Masukเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่มาร์คัส จะรู้ว่าอันนาหายออกไปจากคฤหาสน์ ..
ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส มาร์คัสที่เพิ่งจะกลับจากขับรถเล่นก็รู้สึกถึงความเงียบสงัดที่ผิดปกติ ป้าสมศรีที่มักจะคอยมารอรับมาร์คัสเป็นปกติทุกวันแต่วันนี้กลับดูมีบางอย่างพิรุธเปลี่ยนไปคือความเงียบสงบที่เงียบจนผิดปกติ "มีอะไรหรือเปล่าป้า อันนาล่ะนอนหรือยัง" มาร์คัสที่มาถึงก็ถามถึงอันนาเป็นคนแรกเพราะเขามีเรื่องให้คิดมากมายจนลืมโทรหาอันนาแต่พอกลับมาได้สติเขาก็รีบกลับมาที่คฤหาสน์เพราะเป็นห่วงร่างบาง "เออคือว่า.." ป้าสมศรีไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยว่าอันนาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงเที่ยงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ถึงที่คฤหาสน์ "ป้ามีอะไรก็รีบพูดมาเถอะอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละฉันอยากไปพักผ่อน" มาร์คัสที่เห็นท่าทีของป้าสมศรีก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย "ฉันถามว่าอันนาอยู่ที่ไหน.!" มาร์คัสเริ่มพูดเสียงเข้มขณะที่นางปูก็อยู่ด้านหลังยืนตัวสั่นพอได้ยินเสียงที่ดุเข้มของมาร์คัส "คุณหนูอันนา ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลยค่ะนายท่าน" ป้าสมศรีก็บอกความจริงออกไปตามตรง "ป้าว่าอะไรนะ.!" มาร์คัสที่ได้ยินว่าอันนาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ก็ถึงกับต้องทวนคำเพราะตลอด สี่เดือนที่ผ่านมาอันนาไม่เคยเหลวไหล หรือจะไปที่ไหนก็จะต้องโทรหาเขาก่อนหรือต้องบอกกันขออนุญาตแต่วันนี้กลับหายเงียบไปแค่เขาไม่โทรหาเธอก็ไม่คิดจะโทรหาเขาเลยหรือไง "แล้วทำไมถึงไม่มีใครโทรรายงานฉัน" เขามองไปที่นาฬิกาบนผนัง ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของอันนา เขารู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก แล้วความรู้สึกผิดก็พุ่งเข้ามาในใจอย่างรวดเร็ว มาร์คัสรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาอันนาทันที แต่ก็ไม่มีใครรับสาย เขายังคงโทรซ้ำแล้วซ้ำเล่า "โธ่เว้ย.! เธอทำอะไรอยู่ที่ไหนของเธออันนา" มาร์คัสที่พูดสบถกับโทรศัพท์เครื่องหรูที่ดูแล้วไร้ค่าเพราะคนปลายสายไม่มีท่าทีจะรับโทรศัพท์เขาเลย แต่ก็มีเพียงแค่เสียงสัญญาณตอบรับอัตโนมัติเท่านั้น มาร์คัสเริ่มใจเสีย เขารู้แล้วว่าเขากำลังจะสูญเสียอันนาไปจริงๆ "ราเชนทร์!" มาร์คัสตะโกนเรียกชื่อบอดี้การ์ดคนสนิทเสียงดังลั่น "ครับนายท่าน" ราเชนทร์ปรากฏตัวขึ้นทันทีด้วยท่าทางที่รีบร้อนและเหล่าบรรดาบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกก็หันมามองเป็นตาเดียวกันนับยี่สิบคน ที่ยืนประจำการทุกคนได้ยินเสียงเข้มของมาร์คัสตะโกนเรียกก็รู้สึกขนลุกซู่เพราะน้ำเสียงเหมือนโกรธใครมา "เฮ้ยมึงว่าพี่ราเชนทร์จะโดนอะไรหรือเปล่าวะทำไมเสียงนายท่านถึงได้ดังขนาดนั้นหรือไปโกรธใครมาวะ" บอดี้การ์ดที่ยืนประจำทางเข้าหน้าบ้านได้ยินเสียงดังก็ถึงกับต้องหันมอง "กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะแค่กูได้ยินเสียงนายท่านกูก็ขนหัวลุกไปหมด" บอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งที่อยู่ฝั่งซ้ายก็ตอบกลับ "อันนาไปไหน" มาร์คัสถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธอย่างหัวเสีย ราเชนทร์อึกอักเล็กน้อย ก่อนจะตอบ "คุณ...