ฝ่ายหนึ่งอาการสาหัสปางตาย ฝ่ายหนึ่งถูกคุมคาม------------------------เมื่อเสียงรถบรรทุกดังไกลออกไปแล้ว จ่าแดงจึงรีบวิ่งออกจากแอ่งตมที่เป็นโพรงแคบๆ ใกล้ริมบึงที่มีบัวหลวงขึ้นอยู่เต็ม หากมองไกลๆ ในความมืดเหมือนปลักเลนเป็นหย่อมเป็นหย่อม ทำให้กลุ่มมือสังหารไม่ทันได้สังเกตลูกน้องของสุธนกระโดดข้ามคันนาถลามายังรถกระบะ ก้มมองหาเจ้านายไปรอบคันรถ เขาคิดว่าตอนนี้ชายหนุ่มน่าจะอาการสาหัสจนไม่ได้ยินเสียงเรียกชายกลางคนผู้นี้หน้าตาเต็มไปด้วยโคลนกระวนกระวายใจร้อนรุ่มกลัวว่าสุธนจะถูกลูกกระสุนจนเสียชีวิต เขาโบกมือเป็นสัญญาณให้รถที่กำลังแล่นบนถนนมองเห็น โชคดีว่ารถกระบะคันนี้หยุดข้างทางทันที ชายหนุ่มสองคนกระโจนลงคันนาแล้ววิ่งรี่ตรงมายังรถกระบะที่จ่าแดงกำลังมองหาร่างคนบาดเจ็บ หนุ่มฉกรรจ์ทั้งคู่ช่วยจ่าแดงยกรถเอียงไปด้านหนึ่ง จึงเห็นร่างชายหนุ่มนอนจมโคลนเปื้อนเลือดแดงฉาน ยังโชคดีที่หนึ่งหนุ่มรู้จักเพื่อนอาสาของหน่วยกู้ภัย จึงโทรเข้าไปหาหน่วยที่ใกล้ที่สุดมาช่วยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลร่างของสุธนถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด เขาถูกกระสุนปืนอาก้าถึงสิบนัด ลูกกระสุนนัดหนึ่งเข้าจุดสำคัญต
ทั้งสองคนประสบเคราะห์ต่างกรรม แต่ช่วงเวลาเดียวกัน------------------------สุธนกล่าวขอบคุณอีกครั้งสำหรับด้ายสายสิญจน์ผูกข้อมือ“พ่อหนุ่ม ระวังตัวด้วย” ชายชรามองหน้าเขาอย่างครุ่นคิด“ครับ...” เขาลุกขึ้นยืนก่อนหันหลังเดินออกไปยังประตูหน้าบ้าน“คุณกำลังมีเคราะห์!!!” พ่อปู่ส่งเสียงแหบแห้งเตือนชายหนุ่ม“ผมระวังตัวอยู่ ขอบคุณมาก” สุธนหันหลังกลับมายกมือไหว้อีกครั้ง ก่อนเปิดประตูบ้านเดินออกไปจ่าแดงเห็นเจ้านายของเขาเดินออกมาถึงประตูรั้วบ้าน จึงสตาร์ตรถไว้จากนั้นรีบเปิดประตูรถออกมายืนรอเปิดประตูด้านหลังให้ชายหนุ่ม“เป็นยังไงบ้างครับ” จ่าแดงถามขณะขับรถออกมาได้ครึ่งซอย“แล้วจ่า...คิดว่าใช่ไหมละ” เสียงถามกลับของเขาดูนิ่งเยือกเย็น“ครับ...ผมก็ว่าอย่างนั้น” จ่าแดงเป็นคนสนิทที่รู้ใจชายหนุ่มที่สุด เขาเคยได้ยินสุธนสมัยที่ยังเป็นรองผู้กำกับตำหนิอดีตภรรยาเก่าอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าบุศรินทร์ทำตัวไม่เหมาะสมอยู่หลายครั้ง สุธนยังให้เกียรติยกย่องเธอเป็นคุณนายของเขาต่อหน้าลูกน้องทุกคน“ผู้หญิงคนนี้...ทำแต่เรื่อง” เขาบ่นลอยๆ ก้มหน้าเขียนข้อความสั่งลูกน้องให้ร่างสำนวนออกหมายเรียกบุศรินทร์ เป็นผู้ต้องสงสัยลงมือกระท
