Share

บทที่ 7 七

Author: PinkyPaw
last update Last Updated: 2024-12-03 12:27:57

ชุนหรงเซินหันมองที่ซีจงจวินทันที หัวคิ้วขมวดปมแน่น

ซีจงจวินไปทำอะไรที่แม่น้ำลืมเลือน ซึ่งอยู่ถึงสุดเขตดินแดนบูรพากันนะ..

แต่ไม่ทันจะได้ถามต่อ ร่างของเทพอสูรก็ทรุดฮวบลงกองกับพื้นเสียแล้ว

เปลือกตาของซีจงจวินปิดสนิท บ่งบอกว่าเข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อย

ชุนหรงเซินได้แต่ถอนหายใจกับปริศนาที่ชายผู้นี้ทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนจัดแจงให้เขานอนในท่าที่ดูเรียบร้อยขึ้น แล้วตนก็นั่งดื่มสุราต่อผู้เดียวทั้งคืน

...

ดวงตะวันเริ่มเลื่อนขึ้นสู่ท้องฟ้า เหล่าสัตว์อสูรตื่นจากการหลับใหล

ซีจงจวินเองก็ตื่นตามเวลาปกติเช่นกัน แต่เช้านี้รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย

"โอยยย..."

เขาครางเสียงต่ำ ฤทธิ์สุราสวรรค์ช่างร้อนแรง เล่นเอาปวดหัวตาลายจนไม่อาจทรงตัวได้ดีนัก

"ตื่นแล้วหรือ"

ชุนหรงเซินยังคงนั่งอยู่ที่เดิมตั้งแต่เมื่อคืน มองซีจงจวินที่ตอนนี้อยู่ในท่าประหลาด

เทพอสูรคุกเข่าก้มตัวต่ำศีรษะแทบติดพื้น มือสองข้างกุมขมับ อีกสี่ข้างยันพื้นเอาไว้ หางปล้องยาวชูขึ้นสูง

ดูๆไปแล้วก็เหมือนแมงป่องจริงๆ เป็นแมงป่องยักษ์ที่กำลังอารมณ์ไม่ดี เกรงว่าหากเข้าไปกวนใจจะโดนฆ่าตายได้ง่ายๆ

"ดื่มน้ำยาสร่างเมานี่เสีย"

ชุนหรงเซินยื่นถ้วยยาส่งให้ซีจงจวิน เขารับมาโดยไม่ได้พูดอะไร ยกดื่มรวดเดียวหมดแล้วก็นิ่งไปเสียเฉยๆ

"เป็นอย่างไรบ้าง"

หลังจากได้ยินคำถาม สมองต้องใช้เวลาประมวลผลถึงเกือบหนึ่งถ้วยจิบชาจึงจะอ้าปากพูดได้

"ดีขึ้นแล้วขอรับ ขอบคุณท่านมาก" ได้ยินคำตอบน้ำเสียงปกติก็แปลว่าสร่างแล้ว ชุนหรงเซินจึงโล่งใจยิ้มออก

"เมื่อคืนท่านจำสิ่งที่พูดไปได้หรือไม่"

"เอ่อ... เกรงว่าจะไม่ขอรับ ขออภัยด้วยหากข้าล่วงเกิน เสียมารยาทต่อหน้าท่าน"

ซีจงจวินทำท่าจะคุกเข่าก้มหัวขอโทษแต่ก็ส่ายไปมาทรงตัวไม่ได้ ชุนหรงเซินจึงห้ามเอาไว้

"ไม่เลยๆ ท่านไม่ได้เสียมารยาทอะไร แล้วยังทำให้ข้าอารมณ์ดีขึ้นมาก"

"เช่นนั้นหรือขอรับ"

"อืม.. เพียงแต่ข้าอยากรู้เรื่องที่เราคุยกันค้างไว้ต่อจากเมื่อคืนเท่านั้น"

ซีจงจวินจำไม่ได้เลยว่าพูดสิ่งใดไปบ้าง หลังสุราจอกที่สามสติเขาก็มลายสิ้น

"ท่านบอกว่าท่านได้แผลใหญ่นี่จากแม่น้ำลืมเลือน มันเกิดอะไรขึ้นหรือ"

