หลังจากเสร็จภารกิจและกิจกรรมช่วงนั้นตลอดทั้งวัน อันนาเอาแต่นอนหลับเพราะเธอรู้สึกเจ็บระบม และเหมือนว่าความซวยของเธอจะไม่หมดแค่นั้น เพราะอยู่ดีๆ อันนาก็ไข้ขึ้นสูงและตัวร้อน
"คุณหนูอันนาทานข้าวหน่อยนะคะ" ป้าสมศรีที่เดินขึ้นเอาข้าวมาให้อันนาบนห้อง แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากด้านใน ป้าสมศรีจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเอง ทำให้เห็นอันนานอนซม เหงื่อโทรมใบหน้า ป้าสมศรีเห็นสภาพใบหน้าที่ซีดเซียวจึงรีบเดินเข้าไปปลุกอันนา "คุณหนูอันนาคะ ป้าเอาข้าวมาให้" จังหวะที่เอื้อมมือไปแตะตัวของอันนา ทำให้ป้าสมศรีรู้ว่าอันนาตัวร้อนผ่าว เธอจึงตกใจและรีบไปแจ้งรายงานให้กับนายท่าน ของเธอ คือ มาร์คัส อย่างรวดเร็ว มาร์คัสที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวในคฤหาสน์ หลังจากเสร็จกิจกรรมกับอันนาตลอดช่วงเช้า ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่าย กว่าๆ เมื่อเขารู้ว่าอันนาอยู่ๆ เกิดอาการไข้ขึ้นตัวร้อนอย่างไม่ทราบสาเหตุซึ่งใจจริงเขารู้สาเหตุอยู่แล้วว่านั่นน่าจะเกิดจากตัวเขา เขาจึงได้เชิญหมอประจำตระกูลมาที่บ้าน "ป้าสมศรี หมอมาหรือยังครับ" มาร์คัสหันมาถามป้าสมศรีที่ยืนอยู่ข้างๆ "คุณหมอกำลังมาค่ะคุณมาร์คัส" ป้าสมศรีหันมาตอบแล้วยืนโค้งคำนับเล็กน้อย จึงเดินออกไปเพื่อให้มาร์คัสได้อยู่ข้างๆ อันนา ผ่านไปไม่นาน หมอประจำตระกูลก็มาถึง คุณลุงหมอที่มาร์คัสไว้ใจและให้ดูแลทุกคนในบ้านของเขา "คุณลุงครับ เธอเป็นยังไงบ้าง" มาร์คัสกระวนกระวายถามออกไปอย่างร้อนรน ซึ่งปกติเขาไม่เคยต้องห่วงกังวลใครแบบนี้ แต่ผู้หญิงอย่างอันนาทำให้เขานั่งไม่ติด "ลุงถามตรงๆ ก่อนหน้านี้คนไข้ได้ทำกิจกรรมอะไรหรือเปล่า" คุณลุงหมอหันมาถามมาร์คัสกระอักกระอ่วนไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่ก็จำใจต้องตอบออกไปและเล่าบางเหตุการณ์ที่จำเป็นให้กับลุงหมอได้ฟัง "งั้นเดี๋ยวเรียกคุณพยาบาลที่อยู่ด้านนอกมาตรวจแผลด้านใน เดี๋ยวเชิญคุณมาร์คัสออกไปด้านนอกก่อน" "ตรวจแผลด้านในเหรอครับคุณลุงหมอ?" มาร์คัสทวนคำพูดทันทีเพราะเขาไม่อยากให้ใครต้องมาเห็นของเมียรักของเขา "ครับ ตรวจแผลด้านในเพราะไม่รู้ว่าคนไข้เกิดอาการอักเสบร่วมด้วยหรือเปล่า" คุณลุงหมอพูดเสียงเรียบนิ่ง "ไม่ได้ครับ ผมต้องอยู่ด้วย ผมเป็นสามีของเธอ" มาร์คัสพูดคำว่าเป็นสามีออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำอย่างไม่รู้สึกกระดากใจ คุณลุงหมอที่ได้ยินคำพูดของมาร์คัสก็แอบประหลาดใจเล็กน้อย คนอย่างมาร์คัสไม่เคยยอมรับใครเป็นภรรยา แต่กับผู้หญิงตรงหน้า ออกอาการเป็นห่วงกระวนกระวาย นั่งไม่ติด แถมยังประกาศตัวต่อหน้าหมอว่าเป็นสามี "คุณมาร์คัสเป็นสามีของคนไข้ใช่ไหมครับ" คุณลุงหมอทวนคำอีกครั้ง "ครับ ผมเป็นสามีของเธอแบบถูกต้องตามกฎหมาย" มาร์คัสเน้นย้ำ "งั้นก็เดี๋ยวให้พยาบาลตรวจอาการ คุณมาร์คัสจะอยู่ด้วยก็ได้ เดี๋ยวหมอจะไปนั่งรอให้พยาบาลรายงานด้านนอก" ด้วยจรรยาบรรณของแพทย์ เขารู้ว่ามาร์คัสคิดอะไรอยู่และคงหวงอันนาไม่น้อย