ผู้ชายคนนั้นที่พ่อปู่เสกกระสุน 3 นัดใส่ประตูบ้าน------------------------อย่างไม่น่าเชื่อ...สุธนบังเอิญเจอบุศรินทร์ที่โรงแรมของไมตรี เขาแอบไปเห็นเธอ ขณะนั่งดื่มเหล้าอยู่ในห้องฟังเพลง แสงไฟเหลืองนวลสว่างรำไรมองเห็นหน้าคนในห้องไม่ค่อยชัด ทำให้อดีตภรรยาของเขาไม่เห็นว่าสุธนอยู่ในห้องแห่งนี้“น้อง... ผู้หญิงชุดสีม่วงนั้นมาที่นี่บ่อยไหม” เขาถามพนักงานเสิร์ฟสาวขณะกำลังเดินเข้าไปห้องน้ำ“อ๋อ...กิ๊กเฮียนะคะ”“ขอบใจมาก” เขายัดแบงก์พันใส่มือสาวเสิร์ฟสุธนสั่งให้สายสืบของหน่วยงานที่นี่เข้าคลาวด์เพื่อค้นร่องรอยประวัติของไมตรี ส่วนหมอดูออนไลน์คนนั้นเขายังประสานงานให้ทางหน่วยสืบสวนกลางที่โน่นคอยจับตา ไมตรีคือมาเฟียเครือข่ายใหญ่เว็บไซต์พนันออนไลน์จากที่โน่น เบาะแสการระดมทุนแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ของเว็บไซต์หมอดูออนไลน์แจ้งมาว่าเขามีส่วนพัวพันร่วมระดมทุนจากแวดวงไฮโซ“จ่าแดง...สะกดรอยเมียเก่าให้ผู้กำกับที” เขาสั่งลูกน้องคนสนิทซึ่งมีหน้าที่ขับรถให้คอยสืบข่าวบุศรินทร์ เธอเข้าไปพัวพันกับไมตรีตอนไหน...เขาไม่เคยรู้เรื่องเลยรุ่งขึ้นจ่าแดงมารายงานว่าบุศรินทร์เป็นคนช่วยระดมทุนแชร์ลูกโซ่ให้กับไมตรีนานเกือบสองปีแล้
สิ่งที่ชายหนุ่มคิด จะไม่มีวันเป็นไปได้------------------------ทั้งคืนสุธนคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงดีที่จะทิ้งสาวน้อยของเขาไว้ที่นี่อย่างปลอดภัย แม้ว่าหน่วยสืบสวนกลางจะส่งสายสืบคอยเฝ้าติดตามคนึงนิจก็ตาม“นิจ...สายสืบคนนี้ชื่อ เดฟ จะคอยเฝ้าตามเราห่างๆ ไม่ให้ผิดสังเกต และอย่าบอกใคร...สร้อยประคำของหลวงตาห้ามถอดเด็ดขาด จำไว้” เขายังสั่งเรื่องสร้อยเส้นนี้ไม่ให้เธอถอดวางไว้เด็ดขาด“ค่ะ...หนูจะท่องให้ขึ้นใจ” เธอพยายามทำให้เขาสบายใจ“พรุ่งนี้คุณพ่อเดินทางช่วงบ่าย...ตอนเช้าเราไปขอพรที่โบสถ์ใกล้ๆ นี้นะคะ” คำพูดประโยคนี้ทำให้สุธนพยักหน้า เขาสังหรณ์ว่าต้องมีเรื่องรุนแรงหลังจากเขากลับไปแล้วทั้งคู่เดินออกจากอพาร์ตเม้นท์ไปสองช่วงตึกจึงถึงโบสถ์น้อย กำลังมีพิธีมิสซาในวันอาทิตย์ สองคนมองหน้ากันว่าควรจะนั่งอยู่แถวหลัง สุธนจูงมือคนึงนิจไปนั่งแถวก่อนแถวสุดท้าย ซึ่งมีที่ว่างอยู่สองที่“คุณพ่อเคยไปโบสถ์ไหมคะ” เธอกระซิบข้างหูชายหนุ่ม“เคย...” เขาไม่อยากพูดต่อ“เหรอคะ...ดีไหม” เธอยังเอ่ยถามเบาๆ“ดีสิ...ทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี”สุธนนั่งหลับตาขอพรจากพระเจ้าให้เขาพ้นวิบากกรรมนานัปการ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อชีวิตส่วน