ชุนหรงเซินบอกพร้อมชี้ไปที่รอยแผลไหม้สีดำแถวสีข้างของเทพอสูร ซีจงจวินก็เข้าใจทันที

"ต้องขออภัยที่ไม่อาจชี้แจงได้ เพราะตัวข้าเองก็จำอะไรไม่ได้ขอรับ เมื่อสามพันปีก่อนข้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าได้แผลนี้มาแล้วขอรับ"

"..อย่างนั้นเอง"

คนฟังไม่ได้ว่าอะไร ด้วยรู้ว่าน้ำในแม่น้ำลืมเลือนนั้น ไม่ว่าผู้ใดกินอาบเข้าไปเป็นอันต้องไม่หลงเหลือความทรงจำทั้งสิ้น

เขาเองก็ไม่คิดติดใจอะไรอีก...

ไม่สิ..

"ท่านบอกว่าเมื่อสามพันปีก่อนหรือ"

"ขอรับ"

ชุนหรงเซินกลับมานั่งครุ่นคิด เขารู้สึกสงสัยอะไรบางอย่างจึงรีบบอกลาซีจงจวิน ขึ้นรถลากกลับไป

สองชั่วยามต่อมา รถลากก็จอดลงที่หน้าวัง ชุนหรงเซินพุ่งตัวไปที่ตำหนักของมี่ฮวาทันที

"มี่เอ๋อร์"

ประตูเลื่อนเปิดกว้าง บิดากำลังจะเข้าไปคุยด้วย ลูกสาวคนเล็กก็วิ่งเข้ามาหาเช่นกัน ดวงตาเปล่งประกายฉายแววซุกซน

"ท่านพ่อ ข้าคิดวิธีดีๆได้แล้วเจ้าค่ะ"

คำของนางทำให้ชุนหรงเซินเงียบไป เขาตั้งรับยังไม่ทัน

"วิธี...วิธีหาสามีของเจ้าน่ะหรือ"

"เจ้าค่ะ" นางพยักหน้ารัว

ด้วยความอยากรู้ที่ผุดแทรกขึ้นมา ทำให้เขาลืมเรื่องที่จะมาคุยกับนาง เปลี่ยนเป็นนั่งลงตั้งใจฟังแทน

"ชายที่รักข้าจริงจะต้องเป็นคนมุ่งมั่น มีความพยายาม อดทนมากๆ และจะต้องถนอมข้าเป็นอย่างดี"

..นั่นก็เป็นคุณสมบัติทั่วไปของบุรุษที่ดีไม่ใช่หรือ

"แล้วมันอย่างไรเล่า"

ชุนหรงเซินถาม ตอนนั้นเองที่มี่ฮวายื่นมือมาตรงหน้าเขา เสกดอกไม้ขึ้นมาดอกหนึ่ง ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน

มันเป็นดอกไม้รูปทรงประหลาด ทว่ากลับมองแล้วดูสวยวิจิตรราวธรรมชาติบรรจงสร้าง

กลีบมีสีสันอ่อนเข้มไร่เรียงกันเป็นระลอกริ้วน่าดูไม่รู้เบื่อ อีกทั้งกลิ่นยังหอมฟุ้งเป็นเอกลักษณ์ ดมเพียงครั้งเดียวต้องจดจำไปตลอดชีวิต

"นี่คือดอกอะไรหรือ มี่เอ๋อร์"

"ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเจ้าค่ะ เลยยังไม่ได้ตั้งชื่อ"

"แล้ว.. เจ้าจะเอามาใช้อย่างไร"

เมื่อได้ยินคำถาม มี่ฮวาก็ยิ้มกว้างขึ้น นางมอบดอกไม้นั้นให้บิดาได้เชยชมใกล้ๆ

เพียงเขาจับก้านขึ้นมาดมได้ครู่เดียว กลีบดอกบอบบางก็เริ่มเฉาช้ำ

"เหตุใดถึงเหี่ยวตายง่ายถึงเพียงนี้" ชุนหรงเซินตกใจเมื่อดอกไม้ที่มี่ฮวาเนรมิตขึ้นนั้นกลีบโรยร่วงเสียแล้ว ทั้งที่เขาพึ่งสัมผัสมันได้ไม่ถึงครึ่งถ้วยจิบชาด้วยซ้ำ