คุณอันนาไปมหาวิทยาลัยเองครับตั้งแต่เช้าเพราะคุณมาร์คัสไม่ได้บอกให้ผมไปส่ง" "แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน! ทำไมฉันติดต่อเธอไม่ได้!" มาร์คัสตะคอกใส่ราเชนทร์อย่างเหลืออด ราเชนทร์หน้าซีดเผือด "ผม...ผมขอโทษครับนายท่าน...ผม...ผมไม่ได้ตามคุณอันนาไป" คำตอบของราเชนทร์ทำให้มาร์คัสถึงกับ กำหมัดแน่น เขาไม่พูดอะไรอีก แต่ก็รีบวิ่งออกไปจากคฤหาสน์ทันที มาร์คัสขับรถออกไปจากคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ในหัวของเขามีแต่ความหวาดกลัวและคำสาปแช่งตัวเอง เขาไม่รู้ว่าอันนาอยู่ที่ไหน และเขาก็ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เขาเพียงแค่หวังว่าเขาจะยังไม่สายเกินไปที่จะตามหาเธอให้เจอ มาร์คัสขับรถออกไปจากคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ในหัวของเขามีแต่ความหวาดกลัวและคำสาปแช่งตัวเอง เขาไม่รู้ว่าอันนาอยู่ที่ไหนและจะเป็นอย่างไรบ้าง เขาเพียงแค่หวังว่าจะยังไม่สายเกินไปที่จะตามหาเธอให้เจอ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหาราเชนทร์อีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดและเต็มไปด้วยความโกรธ "แกตามหาอันนาให้เจอเดี๋ยวนี้!" มาร์คัสสั่งเสียงหนัก "ใช้ทุกวิถีทางที่แกมี ตามสัญญาณจากโทรศัพท์ของเธอ แล้วรายงานฉันทันที!" "ครับนายท่าน" ราเชนทร์รับคำสั่งอย่างเคร่งเครียด ไม่นานหลังจากนั้น ราเชนทร์ก็โทรกลับมาด้วยน้ำเสียงที่รายงานอย่างรวดเร็ว "เจอนายท่าน! สัญญาณจากโทรศัพท์ของคุณอันนาอยู่ที่บาร์ของ คุณคริส ครับ เป็นลูก มหาเศรษฐี ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบาร์ร้านอาหาร" ราเชนรายงานทุกอย่างที่เขารู้และรีบแจ้งพิกัดส่งไปในข้อความส่วนตัวของมาร์คัส มาร์คัสไม่รอช้า เขารีบขับรถไปยังบาร์นั้นทันที ความกลัวในใจของเขาค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยความโล่งใจ แต่ก็ยังคงมีความโกรธที่ลุกโชนอยู่ในอก เพราะอันนากำลังทำตัวเป็นเด็กดื้อกับเขาอย่างท้าทาย เมื่อมาถึงบาร์หรู มาร์คัสก็ตรงดิ่งเข้าไปทันที สายตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างของอันนาที่กำลังเต้นรำอย่างสนุกสนานด้วยสภาพที่เมามาย กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อคนหนึ่งซึ่งหน้าตาดีรับใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้เขาอายุอานามก็ดูภูมิฐาน เธอหัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุขราวกับไม่เคยมีความทุกข์เลย ภาพที่เขาเห็นกับความเป็นจริงที่แตกต่างมาร์คัสจึงคิดว่าอันนามีความสุขแต่ในความเป็นอันนานั้นเหมือนกับรอยยิ้มที่พร้อมจะพลีชีพตัวเองตลอดเวลา มาร์คัสรู้สึกเหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบหัวใจของเขา มาร์คัส รู้สึกเหมือนโดนทรยศหักหลังจากคนที่เขาไว้ใจ เขากำหมัดแน่นแล้วเดินตรงไปที่อันนาอย่างรวดเร็ว "อันนา!" มาร์คัสตะโกนเรียกชื่อเธอเสียงดังลั่นท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดดังกระหึ่ม