จึงเลือกไปนั่งรออยู่ด้านนอก "ขอบคุณครับคุณลุงหมอ" มาร์คัสพยักหน้าเคารพลงเล็กน้อย และพยาบาลก็ได้เดินมาตรวจอาการต่างๆ จดบันทึกรายงาน จังหวะที่เลิกผ้าขึ้น มาร์คัสก็แอบตกใจเพราะเห็นด้านล่างที่บวมแดงเปล่งอย่างชัดเจน หัวใจของมาร์คัสวูบไหวเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะรังแกอันนามากเกินไปขนาดนี้ "เดี๋ยวเชิญคุณหมอเข้ามาด้านในได้เลยค่ะ" พยาบาลได้เรียกคุณหมอประจำตระกูลเข้ามาด้านในหลังจากทำการตรวจและจดอาการอย่างละเอียด "หมอได้อ่านดูอาการของคนไข้แล้ว" คุณลุงหมอหันมามองหน้ามาร์คัส จนเขารู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป "หมอ รบกวนเดี๋ยวให้คนไข้ทานยาตามอาการ แล้วห้ามทำกิจกรรมแบบนี้อีกนะครับ มันเสี่ยงกับคนไข้" "เพราะถ้าเธอไม่เต็มใจ เหมือนเป็นการข่มขืนเธอทางอ้อม ดูจากบาดแผลด้านในแล้ว" ผู้เป็นหมอพูดออกมาตรงๆ ยิ่งทำให้มาร์คัสกระตุกวูบในคำพูดที่ได้ยิน "งั้นเดี๋ยวหมอจัดยาให้ ก็ให้คนไข้กินตามอาการแล้วทานอาหารอ่อน ๆ ไปก่อนนะครับ" หลังจากพูดคุยกับมาร์คัสจบ คุณลุงหมอและพยาบาลก็เดินออกจากคฤหาสน์พร้อมรถหรูและบอดี้การ์ดขับไปส่งจนถึงที่บ้าน "ป้าสมศรีครับ รบกวนเตรียมผ้าเช็ดตัวกับกะละมังน้ำมาให้ผมหน่อย ผมจะเช็ดตัวให้เธอ" มาร์คัสกลายเป็นคนอ่อนโยนตั้งแต่เมื่อไหร่ ป้าสมศรีหันมาคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา กะละมังน้ำ ผ้าเช็ดตัว ผ้าขนหนู มาร์คัสจัดการเองทุกอย่าง แม้กระทั่งเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเธอ เขาจ้องมองดวงหน้าที่ซีดเซียวและรู้สึกผิดอยู่ในใจ ลึกๆ ทั้งหมดเป็นเพราะเขาทำให้เธอต้องล้มป่วย "พ่อคะ อย่าทำแม่! อย่า...!" อันนาละเมอเพ้อพกถึงวันที่พ่อตบตีแม่เพราะติดการพนัน มาร์คัสที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีก เหมือนเขากำลังทำร้ายอันนาทางอ้อม มาร์คัสจึงตัดสินใจว่าเขาจะดีกับอันนาให้มากขึ้นกว่าเดิมสักเล็กน้อย มาร์คัสจึงบอกให้ราเชนทร์ตามหาพ่อของอันนาอย่างเงียบ ๆ เพื่อให้กลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง เขาไม่รู้ตัวเองเลยว่ากำแพงในใจค่อยๆ สั่นคลอนลงทีละเล็กละน้อย เขาเริ่มเป็นห่วงอันนาและหวงอันนามากขึ้นเข้าไปอีก ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ดวงตาหนักอึ้งของอันนาหน้าแดงเพราะพิษไข้ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกสบายตัว ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาในช่วงเวลาเย็นแล้ว ผลสุดท้ายคือวันนี้อันนาไม่ได้ไปมหาวิทยาลัย โทรศัพท์ของเธอที่ถูกมาร์คัสยึดเอาไว้ก็ไม่สามารถติดต่อกับเพื่อนสนิทอย่าง พลอย ได้เลย เธอหันไปเห็นมาร์คัสนั่งอยู่ข้างๆ เตียงพร้อมกับดูงานในโทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงไปด้วย "คุณมาร์คัส..." น้ำเสียงแหบพร่าแผ่วเบาเอ่ยชื่อเรียกออกมา "ฟื้นแล้วเหรอ" มาร์คัสวางทุกอย่างลงแล้วหันมาหาอันนา ถึงแม้จะไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่เขาก็แสดงท่าทีเป็นห่วงอันนาอย่างชัดเจน "อันนาเป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ อันนาเธอรู้สึกจำอะไรไม่ได้หลังจากช่วงบ่ายที่เธอมานอน ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ 5-6 โมงเย็นแล้ว" "เธอเป็นไข้นะ แต่ว่าตอนนี้ดีขึ้นแล้ว หมอจัดยาให้แล้ว เดี๋ยวเธอกินข้าวหน่อยสิ ฉันให้ป้าสมศรีทำข้าวต้มไว้ให้เธอแล้ว" นี่เป็น ประโยคยาวๆ ที่ดูเป็นห่วงเป็นใยจากมาร์คัส เป็นประโยคแรก "ค่ะคุณมาร์คัส" ผ่านไปไม่นาน ป้าสมศรีให้แม่บ้านอีกคนนึงถือถาดอาหารขึ้นมาให้อันนาบนห้อง หลังจากวางถาดอาหารเสร็จ แม่บ้านก็ถอยตัวและเดิกลับออกไป "ทานข้าวสิ จะได้กินยา" มาร์คัสบอกให้อันนากินข้าวต้มร้อนๆ แต่ในขณะนั้นอันนาเธอไม่หิวข้าวเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับรู้สึกอยากกินของหวานๆ "คุณมาร์คัสคะ อันนาอยากกินช็อกโกแลต" เธอหันมาออดอ้อนขอมาร์คัส ซึ่งความจริงเธอไม่ได้ออดอ้อน มันเป็นอิริยาบถธรรมดาที่เธอไม่เคยได้ใช้กับมาร์คัสต่างหาก หัวใจของมาร์คัสอ่อนยวบเมื่อเห็นท่าทีน่ารักของคนไม่สบายบนเตียง.....อันนาถึงกับตาเบิกกว้าง ร่างกายแข็งทื่อเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ก้นกบ เธอค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ แล้วมองลงไปบนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา ปรากฏคราบสีแดงเข้มเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง หัวใจของอันนาหล่นวูบด้วยความอับอาย เธอไม่เคยคาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในห้องของมาร์คัส โดยเฉพาะต่อหน้าเขา"คุณมาร์คัส..." เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตาเพราะความรู้สึกผิดปนกับความกลัว เธอรู้ว่ามาร์คัสเป็นคนรักความสะอาดมากแค่ไหนมาร์คัสที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบช็อกโกแลตชิ้นต่อไปถึงกับชะงัก เขามองตามสายตาของอันนา ก่อนที่ดวงตาคมกริบจะหยุดอยู่ที่คราบแดงบนผ้าปูที่นอน ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง แต่แววตากลับฉายแววประหลาดใจระคนกับความไม่เข้าใจ"นี่มันอะไร?" มาร์คัสถามเสียงเรียบ แต่ความเย็นเยือกในน้ำเสียงนั้นทำให้อันนาตัวสั่น"อันนา...อันนาขอโทษค่ะ" อันนารีบพูดเสียงตะกุกตะกัก น้ำตาเริ่มไหลริน "อันนาไม่รู้ว่า...ไม่คิดว่ามันจะมาวันนี้..."อันนาพูดด้วยความรู้สึกผิดเพราะเธอกลัวว่าจะทำให้มาร์คัสรังเกียจมาร์คัสขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ได้โกรธอย่างที่อันนาคิด แต่เขากลับลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้เตียง มองคราบเลื
มาร์คัสจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานของอันนาที่นอนอยู่บนเตียง แล้วทวนคำว่าเธออยากกินช็อกโกแลต ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอมีสีเลือดฝาดแดงระเรื่อเพราะพิษไข้"คุณมาร์คัสขา อันนาขอกินช็อกโกแลตได้ไหม" อันนาพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนลูกแมวตัวน้อย เพราะเวลาป่วยเธอจะอยากกินของหวานโดยเฉพาะช็อกโกแลต