"ข้าจะใช้ดอกไม้นี้เป็นตัวพิสูจน์เจ้าค่ะ เสกให้มันไปขึ้นในที่ไกลๆ แล้วให้เทพเหล่านั้นออกตามหา กติกาคือต้องหาเจอและนำกลับมาได้ก่อนฟ้ามืด แน่นอนว่าดอกไม้ดอกนี้ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ จึงจะถือว่าชนะเจ้าค่ะ"

มี่ฮวายิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาบิดาที่ฟังแผนการนั้นเริ่มปวดหัว

ขนาดเขาเป็นเทพผู้บันดาลให้พืชพรรณผลิดอกออกผลยังทำดอกไม้นี้ตายได้ แล้วเทพเซียนผู้อื่นจะผ่านการทดสอบนี้ไปได้หรือ

...

เพียงไม่กี่วันต่อมา งานถูกจัดอีกครั้ง มี่ฮวาให้เหตุผลกับเทพเซียนที่มาเข้าร่วมทั้งครั้งก่อนและครั้งนี้ว่านางไม่อาจตัดสินใจได้ จึงต้องจัดการแข่งขันขึ้น

เมื่ออธิบายกติกาจบ นางกรีดนิ้วร่ายมนตร์ ดอกไม้ในมือก็หายวับไป

"ดอกไม้นี้จะไปขึ้นในที่ที่ไกลแสนไกล พวกท่านต้องตั้งใจหาดีๆนะเจ้าคะ"

นางเอ่ยพร้อมทั้งส่งยิ้มให้เทพบุรุษหลายสิบองค์ นั่นทำให้พวกเขาฮึกเหิมมากพอจะออกตามล่าบุปผางามราวจะพลิกแผ่นดินได้

ชุนหรงเซินหวังว่าจะมีใครสักคนที่หาเจอแล้วนำกลับมาได้โดยไม่เป็นอะไรไปเสียก่อน

เหมยกุย จวี๋ฮวา และเหลียนฮวาดูน้องคนสุดท้องที่นั่งกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วก็ถอนหายใจ บัดนี้ในห้องเหลือแต่พวกนางทั้งแปด บิดาและมารดาเท่านั้น

"แล้วเจ้าตั้งใจจะทำอะไรแน่"

เหลียนฮวาเอ่ยถาม รู้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่มีสิทธิ์เลือก นางงามออกปานนี้ก็ย่อมต้องอยากได้คู่ครองที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

แต่งานนี้ดูจะหนักหนาไปสักหน่อย..

"ข้าเสกให้มันไปขึ้นในที่ที่ไกลมาก หากไม่ตั้งใจหาก็จะหาไม่เจอ และกว่าจะได้มาต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลายประการ เมื่อได้มาแล้วก็ต้องถนอมรักษาไว้อย่างดีไม่ให้ตายกลางทาง และต้องหาวิธีกลับมาที่นี่ให้เร็วที่สุดด้วย"

มี่ฮวาอธิบายเหล่าพี่สาวก็พยักหน้าตาม นางก็ช่างคิดเสียเหลือเกิน

หมายความว่าผู้ชนะในวันนี้จะต้องเป็นคนที่เฉลียวฉลาดจนเดาใจนางได้ ทั้งกล้าหาญ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ตัดสินใจรวดเร็ว รอบคอบ และที่สำคัญคือต้องรู้จักรักหยกถนอมบุปผา

"แล้วหากไม่เป็นไปตามนั้นเล่า"

"หากไม่ผ่านแม้แต่ครึ่งข้อ ข้าก็ไม่แต่งให้เจ้าค่ะ"

นางพูดอย่างจริงจัง อยากรู้เหลือเกินว่าจะมีผู้ที่สามารถชนะใจมี่ฮวาได้หรือไม่

...

