ที่นั่นไม่ใช่สวรรค์ แต่ก็สรรค์สร้างอย่างหรูหราอลังการไม่แพ้กัน โรงแรมหกดาว ที่ชื่อว่า ‘พาราไดซ์ บีช’ ตลบอบอวลไปด้วยเสน่ห์แบบไทยจีนที่ผสมผสานอย่างลงตัว จนมีชื่อเสียงระดับเอเชีย
พาราไดซ์ บีช เป็นอาณาจักรติดริมทะเลที่ร่วมทุนสร้างระหว่างสองตระกูล ครึ่งหนึ่งเป็นของ ‘อัศวเดชดำรง’ และอีกครึ่งเป็นของ ‘วัชรเมฆ’ ใกล้กันนั้นคือห้างสรรพสินค้าใหญ่ยักษ์ที่รวบรวมทุกแบรนด์สินค้าชั้นนำของโลกเอาไว้ โดยมีชื่อเดียวกันคือ ห้างพาราไดซ์
บนเตียงขนาดบิ๊กไซด์ในห้องสูทหรู อากาศเย็นสบายของอุณหภูมิห้องที่ถูกปรับไว้อย่างดี ผสานกับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกุหลาบ ผสมกับกลิ่นเนื้อสาวสุดเย้ายวน ยิ่งทำให้บรรยากาศไม่แพ้สวรรค์ ขณะสองร่างเปลือยเปล่ายังคงนอนก่ายกอดกันอย่างแนบแน่น แม้แววตาของฝ่ายชายจะเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความสุขของอิสตรีผู้มีความสวยเป็นอาวุธลดน้อยลงไปด้วย
เธอไม่เคยเห็นรอยยิ้มที่อ่อนล้าและสีหน้ารำคาญของเขาแม้เสี้ยววินาที นั่นเพราะเขาไม่ต้องการให้เธอได้เห็นมัน
“คุณธารคะ เรายังไม่ได้ไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกันเลยนะคะ”
เจ้าหล่อนทวงเป็นครั้งที่ร้อยเห็นจะได้ แต่เขายังคงวางเฉย อ้างโน่นนี่สารพัด สำหรับธารเทพแล้ว แก้วกัลยาเป็นเพียงสิ่งของอย่างหนึ่งที่เขาต้องแย่งมาจากเจ้าของเดิมเท่านั้น
“ช่วงนี้ผมยังไม่ค่อยว่าง คุณก็เห็นว่างานผมมันเยอะแค่ไหน”
เธอถอนหายใจระอา ผงกหัวขึ้นมองว่าที่สามีในทางกฎหมายที่เธอได้เป็นสามีในทางปฏิบัติมานานนับปี เธอไม่สงสัยเลยว่าเธอดีแค่ไหนสำหรับผู้ชายคนนี้ ผู้หญิงสวย ฐานะดี มีการศึกษา จบนอก เป็นลูกสาวนายพล ครบครันอย่างเธอ ถ้าไม่รีบคว้าไว้ก็โง่เต็มทน
“เวลาของคุณเป็นของแก้วนะคะ ถ้าแก้วอยากได้เมื่อไหร่ คุณก็ต้องให้สิ” เธอทวงสิ่งที่เขาเคยพูดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อหกปีก่อน ก่อนที่เธอจะไปเรียนที่อังกฤษถึงห้าปีเต็ม และหนึ่งปีที่กลับมา ใช้เวลาอย่างเต็มที่กับผู้ชายคนนี้ ก่อนที่เจ้าพ่อจะตาย อยู่กันแบบลับๆ แต่พอสิ้นท่านและมรดกอยู่ในกำมือของเขาแล้ว ธารเทพและแก้วกัลยาก็เปิดเผยทุกอย่างให้โลกรู้
