทพอสูรซีจงจวิน ไม่ใช่จงซีจ้านผู้นั้น"มี่ฮวารู้ว่าที่ซีจงจวินขอให้มหาเทพใส่จิตเขาลงไปในร่างของจงซีจ้านเพราะอะไรคนตอบพยักหน้าเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองนางอย่างเด็กน้อยที่กลัวจะถูกว่าเมื่อทำผิด"ข้า.. เห็นว่าเจ้ายอมนอนกับข้าในร่างจงซีจ้าน เลยคิดว่าหากอยู่ในร่างนั้นเจ้าอาจจะชอบมากกว่า"ซีจงจวินไม่มั่นใจในตัวเองเอามากๆเลยสินะ ถึงได้มีความคิดแบบนี้มี่ฮวาระบายลมหายใจยาว กระเถิบขึ้นไปนั่งบนตักสวมกอดเขาไว้แน่นๆ ซุกหน้ากับแผ่นอกอีกรอบ"ข้าไม่สนว่าจะอยู่ในร่างไหน ขอแค่เป็นท่านก็พอ""เจ้าไม่รังเกียจข้าแล้วใช่หรือไม่""ไม่เลย ข้ากลับชอบด้วยซ้ำเวลาที่ท่านกอดข้าแบบนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย"นางชอบมือทุกข้างที่มอบความรู้สึกหลากหลายให้ มันมีความรักเจืออยู่ในทุกการกระทำร่างกายทั้งคู่ที่แนบชิดบดเบียดกันสร้างความร้อนขึ้นมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กอดจากนางผู้เป็นที่รักเริ่มไม่เพียงพอเ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status