ตะวันลับขอบฟ้า จันทราเยื้องกราย ดวงดาวพร่างพรายส่องแสง

เทพเซียนทั้งหลายล้วนกลับมามือเปล่า สีหน้าผิดหวังระคนเจ็บใจ แม้ตั้งใจตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ

"ข้าออกไปไกลถึงสุดชายแดนแผ่นดินเชียวนะแม่นาง"

"ข้าถึงกับยกภูเขาเฉินซานหาทีเดียว"

"ข้าบุกไปถึงรังหงส์นภาก็ไม่เจอ"

พวกเขาล้วนกลับมาเล่าถึงความยากลำบากที่พบเจอ เพื่อจะบอกว่าพวกเขาตั้งใจหาแล้ว

จนกระทั่งมีเซียนหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางมั่นใจ ฝีเท้าก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมยื่นของบางสิ่งในมือให้

"ข้าชนะแล้วนะแม่นาง"

เขาส่งยิ้มพร้อมดอกไม้งามหอมในมือไปตรงหน้ามี่ฮวา

คนทั้งหมดตกใจกันยกใหญ่ บิดามารดาเบิกตาโพลง เหล่าพี่สาวกระโดดโลดเต้น บุรุษทั้งหลายทำท่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

มีเพียงมี่ฮวาที่นิ่งไปชั่วอึดใจ มือขาวเรียวยื่นไปรับดอกไม้มาถือไว้

..ก่อนจะกระตุกยิ้มครั้งหนึ่ง

มือนางเกิดอ่อนแรงขึ้นมาฉับพลัน เผลอปล่อยให้สิ่งที่ถืออยู่ร่วงหล่นลงกระทบพื้น

ดวงตาสีเขียวส่องประกายดั่งหยกเนื้องามช้อนมองคนตรงหน้า ฉายแววขุ่นเคืองทั้งที่น้ำเสียงยังคงนิ่งเรียบ

"ดอกไม้นี้ไม่ใช่ของจริง"

!!!

"มะ..แม่นางว่าอะไรนะ!?"

เทพเซียนผู้นั้นก้มลงไปเก็บดอกไม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเองที่มี่ฮวาเชิดหน้าเหลือบมองเขาอย่างดูแคลน

"ท่านใช้ของพรรค์นี้มาตบตาข้า ไม่ดูถูกกันเกินไปหน่อยหรือ"

"แม่นาง เจ้าพูดเรื่องอะไร"

ทุกสายตากำลังจ้องมาที่เขาเพียงผู้เดียว ทำเอาคนพูดอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ถูก

"หากเป็นดอกไม้ที่ข้าสร้างขึ้นจริง ไม่ต้องรอให้ตกพื้นหรอก แค่ท่านเดินถือมามันก็เฉาตายตั้งแต่ยังไม่เข้าเขตวังแล้ว"

ฟังจบ เทพเซียนผู้นั้นหน้าม้าน อับอายเหลือเกินที่ถูกจับได้แล้วยังถูกเปิดโปงเสียหมดเปลือก

"ท่านแพ้แล้ว"

นางกล่าวก่อนเดินออกจากตำหนักไปไม่สนใจสิ่งใดอีก

ชุนหรงเซินต้องประกาศปิดงาน ในเมื่อไม่มีผู้ใดหาดอกไม้นั้นเจอ มี่ฮวาก็จะไม่แต่งกับใครทั้งนั้น

...นางวางแผนไว้เช่นนี้แต่แรกใช่หรือไม่...

****

หนึ่งถ้วยจิบชา เท่ากับสิบนาที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 72 七十二

