ภาพวาดขยับตัวตื่นขึ้นด้วยความงัวเงีย ฤทธิ์แอลกอฮอลล์ทำเธอปวดหัวจนต้องนิ่วหน้า มือเล็กขยี้ตาเบาๆก่อนปรับสายตา ควานหามือถือที่วางไว้หัวเตียงก่อนจะพบว่าปาเข้าไปสิบโมงเช้าแล้ว
หลับลึกหลับนานเป็นตายเลยสินะ
ความรู้สึกโล่งๆเย็นๆที่สัมผัสผิวทำเอาต้องก้มดู ก่อนจะต้องตาโตตกใจเมื่อเห็นว่าชุดนอนร่นขึ้นมาจนเห็นแพนตี้ตัวน้อย ส่วนด้านบนก็หลุดลงไปกองใต้หน้าอกอวดเต้าใหญ่อยู่จนต้องรีบดึงขึ้น
ถึงจะอยู่คนเดียวแต่การแก้ผ้านอนก็แปลกเกินไป แล้วความทรงจำเลือนรางเมื่อคืนก็ไหลเข้ามาในหัว เมื่อนึกได้ว่าเธอฝันลามกขนาดไหน
ขนาดแทบจะถอดเสื้อผ้าเลยสินะภาพวาด…
หลังจัดการอาบน้ำจนตื่นเต็มตา ภาพวาดก็ลากร่างล้าๆลงมาข้างล่างเพื่อหาอะไรทานเป็นมื้อแรกของวัน สายป่านนี้แม่บ้านคงออกไปทำอย่างอื่นกันหมดแล้วแน่ๆ เห็นทีคงต้องอุ่นอาหารเอาเอง
เท้าเล็กหยุดชะงักเมื่อถึงหน้าห้องครัวเล็กที่เอาไว้ทำอาหารแล้วได้กลิ่นกาแฟโชยมา เพราะมีแค่พ่อที่ดื่มนอกนั้นก็ไม่มีใครแล้ว
แต่เพราะว่าตอนนี้พ่อไม่อยู่ ภาพวาดถึงค่อยๆเดินเข้าไปด้วยความแปลกใจ ก่อนจะพบใบหน้าด้านข้างที่แสนคุ้นเคยก้มลงอ่านหนังสือในมืออยู่
ที่คุ้นเคยเพราะส่องในไอจีทุกวัน แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะมาอยู่ตรงนี้
ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าจะกลับมา…
"ไง.."
เสียงทุ้มเอ่ยทักพร้อมใบหน้าหล่อเหลาที่หันมายิ้มบางให้ ภาพวาดตะลึงอย่างทำตัวไม่ถูก ก็ไม่ได้ทำใจมาก่อนว่าจะเจอ และไม่คิดว่าพอเจอตัวจริง จะแซ่บยิ่งกว่าในรูปขนาดนี้…
ไม่ยุติธรรมเลย หายไปตั้งกี่ปีพอจะมาก็ทำเอาตกใจขนาดนี้เลยนะ
"ช็อกไปแล้วเหรอครับ คุณน้องสาว.."
เสียงกระซิบทุ้มต่ำชิดใบหูทำเอาภาพวาดสะดุ้งหันมาจนจมูกฝังลงแก้มของคนที่ก้มมาใกล้
"อ้ะ!"