อันนาที่กำลังดื่มแอลกอฮอล์อย่างสุดโต่งสมองของเธอล่องลอยคิดว่าตัวเองหูแว่วได้ยินเสียงของมาร์คัส "ใครเรียกฉาน...." เสียงครางญาณของอันนาที่พยายามมองหาเจ้าของเสียงที่เรียกชื่อเธอ แค่เธอนั่งตอนนี้ก็ลำบากโยกไปโยกมาพลอยและสมหญิงที่ยังพอมีสติก็รู้แล้วว่าคนที่เรียกชื่ออันนาเสียงเข้มคือใคร ทั้งพลอยและสมหญิงยืนอยู่ก็ถึงกับสะดุ้งสุดตัว ทั้งสองหันไปมองมาร์คัสด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจและรู้สึกต่อว่ากับร่างสูงที่ทำให้เพื่อนของเธอต้องร้องไห้ขนาดนี้ แต่แล้วร่างของทั้งสองก็แข็งค้างทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของมาร์คัสที่กำลังโกรธจัด.....เรื่องในคืนนั้นที่ผ่านมาผ่านมาแล้วเกือบสองเดือนกว่า อันนาที่สอบเทอมสุดท้ายจนเสร็จเรียบร้อยก็รอฟังผลว่าเธอจะสอบสำเร็จหรือติดตัวไหนบ้าง ความสัมพันธ์ของอันนากับมาร์คัสมันกลับมาเย็นชาดูเหมือนไร้หัวใจในทุกคืนอันนาแยกห้องนอนกับมาร์คัสนับจากวันที่ลาริสากลับมาและแสดงตัวว่าเป็นรักแรกของมาเทส ลลิสาพยายามปรากฏตัวทุกที่ที่มาคัดไปแม้อันนาจะไม่ได้ตามไปด้วยเธอก็พอรู้ว่าตอนนี้มาร์คัสกำลังพยายามเว้นช่องว่างระหว่างเธอและเขา"คืนนี้เธอนอนก่อนเลยนะไม่ต้องรอฉันแล้วก็กลับไปนอนที่ห้องของเธอได้ฉันอยากนอนคนเดียว" น้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาถูกพ่นออกมาจากปากหนา มาร์คัสที่พยายามตีตัวออกห่างอันนาเขาอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากขึ้นเพื่อเคลียร์หัวใจของตัวเอง "ค่ะ" อันนาตอบกลับเสียงเรียบ หลังจากเสร็จภารกิจบนเตียงมาร์คัสก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาใส่เธอ และไล่ให้เธอกลับมานอนที่ห้องและมันเป็นอย่างนี้เสมอมาตลอดสองเดือนกว่า ๆ หัวใจของอันนาเจ็บปวดเกินทนเธอหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาในทุกคืนและเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของของเธอเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงหรือรั้งเขาเอาไว้"อดทนสิอันนา อีกแค่ห้าเดือนสุดท้ายแค่ ห้าเดือนสุดท้ายเท่าน
มาร์คัสที่เห็นอันนาในสภาพที่โอนเอนไปมาอย่างน่าเวทนา หัวใจของเขาก็บีบรัดด้วยความเจ็บปวดและความโกรธที่ผสมปนเปกัน เขากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนเขากัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธกับคนตรงหน้าที่ไร้สติ ก่อนจะเดินตรงไปหาเธออย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจสายตาของใครก็ตาม"เฮ้ย! นี่คุณเป็นใคร" คริสที่กำลังพูดคุยกับอันนาอยู่เห็นมาร์คัสเดินเข้ามาด้วยสีหน้าคุกคามก็รีบเข้ามาขวางหน้าไว้ "คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำแบบนี้ในบาร์ผม"มาร์คัสหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคริส แล้วมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา "หลีกไปซะ ก่อนที่กูจะไม่มีความอดทน" น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยอำนาจ จนคริสรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา"นี่มันไม่ใช่เรื่องของคุณ" คริสยืนกรานเสียงแข็งที่จะไม่ให้มาร์คัสเข้าใกล้อันนา"นี่คือเมียกู ของกู!" มาร์คัสตะโกนเสียงดังลั่น แล้วผลักคริสออกไปอย่างแรง จนเขาล้มลงไปกองกับพื้น อันนาที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ก็ถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอส่ายหน้าไปมาอย่างเมามายด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และบวกกับความเสียใจสติของอันนาเธอไม่อยู่กับร่องกับรอย"ฮึก...