    ค่ำวันหนึ่งในวสันตฤดู มี่ฮวามายืนรอสามีหน้าประตูบ้าน เห็นเขากลับช้ากว่าปกติก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาราวสามก้านธูปผ่านไปเขาก็ยังไม่มาทำเอานางร้อนใจไปหมด พวกลูกๆหิวจนทนไม่ไหวเลยพากันกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว เหลือแต่นางที่ยังรอกินพร้อมสามีทำไมถึงชักช้านัก..เพียงหลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏเงาร่างดำๆบนท้องฟ้าตรงหลังบ้าน ซีจงจวินเห็นมี่ฮวามองออกไปยังทางที่เขากลับทุกวันก็แปลกใจ"มี่ฮวา ข้ากลับมาแล้ว"ได้ยินเสียงเรียกนางจึงหันหลังเดินมาหาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง"ไปไหนมา""ข้าไปช่วยสัตว์อสูรอพยพอยู่เลยกลับช้า"ได้ยินคำเขาบอก นางหรี่ตามองเล็กน้อยคล้ายไม่ค่อยพอใจนัก"สัตว์อสูรที่ไหน""ตรงทางไปเขาสวรรค์นั่นแหละ พอดีข้าผ่านไปเห็นว่านางกำลังลำบากกับการย้ายถิ่นเลยช่วยไว้"เขาชี้แจงด้วยสีหน้างง ขณะอีกคนสะดุดใจในประโยคเมื่อครู่ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยอมรามือจากการเค้นถาม"เช่นนั้นก็แล้วไป วันนี้พวกลูกๆหิวจนรอเราไม่ไหว แต่ข้ายังไม่ได้กินข้าวเพราะรอท่าน" นางเข้ามาควงแขนเขาไว้ เอาใบหน้าถูไถออดอ้อนทำเอาสามีต้องอมยิ้มการทำแบบนั้นเขาคิดว่านางตั้งใจทำตัวน่ารัก แต่กลับกันนางกำลังแอบดมกลิ่นที่ติดตัวเขามาต่างหากในใจยังรู

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 71 七十一

    เจ็ดร้อยปีผ่านไป..ซวนเฟยกับกับชิงเหลียงอายุพันสามร้อยปีแล้ว ร่างกายกลายเป็นหนุ่มน้อยไม่ใช่เด็กตัวกะเปี๊ยกอีกต่อไปทั้งคู่ยังคงตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในเรือนมีนายน้อยและคุณหนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคนจนทั้งสองกลายสภาพจากคนรับใช้เป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยสมบูรณ์"ถูตรงนั้นให้ดีๆล่ะ"ซวนเฟยสั่งแมวป่าน้อยที่มักจะถูพื้นบ้านด้วยความเร็วเกินไปจนไม่แน่ใจว่าสะอาดจริงหรือไม่"เจ้าค่าาา ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านหัวหน้า" นางตอบกลับมาเสียงประชดเหมือนเคย"เจ้าด้วย บนเพดานยังมีฝุ่นอยู่เลย" คราวนี้หันไปว่าเจ้ากวางผา"ข้าจะปีนขึ้นเช็ดเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" อสูรกวางผาตอบก่อนวิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นอย่างเร็วเพราะเจ้านายทั้งสองขยันมีลูกกันมาก เมื่อคนในบ้านเพิ่มงานก็เพิ่มตาม นายท่านจึงไปเสาะหาอสูรรับใช้ใหม่มาทำงานบ้าน ส่วนซวนเฟยกับชิงเหลียงมีหน้าที่อย่างเดียวคือเฝ้าจับตาดูลูกๆให้เจ้าวิหควายุเดินตรวจความเรียบร้อยตามส่วนต่างๆไปเรื่อย นายท่านของมันได้ขยายเรือนออกไปกว้างกว่าเดิมหลายส่วน ยิ่งทำความดีความชอบปกป้องยุทธภพด้วยแล้ว ยิ่งได้รับประทานรางวัลอย่างงาม ที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ทำให้ต้องใช้เวลาเดินตรวจตรานานขึ้น"ซวนเฟย! ซ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 70 七十

