มาร์คัสยังคงไม่หยุด เขาก้มหน้าลงดูดดุนติ่งเสียวของเธออย่างไม่ลดละ ราวกับกำลังลิ้มรสของหวานที่ถูกใจ ร่างกายของอันนาบิดเร่าไปมาด้วยความทรมานปนสุข เธอเกร็งไปทั้งตัว มือทั้งสองข้างจิกผ้าปูที่นอนแน่น
ในที่สุด เมื่อความเสียวซ่านมาถึงขีดสุด ร่างกายของอันนาก็กระตุกเกร็งเกร็งไปทั้งตัวก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำหวานออกมาเลอะหน้าของมาร์คัส ราวกับเป็นการบ่งบอกถึงจุดสูงสุดของความต้องการ มาร์คัสเงยหน้าขึ้นจากกลีบกุหลาบที่บอบช้ำ ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยธารน้ำหวานนั้น เขายกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ ดวงตาคมกริบจ้องมองอันนาที่นอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ยังไม่มอดดับ "หวาน..." มาร์คัสเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาลุกโชนกว่าที่เคย "เธอทำให้ฉัคลั่ง อันนา" มาร์คัสไม่รอให้อันนาได้พักหายใจ เขาประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ดูดกลืนทุกเสียงครวญครางและหอบหายใจของเธอ ความดิบเถื่อนและความเร่าร้อนของเขาไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย มือหนาข้างหนึ่งรวบร่างบอบบางของเธอให้แนบชิดกับกายแกร่ง อีกข้างหนึ่งจับเรียวขาของเธอให้ยกพาดบ่าอย่างไม่รีบร้อน "อื้อออ...!" อันนาพยายามดิ้นรน แต่ร่างกายที่อ่อนระทวยและประสบการณ์ที่ขาดหายไปทำให้เธอไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน มาร์คัสกดจูบลงมาอย่างหนักหน่วง ขณะที่ร่างกายของเขาก็ขยับเข้าใกล้และบดเบียดกับส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของเธอ ลมหายใจของทั้งคู่ผสมปนเปกันไปในความเงียบ มีเพียงเสียงเนื้อกระทบกันที่ดังขึ้นเป็นจังหวะ มาร์คัสบรรเลงเพลงรักที่ดุดันและเร่าร้อนกว่าครั้งไหนๆ เขาเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ราวกับต้องการจะกลืนกินเธอให้เป็นส่วนหนึ่งของเขา อันนาเจ็บปวดจนน้ำตาไหล แต่เสียงกรีดร้องของเธอกลับถูกกลืนหายไปในลำคอ และแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางที่ควบคุมไม่ได้ "คุณมาร์คัส...ฮึก...เจ็บ...เบาๆ...ได้โปรด..." อันนาพยายามอ้อนวอนเสียงขาดห้วง แต่คำขอร้องของเธอไม่ได้เข้าถึงโสตประสาทของเขาเลยแม้แต่น้อย "คุณมาร์คัสขา..ได้โปรดเมตตาอันนาด้วยเสียว...อ้าส์ อะ อะ อะ...