Masukอันนาในชุดราตรีสีดำที่เผยให้เห็นเรือนร่างเย้ายวนดูโดดเด่นสะดุดตา เธอไม่ได้ตั้งใจจะแต่งตัวให้เซ็กซี่ขนาดนี้ แต่พลอยกับสมหญิงเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า
เมื่อเดินเข้ามาในผับ ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เธอ อันนารู้สึกอึดอัด แต่ก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ภายใต้ท่าทีที่เย็นชาและไร้อารมณ์ "เห็นไหมล่ะยัยอันนา บอกแล้วว่าแกสวย" สมหญิงที่เป็นสาวสอง แต่งตัวจัดเต็มไม่แพ้กันในชุดรัดรูปสีเงินเมทัลลิกวาววับ พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาให้บรรดาหนุ่มๆ ที่จ้องมองมาอย่างสนุกสนาน ส่วนพลอยในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ทั้งสวยและร้อนแรง ก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ "คืนนี้พวกเราต้องเป็นดาวเด่นของงาน!" แต่สำหรับอันนาแล้ว เธอไม่รู้สึกสนุกด้วยเลยสักนิด เธอเดินไปที่บาร์แล้วสั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แรงที่สุด บาร์เทนเดอร์ส่งแก้วให้พร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่เธอไม่สนใจ เธอดื่มมันหมดแก้วอย่างรวดเร็วราวกับจะดับไฟในใจที่กำลังลุกโชน "อันนา... พอแล้ว" สมหญิงพยายามจะห้าม แต่ไม่ทัน เธอสั่งแก้วที่สองทันที "อยากให้ฉันลืมความเจ็บปวด ก็ต้องดื่มให้เมาไม่ใช่เหรอ" อันนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา พลอยกับสมหญิงมองหน้ากันด้วยความเป็นห่วง พวกเธอไม่เคยเห็นอันนาเป็นแบบนี้มาก่อน ความรักครั้งแรกทำให้เพื่อนของเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน อันนาดื่มไปเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกมึนเมา เธอลุกขึ้นเต้นตามจังหวะเพลงที่เร่งเร้า โดยมีพลอยกับ สมหญิงคอยประกบไม่ห่าง ท่วงท่าที่อ่อนช้อยแต่แฝงไปด้วยความเย้ายวนของเธอสะกดทุกสายตาในผับ ผู้ชายหลายคนพยายามเข้ามาขอเต้นด้วย แต่เธอก็ปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดี ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกันอยู่นั้น อันนากลับรู้สึกเหมือนโลกหมุนคว้าง ภาพของมาร์คัสที่กำลังมีความสุขกับผู้หญิงคนอื่นผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลลงมาอาบแก้ม เธอหยุดเต้นและทรุดตัวลงกับพื้น ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าเวทนา พลอยกับสมหญิงรีบเข้ามาประคอง "อันนา! แกเป็นอะไร" "ฉัน... ฉันเจ็บ" อันนาพูดได้แค่นั้นแล้วก็แทบจะหมดสติไปในอ้อมแขนของเพื่อนทั้งสองแต่เธอจะยังคงนั่งประคองความเจ็บปวดเอาไว้อย่างที่สุด ความว้าวุ่นในใจของอันนายังไม่ทันคลายดี สายตาคมกริบคู่เดิมที่เธอเพิ่งหลบเลี่ยงไปเมื่อครู่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาเดินตรงมาหาเธอพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ขอโทษนะครับ พอดีผมเห็นคุณนั่งอยู่คนเดียว" ชายหนุ่มเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มชวนฟัง "ไม่ทราบว่ามีใครนั่งข้างคุณหรือยังครับ" อันนาเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกใจเล็กน้อย เธอหันไปมองหน้าสมหญิงกับพลอยเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เพื่อนทั้งสองกลับส่งสายตายิ้มกริ่มมาให้แทน