“อย่าลืมสิคะ ว่าแก้วต้องทนให้คนมอง ว่าเป็นผู้หญิงหลายใจ ทิ้งคู่หมั้นที่หมดอนาคต แล้วมาแต่งงานกับพี่ชายของคู่หมั้น”
“ผมรู้น่า” เขาจูบหน้าผากเธอแรงๆ “คุณเองก็ควรเข้าใจเอาไว้ ว่าผมเองก็กล้ำกลืนกับเรื่องนี้ไม่น้อยไปกว่ากัน หากไม่เพราะรักคุณมากกว่าชีวิต และห่วงว่าคุณจะลำบากในอนาคต ผมก็จะไม่แตะต้องคุณเด็ดขาด”
“แก้วเองก็รักคุณค่ะ ไม่ใช่เพราะเจ้าสัวยกมรดกทั้งหมดให้คุณหรอกนะคะ แต่เพราะคุณคือคนที่ใช่สำหรับแก้วจริงๆ”
เหรอ...ชายหนุ่มยิ้มนิดๆ ก่อนจะบรรจงจูบริมฝีปากช่างฉอเลาะอย่างดูดดื่ม หนักแน่น รุนแรงราวกับจะฉกดึงความร้ายกาจของเจ้าหล่อนออกมาเสียให้หมด เมื่อผละจาก สองสายตาก็ประสานกัน เมื่อเขาจะจูบซ้ำ เจ้าหล่อนแสร้งเบี่ยงหลบอย่างมีชั้นเชิง
“คุณน่ารักจริง ๆ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “ถึงว่า ไอ้เหยี่ยวถึงได้รักคุณมาก”
เจ้าหล่อนถึงกับสะอึกเมื่อได้ยินชื่อนี้
“จริงสิคะ นี่ถ้าเกิดเหยี่ยวเขาออกมาจากคุก เราจะทำยังไงกับเขาคะ เขารักแก้วมาก เขาอาจจะทำเรื่องที่เราคาดไม่ถึงก็ได้นะ”
“ไม่หรอก เขามีแต่ตัว จะทำอะไรได้ ชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับผม เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติทั้งหมดนี่แล้ว ถ้าเขากล้าทำร้ายคุณหรือใคร ผมไม่เอาเขาไว้แน่ คุณไม่ต้องกลัวนะ ทำใจให้สบายจะดีกว่า”
“แล้วเมื่อไหร่เหยี่ยวจะออกจากคุกคะ นี่ก็หลายปีมาแล้วนะคะ”
เธอไม่เคยนับด้วยซ้ำ ธารเทพยิ้มมุมปาก
“ไม่ใช่วันนี้ก็แล้วกัน”
“พูดไป เราก็ใจดำกับเขามากนะคะ” เธอผละจากอกกว้างของชายหนุ่ม แล้วนั่งหันหลังให้เขา ใช้มือสางผมที่ยาวสลวยไปด้วย “เราไม่เคยไปเยี่ยมเขาเลย ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง...”
ธารเทพลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียนของเจ้าหล่อน
“คุณเป็นห่วงเขาเหรอ ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไปหาเขาที่เรือนจำสิ”
แก้วกัลยาส่ายหน้าเร็วๆ
“ไม่เอาหรอก แก้วสาบานว่าจะไม่ไปในที่แบบนั้นอีกแล้ว มันน่ากลัว น่าขนลุก อีกอย่าง แก้วทำใจไม่ได้ ผู้หญิงเพียบพร้อมอย่างแก้วมีคู่หมั้นเป็นคนขี้คุก รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั่น” ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นนั่ง สวมกอดเจ้าหล่อนจากด้านหลัง เขาซบจูบตามต้นคอระหงอย่างรุนแรง นั่นเพราะเธอชอบอะไรประมาณนี้
“แล้วกับผมล่ะ”
คนที่เธอไม่เคยมอง เมื่อครั้งที่เจ้านั่นยังอยู่ข้างนอก
“คุณเป็นคนเก่ง มีความสามารถรอบด้าน ถ้าคุณพ่ออยากให้ลูกสาวใช้นามสกุลอัศวเดชดำรง คุณคือคนที่เหมาะสมที่สุดค่ะ”
“ผมกับมัน ใครดีกว่า” เพราะเขาชอบเปรียบเทียบตัวเองกับน้องชายเสมอ และกรรมการตัดสินสำคัญมีอยู่ด้วยกันสองคน หนึ่งนั้นตายไปแล้ว ส่วนอีกหนึ่งอยู่ตรงนี้
“ก็ย่อมเป็นคุณ”
“ถ้ามันไม่ติดคุกเสียก่อน”
เจ้าหล่อนนิ่งไปนิด แน่นอน ย่อมเป็นเขา ทั้งรูปทรัพย์และสถานะอันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เขาต้องสืบทอดกิจการพันล้านของบิดาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ มันไม่ใช่อย่างนั้นและจะไม่มีวันเป็นเช่นนั้นด้วย เจ้าหล่อนหัวเราะระริก หมุนใบหน้ากลับมาเพื่อจะจูบชายหนุ่มที่กุมอำนาจขณะปัจจุบัน
“ก็ถ้าคุณรักและทุ่มเทให้ฉันเหมือนที่ผ่านมา ต่อให้ผู้ชายคนนั้นมายืนอยู่ตรงปลายเตียงของเราในวินาทีนี้ ฉันก็จะเลือกคุณค่ะ” เขายิ้มมุมปาก ดวงตาวิบวับราวกับเพชรต้องแสงตะวัน เขาควรจะดีใจไหม ที่ได้เลือกผู้หญิงฉลาดอย่างแก้วกัลยามาร่วมชีวิต
“แม้ผมจะไม่ได้อะไรจากคุณพ่อเลย อย่างนั้นหรือครับ” เขาพอจะรู้คำตอบ เธอจะบอกเขาด้วยเสียงหนักแน่นว่าใช่ นั่นเพราะตอนนี้เขากุมอำนาจและมีสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดของเจ้าพ่อ เธอกระโดดเข้าหาอ้อมกอดของเขาทันทีที่รู้เรื่องนี้...ทั้งที่ก่อนหน้านี้...ใช้ร่างกายของเขาเป็นที่ระบายความใคร่...ที่เขาสนองตอบก็เพียงเพราะมันสะใจดี ไม่ได้โง่เง่าเชื่อคำที่เจ้าหล่อนปั่นหัว