คุณมาร์คัสขา." เสียงหวานครวญครางเราจะขาดใจเมื่อโดนแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ไซส์ 58 นิ้วของมาร์คัสทิ่มแทงเข้าออกจนมิดด้ามเมื่อมาร์คัสได้สติเค้าสัญญากับอันนาว่าจะอ่อนโยนกับเธอ มาร์คัสไม่ได้ตอบคำ เขายังคงรุกรานเธออย่างต่อเนื่อง แต่ละจังหวะที่โหมกระหน่ำนั้นราวกับพายุที่บ้าคลั่ง อันนาสัมผัสได้ถึงทุกความร้อนรุ่ม ทุกความแข็งแกร่งที่เข้ามารุกรานเธอ เธอหลับตาลงแน่น กัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด พยายามอดทน "อะ อะ อ้าส์ ไม่ไหวแล้วคุณมาร์คัส..เสียว.." จังหวะที่อันนากำลังนอนครวญครางอยู่บนโต๊ะทำงานสุดหรู ร่างกายของเธอถูกยกขึ้นและกดลงตามจังหวะของเขาอย่างต่อเนื่อง "ขย่ม อันนาเด็กดี..ซี๊ด..." ท่าทีที่ไม่ประสีประสาของอันนาเธอค่อย ๆ ขย่มขึ้นลงตามจังหวะ แท่งเอ็นที่แข็งเหมือนเหล็กแต่มันกับสร้างความสุขสมให้กับอันนา ผมยาวสวยไสวตามแรงกระแทก หน้าอกคู่สวยกับเพื้อมพรึบพับ ขึ้นลงดูเย้ายวนในสายตาของมาร์คัส จังหวะที่อันนาขย่มแท่งเอ็นเข้าไป มาร์คัสยิ่งเสียวกระสัน รูโพงสวาทที่อ่อนนุ่มของอันนา แต่กลับร้อนฉ่าดึงดูดใจของมาร์คัสได้อย่างเต็มประตู อันนาหอบหายใจอย่างหนัก รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจ เธอมองเห็นแต่ภาพเลือนราง ความเจ็บปวดและความเสียวซ่านตีวนอยู่ในสมองจนมึนงงไปหมด "อันนา...ซี๊ดดด...แน่นไปหมด..." มาร์คัสคำรามเสียงพร่า ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าอันซีดเซียวของอันนาที่บัดนี้แดงก่ำด้วยความเร่าร้อนและหอบหายใจ เขาไม่สนว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร เขาสนเพียงแค่ความต้องการของตัวเองที่กำลังพุ่งพล่านถึงขีดสุดมาคัดไม่ได้อ่อนโยนกับอันนาแบบที่เขารับปากเอาไว้ เขาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ร่างกายของอันนาสั่นสะท้าน เธอจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างของมาร์คัสอย่างไม่รู้ตัว ปล่อยให้เสียงครวญครางดังลั่นไปทั่วห้อง ก่อนที่ร่างกายของทั้งคู่จะกระตุกเกร็งพร้อมกัน พลันปลดปล่อยแรงปรารถนาที่เก็บกดเอาไว้ทั้งหมดออกมา "คุณมาร์คัส อะ อะ อ้าส์ ไม่ไหวแล้ว อันนาเหมือนฉี่จะแตก ซี๊ด..หยุดกระแทกอันนาก่อนได้ไหมคะ อันนาเสียวจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว..อ้าส์.." อันนาครางราวกับจะขาดใจค่ะอกแกร่งของมาร์คัส มาร์คัสรู้ดีว่าอันนากำลังจะถึงสวรรค์เธอบอกว่าหมุนฉี่จะแตกแต่ในรูสวาทของเธอตอดขมิบรัดแท่งเอ็นของเขาจนแทบจะขาดออกจากกัน "ฮืม..อย่าขมิบ อันนา ..เธอกำลังจะทำให้ฉันกลายเป็นบ้า โอ้ว...เด็กดี..." อะ อะ อะ....คุณมาร์คัส อันนาไมาไหวแล้วค่ะ อ้าส์ "เสียงหวานครวญคราง มาร์คัสจึงจัดการโน้มตัวอันนาลงมาประกบจูบขณะที่อันนาคร่อมอยู่บนตัวของเขาแล้วกดสะโพกงอนของอันนาขึ้นเบียดเสียดแท่งเอ็นขนาดใหญ่กระแทกจนอันนาแทบขาดใจใบหน้าแหย่เกของมาร์คัสแสดงถึงความเสียวสร้างถึงขีดสุด "อ้าส์....เสียว..มากอันนา." มาร์คัสกระแทกบรรเลงเพลงรักอย่างเต็มอัตราศึกเพราะเขาเองก็ใกล้จะถึงฝั่งฝันเขาอยากให้อันนาเสร็จพร้อมกับเขา เมื่อทุกอย่างสงบลง อันนาซบอกแกร่งของมาร์คัสอยู่อย่างนั้น ทั้งสองร่างเปลือยเปล่ากอดกันกลมบนเก้าอี้ตัวใหญ่ อันนานั่งคร่อมอยู่บนตักของมาร์คัส หอบกระหืด พ่นลมหายใจรดต้นคอ อันนาไม่ขยับร่างกายเธอเหมือนโดนดูดพลังวิญญาณออกจากร่างกายทั้งสองร่างเชื่อมต่อกันโดยมีแท่งเอ็นร้อนของมาร์คัสทิ่มแทงอยู่ในรูสวาทเธอ มาร์คัสยังเกร็งกระตุกในโพรงสวาทของอันนาทุกหยดน้ำขาวขุ่น ไหลจนล้นรูสวาทเออออกมาเลอะหน้าขาของมาร์คัส ลมหายใจของเขายังคงหอบถี่ กลิ่นกายของทั้งคู่ผสมปนเปกันไปทั่วห้อง มาร์คัสใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของอันนาเบาๆ ไม่ได้เป็นการปลอบโยน แต่เป็นเหมือนการยืนยันถึงการครอบครองที่สมบูรณ์ อันนานอนนิ่งอยู่ใต้ร่างของเขา ดวงตาเหม่อมองเพดาน ความเจ็บปวดทางกายไม่ใช่สิ่งเดียวที่เธอรู้สึก แต่เป็นความรู้สึกว่างเปล่าที่กัดกินจิตใจ เธอเป็นเพียงเครื่องมือ เป็นเพียงสิ่งที่เขาใช้ระบายความปรารถนา ความดิบเถื่อนและความเห็นแก่ตัวของมาร์คัสทำให้หัวใจของเธอเย็นยะเยือก เธอไม่รู้ว่าอีกกี่ครั้งที่เธอจะต้องเผชิญกับเหตุการ์ณ์แบบนี้ และเธอจะสามารถทนอยู่กับสภาพนี้ได้ มาร์คัสไม่ได้พูดอะไรแต่กลับอุ้มอันนาขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำส่วนตัวของเขาจังหวะที่เดินอันนาตกใจจนหน้าถอดสีจากที่ซุกอยู่บนอกของมาร์คัสเธอถึงกับเงยหน้าขึ้นแล้วมองมาคัดเหมือนเว้าวอนว่าให้ปล่อยเธอลง "ปล่อยนะค่ะ อันนาเดินเองได้ค่ะ" "ไม่ปล่อย ฉันจะพาเธอไปอาบน้ำเด็กดี" มาร์คัสพูดกระซิบข้างหูทำให้อันนาที่เสียวอยู่แล้วขนลุกไปทั้งตัว อันนาที่เหมือนลูกลิงในเวลานี้ยังคงถูกเชื่อมด้วยแท่งเอ็นใหญ่ ทุกย่างก้าวที่มาร์คัสเดินเขาจงใจกระแทกเข้าไปในโพรงสวาทของอันนาที่เปียกชุ่มไปด้วยรักน้ำขาวขุ่น บทเพลงรักและเพลงสวาทยังคงดำเนินไม่จบสิ้นเมื่อมาร์คัสพาอันนาไปอาบน้ำในอ่างแล้วจัดการอันนาบรรเลงเพลงรักอีกครั้ง.... อันนากลายเป็นเครื่องระบายอารมณ์ของมาร์คัสอย่างเต็มรูปแบบและเป็นผู้หญิงของมาร์คัสในฐานะเมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย .....มาร์คัสยังคงไม่หยุด เขาก้มหน้าลงดูดดุนติ่งเสียวของเธออย่างไม่ลดละ ราวกับกำลังลิ้มรสของหวานที่ถูกใจ ร่างกายของอันนาบิดเร่าไปมาด้วยความทรมานปนสุข เธอเกร็งไปทั้งตัว มือทั้งสองข้างจิกผ้าปูที่นอนแน่นในที่สุด เมื่อความเสียวซ่านมาถึงขีดสุด ร่างกายของอันนาก็กระตุกเกร็งเกร็งไปทั้งตัวก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำหวานออกมาเลอะหน้าของมาร์คัส ราวกับเป็นการบ่งบอกถึงจุดสูงสุดของความต้องการมาร์คัสเงยหน้าขึ้นจากกลีบกุหลาบที่บอบช้ำ ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยธารน้ำหวานนั้น เขายกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ ดวงตาคมกริบจ้องมองอันนาที่นอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ยังไม่มอดดับ"หวาน..." มาร์คัสเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาลุกโชนกว่าที่เคย "เธอทำให้ฉัคลั่ง อันนา"มาร์คัสไม่รอให้อันนาได้พักหายใจ เขาประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ดูดกลืนทุกเสียงครวญครางและหอบหายใจของเธอ ความดิบเถื่อนและความเร่าร้อนของเขาไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย มือหนาข้างหนึ่งรวบร่างบอบบางของเธอให้แนบชิดกับกายแกร่ง อีกข้างหนึ่งจับเรียวขาของเธอให้ยกพาดบ่าอย่างไม่รีบร้อน"อื้อออ...!" อันนา
ผ้าถูกถอดทิ้งกรองลงบนพื้นเหลือเพียงกางเกงที่สวมใส่หน้าอกอวบอิ่มดูเย้ายวนเหมือนเชื้อเชิญให้มาร์คัสมาสัมผัสและเชยชมแอร์ที่ทำงานเย็นเฉียบกระทบกายของอันนา แต่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเย็นตามอุณหภูมิห้องเลยความเร่าร้อนที่ได้รับมาจากผู้ชายตรงหน้าทำให้อันนาล่องลอยเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัววนอยู่ในท้องมันทั้งสุขและเสียวในเวลาเดียวกันเหมือนมีไฟฟ้าโลดแล่นช็อตแปล๊บ ๆ ภายในร่างกายที่ร้อนระอุ อันนาทั้งกลัวและอยากจะหนีไปแต่แรงอารมณ์ของอันนาที่ถูกถ่ายทอดมานั้นมันทำให้เธอตกเป็นทาสของมาร์คัสในเวลานี้"ฮืม ...เด็กดี ..หวาน" มาร์คัสพูดเสียงเบาๆเอยชมอันนามันทำให้อันนารู้สึกเขินจนหน้าร้อนผ่าว"พอแล้วได้ไหมคะ..อ้าส์" อันนาที่เสียวกระสันจนครางส่งเสียงเย้ายวนออกมา ปากบอกให้พอ แต่พอโดนมาร์คัสหยอกเย้ายอดประทุมเธอก็แอ่นอกให้เขาอย่างเต็มใจร่างกายกับปากของเธอมันช่างตรงข้ามกันทุกระเบียบนิ้ว"หึ!" มาร์คัสเปล่งเสียงเย้ยหยันในลำคอออกมา เขาถูกอกถูกใจที่อันนาผู้หญิงที่เขาเลือกตอบสนองไวต่อความต้องการของเขา"เธอนี่มันร่าน! ฮืม..." สองมือหนาลูบไล้ผิวขาวเนียน จากสันหลังลงมาที่เอวคอดแล้วเลื่อนมาที่สะโพกงอน มาร์คัสบีบเค้นจนขึ้นเ
หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยมาคัสก็บอกให้อันนาเดินตามเขาไปที่ห้องทำงานคำพูดที่แสนเย็นชาการกระทำที่หยาบกระด้างเหมือนกับหินทุบลงพื้นมันทำให้อันนารู้สึกเกรงกลัวมาขัดขึ้นทุกวัน"ค่ะคุณมาร์คัส มีอะไรหรือเปล่าคะ" อันนารวบรวมความกล้าหลังจากเดินเข้ามาในห้องแล้วก็ถามมาคัดออกไปตรงๆ"เซ็นซะ เอกสารที่เธอควรต้องเซ็น"มาร์คัสไม่อธิบายอะไรให้กับอันนาฟันแต่บอกให้อันนาเซ็นเอกสารที่อยู่ตรงหน้าของเธออันนาหยิบเอกสารขึ้นมาตั้งใจจะอ่านให้จบแต่มาร์คัสก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า "ไม่ต้องอ่านหรอก เอกสารเซ็นหนังสือสมรสของเราสองคน..!" มาร์คัสที่พูดจาเย็นชาไม่ได้สนใจอาการสีหน้าตกใจของอันนาเลย"แต่ว่าอันนายังไม่ได้ตกลงนะคะ" อันนาหันมาพูดกับมาร์คัสเพราะเธอรู้สึกไม่เป็นธรรมเหมือนโดนมัดมือชก"ไม่จำเป็นต้องตกลง เพราะชีวิตของเธอเป็นของฉัน ทุกตารางนิ้วในร่างกายเธอตอนนี้เป็นของฉัน!" อันนาเธอรู้สึกมือเหงื่อออกจนชุ่มทั้งตื่นเต้นทั้งโมโหอยากจะเอามือไปข่วนหน้าคนที่เย็นชายังมาร์คัดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย"ลงชื่อของเธอลงในหนังสือสัญญาสมรสนี้ให้เรียบร้อยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น"มาร์คัสไม่ได้อธิบายอะไรทั้งสิ้น คำว่าดีขึ้นดี
อันนาที่แบกเรื่องหนักมามากมายหลังจากผ่านงานที่ไปกับมาร์คัส เธอหลับจนไม่ได้สติจวบจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ดวงตาที่หนักอึ้งของเธอค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยเสียงแอร์มอนิเตอร์ที่ทำงานเย็นเฉียบแต่ทำไมร่างกายของเธอกลับรู้สึกอบอุ่นอันนาลืมตาขึ้น พร้อมกับมองเห็นฝ้าเพดานที่ขาวสะอาดตา และมันไม่ใช่ห้องที่เธอเคยอยู่มันคือห้องที่เธอเสียตัวเป็นคืนแรก อันนาตกใจจนเบิกตากว้างพยายามรวบรวมสติแต่เธอกลับรู้สึกหนักอึ้งบริเวณเอวของเธอมีมือหนากอดรัดเอาไว้อันนาพลิกไปมองใบหน้าที่คมเข้มดูดีและหล่อเหลา แม้ในเวลาที่หลับสนิทก็ยังดูหน้าหลงไหล อันนาจ้องหน้าของมาร์คัสเหมือนกับต้องมนต์สะกดอีกครั้งอันนาพยายามจะขยับออกหนีอย่างเงียบๆเพื่อกลับไปที่ห้องของเธอแต่เธอยิ่งขยับมาร์คัสก็จะขยับและกอดเธอแน่นขึ้น และเธอลองขยับอีกครั้ง มาคัสก็ยิ่งกอดเอวของเธอแน่นเข้าไปอีกอันนาจ้องไปที่หน้าของคนที่กำลังนอนหลับสนิทเธอพลันคิดว่ามาคัสหลับจริงๆหรือเปล่าและดวงตาคมกริบของมาร์คัสก็ลืมขึ้นแล้วจ้องไปที่ดวงตาของอันนาเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน"ตื่นแล้วหรอ" มาร์คัสถามอันนาด้วยถ้อยคำที่ดูอ่อนโยนขึ้นกว่าสองวันแรก"อันนารู้สึกตกใจที่เห็นมาร์คัส
มาร์คัสยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ดวงตาคมกริบดุจพญาอินทรีย์ ที่จ้องมองเดวิดนั้นดำมืดและลึกไร้ก้นบึ้ง ราวกับจะดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างให้หายไป รอยยิ้มที่เคยปรากฏบนใบหน้าของเขาก่อนหน้านี้เลือนหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความว่างเปล่าที่แฝงด้วยอันตรายถึงขีดสุด เขาไม่ได้โกรธเกรี้ยว หรือตวาดก้อง แต่ความเงียบของเขานั้นน่ากลัวยิ่งกว่าเสียงใด ๆเดวิดที่เห็นปฏิกิริยาของมาร์คัสกลับยิ่งได้ใจ เขาคิดว่าตนเองกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ และต้องการจะตอกย้ำชัยชนะของตนเอง"ทำไมเงียบไปล่ะครับคุณมาร์คัส หรือว่าเรื่องจริงมันน่าอายเกินไปที่จะยอมรับ" เดวิดพูดยิ้มๆ "ผู้หญิงของผมคงไม่มีประวัติฉาวโฉ่แบบนี้หรอกครับ...ผมเลือก.."พลั่ก!ยังไม่ทันที่เดวิดจะพูดจบ ร่างของเขาก็ล้มกระเด็นลงไปกองกับพื้นอย่างแรง เสียงของเนื้อที่ปะทะกับกำปั้นดังสนั่นไปทั่วห้อง มาร์คัสเป็นคนต่อยเขา!จนเลือดกลบปากและฟันหักไปหนึ่งซีกทุกคนในงานถึงกับผวาถอยหลังไปคนละก้าว ไม่มีใครคาดคิดว่ามาร์คัสจะระเบิดอารมณ์ออกมากลางงานเลี้ยงสำคัญแบบนี้ มาร์คัสเดินเข้าไปหาเดวิดที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นอย่างช้าๆ แววตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา
คำประกาศของมาร์คัสกลางงานเลี้ยงทำให้บรรยากาศรอบตัวอันนาหนาวเย็นยะเยือก แววตาของคลอเดียแข็งกร้าวขึ้นทันที ความไม่พอใจและริษยาฉายชัดในดวงตาคู่นั้น เธอมองอันนาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาประเมินค่า ก่อนจะหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน"ผู้หญิงคนใหม่เหรอคะมาร์คัส?" คลอเดียพูดด้วยน้ำเสียงยียวน "คลอเดียไม่เห็นจะเคยเจอที่ไหนมาก่อนเลยนี่คะ หรือว่ามาร์คัสแอบเก็บไว้เงียบๆ แล้วเพิ่งจะเอาออกมาโชว์วันนี้เป็นวันแรก?" เธอเน้นคำว่า "เก็บไว้" และ "โชว์" อย่างจงใจ ราวกับจะตอกย้ำสถานะของอันนาว่าเป็นเพียงสิ่งของที่ผู้ชายอยากมาร์คัสเก็บเอาไว้ในตู้โชว์วันนี้ก็แค่งัดขึ้นมาเพื่อปัดฝุ่นมาร์คัสไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่จ้องมองคลอเดียด้วยสายตาเย็นชา ทำให้คลอเดียต้องสงบปากสงบคำลงเล็กน้อย เธอกำลังทำผิดกฎของฉันนะคอลเดียมาร์คัสตอบเสียงเรียบนิ่งและยังคงเย็นชากับคลอเดียราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน"โถ่มาร์คัสคะ อย่าเย็นชากับคลอเดียนักเลยคลอเดียคิดถึงมาร์คัสนะคะ แล้วนี่เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่านะ" คลอเดียหันหน้าเอียงคอมองไปที่อันนาที่ยืนอยู่ข้างผู้ชายของเธอ คลอเดียไม่ยอมที่จะเสียแหล่งเงินแหล่งทองของเธอ ให้กับผู้หญ