และไม่อยากทานข้าวเลยมาร์คัสจ้องมองอันนาตาไม่กะพริบ เขากำลังหลงผู้หญิงตรงหน้าอย่างโงหัวไม่ขึ้น นี่เป็นรอยยิ้มแรกที่อันนายิ้มให้เขา เพียงเพราะอยากกินช็อกโกแลตแค่นั้นหรือ แต่เขาก็ไม่ได้อนุญาตหรือปฏิเสธ“กินข้าวก่อน แล้วฉันจะพาไปซื้อช็อกโกแลต ตกลงไหม” มาร์คัสใช้กลยุทธ์เหมือนพ่อที่หลอกให้ลูกสาวกินข้าว“สัญญานะคะว่าถ้าอันนาทานข้าวหมดจะพาไปซื้อช็อกโกแลต” เธอดีใจจนยิ้มหวานในรอบสองสามวันที่ผ่านมา นี่เป็นรอยยิ้มที่ดูสดใสที่สุด“อืม” เสียงทุ้มต่ำในลำคอเป็นเชิงว่ารับปาก ถ้าอันนาเป็นเด็กดี เขาสัญญาว่าจะดีกับเธอให้มากขึ้นกว่าเดิมอันนาดีใจจนลุกพรวด แต่ไม่ได้ดูร่างกายที่อ่อนแอของตัวเอง เธอจึงล้มพับนั่งลงข้างเตียง“โอ๊ย!” กลางลำตัวของเธอรู้สึกเจ็บแปลบ เพราะการระบมและอักเสบจากการเสียดสีที่รุนแรง เธอจึงต้องเงยหน้าขึ้นเหมื
หลังจากเสร็จภารกิจและกิจกรรมช่วงนั้นตลอดทั้งวัน อันนาเอาแต่นอนหลับเพราะเธอรู้สึกเจ็บระบม และเหมือนว่าความซวยของเธอจะไม่หมดแค่นั้น เพราะอยู่ดีๆ อันนาก็ไข้ขึ้นสูงและตัวร้อน"คุณหนูอันนาทานข้าวหน่อยนะคะ" ป้าสมศรีที่เดินขึ้นเอาข้าวมาให้อันนาบนห้อง แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากด้านใน ป้าสมศรีจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเอง ทำให้เห็นอันนานอนซม เหงื่อโทรมใบหน้า ป้าสมศรีเห็นสภาพใบหน้าที่ซีดเซียวจึงรีบเดินเข้าไปปลุกอันนา"คุณหนูอันนาคะ ป้าเอาข้าวมาให้" จังหวะที่เอื้อมมือไปแตะตัวของอันนา ทำให้ป้าสมศรีรู้ว่าอันนาตัวร้อนผ่าว เธอจึงตกใจและรีบไปแจ้งรายงานให้กับนายท่าน ของเธอ คือ มาร์คัส อย่างรวดเร็วมาร์คัสที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวในคฤหาสน์ หลังจากเสร็จกิจกรรมกับอันนาตลอดช่วงเช้า ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่าย กว่าๆ เมื่อเขารู้ว่าอันนาอยู่ๆ เกิดอาการไข้ขึ้นตัวร้อนอย่างไม่ทราบสาเหตุซึ่งใจจริงเขารู้สาเหตุอยู่แล้วว่านั่นน่าจะเกิดจากตัวเขา เขาจึงได้เชิญหมอประจำตระกูลมาที่บ้าน"ป้าสมศรี หมอมาหรือยังครับ" มาร์คัสหันมาถามป้าสมศรีที่ยืนอยู่ข้างๆ"คุณหมอกำลังมาค่ะคุณมาร์คัส" ป้าสมศรีหันมาตอบแล้วยืนโค
มาร์คัสยังคงไม่หยุด เขาก้มหน้าลงดูดดุนติ่งเสียวของเธออย่างไม่ลดละ ราวกับกำลังลิ้มรสของหวานที่ถูกใจ ร่างกายของอันนาบิดเร่าไปมาด้วยความทรมานปนสุข เธอเกร็งไปทั้งตัว มือทั้งสองข้างจิกผ้าปูที่นอนแน่นในที่สุด เมื่อความเสียวซ่านมาถึงขีดสุด ร่างกายของอันนาก็กระตุกเกร็งเกร็งไปทั้งตัวก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำหวานออกมาเลอะหน้าของมาร์คัส ราวกับเป็นการบ่งบอกถึงจุดสูงสุดของความต้องการมาร์คัสเงยหน้าขึ้นจากกลีบกุหลาบที่บอบช้ำ ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยธารน้ำหวานนั้น เขายกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ ดวงตาคมกริบจ้องมองอันนาที่นอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ยังไม่มอดดับ"หวาน..." มาร์คัสเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาลุกโชนกว่าที่เคย "เธอทำให้ฉัคลั่ง อันนา"มาร์คัสไม่รอให้อันนาได้พักหายใจ เขาประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ดูดกลืนทุกเสียงครวญครางและหอบหายใจของเธอ ความดิบเถื่อนและความเร่าร้อนของเขาไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย มือหนาข้างหนึ่งรวบร่างบอบบางของเธอให้แนบชิดกับกายแกร่ง อีกข้างหนึ่งจับเรียวขาของเธอให้ยกพาดบ่าอย่างไม่รีบร้อน"อื้อออ...!" อันนา