ความวุ่นวายกำลังบั่นทอนความสุข...ที่เพิ่งเริ่มต้น------------------------สุธนโทรมาบอกสาวน้อยของเขาในเช้าวันต่อมาว่า ต้องรีบบินกลับไม่สามารถอยู่ทำงานต่อได้ ลูกน้องที่สน.เขียนมาแจ้งที่ไลน์ว่าบ้านผู้กำกับถูกจู่โจมจากคนร้าย หน้าประตูกระจกถูกกระสุนเจาะตรงกลางเป็นรู...สามนัดชายหนุ่มให้รถสีดำคันที่มารับเขาเมื่อวานแวะมาดรอปเขาไว้ที่อพาร์ตเม้นต์ของคนึงนิจก่อน แล้วค่อยมารับไปส่งสนามบินตอนบ่ายของวันรุ่งขึ้นใบหน้าของผู้กำกับหนุ่มใหญ่ดูเซียวลงไปเหมือนคนไม่ได้นอนทั้งคืน เขาสั่งไม่ให้คนึงนิจออกไปไหนเด็ดขาดหลังกลับจากที่ทำงาน สาวน้อยเอ่ยอย่างกังวล“คุณพ่อ...ดูกังวลมากเลยค่ะ”“ใช่...ผมว่าเรื่องมันลามใหญ่โตแล้วเนี่ย”“อะไรหรือคะ”“เรื่องนี้...มันทำให้กลุ่มมาเฟียเริ่มไหวตัว” เขายังไม่อยากพูดอะไรให้เธอรับรู้มากไปกว่านี้ เกรงว่าสาวน้อยจะกังวล“มีอะไร...เขียนข้อความทิ้งไว้ที่ไลน์ผมได้ตลอด ผมว่างจะเปิดอ่าน ห้ามไปไหนกับใครเด็ดขาด แม้จะเป็นเพื่อนร่วมงาน” เขาเริ่มไม่ไว้ใจใครแล้ว แม้จะเป็นบริษัทที่คนึงนิจมาทำงานให้“เอ้า...แล้วถ้าต้องไปติดต่องานล่ะคะ” สาวน้อยมีสีหน้าพลอยกังวล“ให้ไปกับรถบริษัท ถ้าไปคนเดีย
ต้องเปลี่ยนที่พัก------------------------สุธนตกใจ...เห็นเลือดสีแดงจางๆ อยู่รอบส่วนนั้น เธอรีบลุกขึ้นเพื่อเอาผ้าขนหนูมาซับมันไว้“เป็นอะไรมากไหม ขอโทษนะ” เขารีบลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำตามมาดูอาการเธอที่เตียง“หนูน่าจะ...เลือดออกตั้งแต่วันแรก แต่...” เธอนึกได้ว่าเขาได้หยุดไปเพราะเธอร้องเจ็บ เธอสังเกตวันต่อมาเห็นมีเลือดติดอยู่ที่กางเกงในตอนกลับจากทำงาน“น่าจะเป็นช่วง period ของหนูค่ะ” เธอเปิดปฏิทินในมือถือที่บันทึกรอบเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนก่อน สาวน้อยวางแผนในใจ จริงๆ ยังไม่ถึงรอบของมัน แต่เธออยากหยุดเขาไว้ไม่ให้ล่วงเกินเธออีก“งั้น...มากินข้าวต้มแล้วเข้านอนเลย” เขากำลังอยากทำงานต่อ การสืบหาต้นตอยังไปไม่ถึงไหน หมอดูแถว Westminster นั้นไม่ได้มีแค่เจ้าเดียวมีหลายสำนัก หนึ่งในนั้นเขาได้ไปเยี่ยมถึงที่นั่นมาแล้ว Psychic Chris Shaman อยู่ในข่ายต้องสงสัย เขาจำเป็นต้องไปสืบหาข้อมูลที่นั่นอีกครั้งรุ่งเช้าคนึงนิจตื่นสายเพราะเธอยังได้หยุดพักจากความเห็นของแพทย์ที่โรงพยาบาลให้เธอพักงานได้หนึ่งสัปดาห์ สาวน้อยย่องลงจากเตียงออกไปดูเห็นสุธนฟุบหลับอยู่บนโซฟานั่งเล่นด้านนอก เธอเดินไปที่แพนทรีเล็กๆ หยิบ