เมีย...ฮึก...คุณไม่เคยเห็นอันนาเป็น..เมีย..." อันนาพูดพึมพำด้วยความเจ็บปวดคำพูดของอั
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่มาร์คัส จะรู้ว่าอันนาหายออกไปจากคฤหาสน์ ..ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส มาร์คัสที่เพิ่งจะกลับจากขับรถเล่นก็รู้สึกถึงความเงียบสงัดที่ผิดปกติป้าสมศรีที่มักจะคอยมารอรับมาร์คัสเป็นปกติทุกวันแต่วันนี้กลับดูมีบางอย่างพิรุธเปลี่ยนไปคือความเงียบสงบที่เงียบจนผิดปกติ"มีอะไรหรือเปล่าป้า อันนาล่ะนอนหรือยัง" มาร์คัสที่มาถึงก็ถามถึงอันนาเป็นคนแรกเพราะเขามีเรื่องให้คิดมากมายจนลืมโทรหาอันนาแต่พอกลับมาได้สติเขาก็รีบกลับมาที่คฤหาสน์เพราะเป็นห่วงร่างบาง"เออคือว่า.." ป้าสมศรีไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยว่าอันนาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงเที่ยงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ถึงที่คฤหาสน์"ป้ามีอะไรก็รีบพูดมาเถอะอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละฉันอยากไปพักผ่อน" มาร์คัสที่เห็นท่าทีของป้าสมศรีก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย"ฉันถามว่าอันนาอยู่ที่ไหน.!" มาร์คัสเริ่มพูดเสียงเข้มขณะที่นางปูก็อยู่ด้านหลังยืนตัวสั่นพอได้ยินเสียงที่ดุเข้มของมาร์คัส"คุณหนูอันนา ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลยค่ะนายท่าน" ป้าสมศรีก็บอกความจริงออกไปตามตรง"ป้าว่าอะไรนะ.!" มาร์คัสที่ได้ยินว่าอันนาไม่ได้อยู่ท
อันนาในชุดราตรีสีดำที่เผยให้เห็นเรือนร่างเย้ายวนดูโดดเด่นสะดุดตา เธอไม่ได้ตั้งใจจะแต่งตัวให้เซ็กซี่ขนาดนี้ แต่พลอยกับสมหญิงเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเดินเข้ามาในผับ ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เธอ อันนารู้สึกอึดอัด แต่ก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ภายใต้ท่าทีที่เย็นชาและไร้อารมณ์"เห็นไหมล่ะยัยอันนา บอกแล้วว่าแกสวย" สมหญิงที่เป็นสาวสอง แต่งตัวจัดเต็มไม่แพ้กันในชุดรัดรูปสีเงินเมทัลลิกวาววับ พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาให้บรรดาหนุ่มๆ ที่จ้องมองมาอย่างสนุกสนานส่วนพลอยในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ทั้งสวยและร้อนแรง ก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ "คืนนี้พวกเราต้องเป็นดาวเด่นของงาน!"แต่สำหรับอันนาแล้ว เธอไม่รู้สึกสนุกด้วยเลยสักนิด เธอเดินไปที่บาร์แล้วสั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แรงที่สุด บาร์เทนเดอร์ส่งแก้วให้พร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่เธอไม่สนใจ เธอดื่มมันหมดแก้วอย่างรวดเร็วราวกับจะดับไฟในใจที่กำลังลุกโชน"อันนา... พอแล้ว" สมหญิงพยายามจะห้าม แต่ไม่ทัน เธอสั่งแก้วที่สองทันที"อยากให้ฉันลืมความเจ็บปวด ก็ต้องดื่มให้เมาไม่ใช่เหรอ" อันนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพลอยกับสมหญิงมองหน้ากันด้วยค