อันนาจึงจำเป็นต้องตอบออกไปเอง "เพื่อนฉันนั่งอยู่ค่ะ" อันนาตอบเสียงแผ่วเบา "แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้มาคนเดียวด้วย" "อ้อ งั้นเหรอครับ" ชายหนุ่มยังคงยิ้มอย่างไม่ลดละ "แต่ดูจากสายตาของคุณแล้ว ผมว่าคุณไม่ได้มาเพื่อสนุกสนานกับเพื่อนแน่ๆ เลย" คำพูดของเขาทำให้อันนาถึงกับนิ่งอึ้ง เธอรู้สึกเหมือนถูกมองทะลุปรุโปร่งจนน่าอาย "คุณรู้ได้ยังไง" "เพราะผมก็เป็นเหมือนคุณไงครับ" เขาตอบอย่างเปิดเผย "ดูเหมือนว่าพวกเรากำลังหนีอะไรบางอย่างมา" จู่ๆ สมหญิงก็พูดแทรกขึ้นมา "นี่คุณ! คุณมาจีบเพื่อนฉันเหรอ" "ก็คงอย่างนั้นแหละครับ" ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเล "ผมชื่อคริสครับ เป็นเจ้าของผับที่นี่ ส่วนคุณ...."คริสกำลังจะถามต่อ แต่สมหญิงก็ชิงแนะนำตัว "ฉันสมหญิงค่ะ ส่วนนี่พลอย แล้วนี่ก็อันนา" สมหญิงแนะนำเพื่อนๆ ด้วยท่าทีสนิทสนมราวกับรู้จักกับคริสมานานแล้ว สมหญิงอยากให้เพื่อนมีตัวเลือก เพราะในวันข้างหน้าไม่รู้มาร์คัสจะทิ้งเพื่อนของเธอเพราะรักครั้งเก่าไหม "ยินดีที่ได้รู้จักครับ" คริสหันไปยิ้มให้อันนาอีกครั้ง "วันนี้ผมขอเลี้ยงเครื่องดื่มพวกคุณทุกคนนะครับ ถือเป็นการไถ่โทษที่ผมล่วงเกินเมื่อครู่"น้ำเสียงทุ้มต่ำชวนหน้าหลงไหล ใบหน้าหล่อเหลาแบบฝรั่ง ก่อนที่อันนาจะได้ปฏิเสธ สมหญิงกับพลอยก็รีบตอบตกลงในทันทีเพราะถ้ารออันนาคงชวดผู้ชายงานดีคนนี้แน่นอน คริสจึงหันไปสั่งเครื่องดื่มให้กับทุกคน ก่อนจะกลับมานั่งลงตรงข้ามกับอันนา ดวงตาคมกริบของเขายังคงจับจ้องไปที่เธอราวกับกำลังสำรวจอะไรบางอย่าง อันนาได้เข้าไปกระแทกใจของคริสอย่างจังเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนแววตาเศร้าได้ขนาดนี้ ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส อันนากลับรู้สึกอึดอัดอย่างประหลาด เธอไม่ชอบสายตาของคริสที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกค้นหาความลับบางอย่างที่เธอไม่อยากให้ใครรู้ และดูเหมือนประสบการณ์ของอันนาที่ิ่ิอ่อนด้อยกว่าผู้ชายอย่างคริส เธอไม่สามารถซ่อนความเศร้าภายใต้ใบหน้าและดวงตาสวยคู่นี้ได้เลย เมื่อค็อกเทลแก้วใหม่ถูกนำมาเสิร์ฟ คริสก็ยกแก้วขึ้นพร้อมกับพูดว่า "ดื่มนะครับ ผมหวังว่าวันนี้จะเป็นคืนที่ดีของคุณ และเราจะได้รู้จักกันในฐานะเพื่อนให้ม่" คริสที่ไม่ยอมปล่อยโอกาสทองที่จะได้ทำความรู้จักอันนา อันนาจำใจยกแก้วขึ้นดื่มพร้อมกับความรู้สึกที่สับสนภายในใจ เธอมาที่นี่เพื่อลืมเรื่องของมาร์คัส แต่การปรากฏตัวของคริสกลับทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงอีกครั้งหนึ่ง เธอไม่รู้ว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีหรือเปล่า หรือเป็นเพียงแค่เรื่องราวที่ซ้ำรอยเดิมที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของเธออีกครั้ง "คุณอันนามีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า ขอผมเป็นเพื่อนที่รับรู้ความรู้สึกที่หนักอึ้งมันได้หรือเปล่า" คริสเขาได้พูดตามสไตล์และแบบฉบับของเขาเขาถูกใจอันนาและอยากได้อันนามาครอบครองไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม อันนาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เธอรู้สึกเมามายแล้วมึนไปหมดแต่เธอยกกระดกแต่แอลกอฮอล์โดยไม่ได้ยินคำพูดใด