“หมดเวลาเยี่ยมแล้ว ผมไปก่อนนะ อย่าลืมจดหมายล่ะ” ชายหนุ่มลุกจากไปต่อหน้าต่อตา หญิงสาวเกือบจะตะโกนเรียกเขาไปแล้วถ้ายั้งปากเอาไว้ไม่ทัน ในที่สุด เธอก็ต้องตัดใจว่ามีเวลาแค่นี้จริงๆ เธอบอกตัวเองว่าจะต้องมาเยี่ยมเขาใหม่ในเร็วๆ นี้หญิงสาวเดินออกจากเรือนจำ โดยธารเทพรอเธออยู่ที่รถ“เป็นไงบ้างฟ้า”“เขาสบายดีค่ะ”ธารเทพพยักหน้า“อาทิตย์หน้าผมจะไปเซี่ยงไฮ้ คุณจะไปเยี่ยมแม่กับคุณลุงไหม”“ไปสิคะ ฉันคิดถึงพวกท่านจะแย่อยู่แล้ว” หญิงสาวยิ้มสดใส แม้ข้างในจะหมองมัว แต่เธอก็ไม่ยอมทำให้คนรอบข้างของเธอต้องเป็นทุกข์ไปด้วย เธอจะอดทนและต่อสู้กับเวลาห้าปี เพื่อรอคอยชายหนุ่มผู้เป็นที่รักกลับมาบ้านอีกครั้งห้าวันต่อมา ฟ้าอำไพก็ต้องแปลกใจเป็นล้นพ้น เมื่อเธอได้รับจดหมายจากเรือนจำ ซึ่งเป็นข้อความจากชายหนุ่ม เธอรีบบึ่งรถไปที่นั่นทันทีหญิงสาวจอดรถตรงที่เดิม ที่ๆ เธอเคยมาจอดรอเขาเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว หัวใจของเธอเต้นรัวไปหมดเมื่อได้เห็นชายหนุ่มเดินออกมาจากเรือนจำพร้อมกับเป้สะพายใบเขื่อง เธอต้องตาฝาดไปแน่ๆ ที่ได้เห็นภาพนี้หลังจากที่เธอมาเยี่ยมเขาเมื่อหกวันก่อน“เป็นไปไม่ได้”ฟ้าอำไพก้าวลงจากรถ วิ่งข้ามถนนไปหาชายหน
“คุณนะเหรอจะออกมาหาฉัน คุณยกเรือนหอ และตลาดให้แม่นั่นไปแล้ว คุณได้แสดงให้ฉันเห็นแล้วว่าคุณไม่ได้ต้องการฉันจริงๆ แต่คนที่คุณอยากได้เป็นเมียคือนังฟ้าต่างหาก”“ผมไม่เคยคิดจะแต่งงานกับฟ้า ผมแค่สงสารเธอเท่านั้น แต่คนที่ผมต้องการคือคุณนะแก้ว”“แต่ฉันไม่ต้องการคุณอีกต่อไปแล้ว คนขี้คุกและยากจนข้นแค้นอย่างคุณ ไม่มีใครโง่รอหรอก ฉันจะเลิกกับคุณตั้งแต่วันนี้แหละ เชิญคุณอยู่ในคุกให้สบายอุราไปเลยนะคะ ส่วนฉัน คงต้องแต่งงานกับคนอื่น สวัสดี”หญิงสาวลาจากเขาด้วยสายตาหยามเหยียด ชายหนุ่มยิ้มอ่อนๆ ไม่ได้มองตามเจ้าหล่อนไปให้เสียเวลา เขารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ คำตอบที่ไม่ต้องคาดเดาอะไรให้เหนื่อย ชายหนุ่มเพียงแค่พยักหน้าให้พี่ชายเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเดินจากไปอีกคนการกลับเข้ามาอยู่ในคุกอีกครั้ง ทำให้ชายหนุ่มจำต้องพยายามวางตัวนิ่งเฉยและสงบกับชีวิตที่แสนวุ่นวายของตัวเองให้ได้ แม้ในใจจะร้อนรุ่มสักแค่ไหนก็ตาม เขาบอกตัวเองว่าไม่ได้นับคืนนับวันที่ผันเปลี่ยน เพื่อรอคอยให้ใครบางคนมาหาเขาที่หน้าลูกกรง แน่นอน เรื่องที่เขาอยากเจอกับเธอมากที่สุด แต่เขาจะทำใจได้หรือไม่ หากเธอมาเพื่อบอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้ายฟ้าอำไพม