วันนี้อันนาจึงอยากจะดื่มให้ลืมความทุกข์ที่เธอได้รับชีวิตของเธอมันบัดซบมากพออยู่แล้วเงินที่ มาคัสให้ตลอดสี่เดือนเดือนละแสนมันมากพอสำหรับที่เธอจะตั้งตัวใหม่ได้เลยวันนี้เธอจึงตัดสินใจหยิบบางส่วนออกมาใช้ก็คงไม่ผิด"งั้นวันนี้ฉันเลี้ยงเองนะ" อันนาเผยรอยยิ้มแต่มันก็ยังคงดูเศร้าในสายตาของเพื่อนอยู่ดีสามสาวพากันนั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้านของพลอยโดยที่อันนาไม่เดินทางกลับคฤหาสน์และมาร์คัสที่มัวแต่ยุ่งกับเรื่องของลลิสา ผู้หญิงที่เป็นคนส่งข้อความปริศนามาให้เขาจนลืมสั่งให้ราเชนทร์ตามติดมาดูอันนาส่วนราเชนก็ยุ่งกับงานใต้ดินของเจ้านายทุกคนต่างพากันลืมอันนาไปหมดมาร์คัสขับรถไปยังสถานที่นัดหมายที่ลลิสาเป็นคนบอกมา มันเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่เงียบสงบในซอยลึก ที่นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาชอบมานั่งกันบ่อยๆ สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย ภาพความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัวของมาร์คัสอย่างไม่ขาดสายเมื่อเดินเข้าไปในร้าน เขาก็เห็นลลิสานั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมสุด เธอสวยเหมือนเดิม...หรืออาจจะสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ ลลิสายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน"สวัสดีมาร์คัส"ลลิสาในชุดสีแดงเพลิงเหมือนแม่หม้ายกระดังงาลนไฟมาร์คัสเดินไปนั่งลงตรงข้ามเธอ "
เช้าวันนี้ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส บรรยากาศดูอึมครึมไปหมด อันนาก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าเหมือนคนอมทุกข์ ตลอดทั้งคืนเธอรู้สึกนอนไม่หลับ เพราะตอนนี้ในชีวิตของเธอเอาหัวใจไปผูกไว้ที่ข้อเท้าของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหนี้และสามีตีตราของเธอ“อันนามีอะไรหรือเปล่า” มาร์คัสพยายามพูดให้บรรยากาศทุกอย่างมันดีขึ้น ซึ่งเขาก็รู้ว่า เขาไม่จำเป็นต้องแคร์อันนาก็ได้ แต่ความรู้สึกของเขากลับไม่เป็นอย่างนั้น“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” อันนาเงยหน้าขึ้นแล้วฝืนยิ้ม ใบหน้าที่ซีดเผือดเพราะนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนจนร้องไห้ตาแดงบวม แม้จะถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอาง แต่ก็ยังมองออก“ทำไมตาบวมขนาดนั้นล่ะอันนา” มาร์คัสสังเกตไปที่ดวงตาสวยที่บวมเปล่งแทบจะปิด“สงสัยเมื่อคืนอันนานอนดึกมั้งคะ นอนไม่หลับน่ะ” อันนาพูดออกไปด้วยท่าทีไม่ได้คิดอะไร เพราะในใจตอนนั้นกำลังจมดิ่งกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น“ทำไมนอนไม่หลับล่ะ คิดถึงฉันหรือไง” มาร์คัสพยายามพูดหยอกเย้าให้อันนาอารมณ์ดี“ค่ะ อันนาคิดถึงคุณมาร์คัส” อันนารับสารภาพออกมาตรง ๆ เพราะเธอก็คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหาย ในเมื่อเธอรู้สึกว่าเธอรักมาร์คัสเข้าให้แล้วมาร์คัสที่ได้ยินคำตอบก็ถึงกับไป