ๆ จากคริส "ยัยอันนาให้มันเบา ๆ หน่อย เดี๋ยวก็เมาตายหรอก" พลอยที่เข้ามาห้ามเพื่อนรักที่เอาแต่กระดกแอลกอฮอล์แก้วแล้วแก้วเหล้าจนสภาพของเธอตอนนี้แทบจะนั่งไม่อยู่ ในจังหวะนั้นเอง... มาร์คัสที่ตามหาอันนามาตลอดทั้งคืนก็มาถึงผับ เขาเห็นกลุ่มคนมุงอยู่จึงรีบเดินเข้าไปดู ก่อนจะพบภาพบาดใจของอันนาที่กำลังนั่งเอนไปสายมาอยู่ในชุดราตรีสีดำ ที่เผยให้เห็นสัดส่วนอย่างชัดเจนหน้าอก หน้าใจที่กลมกลึงแทบทะลักออกจากเต้า เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบอย่างรุนแรง "อันนา!" เขาร้องเรียกชื่อเธอด้วยความตกใจ รีบตรงเข้าไปช้อนตัวเธอขึ้นมาในอ้อมแขนทันที.... สายตาที่เยือกเย็นจ้องมองศัตรูหรือผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเมียตัวน้อยสภาพเมามายไปหน้าแดงกล่ำด้วยความโกรธมาร์คัสกำลังปลุกซาตานในตัวของเขาขึ้นมา.......เรื่องในคืนนั้นที่ผ่านมาผ่านมาแล้วเกือบสองเดือนกว่า อันนาที่สอบเทอมสุดท้ายจนเสร็จเรียบร้อยก็รอฟังผลว่าเธอจะสอบสำเร็จหรือติดตัวไหนบ้าง ความสัมพันธ์ของอันนากับมาร์คัสมันกลับมาเย็นชาดูเหมือนไร้หัวใจในทุกคืนอันนาแยกห้องนอนกับมาร์คัสนับจากวันที่ลาริสากลับมาและแสดงตัวว่าเป็นรักแรกของมาเทส ลลิสาพยายามปรากฏตัวทุกที่ที่มาคัดไปแม้อันนาจะไม่ได้ตามไปด้วยเธอก็พอรู้ว่าตอนนี้มาร์คัสกำลังพยายามเว้นช่องว่างระหว่างเธอและเขา"คืนนี้เธอนอนก่อนเลยนะไม่ต้องรอฉันแล้วก็กลับไปนอนที่ห้องของเธอได้ฉันอยากนอนคนเดียว" น้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาถูกพ่นออกมาจากปากหนา มาร์คัสที่พยายามตีตัวออกห่างอันนาเขาอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากขึ้นเพื่อเคลียร์หัวใจของตัวเอง "ค่ะ" อันนาตอบกลับเสียงเรียบ หลังจากเสร็จภารกิจบนเตียงมาร์คัสก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาใส่เธอ และไล่ให้เธอกลับมานอนที่ห้องและมันเป็นอย่างนี้เสมอมาตลอดสองเดือนกว่า ๆ หัวใจของอันนาเจ็บปวดเกินทนเธอหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาในทุกคืนและเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของของเธอเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงหรือรั้งเขาเอาไว้"อดทนสิอันนา อีกแค่ห้าเดือนสุดท้ายแค่ ห้าเดือนสุดท้ายเท่าน
มาร์คัสที่เห็นอันนาในสภาพที่โอนเอนไปมาอย่างน่าเวทนา หัวใจของเขาก็บีบรัดด้วยความเจ็บปวดและความโกรธที่ผสมปนเปกัน เขากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนเขากัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธกับคนตรงหน้าที่ไร้สติ ก่อนจะเดินตรงไปหาเธออย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจสายตาของใครก็ตาม"เฮ้ย! นี่คุณเป็นใคร" คริสที่กำลังพูดคุยกับอันนาอยู่เห็นมาร์คัสเดินเข้ามาด้วยสีหน้าคุกคามก็รีบเข้ามาขวางหน้าไว้ "คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำแบบนี้ในบาร์ผม"มาร์คัสหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคริส แล้วมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา "หลีกไปซะ ก่อนที่กูจะไม่มีความอดทน" น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยอำนาจ จนคริสรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา"นี่มันไม่ใช่เรื่องของคุณ" คริสยืนกรานเสียงแข็งที่จะไม่ให้มาร์คัสเข้าใกล้อันนา"นี่คือเมียกู ของกู!" มาร์คัสตะโกนเสียงดังลั่น แล้วผลักคริสออกไปอย่างแรง จนเขาล้มลงไปกองกับพื้น อันนาที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ก็ถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอส่ายหน้าไปมาอย่างเมามายด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และบวกกับความเสียใจสติของอันนาเธอไม่อยู่กับร่องกับรอย"ฮึก...เมีย...ฮึก...คุณไม่เคยเห็นอันนาเป็น..เมีย..." อันนาพูดพึมพำด้วยความเจ็บปวดคำพูดของอั
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่มาร์คัส จะรู้ว่าอันนาหายออกไปจากคฤหาสน์ ..ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส มาร์คัสที่เพิ่งจะกลับจากขับรถเล่นก็รู้สึกถึงความเงียบสงัดที่ผิดปกติป้าสมศรีที่มักจะคอยมารอรับมาร์คัสเป็นปกติทุกวันแต่วันนี้กลับดูมีบางอย่างพิรุธเปลี่ยนไปคือความเงียบสงบที่เงียบจนผิดปกติ"มีอะไรหรือเปล่าป้า อันนาล่ะนอนหรือยัง" มาร์คัสที่มาถึงก็ถามถึงอันนาเป็นคนแรกเพราะเขามีเรื่องให้คิดมากมายจนลืมโทรหาอันนาแต่พอกลับมาได้สติเขาก็รีบกลับมาที่คฤหาสน์เพราะเป็นห่วงร่างบาง"เออคือว่า.." ป้าสมศรีไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยว่าอันนาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงเที่ยงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ถึงที่คฤหาสน์"ป้ามีอะไรก็รีบพูดมาเถอะอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละฉันอยากไปพักผ่อน" มาร์คัสที่เห็นท่าทีของป้าสมศรีก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย"ฉันถามว่าอันนาอยู่ที่ไหน.!" มาร์คัสเริ่มพูดเสียงเข้มขณะที่นางปูก็อยู่ด้านหลังยืนตัวสั่นพอได้ยินเสียงที่ดุเข้มของมาร์คัส"คุณหนูอันนา ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลยค่ะนายท่าน" ป้าสมศรีก็บอกความจริงออกไปตามตรง"ป้าว่าอะไรนะ.!" มาร์คัสที่ได้ยินว่าอันนาไม่ได้อยู่ท
อันนาในชุดราตรีสีดำที่เผยให้เห็นเรือนร่างเย้ายวนดูโดดเด่นสะดุดตา เธอไม่ได้ตั้งใจจะแต่งตัวให้เซ็กซี่ขนาดนี้ แต่พลอยกับสมหญิงเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเดินเข้ามาในผับ ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เธอ อันนารู้สึกอึดอัด แต่ก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ภายใต้ท่าทีที่เย็นชาและไร้อารมณ์"เห็นไหมล่ะยัยอันนา บอกแล้วว่าแกสวย" สมหญิงที่เป็นสาวสอง แต่งตัวจัดเต็มไม่แพ้กันในชุดรัดรูปสีเงินเมทัลลิกวาววับ พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาให้บรรดาหนุ่มๆ ที่จ้องมองมาอย่างสนุกสนานส่วนพลอยในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ทั้งสวยและร้อนแรง ก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ "คืนนี้พวกเราต้องเป็นดาวเด่นของงาน!"แต่สำหรับอันนาแล้ว เธอไม่รู้สึกสนุกด้วยเลยสักนิด เธอเดินไปที่บาร์แล้วสั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แรงที่สุด บาร์เทนเดอร์ส่งแก้วให้พร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่เธอไม่สนใจ เธอดื่มมันหมดแก้วอย่างรวดเร็วราวกับจะดับไฟในใจที่กำลังลุกโชน"อันนา... พอแล้ว" สมหญิงพยายามจะห้าม แต่ไม่ทัน เธอสั่งแก้วที่สองทันที"อยากให้ฉันลืมความเจ็บปวด ก็ต้องดื่มให้เมาไม่ใช่เหรอ" อันนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพลอยกับสมหญิงมองหน้ากันด้วยค