"โห...ทักทายกันแรงจัง เขินเลยนะเนี่ย"
หน้าหล่อที่เหมือนกันเป๊ะกับคนที่โต๊ะ เอ่ยยิ้มๆอย่างล้อเลียนจนภาพวาดหน้าขึ้นสี
"เลิกเล่นได้แล้ว มากินข้าวกันสิ"
"เปลี่ยนจาก กินข้าว เป็นกินกันได้มั้ยวะภีม"
"เก็บนอมึงก่อนภาม อย่าทำไก่ตื่น"
ภีมพูดหน้านิ่งแต่มุมปากยกยิ้มเบาๆอย่างร้ายกาจ
"มึงมันตัวร้ายภีม"
ภามว่าไม่จริงจังก่อนดันคนที่ยังอึ้งไม่พูดไม่จาเข้าไปนั่ง ภาพวาดยังคงแปลกใจไม่หาย แต่ยังไม่กล้าถามอะไรไป เพราะความห่างเหินที่ไม่เจอกันนานทำให้ทำตัวไม่ถูกอยู่
ก่อนจะลงมือกินข้าวที่ภามหามาให้อย่างเบลอๆคิดอะไรไม่ออก
จนขึ้นมาพักบนห้องอีกทีจึงได้โทรไปหาแม่เพื่อถามความข้องใจ
'ว่าไงคะลูก เป็นอะไรรึเปลา'
เสียงหวานดังขึ้นเมื่อเธอต่อสายไปไม่นาน
'คือ พี่สองคนกลับมาบ้านเหรอคะ'
ถามโง่ๆทั้งที่ก็เห็นว่าใช่ เพราะไม่รู้ว่าจะถามยังไงนั่นแหละ
'แล้วหนูเจอรึยังล่ะคะ'
'ค่ะ เจอเมื่อเช้า'
'อืม แสดงว่าถึงเมื่อคืนสินะ เป็นไงคะทักทายกันรึยัง'
'ก็...ค่ะ กินข้าวด้วยกันเมื่อกี้'
เรียกว่าสองคนนั้นทักเธอฝ่ายเดียวดีกว่า เพราะเธอนั่งอึ้งจนกินข้าวเสร็จ ปล่อยให้พี่ชายสองคนนั่งมองกันด้วยสายตาที่ทำเอาร้อนวูบวาบอยู่ตั้งนาน
'ดีแล้วค่ะ ระหว่างนี้ก็ให้พี่ๆดูแลนะคะ แม่กับพ่อน่าจะยุ่ง'
'ค่ะคุณแม่ คิดถึงนะคะ'
'คิดถึงเหมือนกันค่ะลูก'
แม่เธอวางสายไปแล้ว แต่ภาพวาดยังนั่งเหม่อต่อ นึกถึงใบหน้าไร้ที่ติกับหุ่นดูดีของทั้งคู่นั่น ภาพก็อยากขึ้นมาอีกแล้ว…
"แกร๊ก.."
เสียงเปิดปิดประตูทำเธอต้องหันไปมองอย่างตกใจ เพราะปกติไม่มีใครเข้ามาโดยไม่เคาะ
"ทำอะไรอยู่ครับ"
“ชิบหายแล้ว ใจเย็นๆนะครับ ไอ้ภีมมม”ภามที่ไม่รู้จะทำยังไงสบถออกมาก่อนเรียกแฝดพี่ที่ยืนทำหน้าหงอยอยู่อย่างขอความช่วยเหลือ“เปล่าครับ พี่ตามใจหนูทุกอย่างเลย มากอดพี่ก็ได้มา วันนี้ไปทำงานเหนื่อยมากเลยครับ”ภีมรีบแก้ตัวออกมาก่อนอ้าแขนกว้างรอคนที่ทำท่าจะงอนให้เข้ามาหา ภาพวาดที่รู้สึกว่าตัวเองชักจะโมโหง่ายเดินเข้ามากอดภีมด้วยความรู้สึกผิด ภามที่เห็นว่าปกติแล้วถึงได้ผละตัวไปหาอะไรมาให้คุณแม่ป้ายแดงได้ทานเป็นมื้อแรก ปล่อยให้พี่ชายทำหน้าที่ปลอบคนท้องไปพลางๆก่อน“ว่าไงนะ ได้ลูกแฝดเหรอ”เสียงจากปลายสายนั้นทั้งตื่นเต้นทั้งยินดีเกินกว่าที่คิดเอาไว้จนภามกลัวว่าพ่อกับแม่จะเป็นลมไปซะก่อน แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ดังลอดออกมาก็ทำให้สบายใจขึ้นว่าคงไม่เป็นไร“เห็นรึยังล่ะครับคุณพ่อ ว่าผมน่ะเชื้อแรงขนาดไหน”ภามรีบบอกอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ“แม่จะไปหาหลานค่ะ ตอนนี้ดูแลน้องดีๆนะลูกอย่าให้ทำอะไร แล้วก็ต้องเฝ้าตลอดเวลานะคะ”คนเป็นแม่ที่แสนจะดีใจรีบบอกทันที ไม่สนว่าสามีที่ฟังจะมองด้วยสายตาละห้อยขนาดไหน ก็ตอนนี้คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าหลานตัวน้อยๆอีกแล้ว“แค่นี้ไอ้ภีมมันก็แทบอุ้มเดินแล้วครับคุณแม่”ภามบอกออ
ระยะเวลาเกือบปีแล้วที่ภาพวาดได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในลอนดอนกับสองแฝด พอทุกอย่างลงตัวก็เริ่มไปเรียนรู้งานจนตอนนี้ก็ปรับสภาพจนชินกับทุกอย่างได้ไม่ยากเหมือนตอนแรกอีกแล้วแต่เช้าวันนี้ที่เคยลงไปทานข้าวพร้อมกัน ภาพวาดกลับยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้าจนสองแฝดแปลกใจ เพราะตอนเช้าก็พากันรีบจนไม่ได้ดูว่าภาพวาดตื่นรึยัง “น้องภาพ ไม่สบายเหรอครับ ทำไมไม่ลงไปกินข้าวเช้า หืม”ภามที่อาสาขึ้นมาตามถามทันทีที่เข้ามาในห้องนอนกว้าง ขายาวก้าวไปถึงเตียงนอนด้วยความกังวลเมื่อเห็นว่าคนที่มาตามนั้นยังนอนอยู่บนเตียงไม่ได้ลุกไปไหน“เวียนหัวค่ะ ลุกไม่ไหวเลย”ภาพวาดบอกออกมาด้วยเสียงที่ทั้งแหบทั้งอู้อี้เพราะอาการป่วยที่เป็นขึ้นมากะทันหัน“ไหนดูสิตัวร้อนมั้ย ไม่นี่นา ไปหาหมอมั้ยครับ”ภามรีบเข้าไปจับตัวน้องทันทีด้วยความเป็นห่วง ถึงไม่ได้ตัวร้อนแต่ก็ยังกลัวเป็นอย่างอื่นถึงอยากพาไปหาหมอน่าจะดีที่สุด“นอนพักก็หายค่ะ งั้นวันนี้ภาพลางานนะคะ”ภาพวาดที่คิดว่าไม่ได้เป็นอะไรมากนั้นไม่ได้อยากไปหาหมอให้วุ่นวาย หากนอนพักสักหน่อยก็น่าจะหายดีเหมือนทุกครั้ง“แน่นอนสิครับ ใครจะให้หนูไปล่ะป่วยแบบนี้ เดี๋ยวพี่บอกไอ้ภีมให้ นอนพักนะครับมีอะไรก็โ
ภามบอกออกมาก่อนโอบไหล่เล็กให้เดินกลับไปบ้านด้วยกัน สามคนกลับไปทางเดิมช้าๆถึงจะเดินนานเท่าไหร่ก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลย เพราะช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันนั้นแสนมีค่า ใจสามดวงที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันต่างเอ่อล้นไปด้วยความสุขแบบที่ไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนสิ่งนี้ได้อีกแล้ว“สวยจังเลยค่ะ”ภาพวาดมองแหวนวงสวยเป็นประกายในมือด้วยความชื่นชม