ผ้าถูกถอดทิ้งกรองลงบนพื้นเหลือเพียงกางเกงที่สวมใส่หน้าอกอวบอิ่มดูเย้ายวนเหมือนเชื้อเชิญให้มาร์คัสมาสัมผัสและเชยชมแอร์ที่ทำงานเย็นเฉียบกระทบกายของอันนา แต่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเย็นตามอุณหภูมิห้องเลยความเร่าร้อนที่ได้รับมาจากผู้ชายตรงหน้าทำให้อันนาล่องลอยเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัววนอยู่ในท้องมันทั้งสุขและเสียวในเวลาเดียวกันเหมือนมีไฟฟ้าโลดแล่นช็อตแปล๊บ ๆ ภายในร่างกายที่ร้อนระอุ อันนาทั้งกลัวและอยากจะหนีไปแต่แรงอารมณ์ของอันนาที่ถูกถ่ายทอดมานั้นมันทำให้เธอตกเป็นทาสของมาร์คัสในเวลานี้"ฮืม ...เด็กดี ..หวาน" มาร์คัสพูดเสียงเบาๆเอยชมอันนามันทำให้อันนารู้สึกเขินจนหน้าร้อนผ่าว"พอแล้วได้ไหมคะ..อ้าส์" อันนาที่เสียวกระสันจนครางส่งเสียงเย้ายวนออกมา ปากบอกให้พอ แต่พอโดนมาร์คัสหยอกเย้ายอดประทุมเธอก็แอ่นอกให้เขาอย่างเต็มใจร่างกายกับปากของเธอมันช่างตรงข้ามกันทุกระเบียบนิ้ว"หึ!" มาร์คัสเปล่งเสียงเย้ยหยันในลำคอออกมา เขาถูกอกถูกใจที่อันนาผู้หญิงที่เขาเลือกตอบสนองไวต่อความต้องการของเขา"เธอนี่มันร่าน! ฮืม..." สองมือหนาลูบไล้ผิวขาวเนียน จากสันหลังลงมาที่เอวคอดแล้วเลื่อนมาที่สะโพกงอน มาร์คัสบีบเค้นจนขึ้นเ
หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยมาคัสก็บอกให้อันนาเดินตามเขาไปที่ห้องทำงานคำพูดที่แสนเย็นชาการกระทำที่หยาบกระด้างเหมือนกับหินทุบลงพื้นมันทำให้อันนารู้สึกเกรงกลัวมาขัดขึ้นทุกวัน"ค่ะคุณมาร์คัส มีอะไรหรือเปล่าคะ" อันนารวบรวมความกล้าหลังจากเดินเข้ามาในห้องแล้วก็ถามมาคัดออกไปตรงๆ"เซ็นซะ เอกสารที่เธอควรต้องเซ็น"มาร์คัสไม่อธิบายอะไรให้กับอันนาฟันแต่บอกให้อันนาเซ็นเอกสารที่อยู่ตรงหน้าของเธออันนาหยิบเอกสารขึ้นมาตั้งใจจะอ่านให้จบแต่มาร์คัสก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า "ไม่ต้องอ่านหรอก เอกสารเซ็นหนังสือสมรสของเราสองคน..!" มาร์คัสที่พูดจาเย็นชาไม่ได้สนใจอาการสีหน้าตกใจของอันนาเลย"แต่ว่าอันนายังไม่ได้ตกลงนะคะ" อันนาหันมาพูดกับมาร์คัสเพราะเธอรู้สึกไม่เป็นธรรมเหมือนโดนมัดมือชก"ไม่จำเป็นต้องตกลง เพราะชีวิตของเธอเป็นของฉัน ทุกตารางนิ้วในร่างกายเธอตอนนี้เป็นของฉัน!" อันนาเธอรู้สึกมือเหงื่อออกจนชุ่มทั้งตื่นเต้นทั้งโมโหอยากจะเอามือไปข่วนหน้าคนที่เย็นชายังมาร์คัดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย"ลงชื่อของเธอลงในหนังสือสัญญาสมรสนี้ให้เรียบร้อยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น"มาร์คัสไม่ได้อธิบายอะไรทั้งสิ้น คำว่าดีขึ้นดี