    "ท่า..ท่านป้อ!"เด็กน้อยเกอซือชี้นิ้วไปที่บิดา เอ่ยเรียกแล้วยิ้มแป้น แก้มยุ้ยๆขึ้นสีระเรื่อช่างน่าเอ็นดูคนถูกเรียกตาเป็นประกาย อุ้มลูกขึ้นมาไว้ในมืออดใจไม่ได้ต้องจูบแก้มหนักๆสักหลายที"เก่งมากลูกพ่อ"ซีจงจวินดูจะภูมิใจเหลือเกิน มี่ฮวาที่นั่งปักผ้าอยู่ไม่ไกลมองพ่อลูกเล่นกันก็พลอยยิ้มตามไปด้วย"ท่าน..แม่!""จ้า เก่งมากเสี่ยวเกอ"นางยอมวางมือจากเข็มปักผ้าแล้วมาเล่นกับลูกบ้าง เกอซือเริ่มเติบโต ช่างน่ารักน่าเอ็นดู"ท่านตา ท่านยาย ท่านป้า"เกอซือเหมือนพยายามท่องคำที่ถูกสอนมา เสร็จแล้วก็หัวเราะตบมือเพราะคนเหล่านั้นใจดีและรักเกอซือเช่นกันตั้งแต่มี่ฮวาตั้งท้อง พ่อแม่นางมาเที่ยวหาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคลอดเกอซือออกมาตายายก็ดูจะเห่อหลานกันมาก ขยันมาบ้านนี้จนเด็กน้อยจำได้"พ่อจ๋า วันไหนว่างๆเราพาลูกไปเยี่ยมตายายดีหรือไม่"เดี๋ยวนี้สรรพนามที่ใช้เรียกสามีเปลี่ยนไป เพราะทั้งคู่อยากให้ลูกจำได้และเรียกตาม"เช่นนั้นข้าจะทำเรื่องลางานสักสองวัน"ภรรยาว่าอย่างไรเขาไม่เคยขัดอยู่แล้ว ในเมื่อนางอยากพาลูกออกไปเที่ยวเล่นบ้างเขาก็ตามใจดีเหมือนกัน นานๆทีจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นางกับลูกจะได้ไม่เบื่อความอุดอู้ใน

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 69 六十九

    สิบปีต่อจากนั้นมี่ฮวาตั้งครรภ์ครั้งแรก จากที่ได้รับการดูแลอย่างดี ตอนนี้สามีนางแทบไม่ให้ลุกเดินขยับไปไหนเลยด้วยซ้ำซวนเฟยกับชิงเหลียงเองก็ถูกสั่งให้ช่วยกันดูแลนางเป็นพิเศษกระทั่งลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยเสียงร้องอุแว้ดังลั่นเรือน เซียนหมอสตรีมือฉมังจากแดนเทพที่ซีจงจวินไปเชิญเดินออกมาหาพ่อเด็กด้วยสีหน้ายินดี"เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ"นางบอกแล้วยื่นห่อผ้าให้ซีจงจวินอุ้ม เทพอสูรมองหน้าเด็กทารกในมือแล้วแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เด็กคนนี้มีร่างกายเป็นเทพตัวขาวผ่องอมชมพูน่าทะนุถนอม แต่มีลักษณะคล้ายพ่อตรงที่บนหน้าผากมีเขาเล็กๆงอกออกมาสองคู่ ซึ่งมันจะค่อยๆขยายไปตามกาลเวลาซีจงจวินก้มลงหอมแก้มลูกเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาภรรยาในห้องซวนเฟยมีหน้าที่ไปส่งท่านเซียนหมอ ชิงเหลียงช่วยเช็ดตัวให้มี่ฮวา ซีจงจวินนั่งลงข้างเตียงซับเหงื่อให้เล็กน้อยก่อนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากนาง"ลูกเรา"เขายื่นเด็กน้อยให้นาง มี่ฮวารับเด็กที่ร้องไห้จ้าตั้งแต่เมื่อครู่มาไว้ในอ้อมแขน โอ๋กล่อมด้วยความรักใคร่"ตั้งชื่อว่าอะไรดีเจ้าคะ" นางถาม สามีใช้เวลาคิดครู่สั้นๆก่อนตอบเสียงนุ่มทุ้ม"เกอซือ"ได้ยินชื่อนั้นนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มให้