“ผมมาส่งรถให้กับเจ้าของบ้านครับ”แก้วกัลยามองรถเก๋งคันงาม ราคาหลายสิบล้านด้วยความแปลกใจ หากเมื่อนึกได้ว่าต้องเป็นฝีมือของไพรัลย์แน่ๆ เธอถึงกับฉีกยิ้มจนแก้มปริ“ยัยปลา มาดูนี่ คุณเหยี่ยวเขาซื้อรถให้ฉัน”บุญจิราเบื่อที่จะต้องอิจฉาริษยาเพื่อนเต็มทีแล้ว เธอเดินมาดูรถด้วยความเซ็ง ความสุขของเพื่อนถือเป็นความปวดร้าวของเธอจริงๆ“คุณฟ้าอำไพใช่ไหมครับ” เจ้าหนุ่มคนนั้นกล่าวถาม “ถ้าใช่ ก็กรุณาเซ็นรับด้วยครับ”เพียงแค่นั้น ทั้งแก้วกัลยาและบุญจิราถึงกับหยุดกึก แก้วกัลยารีบกระชากแผ่นพลาสติกที่รองเอกสารสำคัญการซื้อขายรถมาดูเพื่อให้แน่ใจ“อะไรกันนี่ ทำเป็นชื่อนังฟ้าล่ะ”“ก็นี่เป็นชื่อของเจ้าของบ้านหลังนี้นี่ครับ”หนุ่มส่งรถตอบหน้าซื่อ บุญจิราเอาเอกสารจากมือเพื่อนไปดูบ้าง เมื่อได้อ่าน เธอถึงกับหัวเราะขบขัน“ฉันนึกแล้วเชียว ว่าจะมีใครหน้าโง่ ยอมแต่งงานกับคนที่ทรยศหักหลักตัวเองได้ ยัยแก้วเอ๊ย แกลองเช็คให้ดีๆ สิว่าบ้านหลังนี้ยังเป็นชื่อของแกจริงรึเปล่า”แก้วกัลยาทำหน้าแทบไม่ถูก เธอทั้งอับอาย ทั้งโกรธและทั้งหวาดกลัวว่าอาจจะเป็นเรื่องจริง ดังนั้น เธอจึงรีบโทรศัพท์ไปหาชายหนุ่มด้วยความร้อนใจทันที“ทำไมไม่รับส
“ผมเข้าใจคุณนะฟ้า แต่ถึงยังไง คุณต้องไปกับผมอยู่ดี”ลูกน้องของเขา เตรียมตะครุบเธอกลับมาให้เขา หลังจากที่เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นในรถคันนั้นยังคงระอุ เพราะคนขับอารมณ์ยิ่งเดือดดาลมากขึ้น นิมิตแทบไม่รู้สึกสำนึกในความหวังดีของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่ามัสยาจะยัดเหตุผลกลใดมาก็ตาม“แกคิดจะทำยังไงต่อ”เพราะนิมิตไม่คิดจะหยุดรถเลยแม้แต่น้อย“ฉันยังคิดไม่ออก”หญิงสาวอ้าปากค้าง เธอพยายามคิดหาทางออก ด้วยความร้อนใจเป็นที่สุด นิมิตไม่รู้เลยว่าได้ถูกติดตามมาห่างๆ ตอนนี้ ในหัวของเขาวุ่นวายไปหมด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แต่ที่แน่ๆ เขายังปล่อยตัวประกันลงจากรถไม่ได้ จนกว่าจะนึกแผนต่อไปออก“แกไม่รู้ใช่ไหมว่าจะเอายังไงต่อ”“ใช่”“ฉันคิดแล้วเชียว แกนี่มันจริงๆ เลย ทำไมแกโง่อย่างนี้ การแก้แค้นมีตั้งหลายวิธี ทำไมแกไม่รู้จักใช้สมองบ้าง ถ้าเป็นฉันหน่อยละไม่ได้” มัสยาบนไปอย่างนั้นเอง แต่ทำให้นิมิตเกิดจุดประกายขึ้นมา“ฉันรู้แล้ว” หนุ่มหน้าหวานตาลุกวาว “ฉันจะจับตัวแกไว้แล้วเรียกค่าไถ่หมอนั่น”“อะไรนะ” เสียงดังไปทั้งรถ “แกบ้าไปแล้วแน่ แกคงไม่รู้ว่าหมอนั่นเกลียดฉันยังกับอะไรดี บาทเดียวเขาก็ไม่ให้แก”มัสยาได้แต่ส่ายหน้ากั