เป็นแหวนทองคำขาววงเกลี้ยงที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่สิ่งที่พิเศษไม่เหมือนใครกลับเป็นตัวอักษรสามตัวที่แทนชื่อสามคนบนแหวนสามวงที่เหมือนกันทุกอย่าง เป็นตัวแทนความรักที่จะสวมติดตัวได้ทุกวันให้รู้ว่าจะมีกันและกันอยู่เสมอ“มาครับ พี่ใส่ให้”ภีมบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบที่นอกจากภาพวาดก็ไม่เคยมีใครได้แบบนี้ ภามที่รอจังหวะรีบเข้ามาร่วมด้วยทันทีอย่างไม่ต้องชวน ส่วนภาพวาดก็บรรจงสวมแหวนให้ทั้งสองคนเหมือนกัน ก่อนที่จะจูบแก้มทั้งคู่แทนคำขอบคุณ สามคนสวมกอดกันด้วยความรักที่แสนอบอุ่นในใจ“ทีนี้ก็มีแหวนแต่งงานแล้วนะครับ”ภามบอกก่อนละออกมามองภาพวาดด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ภาพวาดยิ้มหวานก่อนกอดทั้งคู่อีกครั้งอย่างอบอุ่นในใจ นึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ใช่ภีมกับภามเธอจะมีความสุขแบบ
เข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ทุกที่จึงเต็มไปด้วยของประดับตกแต่งที่สวยงาม ยิ่งกว่านั้นคือหิมะที่ตกลงมาช่วงนี้พอดี ถึงจะไม่ได้ตกเยอะมากแต่ก็โปรยปรายเสริมให้บรรยากาศดูสวยงามขึ้นไปอีก ภาพวาดที่เดินเอื่อยเฉื่อยไปตามข้างทาง มองดูผู้คนและการตกแต่งหน้าร้านที่แสนจะคึกคักอย่างสนใจและพลอยตื่นเต้นไปด้วย หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอพอจะปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้มากขึ้นอีกนิด ถึงได้เริ่มออกมาเดินเล่นแบบนี้ในยามว่าง ที่จริงก็ยังว่างมากๆเพราะพี่ชายสองคนไม่ยอมให้เธอไปเริ่มงานที่บริษัทสักที นอกจากเอางานมาให้ช่วยทำที่บ้านบ้างก็อ้างว่ารอเธอปรับตัวได้มากกว่านี้ถึงค่อยไป ภาพวาดเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากโทรไปหาแม่ที่ไทยบ่อยๆแล้วก็ออกมาเดินเล่นแบบนี้ยิ่งเห็นว่าคริสต์มาสจะมาถึงในอีกไม่กี่วันก็ยิ่งอยากออกมาร่วมงาน เพราะเธอยังไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้เลย แต่ไม่รู้ว่าสองแฝดจะยอมพามารึเปล่านั่นแหละ“วันนี้ไปเที่ยวข้างนอกมาเหรอครับ”ภีมถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องนอน ก่อนจะเข้ามานั่งใกล้ๆคนที่เลื่อนรูปในมือถือดูไปเรื่อยอย่างพอใจกับรูปที่ตัวเองถ่ายมา มือหนายกขึ้นขยี้ผมนุ่มเบาๆด้วยความเอ็นดู“ใช่ค่