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 68 六十八

    ผ่านไปกี่คืนวันแล้วไม่รู้ตั้งแต่ซีจงจวินได้ร่างคืนมา เขาได้เป็นเทพเฝ้าประตูสวรรค์ดังเดิม ทุกวันทำงานตามปกติคล้ายเหตุการณ์เมื่อสี่สิบกว่าปี่ก่อนไม่เคยเกิดขึ้น"ข้ากลับมาแล้ว"ตะวันพึ่งลาลับขอบฟ้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา ร่างเทพอสูรบึกบึนก็มาโผล่หน้าประตูเรียบร้อย น้ำเสียงของซีจงจวินดูร่าเริงมาก ผิดกับตอนเช้าก่อนออกไปทำงานที่จะอิดออดถ่วงเวลาอยู่นั่น"สำรับพร้อมแล้ว"ภรรยาผู้น่ารักเดินออกมาจากห้องอาหาร เนื้อตัวเป็นกลิ่นของคาวหวานคลุ้งไปหมด แต่สามีก็ยังวิ่งเข้ามาสวมกอดหอมฟัดนางเสียจนแทบล้มพับ"กินข้าวอาบน้ำก่อนซีจงจวิน"มี่ฮวาต้องรีบปราม ไม่เช่นนั้นนางจะไม่อาจหลุดจากอุ้งมือพันธนาการของสามีไปได้นับวันซีจงจวินยิ่งทำตัวเหมือนเป็นเด็กเข้าไปทุกที เขาชอบอ้อน ชอบเอาใจ จนบางครั้งมี่ฮวาก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนเขารู้ถึงตัวตนด้านนี้บ้างหรือเปล่าซีจงจวินยอมผละออกแต่โดยดี หลังจากถอดชุดเกราะออกแล้วก็มานั่งกินข้าว ไปอาบน้ำ เตรียมเข้านอนพร้อมภรรยาสุดที่รักแต่จะเรียกว่าเข้านอนเลยก็ไม่ได้เพราะก่อนหน้านั้นต้องมีกิจกรรมสำหรับคู่รักเสียก่อนซีจงจวินถึงจะยอมนอน"มี่ฮวา"สัมผัสจากปลายนิ้วสะกิดหลังเบาๆให้นางหันมาห

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 67 六十七

    เป็นจูบที่หวานที่สุดในชีวิตซีจงจวิน พอนางขยับเปิดปากเขาก็สอดลิ้นเข้าไปชิมรสชาติด้านใน กระหวัดเกี่ยวอย่างโหยหาเมื่อตักตวงจนมากพอแล้วมี่ฮวาผลักเขาออกเพื่อพักหายใจเล็กน้อย ดวงตายังสบประสานกันอย่างหวานฉ่ำ"เชื่อหรือยังว่าข้ารักเทพอสูรซีจงจวิน ไม่ใช่จงซีจ้านผู้นั้น"มี่ฮวารู้ว่าที่ซีจงจวินขอให้มหาเทพใส่จิตเขาลงไปในร่างของจงซีจ้านเพราะอะไรคนตอบพยักหน้าเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองนางอย่างเด็กน้อยที่กลัวจะถูกว่าเมื่อทำผิด"ข้า.. เห็นว่าเจ้ายอมนอนกับข้าในร่างจงซีจ้าน เลยคิดว่าหากอยู่ในร่างนั้นเจ้าอาจจะชอบมากกว่า"ซีจงจวินไม่มั่นใจในตัวเองเอามากๆเลยสินะ ถึงได้มีความคิดแบบนี้มี่ฮวาระบายลมหายใจยาว กระเถิบขึ้นไปนั่งบนตักสวมกอดเขาไว้แน่นๆ ซุกหน้ากับแผ่นอกอีกรอบ"ข้าไม่สนว่าจะอยู่ในร่างไหน ขอแค่เป็นท่านก็พอ""เจ้าไม่รังเกียจข้าแล้วใช่หรือไม่""ไม่เลย ข้ากลับชอบด้วยซ้ำเวลาที่ท่านกอดข้าแบบนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย"นางชอบมือทุกข้างที่มอบความรู้สึกหลากหลายให้ มันมีความรักเจืออยู่ในทุกการกระทำร่างกายทั้งคู่ที่แนบชิดบดเบียดกันสร้างความร้อนขึ้นมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กอดจากนางผู้เป็นที่รักเริ่มไม่เพียงพอเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status