วันนี้อันนาจึงอยากจะดื่มให้ลืมความทุกข์ที่เธอได้รับชีวิตของเธอมันบัดซบมากพออยู่แล้วเงินที่ มาคัสให้ตลอดสี่เดือนเดือนละแสนมันมากพอสำหรับที่เธอจะตั้งตัวใหม่ได้เลยวันนี้เธอจึงตัดสินใจหยิบบางส่วนออกมาใช้ก็คงไม่ผิด"งั้นวันนี้ฉันเลี้ยงเองนะ" อันนาเผยรอยยิ้มแต่มันก็ยังคงดูเศร้าในสายตาของเพื่อนอยู่ดีสามสาวพากันนั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้านของพลอยโดยที่อันนาไม่เดินทางกลับคฤหาสน์และมาร์คัสที่มัวแต่ยุ่งกับเรื่องของลลิสา ผู้หญิงที่เป็นคนส่งข้อความปริศนามาให้เขาจนลืมสั่งให้ราเชนทร์ตามติดมาดูอันนาส่วนราเชนก็ยุ่งกับงานใต้ดินของเจ้านายทุกคนต่างพากันลืมอันนาไปหมดมาร์คัสขับรถไปยังสถานที่นัดหมายที่ลลิสาเป็นคนบอกมา มันเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่เงียบสงบในซอยลึก ที่นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาชอบมานั่งกันบ่อยๆ สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย ภาพความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัวของมาร์คัสอย่างไม่ขาดสายเมื่อเดินเข้าไปในร้าน เขาก็เห็นลลิสานั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมสุด เธอสวยเหมือนเดิม...หรืออาจจะสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ ลลิสายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน"สวัสดีมาร์คัส"ลลิสาในชุดสีแดงเพลิงเหมือนแม่หม้ายกระดังงาลนไฟมาร์คัสเดินไปนั่งลงตรงข้ามเธอ "
เช้าวันนี้ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส บรรยากาศดูอึมครึมไปหมด อันนาก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าเหมือนคนอมทุกข์ ตลอดทั้งคืนเธอรู้สึกนอนไม่หลับ เพราะตอนนี้ในชีวิตของเธอเอาหัวใจไปผูกไว้ที่ข้อเท้าของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหนี้และสามีตีตราของเธอ“อันนามีอะไรหรือเปล่า” มาร์คัสพยายามพูดให้บรรยากาศทุกอย่างมันดีขึ้น ซึ่งเขาก็รู้ว่า เขาไม่จำเป็นต้องแคร์อันนาก็ได้ แต่ความรู้สึกของเขากลับไม่เป็นอย่างนั้น“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” อันนาเงยหน้าขึ้นแล้วฝืนยิ้ม ใบหน้าที่ซีดเผือดเพราะนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนจนร้องไห้ตาแดงบวม แม้จะถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอาง แต่ก็ยังมองออก“ทำไมตาบวมขนาดนั้นล่ะอันนา” มาร์คัสสังเกตไปที่ดวงตาสวยที่บวมเปล่งแทบจะปิด“สงสัยเมื่อคืนอันนานอนดึกมั้งคะ นอนไม่หลับน่ะ” อันนาพูดออกไปด้วยท่าทีไม่ได้คิดอะไร เพราะในใจตอนนั้นกำลังจมดิ่งกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น“ทำไมนอนไม่หลับล่ะ คิดถึงฉันหรือไง” มาร์คัสพยายามพูดหยอกเย้าให้อันนาอารมณ์ดี“ค่ะ อันนาคิดถึงคุณมาร์คัส” อันนารับสารภาพออกมาตรง ๆ เพราะเธอก็คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหาย ในเมื่อเธอรู้สึกว่าเธอรักมาร์คัสเข้าให้แล้วมาร์คัสที่ได้ยินคำตอบก็ถึงกับไป