ภาพวาดล้มตัวลงนอนด้วยความมึนเมาอย่างแทบทรงตัวไม่อยู่ เพราะฤทธิ์ไวน์และบรรดาของมึนเมาหลากหลายขวดที่ดื่มไปตั้งแต่หัวค่ำ ภามที่ประคองมาส่งนั้นต้องลงไปคอยดูแลคนที่ยังอยู่ข้างล่างต่อ ภาพวาดถึงได้ต้องนอนหมดสภาพอยูคนเดียวเพราะว่าวันนี้หลายครอบครัวที่แยกย้ายพากันมารวมตัวแล้วจัดปาร์ตี้ครั้งใหญ่ ต่างขนไวน์ชั้นดีมาอวดกันเต็มไปหมดจนพากันเมามาย คุณนายใหญ่ของบ้านที่เห็นลูกๆหลานๆมารวมตัวเยอะแยะก็ทั้งมีความสุข ทั้งระอากับความเมาเละเทะนั่น แต่เป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้จะเกิดขึ้นบ่อยนัก ถึงได้ปล่อยตามใจแบบนี้ไม่รู้ว่าหลับไปยาวนานเท่าไร แต่ร่างกายที่ถูกรบกวนทำให้ภาพวาดที่ยังอยู่ในห้วงฝันหวานพึมพำออกมาเบาๆอย่างรำคาญ แต่ก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา เพราะความเมามันทำให้เธออ่อนแรงเกินกว่าจะตื่นขึ้นมาได้“อ้ะ”สัมผัสที่ถูกลูบไล้ไปตามร่างกายสร้างความวาบหวามไปทั่วทั้งตัวอย่างที่ต้องบิดตัวไปมาเพื่อหลีกหนี แต่ไม่ว่าจะหลีกไปทางไหนก็ถูกสัมผัสนั้นตามรบกวนจนต้องยกมือขึ้นมาปัดป้องแทน “อื้อ”ชุดที่ใส่ถูกรูดรั้งลงไปจนสุดเรียวขา ก่อนที่ร่างกายเปลือยเปล่าจะหนาวสั่นความร้อนรุ่มจากร่างกายแข็งแกร่งก็ทาบทับลงมาให้อบอุ่นและร้อนว
แรงขยับข้างตัวเล็กน้อยทำให้ภีมลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะหันมองภาพวาดที่กอดแขนตัวเองอยู่ คนสวยที่โดนรังแกทั้งคืนยิ้มหวานมาให้จนต้องก้มลงจูบแก้มเนียนอย่างอดไม่ได้“ตื่นนานแล้วเหรอครับ”ภีมถามก่อนตะแคงตัวไปกอดเอวเล็กที่เปลือยเปล่า เพราะเมื่อคืนทั้งสามคนไม่ได้ใส่อะไรนอนกันเลย“ค่ะ พี่ภีมหิวรึยังคะ”ภาพวาดตอบก่อนถามกลับเพราะเวลาจากนาฬิกาบนผนังห้อง บ่งบอกว่าเวลาสายมากๆแล้ว“ไม่ครับ มานี่เร็ว”ภีมส่ายหน้าเบาๆก่อนจะดึงตัวภาพวาดเข้ามาจนชิดตัวเองให้อะไรๆเสียดสีกันเล่นจนพาลตื่นไปทั้งตัว“อย่าดึงค่ะ อ้ะ”ภาพวาดส่ายหัวยื้อตัวเองเองไว้ มือเล็กถึงได้ปัดไปโดนส่วนต้องห้ามของคนด้านหลังอย่างไม่ตั้งใจ“โอ้ย ทับพี่ขนาดนี้ไม่รู้เหรอครับว่ามันแข็งอยู่ หืม”ภามสะดุ้งตื่นพลางจับมือเล็กให้กอบกุมตัวตนต่ออย่างหยอกเย้า แม้ตอนนี้จะแข็งจริงอย่างที่ว่า ทำเอาภาพวาดร้องห้ามชักมือออกทันที“พี่ภาม อย่าค่ะ”“หนูชอบที่นี่มั้ยครับ"ภีมถามขึ้นพลางลูบใบหน้าเล็กไปด้วยอย่างรักใคร่ ตาคมมองสบตาหวานอย่างลึกซึ้ง“ชอบค่ะ ชอบมากๆ ชอบที่ได้อยู่กับพี่ๆค่ะ”ภาพวาดยิ้มตอบทันทีอย่างจริงใจ ตอนนี้เธอมีความสุขที่สุดแล้ว แบบที่ไม่เคยคิดฝันว