“มันต้องมีทางออกแน่” ในสมองของเขากำลังวิ่งเร็วกว่าความเร็วของรถเสียอีก นั่นเพราะมันกำลังวิ่งไปหาความจริงบางอย่าง ที่ถูกหมกเม็ดซ่อนเร้นไว้เนิ่นนาน เขาควรจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เขารู้ดี เขาไตร่ตรองครุ่นคิดจนเมื่อถึงทางแยกหนึ่ง เขาเบรกรถดังเอี๊ยด รถอีกคันจอดตามหลัง จากนั้นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นลงจากรถมาเคาะกระจกรถของเขา ชายหนุ่มเลื่อนให้“มีอะไรรึเปล่า”มีแน่...เขาหัวเราะหึๆ ในลำคอ ก่อนเงยหน้ามองเพื่อน“เราหนีกันไหม”พิเภกขมวดคิ้ว เหมือนจะคิด แต่ไม่ได้คิดเลย“นายคิดว่าดีเหรอ”เช่นกัน ไพรัลย์แทบไม่ต้องคิดเลย“ไม่ดีหรอก ไม่ดีเลย” ชายหนุ่มมองไปข้างหน้า ซึ่งเป็นถนนที่คดเคี้ยวสู่หุบเหวซึ่งเป็นเส้นทางที่น่าหวาดเสียวที่สุด “พวกนาย ยอมรับแผนสุดท้ายจากหัวหน้า ขับรถตกเหว รถระเบิด พวกนายตายหมด”“อะไรนะ” พิเภกกลืนน้ำลาย “นายกำลังคิดจะทำอะไร”ไพรัลย์พยักหน้ากับตัวเอง เขาแทบไม่ต้องคิดเลย เพราะนี่คือแผนสำรองที่เขาคิดไว้ตั้งเนิ่นนานมาแล้ว หากแต่ไม่เคยคิดว่าจะต้องใช้“พวกนายหนีไปให้หมด แยกย้ายกันไป”พิเภกหน้าเครียด ขยับใบหน้าเข้าใกล้ชายหนุ่ม“แล้วนายล่ะ”“ที่เหลือ ฉันรับผิดชอบเอง”“หมายความว่าไง?” แน่นอน พิเภก
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้วะ” เขาปวดหัวจนต้องยกมือขึ้นกุมขมับ “คุณเป็นลูกสาวของเขาอย่างนั้นหรือฟ้าฟ้า ตลกแล้ว ผมควรจะจับเขาส่งเรือนจำตอนนี้ดีไหม ผมจะได้เป็นอิสระไง”ไม่มีทาง เขาทำไม่ลงแน่ เพ็ญศรีกำลังจะตาย และเธอต้องการเขา ผู้ชายที่ถูกเพื่อนใส่ร้ายจนต้องเข้าคุกมานานเกือบสามสิบปี เขาออกมาอีกครั้ง เพื่อจะมาพบเมียและลูก ไม่ได้ออกมาตามล่าชีวิตของเพื่อนๆ ที่ถูกฆ่าตายไปเพราะฝีมือของคูหูชั่วๆ นั่น“ผมจะทำยังไงดี” เหลือเวลาอีกไม่กี่วันเขาก็จะหมดสัญญาว่าจ้าง เขาต้องกลับไปเรือนจำเพื่อชดใช้กรรมที่ไม่ได้ก่อต่อไปอีกห้าปี หลังจากนี้ไป เขาคงไม่ได้เจอหน้าเธออีกนาน“เราปล่อยเขาไปแบบนี้ ถ้าพวกนั้นรู้เข้าจะรุมกระทืบเราไหมวะ” การที่เขาทรยศต่อเพื่อนๆ ของเขาเอง มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย แล้วเขาจะทำอย่างไรดี สมองที่เหนื่อยล้าของเขาควรแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ดีที่สุดใช่ไหม ให้ดีกับทุกฝ่ายด้วย และยุติธรรมกับทุกคน!!!!“คุณธารเทพ หายไปไหนมาคะ ทำไมพึ่งมา”ทันทีที่ธารเทพเปิดประตูห้องพักเข้ามา เขาไม่ได้มองหน้าฟ้าอำไพเลย เขาเอาแต่จ้องมองผู้ชายคนนั้น คนที่น้องชายตัวแสบของเขาบอกว่าให้พาหนีไป“ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับฟ้าหน่อ